จุดล้มละลายคุณเป็นอย่างไร
ถ้ากล่าวถึงเรื่องการลงทุนในเวลาหนึ่งเวลาใดแล้ว จะมีผลตามมาเป็นไปได้อยู่ 3 เรื่อง คือ ได้กำไร, เท่าทุน หรือ ขาดทุน อย่างใดอย่างหนึ่ง และที่สำคัญที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น คือ ขาดทุน ซึ่งยังแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ทุนลดลง ทุนที่ลงหายหมด และยังมีลูกแถม คือ เอาหนี้มาลงทุนแล้วหมดอีกหรือเป็นหนี้เพิ่มหนักลงไปอีก เพราะฉะนั้นจะกล่าวถึงจังหวะในการลงทุนว่าเวลาใดจะเหมาะสม ซึ่งมีเฉพาะทุนกับช่องทางหากำไรอย่างเดียวไม่เพียงพอแน่ โดยมากโครงการต่างๆ ที่คิดเอาไว้ กับเงินที่มีอยู่มักจะไม่สอดคล้องกัน มีตัวแปรอย่างมากมายที่จะผลักดันให้โครงการที่คิดไว้นั้น เวลาลงมือปฏิบัติไม่เป็นไปคาดหมาย ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ไม่สมหวังกับผู้ที่ลงทุน
บทความนี้ขอกล่าวถึงเฉพาะที่เกี่ยวกับประเด็นทางโหราศาสตร์ เท่าที่โหราศาสตร์รุ่นก่อนทำทางไว้เป็นแนวทางให้ทราบ คือ การลงทุนที่ต้องการผลกำไรนั้นต้องมีมาจากปัจจัยเรื่องอารมณ์ที่ยินดีในเรื่องที่ทำเป็นประการหลัก ซึ่งเรื่องดังกล่าวมาจากตัวงาน, ตัวเงิน, บุคคล และเวลา ที่มีผลกระทบต่ออารมณ์ของผู้ที่ทำนั้นเป็นสำคัญ ตัวงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ งานหลักหรืองานประจำ และงานรองหรืออาชีพเสริม มีตัวปัจจัยจากโหราศาสตร์ที่ใช้ความสัมพันธ์ของดวงดาวมากำหนดอาชีพและตำแหน่ง เช่น งานก่อสร้าง, เพาะปลูก หรือเกษตรกรรม พนักงานขายเดินตลาด, พนักงานประจำที่, อาชีพทางด้านบริการ บันเทิง การช่าง งานฝีมือ และอื่นๆ ที่กล่าวมาแต่ละอย่างนั้น มีดาวประจำแตกต่างกันไปทั้งสิ้น และที่สำคัญก็คือ ดาวดังกล่าวให้คุณกับตัวเราหรือไม่ ถ้าดาวกำเนิด (ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว) บอกว่าดาวนั้นไม่ให้คุณ ต่อให้มีความพร้อมอยางไร ผลลัพท์ออกมาย่อมมีโอกาสที่จะได้ไม่คุ้มเสีย ย่อมเป็นที่ไม่พอใจต่อเจ้าชะตานั้น
เรื่องต่อมาคือจุดรับเงิน ซึ่งการรับเงินนั้นอยู่ที่ดาวพฤหัสเป็นตัวหลัก ส่วนดาวศุกร์, จันทร์, โครโนส หรือ อาพอลลอน เป็นตัวรองหรือตัวประกอบเพื่อเสริมดาวพฤหัส ว่าเงินที่รับนั้น รับมาในสภาพอย่างไร ส่วนจุดล้มละลายที่ยกมาเป็นหัวงข้อในบทความนี้นั้น ก็คือเรื่องตรงข้ามกับจุดรับเงินนั่นเอง มีจุดบาปเคราะห์ (ดาวที่ให้โทษ) มามีอิทธิพลกับจุดรับเงินได้แก่ ดาวเสาร์, ดาวมฤตยู, ดาวเนปจูน, ฮาเดส และ แอตเมตอส เข้ามาในจังหวะพื้นดวงกำเนิด หรือดาวจรเข้ามากระทบดาวกำเนิด ซึ่งจะยังผลให้มีเรื่องที่ไม่สำเร็จทางการลงทุน ทำให้การลงทุนที่กระทำในช่วงเวลานั้นเจ๊งไม่เป็นท่า ที่สำคัญก้คือ พลาดครั้งเดียวอาจมีผลกระทบกับชีวิตอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง ซึ่งมีท่าให้เห็นอยู่นทุกบ่อยจากประสบการณ์ของแต่ละคน ดาวเสาร์จะให้ผลในทางอุปสรรค จุดขัดข้องต่างๆ ทำให้ไม่คล่องตัว หรือแบกภาระเกินความจำเป็น หรือล้มเหลว ดาวมฤตยู
ถ้าไปผสมกับดาวอื่นเช่นอังคาร จะทำให้มีอุบัติเหตุที่ไม่ได้คาดฝันเกิดขึ้นในงานนั้น ซึ่งแน่นอนเหตุการณ์เช่นนั้นย่อมไม่เป็นที่พึงประสงค์นัก เพราะหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ดาวเนปจูน หมายถึงการถูกโกง ถูกหลอกลวง หรือการเลินเล่อใช้เงินไปผิดประเภท และการหมุนเงินไม่ทัน รวมทั้งการผิดสัญญาต่างๆ ดาวฮาเดส หมายถึง ถูกรีดไถ ถูกกลั่นแกล้ง หรือผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลาย รวมทั้งสิ่งต่างๆ ที่น่ารังเกียจทั้งหลาย ส่วนดาว แอตเมตอส จะหมายถึง การถูกดอง และภาระเรื่องการล่าช้าไม่ทันกาล อืดอาด ควาไม่คล่องตัว ปัจจัยแต่ละอย่างที่ยกมากล่าวข้างต้น เป็นผลให้เกิดตัวแปรทำให้โครงการเราที่ลงทุนไปมีผลทางติดลบทั้งนั้น และที่สำคัญ สิ่งเหล่านี้มีติดตัวอยู่ทุกคน เพราะดวงกำเนิดมีดาวเท่ากัน แต่จะแสดงผลช่วงไหนเท่านั้น
ถ้าเป็นช่วงที่เราลงทุนก็หมายถึงการเจ๊งนั่นเอง เพราะเมื่อปัจจัยเหล่านี้แสดงผลออกมาจะทำให้เราประมาท ใจร้อน ผลีผลาม มุทะลุ ไม่สุขุม หรือต้องตั้งรับกับปัญหาทั้งหลายที่ประเดประดังถาโถมกันเข้ามาจนไม่มีกระจิตกระใจทำงานให้บรรลุตามโครงการได้ นักลงทุนที่รอคอยจึงไม่ควรมองข้ามจังหวะของดวงดาว เพราะเรื่องอย่างนี้ถ้าใครไม่รู้ โอกาสเสียเปรียบย่อมเกิดขึ้นได้ ทั้งๆ ที่เราว่าเรารอบคอบแล้วก็ตาม
สรุปก็คือการลงทุนน่ะ ใช้เงินเยอะ ถ้าตรวจปัจจัยให้รอบด้านก็จะเป็นการดีกว่า...ภาษิตจีนเขาจึงมีอยู่ว่า คนดวงดีขายขี้ก็รวย .. คนดวงซวยขายทองก็ยังเจ๊ง
( เล่าประสบการณ์ของคุณให้เรามั่งสิ : กระดานโหรา )