ReadyPlanet.com
dot
dot
เนื้อหาสาระ
dot
bulletเจตนารมณ์
bulletจากใจผู้จัดทำ
bulletส่องฟ้าฝ่ากระแสดาว
dot
ภาควิชาการ
dot
bulletสากลยูเรเนียนสัมพันธ์
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม1
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม 2
dot
บทความน่าอ่าน
dot
bulletคานทองนิเวศม์
bulletดวงเมียน้อย
bulletรสนิยมรักกับดวงชะตา
bulletอาจารย์ขา!แฟนหนูเป็นเกย์?!
bulletเรื่องอย่างว่า!!เอ๊ะยังไงกัน?
bulletเมื่อไหร่จะขายออกซะที?
bulletใครเอ่ย?เนื้อคู่คุณ..
bulletจุดรับเงินคุณเป็นอย่างไร?
bulletจุดล้มละลาย
bulletเพ่งดวงลูกน้อง
bulletเบอร์ฮัลโหลกับโหราศาสตร์
bulletเมื่อไหร่จะถูกหวย??
bulletงานสมพงษ์
bulletปั้นดินให้เป็นดาว
bulletถูกดองตำแหน่งหรือแป๊กขั้น
bulletทำอย่างไรให้ขายดี!!
bulletวิ่งให้ถูกเส้น ทำอย่างไร?
bulletจับงานใหญ่ต้องใช้ฤกษ์
bulletเอาฤกษ์เอาชัย
bulletลางสังหรณ์พารวย
bulletดวงผิดเพศ
bulletสัมผัสที่ 6
bulletคนเห็นผี
bulletคนตกยุค
bulletดวงดาวกับปัญหาสายตา
bulletศัลยกรรมใบหน้ากับโหราฯ
bulletต้นไม้เสี่ยงทาย
bulletสะเดาะเคราะห์ทำได้จริงหรือ?
bulletเทียนอาถรรพณ์
bulletพระเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
bulletบทความ อจ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletมุมสัมพันธ์ระหว่างดาว
bulletเรือนชะตาจันทร์
bulletดาวไร้สัมพันธ์
bulletเว็บไซด์โหราฯ ที่น่าสนใจ
bulletธุรกิจ " หมอดู "
bulletตรวจสุขภาพด้วยโหราฯ
bulletกลุ่มโหราพารวย
bulletกลุ่มโหราหารัก
bulletกลุ่มโหราพารุ่ง
bulletโหราพาสนุก
bulletกลุ่มโหราพาสยอง
bulletกลุ่มโหราอาถรรพณเวทย์
bulletกลุ่มโหราสุขภาพ
bulletอาลัยพี่กุ้ง " กิตติคุณ เชียรสงค์ "
bulletกลุ่มสืบจากดวง
bulletกลุ่มโหราพยากรณ์
bulletกิจกรรมโหรา ' Sky Clock '
bulletท่านปัญญานันทะ
bulletอาลัยอาปื้ด ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
bulletจิ๊กซอร์ของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletสะเดาะเคราะห์แก้อาการเซ็ง
bulletสืบจากศพ..ทำไมถึงตาย
bulletอุตุโหราฯ
bulletไซโคลนนากรีส
bulletรอยสักสยองขวัญ
bulletบทความ "ระวังยูเรเนียน " ..โดย จรัญ พิกุล
bulletจังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ
bulletพายุเฮอริเคน IKE
bulletอาลัยท่าน Udo Rudolph
bulletเสน่ห์มหานิยมจากริงโทนรอสาย
bulletรสนิยมเรื่องอย่างว่ากับอาหารการกิน
bulletเรื่องของไฝกับไอ้นั่น
bulletเรื่องของ ขน โลมา และอารมณ์
bulletยาโป๊วกับโหราศาสตร์
bulletของแสลงผิดสำแดงอารมณ์เพศ
bulletอาลัยพญาอินทรีแห่งวงการน้ำหมึก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
bulletสะดือกับการพยากรณ์
bulletกรณีศึกษาการกลับชาติมาเกิด
bulletสยามยามวิกฤติ ตอนที่ 1
bulletรุจน์ รณภพ ดาราเจ้าบทบาท
bulletโหราจารย์มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล ... ดวงครูที่น่าศึกษา
bullet...
bulletอีรีส (Eris )เทพเจ้าแห่งความขัดแย้งวุ่นวาย
bullet หลักวิธีการแก้กรรมในระบบโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bullet100 ปี พระพุทธเจ้าหลวงกับดาวหางฮัลเลย์
bulletโหราสาธยาย
bulletโหราศาสตร์คืออะไร
bulletสารบัญ
bulletประวัติและความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์
bulletปรัชญาในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์
bulletจุดลากรองจ์ (Lagrange Point )
bulletการหาเวลาเกิด ตำรับโหรจรัญ พิกุล
bulletAnalemma อาถรรพณ์แห่งเส้นสุริยวิถีกับโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletหลักสูตรโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนระบบจานสองชั้น 80 ชั่วโมง




พระเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
 

                                 เกตุดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
                                                             โดย  ภารต  ถิ่นคำ

                  ในการศึกษาโหราศาสตร์ในระบบต่างๆนั้น จะมีจุดร่วมกันในเรื่องดาวเคราะห์ และจักรราศี ไม่ว่าจะเป็นระบบราศีคงที่ ที่เราเรียกว่า ระบบนิรายณะ เช่นโหราศาสตร์ไทย และอินเดีย และระบบราศีเคลื่อนที่ ซึ่งเรียกกันว่า ระบบสายนะ ซึ่งใช้กันในโลกตะวันตกซึ่งต่อมาเราเรียกระบบนี้ว่า โหราศาสตร์สากล ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้มีค่าต่างกัน เรียกว่า อายนางศะ ซึ่งค่านี้เปลี่ยนแปลงไปแต่ละปี ปัจจุบัน มีค่าอยู่ประมาณ 23 องศาเศษ

                   ในวิชาโหราศาสตร์สากลเอง มีดาวอยู่ดวงหนึ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดอุปราคา หรือจุดคราส ซึ่งเรียกกันในภาษาโหราศาสตร์ว่า ราหู ซึ่ง ความจริงแล้ว มิใช่เป็นดาวแต่เป็นปัจจัยทางดาราศาสตร์ มีปรากฏการณ์ ให้เห็นเมื่อมีฉากมาบังเช่น แสงอาทิตย์ผ่านมาโลกโดยมีดวงจันทร์มาบัง และมีโลกเป็นจอรับเงานั้น และมีทั้งจันทรุปราคา และสุริยุปราคา

                    พอพ้นระยะเวลาที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก อยู่ในแนวระนาบเดียวกันแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะเห็นได้ ปัจจัยในทางดาราศาสตร์นี้ โหราศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ร่วมกันกับดาราศาสตร์ ก็นำปรากฏการณ์นี้ มาใช้อย่างกลมกลืน

                    วิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียน ก็เป็นสาขาหนึ่งของโหราศาสตร์สากล นอกจากจะแตกต่างกันในเชิงการใช้ จุดสะท้อน และ ศูนย์รังสีดาวแล้ว จุดเด่นอีกประการหนึ่งคือ มีการใช้ดาวทิพย์ ในการพยากรณ์ ดาวทิพย์ที่ว่า มีทั้งหมด 8 ดวง ได้แก่ คิวปิโด ฮาเดส ซีอุส โครโนส อาพอลลอน แอตเมตอส วัลคานุส และโปไซดอน
   
                    ดาวทิพย์ดังกล่าว ยังไม่มีรายงานอย่างแท้จริง ทางดาราศาสตร์อย่างเป็นทางการว่าค้นพบแล้วหรือมีอยู่จริง แต่เป็นการค้นพบปัจจัยที่มีอิทธิพลในทางโหราศาสตร์ ซึ่งเห็นได้ชัด จนสามารถคำนวณทำเป็นวงโคจร ซึ่งมีอัตราการโคจรที่แน่นอน ซึ่งดาวทิพย์ดังกล่าวค้นพบโดยปรมาจารย์ยูเรเนียนชาวเยอรมัน Alfred Witte และ คณะสานุศิษย์

                    ปัจจัยทางดาราศาสตร์ซึ่งยังไม่มีตัวตนในทางฟิสิกส์ แต่มีปรากฏการณ์แสดงอิทธิพลให้ผลรุนแรงเป็นที่ประจักษ์ชัด จึงเป็นที่มาของปัจจัย ในการนำมาใช้ในการพยากรณ์ได้ทั้งสิ้นและจากสถิติก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ

                   มีปัจจัยที่เรียกว่าคราส หรือ ราหูนั้น ในโหราศาสตร์สากล ก็มีจุดซึ่งถือเป็นปัจจัยที่อยู่ตรงกันข้าม 180 องศาของราหู เรียกกันในภาษาไทยว่า เกตุ ภาษาอังกฤษ ราหู ใช้ Node ส่วนเกตุในที่นี้เรียกว่า เกตุสากลหรือ AntiNode

                  ปัจจัยทางโหราศาสตร์ที่กล่าวเกริ่นมาแต่ต้นนั้น เป็นการค้นพบโดย ชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะทางประเทศทางแถบทวีปยุโรป และวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียนที่ค้นพบโดยชาวเยอรมัน

                  แต่ยังมีปัจจัยอีกตัวหนึ่ง ที่ใช้กันเฉพาะในโหราศาสตร์ไทย ชื่อเดียวกันและมีที่มาจากคราสราหูเดียวกันกับโหราศาสตร์สากล เพียงแต่มีวิธีคิดที่ต่างกัน เพียงเฉพาะมีปรัชญาในการค้นพบอย่างเดียวกัน คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในคาบเวลาที่คงที่  ใช้ในการคำนวณหาอนุกรมการเกิดปรากฏการณ์อุปราคาเช่นเดียวกัน แต่ล้ำลึกซับซ้อนกว่า อีกทั้งให้ผลในการพยากรณ์ที่รุนแรงกว่าของสากล เรียกว่า ค้นพบจากวิธีการทางคณิตศาสตร์ย้อนหลังไปเมื่อ เกือบ 200 ปีก่อน

                  เพื่อใช้คำนวณเพื่อทบทวนจุดคราส จากอนุกรมดาราศาสตร์ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์แห่งโลกตะวันตก โดยการใช้วิชาคำนวณของชาวเอเซีย ท้าทายภูมิปัญญา แห่งมหาอำนาจตะวันตก มีผลเป็นที่ประจักษ์ชัดตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งแสดงออกเป็นที่ประจักษ์ โดยพระปรีชาญาณของพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสยาม พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฏ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

                 พระองค์ทรงค้นพบและบัญญัติ เกตุไทย ซึ่งเป็น ดาวทิพย์ทางโหราศาสตร์ แห่งสยามประเทศ ซึ่งแตกต่างจากเกตุฝรั่ง ทั้งวิธีการคิดคำนวณและพยากรณ์ ในทางคำนวณนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดในทางดาราศาสตร์เรื่อง สุริยุปราคา ที่หว้ากอ เพียงแต่ว่าพระองค์ทรงสวรรคต หลังจากนั้นไม่นาน แต่ก็ทรงทิ้งร่องรอยการคำนวณนี้ไว้ให้ใช้ในปฏิทินโหราศาสตร์หลวง เพื่อให้อนุชนเหล่าโหรานุโหรรุ่นหลังเป็นมรดกทางวิชาการให้ค้นคว้าสืบมา

                  แต่นักโหราศาสตร์ที่เรียนโหราศาสตร์สากลหรือแม้แต่โหราศาสตร์ไทยเอง ปัจจุบันก็แทบจะใช้ เกตุพยากรณ์อย่างไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน หรือยังไม่ครบถ้วนในทางปรัชญาทั้งที่มาและข้อมูลทางดาราศาสตร์ ยิ่งนักโหราศาสตร์สากลหรือยูเรเนียนด้วยแล้ว ก็ไม่รู้จักเมื่อไม่รู้จักก็ไม่ได้นำมาใช้ทำให้เสียโอกาสในการใช้เป็นปัจจัยในการพยากรณ์ในบางเรื่องตามคุณสมบัติของเกตุไทยที่ลึกซึ้งอย่างน่าเสียดาย เพราะบางท่านรู้จัก และใช้ดาวจันทร์กาฬ หรือ Lilith มากกว่า เกตุไทย ด้วยซ้ำไป

                   บทความนี้ผู้เขียนมิได้ มีจุดมุ่งหมายทางชาตินิยม หลงแต่ของตนดีโดยมิได้พิจารณาทางวิทยาการสากลแต่อย่างใดไม่ เพียงแต่อยากจะอธิบายสานต่อภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ให้กลับมาเป็นที่ประจักษ์ชัดในยุคปัจจุบัน  ให้ได้ทราบถึง การค้นพบที่ร่วมสมัย มีการสานต่อทางภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น มิให้ขาดตอน พัฒนาวิชาการเพื่อเป็นมรดกร่วมสมัยทางภูมิปัญญา ว่าคนไทย ก็มีความสามารถค้นพบ ดาวทิพย์ทางโหราศาสตร์ของดาวเคราะห์รอบใน คือ เกตุไทย ขณะที่ ฝรั่งชาวเยอรมัน ค้นพบ ดาวทิพย์รอบนอก คือ ดาวทิพย์ทั้ง 8 ของยูเรเนียน

                    เราเองก็ไม่อาจจะสันนิฐานว่าพระองค์ทรงศึกษาเรื่องการคำนวณอุปราคามาจากไหน เพราะข้อมูลประวัติศาสตร์ทางด้านนี้มิได้บ่งชัดแจ้ง ได้แต่สันนิฐานจากพระราชประวัติว่า พระองค์คงศึกษามาตั้งแต่ยังทรงผนวช ในรัชสมัยของสมเด็จพระเชษฐาธิราช รัชกาลที่ 3 จากพวกหมอสอนศาสนา เช่นประมุขมิซซัง ปาเลอกัวร์ หรือ หมอสอนศาสนา ฝ่ายโปรเตสแตนท์ มีหลักฐานเรื่อง หอสมุดดาราศาสตร์ และหอดูดาว ที่พระนครคีรี เขาวัง จังหวัดเพชรบุรี พระองค์ทรงมีตำรับตำราทางดาราศาสตร์อยู่มาก อีกทั้งทรงทราบถึงวิชาการคำนวณทางคัมภีร์สุริยยาตร์ จากพวกกรมโหร อย่างแตกฉานถึงเหล่าที่มาของเลขเกณฑ์ ทั้งหลาย

                  ในทางตำรับตำราดาราศาสตร์ของฝรั่งสมัยนั้น มักจะกำหนดวงรอบของอนุกรมอุปราคา หรือราหูกุมอาทิตย์ เรียกกันว่า จักราศีวัฏจักรซารอส ( Saros ) ซึ่งก็คือ ตำแหน่งราหูในจักราศีที่เกิดปรากฏการณ์ สุริยุปราคาสำคัญๆ ในแต่ละครั้ง ภายในวัฏจักรซารอส หนึ่งๆ มีระยะเวลา 6,585.31934 วัน หรือ 18 ปี 11 เศษ  1/3 วัน ซึ่งในแต่ละต้นวัฏจักรซารอสใหม่ มีระยะเชิงมุมต่างกัน ประมาณ 11 องศา และครบรอบจักราศี 360 องศา ประมาณ 33 วัฏจักรซารอส หรือประมาณ 595 ปี

                  ราหูกับอาทิตย์ จะกุมกันทุกรอบ 344 วัน ที่เรียกกันว่า คราสอาทิตย์

                  เกตุ โคจร 1 รอบจักราศี 679 วัน เร็วกว่า ราหู 10 เท่า

                  อัตราดังกล่าวเมื่อเทียบกับ จันทร์ ในระบบเก่าแบบไทยเดิม จันทร์โคจรครบ 1 นักษัตร จะทำให้เกตุ โคจรไปได้ 1 นักษัตร  หรือ เกตุ เดินได้ 56 วัน เท่ากับราหู เดินได้ 567 วัน

                  มีการสังเกตว่า ณ จุดที่ ราหูและเกตุ กุมกันสนิทนั้น ในจักราศีใดราศีหนึ่งก็ตาม

                 นับจากนั้นไป  753 วัน เกตุและราหูจะมากุมกันอีกครั้งหนึ่ง  ห่างจากจุดเดิมไป 40 องศา หรือ 1 ราศี 10 องศา ย้อนจักราศี และการกุมกันของเกตุและราหูในแต่ละครั้งนั้น  ถ้าสังเกตจากตำแหน่งของ อาทิตย์ จะเห็นได้ว่า อาทิตย์จะเคลื่อนที่ ออกจากตำแหน่งเดิมไป 24 องศา ในอัตราที่คงที่

                 นอกจากนี้  ภายในรอบ 6 ปี ราหูกุมเกตุ ทุกๆรอบ 6 ปี จุดนี้จะอยู่ในราศี ธาตุไฟ อันได้แก่ เมษ สิงห์ และธนู

                 ตามคัมภีร์สุริยยาตร์ การหาว่าเกตุมีตำแหน่งสมผุสเท่าใดนั้น ต้องหาจาก มัธยมเกตุ ซึ่งกำหนดค่ามาจาก ตั้งหรคุณเถลิงศก บวก กับสุรทิน ได้ลัพธ์ออกมาเป็น หรคุณประสงค์ แล้วเอา 344 ลบ ได้เท่าใดเอา 679 หาร เศษเป็น พลพระเกตุ

                 ตั้งพลพระเกตุลง เอา 12 คูณ แล้วเอา 679 หาร ได้ผลลัพ์เป็นราศี เศษ นั้นเอา 30 คูณ เอา 679 หาร ลัพธ์ที่ได้เป็นองศา เศษเอา 60 คูณ เอา 679 หาร ลัพธ์เป็น ลิบดา ..ผลลัพธ์ที่ได้..เรียกว่า มัธยมพระเกตุ

                 ให้ตั้ง 360 องศา หรือ 12 ราศี หรือกระจายออกมาเป็น 11 ราศี 29 องศา 60 ลิบดาลง เอา ค่ามัธยมเกตุที่ได้ดังกล่าวมาลบ เหลือเศษ เท่าใด เป็นค่าของสมผุส พระเกตุ...ออกมาเป็น ราศี องศา ลิบดา ถ้าเราปรับเอาค่า อายนางศ์ มาบวก ก็จะได้ค่าของเกตุ ในระบบโหราศาสตร์สากล

                  เป็นที่น่าสังเกตว่า ตัวเลขคงที่ ที่นำมาคำนวณหาเกตุนั้น ก็คือตัวเลขที่นำมาจากการสังเกตของฝ่ายดาราศาสตร์ทั้งสิ้น  มิใช่ตัวเลขที่ไม่มีที่มาที่ไปไม่  แสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางดาราศาสตร์การคำนวณที่ทรงประยุกต์ทั้งฝ่ายคัมภีร์ไทยและตำราฝรั่งอย่างแตกฉานถ่องแท้ ชนิดบังคับได้ใช้เป็น !!

                  ดวงไทยนับแต่โบราณมา มี ดาวแค่ 8 ตัวรวมราหู แต่นับจากในรัชสมัยของพระองค์ ทรงนำเอาดาวเกตุ และมฤตยูหรือยูเรนัส ดาวเคราะห์ดวงใหม่ ที่ค้นพบในยุคร่วมรัชสมัยของพระองค์  เข้ามาใช้อย่างกลมกลืน จึงถือว่าเป็น นวัตกรรมใหม่ ทางโหราศาสตร์ไทย สมกับที่เป็นหนึ่งในพระบรมครูในทางโหราศาสตร์ไทย เช่นเดียวกับ พญาลิไท พระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัยผู้ตัดศักราชเกณฑ์เลข สรุปอัปป์  และสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ผู้ทรงชำระคัมภีร์ทักษาพยากรณ์ ออกมาเป็นบทพระนิพนธ์วรรณกรรมเรื่อง ลิลิตทักษาพยากรณ์ ซึ่งทั้ง 3 พระองค์ โหรรุ่นต่อมาได้ใส่พระนามไว้ให้มีอยู่ในโองการไหว้ครูโหรของไทย

                 ในการนำไปใช้ในการพยากรณ์ เนื่องจากเกตุ เกี่ยวข้องกับการคำนวณอุปราคา คือ อาทิตย์ จันทร์ ราหู และคงที่ในราศีธาตุไฟ เกตุ จึงมีค่าในทางปรัชญาโหราศาสตร์ เกี่ยวกับธาตุไฟ แต่เนื่องจากเกตุลึกลับ ยิ่งกว่าราหูเพราะ ราหูยังเห็นได้ว่ามีตามอนุกรมเวลาเมื่อมาปรากฏในดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ ให้เห็น แต่เกตุ มิใช่

                 ดังนั้นเกตุจึงเป็นเป็นอรูป ซึ่งนับเป็นวิญญาณธาตุ มีอยู่จริง แสดงผลได้ แต่ไม่ปรากฏตัว มีคุณสมบัติทาง ร้อนใน ไฟแรง ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ ไหวพริบ ปฏิภาณ ความทรงจำชั้นเลิศ ซึ่งเป็นคุณสมบัติฝ่ายดี

                 ส่วนในฝ่ายร้ายนั้น ได้แก่ วิตถาร ตกยุค งมงาย ขวางโลก มิจฉาทิฏฐิ  ไสยศาสตร์ การหลอกลวง ประสบการณ์พิศดาร  ของแปลก  ของมีตำหนิ ฯลฯ

                 ตัวแปรอีกตัวหนึ่ง คือ ดาวที่ส่งผลให้เกตุ แสดงออกทางการแปรปรวน จุดนี้คือ พระเคราะห์ดวงใน คือ พุธ และศุกร์ เนื่องจากอยู่ใกล้ อาทิตย์ มีอัตราการโคจรที่บังคับองศา ของระยะห่างจากดวงอาทิตย์ จึงมีผลต่อการแสดงตัวของเกตุ ซึ่งไปช่วย ราหู จับอุปราคา

                ท่านปรมาจารย์โหราศาสตร์ไทยอีกผู้หนึ่งคือ ท่านพลูหลวง ได้เคยเขียนเอาไว้เกี่ยวกับเกตุไทย ว่ามีผลต่อดาวพุธในเชิงคู่ศตรู ทีเดียว โดยท่านสังเกตว่าดาวพุธจรกุมเกตุของเจ้าชะตา จะทำให้ หลงทาง เดือดร้อนใจ ประสบกับอุปสรรค ในเรื่องความหลงลืม อย่างชนิดไม่รู้ตัว ทำให้ความสามารถของพุธสูญเสีย อย่างไม่คาดคิด เกิดความประทับใจกับประสบการณ์นั้นอย่างยากที่จะลืม

                นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการพยากรณ์ที่นำดาวเกตุ มาประยุกต์ใช้ในโหราศาสตร์สากล และยูเรเนียน ที่ผู้เขียนแอบนำมาศึกษาใช้เป็นการส่วนตัว ซึ่งให้ผลลัพธ์ เป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ซึ่งคงจะมีโอกาสนำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจทราบต่อไป เพื่อความก้าวหน้าทางด้านวิทยาการด้านการศึกษาโหราศาสตร์ของคนไทย สืบไป

                เรื่องของเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม น่าจะจุดประกายให้ผู้ที่สนใจค้นคว้าโหราศาสตร์ไม่จำกัดอยู่ฝ่ายใด ให้ได้ค้นคว้าต่อ เนื่องจากผู้เขียนเห็นว่า ไม่ควรมองข้ามเกี่ยวกับที่มา และสามารถใช้คุณสมบัติที่สำคัญหลายๆประการของเกตุ ซึ่งเป็นผลงานภูมิปัญญา เกี่ยวกับดาวทิพย์แห่งโหรสยาม ให้โลกได้รับรู้ถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยต่อไป

                  ( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )







Copyright © 2010 All Rights Reserved.