ReadyPlanet.com
dot
dot
เนื้อหาสาระ
dot
bulletเจตนารมณ์
bulletจากใจผู้จัดทำ
bulletส่องฟ้าฝ่ากระแสดาว
dot
ภาควิชาการ
dot
bulletสากลยูเรเนียนสัมพันธ์
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม1
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม 2
dot
บทความน่าอ่าน
dot
bulletคานทองนิเวศม์
bulletดวงเมียน้อย
bulletรสนิยมรักกับดวงชะตา
bulletอาจารย์ขา!แฟนหนูเป็นเกย์?!
bulletเรื่องอย่างว่า!!เอ๊ะยังไงกัน?
bulletเมื่อไหร่จะขายออกซะที?
bulletใครเอ่ย?เนื้อคู่คุณ..
bulletจุดรับเงินคุณเป็นอย่างไร?
bulletจุดล้มละลาย
bulletเพ่งดวงลูกน้อง
bulletเบอร์ฮัลโหลกับโหราศาสตร์
bulletเมื่อไหร่จะถูกหวย??
bulletงานสมพงษ์
bulletปั้นดินให้เป็นดาว
bulletถูกดองตำแหน่งหรือแป๊กขั้น
bulletทำอย่างไรให้ขายดี!!
bulletวิ่งให้ถูกเส้น ทำอย่างไร?
bulletจับงานใหญ่ต้องใช้ฤกษ์
bulletเอาฤกษ์เอาชัย
bulletลางสังหรณ์พารวย
bulletดวงผิดเพศ
bulletสัมผัสที่ 6
bulletคนเห็นผี
bulletคนตกยุค
bulletดวงดาวกับปัญหาสายตา
bulletศัลยกรรมใบหน้ากับโหราฯ
bulletต้นไม้เสี่ยงทาย
bulletสะเดาะเคราะห์ทำได้จริงหรือ?
bulletเทียนอาถรรพณ์
bulletพระเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
bulletบทความ อจ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletมุมสัมพันธ์ระหว่างดาว
bulletเรือนชะตาจันทร์
bulletดาวไร้สัมพันธ์
bulletเว็บไซด์โหราฯ ที่น่าสนใจ
bulletธุรกิจ " หมอดู "
bulletตรวจสุขภาพด้วยโหราฯ
bulletกลุ่มโหราพารวย
bulletกลุ่มโหราหารัก
bulletกลุ่มโหราพารุ่ง
bulletโหราพาสนุก
bulletกลุ่มโหราพาสยอง
bulletกลุ่มโหราอาถรรพณเวทย์
bulletกลุ่มโหราสุขภาพ
bulletอาลัยพี่กุ้ง " กิตติคุณ เชียรสงค์ "
bulletกลุ่มสืบจากดวง
bulletกลุ่มโหราพยากรณ์
bulletกิจกรรมโหรา ' Sky Clock '
bulletท่านปัญญานันทะ
bulletอาลัยอาปื้ด ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
bulletจิ๊กซอร์ของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletสะเดาะเคราะห์แก้อาการเซ็ง
bulletสืบจากศพ..ทำไมถึงตาย
bulletอุตุโหราฯ
bulletไซโคลนนากรีส
bulletรอยสักสยองขวัญ
bulletบทความ "ระวังยูเรเนียน " ..โดย จรัญ พิกุล
bulletจังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ
bulletพายุเฮอริเคน IKE
bulletอาลัยท่าน Udo Rudolph
bulletเสน่ห์มหานิยมจากริงโทนรอสาย
bulletรสนิยมเรื่องอย่างว่ากับอาหารการกิน
bulletเรื่องของไฝกับไอ้นั่น
bulletเรื่องของ ขน โลมา และอารมณ์
bulletยาโป๊วกับโหราศาสตร์
bulletของแสลงผิดสำแดงอารมณ์เพศ
bulletอาลัยพญาอินทรีแห่งวงการน้ำหมึก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
bulletสะดือกับการพยากรณ์
bulletกรณีศึกษาการกลับชาติมาเกิด
bulletสยามยามวิกฤติ ตอนที่ 1
bulletรุจน์ รณภพ ดาราเจ้าบทบาท
bulletโหราจารย์มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล ... ดวงครูที่น่าศึกษา
bullet...
bulletอีรีส (Eris )เทพเจ้าแห่งความขัดแย้งวุ่นวาย
bullet หลักวิธีการแก้กรรมในระบบโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bullet100 ปี พระพุทธเจ้าหลวงกับดาวหางฮัลเลย์
bulletโหราสาธยาย
bulletโหราศาสตร์คืออะไร
bulletสารบัญ
bulletประวัติและความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์
bulletปรัชญาในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์
bulletจุดลากรองจ์ (Lagrange Point )
bulletการหาเวลาเกิด ตำรับโหรจรัญ พิกุล
bulletAnalemma อาถรรพณ์แห่งเส้นสุริยวิถีกับโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletหลักสูตรโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนระบบจานสองชั้น 80 ชั่วโมง




โหราศาสตร์คืออะไร

โหราศาสตร์คืออะไร

  เขมาเขมสรณคมนปริทีปิกาคาถา


พะหุง  เว สะระณัง  ยันติ                     ปัพพะเตนิ  วะนานิ  จะ
อารามะรุกขะเจตยานิ                          มะนุสสา  ภะยะตัชชิตา
เนตัง  โข  สะระณัง  เขมัง                    เนตัง  สะระณะมุตตะมัง
เนตัง  สะระณะมาคัมมะ                        สัพพะทุกขา  ปะมุจจะติฯ

 

จากหนังสือมนต์พิธี

 

         คำแปลจากบทสวดมนต์ภาษามคธบทนี้  ในวรรคแรกของบทเต็ม ผู้แต่งท่านมุ่งให้ความหมายแปลได้ว่า  เพราะความกลัวภัย คุกคาม ตั้งแต่โบราณกาลมามนุษย์มักจะยึดถือเอา  ภูเขา ป่าไม้ สวน  ต้นไม้ และเจดีย์  ว่าเป็นที่พึ่งคุ้มครองภัยที่ดี  ทั้งยังให้ความหมายเสริมต่อมาอีกว่า สิ่งนี้ยังไม่ใช่ที่พึ่งที่ดี  ย่อมไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากสรรพทุกข์ ทุกอย่างไปได้

          ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านล่วงไปนานเข้า  และเกิดมีผู้ที่มีปัญญาอันเป็นผลเนื่องจากมีวิวัฒนาการทางด้านอารยธรรมทางองค์ความรู้ จนมีความคิดและมีฐานข้อมูลจากการรวบรวมมาเป็นลำดับจากรุ่นสู่รุ่นต่อเนื่องสืบต่อกันมา  จนได้ผู้ที่มีภูมิญาณภูมิรู้ว่า มีอะไรที่พอจะเป็นองค์ความรู้ที่พอจะพึ่งพาได้อีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ การเตือนภัย และ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการทำมาหากินในสังคมเกษตรกรรม

          หลักการที่เป็นที่ยอมรับกันมากที่สุดในทุกอารยธรรมก็ได้แก่เรื่อง วิธีการที่จะรู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับการหาจังหวะเวลาที่ดีและเวลาที่ร้าย  นั่นเอง

          โหรา แปลว่า เวลา  โหราศาสตร์จึงแปลว่า  วิชาที่ว่าด้วยเรื่องแห่งเวลา และโหร  จึงแปลว่า ผู้ที่รู้เรื่องเวลา  นั่นเอง

          การกำหนดเวลานั้น โดยปรากฏการณ์มี 3 ช่วง ได้แก่ อดีต  ปัจจุบัน และ อนาคต

          การจะพูดเรื่องเหตุการณ์ในอนาคตหรือที่เรียกกันว่า การพยากรณ์หรือการทำนายนั้น  จะเป็นเรื่องที่คาดเดาจากฐานข้อมูลและองค์ความรู้และตีความทางความเข้าใจของผู้ทำนายหรือพยากรณ์ ว่าจะให้ความรู้และวิชาการจากอะไร ซึ่งมีได้มากมายหลายอย่าง ซึ่งจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องแตกต่างกัน

          เพราะเหตุนี้ พยากรณศาสตร์และโหราศาสตร์  จึงแตกต่างกัน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน  คือ การตีความคาดการณ์ในเรื่องของอนาคตและอื่นๆ

          โดยโหราศาสตร์นั้นใช้เฉพาะข้อมูลหลักจากความสัมพันธ์เรื่องดวงดาวกับโลกเท่านั้นในการทำนายหรือพยากรณ์

          ส่วนพยากรณศาสตร์นั้น ใช้ได้ทุกอย่างไม่จำกัด

          เรื่องนี้สำคัญเป็นอย่างมากที่ต้องกล่าวแต่ตอนแรกเลย  เพราะผู้คนทั่วไปมักจะแยกแยะไม่ออกว่า หมอดูกับโหร นั้นแตกต่างกันอย่างไร  และมักจะตีขลุมรวมกันไปหมด  เจตนาผู้เขียนต้องการชวนคนให้มาเป็นโหร  ไม่ได้ชวนให้มาเป็นหมอดู จึงขอความเข้าใจในเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกว่า โหรกับหมอดู นั้นแตกต่างกัน เพียงแต่ต้องการทำนายและการพยากรณ์เป็นเป้าหมายเหมือนกัน

         ส่วนโหราศาสตร์นั้นขัดกับหลักศาสนาต่างๆหรือไม่อย่างไรนั้น  ถ้าในแง่ของโหราที่แปลว่า ผู้รู้เรื่องเวลา ก็ไม่น่าจะขัดกับหลักศาสนาใด  แต่ที่บางศาสดากล่าวประณามในบางกรณีนั้น  แม้จะมีที่มาตามหลักฐานคัมภีร์ในทางศาสนาให้ปรากฏ แต่เจตนาก็คงจะมุ่งแค่การเตือนในเรื่องที่สาวกไปงมงายเชื่อแต่ผลของคำพยากรณ์หรือคำสอนสืบๆกันมาแต่อย่างเดียวโดยไม่รู้ที่มาที่ไปมากกว่า  และทางในพระพุทธศาสนาเอง ในบทมงคลสูตร เกี่ยวกับเรื่องที่ทั้งเทวดาและมนุษย์ควรจะเจริญเอาไว้ อันได้แก่ เรื่อง กาลัญญุตา  ซึ่งแปลได้ว่า ผู้รู้จักกาล คือ รู้จักว่าเวลาใดควรเวลาใดไม่ควรให้ประพฤติพอเหมาะคล้อยตามแก่กาล  โดยเป็นทั้งผู้รู้เรื่องเวลา รู้ค่าของเวลา และรู้จักใช้เวลา  ซึ่งก็น่าจะไม่ขัดกันแต่อย่างใดเลยในเรื่องหน้าที่  กับผู้รู้เวลาหรือ โหร นั่นเอง 

         ในเรื่องของเวลานั้น แม้จะเป็นเรื่องข้อกำหนดตกลงจนบัญญัติศัพท์ที่รู้เข้าใจเป็นความหมายทางภาษารู้ตรงกันของมนุษย์ในทุกอารายธรรมก็ตามไม่ว่าจะออกเสียงเช่นใดก็ตาม แต่ที่มาที่ไปรากเหง้าก็ต้องไปเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์และกลางวันกลางคืนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่นั่นเอง

          และจากการที่ต้องศึกษาเรื่องกลางวันกลางคืนดวงอาทิตย์และโลกนี่เองทำให้มีสิ่งต่างๆตามเข้ามาให้รู้จักมากมายซึ่งเป็นที่มาของวิชาดาราศาสตร์นั่นเอง โดยแต่เดิมนั้นโหราศาสตร์กับดาราศาสตร์อยู่ร่วมกันหาได้แยกส่วนวิชาออกจากกันอย่างปัจจุบันนี้ไม่  นักดาราศาสตร์แต่เดิมที่ยกย่องกันในทางวิทยาศาสตร์ จริงๆแล้วท่านเหล่านั้นต่างก็เป็นโหรประจำราชสำนักของรัฐในทวีปยุโรปด้วยกันแทบจะทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็น กาลิเลโอ กาลิเลอิ , นิโครลาส  โคเปอร์นิคัส , โยฮันเนส เคปเลอร์ , ไทโค บาเฮ หรือแม้แต่ เซอร์ไอแซค  นิวตัน ฯลฯ ก็ตามที

          ส่วนประโยชน์ของโหราศาสตร์นั้น  สามารถที่จะนำหลักการไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมากมายหลายด้าน  แต่โหราจารย์รุ่นเก่านั้น ท่านสอนมุ่งให้ศึกษาเพื่อที่จะได้เป็นอิสระทางใจในการเลือกแนวทางการดำเนินชีวิตให้คล้องจองกับความเข้าใจในธรรมชาติของโลกและจักรวาลนั่นเอง

          และส่วนของคำถามที่ว่า ทำไมดวงดาวถึงเกี่ยวข้องกับมนุษย์และโลกนั้น ก็ต้องตอบว่า  ถ้าให้ไปยืนกลางแดด ไม่ว่าใครก็ย่อมร้อน ส่วนจะหนักเบาอย่างไรแล้วแต่พื้นที่ เวลาที่ยืนและการเตรียมตัวป้องกันของผู้ยืน  ส่วนในตอนกลางคืนเมื่อเจอดวงจันทร์ ย่อมจะมีสภาวะร่างกายและจิตใจสบายกว่าตอนกลางวันกลางแดดเช่นกัน  และเมื่อทุกคนเป็นเช่นนี้ เทหวัตถุอื่นๆที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับโลก ก็ย่อมมีผลกระทบต่อโลกและตัวเราที่อยู่บนโลกเช่นเดียวกัน

           ในทฤษฎีปรัชญาหลักทางโหราศาสตร์มีหลักสำคัญอยู่ที่ว่า  ปรมาตมันเป็นเช่นไร  อาตมันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรามาตมันนั้น ก็ย่อมเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตามหลักอุปมาอุปมัย   ยกตัวอย่างเช่น  ให้ทดลองกวนให้น้ำหมุนวนในถัง  แรงแห่งกระแสน้ำวนย่อมทำให้น้ำทั้งถังในถัง เหวี่ยงไปในทิศทางเดียวกัน  ซึ่งทั้งกระแสน้ำในถังน้ำและสุริยจักรวาลกับวงโคจรหมุนรอบของดาวเคราะห์ต่างๆที่วนรอบดวงอาทิตย์  ต่างก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน เช่นกัน  หรือที่ยกกันมาเป็นกรณีศึกษาก็คือเรื่อง ธาตุน้ำตัวคนซึ่งมีมากถึงร้อย 70  ในรูปแบบต่างๆกัน เมื่อปรากฏการณ์น้ำขึ้นลงยังเกี่ยวข้องกับโลก

          เนื่องจากโหราศาสตร์เป็นองค์ความรู้ของโลกและเป็นสากล ที่ตกทอดกันมาและยังคงวิวัฒนาการพัฒนาอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะแยกกันอย่างเด็ดขาดกับวิชาดาราศาสตร์ปัจจุบัน  แต่ข้อมูลทางดาราศาสตร์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในงานโหราศาสตร์ชนิดขาดกันไม่ได้อยู่นั่นเอง

        และเพราะเหตุที่เป็นวิชาสำคัญ   ซึ่งผู้ที่ศึกษาสามารถนำจะไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง  การนำเข้ามาของวิชาโหราศาสตร์นี้จึงแตกต่างกันในห้วงของเวลาแห่งการวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของในแต่ละอารายธรรม  และมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นั้นๆสืบต่อกันมา

        เช่นในประเทศไทย เรารู้จักวิชานี้มาตั้งแต่อาณาจักรสุโขทัย และมีการพัฒนากันในสมัยอาณาจักรอยุธยา สุพรรณภูมิและ ล้านนาประเทศหรือพื้นที่แห่งอื่นๆ เช่น นครศรีธรรมราช เป็นต้น โดยนำเข้ามาจากครูพราหมณ์ จากอินเดีย และบางทีเป็นมาอิทธิพลจากพม่า เพื่อใช้งานในราชสำนัก ต่อจากนั้นจึงถ่ายทอดกันใช้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราเรียกวิชานี้ว่า  โหราศาสตร์ไทย ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเลยว่าแยกออกมาจากโหราศาสตร์ตะวันตกยุคใหม่อย่างมากมาย  โดยที่มาที่ไปของวิชาเป็นการใช้ตำราวิธีการคำนวณหาตำแหน่งการเคลื่อนที่ของดาวในแบบดาราศาสตร์ยุคเก่า ( ก่อนยุคกลางทางปัญญาภิวัฒน์ของยุโรป  ค.ศ.479 1453 )

         ส่วนโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนในความหมายของบทความนี้  เป็นโหราศาสตร์สากลปัจจุบัน ที่ใช้ปูมปฏิทินคำนวณหาตำแหน่งดวงดาวแบบมาตรฐานตามองค์ความรู้ทางวิชาดาราศาสตร์ของยุคปัจจุบัน และหลักการพยากรณ์ต่างๆก็ใช้แบบที่ได้ศึกษาค้นคว้าสืบต่อกันมาเป็นตำรา  จนเป็นองค์ความรู้สากลซึ่งเหมือนกันทั่วโลกที่วิวัฒนาการสืบต่อเนื่องกันมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นเอง ซึ่งวิธีการของโหราศาสตร์สากลนั้นก็แตกต่างกันกับทางวิธีการกับโหราศาสตร์ไทยเป็นอย่างมาก

          ส่วนโหราศาสตร์ยูเรเนียนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของโหราศาสตร์สากลเพราะใช้ปูมปฏิทินดาวร่วมกัน เพียงแต่โหราศาสตร์ยูเรเนียนนั้นพัฒนาขึ้นในประเทศเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดย อัลเฟด  วิตเต้ และคณะ ซึ่งมีหลักการและวิธีการเฉพาะตัวและมีเอกลักษณ์ซึ่งแตกต่างกับแนวทางของโหราศาสตร์แนวเดิมไปอย่างมาก ซึ่งแนวเดิมนี้เองถูกเรียกว่า โหราศาสตร์สากลคลาสสิก

          ลำพังทั้งวิชาโหราศาสตร์สากลคลาสสิกและวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียนเอง ต่างก็มีความสามารถ หรือจุดเด่นเฉพาะวิชาอยู่แล้ว  และถ้ายิ่งนำมาใช้ให้กลมกลืนกันได้แบบไม่แบ่งแยก  ในทางปฏิบัติจะยิ่งเพิ่มพูนความสามารถในการทำนายได้อย่างแม่นยำ และปัจจุบันนี้ความสามารถทางโปรแกรมที่เกี่ยวกับโหราศาสตร์ที่เป็นสากลนั้นต่างก็รองรับได้ทั้ง 2 วิชา  จึงช่วยให้งานของโหรผู้ใช้มีคล่องตัวถูกต้องแม่นยำรวดเร็วและทุ่นเวลาไปอย่างมหาศาล

          บทความนี้ผู้เขียนมุ่งเน้นให้ผู้อ่าน  ได้ศึกษาทั้งโหราศาสตร์สากลคลาสสิกไปพร้อมๆกันกับโหราศาสตร์ยูเรเนียนเลยแบบไม่ให้รู้ตัวว่าเขาแยกออกจากกัมาก่อน ดังนั้น จึงอธิบายกลไกทฤษฎีของวิชาและวิธีการใช้งานไปพร้อมๆกัน  และเรียกวิชานี้ว่า โหราศาสตร์สากลยูเรเนียน

         ส่วนที่จะแม่นยำหรือไม่ อย่างไรนั้น ต้องให้ผู้ศึกษาเองเป็นพิสูจน์เชิงประจักษ์  เพราะโหราจารย์รุ่นก่อนท่านก็บอกว่า  ความแม่นยำนั้นอยู่ที่ผู้ศึกษาแล้วนำไปใช้  ว่าได้ทำครบถ้วนตามหลักการและลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่เรียนมาหรือไม่อย่างไร  ซึ่งถ้าทำครบถ้วนแล้ว มันจะแม่นยำได้เอง โดยไม่ต้องไปกลัวว่าจะพลาด

           งานโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน เป็นเรื่องการที่ต้องใช้ความปราณีตสุขุมลุ่มลึกในการพิจารณาอย่างละเอียดรอบด้านและลึกซึ้ง ไม่ใช่การถามมาแล้วตอบไปแบบคาดเดาเพื่อให้ผ่านๆไปแบบสุกเอาเผากินหรือเผื่อฟลุ้คแม่นยำขึ้นมาเอง  ปัญหาบางข้ออาจจะต้องใช้เวลาอย่างมากมายในการออกคำพยากรณ์ได้เพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น    แต่ข้อเดียวที่ออกมาจากการทำตามขั้นตอนอย่างละเอียดและรอบคอบนี้ มักจะให้ผลเป็นที่น่าพอใจ

           เนื่องจากโดยมากตำรามักจะเน้นโหมประโคมโฆษณาถึงผลงานของความแม่นยำในกรณีต่างๆที่ผ่านมาของโหร  ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก  แต่ที่มักจะไม่พูดถึงกันเลยก็ได้แก่เรื่องความผิดพลาดในการทำนาย   ซึ่งก็มีมากมายมหาศาลชนิดตัวโหรผู้ทำนายเอง ก็ต่างเสียหัวเสียชีวิตติดตะราง เข้าปิ้งติดร่างแหไปกับเขาด้วยเยอะแยะมากมาย   ซึ่งสามารถหาได้จากการศึกษาข้อมูลจากวิชาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา  ดังนั้นผู้ที่ศึกษาวิชานี้ จึงควรจะระมัดระวังตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง  ในเรื่องการนำวิชานี้ไปใช้งาน  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดูดวงตัวเองก่อนด้วยว่า ในเรื่องสำคัญๆชนิดคอขาดบาดตาย  ว่าทำนายออกไปแล้วจะรอดตัวหรือไม่อย่างไรด้วย  อีกทั้งวิชานี้จะให้คุณเป็นเสน่ห์อย่างมากแก่ผู้ที่ศึกษาที่นำไปช่วยสงเคราะห์ผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก   ไม่ใช่มุ่งแต่จะเป็นแค่การค้าขูดรีดซ้ำเติมเห็นลูกค้าเป็นเหยื่อจนเกินเหตุเกินผลและใจดำเห็นแก่ตัวจนเกินไป  ซึ่งสุดท้ายผลกรรมและวิบากจากการนี้จะกลับมาตกอยู่แก่ตัวผู้ใช้วิชานี้เอง  ซึ่งเมื่อเข้าสู่วงการนี้แล้วจะเห็นตัวอย่างได้เองเพราะมีอยู่ให้รู้ให้เห็นอย่างมากมายเช่นกัน  

             ครูโหรแต่โบราณท่านมีจารีตอยู่ที่ใช้สืบกันมาว่า ไม่ให้โหรดูดวงเด็ก เพราะพ่อแม่ผู้ที่จะอุปถัมภ์เด็กคนนั้นจะมีอคติครอบงำ  ซึ่งผลเสียจะไปขัดต้ดรอนโชคลาภของเด็กไป  อีกทั้งไม่ให้ทำนายว่าผัวเมียจะเลิกกันเพราะ ของพวกนี้เป็นเรื่องบุญกรรมที่เขาเป็นอยู่ร่วมกันมา  เวลาเขาดีกันตัวโหรผู้ทำนายเองจะเสียหายเองได้  อีกทั้งการทำนายเรื่องจะตายหรือเสียชีวิตเมื่อไหร่  ก็เป็นข้อห้ามเช่นกันเพราะเรื่องชีวิตนั้นเป็นเรื่องลึกลับ หยั่งรู้ได้ยาก  แม้จะคิดว่ารู้จริงๆในหลายกรณีก็ตาม  เพราะอาจจะมีบุญญาธิการหรือบารมีบางอย่างที่เจ้าตัวเขาได้เคยทำมาแต่อดีตกาล ส่งผลหนุนช่วยให้คลาดเคลื่อนยืนยาวออกไปได้  อีกทั้งเป็นการสร้างความทุกข์วิตกกังวลให้กับผู้รับคำทำนายซึ่งไม่เหมาะสมที่โหรจะทำ  อีก ทั้งไม่ควรทำนายเมื่อดาวเสาร์อยู่ในภพที่ 7 ณ เวลาที่เขามาถาม เพราะผู้ที่มาถามจะนำทุกข์ให้โทษมาให้ตัวโหรเองซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่เป็นข้อ ห้ามที่เคร่งครัดนักแต่เจ้าตัวโหรควรจะเป็นผู้พิจารณาได้ด้วยตนเองว่าจะทำ หรือไม่ทำ  ซึ่งเรื่องพวกนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องรู้ต้องทราบไว้ตั้งแต่เริ่มรู้จักวิชา นี้กันเลยทีเดียว

              นอกจากนี้ผู้ศึกษาวิชานี้ ต้องรู้จักสะสมข้อมูลต่างๆไว้เพื่อศึกษาเพิ่มเติมให้มากเท่าที่จะทำได้เพื่อนำไปใช้พัฒนาตนเองให้รอบรู้และลึกซึ้งมากยิ่งๆขึ้นไปเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ศึกษาเองในกาลข้างหน้า

การ สะเดาะเคราะห์ก็เช่นกัน  ในวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียน  มีหลักว่าด้วยเรื่องสร้างกรรมทดแทน  ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมไสยศาสตร์หรือศาสนธรรมแต่อย่างใดทั้งสิ้น และบางครั้งก็ขัดแย้งกันด้วยซ้ำ เพราะโหรานั้นเน้นใช้วิธีการมากกว่าการสร้างพิธีกรรม  ซึ่งใช้เป็นการเฉพาะกรณีรายบุคคลและเหตุกาณ์ในช่วงเวลาเฉพาะเท่านั้น  หรืออีกวิธีหนึ่งได้แก่การชิงจังหวะฟ้า  สร้างแม่แบบที่ดีที่สามารถรองรับได้ มากกว่าปล่อยให้ชะตากรรมเขามารังแกในเงื่อนไขของฟ้าเอง 

             วิธีการพวกนี้ เป็นเรื่องเฉพาะเจ้าชะตา และต้องใช้เทคนิคโหราการในชั้นสูงซึ่งผู้ทำจะต้องลุ่มลึกไปด้วยความเข้าใจใน รหัสของดวงดาวอย่างลึกซึ้งเท่านั้น ถึงจะพอแก้ไขสถานการณ์ต่างๆให้จากร้ายเป็นเบาได้  ถ้ายังเรียนไปไม่ถึงหรือทำแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะทำให้ผู้มาใช้บริการหรือ ลูกค้าเสียหายมากมายไปได้ แล้วกรรมมันจะกลับมาสนองแก่ตัวโหราผู้สะเพร่าเอง

              อีก ทั้งการนำวิชาโหราศาสตร์ไปใช้ในทางมิจฉาชีพเอารัดเอาเปรียบเพื่อผลประโยชน์ ทางทุจริต หรือกลั่นแกล้งเอาเปรียบผู้อื่นที่ไม่มีทางสู้  ครูโหรแต่โบราณมาท่านสาปแช่งเอาไว้ข้อสาหัสนัก  จึงขอให้ผู้ที่จะศึกษาวิชานี้ได้เข้าใจในจารีตของบูรพาจารย์ทั้งหลายเพื่อ ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งวิชาการซึ่งเป็นมรดกทางภูมิปัญญาแต่โบราณกาลที่ทิ้ง ไว้ให้จนถึงคนรุ่นเราและสืบต่อไปข้างหน้า

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.