ดวงพิการทุพพลภาพ "ว่าด้วย ตาบอด"
คุณเชื่อมั๊ยล่ะว่า ผู้ที่เกิดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนพฤศจิกายน กับช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนมีนาคม 2 ช่วงเวลาดังกล่าว มีสถิติที่จะสายตาไม่ปกติสูงมาก อ้าว! นี่เรื่องจริงเป็นสถิติทางโหราศาสตร์นะ เพราะว่าช่วงเวลาดังกล่าวทางภาษาโหรเขาว่า ดวงอาทิตย์กำลังอ่อนแรง ศัพท์โหรเรียกว่า เป็น"นิจ" และเป็น "ประ" ที่นี้ ดวงอาทิตย์นั้นในทางโหราศาสตร์ใช้แทนความหมายคือ "ดวงตา" และ "หัวใจ" ดังนั้น เมื่อฐานที่ตั้งของอาทิตย์ไม่มั่นคง ถ้ามีจังหวะดาวร้ายมาเบียดอาทิตย์ของเราจะแสดงผลร้ายออกมาคือ ไม่ปกติ ดาวร้ายดังกล่าวคือ เสาร์, อังคาร, มฤตยู, ราหู และเนปจูน ถ้าเข้ามาจู่โจมอาทิตย์พร้อมๆ กัน โดยเฉพาะในพื้นดวงเดิม (ดาวกำเนิด) ด้วยแล้ว พอถึงวัยแสดงออก ผลร้ายที่ทำลายดวงอาทิตย์ มักจะทำให้มีเรื่องให้ต้องเสียสายตาหรือดวงตา ยิ่งถ้าดาวพฤหัสในดวงไม่มีแรงอำนาจคุ้มกันอาทิตย์ด้วยแล้ว จะทำให้ถึงขั้นตาบอดถาวรเอาทีเดียว สถิตินี้เชื่อได้ซะด้วยสิ แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่คนเกิด 2 ช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้
ในช่วงที่อาทิตย์เกิดไปอยู่ในช่วงอื่นก็เป็นไปได้เหมือนกัน เพียงแต่ 2 ช่วงเวลานี้ย่ำแย่ที่สุดต่างหาก เรียกว่า "ฐานไม่แน่น" ดีกว่า โอกาสเสี่ยงจึงสูงกว่า ตาบอดนั้น อาจจะมีหลายสาเหตุ ถ้าดาวอังคารและมฤตยูจู่โจมเข้าใส่อาทิตย์ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้ตาบอด ถ้าดาวเสาร์โหมเข้าใส่อาทิตย์ จะทำให้เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น เป็นต้อกระจก, สายตาสั้น, หรือความผิดปกติทางกายภาพของลูกนัยน์ตา ส่วนเนปจูน มักจะเป็นเรื่องการแพ้ยา หรือสารเคมีให้ระคายเคือง สรุปง่ายๆ ก็คือ พังเพราะอุบัติเหตุ, พังเพราะเคมี และพังเพราะตัวเองเสื่อมสภาพ แล้วรู้มั้ยว่า ถ้าดวงอาทิตย์โดนกระทำ นอกจากสายตาแล้ว หัวใจก็พลอยจะไม่ค่อยปกติได้ด้วย แต่ขอยกยอดไปว่าให้สยองในบทความอื่นที่เกี่ยวข้องกับ "หัวใจ" โดยตรงดีกว่า ดังนั้น ความหนักหนาสาหัสถึงโรคของดวงดาวนั้น ความหนักเบาอยู่ที่ดวงอาทิตย์ในดวงเป็นตัวบอกเหตุว่าจะถึงขั้นบอดสนิทหรือไม่ ยิ่งถ้าอาทิตย์ก็เสีย แล้วดาวมฤตยูในพื้นดวงเดิม ก็ย่ำแย่ไปด้วย เพราะ "ดาวมฤตยู" นั้นใหัความหมายแทน "รูป" ถ้าเสียทั้ง 2 ฐาน คือ "ตา" ก็เสีย "รูป" ก็เสียด้วย บอกได้คำเดียวว่า "บอดสนิท" ครับ เพียงแต่ว่าจะเกิดช่วงไหนในชีวิต และจะบอดข้างเดียวหรือบอดสนิททั้ง 2 ข้างหรือเปล่าเท่านั้น
( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )