สุริยคราสกับพายุไซโคลนนากรีสพัดถล่มลุ่มอิระวดีพม่า
 
            อนุสนธิ์จากบทความเรื่อง แกะรอยสุริยุปราคากับหายนะภัยของมนุษยชาติ ที่เกิดแผ่นดินขนาดใหญ่และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้น  และเข้าถล่มชนิดที่แทบจะล้างเมืองบันดาราอาเจะห์ บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 นั้น  ผู้เขียนได้ศึกษาแกะรอยจากทฤษฎีวิชาการจากตำราหลายๆเล่ม โดยเฉพาะในเรื่องวงรอบของเหตุการณ์และอนุกรมรอบเวลาของดวงดาว ซึ่งมีอยู่หลายสายด้วยกัน และจากการเกิดสุริยุปราคาสำคัญๆของแต่ละพื้นที่เป็นหลักในการแกะรอยเหตุการณ์ตามทฤษฎีของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน

            ก็พอดีมีเหตุการณ์มหาวาตภัยครั้งสำคัญ เกิดขึ้นในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี อันเกิดจากพายุไซโคลน  ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในมหาสมุทรอินเดีย  โดยปีนี้ลูกที่ชิ่อ นากรีส ได้ขึ้นบกเข้าพัดทำลาย ประเทศสหภาพพม่า เมื่อวันที่ 1-2 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหาย เกินหกหมื่นคน อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียหายทางทรัพย์สินจนเหลือคณานับ

             ถ้ามาพิจารณาหลักโหราศาสตร์เรื่องวงรอบรอบ เท่าที่ย้อนดูจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ร่องรอยที่พอใกล้เคียงได้ก็คือ มีการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม  พ.ศ.2473  ซึ่งครั้งนั้นไหวอย่างมากจนพระเจดีย์มุเตา ที่เมืองพะโค รัฐมอญ พังถล่มลงมาแทบหมด และไม่ทราบข้อมูลในด้านความเสียหายทางชีวิตและทรัพย์สิน ระยะเวลาห่างกัน 78  ปีโดยประมาณ  จะอ้างว่าเข้าวงรอบคัลลิปุส ( Kallipus ) จันทร์โคจร 940 รอบหรือ 76 ปีนั้น ก็ไม่ได้เพราะเกินมาถึง 2 ปี

            เมื่อวงรอบไม่เข้าก็ต้องมาพิจารณาดูจากการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ที่พาดผ่านพื้นที่ดังกล่าวที่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งก็คือ สุริยคราสเต็มดวงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2538 ทีพาดผ่านทั้งไทยและพม่า

ดวงสุริยุปราคาที่พาดผ่านพื้นที่ทวีปเอเชียตะวันออก

                                                                                                    ภาพดวงสุริยคราสย่างกุ้ง

สุริยปราคาชุดเดียวกันแต่เกิดที่ประเทศไทย