ReadyPlanet.com


ไปหาหมอ (ไม่ได้มีอาการใด ๆ แค่นัดไว้ก็ไม่อยากผิดนัด) หมอบอกว่า ผมเป็นมะเร็ง ช่วยด้วยครับ


 สวัสดีครับ 

กราบขอความกรุณาช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ

ก่อนอื่นผมขอท้าวความก่อนนะครับ

ก่อนหน้านี้ ผมปวดท้องน้อยด้านขวา (ด้านไส้ติ่ง) ปวดแบบจิ๊ด ๆ น่ารำคาญ บางครั้งปวดลามไปถึงอัณฑะ แต่ก็เป็นแบบตุ๊บ ๆ จี๊ด ๆ เล็กน้อย ไม่ค่อยรู้สึกว่า มันรุนแรง แค่น่ารำคาญเฉย ๆ 

ผมก็ไปหาหมอคลีนิกแถวบ้าน หมอฟังเสียงท้องแล้วบอกว่า ลำไส้อักเสบ ให้ยามาทาน แล้วก็หายคร้บ

เวลาผ่านมาอีกหลายปี น่าจะเกือบ ๆ 10 ปี ได้

อาการเก่าก็กลับมาอีก ผมก็ปล่อยเอาไว้ครับ  คือ มันเป็น ๆ หาย ๆ ครับ เช่น  เป็น 3 วัน  หายไปเป็นเดือน ๆ แล้วกลับมาเป็นอีกสัก 2 วัน แล้วหายไปเป็นเดือน ๆ ครับ (นี่คือช่วงปัจจุบันนะครับ)

ดังนั้น ผมจึงตัดความรำคาญก็เลยไปหาหมอ แต่ผมดันไปหาหมอตอนกลางคืน ซึ่ง ก็เจอกับหมอที่เข้าเวร ผมแจ้งอาการเขาไป เขาก็เลยสั่งตรวจปัสสาวะ ผลออกมาปกติ ครับ  เขาจึงแจ้งผมว่า น่าจะเป็นอาการ ลำไส้แปรปรวนมากกว่า  แต่เขาก็อยากให้ผมไปพบกับแพทย์เฉพาะทางครับ  ผมจึงให้เขาทำนัดให้ (ผมนัดไว้ที่ 1 เดือนเลยครับ เพราะนัดตรงกับหมออีกท่านนึงไปเลย  เนื่องจากผมรักษาโรค แพนิค disorder อยู่ครับ)

วันนี้ 26/6/2556 ผมก็ไปพบแพทย์ ตามนัด ด้วยอาการปกติ ไม่ได้เจ็บอะไรอีกเลยตั้งแต่วันที่ผมตรวจปัสสาวะ  ตอนแรกผมจะยกเลิกนัดแล้วครับ เพราะผมไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเลย แต่เห็นว่า ไหน ๆ ก็มาแล้ว ตรวจหน่อยก็ได้ครับ

พอผมเจอหมอ  ความรู้สึกแรกสุดเลยคือ หมอดูสงบ เยือกเย็น พูดเสียงเบามากกกกก เบาจนผมต้องเงี่ยหูฟัง  และหน้าตาย  ผมก็ไม่คิดอะไรครับ

หมอถามผมคำแรกว่า เป็นยังไง มีอาการใด ๆ บ้าง ผมตอบว่า ขณะนี้ ผมไม่เจ็บแล้วครับ และไม่มีอาการใด ๆ เลยครับ  หมอทำหน้านิ่ง และสั่งให้ผมไปนอนบนเตียง

และหมอก็เอาหูฟัง มาแนบที่ ใต้ลิ้นปรี่ ด้านซ้าย เพื่อฟังเสียง 1 นาที  แล้วมาแนบที่ด้านขวาฟังเสียง 1 นาที  แล้วก็เลื่อนไปฟังเสียงที่ท้องด้านซ้าย ครึ่งนาที  ด้านขวา ครึ่งนาที  แล้วหมอก็เรียกผมไปนั่งเก้าอี้คุยกับหมอต่อไป

หมอทำสีหน้า เหมือนกำลังจะบอกข่าวร้ายกับผมครับ  แต่หมอไม่พูดอะไร นอกจาก เริ่มอธิบายการทำงานของกระเพาะอาหาร และลำไส้ พร้อมทั้งรูปประกอบ ทั้งจากโปสเตอร์ แผ่นพับ และไอแพดของหมอเอง  สรุปก็คือ หมออยากให้ผม "ส่องกล้อง" ครับ  ผมถามว่า "ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร" หมอถามผมกลับว่า ผมมีประกันสังคม ประกันใด ๆ หรือเบิกได้ไหม ผมบอกว่า ไม่มีเลยครับ เพราะผม ทำงานอาชีพอิสระครับ ไม่ได้ทำประกันใด ๆ ไว้เลย

หมอพูดต่อ ภายใต้บุคคลิกที่ดูนิ่ง และเหมือนจะมีข่าวร้ายตลอดเวลา  หมอเอากระดาษแผ่นนึงมาวาดรูปให้ดู เป็นรูปกระเพาะอาหาร และลำไส้ ด้านขวา หมอบอกว่า ผมมีก้อนเนื้อที่กระเพาะ และ ลำไส้ด้านขวาครับ  จึงอยากให้ส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ค่าใช้จ่ายประมาณ 4 หมื่นบาท  ผมปฏิเสธหมอไป เพราะผมไม่มีเงินขนาดนั้น อีกใจนึงผมก็คิดว่า ผมจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ นี่ขนาดยังไม่ได้รักษานะ

หมอจึงบอกว่า ผมน่าจะเป็นมะเร็ง ถ้ารีบตรวจและรีบรักษา ก็จะหายทัน อย่าปล่อยไว้นาน (น้ำเสียงหมอ เย็นชามาก และพูดเสียงเบาเท่าเสียงกระซิบ บวกกับหน้าตาที่นิ่งดูเย็นยะเยือก) 

ผมนึกในใจว่า งานเข้าแล้วเหรอเนี่ย ผมไม่ได้เตรียมใจมาฟังเรื่องแบบนี้เลย ตอนนั้น ผมไม่ได้โทษหมอนะครับ ผมเอง ก็อยากรู้เหมือนกันว่า ผมเป็นอะไรหรือเปล่า   ผมย้ำถามหมออีกรอบหนึ่ง หมอยืนยันหนักแน่นว่า ผมมีเนื้องอกที่ กระเพราะ และลำไส้ เปอร์เซ็นต์เป็นเนื้อร้าย สูงมาก 

ผมก็ยังยืนยันว่า จะไม่ส่องกล้องเพราะแพงมาก หมอจึงบอกว่า งั้นผมจะให้ยาไปกินแล้วกัน 

ยาที่ได้มา ก็จะเป็น ยาช่วยย่อย, ยาปรับการทำงานของลำไส้, ยาขับลม,  ยาโรคกระเพาะ

ผมนั่ง งง อยู่พักใหญ่ ทำใจไม่ได้  นี่เราเป็นมะเร็งแล้วหรือ   ผมนั่งจนน้ำตาปริ่ม ๆ ออกมา จากนั้น ผมทนไม่ไหว ก็เลยไปหา หมอคนแรก ที่รักษาโรคแพนิค (เป็นจิตแพทย์ครับ)  หมอกลับบ้านแล้ว  ผมก็เลยคุยกับพยาบาล เขาก็เลยเปิดห้องคุย ผมก็เล่าให้เขาฟัง  พยาบาลโทรไปหา พยาบาลอีกคนที่เป็นผู้ช่วยหมอน่ากลัวท่านนั้นครับ  แล้วพยาบาลที่ผมปรึกษาด้วย ก็กลับมาเล่าให้ผมฟังว่า  

บุคคลิกของหมอท่านนี้ เป็นแบบนี้ อยู่แล้ว มีคนไข้หลายคนที่ตกใจ และกลัวมาก  พยาบาลบอกต่อว่า การตรวจมะเร็ง มันต้องซักประวัติ และ ดูอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย  และที่สำคัญ ต้องตรวจโดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ จึงจะบอกได้ว่าเป็นหรือไม่ แค่เนื้องอก ก็ยังต้องใช้เครื่องมือในการตรวจเลย จึงจะระบุได้ แต่นี่ แค่ฟังเสียงเฉย ๆ ก็บอกได้แล้วเหรอ (พยาบาลบอกครับ)

สำหรับผม  ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ครอบครัว ไม่มีใครเป็นมะเร็ง และผมไม่ได้ถ่ายเป็นเลือด ผมถ่ายปกติ ผมชอบทานผัก ผมไม่ได้จุกเสียดแน่นกระเพาะอาหาร และไม่ได้รู้สึกเหมือนจะอาเจียน ผมทานข้าวได้ปกติ และน้ำหนักไม่ลด มีแต่จะขึ้น  

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกังวลคือ ผมปวดจิ๊ด ๆ บริเวณ ท้องน้อยด้านขวามือ เท่านั้น เป็น ๆ หาย ๆ น่ารำคาญ ประกอบกับ หมอที่ตรวจผม เป็นหมอเฉพาะทาง เขาน่าจะฟังเสียงก็รู้แล้ว (ผมให้เครดิตหมอมากไปหรือเปล่าครับ)

พยาบาลปลอบใจและบอกผมว่า ไม่ต้องกังวล 

แต่... จากตอนแรกที่ผมไม่เคยคิดจะไปตรวจหาอะไรเลย กลับกลายเป็นว่า ตอนนี้ ผมต้องมาเสียเวลาหาโรงพยาบาลที่ราคาพอรับได้ และจัดสรรเวลาในการตรวจให้รู้แน่ชัดว่า ผมเป็นมะเร็งหรือไม่  แค่คำพูดหมอสั้น ๆ แต่ทำให้ผมต้องแบ่งเวลาให้กับเรื่องนี้อย่างจริงจังซะแล้วครับ 

ระหว่างที่ผมกำลังจะไปตรวจ (ผมคิดว่าจะไปตรวจวันจันทร์นี้ครับ)  ผมจึงกลายเป็นว่า ผมวิตกกังวล หนักเลยครับ กลัวว่า จะเจอเนื้อร้าย กลัวโน่นกลัวนี่ไปหมด  จนตอนนี้ ผมนอนเฉย ๆ ไม่อยากทำอะไรเลย กลายเป็นผมหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเลยครับ 

ผมเข้าไปอ่านโรค มะเร็งลำไส้ ก็พบว่า คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ส่วนมาก จะปวดที่ท้องด้านซ้ายรุนแรงมาก  แต่ผมปวดด้านขวา จี๊ด ๆ เป็น ๆ หาย ๆ  (พยายามหาสิ่งที่มาสนับสนุนว่าผมไม่ได้เป็นเพือปลอบใจตัวเอง) 

ที่ผมสงสัยคือ  ผมเจ็บลำไส้ ทำไมมันกลายเป็นเรื่องกระเพาะอาหารได้ และลำไส้ก็ด้วย  หมอค่อนข้างฟันธงว่า มีเนื้องอก ไม่รู้ดีหรือร้าย อยู่ในสองจุดนี้ และพอผมถามชัด ๆ จ้องตาหมอ หมอกลับตอบว่า ผมเป็นมะเร็ง 

ผมสับสนมากเลยครับ ทำอะไรไม่ถูกแล้ว เงินก็ไม่ค่อยมี ต้องมาหยุดงานเพื่อไปตรวจ ๆ ๆ ๆ อีกหลาย ๆ ครั้ง แล้วไม่รู้ จะเจออะไรอีก  

ยอมรับว่า กลัวสุดขีดเลยครับ 

 

จึงต้องขอพึ่งที่พึ่งทางโหราศาสตร์บ้างครับ 

ผมเกิด 29 ตค 2511 วันอังคาร ปีวอก เวลา 19.45 น. กรุงเทพฯ ครับ 

อยากรบกวนช่วยดูดวงให้ด้วยครับว่า ผมถึงคราวแล้วหรือยัง ถ้าถึงแล้วจริง ๆ ผมจะไปทางไหน หรือทำอย่างไรต่อ ดีครับ

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ



ผู้ตั้งกระทู้ อาท :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-27 01:06:29 IP : 124.120.205.235


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2378000)

 รีบไปทำประกันโรคมะเร็งก่อนเลย เดี๋ยวมีผลตรวจแล้วไปทำไม่ได้

ทำเสร็จก็รีบไปตรวจซะ  ตามดวงมีแววเหมือนกัน หมอเก่งนะนี่

ผู้แสดงความคิดเห็น อนิจจัง ทุกขัง อนันตา วันที่ตอบ 2013-06-27 22:47:15 IP : 223.206.202.253


ความคิดเห็นที่ 2 (2378007)

 ผมจะเป็นลม อ่านแล้วตัวชาเลย ตอนนี้ กินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว ฮือ ๆ ๆ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาท วันที่ตอบ 2013-06-28 00:24:55 IP : 124.121.230.228


ความคิดเห็นที่ 3 (2380597)

 มะเร็งระยะแรก รีบรักษาตัดทิ้งไป+ฉายแสงทำคีโมก็หายได้นะคะ เพียงแต่ค่าใช้จ่ายสูงหน่อยบวกกับต้องมีกำลังใจที่ดีค่ะ

ตรวจเลือดก็เป็นตัวนึงที่ช่วยวินิจฉัยมะเร็งได้ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ ตัดชิ้นเนื้อ(ที่คุณหมอจะให้ส่องกล้องนั่นล่ะค่ะ)

เพื่อส่งไปตรวจดูว่าเป็นเนื้อร้ายจริงหรือไม่ และเป็นชนิดไหน จะได้เลือกวิธีรักษาที่ถูกกับเค้าที่สุด

รีบไปนัดตรวจเพิ่มเร็วๆนะคะ  อาจจะเป็นแค่เนื้องอกชนิดธรรมดาก็ได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น jum วันที่ตอบ 2013-07-02 23:06:34 IP : 202.28.179.5


ความคิดเห็นที่ 4 (2381022)

 ยังไม่ตายหรอกคับ  อีกนานอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น อ9H9 ๅ+ วันที่ตอบ 2013-07-03 22:25:45 IP : 118.172.174.16



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.