เทียนอาถรรพณ์
ประเพณีโบราณทางล้านนา การรับขวัญ สืบชะตา เป็นพิธีกรรมทางจารีตที่สืบสานตำนานมากว่าพันปี ตั้งแต่อาณาจักรหริภุญชัย เริ่มตั้งแต่พระแม่เจ้าจามเทวี ปฐมราชวงศ์ เรื่อยลงมาจนถึงราชวงศ์เม็งราย ราชวงศ์เมกุฎ มาจนถึง ราชวงศ์กาวิละ เจ้าเจ็ดตนจวบจนปัจจุบัน ท่านผู้อ่านหลายท่านอาจจะมีประสบการณ์ เคยถูกผูกข้อมือรับขวัญ โดยด้ายสายสิญจ์จากผู้เฒ่าผู้แก่หรือพระครูบาอาจารย์เวลามางานบุญ ทอดกฐิน ผ้าป่า ปอยหลวง ตามวัดต่างๆของหัวเมืองฝ่ายเหนือ
ผู้เขียนเป็นชาวกรุงเทพที่มามีครอบครัวอยู่ที่เชียงใหม่ อีกทั้งสนใจเรื่องพวกนี้เพราะเรียนโหราศาสตร์และไสยศาสตร์มาหลายรูปแบบ เรื่องอาถรรพณ์แรกที่จะเล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนสมัยหนึ่ง ดูดวงตนเองว่าจะมีเคราะห์ร้าย จึงพยายามหาทางระงับเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบหลายต่อหลายอย่าง ทั้งพิธีพระ พิธีโหร และพิธีไสย เพื่อความสบายใจ แต่มีวิธีหนึ่งที่ผู้เขียนได้ไปพบมา หนึ่งในนั้นได้แก่เรื่อง เทียนลดเคราะห์และเทียนสืบชะตา และเทียนรับโชค
เท่าที่เคยพบมาไสยศาสตร์ก็คือไสยศาสตร์จะมาอิงพุทธบ้าง ก็มีรูปแบบเฉพาะตัว แรกเลยก็นึกว่าทำเทียนไส้ชะตาธรรมดา เพราะเห็นมีขายทั่วไปตามวัดใหญ่ๆ ที่มีโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของทางเมืองเหนือ แต่เทียนรูปแบบที่ผู้เขียนเจอนั้นไม่ใช่ !! เพราะไม่ธรรมดา ทั้งรูปแบบ การทำเฉพาะตัว การจุดใช้งาน วัสดุมวลสารในการสร้างที่อิงทั้งพุทธศาสตร์โหราศาสตร์และไสยศาสตร์กลมกลืนกันอย่างแนบแน่น ชนิดหวังผลได้ !! จากประสบการณ์ที่ตรวจสอบให้ได้ผลในการใช้เป็นเวลานานหลายปี ทั้งจากตนเองและสอบถามผู้ที่นำไปลองใช้และมีประสบการณ์ตรง
เริ่มจากมวลสารวัสดุที่สร้างนั้น ซึ่งประกอบไปด้วย ขี้ผึ้งแท้ธรรมชาติ และต้องเป็นผึ้งป่าไม่ใช่ผึ้งเลี้ยงแล้ว ยังต้องมีพิธีการหุงขี้ผึ้ง ตามวันเวลาฤกษ์กำหนด อีกทั้งต้องประกอบด้วยมวลสารศักดิ์สิทธ์ทางอาถรรพณ์ เช่นผงทองคำที่ปิดพระพุทธรูปและพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ น้ำมันหอมโบราณเช่น น้ำมันจันทน์ ร้อยเปอร์เซนต์แท้จากอินเดีย น้ำมันผีพราย น้ำมันจากว่านศักดิ์สิทฺธิ์ ซึ่งใช้เฉพาะจุดประสงค์เช่นเทียนรับโชค สืบชะตา ก็ใช้ว่านทางเสน่ห์มหานิยม เช่น ว่านกระแจะจันทร์ ว่านเสน่ห์จันทร์จากพันธุ์ต่างๆ 7 สี ได้แก่ ขาว เขียว แดง ดำ ทอง โกเมน ด่าง ว่านดินสอฤาษี ว่านช้างประสมโขลง ว่านสาวหลง ว่านเทพรัญจวน ว่านขอทอง ว่านมหาเสน่ห์ และที่สำคัญและหายากอย่างยิ่งคือ ว่านไก่แดง ของแท้จากพม่า มาผสมมาหุงตามสูตร ตามวันฤกษ์เฉพาะ
อีกทั้ง มวลสารอื่นอีกเช่น ขี้ผึ้งบุหน้าศพผีตายโหง ขี้ผึ้งอาถรรพณ์ จากรังที่ดุร้ายเคยปราบถึงขั้นเอาชีวิตกับพรานนักตีผึ้งมาแล้ว รวมทั้งขี้ผึ้งจากรังต่อ แม้แต่ไส้เทียน ยังต้องเท่าอายุของเจ้าของเทียน และต้องมีมวลสารจากเชือกที่เคยมีผู้ผูกคอฆ่าตัวตาย แต่ช่วยไว้ได้ไม่ตายเอามาผสมเข้ากับด้ายซึ่งกรอขึ้นมาจากดอกฝ้ายแท้ ซึ่งมวลสารเหล่านี้ถือเป็นของอาถรรพณ์ในตัวของมันเอง
การมวนเทียนนั้น ต้องมียันต์เจ้าชะตา มีดวงของเจ้าชะตา ทั้งวันเดือนปีเกิด พร้อมชื่อนามสกุล ของเจ้าชะตา โดยมียันต์อักขระตัวเมืองล้อมรอบเป็นพระคาถา ลงจารด้วยมือ มียันต์ครบสูตรตามตำราโบราณ เช่นพระคาถา เกราะเพชร คาถา วิสาขาเรียกลูก อันลึกลับซึ่งถ่ายทอดสืบกันมาเฉพาะสำนัก ซึ่งแตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เมื่อจารเสร็จแล้ว ต้องมีการสอดไส้เทียน ในกระดาษสาที่จารยันต์เฉพาะนั้น จากนั้นผู้สร้างจึงนำมามวนกับสายของขี้ผึ้งพิธี โดยไฟจากเพลิงที่จุดด้วยสุริยเทพ ซึ่งหุงด้วยพิธีตามฤกษ์ คลึงเป็นเส้นด้วยมือขวั้นตามทักขิณาวัตร จากนั้นคลึงด้วยมือบริกรรมจนสำเร็จเป็นแท่งเทียน ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ แล้วถึงลงไส้ปลายเทียนด้วยไขน้ำมันว่านอาถรรพณ์ศักดิ์สิทธิ์ จารอักขระอาคมอักษรล้านนากำกับที่ลำเทียน จากนั้นลงถมด้วยผงอาถรรพณ์ทางไสยศาสตร์กำกับ หลังจากนั้นต้องผ่านการบริกรรมปลุกเสก ถึง 3 คืน จนเสร็จกระบวนการสร้าง ซึ่งเป็นขั้นตอนแรก
ในขั้นตอนการจุด ต้องเลือกจากเวลาเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลที่ใช้ ทั้งเวลาจุด กระบวนการในการจุด ต้องเลือกจากจังหวะท้องฟ้าที่เปิดเฉพาะเรื่องนี้ ของบุคคลคนนี้ ซึ่งต้องใช้วิชาโหราศาสตร์ชั้นสูงคำนวณขึ้นมาเฉพาะบุคคล และจุดประสงค์ของการสร้างเทียนเล่มนั้น
ประสบการณ์ในการใช้งานจึงเห็นผลได้ชัดเจนหลังจุด ชนิด 3 วัน 7 วันทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเทียนลดเคราะห์ รับโชค สืบชะตา ของสำนักนี้ ผู้เขียนเห็นผลมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ชนิดชี้ชะตา พลิกดวงจากหนักหนาสาหัส เป็นเบา ขึ้นมาอย่างตั้งหลักได้ ต่อชะตาต่อชีวิต ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่เจ็บไข้ไม่สบาย ให้ฟื้นตัวได้หลายต่อหลายท่านอย่างแทบไม่น่าเชื่อ
ไม่ว่าจะเป็น พิธีการสร้าง จุดประสงค์ มวลสาร และกระบวนการจุดใช้ มีการผสมผสานศาสตร์และศิลป์ของวิชาหลายแขนง เต็มไปด้วยอิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ พรั่งพร้อมทั้งพลังมนตราและพลังจิตอันเข้มขลัง เฉพาะทางยากที่จะหาใครเลียนแบบได้เหมือน โดยเฉพาะมีการสร้างเฉพาะบุคคลแบบเจาะจง สั่งจองเฉพาะงาน ชนิดทำไม่ได้ไม่รับ ไม่ใช่ของทำแบบผลิตโรงงานเป็นรุ่นๆแบบทั่วไป
โดยปกติผู้เขียนเชื่อเรื่องดวงเชื่อเรื่องกรรม แต่ไม่เชื่อเรื่องการสะเดาะเคราะห์แบบทำบุญแล้วสบายใจ โดยไม่มีเหตุผลที่หนุนหลังเท่าใดนัก แต่กับสำนักที่สร้างเทียนชุดนี้พอไปเรียนไปรู้ไปเห็น ถึงกรรมวิธีการสร้าง ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการหามวลสารซึ่งต้องสั่งสมมาอย่างยาวนานและเป็นระบบ การจัดทำอย่างปราณีตในทุกขั้นตอนการผลิต ตำนานการสืบทอดที่มีมายาวนาน การประยุกต์ศาสตร์ทั้ง 3 ได้อย่างกลมกลืนมีเหตุมีผลเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งยังไม่รวมถึงความสวยงามทางศิลปะที่ทำให้น่าเกรงขามอย่างลงตัว และผลงานที่ประจักษ์ชัดอย่างได้ผลจนเป็นที่น่าประทับใจชวนให้ท้าพิสูจน์ ทำให้เทียนสำนักดังกล่าวเป็นที่โจษจันเล่าขานของสานุศิษย์ถึงสรรพคุณ ไปทั่วและไปไกลถึงต่างประเทศเป็นเวลากว่า 10 ปีทีเดียว
( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )