เพ่งดวงลูกน้อง

 "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" ภาษิตนี้ หาได้มีไว้ใช้เฉพาะเรื่องของคน 2 ฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กันเท่านั้น แม้ที่เป็นฝ่ายเดียวกันก็ใช้ได้ด้วย ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกน้องหรือเจ้านายก็ตาม หากต้องการความสำเร็จก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นอกจากต้องมีความสามารถที่ดีแล้ว "ดวง" คุณต้องดีด้วย เรียกว่าต้องทั้งเก่งทั้งเฮง จึงจะเจ๋งครบสูตร แล้วคุณทราบไหมว่า ดวงของทั้งสองฝ่าายต่างมีอิทธิพลและให้คุณให้โทษซึ่งกันและกันได้อย่างมาก เคยได้ยินมั้ย?เรื่องบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ใช้การเช็คดวงชะตาของผู้สมัครเข้าทำงานเป็นเกณฑ์สำคัญ ไม่แพ้การตรวจสอบคุณสมบัติทั่วไปด้านอื่นๆ เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรระดับบริหาร เขาให้ความสำคัญข้อนี้ถึงขนาดว่าต่อให้เก่งแค่ไหน หากดวงไม่สมพงษ์กับองค์กรแล้วละก้อ เขาก็ไม่รับ หากคุณเป็นหัวหน้า คุณควรตรวจดวงลูกน้องที่จะมาเสริมส่งดวงคุณ มากกว่ามาเป็นหอกข้างแคร่ หรือเลื่อยไฟฟ้าใต้ขาเก้าอี้ หากเป็นลูกน้อง คุณก็ต้องรู้ดวงหัวหน้าเพื่อเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการไต่เต้าหรืออย่างน้อยก็เอาไว้ป้องกันตัว เรียกว่าจะได้รู้ทางหนีทีไล่ แล้วจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า ทั้งดวงลูกน้องและดวงเจ้านายเป็นอย่างไรกันแน่?

 เรื่องนี้โหราศาสตร์ตอบได้อีกล่ะ! อ้าว! จริงๆ นะ คุณอยากรู้มั้ยล่ะ ว่าถ้ารู้ดวงจะบอกอะไรได้บ้าง!? ถ้าคุณทุ่มเทให้กับเจ้านาย (สมมติว่ามีหลายคนในระดับเดียวกัน) ประการแรก คุณต้องเอาชนะใจของเขาให้ได้ก่อน ก็โดยการทุ่มเทน่ะสิ แต่ไหนๆ จะเทให้ทั้งที ทำอย่างไรไม่ให้สูญเปล่า? หรือตัวเจ้านายเองก็ต้องเผชิญมรสุมกับปัญหาเบื้องบนได้ในระดับใดในระยะยาว และที่สำคัญ ก็คือ เขาคิดอย่างไรกัคุณ จริงใจรึเปล่า ถ้าเจ้านายดวงกำลังซวย กำลังถูกแป้ก หรือดองตำแหน่ง หรือกำลังถูกบีบให้ออก หรือกำลังชิ่งหนีเพื่อเสวยสุขส่วนตัว หรือเจ้านายคบไม่ได้ (ตามดวง) คุณสมควรจะทุ่มเทให้หรือไม่ เรียกว่าดูแล้วไม่มีอนาคต แล้วจะทุ่มไปทำไม จริงมั้ย? ทีนี้เรื่องลูกน้องกันบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่อีกนั่นแหบละ การจัดวางตำแหน่งงานที่มอบหมายให้กับตัวบุคคล ต้องทำให้เหมาะสมกัน เพราะถ้าพลาดไปแล้วจะมีปัญหามาให้คุณแก้ไขจนต้องปวดหัว ซ้ำร้ายจะพาให้เราซวยตามไปด้วย เพราะฉะนั้น การรู้จักนิสัยใจคอ ความเชื่อ และจุดอ่อนจุดแข็งของลูกน้องนั้น นอกจากเราเองจะสังเกตจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว

 ถ้ารู้ลึกลงไปอีกจากดวงดาวของเขา ก็จะยิ่งทำให้เรามีข้อมูลประกอบในการตัดสินใจได้มากขึ้น เช่น สมมติถ้าคุณรู้ว่าภายใน 2 ปี ดวงลูกน้องคุณจะเดือดร้อนเรื่องเงินและปัญหาผู้หญิง คุณจะเสี่ยงให้ลูกน้องคนนี้รับผิดชอบงานใหญ่ที่ต้องควบคุมเงินของคุณจำนวนมากๆ ได้หรือไม่? อุปนิสัยเบื้องลึกที่ไม่สามารถเห็นได้ทั้งหมดจากการสังเหต แต่ดวงบอกได้ก็คือ อุปนิสัย, ความละเอียดลออ, การตัดสินใจที่รอบคอบ, การรู้จักรอบคอบ, จังหวะ, การปกปิดความลับ, ความภักดีต่อองค์กร, การคอรัปชั่น, การแอบไปทำไซด์ไลน์, การซีซั้วรับปากแบบขอไปที, สุขภาพอนามัย, อุบัติเหตุ, การหยุด การลา, และปัจจัยอื่นที่รุมเร้าให้เขาต้องวอกแวก ไม่ทุ่มเทกับการงาน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ใครที่เป็นเข้านายก็อยากได้ข้อมูลพวกนี้ของลูกน้องด้วยกันทั้งนั้น เรียกว่าเป็น "ศาสตร์แห่งการบริหารบุคคลในองค์กร" อย่างหนึ่งทีเดียว สรุปได้ง่ายๆ ว่า กรณีถ้าเลือกได้ เขา(ลูกน้องคนนั้น) ต้องดวงดี เหมาะสมกับงานที่เรามอบหมายไปด้วย เพราะถ้าดวงเขาดี งานย่อมสำเร็จ และถ้งานสำเร็จ ผลลัพธ์ก็จะลิ่งมาให้เราพลอยดวงดีไปกับเขาด้วยเหมือนกัน

 อ้อ! อีกประการหนึ่งก็คือว่า ดวงบอกได้อีกแหละว่า ลูกน้องที่กำลังดวงดีนั้น สมพงษ์กับเราหรือเลป่า บางคนปั้นมาแทบตาย อยู่กับเราก็งั้นๆ พอย้ายออกไปอยู่ที่อื่น กลับทำให้รุ่งเอาๆ หรืออยู่กับคนอื่นมาผลงานเยี่ยม พอมาอยู่กับเรา ดันเป็นช่วงขาลง ไปหมดหรือมีปัญหาส่วนตัว ปรับตัวเข้ากับงานหรือองค์กรไม่ทัน หรือ ยึดติดกับทิฎฐิวิธีเดิมที่เคยใช้สำเร็จมา แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เรียกว่า ถ้าดวงเขากำลังซวย จะเอามาใช้ทำไม? หรือเขาอาจดีแต่ไม่เหมาะกับเราในช่วงเวลาข้างหน้า ก็ไม่รู้จะเลือกมาใช้ทำไม? คุณว่าจริงไม้ล่ะ! เรื่องอย่างนี้ ใครที่เป็นหัวหน้าเขาก็ต้องคิดล่ะว่าจะเอาอย่างไร โดยเฉพาะมีตัวให้เลือกหลายคน แต่จะเลือกคนไหนดีล่ะ? โบราณเขาถึงว่า "จงกลัวกองทัพแกะที่มีสิงโตเป็นแม่ทัพ มากกว่ากองทัพสิงโตที่มีแม่ทัพเป็นแกะ!" ทีนี้ คุณจะทุ่มเทปั้นสิงโตหรือแกะดีล่ะ?

         ( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )