ReadyPlanet.com


บทความ โหราจารย์มานิตย์ ดวงครูที่น่าศึกษา


        เมื่อคืนนี้ ( วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2553 ) ผมฝันถึงท่านโหราจารย์ มานิตย์   ธีรเวชชโรกุล โดยฝันว่าไปหาท่านที่ร้านขายยาบ้วนแช ปากซอยองครักษ์บางกระบือ กรุงเทพมหานคร ในฝันนั้นได้คุยกับท่านอาจารย์ เรื่องเล่นหุ้น เพราะเห็นท่านกำลังโทรสั่งขายหุ้นของท่าน  และยังคุยเรื่องพงศาวดาร ของรัชกาลต่างๆ ที่ท่านอาจารย์ได้เก็บสะสมไว้เป็นตั้งๆ   ในฝันนั้นก็เหมือนกับรู้ๆอยู่ว่าท่านเสียชีวิตแล้ว ท่านยังบอกกับผมว่า ท่านเดินจากบ้านบางกระบือไปฝั่งธนโดยข้ามสะพานซังฮี้ได้ไปกลับ แถมยังบอกว่าแข็งแรงแล้ว เรียกว่า ฝันกันเป็นเรื่องเป็นราว รู้สึกจะเป็นภาพสีซะอีกด้วย   ตำราโบราณทางเหนือท่านบอกว่า ถ้าฝันวันเสาร์ หมายถึงคืนวันเสาร์ เรื่องมักจะแรง   ซึ่งเท่าที่ผมมีประสบการณ์ในการสังเกตหลายครั้งแล้ว ก็มักจะเห็นว่ามีส่วน   ซึ่งมาคิดอีกทีไหนๆจะแรงเรื่องผีและคนตายแล้ว ในฐานะที่ท่านอาจารย์มานิตย์ ท่านเคยเป็นโหรใหญ่คนหนึ่งในยุคของท่าน ก็ขอให้มาแรงทางบทความโหราศาสตร์ก็แล้วกันครับ   พอตื่นเช้าขึ้นมานึกทบทวนดูแล้ว ก็ไปเปิดเว็บท่านอาจารย์โรจน์ จินตมาศ  http://www. rojn-info .com  อ่านบทความต่างๆที่ท่านอาจารย์โรจน์ ท่านเขียนถึงท่านอาจารย์มานิตย์ ทำให้ภาพต่างๆในอดีตที่ผมไปคลุกคลีอยู่กับท่านมา หวลกลับมาในความทรงจำได้มากมาย



ผู้ตั้งกระทู้ ภารต...แกะดวงครูโหร :: วันที่ลงประกาศ 2010-01-26 22:14:27 IP : 118.172.8.50


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (2028793)

อันซอยองครักษ์ บางกระบือนั้น คุณแม่ผมเดิมท่านมีนิวาสถานอยู่ในซอยนี้ ทำให้ผมมีวงศาคณาญาติอยู่ในซอยนี้มากนัก ตั้งแต่รุ่นก่อนเก่าไปมาหาสู่กันแลกครัวแลกกับข้าวกันประจำ ผมเลยถือโอกาสบังอาจทึกทักถือเอาเองได้ว่า ตนเองก็เป็นคนบางกระบือ ศรีย่านกับเขาเหมือนกัน เพราะอยู่มาแต่เล็กแต่น้อยสลับกับบ้านเกิดจริงที่วรจักร ซึ่งบ้านท่านอาจารย์มานิตย์ ความจริงเป็นร้านขายยาขนาดใหญ่หลายห้องชื่อ บ้วนแซ อยู่ปากซอยใกล้สี่แยกโรงเรียนราชินีบน   ตรงข้ามร้านท่านอาจารย์ก็ตรงกับ บ้านท่าน ศจ.ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ดนตรีไทยคนหนึ่งของเมืองสยามนี้ ที่ชื่อว่า ร้านพัฒนศิลป์ ขายเครื่องดนตรีไทยชนิดต่างๆ และเทปเพลงปี่พาทย์เครื่องสายดนตรีไทย ซึ่งท่านก็ได้ล่วงลับไปนานแล้วเช่นกัน โดยท่าน ศจ.ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ นั้น สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นนายกสมาคมสงเคราะห์สหายศิลปิน ซึ่งมีที่ทำการอยู่ที่วัดพระพิเรนทร์ วรจักร ท่านไปมาหาสู่ย่าน วรจักร บ้านบาตร บ้านพ่อครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ( ศร ศิลปะบรรเลง ) และท่านมักจะแวะเวียนมาที่วัดพระพิเรนทร์เป็นประจำ มาพูดมาคุยกับท่านพระครูกิตติญาณประยุต ( ประสม กิตติญาโณ ) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส อันว่า หลวงพ่อพระครูสม นั้น ท่านเป็นผู้กว้างขวางเป็นที่รู้จักกันดีในวงการศิลปิน ทั้งปี่พาทย์และลิเก ศิลปินคนไหนยุคนั้นใครจะเป็นจะตายตกทุกข์ได้ยากขาดแคลนอย่างไร มาหาหลวงพ่อสม ท่านจะเป็นธุระวิ่งเต้นบรรเทาความเดือดร้อน หาทางช่วยเหลือ แม้จะตายวายชนม์อนาถากันขนาดไหนก็ยังเป็นเจ้าภาพทำพิธีฌาปนกิจศพให้อย่างสมฐานะ เนื่องจากผมเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อพระครูสม ก็เลยรู้จักคอยนั่งฟังพวกรุ่นใหญ่เขาถกเรื่องดนตรีไทยกันที่กุฏิ คอยเสริฟน้ำ นวดเฟ้น บริการผ้าเย็น และของว่าง พวกผู้ใหญ่รุ่นนี้ ปัจจุบันกลายเป็นศิลปินแห่งชาติกันไปหลายท่านเหลือเกิน เช่น ครู บุญยัง เกตุคง ครูบุญยง เกตุคง ครูประสิทธิ ถาวร ครูจำเนียร ศรีไทยพันธ์ ครูโองการ กลีบชื่น ครู ทองใบ เรืองนนท์ พระภิกษุหอมหวน ปรมาจารย์ลิเกแห่งภาคกลาง ครูเต๊ก เสือสง่า ปรมาจารย์ลิเกสายอีสานหรือโคราช ฯลฯ ไหนจะพวกวงการศิลปินโขนอีกมากมายเหลือเกิน   

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เกริ่นนำเรื่องแบบว่าไปเรื่อย วันที่ตอบ 2010-01-26 22:19:43 IP : 118.172.8.50


ความคิดเห็นที่ 2 (2028796)

         เขียนไปแล้วก็เพลิน ลืมตัวว่าเขียนเรื่องโหรา กลับมาที่เรื่องท่านอาจารย์มานิตย์ กันต่อดีกว่าครับ ร้านท่านอาจารย์นั้นอยู่ปากซอยองครักษ์ เวลาไปหาต้องไปที่หน้าร้าน บอกคนขายยาหน้าร้านว่า มาหาอาจารย์เรื่องโปรแกรม แล้วเขาจะอินเตอร์คอมไปข้างบนว่า เฮียมีคนมาหา ซื้อโปรแกรม ซึ่งก็มักจะได้ยินเสียงตอบมาว่า เอ้อ เป็นแบบนี้แทบจะทุกทีตายตัวยังกับเป็นสูตรสำเร็จ หรือรหัสผ่านของสมาคมลับแนวอั้งยี่ แบบนวนิยายเล็บครุฑของ พนมเทียน ยังไงยังงั้นเชียว ยกเว้นท่านอาจารย์ไม่อยู่ออกไปข้างนอก   จากนั้นเราก็จะขึ้นบันไดแหวกทางเดินที่เต็มไปด้วยสุนัข และจานข้าวของสุนัขที่ผูกโว่ล่ามไว้ตามและกล่องรังจิปาถะเรียงรายอยู่ตามขั้น  จนแหวกขึ้นไปถึงที่ชั้นสองของร้าน อีกแยกหนึ่ง เข้าไปในห้องกระจกติดแอร์อันเป็นห้องทำงานของท่านอาจารย์ บรรยากาศในห้องของท่านอาจารย์นั้น เต็มไปด้วยหนังสือกล่องรังและถุงห่อ อบอวลไปด้วยความรู้ด้านฮาร์ตแวร์ซอฟแวร์อิรุงตุงนัง มีผนังที่ติดกระดานดวง 2 ชั้นหมุนได้ มีเป๊กสีแทนตำแหน่งดาว แบบเดียวกับสำนักบ้านท่านโหราจารย์จรัญ  พิกุล แต่สำนักท่านโหราจารย์จรัญ นั้น เป็นแนว Scholar ผู้ดีขุนนางแนวอังกฤษแต่ของท่านอาจารย์มานิตย์นั้น เป็นแนวห้องแล็บของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่เห็นในภาพยนตร์หลายๆเรื่องกันทีเดียว  ห้องทำงานแนวนี้ปัจจุบันที่นึกได้ก็คือ สำนักท่านอาจารย์ผดุง ผึ่งประเสริฐ ของเรานี่แหล่ะคับ เพียงแต่เปลี่ยนบริวารจากสุนัขเป็นแมว นี่เอง  สังเกตดูท่านอาจารย์โหราพวกนี้ท่านจะมีเมตตาธรรมสูงมาก  ซึ่งถ้าได้สนิทกันแล้วจะเฮฮา คุยไปถามไปเรียนกันไป ตักตวงความรู้โหราศาสตร์ แบบประยุกต์ นอกตำราหาฟังที่ไหนไม่ได้ ตามจริตของผู้สนใจ ซึ่งมานึกดูอีกทีบรรยากาศห้องทำงานผมที่ใช้ในปัจจุบันนี้ที่เชียงใหม่นั้น   ก็ออกจะคลับคล้ายสำนักท่านอาจารย์ไปซะทุกทีแล้ว  พอเขียนไปก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ให้ใจหายวาบเชียว สงสัยต้องรีบเคลียร์ของออกไปบ้าง   ช่วงนั้นผมสนใจเรื่องหาหวย ดูหุ้น และทีเด็ดเคล็ดลับในวิชายูเรเนียน ตอนนั้น เรื่องคอมพิวเตอร์ยังเป็นเรื่องไกลเกินใฝ่ฝัน เพราะยังเป็นแค่ รู้จักแค่แอปเปิ้ล ทูพลัส  ตอนสมัยเรียนโปรแกรมทำบัญชี  ส่วนเครื่องพีซีนั้น ยังใช้ระบบปฏิบัติการดอส ตอนนั้นราคา 4 หมื่นกว่า แพงเกินสติปัญญาจะซื้อจะหาสำหรับคนเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนดัง ที่ต้องดิ้นรนส่งเสียตนเองเรียนด้วยทำงานไปด้วยให้จบให้จงได้   แต่เราสนเพียงแค่เครื่องพ๊อกเก็ตคอมพิวเตอร์ สำหรับผูกดวง ทั้ง ดวงไทย สิบลัคน์และ ยูเรเนียน ซึ่งต้องใช้ในการพยากรณ์งานภาคสนาม เพราะขี้เกียจแบกกระเป๋าใส่ปฏิทินโหร  ของอาจารย์ทองเจือ  อ่างแก้ว  ที่มีหลายเล่ม ซึ่งตอนนั้นก็มีใครต่อใครมาหาท่านอาจารย์มากมาย เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...พล่ามต่อ วันที่ตอบ 2010-01-26 22:23:09 IP : 118.172.8.50


ความคิดเห็นที่ 3 (2028801)

        ผมเองเก็บความรู้เล็กๆน้อยๆเบ็ดเตล็ด มาได้มากมาย โดยเฉพาะหลักโหราหวย ซึ่งจำได้ว่า ถ้าวันออกหวยถ้าว่างผมจะแว๊บมาหาฟังหวยออกทางวิทยุลุ้นกับท่านอาจารย์ ซึ่งท่านจะบอกว่า หวยงวดนี้มีอะไรเพราะเหตุใดใช้หลักการใดจึงเลือกตัวนี้เป็นตัวหลัก และวิธีการผันสุ่มตัวเลขแทงให้ได้กำไรอย่างมีหลักการอันน่าทึ่ง ฟังไปลุ้นไปสดๆ ที่เฮหนักๆก็มี ที่ฟังแล้วซึมก็มีสลับกันไป เรื่องหุ้นก็เช่นกัน ซื้อๆขายๆ นั่งมองจอ ถ่ายทอดสดซื้อ-ขายหุ้นจากช่องตลาดหลักทรัพย์  เดี๋ยวมีแมสเซนเจอร์ขี่มอเตอร์ไซด์จากบริษัทโบรคเกอร์ มาให้เซ็นรับอยู่บ่อยๆ  ผมเองก็เลยลักวิทยาครูพักลักจำ  เรียนวิชาการเงินนอกระบบมาจากสำนักนี้นี่เอง  แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่รู้ ก็ยังคุ้มค่ากันมากมายก่ายกองนัก ในฐานะนักเลงโหรแนวหวย เคยเห็นท่านอาจารย์ถูกหลายแสนก็มี ถึงขนาดพาไปเลี้ยงฉลองถูกหวยกันที่ร้านวิเศษไก่ย่างที่บางโพ ก็เคย

ผู้แสดงความคิดเห็น nj วันที่ตอบ 2010-01-26 22:41:09 IP : 118.172.8.50


ความคิดเห็นที่ 4 (2028868)

        เขียนมาตั้งเยอะตั้งแยะ มาเข้าประเด็นเนื้อหาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนกันดีกว่า ตามประวัตินั้น ท่านอาจารย์มานิตย์ ธีรเวชชโรกุล เกิดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 เวลา 07.18 น. ที่ ร.พ.หัวเฉียว กรุงเทพ เป็นบุตรของ นายเต๊กเซ้ง และนางเพี่ยจึง แซ่ฉั่ว จบการศึกษาที่ ร.ร. อำนวยศิลป์ พญาไท และ สอบเทียบ ม.8 เอาไปสอบเข้าเรียน คณะเภสัช จุฬาฯ แล้วร้อนวิชาโหราศาสตร์ ออกมาทำงานเป็นเซลล์วิ่งขายส่งยาซะงั้น    เรามาดูดวงท่านกันดีกว่าครับเป็นอย่างไรกันบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..ว่าต่อ วันที่ตอบ 2010-01-27 09:42:16 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 5 (2028871)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จัดให้ วันที่ตอบ 2010-01-27 09:46:09 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 6 (2028874)

       การเป็นนักโหราศาสตร์ นั้น   ต้องดูที่ดวงกำเนิค กรณีดวงนี้   มฤตยู/อาพอลลอน ( 22 กฎ 55 ) = เมอริเดียน ( 8 ธค 53 ) มุมแรง 45 ซึ่งแปลได้ว่า จิตใจนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่อง โหราศาสตร์   , จุดโหราศาสตร์อย่างแรง มฤตยู+อาพอลลอน-วัลคานุส ( 27 สห 08 ) = วัลคานุส สะท้อน ( 11 มก 18 ) ครบวงจร แถมยัง = อังคาร ( 11 มก 35 ) ในมุม 135 = จุดเจ้าชะตา ลัคนา/อาทิตย์ ( 28 กภ 01 ) ในมุมเล็ง 180 องศา ซึ่งโครงสร้างดาวแบบนี้ นี่เอง จึงส่งผลให้ท่านอาจารย์ ลุ่มหลงในวิชานี้ อย่างมากมาย โดยในพื้นดวงชะตาแบบสากลพลาสิดุสนั้น เนปจูน ( 1 ตล 38 )เป็นมรณะแท้ ( มุม 150 องศา )กับ ลัคนา ( 2 มีน 37 ) ซ้ำอย่างแรงด้วยแล้ว ยิ่งหลงไปกันใหญ่ โดยเนปจูนนี้ ก็ลากเอา จุดชะตากรรมรังแก แอตเมตอส/วัลคานุส ( 17 พภ 19 ) ในมุม 135 องศามาร่วมด้วย ในความเป็นจริงนั้น ครอบครัวของท่านอาจารย์ หรือสิ่งแวดล้อม อันได้แก่ลัคนาของท่านอาจารย์นั้น เป็นในแนวเนปจูน อันได้แก่ ยา หรือ การขายยา ซึ่งก็ตรงตามดวงซะด้วยสิ  ที่สำคัญในเรื่อง การศึกษาและใช้ฝึกฝนวิชาโหราศาสตร์จนแม่นยำ นั้น ตามหลักการโหรเขาวัดเขาตรวจดูกันที่ จุด มฤตยู+อาพอลลอน – พฤหัส ในดวงกำเนิดท่านอาจารย์ อยู่ที่ 29 กฎ 28 ทำมุมแรง 135 องศา ถึง พฤหัส สะท้อน ที่ 13 ธน 38 ทำให้เกิดการครบวงจร และ เข้า ดาวศุกร์กำเนิด ซึ่งอยู่ที่ 14 มน 31 ในมุมแรง 135 องศาเช่นกัน แต่คนละด้านกับ พฤหัส สะท้อน ซึ่งเรื่องนี้ แม้จะดีนักหนาและมีความสุขกับความแม่นยำในการพยากรณ์ของตน   แต่จุดที่ว่านี้ ก็ให้โทษเช่นกัน เพราะดันชักพาเอา มฤตยู สะท้อน ซึ่งแปลว่า ความเครียด อุบัติเหตุ หัวใจวาย และแอตเมตอส สะท้อน ซึ่งหมายถึง ความตาย ตามมาด้วย ถือกันว่า เป็นจุดกรรมอย่างแรง ซึ่งผมก็เคยได้ยินท่านพูดเปรยๆ แต่ตอนนั้นไม่ได้เฉลียวใจคิด

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...แล้วก็พล่ามต่อไปว่า.. วันที่ตอบ 2010-01-27 09:50:10 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 7 (2028906)

       ตามที่ผมมีข้อมูลนั้น ท่านอาจารย์ท่านได้หมกมุ่นทุ่มเทชีวิต   ค้นคว้าโหราศาสตร์ทั้งไทยและสากลจนรู้และเข้าใจในวิชานี้อย่างลึกซึ้ง นอกจากจะรู้ทั้งทฤษฎีและการพยากรณ์แล้ว ท่านยังเป็นผู้บุกเบิกเรื่องการสร้างโปรแกรมโหราศาสตร์ และการทำโปรแกรมเกี่ยวกับปฏิทินโหรย้อนหลังเดินหน้าได้หลายพันปี เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของวันเดือนปีตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น พงศาวดารฉบับต่างๆ จนสำเร็จ และ ยังสรรสร้างอุปกรณ์พกพาแนวเครื่องคิดเลขหรือ คอมพิวเตอร์พกพา ที่สามารถผูกดวงได้ทั้งแบบไทยและยูเรเนียน โดยทุ่มเทคิดค้นลงทุนส่วนตัวสร้างเองไม่ต้องง้อใช้ของต่างชาติ จนเป็นที่ยอมรับยกย่องและใช้กันทั่ววงการโหร และยังมีใช้กันอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งลดการพกพาปูมปฏิทินโหราให้เป็นไปได้อย่างสะดวกสบายขึ้น   ในวงการสังคมโหราศาสตร์ในยุคที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นที่กว้างขวางยอมรับในความรู้ความสามารถ จนได้รับเกียรติเป็นกรรมการวิชาการสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์

         ท่านอาจารย์มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ คือเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจถูกตะกอนเลือดอุดตัน ถึงกับต้องทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจ ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตได้ไม่นานนัก เหตุที่เป็นเช่นนี้ในทางโหราศาสตร์ก็เพราะ จุดโรคหัวใจ ( อาทิตย์+ฮาเดส – จันทร์ 9 มก 02 ) ถึงอาทิตย์ กำเนิด ( 23 กภ 26 ) มุม 135 องศา โดยมี มฤตยู/ซีอุส = เกิดขึ้นจู่โจมแบบฉับพลัน ( 9 กฎ 38) ทำมุม เล็ง 180 องศา แรงๆมารองรับอยู่
       ท่านอาจารย์ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 เวลา ประมาณ 16.00 น. เนื่องจากโรคหัวใจกำเริบ ซึ่งในมุมมองของการเสียชีวิตนั้น กรณีของท่านอาจารย์ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ   เพราะถ้ายิ่งแกะก็ยิ่งเข้าใจในศาสตร์แห่งโหราว่า สิ่งที่พวกเราบ้าเรียนบ้าค้นคว้าอยู่ทุกวันนี้นั้น มันไม่เสียหลายว่างเปล่า เพราะยิ่งศึกษาไปกลับยิ่งสนุกและยิ่งจะทึ่งในความมหัศจรรย์ของวิชานี้
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เรื่อยๆมาเรียงๆ วันที่ตอบ 2010-01-27 11:40:36 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 8 (2028920)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..รูปท่านอาจารย์มานิตย์ วันที่ตอบ 2010-01-27 12:07:06 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 9 (2028924)

       ตอนสมัยที่ท่านอาจารย์มานิตย์ ยังอยู่นั้น ทั้งโปรแกรมด้านโหราศาสตร์และคอมพิวเตอร์ ยังไม่ได้วิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดก้าวหน้ากันอย่างในสมัยนี้ จำได้ว่าตอนนั้นกว่าโหรจะคำนวณหาค่าปัจจัยต่างๆ ก็ยุ่งยากลำบากมาก   มาสมัยนี้โหรสามารถหาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และวิจิตรพิศดารกว่าแต่ก่อนมากมายนัก ใน เรื่องจุดบ่งชี้การมรณกรรม นั้น ดวงท่านอาจารย์มานิตย์ น่านำมาศึกษาเป็นดวงครูอย่างยิ่ง เหตุเพราะดูง่ายไม่ซับซ้อนและสามารถเรียงลำดับได้ง่าย ซึ่งผมจะอธิบายเรียงลำดับขั้นตอนพอเป็นตัวอย่าง สำหรับผู้ที่สนใจจะนำหลักการไปใช้เป็นเทคนิคหาเวลามรณกรรม หรือเคราะห์หนัก ซึ่งที่เรียกกันในหมู่โหร ว่า เทคนิคการหาเวลาตาย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆเทคนิคหลักที่สำคัญในวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน   ซึ่งในเรื่องนี้ มีลำดับการตรวจหาจากช่วงเวลากว้างไปหาแคบ ดังมีรายละเอียดดังนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องยาวไปได้ วันที่ตอบ 2010-01-27 12:18:48 IP : 118.172.25.76


ความคิดเห็นที่ 10 (2028988)

       1.การพิจารณา ดวง Lunar Phase ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์สากล เพราะเป็นตัวบ่งบอกว่า ณ อายุช่วงนี้ อยู่ใน ช่วงจันทร์รอบไหน ถือเป็นกระบวนการ Progress ของจันทร์กำเนิดจรอีกรูปแบบหนึ่ง คำนวณออกมาได้ว่า   ตอนวันที่ท่านอาจารย์เสียชีวิต คือวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2542 นั้น นับดูจะตกอยู่ในระหว่างช่วงจันทร์  Crescent ข้างขึ้น ตอนง่ามมุมอาทิตย์กับจันทร์กำเนิด 45 องศา ตรงกับ วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2540 เวลา 18.48 น. ซึ่งดวงจะคลุมเหตุการณ์ ไปจนถึง จันทร์ทำมุมฉากกับอาทิตย์ หรือรูปจันทร์ครึ่งซีก (First Quarter ) ซึ่งคำนวณได้ว่า ตรงกับวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2544 เวลา 00.53 น. ซึ่งมีภาพดวงดังต่อไปนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เรื่อยเจื้อย วันที่ตอบ 2010-01-27 14:50:48 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 11 (2028992)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เจื้อยแจ้ว วันที่ตอบ 2010-01-27 14:59:30 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 12 (2028999)

        ในดวงนี้นั้น จะเห็นว่า อาทิตย์ 17 เมษ 52 กุม แอตเมตอส  16 เมษ 36 เทพแห่งความตายสนิทองศา โดยมี ฮาเดส  21 เมษ 08 เรื่องร้าย ประชิดกระหน่ำโจมตีร่วมราศีเมษและร่วมเรือนชะตาคือ เรือนที่ 12 ซึ่งแปลว่า โรงพยาบาล และจันทร์ กุม ดาวมฤตยู ความฉับพลัน กะทันหัน และความเครียด อุบัติเหตุ สนิทองศา และมี เสาร์ บาปเคราะห์ เข้ากระทบร่วมราศีในระยะห่างจันทร์แค่ไม่กี่องศา   โดยที่มี พฤหัส ทำมุมฉาก ร้าย กับ อาทิตย์ ซึ่งภาพดวงแบบนี้มองอย่างไร ก็แปลไปในทางดีไม่ได้ บ่งบอกว่า ภายในช่วงเวลา 3 ปีเศษ ดังกล่าว เจ้าชะตาจะย่ำแย่ ตกอยู่ในอันตราย

ผู้แสดงความคิดเห็น ๗‹4‘ๅ=BฑภL]l“ วันที่ตอบ 2010-01-27 15:01:16 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 13 (2029023)

          ภาพใหญ่อีกอันหนึ่ง คือ ดวงนิวมูน ( Progess Lunar Phase ) ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะดวง Crescent นั้นย่อมขึ้นอยู่กับดวง เริ่มต้นของวงรอบอันได้แก่ ดวงนิวมูน นั่นเอง ซึ่งมีภาพดวงที่สลับซับซ้อน แต่จะยกให้เห็นแต่เฉพาะดาวที่ทำโครงสร้างสำคัญและแสดงผลออกมา ตามประเด็น ดังนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ตามน้ำ วันที่ตอบ 2010-01-27 16:25:44 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 14 (2029025)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ดวง Progress Lunar Moon Phase วันที่ตอบ 2010-01-27 16:28:49 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 15 (2029034)

ภาพอมาวสี อาทิตย์กุมจันทร์นั้น วิ่งเข้าหา แอตเมตอส ห่างกันแค่ไม่เกิน 2 องศา  โดยมี พฤหัส ทำมุมร้าย 90 องศา และ มีมฤตยู ทำมุมแรง  45 องศา หรือครึ่งฉากมารองรับ เพียงแต่เสาร์ยังห่างอยู่ประมาณ 7 องศา ยังไม่ทำงานชัดเจน แต่ไปปลุกให้โครงสร้างร้ายอันได้แก่ มฤตยู และ แอตเมตอส ซึ่งกลไกเวลาเริ่มทำงานแล้วในวงรอบเวลานี้ โดยพฤหัสดาวโชค ก็ไม่สามารถมาแก้ไขได้ พอจันทร์ผ่านมาถึงจังหวะจันทร์ Creascent กระตุ้นอีกที ก็เลยลงตัวลุกลามกันไปใหญ่โต

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เมาน้ำลาย วันที่ตอบ 2010-01-27 16:39:32 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 16 (2029128)

ดวงตาเห็นธรรมครับว่า ช่วงนี้ระหว่างวันที่ 25 26 และ 27 ดาว A+B-C กำลังแรงคือ

เนปจูน+ฮาเดส-พุธ เป็นการชอบคิดถึงอดีต ชอบคิดเรื่อยเปื่อย คิดฟุ้งซ่าน คิดเพ้อเจ้อ

ซึ่งเป็นไปตามแรงส่งอธิพลของดวงดาวที่มีความสัมพันธ์สู่จุดเจ้าชะตา

ผู้แสดงความคิดเห็น ไก่อยู่ในไข่ วันที่ตอบ 2010-01-27 21:40:27 IP : 58.9.169.42


ความคิดเห็นที่ 17 (2029144)

อืม ขออนุญาตนะครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นการ Interupt หรือไม่

เห็นแล้วต้องมานั่งคิดว่าจะพูดยังไงดี ด้วยความเคารพ เกรงว่าจะไปขัดจังหวะกับเนื้อหาในบทความทำให้เสียอรรถรส แต่ก็เพื่อให้เป็นข้อสังเกตุเปรียบเทียบนะครับ คงไม่ได้เกี่ยวกับการอ่านดวงท่านปรมาจารย์แต่อย่างใด เผื่อท่านจะได้นำไปเรียบเรียงเมื่อแปลงกระทู้เป็นบทความ

ตาม คห.6 นี่มันคล้ายกับอีกกระทู้ ในเรื่องของ กลลวงทางคณิตศาสตร์

ตามดวงของท่าน อ.มานิตย์ นั้น เนื่องจากมฤตยู = อาพอลลอนสะท้อน ผลก็เลยจะได้สมการเป็น A+B-C= -C ซึ่งเมื่อย้ายข้าง C และ B ไป ตัดค่าแล้วจะได้เป็น A = -B นั่นเอง เราจึงพบเห็นสมการ UR+AP-MC = - MC , UR+AP-VU = -VU , UR+AP-JU = -JU ไปโดยปริยาย สรุปก็คือ C จะเป็นอะไรก็ได้ ก็จะได้สมการ A+B-C = -C (เพราะ A = -B) อาจพูดได้ว่าปัจจัย C อาจไม่ีมีส่วนเกี่ยวข้องก็ได้

แต่ยกเว้นดวงท่าน อ.มานิตย์ MC ในสมการ UR+AP-MC=MC หรือ UR/AP=MC ใช้ได้โดยตรงซึ่งเกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์อยู่แล้ว ไม่ต้องใข้ -MC และเพียงแค่ UR =MC/SU= -ME =JU =AD= -VE= -CU = -AP = -PO กับ UR/ME=AR ก็ต้องยอมรับในความเป็นนักโหราศาสตร์ภาคคำนวณ Hitech ทั้งกายและวิญญาณเต็มตัวของท่าน จนข้าพเจ้าก็มิอาจเทียบชั้นได้แล้วครับ

มีอีกอันครับ SU+HA-MO=SU หรือ A+B-C=A หรือก็คือ B=C(ฮาเดส=จันทร์)

ด้วยความเคารพในโหราศาสตร์ทั้งภาคคำนวณและภาคพยากรณ์

ผิดพลาด ตกหล่น ยกเว้น ประการใดก็ขออภัยมา ณที่นี้ด้วยครับ _/|_

ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...เรื่อยเลยแฮะตัวข้าพเจ้าเนี่ย วันที่ตอบ 2010-01-27 22:41:24 IP : 124.120.11.81


ความคิดเห็นที่ 18 (2029145)

ก็จุดนี้  มันครบวงจรในดวงไงคับ  ผมทำสะเดาะเคราะห์ตนเองต่างหาก  ถือเป็นบูชาครูไปด้วย

ก็ในดวงกำเนิด มันเข้า อังคาร/เสาร์  กับ  อังคาร/เนปจูน ไง
และเห็นมันเข้า  อาทิตย์/โปไซดอน กำเนิดด้วย  

เผื่อจะมี จันทร์/พฤหัส  กับ  ศุกร์/มฤตยู  กับเค้าบ้าง

จุ๊ๆ  อย่าเอ็ดไปสิ  เดี๋ยวไก่ตื่น

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...นกออกลูกเป็นไข่ไก่ วันที่ตอบ 2010-01-27 22:47:18 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 19 (2029161)

อิอิ  ผมกะลังคิดหาเรื่องมาล่อเป้า  ดึงคนเข้าเว็บอยู่  รอนานตั้ง 15 กระทู้แล้ว หาวหวอด แหม!เพิ่งจะมากันอ่ะ

เรื่องเมอริเดียน สะท้อน เนี่ยคับ  ในสำนักท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล  ถือเป็น ทีเด็ดเคล็ดลับเรื่องใหญ่ชนิดหนึ่งทีเดียว  เพราะแสดงพฤติกรรมเบื้องลึกของเจ้าชะตาได้เป็นอย่างดี

ใครอยากรู้ว่า ตนเองในสายตาผู้อื่นมองมารู้สึกสัมผัสนั้นเป็นเช่นไร  ให้ดูที่ เมอริเดียนสะท้อน กันนี่แหล่ะคับ  ซึ่งต่างกับเมอริเดียนจริง  ที่เจ้าชะตาคิดเองเออเอง

ur+ap = mc และ =ur+ap-mc= -mc  .... เพราะในดวง ur=-ap บังคับ

ทำให้คิดมาว่า  a+b-c = a  นั้น  ทำให้ b=c  โดย a ตัดทิ้งได้

ในแง่มุมของโหราศาสตร์พยากรณ์แล้ว  เจ้า a ที่หายไปในสมการเนี่ย
กลายเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาเชียว เหมือนรุ้งที่ไม่มีตัวตน  แต่ดันเห็น

โดยแสดงออกมาในแบบ  มุมมองจากคนอื่นในเรื่องนี้ที่มีต่อเจ้าชะตา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...อ่อนคำนวณอ่ะคับ วันที่ตอบ 2010-01-27 23:25:00 IP : 118.172.1.1


ความคิดเห็นที่ 20 (2029468)

เห็นกระทู้นี้ตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว  เลยฉวยโอกาส copy รูปท่านอาจารย์มานิตย์ไปประกอบบทความที่เว็บผมซะเลย  อยากได้มานานแล้ว

ยินดีครับที่ยังมีคนนึกถึงท่านอาจารย์มานิตย์อยู่  เมื่อวันก่อนก็ยังมีคนโทรมาถามว่าจะเอาโปรแกรมไปใส่ในเครื่อง Casio ของอาจารย์มานิตย์ได้ไหม?  หลายๆ เรื่องที่ท่านอาจารย์คิดไว้จนทุกวันนี้ยังไม่มีปัญญาจะ "สานต่อ" หรือ "ต่อยอด" เลยครับ  ยังมีบทความเก่าๆ หลายบทความที่อาจารย์เขียนไว้ในพยากรณ์สารก่อนที่ผมจะได้รู้จักท่านแล้วไม่มีโอกาสจะรวบรวม  ใครจะอ่านตอนนี้คงต้องไปหอสมุดแห่งชาติ  ไม่รู้ว่าสภาพหนังสือเป็นอย่างไรบ้าง  ถ้าอาจารย์ภารตมีเก็บไว้  จะนำมาเผยแพร่เองที่เว็บนี้หรือจะให้ผมจัดการอย่างไรก็แล้วแต่นะครับ

เรื่องที่อาจารย์ภารตเขียนมานี้ยังไงๆ ผมก็เห็นว่าน่าจะเขียนเป็นบทความแทนที่จะมา "ล่อเป้า" เป็นกระทู้ในเว็บบอร์ดอย่างนี้  "ล่อเป้า" มากๆ ระวังเป้าขาดนา  แล้วนามสกุลผมต้องใช้ "ศ" (ศอ ศาลา) นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ จินตมาศ วันที่ตอบ 2010-01-28 21:38:27 IP : 124.122.125.48


ความคิดเห็นที่ 21 (2029511)

บทความนี้ผมกะเขียนยืดเยื้ออ่ะคับ  ทำๆหยุดๆแบบอังคาร/เสาร์  บทความท่านอาจารย์มานิตย์  ผมมีอยู่ สองสามบทคับ  เอามาจาก นิตยสารโหราจารย์  และพยากรณ์สารบางเล่ม  บางทีก็พวกกันยืมกันไปแล้วยังไม่เอามาคืน ก็มี

บทความชุดยาวเรื่อง สุริยยาตร์วิเคราะห์ ที่ลงในพยากรณ์สาร ท่านอาจารย์พลังวัชร  ถ่ายไว้จากหนังสือต้นฉบับ ผมไปขอท่านซึ่ง ท่านก็กรุณาส่งไฟล์ให้ผมมา  อีกทีคับ

http://74.125.153.132/search?q=cache:lep_e8nCjckJ:payakorn.net/palungwachara/2009/09/23/entry-17+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C+%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%8A%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5&cd=4&hl=th&ct=clnk&gl=th

พยายามเอามาลงเหมือนกันคับ  รูปท่านอาจารย์ก็สแกนมาจากปกหนังสือโหราจารย์  ฉบับที่สาม นั่นแหล่ะคับ

เรื่อง  " ล่อเป้า "  นี่  มีแค่ล่อในแนววิชาการเท่านั้นค๊าบบบ

อาศัยลูกกะล่อนหลบหลีกลูกปืนเอา  ขาดไปก็ออกมาล่อใหม่ค้าบ

คิอแบบว่าบทความเต็มนั้น  ถ้าให้เขียนเต็มจนจบป่านนี้ก็ยังไม่เสร็จ  จึงต้องทะยอยเขียนแบบนี้แหล่ะคับ

ไว้จบปุ๊บจะลงเป็นบทความเต็มอีกทีนึง

เจ้าเครื่อง Personal Computer รุ่น FX-795P  ของผมที่ได้มาจากท่านอาจารย์ ก็ยังใช้งานได้ดีจนป่านนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...วิ่งล่อเป้า..ครูแรง วันที่ตอบ 2010-01-28 23:18:48 IP : 118.172.8.229


ความคิดเห็นที่ 22 (2029513)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...โหรารุ่นคอมโบราณ วันที่ตอบ 2010-01-28 23:27:51 IP : 118.172.8.229


ความคิดเห็นที่ 23 (2029609)

ยินดีด้วยครับที่เครื่องยังใช้ได้  หลายๆ คนรวมทั้งตัวผมเองใช้พีซีกันเพลิน  กว่าจะนึกถึงเครื่องคาสิโอนี้ได้ก็ถ่านหมดเกลี้ยงไปพร้อมกับโปรแกรมแล้ว  จะใส่โปรแกรมใหม่ก็ทำไม่เป็นแถมไม่คุ้ม  ตอนนี้เน็ตบุ๊กเป็นตัวเลือกในการใช้งานที่น่าจะเหมาะกว่าครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โรจน์ (webmaster-at-rojn-info-dot-com)วันที่ตอบ 2010-01-29 11:18:56 IP : 203.114.104.116


ความคิดเห็นที่ 24 (2029850)

วิชาท่านอาจารย์มานิตย์นั้น  กว่าผมจะพอรู้พอจะตามทันได้ลางๆเวลาก็ล่วงมา เกิน 10 ปีให้หลังแล้ว  ถึงนับถือท่านมากๆคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เจ๋งจริงๆ วันที่ตอบ 2010-01-30 08:40:22 IP : 118.172.50.248


ความคิดเห็นที่ 25 (2029916)

      2. พิจารณาจังหวะฟ้าในดวงอาทิตย์ยกเข้าราศีมกร หรือปีใหม่ทางโหราศาสตร์ ของปี 1999 ซึ่งตรงกับ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2541 เพื่อดูว่า ในรอบปี 2542 นั้น จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา ดังรูป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ทยอย วันที่ตอบ 2010-01-30 14:19:59 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 26 (2029922)

ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2010-01-30 14:59:16 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 27 (2029924)

จะเห็นได้ว่า อาทิตย์ปีใหม่นี้  เป็นมรณะ 150 องศา กับ มฤตยูกำเนิด  สนิทองศา  โดยมีอังคารจรอยู่ในเรือนมรณะ ทำมุมฉากร้าย กับอังคารกำเนิด  อีกทั้ง ในพื้นดวงกำเนิดนั้น  ราหูเล็งอาทิตย์กำเนิดสนิองศา ปีนี้ราหูจรมาทับราหูกำเนิดปลุกสัญญาณอันตรายให้เกิดขึ้น เพราะไปบล๊อคอาทิตย์กำเนิดให้เสียหาย โดยศุภเคราะห์อันได้แก่ดาวพฤหัสจรนั้น ไม่สามารถแก้ไขดีขึ้นได้เพราะ ไปทำมุมร้าย 135 กับพลูโตกำเนิด  เรียกว่า ดวงปี 1999 นี้ไม่ให้คุณเอาซะเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เรื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-01-30 15:08:57 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 28 (2029935)

ในดวงทินวรรษ รอบอาทิตย์จรทับอาทิตย์กำเนิดสนิทองศาลิบดานั้น  ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์  1998 เวลา 15.36 น. กทม  ก็ให้ผลบ่งชี้ไปทำนองเดียวกันว่า  ปีนี้เคราะห์ร้าย ดังภาพ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...มาเรื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-01-30 15:53:12 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 29 (2029937)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จัดให้ วันที่ตอบ 2010-01-30 15:54:07 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 30 (2029938)

จะเห็นได้ว่า เสาร์บาปเคราะห์ลอยกลางฟ้า ทำมุมฉากร้ายถึงลัคนา  อาทิตย์เอง ณ เวลาเข้าทำทับมุมสนิทกับอาทิตย์กำเนิดเดิม  เกิดขึ้นในเรือนมรณะ ทำมุม 22ครึ่ง กับเนปจูน ส่วนพฤหัสศุภเคราะห์ตัวช่วยก็ดันมาทำมุมเสีย 135 กับลัคนา ซ้ำซะอีก

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เอื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-01-30 15:58:54 IP : 118.172.1.11


ความคิดเห็นที่ 31 (2030691)

ข้อมูลกำเนิดตามความเห็นที่ 4 กับภาพดวงชะตาในความเห็นที่ 5 คนละอันกันนา

ล่อเป้าด้วยป่าวฮะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาเห็น วันที่ตอบ 2010-02-01 18:28:35 IP : 110.164.126.140


ความคิดเห็นที่ 32 (2030745)

เวลา 07.18 น.คับ  ตามภาพนั่นแหล่ะ  ผมแก่แล้ว  งกๆเงิ่นๆ  ใส่แว่นตาฝ้าฟาง  ขออำไพ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...อิอิ เล่าป้อ วันที่ตอบ 2010-02-01 20:34:54 IP : 118.172.26.247


ความคิดเห็นที่ 33 (2031178)

กำลังเกริ่นนำเพื่อเข้าสู่ SolarReturn ในปีที่ถึงแก่กรรม 12/02/1999 21.33 ใช่ไหมครับ รอติดตามอ่านอยู่


ส่วนเรื่องเมอริเดียนสะท้อนนี่ ท่าน อ.ประยูร ท่านเขียนไว้ชัดเจนว่าให้อ่านก่อนเพื่อนเลย

ในหนังสือ คู่มือการพยากรณ์ดวงชะตาเอง หน้าที่ 74 ท่านให้เริ่มวินิจฉัย 2 เรื่อง

ก. วินิจฉัยถึง สิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบกระเทือนทางด้านจิตของเจ้าชะตา

สรุปแบบสั้นคือท่านให้อ่านพระเคราห์สนธิของ AR=MC/???  ตั้งแกนที่ AR ว่าเท่ากับศูนย์รังสีของ เมอริเดียน/ปัจจัย
ซึ่งก็คือพระเคราะห์สนธิของ AR+AR-MC = ??? นั่นเอง หรือก็คืออ่าน เมอริเดียนสะท้อน (ในเอกสารการศึกษาถิ่นไกล)

ข. วินิจฉัยถึง กิจกรรมการแสดงออกของเจ้าชะตา เพื่อปรับตนหรือปรับจิตให้เข้ากับบุคคลทั่วไป

สรุปแบบสั้นคือท่านให้อ่านพระเคราห์สนธิของ MC=AR/??? ตั้งแกนที่ MC ว่าเท่ากับศูนย์รังสีของ เมษ/ปัจจัย
ซึ่งก็คือพระเคราะห์สนธิของ MC+MC-AR = ??? นั่นเอง (ในเอกสารการศึกษาถิ่นไกล) หรือก็คืออ่าน 2MC=???

สองหัวข้อนี้ท่านให้อ่านก่อนเลย บ่งบอกว่าท่านให้ความสำคัญอย่างมาก

ในโปรแกรม Uranus จึงสร้างตารางให้อ่านโครงสร้างของ AR,MC พร้อมกันเพื่อความครบถ้วน
โดยเข้าไปที่ เมนู ->วิเคราะห์ ->วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ 2 ปัจจัย

ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...โฆษณาแฝงไปด้วยเอิ๊กๆ วันที่ตอบ 2010-02-02 18:49:52 IP : 124.120.5.16


ความคิดเห็นที่ 34 (2031282)

ตามความรู้ที่ผมเรียนรู้มา  อะไรที่สะท้อน หมายถึงผ่านแกนเมษ(โลก) ความหมายคือ สิ่งซึ่งโลกภายนอกที่มีต่อเจ้าชะตาในเรื่องตามปัจจัยนั้นๆ  ซึ่งต่างจากความหมายแปลตรงของปัจจัยทั้งดุ้น

เช่น ....ทัศนะของเจ้าชะตาที่มีต่อโลกข้างนอก หรือ สิ่งที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางจิตใจต่อเจ้าชะตา เป็นเมอริเดียนจริง ตามความหมาย ก.

แต่  ... ทัศนะของคนข้างนอกเห็นแจ้งว่าเจ้าชะตารู้สึกเช่นไร  เป็นความหมายของเมอริเดียนสะท้อน!!  เช่น เขาเห็นว่าเราขี้โมโห  แต่เรื่องเดียวกันเวลาเดียวกันนั้น เราคิดเราเข้าใจเอาเองว่าเรามีเหตุผลรองรับที่อธิบายได้

คล้ายแนว active voice กับ passive voice

ส่วนความหมายตามข้อ ข. นั้น  บอกตามตรงว่าผมยังไม่ใช้คับ   เพราะเอาดวงของตัวเองเข้าเปรียบก็ยังไม่เห็นลงตัวตามที่ว่าจนประทับใจ   แม้ทฤษฎีทางคำนวณหาได้ ( ไม่เชื่อลองหาดูว่าของคุณอยู่ที่ค่าองศาเท่าไหร่  แล้วตั้งจุดนี้ดูว่ามีปัจจัยอะไรเข้าแล้วแล้วดูว่าจะตรงกับที่ตนเองรู้สึกหรือไม่ในทุกแง่มุม  ซึ่งเจ้าตัวจะทราบได้เองแหล่ะว่าตรงหรือไม่

เรื่องเมอริเดียนนี้  มีค่า error คลาดเคลื่อนได้ไม่เป๊ะจริงในทางปฏิบัติ แต่ใกล้เคียงได้ถึง 2-3 องศา  บางทีเหตุการณ์จะคลาดเคลื่อนขึ้น-ลงได้ ทั้งๆที่น่าจะลงแน่นอนกลับไม่ใช่ แล้วแต่เหตุการณ์  ถามว่าผิดหรือไม่ ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าท่านบอกว่า ก็มันเป็นธรรมชาติแบบนี้เองนี่หว่า  ก็จักรวาลมันคลาดเคลื่อนเรานับคำนวณวัดจากจุดแสง ซึ่งอันจริงขนาดเบ้อเร่อ ซึ่งอันนี้จากประสบการณ์จริงที่ผ่านการอ่านดวงมาเยอะๆคับ

 ลัคนาซะอีกค่อนข้างจะคงที่ ถ้าเวลาเกิดแม่น เพราะมันเทียบกับพื้นที่ระนาบโลกจริง

เช่นเดียวกับ  ค่า V1 แล้วมี 2 เท่าของ V1 มิหนำซ้ำยังมี ครึ่งโค้ง (V1)/2   รวมไปถีง V2 , 2 เท่าของV2 และ ครึงเท่าของ V2

ในทางคำนวณหาได้ แต่ในทางความหมายพยากรณ์  ยังไม่เป็นที่ลงตัวแบบยอมรับมาตรฐาน

ที่ฮือฮากันเพราะมันลากเข้าความแบบหวยออกแล้ว ไม่มีใน V1 ดันมาเจอใน V2 หรือ ตัวครึ่งโค้งและสองเท่าของโค้งทั้ง V1 และ V2

เรื่องความหมายการแปลนี้ เป็นวิชาใหญ่สาขาไวยากรณ์ดาว  ตำราฝรั่งก็ว่าไปหลายแนว  มีหลายๆตำราก็อธิบายไม่ตรงกัน  ยิ่งผ่านการแปลผ่านมาจากครูโหรารุ่นเก่าด้วย  บางทีก็เข้าใจยากในสมัยนี้  เพราะบางตอนบางคำ เน้นว่าบางคำนะคับ  ถ้าอธิบายคำแปลด้วยภาษาร่วมสมัยเดี๋ยวนี้ ให้เข้าใจง่ายๆ กลับไม่ตรงกัน  ยิ่งมาใช้เป็นกุญแจให้ตีความแปลเอง ด้วยแล้ว ยิ่งเข้าใจยาก และยังไม่เป็นที่ยอมรับแนวมาตรฐานสากล

พื้นๆ  อย่าง Vertex   ซีร่อน   จุดอารเบียนหรือองค์ลาภ  แม้กระทั่ง พลูโต  การตีความให้ทะลุความหมาย ยังไม่เป็นที่ยุติ

เวอร์เทคนั้น  เท่าที่ผมใช้ได้ผลมาเห็นจริง มี 2 แนวทาง คือ แปลได้ว่า ชะตากรรมที่เจ้าชะตาจำต้องทำและไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้  และอีกความหมายหนึ่งแปลได้ว่า  เรื่องฝังใจที่เจ้าชะตาต้องแส่เข้ามาทำ  ซึ่งแต่ละความหมายที่แปลได้ มาจากคนละแหล่งต่างคนต่างค้นมาใช้มา ซึ่งหวานเลยผมเอามาทดลองใช้หลายร้อยดวงแล้ว  ลงตัวทั้งคู่ แต่ถ้ามาจากตำราต่างประเทศ มีบางท่านลองแปลเอามาเป็นเขียนบทความแล้ว ผมอ่านแล้วกลับว่า สู้ที่ผมได้มานี้ไม่ได้เลย 

แม้แต่ ความหมายของเรือนชะตา  และจักรราศี  แต่ละเรือนและราศี  จะเอาให้ละเอียดลึกซึ้งทุกแง่มุม   ยังอธิบายได้ไม่ตรงกันในหลายๆจุด ยิ่งพี่ไทยกับตำราฝรังด้วยแล้ว หลายตัวความหมายคนละเรื่องเลย เช่น ราหู และเกตุ เป็นต้น

ไหนจะเอาทุกแหล่งมาผสมรวมกันอีกเพื่อฟันธงเป็นคำแปลให้เป็นภาษาคนไทยร่วมสมัย ด้วยแล้วก็ ยิ่งไปกันใหญ่

อันนี้เป็นทัศนะความเข้าใจของผมเอง นะคับ อย่าเพิ่งเชื่อและมิได้มาโน้มน้าวให้ใครเชื่อตามด้วย แต่ให้ไปทดลองใช้ดูด้วยตนเองเพื่อพิสูจน์เองไงล่ะ

เพราะผมก็เรียนเองมาอย่างกระพร่องกระแพร่งแนวศิษย์ในมุมมืด และยังคงศึกษาอยู่ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังโต้เถียงสอบถามไล่วิชากันอย่างเอะอะกับท่านอาจารย์วรเชษฐ์  ตียเกษม กับท่านอาจารย์ทรงยศ  รัศมีพงษ์  อยู่ทุกบ่อยไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...Contemporary Translating Diction? วันที่ตอบ 2010-02-02 22:48:59 IP : 118.172.36.193


ความคิดเห็นที่ 35 (2031987)

มาต่อด้วยดวงท่านอาจารย์มานิตย์กันอีกหน่อยคับ  ทำๆหยุดๆให้คิดถึงตามลีลาของอังคาร/เสาร์   ในดวง Solar Return ในปีที่ท่านอาจารย์เสียชีวิต  1999  นั้น  ดูเฉยๆจากดวงโซล่าร์นี้  ไม่น่ามีอะไรน่ากลัว  แต่ก่อนหน้านั้นท่านอาจารย์เข้าโรงพยาบาล  ในปี 1998 นี่สิ  เหตุมันมาก่อนซะแล้ว  เรื่องของท่านอาจารย์เสียชีวิตนี้ จึงเป็นดวงครูในเรื่อง  วิชาภาพดวง Dynamic หรือที่เรียกว่า ภาพเคลื่อนไหว คือดูเหตุไปหาผลในเรื่องใหญ่ๆเป็นองค์ประกอบภาพรวม  หรือดูแบบหนังทั้งเรื่องไม่ใช่ตัดตอนดูจากรูปภาพทีละใบแล้วให้เดาเรื่องเอาเอง   หลักการนี้เป็น รูปแบบสำคัญที่สำนักท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ใช้ในการดูดวงชะตา 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ไม่หลบไม่อู้ ก็สู้ไม่ไหว วันที่ตอบ 2010-02-04 10:36:40 IP : 118.172.89.207


ความคิดเห็นที่ 36 (2031990)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จัดให้ วันที่ตอบ 2010-02-04 10:38:43 IP : 118.172.89.207


ความคิดเห็นที่ 37 (2032003)

ดูจากภาพในดวง Solar Return  ปี 1999 อันเป็นปีที่เสียชีวิตนั้น  ดูเผินๆไม่น่าร้ายแรงอะไร  มี อาทิตย์โซล่าร์ทำมุมแรง 45 กับจันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าเรือนภพ10 กัมมะ  แต่เมอริเดียนมี เป็นอริแท้ 150 องศา คอยกระตุ้นทำลาย  เจ้าเรือนลัคนา คือศุกร์ ไปอย๋เรือนอริ และ พฤหัสศุภเคราะห์ที่คุ้มครองดวงก็ไปอยู่ในเรือนอริ ซ้ำ แปลได้ว่า  ไม่มีตัวช่วยคุ้มครอง    แต่ถึงกระนั้น ก็ดูแล้วไม่น่าจะแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ท่านสอนมาว่า การดูโซล่าร์รีเทิร์น ให้ดูสามปีย้อนหลัง  เพราะบางทีเหตุมาจากปีก่อนแล้วส่งผลในปีถัดไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จำๆเค้ามาอีกที วันที่ตอบ 2010-02-04 10:51:49 IP : 118.172.89.207


ความคิดเห็นที่ 38 (2032004)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...แมงโม้ วันที่ตอบ 2010-02-04 10:54:07 IP : 118.172.89.207


ความคิดเห็นที่ 39 (2032011)

ในดวงโซล่าร์รีเทิร์นปี 1998 เป็นปีที่ร้ายที่สุด  เหตุเพราะ เสาร์บาปเคราะห์ลอยกลางฟ้า ทำมุมฉากถึง วัลคานุสที่กุมลัคนาอยู่  เรียกว่า ซวยรุนแรง จันทร์เจ้าเรือนลัคน์ โดนราหูกุม  อาทิตย์โซล่าร์ไปอยู่ในเรือนมรณะ รวมทั้งพฤหัสศุภเคราะห์ตัวช่วย ก็มาออร่วมอยู่ในภพมรณะกะเค้าด้วย   ดาวที่เกี่ยวกับการผ่าตัด การรักษา ในโหราศาสตร์สากล ตัวสำคัญซึ่งไม่ค่อยจะมีใครทราบความหมายนี้กัน ก็คือ พุธ นั่นเอง (โดยปรกติพุธ หมายถึงยา สัญญลักษณ์ ของร้านขายยา คือ งูพันคบเพลิง และ Mercury ก็แปลว่า ปรอท ก็ถือเป็นคุณสมบัติทางยา ก็มาเป็นมรณะจ๋า 150 องศา กับลัคนา  อาทิตย์หัวใจก็มาทำมุม 22.30 องศาแรงๆกับเนปจูนบาปเคราะห์ ทำให้ อ่อนแอ  เรียกว่าเหตุมันมีให้เปราะมาตั้งแต่ในดวงโซล่าร์ ปี 1998อย่างเพียบพร้อม  ส่งผลให้ ท่านอาจารย์มานิตย์ เดี้ยงต้องเข้าผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจ  ในเดือนพฤษภาคม 1998 ต้องหามเข็นเข้าไอซียูเชียว  

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...บรรยาย วันที่ตอบ 2010-02-04 11:11:23 IP : 118.172.89.207


ความคิดเห็นที่ 40 (2032110)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ทยอยมาเรื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-02-04 15:01:04 IP : 118.172.97.103


ความคิดเห็นที่ 41 (2032112)

ในดวงโซล่าร์รีเทิร์น  ตามคห.38  นั้น   เสาร์นี้ที่ว่าร้ายนักร้ายหนานั้น  ให้ดูตอนเอามาแพ็กเปรียบเทียบ  กับ  ดวงกำเนิด  โดยเอาดวงกำเนิดอยู่ข้างนอกสมมติให้เป็นทรานสิตหรือดวงจร  ว่า แต่ละปัจจัยของดวงกำเนิดนั้นส่งผลเช่นใดกับดวงโซล่าร์รีเทิร์นของปีนั้น   จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า แอตเมตอส กำเนิด จุดความตาย ที่15 องศาราศีเมษ ทับสนิทกับเสาร์ ในดวงโซล่าร์รีเทิร์น พอดิบพอดี และเสาร์โซล่าร์นี้ก็ยังโดนอังคารในดวงกำเนิดทำมุมฉากร้ายใส่ ทำลายดาวเสาร์กันเต็มๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ชุลมุนชุลเก วันที่ตอบ 2010-02-04 15:11:48 IP : 118.172.97.103


ความคิดเห็นที่ 42 (2032155)

ในดวงโซล่าร์รีเทิร์น ปี 1999 ตามรูปใน  36  นั้น  เห็นแค่พลูโตเป็นอริ 150 องศา กับเมอริเดียน อีกทั้งเห็นว่าอังคารนี้ เป็นทำมุมแรงกับศุกร์ที่เป็นเจ้าเรือนลัคนาดูไม่น่าร้ายแรงอะไร  ที่ไหนได้  ถ้าเอามาเทียบกับดวงกำเนิดแบบ  คห.40  จะเห็นได้ว่า...

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...งึมๆงัมๆ วันที่ตอบ 2010-02-04 16:39:30 IP : 118.172.97.103


ความคิดเห็นที่ 43 (2032158)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...สลับไปสลับมา วันที่ตอบ 2010-02-04 16:50:42 IP : 118.172.97.103


ความคิดเห็นที่ 44 (2032163)

ดาวร้ายห้าตัวในดวงกำเนิด  อันได้แก่  จันทร์ที่กุมเสาร์ ที่ดึงแอตเมตอสมาด้วย และมฤตยู ที่ดึงเอาฮาเดสมาด้วย  5 ตัวรวด ซึ่งมีแต่เดิมอยู่แล้ว  ตามรูป คห.5  มาสปาร์คทำงานเอาในปีนี้ เพราะ วงจรอังคาร ทั้งอังคารโซล่าร์ และอังคารกำเนิดทำงาน  โดย อังคารกำเนิดทำมุมร้ายกับอาทิตย์โซลาร์ และอังคารโซล่าร์เป็นอริกับจันทร์ที่กุมเสาร์ ทำให้ไปปลุกกลุ่มดาวร้ายในพื้นดวงให้ทำงาน  พลูโตเป็นอริกับเมอริเดียนแปลได้ว่า พัฒนาต่อไปไม่ได้  ศุภเคราะห์อันได้แก่ พฤหัสมาอยู่ในเรือนเสีย คือ อริ ทำให้ช่วยไม่ไหว  รอดมาจากปี 1998  พอข้ามมา ปี 1999  โดนมะรุมมะตุ้มแบบนี้ ท่านอาจารย์เลยข้าม Y2K ปี 2000 ไปไม่ไหว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ตามดวงครู วันที่ตอบ 2010-02-04 17:07:13 IP : 118.172.97.103


ความคิดเห็นที่ 45 (2032595)

อ่านไป อ่านมา ยังสงสัยว่าทำไมโรคหัวใจ จึงใช้ อาทิตย์+ฮาเดส-จันทร์ เพราะในคำแปลไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นโรคหัวใจ หรือเอามาสนธิเองก็ไม่ออกมาว่าโรคหัวใจ ถึงกระนั้นก็ยังไม่พอคำแปลในภาษาเมืองนอกเขียนบอกไว้ว่า MENTALLY SICK = ป่วยทางด้านจิต จิตสับสน  ช่วยอธิบายหน่อยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไก่อยู่ในไข่ วันที่ตอบ 2010-02-05 21:55:22 IP : 58.9.178.33


ความคิดเห็นที่ 46 (2032863)

หน้า 210 คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ ชุด อาทิตย์+ฮาเดส - จันทร์ = ใช้คำว่า โรคใจ   จะว่าเป็นโรคเกี่ยวกับอารมณ์ก็ได้ ตรงกับ Mentally Sick  เอ้า โอเค  คับ มีเหตุผลรองรับ  กะล่อนได้ไม่ถนัดปาก  อ่ะอ้า!!  รู้สึกเป้านี้  จะโดนกระสุน   งั้นเอ!! งั้น โรคหัวใจ   จะเอาอะไรดี

ท่านอาจารย์เป็น  โรคเกี่ยวกับเส้นโลหิตไปเลี้ยงหัวใจไม่ปรกติหรือตีบตัน  ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตัน กล้ามเนื้อหัวใจเลยเสียหาย  ส่งผลให้หัวใจวาย  

จะเอา สูตร  อาทิตย์+ฮาเดส-อังคาร = โรคเกี่ยวกับโลหิต  จะได้หรือไม่ เพราะ  ในดวงนี้ จุดนี้อยู่ที่ 00 มิถ 59 ทำมุมทับกับ มฤตยู 00 มิถ 34 สนิทองศา และ ทำมุม 45 องศา กับ แอตเมตอส 15 เมษ 55 แปลได้ว่า  โรคโลหิตทีอุดตัน ( แอตเมตอส ) อย่างฉับพลัน ( มฤตยู) แทนสูตรแบบข้างต้นของกระทู้ 46 นี้ แทนก็แล้วกัน  และที่แรงเพราะเข้า อังคาร/ฮาเดส ที่ 1 มีน 22 ด้วย เข้าวงจรพอได้อ่ะคับ

และมิหนำซ้ำ ถ้ามาเข้ารูป อาทิตย์/ฮาเดส//อังคาร ซึ่งอยู่ที่ 17 กภ 11 จะเข้าทำมุม 135 กับ เนปจูน ( อ่อนแอล้มเหลว ) ที่1  ตล 39 และฉากกับ จุดชะตากรรมรังแก = แอตเมตอส/วัลคานุส ที่ 17 พภ 19 มาร่วมสนับสนุน

ขอบใจที่เตือนคับ ...อิอิ  ชอบจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...น้ำขุ่นๆ? วันที่ตอบ 2010-02-06 18:54:09 IP : 118.172.96.127


ความคิดเห็นที่ 47 (2033522)

http://www.rojn-info.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539008753&Ntype=3

บทความนี้ ท่านอาจารย์อดิเทพ   ศรีรัตนไพฑูรย์  ท่านเอามาวิเคราะห์ต่อคับ  กระชับและน่าสนใจดี 

(สงสัยอึดอัดที่ผมมัวแต่ล่อเป้าเขียนชักช้าไม่ทันใจ...  อิอิ )

ส่วนแนวของผมคงยังยึกยักอยู่  ตามแนว อังคาร/เสาร์  ที่จรมาเข้าดวงผม ที่ทำบูชาครูสะเดาะเคราะห์ไว้

แนวทางคนละแบบกันคับ  เลยขออนุญาต เอามาเผยแพร่กันต่อ จากเว๊บท่านอาจารย์โรจน์ เป็นวิทยาทานให้ผู้สนใจได้ศึกษาเป็นแนวทาง

ของผมยังโอเอ้ กันอีกหลายๆเงื่อนไขยืดยาดอีกนานกว่าจะถึงตอนตาย  แนวลิเก  ที่ทรมานตัวละครเอก  อ้อนแม่ยกกันก่อน

ยิ่งเห็นมีผู้ติดตามชมมากเข้า   ก็ยิ่งยืดเรื่องแบบแนวช่อง 7 สี ตีกินสปอนเซอร์ 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ศิษย์ศักรินทร์ ดาวร้าย วันที่ตอบ 2010-02-09 00:15:06 IP : 180.180.51.114


ความคิดเห็นที่ 48 (2033783)

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ว่ากันต่อ วันที่ตอบ 2010-02-09 17:26:33 IP : 118.172.101.197


ความคิดเห็นที่ 49 (2033785)

พิจารณาจากโค้งสุริยยาตร์ ( Solar Arc ) จะเห็นว่า  อาทิตย์ วี1 19 เมษ 59  นั้น ทำมุม 45 องศา กับ จันทร์และเสาร์บาปเคราะห์ที่  4 มิถุน  ที่กุมกันในดวงกำเนิด และทับ ฮาเดสดาวร้าย  กำเนิด 20 เมษ 08 สนิทองศา  อังคารตัวชนวน วี 1 ก็ทำมุมฉากกับเมอริเดียนกำเนิด

ภาพดวงเช่นนี้โดยองค์รวมแล้วให้ผลร้ายต่อเจ้าชะตามากกว่าดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ดูจากภาพใหญ่ก่อน วันที่ตอบ 2010-02-09 17:37:35 IP : 118.172.101.197


ความคิดเห็นที่ 50 (2033871)

ท่านอาจารย์มานิตย์  ถึงแก่กรรมในวัย  56 เศษ  ค่าโค้งอยู่ที่  56.30 องศา

ซึ่งในวัยนี้  ตามหลักการใน คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ  ของท่านปรมาจารย์พลตรีประยูร  พลอารีย์  หน้า 135

เกี่ยวกับศูนย์รังสีประจำวัยอายุ  อายุ 56 นั้นอยู่ในข่าย ศูนย์รังสี  อาทิตย์/พฤหัส

ซึ่งในดวงกำเนิดนี้อยู่ที่  4 พภ 54 ซึ่ง เข้า เมอริเดียนจร วี1  5 กภ 23 ในมุม 90

เมื่อเข้าเมอริเดียนจร หมายถึงเข้าจุดเจ้าชะตาที่แรงมาก จึงสำคัญ

ในทางกลับกัน   อาทิตย์/พฤหัส  วัยจร วี1  เข้า เนปจูน กำเนิด อ่อนแอ และ จุดชะตากรรมรังแก แอตเมตอส/วัลคานุส กำเนิด ในมุมฉากทั้งคู่

เมษ/อาทิตย์  วี 1 ร่างกาย ( 8 พภ 13 ) = อังคาร/เสาร์ กำเนิด จุดเผาศพ 24 มน 05 ในมุม 45 องศา

=มฤตยู/แอตเมตอส กำเนิด 8 พภ 14 สนิทองศา แตกทำลายอย่างฉับพลัน

เรียกว่า  เคราะห์อะไรต่อมิอะไรก็เข้ามารุมให้ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้

( กระทู้นี้ยาว...มี 2หน้านะคับ เพราะเกิน 50 กระทู้แล้ว  ) คลิกที่เลข 2 ข้างล่างนี้ หรือคลิกที่ ถัดไป ก็ได้ ตามไปอ่านกันต่อนะคับ เนื้อหาที่ 51 ขึ้นไป มีแต่เนื้อหาล้วนๆ ชนิดวิชาการข้นมึ่มเชียวแหล่ะ )


 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังมีต่ออีกเยอะ วันที่ตอบ 2010-02-10 00:32:44 IP : 118.172.29.157



[1] 2 ถัดไป >>


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.