ReadyPlanet.com
dot
dot
เนื้อหาสาระ
dot
bulletเจตนารมณ์
bulletจากใจผู้จัดทำ
bulletส่องฟ้าฝ่ากระแสดาว
dot
ภาควิชาการ
dot
bulletสากลยูเรเนียนสัมพันธ์
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม1
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม 2
dot
บทความน่าอ่าน
dot
bulletคานทองนิเวศม์
bulletดวงเมียน้อย
bulletรสนิยมรักกับดวงชะตา
bulletอาจารย์ขา!แฟนหนูเป็นเกย์?!
bulletเรื่องอย่างว่า!!เอ๊ะยังไงกัน?
bulletเมื่อไหร่จะขายออกซะที?
bulletใครเอ่ย?เนื้อคู่คุณ..
bulletจุดรับเงินคุณเป็นอย่างไร?
bulletจุดล้มละลาย
bulletเพ่งดวงลูกน้อง
bulletเบอร์ฮัลโหลกับโหราศาสตร์
bulletเมื่อไหร่จะถูกหวย??
bulletงานสมพงษ์
bulletปั้นดินให้เป็นดาว
bulletถูกดองตำแหน่งหรือแป๊กขั้น
bulletทำอย่างไรให้ขายดี!!
bulletวิ่งให้ถูกเส้น ทำอย่างไร?
bulletจับงานใหญ่ต้องใช้ฤกษ์
bulletเอาฤกษ์เอาชัย
bulletลางสังหรณ์พารวย
bulletดวงผิดเพศ
bulletสัมผัสที่ 6
bulletคนเห็นผี
bulletคนตกยุค
bulletดวงดาวกับปัญหาสายตา
bulletศัลยกรรมใบหน้ากับโหราฯ
bulletต้นไม้เสี่ยงทาย
bulletสะเดาะเคราะห์ทำได้จริงหรือ?
bulletเทียนอาถรรพณ์
bulletพระเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
bulletบทความ อจ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletมุมสัมพันธ์ระหว่างดาว
bulletเรือนชะตาจันทร์
bulletดาวไร้สัมพันธ์
bulletเว็บไซด์โหราฯ ที่น่าสนใจ
bulletธุรกิจ " หมอดู "
bulletตรวจสุขภาพด้วยโหราฯ
bulletกลุ่มโหราพารวย
bulletกลุ่มโหราหารัก
bulletกลุ่มโหราพารุ่ง
bulletโหราพาสนุก
bulletกลุ่มโหราพาสยอง
bulletกลุ่มโหราอาถรรพณเวทย์
bulletกลุ่มโหราสุขภาพ
bulletอาลัยพี่กุ้ง " กิตติคุณ เชียรสงค์ "
bulletกลุ่มสืบจากดวง
bulletกลุ่มโหราพยากรณ์
bulletกิจกรรมโหรา ' Sky Clock '
bulletท่านปัญญานันทะ
bulletอาลัยอาปื้ด ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
bulletจิ๊กซอร์ของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletสะเดาะเคราะห์แก้อาการเซ็ง
bulletสืบจากศพ..ทำไมถึงตาย
bulletอุตุโหราฯ
bulletไซโคลนนากรีส
bulletรอยสักสยองขวัญ
bulletบทความ "ระวังยูเรเนียน " ..โดย จรัญ พิกุล
bulletจังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ
bulletพายุเฮอริเคน IKE
bulletอาลัยท่าน Udo Rudolph
bulletเสน่ห์มหานิยมจากริงโทนรอสาย
bulletรสนิยมเรื่องอย่างว่ากับอาหารการกิน
bulletเรื่องของไฝกับไอ้นั่น
bulletเรื่องของ ขน โลมา และอารมณ์
bulletยาโป๊วกับโหราศาสตร์
bulletของแสลงผิดสำแดงอารมณ์เพศ
bulletอาลัยพญาอินทรีแห่งวงการน้ำหมึก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
bulletสะดือกับการพยากรณ์
bulletกรณีศึกษาการกลับชาติมาเกิด
bulletสยามยามวิกฤติ ตอนที่ 1
bulletรุจน์ รณภพ ดาราเจ้าบทบาท
bulletโหราจารย์มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล ... ดวงครูที่น่าศึกษา
bullet...
bulletอีรีส (Eris )เทพเจ้าแห่งความขัดแย้งวุ่นวาย
bullet หลักวิธีการแก้กรรมในระบบโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bullet100 ปี พระพุทธเจ้าหลวงกับดาวหางฮัลเลย์
bulletโหราสาธยาย
bulletโหราศาสตร์คืออะไร
bulletสารบัญ
bulletประวัติและความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์
bulletปรัชญาในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์
bulletจุดลากรองจ์ (Lagrange Point )
bulletการหาเวลาเกิด ตำรับโหรจรัญ พิกุล
bulletAnalemma อาถรรพณ์แห่งเส้นสุริยวิถีกับโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletหลักสูตรโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนระบบจานสองชั้น 80 ชั่วโมง




จังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ

                                                       จังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ

 

         เป็นที่รู้และยอมรับกันโดยทั่วไปว่า  ผู้ปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะนับถือในศาสนาหรือนิกายใดก็ตามนั้น  ต่างก็มีวิถีทางในการสำรวมจิตเพื่อที่จะให้ตนเองเข้าสู่หนทางแห่งความสงบ  ในรูปแบบที่ตนได้ให้ความศรัทราในวิถีทางเช่นนั้น  และต่างก็มีแนวทางปฏิบัติสืบต่อกันมา

          แต่ทั้งนี้ก็ย่อมมีอุปสรรคนานัปการ  ซึ่งมักจะก่อให้เกิดผลให้การรวบรวมเพื่อมิให้จิตนั้นตั้งมั่น  และเป็นเหตุให้หย่อนสติ ในการควบคุมสมาธิ   ส่งผลให้หวั่นไหวไปตามโลกธรรมหรือนิวรณ์ กิเลสต่างๆ ยังผลให้ผู้ปฏิบัติเข้าสู่องค์คุณของสมาธินั้น ทำได้ยาก

         การแก้ไขอุปสรรคดังกล่าว  มีการพยายามกันมาตั้งแต่เบื้องโบราณกาล  เช่น การปลีกวิเวก  การมีครูอาจารย์คอยคุมหรือสอบอารมณ์  การทำวัตรปฏิบัติสวดมนต์ภาวนาอย่างเคร่งครัด  ไปจนถึงการควบคุมอาหารและปัจจัยต่างๆ  เพื่อกีดกันมิให้มีเหตุให้รบกวนผู้ปฏิบัติธรรมได้วอกแวกไปกับอารมณ์ที่มาจากรบกวนจากปัจจัยภายนอก

 

         ในทางพระพุทธศาสนา  ก็ได้บัญญัติในเรื่องของการกำหนดวันพระ หรือวันธรรมสวนะ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สำรวมจิตใจเข้ามาหาศาสนสถาน หรือวัดวาอาราม  เพื่อทำบุญถือศีลเป็นพิเศษมากกว่าวันธรรมดา  โดยกำหนดให้วันพระนั้นเป็นไปตามปรากฏการณ์ของจังหวะฟ้าของการโคจรของดวงจันทร์ตามปฏิทินทางจันทรคติ

 

          เหตุผลของการกำหนดวันพระนั้นโดยเอาจังหวะการโคจรในมุมสำคัญของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ นอกจากจะเป็นที่เข้าใจง่ายและชัดเจนในการกำหนดการและนัดหมายแล้ว  ในทางวิชาโหราศาสตร์สากลถือว่าเป็นกุศโลบายในการช่วยสรรพสัตว์ให้มีชีวิตรอดยืนยาว  เพราะในสมัยโบราณนั้นสัตว์ป่าและสัตว์น้ำมีชุกชุมและมักจะออกมาหากินผสมพันธุ์ตามจังหวะสำคัญของดวงจันทร์เช่นเดียวกัน  เมื่อพุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรมถือศีลละเว้นจากการฆ่า  ก็ทำให้ปริมาณการรอดชีวิตของสัตว์ก็มีมากขึ้น จึงนับถือกันว่าเป็นธรรมกุโลบายในทางเมตตา  อีกทั้งในหมู่พุทธศาสนิกชนเอง ก็มีผลต่อการสำรวมจิตมิให้ฟุ้งซ่านปล่อยไปกลับอารมณ์กิเลสที่เป็นผลมาจากอิทธิพลของดวงจันทร์ตามจังหวะฟ้าสำคัญๆนั้น  โดยเฉพาะเรื่อง กามสังวร เพราะมีวัตรปฏิบัติให้ถืออุโบสถศีล หรือศีลแปด บังคับให้ควบคุมการฟุ้งของกามคุณเพิ่มขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง 

 

            ในทางโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนนั้น  นอกจากจะให้คำอธิบายเรื่องอิทธิพลของดวงดาวที่ส่งผลต่อกิเลสมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในเรื่องของกามคุณแล้ว  ยังสามารถที่จะเข้าถึงการหลีกเลี่ยงกับปัญหาดังกล่าวได้ด้วย  โดยการศึกษาในมุมมองเพื่อที่จะให้เข้าถึงธรรมชาติของปรากฏการณ์นั้นๆอย่างลึกซึ้งโดยเฉพาะในเรื่องของจิตตานุภาพ

     ในธรรมชาตินั้นมีมนุษย์อยู่มากมายหลายจำพวก ในทางพระพุทธศาสนา ท่านแบ่งออกเป็น 6 พวกตามจิตนิสัยที่อารมณ์ชอบไปขลุกอยู่ที่นั่น หรือที่เรียกว่า  จริต 6  อันได้แก่

           ราคจริต จิตท่องเที่ยวไปในอารมณ์ที่รักสวยรักงาม คือ พอใจในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสนิ่มนวล ชอบการมีระเบียบ สะอาด ประณีต พูดจาอ่อนหวาน เกลียดความเลอะเทอะ              

โทสจริต มีอารมณ์มักโกรธ เป็นคนขี้โมโหโทโส จะเป็นคนที่แก่เร็ว พูดเสียงดัง เดินแรง ทำงานหยาบ แต่งตัวไม่พิถีพิถัน เป็นคนใจเร็ว

         โมหจริต มีอารมณ์จิตลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ ชอบสะสมมากกว่าจ่ายออก มีค่าหรือไม่มีค่าก็เก็บหมด นิสัยเห็นแก่ตัว อยากได้ของของคนอื่น แต่ของตนไม่อยากให้ใคร ไม่ชอบบริจาคทานการกุศล เรียกว่า เป็นคนชอบได้ ไม่ชอบให้

          วิตกจริต มีอารมณ์ชอบคิด ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่กล้าตัดสินใจ คนประเภทนี้เป็นโรคประสาทมาก มีหน้าตาไม่ใคร่สดชื่น แก่เกินวัย หาความสุขสบายใจได้ยาก

           สัทธาจริต มีจิตน้อมไปในความเชื่อเป็นอารมณ์ประจำใจ เชื่อโดยไร้เหตุผล พวกนี้ถูกหลอกได้ง่าย ใครแนะนำก็เชื่อโดยไม่พิจารณา

         พุทธิจริต เป็นคนเจ้าปัญญาเจ้าความคิด มีความฉลาด มีปฏิภาณไหวพริบ การคิดการอ่าน ความทรงจำดี 

 

      ในที่นี้จะเน้นถึงพวกที่ชอบศึกษาปฏิบัติธรรม  ซึ่งแบ่งออกอีกเป็น 2 พวก ได้แก่  พวกที่เป็นมาแต่เกิดหรือพอรับรู้ด้วยสัญชาตญาณ และพวกที่ถูกปัจจัยเวลากำหนดให้เป็นมาในช่วงผ่านวัยอันควรมาแล้ว ซึ่งก็มีอยู่หลายช่วงจังหวะชีวิต  แต่ก็ครอบคลุมไปทุกจริตทั้ง 6  นั้นด้วย

          กรณีของวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน  ที่เป็นมาแต่เกิดนั้น  ท่านให้ดู  ศุกร์+โครโนส – โปไซดอน  ว่า เข้าจุดเจ้าชะตาอะไร  ในที่นี้เน้นไปที่  อาทิตย์  , เมอริเดียน  , จันทร์ , เมอริเดียน/อาทิตย์ , เมอริเดียน/จันทร์   จุดนี้เป็นจุดเกี่ยวกับศาสนาและศีลธรรมอันดี จะโน้มนำเจ้าชะตาเข้าหาศาสนาทันทีที่รู้ความได้และจะกำกับวิถีชีวิตของเจ้าชะตาให้มุ่งมั่นไปทางนี้อย่างไม่มีอะไรไปยับยั้งได้โดยเป็นมโนธรรมที่ฝังลึกแล้วแต่ความแรงแก่อ่อนของจุดเจ้าชะตาดังกล่าว

          ส่วนในกรณีของพวกที่เข้ามาหาวิถีทางศาสนาที่เกิดขึ้นมาภายหลังจากที่ผ่านชีวิตมาพอสมควรนั้น ท่านให้ตรวจดูจาก  ศูนย์รังสีของ อังคาร/โปไซดอน  ในจาน 90 องศา ว่าจะมาในช่วงอายุไหนและช่วงที่มานั้นมีจุดตั้งรับอย่างไร และมาในแนวไหน ในเงื่อนไขอย่างใน โดยการตรวจดูจาก อาทิตย์ วี1 หรือ วี2 ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ วิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียน โดยถ้ายิ่งไปยันกับดวงโปรเกรส (Secondary Progress ) ด้วยก็จะยิ่งแน่นอนมากขึ้น

           ทีนี้เมื่อเข้ามาในวิถีทางแบบนี้แล้ว ต่างก็ย่อมหวังผลสำเร็จหรือปฏิเวธธรรม จากเหตุที่ตนเองได้เพียรปฏิบัติมา   โดยเฉพาะในเรื่อง  การทำสมาธิเพื่อกำจัดกิเลสเพื่อเข้าสู่วิปัสสนาญาณ

           ในมุมมองของการศึกษาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน ก็มีวิถีทางเกี่ยวกับเรื่องจังหวะฟ้าที่ช่วยให้ผู้ศึกษาวิชานี้ได้ทราบว่า   เมื่อใดเวลาใดจักรวาลจะเปิดให้ วิถีการโคจรแห่งดวงดาวที่กระทำต่อโลก แล้ว ส่งผลต่อการปฏิบัติทางจิตเพื่อช่วยเร่งลัดให้เกิดผลดีและไวอีกทั้งสามารถสัมผัสรู้ได้ด้วยตัวของผู้ปฏิบัติเอง

           โดยสูตรการสัมพันธ์มุมดาวหรือจุดอิทธิพลและศูนย์รังสีดาวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่เป็นหลักๆ ได้แก่

 พลังจิต = อังคาร+อังคาร-เมอริเดียน
 สมาธิ   
= ศุกร์+ศุกร์- แอตเมตอส , แอตเมตอส+แอตเมตอส – ศุกร์
 วันแห่งการเข้าสมาธิ
= พฤหัส + โปไซดอน – อาทิตย์ = อาทิตย์ 

วิปัสสนา = เมษ + อาพอลลอน – เนปจูน
การติดต่อโดยวิปัสสนา = ราหู + อาพอลลอน-เนปจูน
ประสบผลสำเร็จทางวิปัสสนา
= อาทิตย์+อาพอลลอน – เนปจูน
สุขในทางธรรม  
= เมอริเดียน + พฤหัส – โปไซดอน
รู้แจ้งเห็นจริง  =  โครโนส + โปไซดอน – มฤตยู
ตรัสรู้ หรือสภาวะ ซาโตริ
= โปไซดอน + โปไซดอน – มฤตยู

       สูตรทั้ง 9 นี้ มีผลต่อการปฏิบัติในเรื่องเกี่ยวกับ  การปฏิบัติธรรมทางสมาธิวิปัสสนา

       วิธีการปฏิบัติในทางโหราศาสตร์นั้น  ให้หาจุดดังกล่าวในพื้นดวงกำเนิดว่า อยู่ที่ตำแหน่งใด  วันใดอาทิตย์จรมากระทบในมุมแรงหรือฮาโมนิคที่ 8( 0 , 45 , 90 ,135 ,180 ) กับจุดดังกล่าว จะเป็นวันที่เจ้าชะตาเหมาะแก่การที่เพียรปฏิบัติธรรมในวันดังกล่าว ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเฉพาะตัวตนของเจ้าชะตานั้น  และจุดดังกล่าวมีค่าคงที่ ใช้ได้ตลอดทั้งชีวิตถือเป็นวันสำคัญในการปฏิบัติธรรมที่ควรจะหาเอาไว้ให้รู้เหมือนกับเป็นกำหนดนัดในการบำเพ็ญจิตทางศาสนธรรมเป็นพิเศษส่วนตัว

      ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ วิถีแห่งฟ้าเปิดให้  คือให้ตรวจดูจากปฏิทินโหราศาสตร์ว่า อาทิตย์จรทำมุมแรงกับจุดปัจจัยดังกล่าวของท้องฟ้าจรด้วย ซึ่งหมายถึง วันนั้นฟ้าเปิดโอกาสให้แล้ว โดยในขณะที่ อาทิตย์จรเข้าหาจุดดังกล่าวในระยะวังกะ 2 องศา ให้ดูจันทร์จรว่า จะสัมพันธ์เข้าสู่จุดนั้นเมื่อใด ซึ่งก็จะหมายความว่า ชั่วโมงนั้นของวันนั้นเหมาะแก่การปฏิบัติให้คล้องจองเข้าสู่สูตรดาวดังกล่าว  และถ้ายิ่งมีความคล้องจองทั้งดวงจรและดวงกำเนิดด้วยแล้ว  จะยิ่งส่งผลให้เกิดประจักษ์ได้อย่างเข้มข้นจริงจัง  ซึ่งอยากจะให้ผู้ที่สนใจศึกษาด้านนี้ทดลองปฏิบัติดูเพราะเรื่องพวกนี้เป็น ปัจจัจตัง ซึ่งหมายถึง เจ้าชะตาจะซาบซึ้งในผลและจะรู้ได้ด้วยตนเองไม่ต้องให้ใครมาบอก

           นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการรับพลังจากดวงอาทิตย์โดยตรง  ได้แก่ การหาเวลาในการชาร์ตพลังชีวิตโดยการสำรวมกายและจิตเพื่อให้พร้อมรับพลังงานจากดวงอาทิตย์ในจังหวะสำคัญๆของการทำมุมรับแสงสัมพันธ์ของดวงอาทิตย์ มีต่อสิ่งมีชิวิตบนโลก ซึ่งได้แก่ เวลาที่ดวงอาทิตย์โคจรเข้าสู่จังหวะสำคัญดังนี้

             -  อาทิตย์ยกเข้าราศีต่างๆ โดยเฉพาะ มังกร  เมษ  กรกฏ  ตุลย์  ซึ่งเป็นจังหวะปีและฤดูกาล โดยเข้ามังกรเป็นจังหวะปี ซึ่งจะคลุมผลทั้งปี นอกนั้นเป็นจุดเปลี่ยนฤดูกาลต่างๆ ซึ่งก็สำคัญรองลง
            -  อาทิตย์เที่ยงวัน อันได้แก่ ช่วงเวลาที่  ค่าเมอริเดียนมีค่าเท่ากับดวงอาทิตย์วันนั้น ละเอียดถึงลิปดา ซึ่งเป็นเวลาที่อาทิตย์ตรงหัว
            -  
บางท่านก็เล่นหากันไปถึง อาทิตย์ขึ้น ( ลัคนา = อาทิตย์ ) , อาทิตย์ตก เมื่อ อาทิตย์ทำมุม 180 กับลัคนา และ เที่ยงคืนเมื่อ อาทิตย์เล็ง 180 องศากับเมอริเดียน
             ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะให้ผลทางชาร์ตพลังให้อายุวัฒนะ และรักษาโรคภัยไข้เจ็บของตนเองได้เป็นอย่างดี

     แต่ในทางปฏิบัติจริงนั้น  ผู้ที่เจริญธรรมในด้านนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางผ่านของจิตโดยผ่านทางสมาธิในเรื่องของประสบการณ์ทางจิต ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คือเกิดจากอิทธิพลภายในตนเอง และอิทธิพลจากภายนอกที่เข้ามากระทบให้รับรู้  และทั้งนี้ไม่ได้มีผลต่อการสำเร็จตามแนวทางของสูตรพวกแรกแต่อย่างใด เป็นเพียงผลกระทบเท่านั้น  โดยสูตรแรกนั้นเหมาะแก่การปฎิบัติแนวศาสนาจริง ส่วนแนวที่จะบอกต่อไปนี้เป็นแนวทางประสบการณ์ทางจิตศาสตร์ ออกจะไปคาบเกี่ยวในทางไสยศาสตร์  เรื่องสัมผัสพิเศษต่างๆ ในรูปแบบนามธรรมแต่สัมผัสได้ในรูปแบบมิติต่างๆ

          สัมผัสโลกอีกมิติหนึ่ง =    เมษ+มฤตยู – เนปจูน  ยิ่งถ้าไปเข้า เมอริเดียนกำเนิดเข้ามาเกี่ยวด้วยในมุมแรงจะยิ่งชัดเจนมาก 
          และสูตร จันทร์+โปไซดอน – เนปจูน   ก็เช่นกัน  ถ้าเข้าเมอริเดียนผสมก็ถือว่าจะมีสัมผัสที่ 6 รุนแรงมากทีเดียว

          นอกจากนี้ในประสบการณ์ที่เกี่ยวกับสัมผัสที่ 6 แล้ว  การจะตรวจว่า ขณะที่สัมผัสนั้นคืออะไร ในทางปฏิบัติให้ตรวจเกี่ยวกับ สภาวะกายทิพย์ทั้งของเจ้าชะตาเอง อันได้แก่สูตร ดังต่อไปนี้คือ

          กายทิพย์ 
= อาทิตย์/โปไซดอน , อาทิตย์ + อาทิตย์ – โปไซดอน ,เมษ + อาทิตย์ – เนปจูน และ เมษ + อาทิตย์ – โปไซดอน  ในดวงกำเนิดว่าเข้าอะไรบ้าง ซึ่งก็จะทำให้มีลีลาไปตามปัจจัยตั้งรับของเจ้าชะตานั้นๆ

          และ เมื่อได้ปฏิบัติจริง จนได้รับสัมผัสจริงๆ จนเชื่อแน่แก่ใจแล้ว  ก็ต้องมาตรวจอีกว่า  ณ เวลาดังกล่าว ลัคนา ของเจ้าชะตากำเนิด เข้าทำมุมสัมพันธ์แรงกับ จุดกายทิพย์ ต่างๆหรือไม่  ถ้าเข้าก็ใช่แสดงว่ามาจากที่อื่น   แต่ถ้าเข้า เมอริเดียนกำเนิด  จะกลายเป็นว่า เกิดขึ้นมาจากการปรุงจิตของเจ้าชะตาเอง  โดยเฉพาะ

          จุดผีหลอก 
=   มฤตยู + เนปจูน – โปไซดอน   จร มาเข้าหา เมอริเดียนกำเนิด หรือ เมอริเดียน / วัลคานุส  แต่ทั้งนี้ต้องยกเว้น เมอริเดียน / เนปจูน  ที่ต้องตรวจให้ตรวจให้ลึกลงไปอีกต่างหากจากปัจจัยที่มาประกอบอื่น

             ส่วนการสัมผัสกับเทพเจ้าหรือจิตวิญญาณชั้นสูงขึ้นไปนั้น  อยู่ในสูตร โครโนส / โปไซดอน  ซึ่งต้องมีมาในดวงกำเนิดและดวงจร สัมพันธ์กัน  จึงจะยืนยันผลการตรวจจับนั้น
             
             แต่ที่สำคัญก็คือ  ต้องแยกให้ออกระหว่าง  สมาธิในฌาน กับ ความฝัน หรือ ภวังค์จิต ซึ่งต่างกัน

             จุดฝัน
=  เมษ / เนปจูน , พุธ / เนปจูน
             จุดฝันที่เหลวใหล เพ้อเจ้อ คิดไปเอง
=  เมอริเดียน + จันทร์ – เนปจูน , เมอริเดียน + พุธ – เนปจูน
              จุดภวังค์
, ครึ่งหลับครึ่งตื่น = อาทิตย์ + เนปจูน –พุธ
            ถ้าเจ้าชะตามีจุดเช่นนี้เข้า ให้คิดไปก่อนว่า  อาจจะไม่ใช่ของจริง
              อีกทั้งต้องระวังจุด  จันทร์ + เนปจูน – พุธ
= พลังแห่งจินตนาการ  หรือ นิมิตจากสัญญาขันธ์ของตนเองที่ปรุงเข้ามาหลอน แล้วเข้าใจว่าเป็นจริง

          ที่ยกมานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีการเจริญจิตให้คล้องจองกับจังหวะฟ้า  ซึ่งอาจจะเป็นวิธีลัดเข้าสู่แนวทางการปฏิบัติธรรมในชั้นสูง ซึ่งสามารถที่จะพออธิบายได้ในวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน พอเป็นแนวทางสังเขปเบื้องต้น
           และขอแถมอีกอย่างหนึ่งว่า ให้ผู้ศึกษาลองหาจุดอิทธิพลพิเศษ อยู่จุดหนึ่ง ในท้องฟ้า ว่าวันไหนที่มี
จุด พุธ + คิวปิโด – เมอริเดียน จร ทำมุมกับ เมอริเดียน หรือ เมอริเดียน / วัลคานุส และ เมอริเดียน/โปไซดอน กำเนิด

 
         ส่วนในกรณีที่ผู้รู้เวลาเกิดแน่นอน  ถ้าไม่รู้อนุโลมให้ใช้ อาทิตย์/โปไซดอน  แทนได้  ว่าเข้ามาสัมพันธ์กับท่านเมื่อวันใด เวลาใด  ก่อนหน้าเวลานั้นสัก 4 นาที ให้อธิษฐานดูกับเทพเจ้าแห่งศิลปะวิทยาการ หรือ พระคเณศ  ในทางบุคคลาธิฐาน  ขอพรจากพลังงานบริสุทธิ์แห่งจักรวาลนี้ในเรื่องความสัมฤทธิ์ในการศึกษาศิลปะวิทยาการที่ตนเองต้องการ  ซึ่งวิธีนี้ตามวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน ถือกันว่า เป็นหนึ่งในจุดศักดิ์สิทธิ แห่งจังหวะฟ้า ที่สำคัญอันหนึ่งในด้านการขอรับพลังพรจากจักรวาล แล้วท่านจะสัมฤทธิผล สมความตั้งใจ

          บทความนี้  ถ้ามีส่วนดีประการใดผู้เขียนขออุทิศให้ท่านปรมาจารย์ และอาจารย์ ของวิชาโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนทั้งหลายทุกผู้ทุกคน ที่ได้ทิ้งมรดกวิชานี้ไว้ให้ ชนรุ่นหลังให้ได้มีร่องรอยได้ศึกษาขยายความรู้นี้ออกไปในแนวปรมัตถธรรม เพื่อส่งผลสู่ปฏิเวธธรรมและการหลุดพ้นในวัฏฏะสังสาร  นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันทั้งที่ล่วงลับไปแล้ว และที่ยังมีชีวิตอยู่ทุกท่าน   ส่วนข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
             







Copyright © 2010 All Rights Reserved.