ยอดชะตาแห่งยุค
ถ้าจะมีการประกวดเพื่อดูกันว่าใครคือยอดชะตาแห่งยุคสมัยนี้ ก็คงจะตอบกันว่าดวงชะตาจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ คือ "ยอดชะตาแห่งยุค" ซึ่งร่ำรวยทั้งเงินทอง ความรัก อิสตรี ร่ำรวยทั้งอำนาจวาสนา และก็ร่ำรวยทั้งคำนินทาและสรรเสริญ อันเป็นธรรมดาของเราคนที่มีทั้งความดีความชั่ว ชะตาของจอมพล ส. จึงเป็นยอดชะตาแห่งความพิลึกกึกกืออันน่าศึกษาสนใจทั้งสามัญชนและนักโหราศาสตร์ อะไรทำให้เขามีชะตาโด่งดังถึงปานนั้น เราจะได้นำมาวิเคราะห์กันต่อไป
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2501 ก่อนการปฏิวัติของยอดชะตาเแห่งยุคเพียง 4 เดือน (20 ต.ค. 2501) ผู้เขียนได้วิจารณ์ชะตาของเขาไว้มีความตอนหนึ่งว่า "ส่วนดวงชะตาจอมพลสฤษดิ์ ก็เป็นดวงชะตาที่ฟ้ากำหนดให้มาเป็นตัวละครของบ้านเมืองอีกแบบหนึ่งในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อกับดวงจอมพล ป. แสดงถึงการรับช่วงให้เข้ามามีบทบาทต่อโชคชะตาเมืองไทยในระยะปัจจุบันนี้เท่านั้น".
"เตือนจอมพลสฤษดิ์ขืนขึ้นเป็นนายกเมื่อใดต้องตายแน่" ...นี่คือพาดหัวของน.ส.พ.ฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2501 อันเนื่องมาจากข้อวิจารณ์ชะตาจอมพลสฤษดิ์ในขณะนั้น (ดูบางกอกไทม์ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย. 2501)
บัดนี้เราก็ทราบกันแล้วว่าจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรมในขณะดำรงตำแหน่งนากรัฐมนตรีเขาตายในตำแหน่งนายก ฯ จริงๆ ข้อเขียนเรื่อง "ยอดชะตาแห่งยุค" จึงไม่ใช่เขียนตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอซ้อมความเข้าใจกันไว้ก่อน ว่าได้มีคำทำนายล่วงหน้าไว้แล้วก่อนที่เขาจะมาเป็นนายกด้วนการปฏิวัติเมื่อเดือนตุลาคม 2501,
ยอดชะตาแห่งยุคเกิดวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2451 ตรงกับค.ศ.1908 ส่วนเวลาเกิดนั้นรู้กันว่าเกิดระหว่างเวลา 23 น. ถึง 2 น. แต่ผู้เขียนเคยทดสอบและใช้เป็นดวงวิจารณ์เมื่อปี 2501 คือเวลา 00.15 น. ของเขาพิลึกพิศดารอย่างไร จะเห็นได้ในรูปดวง ปีค.ศ.1908 เดือนมิถุนายนอันเป็นเดือนที่เขาเกิด มีความพิลึกอย่างไรได้มีบันทึกเหตุการณ์โลกในขณะนั้นว่า "เกิดการระเบิดลึกลับในป่าไซบีเรีย" ต่อมามีผู้วิจารณ์กันว่าอาจจะมีคนจากโลกอื่นมาทิ้งนิวเคลียร์ บ้างก็ว่าดาวหางชนโลก สะเก็ดดาวปะทะโลก แม้จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้แน่นอนว่าเป็นเพราะอะไร? การระเบิดลึกลับนั้นเกิดภายหลังจากวันที่ 16 มิ.ย.เพียง 14 วัน เมื่อยอดชะตาแห่งยุคมีอายุเพียง 14 วัน ก็มีสัญญาณประหลาดประหนึ่งจะบอกว่า ใครคนหนึ่งจะมาเป็นยอดชะตา และแล้วเราก็ได้ยอดชะตาจริงๆ เขาจากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่เบื้องหลังและเบื้องหน้าแห่งชีวิตของเขาจะ "ดัง" ไปอีกนานแสนนาน.
หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไปแล้ว เรื่องราวต่างๆ แต่หนหลังก็ถูกเปิดเผยขึ้น มีคนตั้งชื่อเขาว่านักรักนักรบผู้แกล้วกล้า บ้างก็ว่าเขาคือนายกผู้มั่งคั่ง ชีวิตของเขาประหลาดจากสามัญชนขึ้นมาเป็นผู้ปกครองประเทศ สมัยหนึ่งเขาคือนักกลบหลุมฝังศพ ตอนนั้นเขาเพิ่งย่างวัย 35 ปี สูงสง่าผึ่งผาย นำทหารฝ่าแดนกันดารออกรบที่เมืองเชียงตุง ถูกข้าศึกโจมตีทหารตายกันมาก และทุกครั้งที่นำศพทหารไปฝัง เขาล่ะ จะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่กลบหลุมศพด้วยมือของเขาเอง...นี่คือชีวิตตอนหนึ่งของเขาซึ่งเขาเองก็คาดคิดไม่ถึงเลยว่ามือที่เขากลบหลุมฝังศพนั้น ต่อไปภายหน้าคือมือที่จะกลบชะตาทั่วทั้งประเทศไทย เขายึดอำนาจ ล้มรัฐธรรมนูญ ยุบผู้แทน เลิกฝิ่น กลบความเหลวแหลกต่างๆ และขณะเดียวกันเขาก็สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาแทน จะได้ชื่อว่าจอมชะตาที่มีชีวิตทุกอย่างอยู่ในตัวเขาหมด เป็นชะตาที่เคยยากจน รอดตาย และในที่สุดก็มั่งคั่งไปด้วยเงิน ลาภยศ อิสตรี ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ในขณะที่เขามีอำนาจ แม้เขาตายก็ยังอยู่ในโกศ แต่เมื่อเขาจากโลกนี้ไปแล้วเรื่องราวต่างๆ ถูกเปิดเผยขึ้น เร่องของเขาเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์อยู่ทุกวัน ไม่มีข่าวอะไรอยู่ยงคงกะพันนานเช่นนี้, !
ฟ้ากำหนดเขาให้มาเป็นตัวละครอีกแบบหนึ่ง ! นี่คือคำวิจารณ์ชะตาตอนหนึ่งในขณะที่เขายังไม่ได้เป็นนายกฯ ผู้มั่งคั่ง เขาเกิดภายใต้ "ลัคนา" ราศีเมษ (ราศีแบบโหราศาสตร์สากล) มีดาวเสาร์กุมลัคนา เสาร์ราศีเมษกุมลัคนามีคำทำนายไว้ว่า "บึกบึน ตั้งใจแน่วแน่ ทะเยอทะยาน เสาร์ราศีเมษนี้ทางแห่งชีวิตมักจะลำบากไม่ก้าวหน้าในวัยแรกๆ แต่ในวัยครึ่งหลังของชีวิตจะตรงกันข้าม" ก็จริงเขาโด่งดังในวัยหลังๆ ของชีวิต เหตุการณ์เมื่อรัฐประหารปี 2490 ผลักดันให้เขาเริ่มมีอำนาจ เริ่มมีบทบาทเกี่ยวกับการเมือง ฯลฯ,
พูดถึงดาวเสาร์ของเขาต่อไป เขามีดาวเสาร์กุมลัคนาและทำมุม 120 องศากับดาวพฤหัสในราศีสิงห์ ตำราเขียนไว้ว่าพฤหัสกับเสาร์ถ้าร่วมมุมดี แสดงถึงความสำเร็จเกี่ยวกับการงาน มีโชคเกี่ยวกับธุรกิจ ที่ดิน ให้เครดิต ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง ให้ผลในงานใหญ่ๆ ฯลฯ แน่นอน - เขามีอำนาจสูงสุดมีความสำเร็จในกิจการต่างๆ ทั้งด้านบ้านเมืองและส่วนตัวขนาดที่เรียกได้ว่าผู้มั่งคั่ง ดาวพฤหัสในราศีสิงห์ มีคำทำนายไว้ว่า ชอบสนุกสนานเจ้าสำราญ. ชีวิตเกี่ยวกับเด็กๆ เกี่ยวกับการหมุนเงิน, การพะนัน, สามารถในทางเป็นผู้นำและการบริหาร ฯลฯ ถูกทีเดียว...เขาได้ชื่อว่านักรัก ชีวิตเจ้าสำราญ เมื่อเขาตายไปแล้ว มีผู้เปิดโปงถึงเบื้องหลังชีวิตสำเริงสำราญทางกามารมณ์ไว้อย่างพิลึกกึกกือ ที่ตำราเขียนไว้ว่าชีวิตเกี่ยวกับเด็กๆ นี่ก็ได้แก่พวกหนูๆ ทั้งหลาย และที่เขียนไว้ว่าเกี่ยวกับการพะนัน อันนี้เห็นจะได้แก่เรื่องสลากกินแบ่ง เขามีกองสลากทั้งกองเป็นที่หมุนเงิน !
วิจารณ์ - ดาวพฤหัสในดวงของเขามีอิทธิพลมากเพราะเป็นดาวทำมุม 120 องศากับดาวเสาร์ซึ่งกุมลัคนา การอ่านความหมายของดาวพฤหัสในกรณีเช่นนี้จึงต้องอ่านความหมายของดาวพฤหัสในราศีสิงห์
ดาวเสาร์ในดวงของเขามีอำนาจยิ่งนัก ขอให้เราพิจารณาต่อไป จะเห็นว่าดาวเสาร์เป็นดาวมาจากภพที่ 10 คือภพที่ 10 เป็นราศีมังกร มังกรเป็นราศีของดาวเสาร์ และดาวเสาร์มาอยู่ในเรือนลัคนา อย่างนี้เรียกว่า "กัมมะกุมลัคนา" ซึ่งมีตำราเขียนไว้ว่า "ทำให้สง่า มีความสำเร็จจากงานทางราชการ, มีความใฝ่ฝันสูง ฯลฯ ใช่แล้ว...เขามักชอบพูดเสมอๆ ว่า "พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" เขารับราชการจนได้ดิบได้ดีเหลือที่จะมีใครทำอย่างเขาได้ แม้สมัยหนึ่งเขาบอกว่า "ผมเป็นแต่นักการทหารที่ดี ส่วนถ้าเป็นนักการเมืองนั้นคงไม่ได้ความ" แสดงว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยาน แต่แล้วเหตุการณ์ต่างๆ ก็ผลักดันให้เขามายืนอยู่แถวหน้าสุดของคนไทยทั้ง 30 ล้าน !
ตอนนี้ขอให้ดูดาวในภพที่ 10 ของเขา ภพที่ 10 นี้ บ่งถึงอำนาจวาสนาเป็นจุดสำคัญในดวงของคนเรา ชีวิตจะสูงต่ำขึ้นลงอย่างไรเราต้องอ่านกันที่ภพนี้ด้วยและขาดไม่ได้ทีเดียว เขามีภพที่ 10 เป็นราศีมังกร ตำราเขียนไว้ว่า ถ้าราศีมังกรเป็นภพที่ 10 เป็นชะตาใฝ่หาความรับผิดชอบ, ทะเยอทะยานสูง, เป็นนักบริหาร ชีวิตงานมักจะเกี่ยวกับรัฐบาล ฯลฯ ก็ถูกอีกเขามีอาชีพเกี่ยวกับรัฐตลอด มีชีวิตเกี่ยวกับความรับผิดชอบมากเพราะเป็นถึงนายกฯ เป็นนักบริหารตำราว่าไว้เช่นนั้น เขามีตำแหน่งงานมากมาย เราพูดถึงราศีที่เป็นภพที่ 10 มาแล้วคือราศีมังกร ต่อไปขอให้ดูว่ามีดาวอะไรอยู่ในภพที่ 10 บ้าง เพราะดาวในภพที่ 10 จะบอกถึงเรื่องราวแห่งอำนาจวาสนาได้อีก ในพื้นดวงมีดาวยูระนัส (มฤตยู) อยู่ในภพที่ 10 และมีดวงจันทร์อีกด้วย เฉพาะดาวยูระนัสในภพที่ 10 ตำราเขียนไว้ว่า - เป็นตำแหน่งที่ทรงพลังอำนาจมาก ชีวิตงานเกี่ยวแก่รัฐและการเมือง เป็นชะตาไม่คาดฝัน เปลี่ยนแปลง มีการปฏิรูป ปฏิวัติ แน่นอนเหลือเกิน...เขาโด่งดังขึ้นมาได้เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน และเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวงการบ้านเมืองมาตลอด ดาวยูระนัสในภพที่ 10 ประกอบกับอยู่ในราศีมังกร จึงเน้นหนักมาในทางการเมืองและเกี่ยวแก่รัฐตลอดชีวิต เหตุการณ์สำคัญที่ผลักดันให้เขามีอำนาจวาสนาก็เพราะเรื่องของการปฏิวัติ นับแต่การปฏิวัติปี 2490 การปราบการปฏิวัติที่เรียกว่า "กบฏวังหลวง" เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2492 เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาให้ก้าวมาสูความยิ่งใหญ่ในเวลาต่อๆ มา ดาวยูระนัสในภพที่ 10 ส่งผลให้เขาคลุกคลีกับเรื่องปฏิวัติตลอดเวลา นั่นก็คือการโค่นล้มจอมพล ป.เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2500 และครั้งสุดท้ายก็คือการปฏิวัติเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2501 ส่งผลให้เขานั่งแท่นเหนือชะตาคน 30 ล้าน โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ปกครองบ้านเมืองด้วยกฎอัยการศึกกับ "ธรรมนูญการปกครอง" มาจนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิตเมื่อ 8 ธันวาคม 2506 จะเห็นได้ว่าตำแหน่งดาวยูระนัสในพื้นดวงของเขามี "พลัง" มาก ทั้งนี้มีใช่เพราะอยู่ในภพที่ 10 เท่านั้นหากอยู่ในราศีมังกรอันเป็นราศีภพที่ 10 ของโลก และดาวยูระนัสดวงนี้มีหลักเกณฑ์สัมพันธ์กับดาวเคราะห์อีกหลายดวง เรียกว่า ส่งกระแสลั่นไปทั้งดวง กล่าวคือดาวเสาร์เข้ากุม 90 กับดาวยูเรนัส, ดาวเน็ปจูน, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, และดาวศุกร์ต่างก็เข้ามุม 180 องศากับดาวยูระนัสทั้งหมดอยู่ในภพที่เรียกว่าเรือนมุมซึ่งถือว่าเป็นภพแห่งการเคลื่อนไหว ชะตาใดมีดาวในภพเรือนมุมมากย่อมแสดงถึงผู้มีชะตาแรง ในดวงของเขามีดาวใน "ภพเรือนมุม" ถึง 7 ดวงคือ ยูระนัส, จันทร์, เสาร์, เน็ปจูน, อังคาร, พุธ, และศุกร์ ซึ่งดาวรูปนี้จะหาได้ยากในชะตาคนทั่วๆ ไป เพราะคนที่จะเกิดมามีดาวเข้ารูปนี้ก็คือคนที่เกิดในเดือนมิ.ย. ปีเขาเกิดเท่านั้น ขอเขียนไว้ตอนนี้ว่าถ้าหากเมืองไทยไม่มี "รัฐประหาร ปี 2490" เราก็จะไม่รู้จักยอดชะตา พูดง่ายๆ ก็คือเขาจะไม่เป็นคนใหญ่โตอะไรของเมืองไทยเราเลย และการรัฐประหารจะสำเร็จลงได้นอกจากอาศัยกำลงทหารของเขาและส่วนอื่นๆ แล้ว น้อยคนนักที่จะรู้ว่า "วิชาโหราศาสตร์" ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดรัฐประหารปี 2490 อีกด้วย มีผู้บันทึกเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ว่า ดังนี้ "...พ.อ. สฤษดิ์ (ยศในขณะนั้น) ธนะรัชต์ได้มีโอกาสไปพบกับ ร.ท. ทองคำ ยิ้มกำภู ซึ่งเป็นผู้เชียวชาญและมีชื่อทางด้านโหราศาสตร์ไทยก็ได้รับการยืนยันว่าปัจจุบันดวงของเขาดี ดวงคนอื่นๆ ในคณะรัฐบาลกำลังตกอับ หากเขาจะคิดการใดๆ ก็จะสำเร็จ และจากการดูดวงนี้เองทำให้เราตัดสินใจเข้าร่วมรัฐประหาร..."
ตอนนี้ผู้เขียนขอแทรกไว้หน่อยหนึ่งว่า ก่อนที่จะเกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2490 พวกผู้นำต่างๆ ได้อาศัยวิชาโหราศาสตร์เป็นเครื่องสนับสนุนกำลังใจ ได้มีการดูดวงกันเป็นประจำ หาจังหวะที่จะทำรัฐประหาร และในการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับใช้วิชาโหราศาสตร์นี้ก็มีทั้งการดูดวงแบบไทย แบบสากล เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์ "รัฐประหารปี 90" ชะตาบ้านเมืองไทยในยุคหลังๆ นี้คงจะเป็นไปอีกรูปหนึ่งซึ่งจะเป็นอย่างไรก็เหลือเดา และทำนองเดียวกันเพราะปี 90 นี่เอง ทำให้มีคนเปลี่ยนแปลงชะตาทั้งที่ขึ้นแล้วตกไปนอนต่างประเทศ ทั้งที่ตายไปบ้าง ที่ร่ำรวยมหาศาลบ้าง ชะตาเมืองไทยเปลี่ยนยุคครั้งสำคัญตอนนี้เอง.
ดาวยูระนัสในดวงยอดชะตาแห่งยุคมีความสำคัญอย่างไร ขอให้ดูดวงชะตา "24 มิถุนายน 2475" ซึ่งในดวงนั้นก็มีดาวยูระนัสทำนองเดียวกัน พื้นดวงของคนที่มีดาวยูระนัสเด่นจึงผาดโผนเหลือเชื่อ มีเหตุการณ์แปลกๆ วิตรถารและคาดหมายยาก เช่นเดียวกับดวงจอมพล ส. ตอนผ่าตัดใหม่ๆ ก็มีผู้กล่าวกันว่าเขาคงจะมีอายุไม่ยืน แต่เล้วเขาก็อยู่มาได้ถึง 5 ปี และยังสร้างอะไรต่ออะไรที่ประวัติศาสตร์เมืองไทยไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลย นับว่าเป็นดาวประวัติการณ์แห่งยุค เป็นชะตาที่น่าค้นคว้าศึกษาและถ้าจะเขียนกันให้ละเอียด ก็เป็นหนังสือเล่มโตๆ ขนาดตำราเล่มหนึ่งทีเดียว.
ดาวเคราะห์อีกกลุ่มหนึ่งที่ทรงพลังในพื้นชะตาของเขาก็คือ กลุ่มดาวเน็ปจูน, อังคาร, พุธ, และศุกร์ในราศีกรกฎและอยู่ในภพที่ 4 เมื่อราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ตำราเขียนไว้เป็นแนวทางสำหรับทำนายว่า - มีความรู้สึกและมีชีวิตเกี่ยวกับความหมายของราศีกรกฎมากเช่น เรื่องบ้าน ที่อยู่ ในดวงของเขายังมีหลายดวงรวมกันอยู่ในราศีกรกฎและเป็นภพที่ 4 จึงไม่เป็นการประหลาดอะไรเลยที่เจ้าชะตาเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่า "เรื่องที่ดินผมชอบมาก ดังนั้นเจ้าชะตาจึงมีเรื่องเกี่ยวกับที่ดินมากด้วยอสังหาริมทรัพย์ ขนาดที่บางคนอาจจะเรียกว่ามหาราชาที่ดินแห่งยุค ภพที่ 4 นี้หมายถึงชีวิตบั้นปลายอีกด้วย การดูดวงคนเราในวัยแก่ตัวจึงอาศัยการอ่านที่ภพนี้ ในดวงของเขามีดาวเคราะห์มาอาศัยอยู่หลายดวงคือ ดาวเน็ปจูน, ดาวอังคาร, ศุกร์, และพุธ ซึ่งเป็นการเน้นความหมายของภพนี้ให้เด่นขึ้น หมายถึงว่าชีวิตวัยแก่ตัวมีเหตุการณ์มาก มากด้วยเรื่องอะไรบ้างเราก็อ่านได้จากดวงในภพที่ 4 ทีละดวง อาทิเช่น เน็ปจูนในภพที่ 4 หมายถึงว่าชอบใฝ่ฝันเรื่องบ้านที่อยู่อย่างวิจิตรพิสดาร มีเหตุการณ์แปลกๆ วิตถารเกี่ยวกับชีวิตในบ้าน ทำให้เปลี่ยนที่อยู่บ่อยๆ ดาวอังคารในภพที่ 4 หมายความว่า ทำงานในบ้านมีเหตุการณ์คึกคักผาดโผนเกี่ยวแก่บ้าน ที่อยู่ อสังหาริมทรัพย์ ดาวอังคารในภพที่ 4 บ่งว่าชีวิตบั้นปลายเคร่งเครียดมาก ฯลฯ ดาวพุธก็อยู่ในภพที่ 4 อีกมความหายว่า - มีหัวการค้าหมุนเงิน, ชอบสะสม, ชอบอารมณ์ใหม่ๆ. รักและสนใจเกี่ยวแก่ที่ดิน ฯลฯ ดาวศุกร์อีกดวงหนึ่งในภพที่ 4 ซึ่งหมายถึงว่า - ชอบบริโภค, เจ้าสำราญในชีวิตบั้นปลาย, แวดล้อมด้วยศิลปะสวยๆ งามๆ ฯลฯ เมื่อรวมความหมายของดาวทั้งหมดในภพนี้ จึงเหมาะสมที่เจ้าชะตามีชีวิตสูงส่งร่ำรวยและเจ้าสำราญในชีวิตบั้นปลาย คือ เหตุการณ์ของชีวิตมากมายในตอนแก่ตัวยิ่งกว่าตอนหนุ่มๆ ซึ่งเป็นไปอย่างปกติธรรมดา มีดาวอีกกลุ่มหนึ่งที่บ่งถึงเรื่องทางเพศ อิสตรี นั่นก็คือดาวเน็ปจูน - ศุกร์ - อังคารอยู่ร่วมในราศีเดียวกันและมี "องศา" ใกล้ๆ กัน เกณฑ์ดาวรูปนี้ถ้าอยู่ในภพเรือนมุม (เช่น ภพที่ 1, 4, 7, 10) มีตำราเขียนไว้ว่าจุ้นจ้านเรื่องทางเพศวิปริตเกี่ยวกับกามารมณ์ และเรื่องทำนองนี้จะเกิดได้มากในวัยแก่ตัวเพราะดาวทั้งสามอยู่ในภพที่ 4 อันหมายถึงวัยบั้นปลายแห่งชีวิต.
ราศีกรกฎซึ่งเป็นภพที่ 4 นี้ เป็นราศีของดวงจันทร์. จันทร์ในพื้นชะตาไปอยู่ในภพที่ 10 จึงแปลได้ว่าชีวิตบ้าน (ภพที่ 4) กับชีวิตงาน (ภพที่ 10) อยู่ร่วมกัน ก็ได้แก่บางครั้งการทำงานครั้งสำคัญๆ ก็เกิดไปจากชีวิตบ้าน บางคราวก็เรียกประชุมดำเนินงานในขณะพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้าง เจ้าเรือนภพที่ 4 อยูในภพที่ 10 นี้ตำราเขียนไว้ว่าจะมีความสำเร็จทางบ้าน ที่ดิน ชื่อเสียง อำนาจจะบังเกิดในวัยแก่ตัวมากกว่าในวัยหนุ่มๆ ดวงจันทร์ของเขาอยู่ราศีมังกรในภพที่ 10 หมายถึงการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ในชีวิตงาน และจันทร์อยู่ในราศีมังกรอันเป็นราศีเกี่ยวกับการเมือง ชีวิตของเขาแต่เดิมเป็นทหารธรรมดาคนหนึ่ง ในที่สุดก็กลายมาเป็นนักการเมือง ด้วยอำนาจผลักดันจากดาวยูระนัสในภพี่ 10 ซึ่งทำให้ชีวิตมีการปฏิรูปเลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ จันทร์ในภพที่ 10 มักแสดงถึงความนิยมชมชอบเกี่ยวกับประชาชน ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็น "ฮีโร่" เมื่อหลังเลือกตั้งที่สกปรกโสมม เขานี่แหละเป็นผู้ที่ออกไปห้ามทหารไม่ให้ทำร้ายประชาชน ตอนหนึ่งเขาประกาศออกมาว่า "ทหารและตำรวจทั้งหลาย อย่าใช้อาวุธทำร้ายประชาชนเป็นอันขาด จงเปิดประตูให้ประชาชนผ่านเข้ามาแต่โดยดี" เหตุการณ์ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เขามีชะตารุ่งโรจน์รุดหน้าขึ้นมาอีก แต่ดวงจันทร์ของเขาเป็นประ (ราศีมังกร) ซึ่งแสดงว่าอำนาจของจันทร์อ่อนไม่คงเส้นคงวา เหตุการณ์ในตอนต่อๆ มาที่เกี่ยวกับประชาชนก็ค่อยๆ คลายความศักสิทธิ์ลงไปมาก จนมีผู้เขียนไว้ ณ ที่แห่งหนึ่งว่า "...โลกเรานี้ประหลาดที่คนโง่ชอบเป็นเหยื่อของคนฉลาด สิ่งที่พอเข้าใจได้ก็คือคนฉลาด 1 คนอาจต้มคนโง่ได้ 100 ถึง 1000 คน แต่คนๆ เดียวต้มคนได้เป็นล้านนี่แปลก รัฐบุรุษที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ประเภทการโกงประเทศ ช่างมีบุญวาสนาเหลือเกิน..." (จากประชาธิปไตย ฉบับ 2 มี.ค. 07).
ตำแหน่งดาวที่สำคัญอีกจุดหนึ่งคืออาทิตย์และดาวพลูโต ในพื้นดวงอยู่ราศีเมถุนและในภพที่ 3 อันหมายถึงความคิดความอ่าน สติปัญญา หนังสือพิมพ์ ญาติพี่น้อง ลำพังอาทิตย์กุมดาวพลูโตตำราเขียนไว้ว่า เข้มแข็ง, ไม่กลัวตาย, กล้าหาญ เชื่อมั่นในตัวเอง ดีในทางใช้อำนาจ เป็นผู้นำ ฯลฯ อาทิตย์กับพลูโตกุมกันในราศีเมถุน อันเป็นราศีของดาวพุธ พุธของเขาเป็นดาวในเรือนมุม (ภพที่ 4) พุธหมาถึงหนังสอ เอกสาร หนังสือพิมพ์ สติปัญญา ฯลฯ ชีวิตของเขาก็มีเรื่องของหนังสือพิมพ์มาตลอดและได้อาศัยอิทธิพลจากหนังสือพิมพ์ไม่น้อย มีผู้เขียนประวัติตอนหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า "การเที่ยวเตร่อย่างโชกโชนของเขาในสมัยหนุ่มๆ ส่วนใหญ่และส่วนหนึ่งของเขาก็ได้ยึดเอาโรงพิมพ์เป็นสมรภูมิ" ในสมัยหลังๆ เขาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ที่ใครๆ ก็รู้กันดี ถ้าออกชื่อก็คงร้องอ้อเป็นแน่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าดาวพุธ (หนังสือพิมพ์) เป็นดาวสำคัญตัวหนึ่งในดวง เขามีดาวอาทิตย์ - พลูโตในราศีดาวพุธ หัวคิดของเขาจึงไม่อยู่นิ่ง คิดค้นหาวิธีแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เรื่อยไป ทั้งนี้ก็เพราะดาวพุธอยู่ในเรือนมุมและเป็นราศีทวารอีกด้วย ซึ่งถือกันในวิชาโหราศาสตร์ว่า ดาวเรือนมุมและราศีทวาร ให้พลังยิ่งกว่าราศีและภพอื่นๆ พื้นชะตาของเขามีดาวส่วนมากอยู่ในราศีทวาร และมี "มุม" ถึงกันตลอดในรูป "เล็ง" กันบ้าง, จตุโกณแก่กันบ้าง ทำให้เกิดเป็นรูปที่เรียกในภาษาโหรสากลว่า "ที - ครอส" ตามหลักชะตาใดมีรูปดาวเข้าเกณฑ์ "ที - ครอส" เป็นพื้นดวงที่ผาดโผนพิสดารทั้งในด้านดีและในด้านร้าย ดวงของเขามีดาวเข้ารูป ที - ครอสในราศีทวาร แสดงถึงพลังงานเคลื่อนไหวไม่หยุดยั้ง ทำให้ชีวิตพบปะกับสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ แบบรุดหน้าไม่ถอยหลังคล้ายกับรถจี๊ป ซึ่งผิดกับดาวที - ครอส ในราศีชั้นสอง (สถิรราศี) ซึ่งเคลื่อนไหวแบบรถถัง ดาวที / ครอสให้ผลดีในทางสร้างสรรค์ รุดหน้า เหตุการณ์ใดที่ล่อแหลมเสี่ยงๆ ถ้าหากเอาชนะได้จะส่งผลให้ดี ดังนั้นชีวิตของเขาที่สูงส่งขึ้นมาได้ก็เพราะการเสี่ยงต่อความตาย ทุกครั้งของชีวิตที่จะพุ่งขึ้นมาก็เพราะกล้าเสี่ยงต่อความเป็นความตาย อย่างเช่นตอนออกสงคราม ตอนเข้าร่วมคณะปฏิวัติปี 2490 ตอนปราบกบฏวังหลวง ตอนทำรัฐประหารล้มจอมพล ป. เพราะตอนนั้นเขามีคู่แข่งสำคัญคือ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ และครั้งสุดท้ายก็คือตอนผ่าตัดใหญ่ ดวงของเขาถ้ารอดตายได้ครั้งไร จะส่งให้เขาสูงส่งด้วยอำนาจขึ้นทุกครั้ง แต่นั่นแหละดาวในรูปที - ครอสเป็นเสมือนหนึ่งดาบสองคม ที่ให้ทั้งผลดีและผลร้ายไปในตัว จึงทำให้เขามีสุขภาพที่ไม่ปกติ ชีวิตที่ดื่มจัดแต่หนหลังทำให้ร่างกายของเขาในวัยต่อๆ มาไม่สมบูรณ์ เขาจึงต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนเครื่องในบางอย่างโดยใช้วิทยาศาสตร์เข้าช่วยทำให้เขารอดตายไปได้ แต่ก็ทำให้รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่นาน นี่เป็นเหตุผลอันหนึ่งที่ทำให้เขาคิดการใหญ่ ต้องปฏิวัติอีกครั้งและพาตัวเองขึ้นสูงสุดเป็นนายกเสียเอง ดาวรูปที - ครอสในราศีทวารและในภพเรือนมุมส่งให้ชะตาผาดโผนอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าหากเขาไม่ยิ่งใหญ่เกินไปเขาก็อาจจะมีอายุยืนนานต่อไปอีก ดังที่ได้มีน.ส.พ. พาดหัวเตือนไว้แล้วว่า "ขืนขึ้นเป็นนายกฯ เมื่อใดต้องตายแน่" แต่เขาใช้เวลาอีก 5 ปีจึงจะถึงจุดจบ นับว่าชะตาแข็งเอาการ ถ้าเป็นคนธรรมดา ขาดเงินทองรักษาเยียวยาก็ตายเสียนานแล้ว.
ดาวอังคารของเขาเป็นเจ้าเรือนลัคนา (ราศีเมษ) และเป็นเจ้าเรือนภพที่ 4 (มรณะ) คือราศีพิจิก คนที่มีเจ้าเรือนลัคนาเป็นดาวตัวเดียวกับเจ้าเรือนมรณะ มักจะอายุสั้น แต่ถ้าอายุยืนไปได้ก็ไม่เกินวัย 60 เขามีลัคนาในราศีเมษ มีภพที่ 8 เป็นราศีพิจิก ดาวอังคารเป็นเจ้าเรือนเข้าเกณฑ์ตามตำราพอดี แต่ดาวอังคารของเขาเป็นดาวในกลุ่มที - ครอส ยิ่งวิตถารผลาดแผลงใหญ่ เขายิ่งใหญ่โตเท่าไรก็แสดงว่าร่างกายของเขาใกล้จะพังเมื่อนั้น ความเป็นความตายทำให้เขามีวิถีทางแห่งชีวิตแตกแขนงออกไป
เมื่อตอนผ่าตัดใหญ่เขาบันทึกไว้ว่า "ได้รับข้อตกลงว่าจะได้กลับบ้านแน่นอนใน 19 มี.ค. 0900 ดีใจมาก เตรียมการต่างๆ ทั้งวัน เป็นสุขใจมาก แต่ก็ใจหายรู้ว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน ต่อไปนี้เราจะหาความสุขให้เต็มที่และทำงานให้ชาติ" (จากบันทึกซึ่งเปิดเผยลงในพิมพ์ไทย 11 เม.ย. 07).
นี่แหละคือหัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ของชีวิตเมื่อรู้ว่าจะมีชีวิตอีกไม่นาน เขามีดาวอังคาร (เจ้าเรือนมรณะ) กุมดาวพุธ (ความคิด จิตใจ ฯลฯ) จึทำให้ความคิดอ่าน จิตใจ ทรรศนะของชีวิตเปลี่ยนแปลงไปทันที จึงไม่เป็นการประหลาดอะไรเลยที่เขาเปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากผ่าตัดแล้ว เขาได้ไอเดียมาจากนักคิดคนหนึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นหลวงวิจิตรวาทการ พอกลับมาเมืองไทยก็ปฏิวัติ ล้มสิ่งต่างๆ หมด เช่น รัฐธรรมนูญ ลงมือปฏิวัติบ้านเมืองเป็นการใหญ่ ดังที่เราท่านทราบกันดีอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก ใครคนหนึ่งอาจคิดว่า อนิจจา...เมืองไทยกลายเป็นสนามทดลองของไอเดียของใครคนหนึ่งไปเสียแล้ว และในที่สุดก็ต้องตายจากไป ไม่ทันรู้ว่าผลงานของการปฏิวัติเป็นอย่างไร เขาใช้ชีวิตสมกับที่เขาบันทึกไว้ว่าต้องหาความสุขให้เต็มที่และทำงานให้ชาติ บัดนี้ผลงานของเขาเป็นที่หนักใจแก่คนรุ่นหลังอย่างไรคงจะทราบกันอยู่ นี่แหละคืออิทธิพลของดาวอังคาร (เจ้าเรือนลัคนา - ภพที่ 8) ซึ่งกุมดาวพุธในราศีทวารและในภพเรือนมุม และยังเข้ามุม 180 องศากับดาวยูระนัส, 90 องศากับดาวเสาร์ ส่งผลอย่างฉกาจฉกรรจ์จนไม่มีใครเข้าใจได้ ไม่มีในตำราเล่มใดพูดถึง เพราะดวงเช่นนี้ก็เห็นจะมีคนเดียวเท่านั้น นับตั้งแต่เมืองไทยเป็นต้นมา ที่จะเกิดมามีรูปดาวเช่นนี้
อวสานของชีวิต - เริ่มในระยะดาวอังคาร (ดาวจรโปรเกรสต์) ซึ่งเป็นดาวเจ้าเรือนลัคนา และภพที่ 8 (มรณะ) มาทำมุม "ขนาน" กับดาวอาทิตย์จร ในฐานะที่ดาวอังคารเป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ (ความตาย) และอาทิตย์เป็นดาวแห่งชีวิต เมื่อมาพบกันในรูปนี้จึงบ่งถึงอวสานของชีวิต และเกณฑ์อย่างนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย เพิ่งจะเข้าเกณฑ์แบบนี้ก็ในวัยตอนนี้เท่านั้น และในวันที่ 8 ธง๕ง 06 วันอสัญกรรม ดาวอังคาร (ดูในปฏิทินประจำปีเรียกว่าดาวทรานสิต) ซึ่งเป็นเจ้าเรือนมรณะก็กำลังโคจรเข้าสู่จุดสูงสุดของดวง (ภพที่ 10) นี่บ่งถึงระยะแรงของดาวอังคาร (เจ้าเรือนภพที่ 8 อันหมายถึงมรณะ) ยอดชะตาแห่งยุคจากเราไปแล้ว หลายคนอาลัย และก็หลายคนโล่งใจ แต่ว่าเรื่องของเขายังมีคนพูดถึงอยู่อีกนาน.