ReadyPlanet.com
dot
dot
เนื้อหาสาระ
dot
bulletเจตนารมณ์
bulletจากใจผู้จัดทำ
bulletส่องฟ้าฝ่ากระแสดาว
dot
ภาควิชาการ
dot
bulletสากลยูเรเนียนสัมพันธ์
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม1
bulletวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยาม 2
dot
บทความน่าอ่าน
dot
bulletคานทองนิเวศม์
bulletดวงเมียน้อย
bulletรสนิยมรักกับดวงชะตา
bulletอาจารย์ขา!แฟนหนูเป็นเกย์?!
bulletเรื่องอย่างว่า!!เอ๊ะยังไงกัน?
bulletเมื่อไหร่จะขายออกซะที?
bulletใครเอ่ย?เนื้อคู่คุณ..
bulletจุดรับเงินคุณเป็นอย่างไร?
bulletจุดล้มละลาย
bulletเพ่งดวงลูกน้อง
bulletเบอร์ฮัลโหลกับโหราศาสตร์
bulletเมื่อไหร่จะถูกหวย??
bulletงานสมพงษ์
bulletปั้นดินให้เป็นดาว
bulletถูกดองตำแหน่งหรือแป๊กขั้น
bulletทำอย่างไรให้ขายดี!!
bulletวิ่งให้ถูกเส้น ทำอย่างไร?
bulletจับงานใหญ่ต้องใช้ฤกษ์
bulletเอาฤกษ์เอาชัย
bulletลางสังหรณ์พารวย
bulletดวงผิดเพศ
bulletสัมผัสที่ 6
bulletคนเห็นผี
bulletคนตกยุค
bulletดวงดาวกับปัญหาสายตา
bulletศัลยกรรมใบหน้ากับโหราฯ
bulletต้นไม้เสี่ยงทาย
bulletสะเดาะเคราะห์ทำได้จริงหรือ?
bulletเทียนอาถรรพณ์
bulletพระเกตุ ดาวทิพย์แห่งโหรสยาม
bulletบทความ อจ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย
bulletมุมสัมพันธ์ระหว่างดาว
bulletเรือนชะตาจันทร์
bulletดาวไร้สัมพันธ์
bulletเว็บไซด์โหราฯ ที่น่าสนใจ
bulletธุรกิจ " หมอดู "
bulletตรวจสุขภาพด้วยโหราฯ
bulletกลุ่มโหราพารวย
bulletกลุ่มโหราหารัก
bulletกลุ่มโหราพารุ่ง
bulletโหราพาสนุก
bulletกลุ่มโหราพาสยอง
bulletกลุ่มโหราอาถรรพณเวทย์
bulletกลุ่มโหราสุขภาพ
bulletอาลัยพี่กุ้ง " กิตติคุณ เชียรสงค์ "
bulletกลุ่มสืบจากดวง
bulletกลุ่มโหราพยากรณ์
bulletกิจกรรมโหรา ' Sky Clock '
bulletท่านปัญญานันทะ
bulletอาลัยอาปื้ด ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา
bulletจิ๊กซอร์ของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletสะเดาะเคราะห์แก้อาการเซ็ง
bulletสืบจากศพ..ทำไมถึงตาย
bulletอุตุโหราฯ
bulletไซโคลนนากรีส
bulletรอยสักสยองขวัญ
bulletบทความ "ระวังยูเรเนียน " ..โดย จรัญ พิกุล
bulletจังหวะฟ้ากับการนั่งสมาธิ
bulletพายุเฮอริเคน IKE
bulletอาลัยท่าน Udo Rudolph
bulletเสน่ห์มหานิยมจากริงโทนรอสาย
bulletรสนิยมเรื่องอย่างว่ากับอาหารการกิน
bulletเรื่องของไฝกับไอ้นั่น
bulletเรื่องของ ขน โลมา และอารมณ์
bulletยาโป๊วกับโหราศาสตร์
bulletของแสลงผิดสำแดงอารมณ์เพศ
bulletอาลัยพญาอินทรีแห่งวงการน้ำหมึก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
bulletสะดือกับการพยากรณ์
bulletกรณีศึกษาการกลับชาติมาเกิด
bulletสยามยามวิกฤติ ตอนที่ 1
bulletรุจน์ รณภพ ดาราเจ้าบทบาท
bulletโหราจารย์มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล ... ดวงครูที่น่าศึกษา
bullet...
bulletอีรีส (Eris )เทพเจ้าแห่งความขัดแย้งวุ่นวาย
bullet หลักวิธีการแก้กรรมในระบบโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bullet100 ปี พระพุทธเจ้าหลวงกับดาวหางฮัลเลย์
bulletโหราสาธยาย
bulletโหราศาสตร์คืออะไร
bulletสารบัญ
bulletประวัติและความเป็นมาของวิชาโหราศาสตร์
bulletปรัชญาในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์
bulletจุดลากรองจ์ (Lagrange Point )
bulletการหาเวลาเกิด ตำรับโหรจรัญ พิกุล
bulletAnalemma อาถรรพณ์แห่งเส้นสุริยวิถีกับโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน
bulletหลักสูตรโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนระบบจานสองชั้น 80 ชั่วโมง




สืบจากดวง-ชีวประวัติกับงานทางโหราศาสตร์ของญาณ article

ท่านปรมาจารย์ในวัยหนุ่ม ช่วงค้นคว้าบุกเบิกงานโหราศาสตร์สากล ท่านวิจารณ์ดวงของเพื่อนรักท่านคนหนึ่งเอาไว้อย่างน่าอ่านในเชิงโหราศาสตร์...

ชีวประวัติกับงานทางโหราศาสตร์ของญาณ

ท่านผู้อ่านที่รัก ถ้าท่านเป็นผู้ได้เรียนรู้ในวิชาโหราศาสตร์พอสมควร ท่านจะต้องยอมรับนับถือ หรือเห็นด้วยกับข้าพเจ้า ว่า ดวงดาวอันเป็นผลของการค้นคว้าทางวิชาโหราศาสตร์นี่เองได้แสดงให้เราเห็นว่า คนเรานั้นมีกรรมเป็นของตน และเกือบ จะกล่าวได้ว่าทุกคนมีพรหมลิขิต อันได้ขีดเส้นมาแต่เกิด ทั้งนี้ข้าพเจ้ายินดีที่จะชี้ให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายเห็นว่า เท่าที่ข้าพเจ้า กล่าวมานี้เป็นความจริง เพราะจากการวิเคราะห์ดวงชตากำเนิดของผู้ให้กำเนิด นามปากกว่าว่า ญาณ นั้น ท่านจะเห็นว่า (โปรดดูรูปดวงชตา)ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวสำคัญที่สุดในดวงชตากำเนิด อันหมายถึงตัวอัตตาที่แท้ได้ตั้งอยู่ในจังหวะสัมพันธ์ ที่เป็นตรีโกณฑ์(120 องศา) ร่วมธาตุกับดาวยูเรนัส (มฤตยู) อยู่ในราศีธาตุดินอย่างใกล้ชิดองศาที่สุด และด้วยตำแหน่งของ ดาวคู่นี้เองจึงทำให้ท่านผู้ก่อกำเนิด นามปากกาข้างบนนี้ไม่สามารถที่จะหลีกพ้นอำนาจลึกลับจากดวงดาวได้ ทั้งๆ ที่ท่านเจ้า ของนามปากกานี้ ก็ได้พยายามอย่างที่สุดที่จะเลิกเกี่ยวข้องกับวิชาโหราศาสตร์ โดยสิ้นเชิงมาหลายครั้งแล้ว
 
แต่อนิจ
พระท่านว่ากรรมย่อมหนี กรรมไม่พ้นฉันใด ท่านเจ้าของนามปากกานี้ก็หนีพรหมลิขิต อิทธิพลจากดวงดาวไม่พ้นฉันนั้น ดังที่ข้าพเจ้าจะได้เล่าชีวะประวัติของท่านผู้นี้ประกอบกับการวิเคราะห์ชตาของข้าพเจ้าตามหลักโหราศาสตร์สากล ท่านผู้นี้มีบทบาทลีลาแห่งชีวิตเป็นมาอย่างไร จึงได้เป็นผู้หนึ่งที่มีชื่อเสียงทางงานโหราศาสตร์มาจนทุกวันนี้ ชื่อเดิมของท่าน ผู้นี้คือ บุญช่วย เป็นนักเรียนอัสสัมชัญ รุ่น คุณซิม วีระไวทยะ ในการศึกษาของเขา เขารับตำแหน่งที่สองรองคุณซิมเรื่อยมาใน ชั้น แม้ว่าอายุของเขาจะน้อยกว่าก็ตาม เขาออกจากโรงเรียนเมื่อ พ.ศ.2466 และได้เข้าทำงานในบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทของชาวต่างประเทศในพ.ศ.นั้น

และออกเมื่อพ.ศ.2471 เมื่อไปดูในดวงชตาของเขา จะเห็นว่าในระยะเวลาที่เริ่ม ทำงานครั้งแรกนี้พระจันทร์จร (โประเกรส์ต) กำลังโคจรอยู่ในภพสูงคือภพที่สิบอันหมายถึงหน้าที่การงาน พระอาทิตย์อยู่ใน ตรียางค์ที่สามของราศีพฤษภซึ่งมีดาวเสาร์เป็นเจ้าของตรียางค์ราศีนี้ ขอให้ผู้อ่านพึงพิจารณาลงไปอีกชั้นหนึ่งว่า ดาวเสาร์ของ เขาอยู่ในราศีมีน (ธาตุน้ำ) ได้จังหวะสัมพันธ์กับดาวเน็ปจูนกำเนิด (ดาวเคราะห์แห่งน้ำมัน) จึงมิน่าสงสัยเลยว่าชีวิตงานของเขา ครั้งนั้นจึงเกี่ยวแก่บริษัทน้ำมัน จากงานบริษัทน้ำมันเขาได้เข้เาป็นเสมียนอยู่ในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในขณะนั้นตั้งอยู่ใน สนามกีฬาแห่งชาติ ออกจากมหาวิทยาลัย เขาได้เข้าไปทำงานอยู่ในกรมรถไฟแผนกพัศดุ ซึ่งมีฝรั่งเป็นผู้ควบคุม ตอนนี้ท่าน ผู้อ่านจะเห็นว่าวิถีชีวิตของเขาได้ผ่านงานของ ดาวพฤหัส และยูเรนัสเข้าแล้ว จากนั้นดวงดาวก็ได้บีบบังคับให้เขาเข้าอุปสมบท ตอนนี้พระจันทร์จร (โปรเกรส์ต) ได้ผ่านลัคนาแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของชีวิต เขาได้อุปสมบท ณ พัทสีมาแห่งยานนาวา เมื่อพ.ศ.2473

ที่นั้นเองดวงดาวก็เริ่มสำแดงอิทธิพลยิ่งขึ้น ซึ่งข้าพเจ้าจะขอเล่าเบื้องต้นแห่งความบีบบังคับของดวงดาวของ เขา อันได้ก่อให้เกิดนามปากกา ญาณ อย่างไรดังต่อไปนี้ เมื่อเขาได้เข้าอุปสมบท ณ สำนักวัดยานนาวานี้ เขาก็ได้เริ่มสนใจกับ พระวินัยและหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด ซึ่งในปีนั้นเองเขาก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ด้วยความสนใจ ในความลึกลับโดยทั่วๆ ไป ซึ่งมีอยู่ในนิสัยของเขา (ยเรนัสกุมลัคนาตรีโกณฑ์อาทิตย์ธาตุดิน)เมื่อออกพรรษาแล้วเขาก็เริ่ม ธุดงค์ไปนมัสการพระพุทธบาทที่จ.ว.สระบุรี เขาได้พบพระภิกษุอาวุโสรูปหนึ่งซึ่งมีนามว่าอาจารย์ผล มาปักกลดอยู่ใกล้ๆ กับเขา พร้อมด้วยบริวารประมาณสิบกว่ารูป เมื่อเขาได้เข้าไปสนทนาปราศรัยกับท่าน อาจารย์ผู้นั้นก็เกิดความเลื่อมใสที่จะ ขอติดตามท่านเดินธุดงค์ไปนมัสการพระแท่นตรัง เมื่อท่านอาจารย์ผู้นั้นอนุญาตให้ร่วมเดินทางไปกับท่านด้วยแล้ว ในวันต่อ มา เขาก็ได้ออกเดินทางร่วมไปกับพระอาจารย์ผู้นั้น ซึ่งทุกคนจะต้องมีระเบียบข้อปฏิบัติโดยยืน เดิน นั่ง นอนด้วยคำภาวนา ว่า อรหงสุขโคภควา พร้อมด้วยการเดินทางด้วยการกลดตลอดเวลาที่เดินทาง เมื่อกลับจากธุดงค์แล้วเขาก็กลายเป็นนักสมถะ ที่เคร่งต่อการภาวนาทั้งยืนเดินและนั่งนอน จากการเคร่งภาวนาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ก็ปรากฎว่าเขามีวิถีจิต สามารถ ที่จะบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำถูกต้อง โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เรื่องมาก่อน

เช่นวันหนึ่งขณะที่เขากำลังนอกอ่านตำราลายมือ เพลินอยู่นั้น ก็มีผู้คุ้นเคยคนหนึ่งเข้ามาทักว่า หลวงพี่อ่านตำราอะไร เขาตอบว่า อ่นตำราลายมือ ผู้นั้นสัพยอกต่อไปอีกว่า อ้อ หลวงพี่เป็นหมอดูลายมือหรือ งั้นผมอยากทราบว่าเมื่อเช้านี้พี่สาวของผมหายไปจากบ้านไม่รู้ว่าไปไหน หลวงพี่ลองทายซิ ว่าเมื่อไหร่พี่สาวของผมจะกลับ เขาจับมือของบุคคลผู้นั้นขึ้นดู ทันทีก็ตอบออกไปอย่างรวดเร็วว่า พี่สาวของคุณออก ไปอยู่บ้าน ญาติฝั่งโน้นแน่ พร้อมกับชี้มือไปยังฝั่งตรงข้ามกับวัดยานนาวา และพูดต่อไปอีกว่า ไม่ต้องตกใจบ่ายสี่โมง เขาจะกลับมาเอง ซึ่งทำให้ชายผู้นั้นหัวเราะด้วยความไม่เชื่อ แต่แล้วในเวลาเย็นวันนั้นเอง คือเวลาบ่ายสี่โมงตรงตามคำทำนาย พี่สาวของชาย ผู้นั้นก็ได้กลับมาตามคำพยากรณ์ของเขา นี่เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เขากลายเป็นหมอดู ด้วยคำทำนายที่ได้ให้แก่ชายผู้นั้น ทำให้กิติศัพท์แห่งการทายแม่นของเขาเลื่องลือไปเรื่อยๆ เขาได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า การดูลายมือของเขาในเวลานั้น เขามีความรู้น้อยเหลือเกิน แต่ทำไมเขาจึงทำนายได้แม่นยำเหลือเชื่อ ซึ่งเขาเองก็สารภาพว่าไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน เขารู้แต่เพียงว่าได้เกิดญาณดลใจขึ้นในหัวใจของเขาในเวลาที่ดูลายือของผู้ที่มาให้ทำนาย และด้วยความแม่นยำจากญาณนี้เอง เขาจึงกลายเป็นหมอดูที่มีชื่อดังในยุคนั้น และนามปากกาคำว่า ญาณ ก็ได้แพร่หลายออกไป

แต่แล้วในเวลาต่อๆ มาความแม่นยำทางลายมือก็ค่อยๆ เสื่อมไป ในที่สุดเขาจึงหันมาเล่นวิชาทางโหราศาสตร์ ด้วย การเริ่มหัดผูกดวงชตาตามแบบโหราศาสตร์ไทย กับอาจารย์เชยหมอดูแห่งวัดสวนพลู เขาเริ่มทำการค้นคว้าจนอาจารย์ ส่ายหน้าบอกหมดความรู้แล้ว ขณะที่ทำการค้นคว้าในงานทางโหราศาสตร์นั้น เสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆก็ยิ่งทำให้ผู้คนที่มี ความสนใจในคำพยากรณ์มาหาเขาทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จะกระทั่งสมภารแห่งวัดนั้นต้องใช้ไม้ขอนวาง เป็นเครื่อง กีดขวางทางรถยนต์ที่วิ่งไปยังกุฏิเขา ได้มีผู้แทนราษฎร นายทหาร ข้าราชการ พ่อค้า นักการเมือง ได้แล่นรถเข้าไปขอคำ ทำนายในเวลาวิกาลเสมอ จนเป็นเหตุให้ร้อนถึงทางการตำรวจส่งคนเข้าไปปะปนด้อมๆ มองๆ เพื่อจะจ้องจับผิดเกี่ยวกับ การเมือง ซึ่งในเวลานั้นเมืองไทยกำลังเป็นศตวรรษใหม่แห่งการปฏิวัติ ซึ่งเราเรียกกันว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ระบบสมบูรณายาสิทธิราชย์มาเป็นระอบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติอันใดเกิดขึ้นแก่เขา เพราะเขาไม่สนใจกับ การเมือง เขาได้บวชเป็นพระอยู่ถึง 7 ปีตามอำนาจของดาวยูเรนัสที่มีอายุโคจรในราศีหนึ่งๆ ราศีละ 7 ปี ระยะเวลา 7 ปีแห่ง การเป็นพระนี้ ในดวงชตาจร (โปรเกรส์ต) มีดาวพุธได้มุมตรีโกณกับดาวยูเรนัส ซึ่งทำให้เขาเริ่มงานทางการพยากรณ์ และ โหราศาตร์ และมีดาวพุธดวงเดียวกันนี้ได้มุม 60 องศากับดาวเน็ปจูนอันก่อให้เกิด ญาณดลใจ และในเวลานั้นดาว ยูเรนัสจรประจำปี (ทรานสิต) โคจรอยู่ในราศีพฤษภเป็นตรีโกณกับดาวยูเรนัสกำเนิดของเขา ในฐานะที่เขามีดาวพฤหัส (ศาสนา) เป็นตรโกณห่างๆ แก่กันในชตากำเนิด ยังได้ทำให้เขาเป็นนักปฏิรูปที่มีชื่อแหวกแนวอีกด้วย

กล่าวคือในเวลาที่เขาอุปสมบทนั้น เขากับคณะของเขาได้ทำการปฏิสังขรณ์ศาสนาขึ้นใหม่ ซึ่งได้ทำให้วงการศาสนาเกิดอลเวงกันขึ้นอย่างขนานใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2476 เป็นเหตุให้ร้อนถึงสภาผู้เทนนำเรื่องเข้าสู่สภา และผลของการปฏิสังขรณ์ครั้งนั้น จึงได้ทำให้เกิดมีสังฆสภา มหาวิทยาลัยสงฆ์ในเวลาต่อมา หลังจากดวงดาวได้บังคับให้เขาเป็นหมอดูจริงจังเพราะอิทธิพลจากดาวยูเรนัสทั้งดางดวงจร และทรานสิตขึ้นแล้ว ต่อมาดวงดาวก็ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของเขาจากเพศบรรพชิตออกมาต่อสู้กับโลกเยี่ยงสามัญชนทั้งหลายอีก ต่อไป ปีนั้นพระจันทร์จร (โปรเกรส์ต) ในดวงของเขาเริ่มเข้าสู่เรือนทวารแห่งภพที่ 4 อันแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงชีวิตอีก ครั้งหนึ่ง ถ้าผู้อ่านสังเกตุให้ดีจะเห็นได้ว่าพระจันทร์จรของเขาทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่โคจรผ่านเรือนมุมเช่นภพสิบ เขาทำงาน กุมลัคน์บวช ลงภพสี่สึก ประกอบกับปีนั้นดาวศุกร์เจ้าของราศีที่พระอาทิตย์ของเขาสถิตอยู่โคจรเขาสู่ราศีใหม่ ชีวิตของเขาจึงได้ผันแปรเปลี่ยนแปลง เขาได้ออกมาต่อสู้กับโลกแห่งความวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง ด้วยตัวเปล่าที่ปราศจากงาน และเงิน เขาวิ่งหางานทำด้วยวิชาความรู้ทางภาษาอังกฤษและภาษาไทย ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้ทำงานในบริษัทเดินอากาศ ด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชี แต่แล้วด้วยญาติภรรยา ซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ซึ่งอยู่ในกรมเชื้อเพลิงก็ได้ชักชวนให้เขา เข้ามาทำงานในกรมเชื้อเพลิง ซึ่ง ณ ที่นี้เอง เขาได้มีหน้าที่ประจำอยู่ในกรมนี้ถึง 5 ปี จนกระทั่งกรมเชื้อเพลิงได้เลิกล้มไป

เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ในระหว่างที่เขาทำงานอยู่ในกรมเชื้อเพลิงนั่นเอง เขาได้พยายามที่จะสลัดวิชา โหราศาสตร์ไปให้พ้นจากตัวเขาให้สิ้นเชิง โดยเหตุที่เขารู้สึกไม่สะดวกใจเป็นอย่างมากที่ใครๆก็มักและพากันเรียกเขาว่า คุณหมอ มากกว่าที่จะเรียกชื่อเดิมของเขา เขาได้ใช้ชีวิตไปตามอำนาจของกลุ่มดาวในราศีพฤษภ (ซึ่งมีดาวพุธ อาทิตย์ ศุกร์
พฤหัส อยู่ในราศีเดียวกัน) อันเป็นราศีแห่งดาวศุกร์ เจ้าแห่งความสนุกสนานเพลิดเพลินการเงินทั้งหลายทั้งปวง เขาได้เริ่มเข้าสโมสร เข้าสังคม หัดเต้นรำ และแล้วในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักเต้นรำผู้หนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็ถูกดวงดาว บีบบังคับให้พักผ่อน โดยที่กรมเชื้อเพลิงต้องถูกโอนไปอยู่ในอำนาจของบริษัทตามเดิม และจากนั้น (พ.ศ.2489) พระจันทร์จร (โปรเกรส์ต) ก็ได้โคจรเข้าสู่เรือนมุม คือด้านซีกเล็งลัคน์ ชีวิตเปลี่ยน เขาก็ได้เริ่มเจ็ย สุขภาพไม่สมบูรณ์เรื่อยมา และด้วย ชตากรรมของเขา ที่ไม่สามารถสลัดวิชาโหราศาสตร์ออกไปให้พ้นเขาก็ต้องจับงานทางโหราศาสตร์อีกต่อไป เวลานั้นดาว เสาร์และดาวยูเรนัสจรกำลังเป็นโยค 60 องศาแก่กัน ซึ่งทำให้เขาเริ่มชีวิตทางโหราศาสตร์และเจริญรุดหน้ายิ่งกว่าครั้งก่อน ดังที่ข้าพเจ้าจะได้เล่าจากปากคำของเขาต่อไป วันนั้น เป็นวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2490 พระจันทร์ในวันนั้นโคจรอยู่ใน ราศีมีน ราศีแห่งวิชาลี้ลับ ข้าพเจ้าได้ไปรู้จักกับเขาเป็นครั้งแรก และในเวลาต่อมา เราก็ได้ร่วมงานในการค้นคว้าวิชา โหราศาสตร์ด้วยกันอย่างจริงจังประมาณหนึ่งปีเขาก็ต้องแยกย้าย ไปตามอิทธิพลดวงดาวที่บีบบังคับให้เขาด้องเป็นไป

ในระหว่างที่เขาได้จากข้าพเจ้าไปนั้น ข้าพเจ้าได้ทราบว่าเขาได้พบ วิกฤติกาล แห่งชตาชีวิตอย่างร้ายแรงในชีวิต ภรรยาอันเป็นสุดที่รักของเขาได้จากไปด้วยการสะเทือนใจอย่างร้ายแรงที่สุด และตัวเขาเองก็ถูกโรคภัยเบียดเบียฬจนเกือบ จะเอาชีวิตไม่รอด เขาได้เล่าต่อไปอีกว่า หากเขาไม่มีความรู้ทางวิชาโหราศาสตร์ และได้ลูบคลำมากับโชคชตาผู้คนเป็นอัน มากแล้ว ชีวิตของเขาในตอนนั้นคงจะต้องมีอันเป็นไปอย่างแน่นอน เพราะไหนภรรยาที่รักจะได้ทิ้งรอยแผลอันแสนจะระทม ขมขื่นไว้ให้แก่เขาแล้ว เขายังไม่มีสถานที่ๆจะพำนักอาศัย ซ้ำเงินทองก็ไม่มีจะใช้งานไม่มีทำ สุขภาพก็ทรุดโทรม เขาระเห เร่ร่อนอยู่เป็นเวลาถึง 5 ปี และด้วยวิชาโหราศาสตร์ที่ได้ติดตัวเขามาโดยบังเอิญนี้เอง ได้ทำให้ประชาชนผู้รู้จักมักคุ้นกับเขา ได้ติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง โยกย้ายไม่น้อยกว่า 11 แห่ง ในระยะเวลา 5 ปี เขาไม่เคยโฆษณาตัวเขาเองในหน้าหนังสือ พิมพ์ใดๆเลย ทุกครั้งที่เขาได้ย้ายสถานที่เขาได้ย้ายไปอย่างเงียบๆ เพราะเขารู้สึกภายในสภาพของเขาซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคย โอ่อ่าหรูหราอยู่ในวงสังคมซึ่งทุกหนทุกแห่งมักจะเรียกเขาว่า คุณญาณ เสมอ ในเมื่อเขาย่างก้าวเข้าไปในสถานลีลาสอัน ฟุ้งเฟ้อไปด้วยกลิ่นไอของอารยะประเทศสมัยใหม่ซึ่งเป็นสังคมที่ถือกันว่า สูงด้วยเกียรติ เขาหลบซ่อนตัว เกลือกกลั้วอยู่ด้วยการค้นคว้าทางวิชาโหราศาสตร์จากโหรไทยมาแบบอินเดียและ จากแบบอินเดียมาเป็นโหราศาสตร์สากลจนทุกวันนี้ ซึ่งความรู้ทางโหราศาสตร์ของเขาเป็นเสมือนหนึ่งเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ ทั้งๆ ที่สายตาทุกคู่ต่างมองดูเขาด้วยอาการอันหมดหวัง

เขาคร่ำเคร่งกับวิชาโหราศาสตร์ทั้งกลางวันและกลางคืน จากบทเรียน แห่งชีวิตของเขาเองจากบทเรียนแห่งชีวิตของผู้ที่มาให้พยากรณ์ จากการไม่ยอมงมงายและเชื่ออย่างผิดๆ ในที่สุดเขาก็ได้ ค้นพบความจริงในวิชาโหราศาสตร์อย่างมากมาย จะทำให้การทำนายของเขาเป็นที่เลื่องลือ ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้รับรางวัลใน การศึกษาค้นคว้าของเขาอย่างเป็นที่พอใจยิ่ง คือได้ทำนายคหบดีผู้หนึ่งว่าเขาจะประสบโชคและสำเร็จในทางการเงินเป็น จำนวนมาก และแล้วในคำทำนายนั้น ก็ปรากฎเป็นความจริงและเขาก็ได้รับรางวัลอย่างที่ไม่เคยได้รับในชีวิต ซึ่งแน่ละเงิน จำนวนนั้นไม่น้อยกว่าเลข 5 ตัว ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้ตรงข้ามกับคำทำนายครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง คือได้ให้คำทำนาย แก่บุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้หนึ่งในการทำรัฐประหารจนเป็นผลสำเร็จ แต่ครั้งนี้เขาก็ได้รับแต่ความผิดหวังและความกลับกลอก อย่างระทมขมขื่น แม้แต่ยารักษาโรคเพียงแต่เม็ดเดียวก็ไม่ได้รับเลย นี่แหละคือสภาพหมอดูซึ่งเขาถือว่าเป็นเรือจ้าง เป็นผู้ให้ ความหวังตรวจอนาคต ให้กำลังใจบุคคลได้รู้จังหวะแห่งความสำเร็จ เขาเห็นหมอดูมีความสำคัญก็ต่อเมื่อมีความเดือดร้อน ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าเมืองไทยปราศจากเสียซึ่งหมอดูแล้ว คงอาจจะมีคนที่บ้าคลั่ง เพราะหาที่ระบายความกลัดกลุ้มและและ ความไม่มีที่หวังในอนาคตเต็มบ้านเต็มเมืองเป็นแน่! อีกเรื่องหนึ่ง เขาได้ทำนายเพื่อนข้าราชการเก่าของเขาคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเตะฝุ่นฟุ้งตลบไป เขาทำนายว่าจะได้รับ ความสำเร็จกลับเข้าทำงานอีกครั้งหนึ่ง และแล้วท่านผู้มีโชคชตาที่กลับเป็นผู้ดีนั้นก็ได้เข้าทำงานจริงสมดังคำทำนาย และตรงกับวันที่ที่เขาทำนายไว้ด้วย เดี๋ยวนี้ท่านนั้นกำลังยิ่งใหญ่ขึ้นๆ ไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นหมอดูเป็นเรือจ้างแห่งชีวิต อยู่นั่นเอง

ในวงการงานโหราศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้วิชานี้เฟื่องฟุ้งก็คือ เขาได้เป็นคนแรกในการเขียนคำทำนาย (12 ราศี) ในหน้าหนังสือพิมพ์อันเป็นวิธีพยากรณ์แบบใหม่ที่สุด ซึ่งกำลังแพร่หลายอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ อยู่ทุกวันนี้ คือการ ทำนายรายสัปดาห์ หนังสือพิมพ์ที่นำหน้าริเริ่มและพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะการทำนายแบบนี้คือ รัตนโกสินทร์ รายสัปดาห์ ซึ่งจากการขายอาทิตย์ละ 500 ฉบับ เป็นสัปดาห์ละหมื่นฉบับ แน่ละถึงแม้หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่เพียงแต่จะก้าวรุ่งโรจน์เพราะ เพียงแต่เขาคนเดียวก็ตาม แต่เขาก็เป็นคนแรกที่ได้เข้าไปมีส่วนช่วยในกิจการของหนังสือพิมพ์ให้ยืนหยัดอยู่ได้ก่อนที่มัน จะพบจุดจบของมันเอง และด้วยความยืนหยัดนี่เองจึงได้ทำให้เกิดการปรับปรุงขึ้น และแล้วก็ได้มีนักเขียนที่มีชื่ออีกหลาย ท่านได้เข้ามาร่วงานกันสร้างหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ให้รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น แต่อนิจา เขากล่าว เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนักซึ่งในขณะที่ผู้ ร่วมงานทุกคนกำลังขมักเขม้นที่จะสร้างให้หนังสือฉบับนี้ให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองต่อไป ก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาโดยที่เกิดมีการ ท้อแท้ในการงานภายใน ซึ่งเป็นเรื่องลับเฉพาะที่เขาไม่อาจจะเล่าให้ข้าพเจ้าฟังได้ ในที่สุดหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นซึ่งกำลังนำ หน้าหนังสือพิมพ์อื่นๆอยู่ในเวลานั้น ก็ได้พบจุดจบของตัวเอง ท่ามกลางการเรียกร้องของผู้อ่านนับหมื่น แต่ทั้งนี้ก็มิได้พ้นไป จากคำทำนายของเขาอีกเช่นเดียวกัน ในเวลานั้นระจันทร์จร(โปรเกรส์ต) กำลังผ่านภพสูงแห่งดวงชตาเป็นครั้งที่สอ

ท่านผู้อ่านคงจำได้ว่าเมื่อพระจันทร์ผ่านภพสูงในดวงชตาของเขานั้น ตรงกับที่เขาออกจากโรงเรียนและเริ่มงานเป็นครั้งแรก หลังจากที่ รัตนโกสินทร์ เหลืออยู่แต่ชื่อไปแล้วเขาก็ได้สร้างความนิยม
จากประชาชน ด้วยการออกหนังสือคำทำนายชตาชีวิตรายปี (2496,97 และ 98) และในปีพ.ศ.2497
 นี่เองในขณะที่อาทิตย์จร (โปรเกรส์ต) ทำมุมกับดาวพฤหัสจร (30 องศา) หนังสือชตาชีวิตรายเดือนก็ได้อุบัติขึ้นอีก (สิงหาคม 2497) ซึ่งนิตยสารชตาชีวิตกำลังได้รับการเพ่งเล็งจากวงการโหรทั่วไปในฐานที่เป็นแนวใหม่ขอเขาอยู่อย่างเอาใจใส่ จนถึงกับมีบรรดาผู้รู้ชั้นดีแะก้าวหน้าทั่วไปวิจารณ์ว่านิตยสารชตาชีวิตของเขานี่แหละ จะเป็นเสมือนหนึ่งบันไดเชื่อมโยงโหราศาสตร์แบบตะวันตกและตะวันออกให้ก้าวหน้าไปสู่ขั้นที่เชื่อถือได้ และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนในอนาคต
ขณะนี้
เขากำลังจะวางมือเพื่อพักผ่อนต่องานอันเป็นที่รักยิ่งในชีวิตของเขา โดยที่เขาต้องทำงานหนักมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งได้ทำให้สุขภาพของเขาทรุดลงเป็นลำดับ และสายตาทั้งคู่ของเขาที่
เคยแสดงถึงความเอาจริงเอาจังและความเข้มแข็งในการ ต่อสู้กับอุปสรรคและชีวิตอันระทมขมขื่นที่ได้ผ่านมานั้น ก็กำลังมืดมัวลง จนในขณะนี้เขาไม่สามารถที่จะเขียนหรืออ่าน หนังสือได้เลย จึงนับว่าเขาเป็นผู้หนึ่งที่ได้สร้างงานทางโหราศาสตร์มาให้พวกเราซึ่งในโอกาสต่อๆ ไปย่อมไม่ต้องสงสัยเลย ว่าจะรุ่งเรืองสุกใสเทียมเท่าอารยะประเทศ

เขาเป็นนักโหราศาสตร์ผู้หนึ่งที่ได้สร้างงานทางโหราศาสตร์ให้เป็นปึกแผ่น และสร้างตัวเขาเองเป็นหลักเป็นฐานสมกับอัตตภาพของเขาด้วยวิชาโหราศาสตร์นี้ ขณะนี้ชื่อ ญาณ ของเขาเป็นเสมือน หนึ่งแพรดำของคุณหลวงสารานุประพันธ์ ไม่ว่าแห่งหนตำบลใดท่านจะพบว่า มีผู้ใช้นามปากกาเลียนแบบ โดยมีคำว่า ญาณปนอยู่ด้วยเสมอ ทั้งในพระนครและหัวเมือง จนไม่รู้ว่า ญาณ ตัวจริงนั้น คือใครกันแน่!
 
 



จรัญ พิกุล ปรมาจารย์โหรสากลแห่งสยามประเทศ

คำนิยม และบทความต่างๆของท่าน อ.จรัญ พิกุล article
มรดกโหร.จรัญ พิกุล article
ปรมาจารย์โหรยูเรเนียน article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.