แกะรอยสุริยุปราคากับหายนะภัยของมนุษย์ชาติ
ตามกรรมวิธีทางโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
ตามคัมภีร์และปูมโหรซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบนท้องฟ้าสำคัญๆ นอกจากการระบุตำแหน่งดวงดาวและจักราศีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ เรื่องของอุปราคา ไม่ว่าจะเป็น สุริยุปราคาและจันทรุปราคา การที่ได้จดบันทึกและสามารถที่จะสร้างองค์ความรู้จนพยากรณ์ได้ล่วงหน้า ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดเมื่อไหร่และชนิดไหนนั้น ก็มีการจดบันทึกถึงเหตุการณ์ต่างบนพื้นโลกเอาไว้ด้วย ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาบ้าง และที่สำคัญที่สุดก็คือ เรื่องของภัยพิบัติต่างขนาดใหญ่และรุนแรงซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน ซึ่งผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์หรือที่มักจะเรียกกันว่าโหรนั้น ก็เลยแสวงหาหลักเกณฑ์และเทคนิคกรรมวิธีต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในการพยากรณ์หาแนวโน้มที่ท้องฟ้าบ่งบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะเกิดขึ้นเมื่อใดข้างหน้าโดยหาแกะจากข้อมูลที่จดบันทึกไว้ในอดีต เพื่อหาทางป้องกันระวังเมื่อเวลาที่คำนวณได้ว่าท้องฟ้าชี้บ่งว่าจะเกิดเหตุการณ์จาก ภัยพิบัติ นั้นๆ ให้เตรียมตัวทัน
ในทางวิทยาศาสตร์ก็มีการศึกษาเกี่ยวกับการระวังป้องกันภัยในหลายสาขา แต่สิ่งหนึ่งซึ่งองค์ความรู้ของการศึกษาของยุคปัจจุบันยังพยากรณ์ไม่ได้แน่นอนคือ ปรากฏการณ์แผ่นดินไหว
บทความนี้จะกล่าวเฉพาะถึง การแกะรอยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และมหาวาตภัยขนาดใหญ่ที่ทำให้ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนไปอย่างมากมายว่า การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงแต่ละครั้งๆในพื้นที่นั้นๆ มีผลสืบเนื่องมาถึงเหตุการณ์ของภัยพิบัตินั้นๆอย่างไรบ้างในกระบวนการกรรมวิธีทางวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนยุคปัจจุบัน
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080630-185635.gif)
สุริยุปราคา - อินโดนีเซียสุมาตรา
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-081416.gif)
ภาพดวงสุริยุปราคาที่เกาะสุมาตรา- อินโดนีเซีย
ณ เวลาที่เกิดสุริยุปราคานั้น ที่นครบันดาราอาเจะห์ ของสุมาตรา ภาพดวงนี้ดีหรือไม่ดีนั้น ให้พิจารณาดูที่ดาวพฤหัส ซึ่งในดวงนี้ พฤหัสประธานของศุภเคราะห์นั้น ถูกมฤตยูบาปเคราะห์ทำมุมแรง 45 ถึง ทำให้พฤหัสรวนเร ดังนั้นภาพรวมของดวงนี้โดยองค์รวมย่อมไม่ดี
นอกจากนี้แล้ว
1. พลูโต รื้อแล้วสร้างใหม่ ทำมุมอริ 150 องศา กับเมอริเดียน
2. ศุกร์ตนุลัคน์ โดนมฤตยูเล็งใส่
3. จุดสุริยุปราคาเอง อาทิตย์+จันทร์ โดนดัชนีพระเจ้า ( Yod )จากมฤตยูและพฤหัส จิ้มใส่
4. อังคารโดนเนปจูนเล็ง ละเสาร์ทำมุมฉาก 90 องศา( มุมร้าย ) ใส่
5. ศูนย์รังสี มฤตยู/แอตเมตอส = จุดแผ่นดินไหว = เมษ ( แกนโลก ) ทับ วัลคานุสสะท้อน ( รุนแรงมาก )
= มฤตยู+ซีอุส-อังคาร = ระเบิดรุนแรง = ลัคนา+เสาร์-เมษ = การจากไปของผู้คนทั้งหลายในสถานที่นั้น!!
เรียกว่าแกะตามนี้จะหาดีไม่ได้เชียว สำหรับลัคนาสถานที่นั้น
ไล่แกะเวลาจะเกิดเหตุจาก วงรอบพระจันทร์ นับจากวันที่เกิดสุริยุปราคา ในวันจันทร์ทำมุม 45 กับอาทิตย์พอดี ( Crescent ) หรือที่เรียกว่า จันทร์เสี้ยวข้างขึ้น ตรงกับวันที่ 28 สิงหาคม 2002 เวลา 6.17 น. ซึ่งกินระยะเวลา ไปถึง 7 ตุลาคม 2006 เวลา 6.07 น. ( First Quater) หรือที่เรียกกันว่า จันทร์ครึ่งซีกข้างขึ้น ลองเปรียบเทียบ ภาพดวง 2 ภาพ จะเห็นว่า ภาพจันทร์เสี้ยวจะร้ายแรงกว่า
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-083849.gif)
ดวงจันทร์ภาค Crescent จันทร์เสี้ยวข้างขึ้น
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-084142.gif)
ภาพดวงจันทร์ครึ่งซีกข้างขึ้น
จากการพิจารณาดวงจันทร์เสี้ยวข้างขึ้น จะเห็นว่า
1. มฤตยูเป็นมรณะ กับเมอริเดียนสนิทองศา
2. เสาร์ทำมุมฉากร้ายแรงกับอังคาร และเสาร์ยังทำมุมถึงลัคนาด้วย
ซึ่ง ถ้าเปรียบเทียบความร้ายแรงนั้น ภาพดวงของ จันทร์ครึ่งซีกข้างขั้นนั้น แทบจะไม่มีมุมสัมพันธ์ของดาวร้ายบาปเคราะห์
ซึ่งจะพออนุมาณได้ว่า เหตุการณ์ร้ายจะต้องเกิดในช่วง ระหว่างปี 2002 ไม่เกิน 2006 !!!
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-104326.gif)
ภาพ ดวงทินวรรษ 2003
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-201130.gif)
ภาพดวงทินวรรษ ปี 2004
ที่ไม่น่าจะแรงพอให้เกิดเพราะ ดวงทินวรรษ นี้ พฤหัสศุภเคราะห์ กุม อาทิตย์ทินวรรษสนิทองศาพอดี
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-201435.gif)
ในดวงทินวรรษปี 2004 ตรงกับวันที่ 21 สิงหาคม 2004 เวลา 19.59 น.นั้น
1. จันทร์ ( ประชาชน )ทินวรรษ เล็ง 180 องศากับเสาร์ บาปเคราะห์ของดวงสุริยคราส เกือบสนิทองศา
2. ศุกร์ ตนุลัคน์ ของดวงสุริยคราส ก็ถูก เนปจูน ทินวรรษ เล็งใส่ ทำให้ตนุลัคน์ถูกเบียนอย่างหนัก
3. อาทิตย์ทินวรรษเองก็โดนก็เป็นอริ( มุม 150 )กับเนปจูนสุริยคราส
4. อังคารทินวรรษก็โดน มฤตยูสุริยคราส เป็นอริ ( มุม 150 ) = เกิดเหตุการณ์แบบฉับพลันที่เป็นโทษ
ดังนั้นควรจะสรุปพอได้ว่า ต้องจับตาดูเหตุการณ์ในปี 2004 เป็นพิเศษ เพราะน่าจะแปลว่า ดวงปีนี้ น่าจะให้โทษกับประชาชนเสียหายอย่างฉับพลันทันที
ทีนี้เมื่อเจาะจงช่วงเวลาได้ ว่า จากปีไหนถึงปีไหน จนพอจะรู้ปีที่จะเกิดเหตุการณ์ได้ว่าปีนี้ 2004 แน่ ก็ต้องมาพิจารณาดูว่า เดือนไหนจะเกิดเหตุ ซึ่งก็มีวิธีการมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดวงจันทร์ทินวรรษ ( Lunar Return ) , ดวงจันทร์อมาวสี ( New Moon ) และ ดวงจันทร์ยกเข้าราศีมังกร เป็นต้น ซึ่ง 3 ทั้ง 3 แบบเป็นที่นิยมใช้ในวงการโหราศาสตร์สากลในการหาเดือนที่เกิดเหตุ
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-202700.gif)
ดวงจันทรวรรษเดือน ธันวาคม 2004 ตรงกับวันที่ 4 เวลา 3.39 น.
ในดวงจันทรวรรษ ของเดือน ธันวาคม 2004 นั้น วิเคราะห์ได้ดังนี้
1. เสาร์บาปเคราะห์ กับ วัลคานุส บีบประชิดเมอริเดียน สนิทองศา ทำให้เรื่องร้ายอย่างรุนแรงเป็นประเด็นเด่นของภาพ โดยมีมฤตยูทำมุมถึง 160 องศาหลัง
2. จันทร์ทินวรรษเองซึ่งก็เป็นเจ้าเรือนเมอริเดียนเองซะด้วยดันไปทำมุมแรง 45 องศา (อุปสรรค) กับพฤหัสศุภเคราะห์ ทำให้ปลอดโชคช่วยไปเลย
3. อังคารทำมุมฉากร้ายกับเนปจูนบาปเคราะห์ซ้ำอีก
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-205327.gif)
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-230553.gif)
ให้แปลยังไงรูปการณ์ก็ออกมาว่าร้ายอย่างแน่นอนในช่วงเดือนธันวา 2004 นี้
![](http://www.astroclassical.com/images/1214826471/SP32-20080701-233405.gif)
ภาพดวง ณ วันที่เกิดสึนามิ 26 ธันวาคม 2004
วันที่เกิดนั้นคือวันที่ 26 ธันวาคม 2004 เวลา 7.58 น.
1. เมษวี1 = เมอริเดียน =เวลานี้ = ลัคนา = สถานที่นี้ = ราหู/มฤตยู = เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน
2. อาทิตย์วี1 = วัลคานุส (รุนแรง ) = พลูโต ( รื้อสร้างใหม่ ) = อาพอลลอน ( ในวงกว้าง )
3. อาทิตย์วี1 ครึ่งโค้ง = เสาร์สะท้อน (พลัดพราก,ตาย )= ฮาเดส สะท้อน( เสียหาย ) = เสาร์/ฮาเดส ( สูญเสีย ) = ฮาเดส/โปไซดอน ( เสียหายจากน้ำทะเล ) = ซีอุส/วัลคานุส ( พลังงานตามธรรมชาติ )
** โปไซดอน = ชื่อของสมุทรเทพหรือจ้าวสมุทรในเทพนิยายกรีก
สันนิฐานความหมายดาวของ คลื่นสึนามิว่า มฤตยู/โปไซดอน เพราะ วันที่เกิดเหตุเวลา เที่ยงจริงนั้น มฤตยู/โปไซดอนนี้ ทับอาทิตย์ วันนั้น พอดิบพอดี = เมอริเดียนสะท้อน = ลัคนาสะท้อน
มิหนำซ้ำ เจ้าจุดสึนามินี้ ยังไปเล็งกับ เมอริเดียน = ลัคนา = มฤตยูสะท้อน = แอตเมตอส (ความตาย ) ของดวงสุริยคราสซะด้วย