สยามยามวิกฤติ
ทัศนะทางโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
ภารต ถิ่นคำ
ช่วงนี้กระแสชาตินิยมกำลังมาแรง ขณะที่เขียนบทความนี้ ปลายปี พ.ศ.2552 กลางเดือนพฤศจิกายน กำลังมีปัญหารุนแรงทั้งวิกฤตการณ์ทางการเมืองแยกข้างที่รุนแรง ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และปัญหาทางการทูต กับประเทศเพื่อนบ้านรอบบ้าน แทบจะทั้ง 4 ด้าน ทั้ง กัมพูชา พม่า ลาว และมาเลเซีย
ถ้าเราศึกษาจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การที่สยามหรือประเทศไทยเรานี้ ซึ่งหมายถึงศูนย์กลางประเทศคือ เมืองหลวง อันได้แก่ กรุงศรีอยุธยา และกรุงเทพได้ถูกย่ำยี อย่างเป็นรูปธรรม จากกองกำลังทางทหารของชนต่างด้าวท้าวต่างแดน หลายครั้งหลายหน
ในเรื่องการศึกสงครามกับต่างชาตินั้น เรามีหลายครั้งหลายหนแทบทุกรัชกาล แต่ในที่นี้จะไม่นับ การออกศึกที่ยกไปรบนอกเมืองหลวง หรือการจัดทัพออกไปสู้กับอริราชศตรู รวมไปถึงการประกาศสงคราม หรือการประกาศเข้าร่วมสงคราม แม้แต่การเสียดินแดนให้ต่างชาติมหาอำนาจอังกฤษและฝรั่งเศสในรอบพระราชอาณาจักร แต่มุงจำกัดขอบเขตที่ กองกำลังต่างชาติล่วงล้ำเข้ามาถึง พระนคร ซึ่งเป็นเมืองหลวง ซึ่งถือเป็นวิกฤติหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง
ความเป็นไปของบทความนี้ เป็นการมุ่งอธิบายในแง่ โหราศาสตร์สากลและยูเรเนียน โดยจำกัดในแง่ของสิ่งบอกเหตุของปัจจัยทางโหราศาสตร์ในดวงปี ของปีนั้นๆ ซึ่งดวงปีนี้เจาะจงไปที่ เวลาที่ อาทิตย์ยกเข้าราศีมกร หรือ ดวงอายัณตสงกรานต์ และ ดวงเดือนที่บอกเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งก็มุ่งไปที่ ดวงอมาวสี หรือ จันทร์ดับ ในรอบเดือนนั้นๆ ณ ที่ กรุงเทพ และ กรุงศรีอยุธยา เป็นสำคัญ และใช้อธิบายด้วยการผูกดวงแบบพลาสิดุสแนวสากล และดวงแบบเรือนชะตาเท่า เพื่อใช้วิธีการแบบยูเรเนียน ซึ่งจากการศึกษาค้นคว้าพบว่าให้การชี้นำที่ตรงกับเหตุการณ์อย่างน่าประหลาดใจ
กรณีศึกษาต่อไปนี้ จะเรียงตามลำดับเหตุการณ์ ที่ข้าศึกอริราชศตรูมาประชิดกรุง
1. ศึกอลองพญา พ.ศ.2302 -2303 เป็นศึกกับพม่ารอบหลัง เพราะนับจากรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร เป็นต้นมา ไทยกับพม่า ก็ห่างศึกสงครามกันมาร่วม 100 ปี ฝ่ายไทยมัวแต่ยุ่งกับกิจการภายใน โดยวางใจว่าพม่านั้นคงจะฟื้นตัวมาตีไทยได้ยาก พอเกิดมีรัฐบุรุษผู้สามารถตั้งตนขึ้นมาโดยปราบปรามมอญ ทวาย และตะนาวศรี ได้แล้วเกิดรุกรานตีล้ำดินแดนเข้ามา กว่าจะรู้ตัวเอะอะกันขึ้นป้องกันกรุงศรีอยุธยานั้น ทัพพม่าก็ยกมาตีถึงเมืองกุย เมืองปราน จะเข้าถึงเมืองเพชรบุรีซะแล้ว ทัพพม่ามาครั้งนี้อย่างย่ามใจ เพราะระบบป้องกันประเทศของไทยเกิดหละหลวม เนื่องจากขาดการเตรียมการที่ดีพอ ครั้งนั้น ทัพพม่าเข้ามาถึงกรุงศรีอยุธยา นำโดย พระเจ้าอลองพญา ทรงบัญชาการกองทัพมาเอง ในพงศาวดารระบุว่า ตรงกับ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2302 ในทางโหราศาสตร์นั้น ดวงปีจะบอกเหตุการณ์ในรอบปีนั้น ว่าจะมีแนวโน้มเป็นเช่นไร สำหรับเหตุการณ์ศึกอลองพญา ครั้งนี้ ดวงปีหาได้จาก ดวงที่เถลิงในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2302 ดังรูป
ในดวงปีใหม่ ของปี นั้น ณ เวลาที่ อาทิตย์ยกเข้าราศีมกร นั้น อาทิตย์กับเสาร์ เป็นโครงสร้างดัชนีพระเจ้า ( Yod ) จิ้มเข้าหา โดยที่พฤหัส ก็กุมอาทิตย์อยู่ แต่แสดงตัวเป็นอริ ( 150 องศาสนิทกับจุดจอมฟ้า ขณะอาทิตย์ยกย้ายเข้าราศีมกรนั้น )ซึ่งอาทิตย์ตัวนี้จะแรงมาก ทั้งเสาร์บาปเคราะห์เจ้าเรือนอริก็มาเป็นมรณะ 150 องศาสนิท
ภาพจากดวงนี้ จะตรงกับเหตุการณ์อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะดวงกรุงศรีอยุธยาครั้งนี้มีโชคช่วยในคราวคับขัน คือ อริ มาตกมรณะ เสียเอง เพราะ พระเจ้าอลองพญา ต้องเลิกทัพกับไปเพราะสิ้นพระชนม์ ซึ่งพงศาวดารของไทยว่า ทรงได้รับบาดเจ็บจากการที่ทรงพระแสงปืนใหญ่ยิงถล่มเข้ามาในพระนครแต่เกิดปืนแตกและทรงสิ้นพระชนม์ขณะยกทัพกลับ
ดูภาพ ดวงอมาวสี ก่อนที่พม่าจะยกมาถึงชานพระนคร
อาทิตย์จันทร์อมาวสี มี มฤตยูบาปเคราะห์ กุมสนิทในภพ 5 โดยมี เจ้าเรือนภพ 5 อันได้แก่ เนปจูน ไปอยู่ภพ 10 ลอยกลางฟ้า และ อังคารเจ้าเรือน อริ ทำให้ เนปจูนกับอังคารไป แช่ประชิดจุดจอมฟ้า โดยเจ้าเรือนภพ 10 นี้ ก็มาเป็น อาทิตย์อมาวสีซะเองแถมพฤหัส ศุภเคราะห์ ก็มาเสียเพราะทำมุม 135 กับ จุดจอมฟ้านี้ด้วย
ทำให้ดวงอมาวสีนี้ แจ้งว่า จะเหตุเภทภัย จากทหาร ศตรู (อังคาร ) แถมยังมีดาวเสาร์บาปเคราะห์ เจ้าเรือนภพ 3 ประเทศเพื่อนบ้าน มาอยู่ภพ 4 ซึ่งเป็นภาพจบของเดือนนี้ด้วย ทำให้เห็นภาพกองทัพเพื่อนบ้านมาประชิดสร้างความเดือดร้อนถึงพระนครอย่างรุนแรง แม้ว่าศึกครั้งนี้พม่าจะถอยทัพกลับ แต่ก็กวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สินมีค่าที่อยู่รอบๆ ยึดเอาไปเป็นเชลยมากมาย เพราะไทยเราใช้ยุทธวิธีเอาชัยภูมิกรุงศรีอยุธยาเป็นจุดตั้งรับทัพ การครั้งนี้ ถือว่า เป็นจุดเริ่มต้นของสยามยามวิกฤติ เนื่องจากอริราชศตรูต่างชาติเข้ามาจู่โจมทางการทหารโดยเข้ามาแสดงแสนยานุภาพถึง เมืองหลวงของสยาม
บทนี้เป็นตอนแรกครับ ถ้าจะให้สนุกขึ้น ตามอ่านได้ที่นี่ครับ
http://iseehistory.socita.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538711094&Ntype=1