เอาฤกษ์เอาชัย
เวลาในการเริ่มประกอบกิจการใดก็ตามนั้น แต่โบราณกาลมาถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนั่นหมายถึงขวัญและกำลังใจในการที่จะทำให้งานที่จะลงมือทำนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้โดยปราศจากอุปสรรคมาขัดจังหวะให้งานนั้นล้มเหลว ยิ่งทำงานใหญ่และสำคัญเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับเวลาเริ่มงานมากขึ้นเท่านั้น ศัพท์ที่ใช้เรียก "เวลาในการเริ่มงาน" นั้น เขาเรียกว่า ฤกษ์ ตามตำราโหราศาสตร์ของไทยแบ่งฤกษ์ออกเป็น 2 พวก คือ ฤกษ์บน และ ฤกษ์ล่าง โดยที่ฤกษ์บนหมายถึงดวงดาวสัมพันธ์บนท้องฟ้า กับ ฤกษ์ล่าง หมายถึงวันเวลาที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นกระทำการนั้น (รายละเอียดของวิชานี้ผู้สนใจอ่านได้จากคอลัมน์โหราฯน่ารู้ หมวด ลงลึกเรื่องฤกา) ทีนี้ว่าถึงเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการกำหนดฤกษ์เพื่อให้กระทำการสำเร็จนั้น
ตำราไหนๆ ก็ต้องเอาเวลาที่ตำแหน่งบาปเคาะห์(ดาวที่ให้โทษ)หลบๆ ไปก่อน และเอาดาวที่ให้คุณ(ศุภเคราะห์) ทำมุมให้คุณกับเวลาประกอบการนั้น และที่สำคัญก็คือ งานนั้นเป็นงานเกี่ยวกับอะไร ต้องวางตำแหน่งดาวที่เป็นตัวแทนของดาวนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ดีด้วย เช่น จะเปิดกิจการเสริมสวย ดาวศุกร์ตัวแทนความสวยต้องเด่น มีดาวพฤหัส หมายถึงโชคดีอยู่ในตำแหน่งสนับสนุน และดาวจันทร์ หมายถึงลูกค้าเยอะอยู่ในตำแหน่งช่วย รับรองกิจการเสริมสวยร้านนี้ไปรุ่งแน่ หรือแม้แต่ทำกิจการสถานบริการ นอกจากจะคล้ายตำแหน่งที่ยกมาให้เป็นตัวอย่างแล้ว ยังต้องเอาตำแหน่งป้องกันการถูกรีดไถจากเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ (ดาวเนปจูน) ปรับร้ายให้กลายเป็นดี และยังต้องใช้ฤกษ์เทศาตรี ที่แปลว่า "สาธารณะ " ซึ่งจะทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เรื่องเงินก็เป็นเรื่องสำคัญ ตำแหน่งหน้าลัคนาของดาวศุกร์ที่เรียกว่าภพกดุมภะ ซึ่งหมายถึงรายได้หรือเงินโดยตรง ต้องไม่มีอุปสรรค หรือดาวร้ายมาเบียดเบียนตำแหน่งนี้ จึงจะทำให้การเงินดีมาก จุดบริวารช่วยเหลือก็เป็นสิ่งสำคัญ การวางดวงฤกษ์ที่ดีต้องให้ความสำคัญกับผู้ช่วยเหลืองานเราในระดับล่าง ผู้วางฤกษ์ที่ดีต้องพยายามหาทางทำให้ดาวแทนบริวารอยู่หมัด และให้ความช่วยเหลือกิจการเราเต็มที่
ทีนี้กิจการงานทั้งหลายโดยมากมักไม่ค่อยทำคนเดียวสำเร็จ ต้องมีหุ้นส่วนในการร่วมกันทำกิจการงานนั้น เพราะฉะนั้นต้องเอาดวงหุ้นส่วนมาพิจารณาด้วย ว่า "เงินเราขึ้นอยู่กับเขา หรือเงินเขาขึ้นอยู่กับเรา" เพราะประเด็นนี้เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้งานจะสำเร็จราบรื่น ตแถ้าดวงเงินเราอยู่กับเขา ตัวเราก็จะไม่แฮปปี้เท่าใดนัก เพราะจะมีแต่ตัวเลข ไม่มีตัวเงิน ใครที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ก็จะรู้ดีว่ามีความรู้สึกชอกช้ำแค่ไหน เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ ตัวอย่างที่ยกมาโดยสังเขปนี้ เพื่อต้องการให้รู้ว่าเบื้องหลังงานใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้น ต้องใช้ฤกษ์เข้ามามีส่วนร่วมแทรกเข้ามาแทนทั้งสิ้น แต่จะใช้ได้ครอบคลุมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้ฤกษ์ว่ามีความรอบรู้ทะลุจริงในศาสตร์นั้นหรือไม่อย่างไร ถ้ารู้ไม่รอบก็จะทำให้ผูที่รับฤกษ์ไปใช้เสียหายอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น เปิดร้านขายของสวยงาม หรือ อาหาร บันเทิง ใช้พิธีเลี้ยงพระในวันเปิดกิจการ ซึ่งเท่าที่รู้มาเจ๊งทุกร้านไม่คุ้มค่าการลงทุน เพราะดาวขัดกัน คือ ดาวศุกร์แทนความสวยงาม หรือโลกียะ ส่วนพระเป็นดาวโลกุตระพ้นจากโลกีย์ แล้วมันเป็นดาวที่ขัดกันคนละขั้ว ทั้งๆ ที่เจตนาดี แต่ทำให้ฤกษ์เริ่มงานเสียซะแล้ว กิจการจะจ๊าบไปได้อย่างไร
วิธีที่ถูกคือ ต้องเชิญคนดังที่สังคมรู้จักดีกว้างขวางและแต่งตัวเก่ง (ตัวแทนดาวจันทร์) มาทำพิธีเปิดร้าน และใช้บริการเอาฤกษ์เอาขัยประเดิม และที่สำคัญต้องจ่ายตังค์ให้เราด้วย มิใช่ทำฟรีด้วยความเกรงใจ ส่วนจะสมนาคุณภายหลังอย่างไรนั้นเป็นเรื่องทีหลัง แต่ประเดิมเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนร้านอาหาร พอเริ่มเปิดร้านวันนั้นถ้ามีคนอ้วนมาประเดิมชามแรก รับรองได้วันนั้นขายได้ระเบิดเถิดทิง (แหกหม้อแหกไห) แต่ถ้าคนผอมแล้วกำลังลดความอ้วนอยู่ล่ะก็ วันนั้นของก็เหลือเบะหรือขายกินกันเอง เรื่องเผาผีวันศุกร์ โกนจุกวันอังคาร แต่งงานวันเสาร์ ที่โบราณเขาห้ามก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับฤกษ์เช่นเดียกวัน ส่วนทำไมถึงห้ามนั้น ต้องไปตามเอาในเรื่องทักษาพยากรณ์ ในคอลัมน์โหราฯน่ารู้เอา ผู้เขียนจะทยอยนำมาเผยแพร่ให้ศึกษากันต่อไป สรุปว่าเรื่องฤกษ์นี้ อย่ามองข้ามความสำคัญไปเชียว งานแต่ละเรื่องไม่ใช่บาทสองบาท ควรปรึกษาผู้รู้จริง ไม่ใช่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ แต่ถ้าไม่รู้คุณเสียเปรียบ!
( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )