การหาเวลาเกิด ตำรับโหรจรัญ พิกุล

เป็นที่รับทราบกันทั่วไปในวงการโหราศาสตร์ทุกระบบว่า จุดสำคัญอย่างยิ่งอันดับแรกในการผูกดวงชะตาของอะไรก็ตามในวิชาโหราศาสตร์ก็คือ การรู้เวลาที่แน่นอน และพิกัดสถานที่ชัดเจนที่ต้องการจะทราบ แต่ในกรณีการผูกดวงชะตาบุคคลนั้น ถ้าต้องการทราบถึงขั้นละเอียด ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเวลาเกิดที่แน่นอนของเจ้าชะตาได้ เพราะการจดเวลากำเนิดของคนในยุคก่อนนั้น เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนซึ่งก็มาจากเหตุตัวแปรหลายปัจจัย แม้ในบางกรณีที่เวลาจะตรงตามที่จดไว้ แต่สภาพบุคคลในเชิงโหราศาสตร์อาจจะไม่ตรงกับเวลานั้นๆก็เป็นได้ ทั้งๆที่ในวิชากฎหมายนั้น แทบทุกประเทศในโลกมักถือกันว่า สภาพบุคคลเริ่มแต่เมื่อคลอดแล้วอยู่รอดเป็นทารกสิ้นสุดลงเมื่อตาย แต่ในทางโหราศาสตร์สากล ณ ปัจจุบันนี้ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นมาว่า ตอนคลอดนั้น นับแต่เมื่อไหร่ ทางการแพทย์บอกว่า การร้องครั้งแรกของทารกเป็นการหายใจด้วยอากาศครั้งแรก ปอดของเด็กได้สูดรับอากาศทำงานได้ ก็ถือว่าเริ่มนับได้แล้ว แต่บางตำราก็ถือว่า นับจากการตัดสายสะดือเด็ก เพราะเป็นการแยกส่วนออกมาเด็ดขาดจากมารดา โดยไม่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งต่อเนื่องกันระหว่างมารดากับเด็กทารก ในทางปฏิบัติจริงมีหลายกรณีมากในเชิงการแพทย์ที่ต้องคำนึงถึงสภาพทางสูตินารีเวชของทารกและมารดา ซึ่งอาจจะทำให้ช่วงเวลานี้อาจจะห่างกันได้เกิน 4-5 นาที ขึ้นไป ซึ่งส่งผลให้ค่าของจุดเจ้าชะตาตั้งรับที่สำคัญ เช่น เมอริเดียน และลัคนา เปลี่ยนแปลงออกไป ทำให้หลายกรณีอาจจะคลาดเคลื่อนไปได้ในคำพยากรณ์

ตามประวัติท่านอาจารย์จรัญ พิกุล ท่านเคยเขียนเอาไว้ในบทความของท่านว่า คุณแม่ของท่านบอกกับท่านว่า ตัวท่านอาจารย์นั้น เกิดช่วงตอนหัวค่ำเวลาประมาณสองทุ่มเศษๆในฤดูหนาว ตรงกับวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ที่อำเภอพะเยา จังหวัดเชียงราย (ปัจจุบันนี้แยกมาเป็นจังหวัดพะเยา) เนื่องจากท่านสนใจในวิชาโหราศาสตร์อย่างหลงใหลแรงกล้ามาตั้งแต่วัยรุ่น และได้หมั่นจดบันทึกเหตุการณ์สำคัญๆที่น่าสนใจของชีวิตเอาไว้อย่างละเอียดเพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษาวิชานี้ การหาเวลาเกิดที่แน่นอนของท่านเองจึงเป็นเรื่องที่ท่านให้ความสนใจเสมอมาลำดับต้นๆ และเมื่อเวลาผ่านมาท่านได้ถ่ายทอดบอกเทคนิควิธีการหาเวลาที่ท่านค้นพบและใช้มาอย่างได้ผลให้บรรดาสานุศิษย์ที่สนใจศึกษาวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนเอาไว้ ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมเอาไว้จากผู้ที่เคยเรียนโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนมากับท่านโดยตรงเช่น ท่านอาจารย์
วรเชษฐ์ ตียเกษม และ ท่านอาจารย์ทรงยศ รัศมีพงษ์ เป็นต้น อีกทั้งได้ศึกษารวบรวมเอาจากเอกสารต่างๆที่ท่านอาจารย์โหรจรัญ พิกุล ได้เขียนเอาไว้ ในที่ต่างๆหลายแห่ง และได้ทดลองใช้พิสูจน์ทดลองกันมาเนิ่นนานจนลงตัวเห็นจริงแล้ว ก็เห็นควรที่ว่า เรื่องสำคัญแบบนี้นี้อาจจะพลัดกระจัดกระจายหายสูญไปในกาลต่อไปข้างหน้า ถ้าไม่เก็บรวบรวมไว้อย่างเป็นระบบ จึงควรที่นำมาเรียบเรียงเป็นขั้นตอนไว้เป็นหลักฐานว่า โหราจารย์รุ่นก่อนๆนั้น ท่านช่วยกันคิดค้นใช้งานเกี่ยวกับเรื่องนี้กันไว้อย่างไร จนคนรุ่นหลังต่อมาทึ่งในอัจฉริยะในวิชานี้ของท่าน ถือเป็นคุณูปการที่น่ายกย่อง

วิชาหาเวลาเกิดนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ มีเนื้อหาหลากหลาย หลายสำนักต่างมีค้นคว้าวิจัยออกมาหลายแนวทาง แยกได้หลายประเด็น แต่มักจะเริ่มที่การเทียบเวลาเกิดเหตุสำคัญๆต่อดวงชะตาเป็นเบื้องแรก ขั้นตอนการทำนั้น ในทางปฏิบัติ มีทั้งยากและง่าย และมีบ่อยครั้งที่เป็นไปไม่ได้เลยถ้าเจ้าชะตามีข้อมูลดิบนั้นอยู่น้อย หรือมีข้อมูลคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง หรือเจ้าของดวงชะตานั้นไม่ได้ให้ความร่วมมือ เช่น ในกรณีแรก รู้แต่ว่า วันเกิดจริงนั้นตรงแต่ เวลาไม่รู้ หรืออาจจะรู้แค่กลางวันกลางคืน ซึ่งก็กว้างมากในการสืบหา ส่วนในกรณีที่คลาดเคลื่อนนั้น มีหลายท่านวันเกิดจริงกับวันไปแจ้งเกิดที่ทางการอำเภอนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยแถมเจ้าชะตาเองก็ไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริงก็ยิ่งไม่ใช่ หรือในกรณีที่รู้จักเพียงแค่ข้อมูลวันเกิดตัวเจ้าชะตา และอาชีพในปัจจุบันเท่านั้น และตัวเจ้าชะตากับกับผู้ที่สนใจศึกษาดวงของเขาก็ไม่ได้รู้จักกัน เช่น ดวงนักการเมือง ดวงดารา หรือดวงบุคคลที่น่าสนใจ

ในสมัยที่ท่านอาจารย์ยังมีชีวิตอยู่ช่วงปลายๆนั้น โปรแกรมคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียน ได้เริ่มเข้ามาช่วยงานในการคำนวณค่าปัจจัยได้อย่างแม่นยำถูกต้องลดขั้นตอนการหาเวลาได้อย่างมากมาย ทำให้ท่านได้วางหลักเกณฑ์เอาไว้พอประมวลความได้ดังนี้

1. ในกรณีที่รู้วันเกิดจริง แต่ไม่รู้เวลาแน่นอน จะต้องใช้เวลาเกิดเหตุการณ์สำคัญๆต่อเจ้าชะตาซึ่งมักจะรู้ได้แน่นอน เช่น ในกรณีเจ้าชะตาเป็นเพศหญิง ได้แก่ เวลาเกิดที่แน่นอนของบุตรของตนและถ้าได้ข้อมูลบุตรทั้งหมดของตนยิ่งมั่นใจรอบคอบได้มากขึ้น เพราะมันจะเทียบยันกันได้

2. เวลาที่ประสบเหตุการณ์สำคัญที่ประทับใจแก่เจ้าชะตา เช่น รับพระราชทานรางวัล เช่น รับปริญญา ได้รับข่าวดีเช่น รับรางวัล รับโชค รับเงินที่ไม่คาดฝัน หรือแม้แต่คราวเคราะห์เช่น รถชน ประสบอุบัติเหตุ รับข่าวร้ายโดยกะทันหัน ประสบการณ์พลัดพรากจากคนรัก และเหตุการณ์อันสะเทือนอารมณ์ต่างๆ

3. อาชีพที่พัวพันเกี่ยวข้อง เช่น ทหาร ตำรวจ นักกีฬา นักการเมืองที่ทรงตำแหน่งสำคัญ นักกฎหมาย แพทย์ ฯลฯ ที่โดดเด่นในแขนงนั้น

4. เหตุการณ์พิเศษที่สำคัญตามธรรมชาติ แต่มีแง่มุมที่วิชาโหราศาสตร์รองรับ เช่น

4.1 การได้รับโทรศัพท์ที่เข้ามาพร้อมๆกันในเวลาเดียวกับจากทิศต่างๆเข้าสู่เจ้าชะตา โดยที่เจ้าชะตาไม่ได้มีหน้าที่รับโทรศัพท์ เช่นเป็นโอเปอเรเตอร์แต่อย่างใด เป็นเหตุสำคัญ และมักไม่เกิดขึ้นบ่อย

4.2 เวลาแห่งการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ห้วงเวลาประกอบกิจกรรมทางเพศของเจ้าชะตา

การตั้งเงื่อนไขทั้ง 4 ประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นสมการดาวเข้ารูป แนวโหราศาสตร์ยูเรเนียนของดวงกำเนิดกับดวงจรท้องฟ้าขณะนั้นๆและใช้โปรแกรมโหราศาสตร์คำนวณย้อนกลับหาเวลาเกิดเหตุได้ใกล้เคียงกับเวลาเกิดจริงมาก แต่ที่เห็นว่าใกล้เคียงนั้น ยังต้องเอามาปรับใช้กับสภาพจริงในเชิงปรากฏของเจ้าชะตาด้วยในด้านเกี่ยวกับ มนุษยศาสตร์เชิงบุคลิกและจิตวิทยา เพราะค่าที่ได้นั้นมักเป็นตัวเลขดิบเกินไป ซึ่งในเชิงปฎิบัติจริงแล้วมีหลายกรณีที่เครื่องคำนวณออกมาได้ค่าแค่ใกล้เคียง ยิ่งถ้าได้รับความร่วมมือด้านข้อมูลเชิงประจักษ์เช่นอุปนิสัยใจคอ หรือภาพปรากฏต่อสังคมเชิงบุคลิกภาพของเจ้าชะตา และเทียบกับเหตุการณ์จริงอื่นๆ ถ้าลงตัวหมดถึงจะเชื่อถือได้ ทำให้เกิดกระบวนการที่ว่า ย้อนอดีตถูก ปัจจุบันปรากฏจริง ย่อมน่าจะเป็นไปได้จริงว่าส่งผลให้ทำนายอนาคตได้ใกล้เคียงถูกต้อง

ซึ่งขั้นตอนเทคนิคในการหานั้นมีกระบวนการ ดังต่อไปนี้

1. ต้องมีโปรแกรมโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน สมัยท่านอาจารย์นั้น ใช้ โปรแกรมSolarfire โปรแกรม Virgo ที่ท่านอาจารย์จรัญ พิกุล เองได้กำหนดวางหลักเกณฑ์ของโปรแกรมโหราศาสตร์ยูเรเนียนที่ท่านอาจารย์ต้องการใช้จริงให้ผู้เขียนโปรแกรมนี้ซึ่งก็คือคุณโรจน์ จินตมาส ดำเนินการจัดสร้างให้ ท่านและโปรแกรม AstroBuilderรุ่นแรกๆ ที่แพร่หลายนิยมใช้กันในหมู่นักศึกษาวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียนในช่วงเวลานั้น เพราะมีฟังค์ชั่น เพื่อช่วยในการคำนวณหาเวลาย้อนกลับ ปัจจุบันขณะที่เขียนบทความนี้โปรแกรมทั้ง 3 ที่ว่านี้ได้พัฒนาขึ้นมาอีกหลายรุ่นและยังมีโปรแกรมโหราศาสตร์รุ่นใหม่อีกหลายโปรแกรมที่ผู้เขียนเห็นว่าใช้ได้

2. การตั้งเงื่อนไขของเหตุการณ์สำคัญในดวงชะตา

เป็นที่ทราบและยอมรับกันในหมู่นักโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนว่า เวลาของท้องฟ้าจะเชื่อมโยงกับเวลาสำคัญดวงชะตากำเนิด หรือ ตามหลักที่ทราบกันในสำนวนโหราซึ่งมักจะพูดกันว่า ข้างบนเป็นเยี่ยงไร ข้างล่างย่อมเป็นเยี่ยงเดียวกันโดยอนุมาณเหตุ เพราะว่า แทบทุกครั้งที่จุดเจ้าชะตาของฟ้า ณ เวลานั้นจะต้องทำมุมเกี่ยวข้องเข้ารูปครบวงจรกับจุดเจ้าชะตาเฉพาะของเจ้าของดวงเท่านั้น ในเชิงสมการแบบยูเรเนียน

2.1 ในกรณีคลอดลูกโดยการผ่าตัดของดวงแม่ หลักการมีอยู่ว่า ลัคนาเกิดของลูกมักจะเข้ารูปครบวงจรกับ จุดศูนย์รังสีของ ลัคนา/อังคาร ของผู้เป็นแม่ดังนั้น เมื่อรู้ตำแหน่งอังคารของแม่และเวลาเกิดแน่นอนของลูกเพราะจะรู้ ลัคนาของลูกได้ตรง ดังนั้นเวลาเกิดของแม่ย่อมย่อมทราบคร่าวๆเหลือเวลาอย่างน้อย 8 มุม ( ฮาโมนิคที่ 8 ) ถ้าตัดข้อมูลที่เป็นไปไม่ได้ออกไป เช่น รู้วันที่ตรงแต่เวลาเกิดแม่ทราบข้อมูลมาแค่ว่าเกิดตอนกลางวัน ก็สามารถที่จะตัดออกไปได้ 4 เวลา ที่เป็นตอนกลางคืนทิ้งไปได้เลยจะกรองข้อมูลให้แคบลงมาเหลือเพียงครึ่งเดียวให้ตรวจสอบ หรือถ้ารู้ใกล้เคียงมากกว่านี้ก็ยิ่งจะสามารถตัดคัดออกไปจนเหลือตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นไปได้มากที่สุดได้น้อยตัวลง

2.2 ในกรณีรับข่าวร้าย จุดอิทธิพลของท้องฟ้า ลัคนา+ฮาเดส-พุธ ท้องฟ้า ณ ขณะนั้น มักจะเข้ารูปครบวงจรกับ ลัคนา กำเนิด หรือ ศูนย์รังสี ลัคนา/พุธ กำเนิดของเจ้าชะตา ส่วนได้รับข่าวดีนั้น มักจะมีผลในแง่อคติของเจ้าชะตาเองที่ไม่ยอมรับว่า สิ่งนั้นเป็นข่าวดี เช่น มีคนเรียกไปเลี้ยงทานอาหาร หรือมีคนซื้อของมาฝากแบบลาภลอยที่เจ้าชะตาคิดว่าเล็กน้อยไม่สำคัญ ซึ่งมักจะให้น้ำหนักทางจิตใจที่อ่อนไปไม่ไหวตัวรุนแรงเช่น ข่าวรับเคราะห์กรรมหรือการสูญเสีย รูปแบบของสมการเชิงยูเรเนียน อาจจะใช้ทั้ง a+b-c , a+b+c ,a-b-c และ a/b//c มาเป็นตัวเทียบ

2.3 ห้วงเวลาพิเศษกับเหตุการณ์พิเศษของเจ้าชะตา

2.3.1 กรณีโทรศัพท์สายซ้อน มีปรากฏการณ์บางอย่างที่พบเจอและเกิดขึ้นเป็นบ่อยจนสังเกตได้ในชีวิตประจำวัน ก็คือ ขณะที่กำลังมีคนโทรมาหาเรา และเรากำลังรับสายพูดคุยรับผู้ที่โทรมาหาเรานั้น เกิดมีผู้อื่นโทรแทรกเข้ามา หลายสายต่างเรื่องต่างบุคคลที่เกี่ยวข้องกันและต่างทิศทางพร้อมๆกัน ซึ่งโดยปรกติมักจะไม่เกิดขึ้นบ่อยมากนัก และถ้าเป็นนอกเวลาการทำงานของเราด้วยแล้ว ภาษาโหราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า จุดโทรศัพท์ของเจ้าชะตาฟ้ากำลังเปิดให้ ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 4 นาที จุดโทรศัพท์นั้น มีสูตรทางพระเคราะห์สนธิคือ ลัคนา+ราหู-พุธ ในช่วงเวลาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ในทางปฎิบัติมักจะตรวจเจอว่า ได้มีการเข้ารูป ครบวงจรกัน ระหว่าง ลัคนา+ราหู-พุธ ของดวงท้องฟ้าจร กับ ลัคนา+ราหู-พุธ ของดวงกำเนิดใน รูปแบบของสมการเชิงยูเรเนียน อาจจะใช้ทั้ง a+b-c , a+b+c ,a-b-c และ a/b//c อย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ ซึ่งก็นำมาหาเวลาเกิดของเจ้าชะตา

2.3.2 กรณีที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักโหราศาสตร์ฝ่ายชายที่ชมชอบเรื่องเฮฮาแนวพยากรณ์เนื้อคู่และสมรสและดวงสมพงษ์ก็คือ จุดร่วมประเวณี ในวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน มีกรณีศึกษามากมายที่ให้ผลลงตัว เกี่ยวกับภาพดาวครบวงจร ของ จุดร่วมประเวณี อันได้แก่ ศุกร์+อังคาร-ลัคนา ของดวงกำเนิดและ ลัคนา ของดวงจร ณ ขณะนั้น ซึ่งมักจะเป็นจริงอยู่เสมอๆอย่างน่าพิศวง เป็นหนึ่งในหลายๆบทเรียนและกรณีศึกษาที่ท่านอาจารย์จรัญ พิกุล ชี้เปิดประเด็นให้ผู้สนใจศึกษา โหราศาสตร์ยูเรเนียน ประทับใจในการพิสูจน์ด้วยตัวผู้เรียนเอง

เมื่อได้ผลลัพธ์เวลาเกิดที่ใกล้เคียงมีความเป็นไปได้สูงแล้ว แม้จะเป็นการคำนวณจากโปรแกรมที่ให้ค่าเวลาออกมาตรงตามหลักการคำนวณแบบดาราศาสตร์สากลแล้ว ก็ยังเชื่อว่าแน่นอนตามนั้นยังไม่ได้ ท่านอาจารย์จรัญ พิกุล ท่านยังถือว่า ยังเป็นข้อมูลดิบอยู่ ยังมีความจำเป็นต้องนำมาตรวจสอบกับระบบโหราศาสตร์สากลแบบดั้งเดิม ในด้านเรือนชะตา ราศี ธาตุ และคุณะ(Quality or Dynamic ) ซึ่งจะปรากฏออกมาเป็นแนวจิตวิทยามนุษยพฤติกรรมศาสตร์ หรือ ลักษณะนิสัยที่แสดงออกและจิตใต้สำนึกที่เจ้าชะตาเป็นจริง รูปร่างลักษณะ และอาชีพ ที่ปรากฏในสังคม ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ตั้งดวงสากลพลาสิดุสของเวลาเกิดของเจ้าชะตาที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพื่อสถาปนาท้องฟ้าตามระบบพิกัดทางดาราศาสตร์ที่ถูกต้อง เพื่อระบุ ราศี เรือนชะตา ธาตุ คุณะ ดาวเด่น ลักษณะรูปแบบของดวงชะตา ว่าคล้องจองกับความเป็นจริงหรือไม่อย่างไร

2. ผูกดวงชะตาแบบ ยูเรเนียน เรือนเท่า แบบจานคำนวณ 2 ชั้น 45 องศา

3. ตรวจดูว่า ศูนย์รังสี เมอริเดียน/ลัคนา = อาชีพ นั้นคล้องจองกับอาชีพในชีวิตจริงหรือไม่

ในชีวิตจริงมีจุดกรรมอาชีพของเจ้าชะตา เช่น ถ้าเจ้าชะตาเป็นตำรวจ จุดตำรวจในรูปแบบสมการจุดอิทธิพลตัวไหนเข้า ซึ่งต้องคล้องจองกันด้วยในธรรมชาติของดวงชะตา

4. เมอริเดียน และเมอริเดียน สะท้อน เป็นตัวบ่งชี้ในทางจิตวิทยาของลักษณะนิสัยเจ้าชะตา โดยมีข้อแตกต่างกันคือ เมอริเดียน แปลว่า ความรู้สึกนึกคิดทางด้านที่เจ้าชะตาคิดว่าเจ้าชะตาเป็นคนเช่นนั้น ส่วนเมอริเดียน สะท้อน นั้นเนื่องจากมีตำแหน่งสะท้อนผ่านแกนโลก เลยกลายเป็นความหมายที่ว่า คนอื่นที่เข้ามารู้จักคลุกคลีอยู่กับเจ้าชะตามีมุมมองต่อความเห็นด้านนิสัยใจคอของเจ้าชะตาที่แสดงออกมาอย่างไร ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ ต้องเกิดจากการสอบถามสัมภาษณ์ โดยอิงกับ การแบ่งราศีออกเป็น 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

4.1 แบ่งตามราศีปรกติ หรือ แบ่งตาม ราศีทั้ง 12 ของจักรราศี เช่น ถ้ามีเมอริเดียน อยู่ในราศีกันย์ เจ้าชะตาเป็นคนละเอียดลออกับเรื่องเล็กๆน้อยๆตามนิสัยของคนราศีกันย์หรือไม่หรือไม่

4.2 แบ่งกลุ่ม 12 ราศีออกเป็น คุณะ 3 ส่วนๆละ 10 องศา แต่ละส่วน ถือว่ามีความหมายแสดงออกในเชิงของ คุณะ (Qualityหรือ Dynamic)ว่ามีลีลาการแสดงออกในเชิงคุณะของจุดเจ้าชะตาสำคัญทั้งหลาย อาทิ เช่นเมอริเดียน ว่าอยู่ใน

4.2.1 คุณะที่ 1 = เมษ-กรกฏ-ตุลย์-มกร แรงสุดไม่มียับยั้ง

4.2.2 คุณะที่ 2 = พฤษภ –สิงห์-พิจิก-กุมภ์ แรงปานกลางและสม่ำเสมอ

4.2.3 คุณะที่ 3 = มิถุน - กันย์ –ธนู-มีนแรงน้อยที่สุดและเป็นระยะๆ

                         4.3 แบ่ง 1 ราศีออกเป็น 12 ส่วน (ทวาทศางศะ) แต่ละส่วนมีความกว้าง 2.30 องศา โดย
                                กำหนดให้ว่า ราศีหลักอะไรให้ส่วนที่ 1 ใน 12 ส่วนที่แบ่งราศีนั้น มีเจ้าเรือนเป็นตัว
                                เดียวกับราศีที่แบ่งนั้น และการเรียงเจ้าเรือน นั้นก็หมายถึง ดาวเจ้าเรือนชะตาประจำราศี
                                ทั่วไปในโหราศาสตร์สากลพื้นฐานนั่นเอง เช่น อังคาร-เมษ หรือ อาทิตย์ – สิงห์ เป็นต้น
                        4.4 แบ่ง 1 ราศีออกเป็น 30 ส่วนๆละ 1 องศา ( ตฤมศางศะ ) แล้วใช้หลักการเดียวกันกับ
                               ข้อ 4.3 ข้างบน

                          การพิจารณาบุคลิกภาพและนิสัยใจคอของเจ้าชะตา ก็ใช้การเทียบเคียงสอบสวนว่าในความ
เป็นจริงนั้นแต่ละขั้นตอนว่าปรากฏเป็นไปตามราศีใหญ่หรือไม่ ถ้าเป็นมีความแรงอยู่ในคุณะข้อไหน คือเจตนาเพื่อบีบเวลาจากกว้าง 30 องศา ลงเหลือแค่ 10 องศา และบีบลงให้เหลือแค่ 2 องศาครึ่งในขั้นตอนการแสดงออกตามข้อ 4.3 และลงลึกลงไปในขั้นตอนที่ 4.4 เพื่อบีบลงให้เหลือแค่ 1 องศา หรือ 4 นาทีนั่นเอง ทั้งนี้เพื่อให้ตรงทั้ง เงื่อนไขดวงชะตา การคำนวณทางดาราศาสตร์ ปรากฏการณ์จริงทางสังคม และแนวโน้มในเชิงลึกทางจิตวิทยา
                        อย่างไรก็ตามแต่ แม้จะปรับแก้เวลาเกิดตามขั้นตอนตามลำดับที่กล่าวมา จนเหลือ 4 นาทีแล้วก็ตาม ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญมากและต้องนำมาพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายนี้เสมอเพื่อคัดกรองให้ลึกอีกชั้นหนึ่งคือว่า จุดเวลาที่หาได้นั้น เป็นเวลาที่ฟ้าอนุญาตให้เกิดหรือไม่ ซึ่งได้แก่ การตรวจดูว่า จุดการเกิดของโลก คือ เมษ+พฤหัส-อังคาร หรือ เมษ/พฤหัส//อังคาร จะต้องเท่ากับ จุดเมอริเดียน หรือ จุดเมอริเดียน สะท้อน หรือจุดลัคนา หรือ จุดลัคนา สะท้อน หรือ ศูนย์รังสีเจ้าชะตาสำคัญของกายและจิต อันได้แก่ เมอริเดียน/ลัคนา ,เมอริเดียน/อาทิตย์ , ลัคนา/อาทิตย์, หรือจุดสะท้อนของศูนย์รังสีของทั้ง 3 จุดที่ว่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง....เสมอ!! ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันในปรัชญาที่ว่า จังหวะฟ้านั้นเป็นของใครของมันเฉพาะตัวคนไป

การกำหนดหาเวลาเกิดที่เป็นระบบแบบบูรณาการอย่างครบถ้วนรอบคอบในวิชาโหราศาสตร์สากลยุเรเนียน ที่ท่านอาจารย์โหรจรัญ พิกุล ค้นพบ ใช้งาน และทำมาสอนสานุศิษย์นั้น ต้องใช้ความสุขุมลุ่มลึกรัดกุมในการพิจารณา เพราะสามารถนำไปต่อยอด ใช้งานได้จริงอย่างแม่นยำพิสดาร ซึ่งท่านอาจารย์โหรจรัญ พิกุล สมัยที่มีชีวิตท่านได้ศึกษาค้นคว้าวางกฏเกณฑ์เอาไว้อย่างรอบคอบ ทั้งละเอียดพิสูจน์ได้ทั้งสง่างามตามหลักวิชาการชั้นสูง ถือเป็นมรดกโหรอันเป็นเพชรน้ำเอกในหลายๆเม็ดที่ท่านอาจารย์โหรจรัญ พิกุลได้ทิ้งไว้ให้อนุชนโหรรุ่นต่อๆไปใช้งานจึงถือว่าเป็นผลงานอมตะที่ควรนำมารวบรวมเผยแพร่ให้เกิดความก้าวหน้าในวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน

หมายเหตุผู้เรียบเรียง: เนื่องจากการหาเวลาเกิดเป็นวิชาใหญ่มีรายละเอียดมากมายยิบย่อยครอบคลุมหลักการทางโหราศาสตร์สากลทั้งยุคใหม่ยุคเก่า อีกทั้งแต่ละคำความหมาย ก็มีหลักเกณฑ์มากมายอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่พื้นฐานง่ายๆไปถึงระดับสูงและลึก บทความนี้จึงเป็นการอธิบายหลักการแบบองค์รวมโดยสังเขปที่ผู้เรียบเรียงได้ศึกษารวบรวมได้เรียนมาและผ่านการใช้งานจริงได้ผลจริงทั้งจากตำราที่ท่านอาจารย์ใช้สอนและสอบถามจากสานุศิษย์ ที่เคยศึกษาใกล้ชิดของท่านอาจารย์หลายๆท่านและเห็นตรงกัน ผู้อ่านอาจจะเข้าใจยากไปบ้างโดยเฉพาะในกรณีผู้เริ่มต้นเข้ามาศึกษาในวงการนี้ แต่ผู้รวบรวมก็ยังเชื่อว่าสามารถนำแนวทางเหล่านี้ไปต่อยอดทางการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ในเชิงลึกต่อไปได้เป็นอย่างดี

« Back