ซ้า  ธุ  โชคดีจัง ที่โดนสแกนแล้วผ่าน  มีกะลังขึ้นมาแยะเชียวคับ  ขอขอบคุณ

อ้อ ลืมไปครับอาจารย์  ที่ผมใช้ จานหมุน 90  องศา  หลักการณ์ แปลความหมายดาว ก็มาจากอาจารย์  จรัญ พิกุลทั้งนั้นแหละครับ  หนังสือของท่าน  ที่เขียนมาชื่อ  โหราศาสตร์ไทย  ระบบรังสีดาว  และโหราศาสตร์สากล  สองเล่มนี้มีความลึกซึ้งและสุดยอดที่สุดแล้วครับ  ปีที่ท่านทำไว้คือ 2511  ครับ  อาจารย์  ยังไงแล้วถ้ามีอะไรจะแนะนำและติชมก็ยินดีที่จะรับฟังน่ะครับ

จะเป็นโหราทั้งที เรื่องคำนวณจะไปขี้เกียจได้ยังไงล่ะครับ การเรียนโหราศาสตร์ไม่ว่าจะระบบไหน เรื่องข้อมูลที่มาของฐานการพยากรณ์ เป็นสิ่งสำคัญมาก สมัยก่อนวิทยาการบ้านเราในด้านนี้ ยังอ่อน เราใช้คัมภีร์สุริยยาตร์ ในการคำนวณหาตำแหน่งดวงดาว  ซึ่งกว่าจะหาได้ต้องศึกษากันแตกฉาน ก่อน ถึงขนาดว่า ในกรมโหรเอง มีแผนกนี้โดยเฉพาะ ตำแหน่ง ขุนคำนวณ หลวงไตรเพทย์ พระญาณเวท จนถึงเจ้ากรมโหร คือ พระยาโหราธิบดี เป็นผู้รับผิดชอบ โขกกระดานชนวน กันโป๊กๆ ทวนตำแหน่งสมผุสดวงดาว กันมา หลายชั่วรุ่น กว่าจะคำนวณได้ปีต่อปี ใครจะเป็นโหร ก็เข้าไป ขอคัดลอก ปีย้อนหลังกันมาใช้  ต่อมามีนักเลงดี ไปคิดตารางล็อคสำเร็จ จาก คัมภีร์นี้ออกมาได้ คือ หลวงอรรถวาทีธรรมปริวรรต ( วิเชียร จันทร์หอม ) เอามาตีพิมพ์ และเป็นแรงบันดาลใจให้ อาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว มาทำปฏิทินดาราศาสตร์ แนวสุริยยาตร์ เป็นการต่อมา  นี่เรียกว่าโหราศาสตร์สายสุริยยาตร์  อีกสายหนึ่ง อาจารย์เทพ  สาริกบุตร สร้างปฏิทิน โหรแนว สากล โดยปรับ อายนางศะ ประจำปีแปลงจาก ปฏิทินดาราศาสตร์สากล ของ ราฟาเอง ของอังกฤษ มาปรับแก้เวลา จาก กรีนิต บวก  7 ชม. เป็น กรุงเทพ ปรับจากสายนะ เป็นนิรายนะ เรียกว่า โหราศาสตร์ไทยสายปฏิทินอาจารย์เทพ ..ยังมีบางท่านใช้ ปฏิทินโหรของอินเดีย เรียกว่า ปฏิทินราหิรี ซึ่งคำนวณจากคัมภีร์สุริยยาตร์สิทธานตะ ไม่ใช่ สุริยยาตร์เฉยๆแบบบ้านเรา ซึ่งพัฒนากันขึ้นมาเอง นี่ก้อีกสายหนึ่ง ขณะเดียวกันในปฏิทินราฟาเอลเองนั้น บางตำแหน่งก็ยังไม่ตรงกัน ซะทีเดียว ปฏิทินดาราศาสตร์ปัจจุบัน เขาใช้ Swiss Ephimeris เป็นหลัก จะสังเกตได้ว่า โปรแกรมคำนวณดวงดาวมาตรฐาน เขาใช้ระบบนี้กัน เช่น โซล่าร์ฟาย แม้ของที่พัฒนากันเองในเมืองไทย เช่น Virgo ของ อจ.โรจน์  จินตมาส หรือ PlaPlace อจ.ดร.วินัย  อวยพรประเสริฐ และท่านอื่นๆที่สร้าง ก็ใช้ ของ Swiss เป็น Sorce Code เรื่องอย่างนี้มันมีลำดับการวิวัฒนาการครับ ในเมืองไทย ส่วนภาคพยากรณ์ จะใช้อย่างไรนั้น แล้วแต่อาจารย์ท่านจะใช้สายการคำนวณจากแหล่งไหน ...ผมยังใช้ สิบลัคน์ สายอาจารย์ทองเจือ แบบสมผุสดาวรายวันอยู่  ก็ใช้ได้แม่นยำดี แม้สายอาจารย์พลูหลวงก็เช่นกัน  แต่ก่อนนี้โหรรุ่นใหญ่ๆ เช่น สมเด็จพระสังฆราช อยู่ ญาโณทัย วัดสระเกศ ท่านทรงคำนวณเอง ท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี ( กิมอิ้น ) วัดทองนพคุณ ท่านก็คำนวณเอง  ท่านเล่าว่าไม่ไว้ใจใครในเรื่องนี้ต้องทำเอง เห็นท่านใช้ทั้งลูกคิด ทั้งกระดาษทด มากมาย กว่าท่านจะทายออกมาได้ทีท่านพินิจแล้วพิเคราะห์อีก  กว่าจะออกคำทำนาย ซึ่งความแม่นยำเป็นที่ ฮือฮา นับถือเป็นปรมาจารย์ในวิชานี้กันทั้งนั้น..ไม่ได้ทายเจื้อแจ้ว แบบผมๆคุณๆในสมัยนี้หรอกครับ

อาจารย์พลูหลวง  แกเอา  แบคัสมาใช้ก็แม่นดีน่ะ  ส่วนผมคิดคำนวน  อาทิตย์  ถึง เนป จูนก็เหลือกินแล้วครับ  ไม่เคยใช้  คอมช่วยเลย  เฮ้ออออออออออออ   ดาวทิพย์อีกแปดดวงคงไม่มีเวลามากขนาดนั้นหรอกครับ  คิดว่าคงพอแค่เนี้ยะแหละ  อิอิ

แต่ยังไงก็ตามครับ  เวลาในกรุงเทพสามารถใช้ ปฏิทินอาจารย์เทพโดยแม่นยำที่สุดครับ

เก่งสู้อาจารย์  ภารด  ไม่ได้หรอกครับ  ผมมันพวก  ศึกษาน้อย แต่ บ้าบอครับ  เอาอารมย์ตัวเองไม่ถูกเด๋ว บ้าเด๋วบ๊อง ก็เลยไม่ถึงไหนเลยครับแต่ก็คิดว่า คงจะหยุดอยู่แค่โหราศาสตร์ปริทรรศน์  แค่นี้แหละครับ ไม่เอาแล้ว  เพราะโทษทุกข์คนเรามันก็มีไม่มากครับมีแค่นั้น  แต่ถ้าจะเหนือไปกว่านั้นคงไม่เอาแล้ว

ที่สุดของโหราศาสตร์ ก็คือ เข้าใจตนเอง คุณต้อมนับว่าถึงที่สุดคนหนึ่งแล้ว สาธุ

โหหหหหหหหหหหห    ถึงสุดขนาดไหนเนี่ย อิอิ  ศรีธัญญาแหละผมว่า อิอิ

จุดสังเกตของผมเอง คนเดียวเท่าที่ศึกษามา คนอื่นไม่เกี่ยว ของแง่มุมโหราศาสตร์ไทย ไม่ว่าจะระบบไหนก็แล้วแต่คือ ถ้าทายว่า ปีนี้มีอะไร เกิดขึ้นนั้นน่ะ แม่นแสนแม่น  แต่จะเกิดเมื่อไหร่ วันไหน เวลาเท่าไหร่นี่แหละ ปัญหา ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่มาก ผู้ที่เรียนอย่างเป็นวิชาการจริงๆ แล้ว ต้องหาสิ่งที่ขาดหายไปนี้ จากแหล่งอื่น มาเติมเต็ม เพื่อให้องค์ความรู้ของตนเองสมบูรณ์  ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับการที่จะใช้วิชานี้ ไปบริการให้ลูกค้าเชิงพาณิชย์  เพียงแต่ว่าตราบใดที่คุณยังอยู่ในวังวนแห่งวิชานี้ ณ จุดหนึ่ง เวลาหนึ่ง จะมีประสบการณ์บางอย่างสอนคุณเองว่า ถึงคราวที่ จะต้องแสวงหา เพิ่มเติม โดยแรงผลักดันจากสิ่งรอบด้าน ที่บีบบังคับคุณ ซึ่งตอนนี้เวลานี้ จะยังไม่เห็นความสำคัญนี้หรอก  และผมเองก็เชื่อว่า หลายๆท่านที่ศึกษาในวิชานี้ ก็เคยเป็นเช่นนั้น เหมือนกัน

อีกเรื่องก็คือ แบคคัส ถ้าเล่นตัวนี้ เป็นดาวเกษตรในราศีพฤษภ ที่แปลว่าร่ำรวย ในยุคของเรา เพียงโคจรในราศี มิถุน กับกรกฎ  เท่านั้น จะใช้ได้เฉพาะกับบางดวงครับ  ยังมีจุดที่น่าจะไปได้ลึกกว่านี้ได้อีกมาก  แค่จะเอาตัวนี้เป็นตัวตั้งและเอาดาวอื่นเข้าผสม แล้วอ่านแบบดวงอีแปะนั้น  ใช้ไปเรื่อยๆจะรู้ว่า ยังไม่สมบูรณ์ และยังต้องมีการพัฒนาอีกมาก เนื่องจาก ดาวนี้วงโคจรมันกว้าง  ราศีหนึ่งอยู่นานมาก...อีกทั้งแบคคัส เป็นเพียงหนึ่งในดาวเคราะห์น้อย ซึ่งมีดาวเคราะห์น้อยเช่นนี้อีกมาก....เท่าที่เรียนและวิจัยมาเป็นเช่นนี้  ... ไม่รู้คุณต้อม เคยลองดูหรือยัง

ทำไมเขาถึงมีคำว่า  ปริญญาตรี 

ทำไมเขาถึงว่าเป้าหมาย 

เมื่อถึงแล้ว 

บางท่านก็หยุดแค่นั้น 

แต่บางท่านก็ยังคิดที่จะ

ต้องเรียนไปถึงปริญญาโท 

ส่วนผม

เป้าหมายของโหราศาสตร์ 

คือรู้ วิธีการอ่าน 

การเดินไปตามเส้นทางของชีวิต

และรู้จักการปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตเท่านั้น 

 ส่วนตื้นลึกหนาบางก็คงจะไม่สนแล้วแหละ 

เพราะยังไงปริญญาตรีของผมก็สูง

และมีคุณค่ามากกว่าปริญญาเอก เสียอีกครับ  เพราะว่า 

ผมถึงเป้าหมายแล้ว 

และคงจะหยุดใช้มันเพียงแค่นี้  แล้ว 

ส่วนที่ว่าจะลึกหรือมาปรับใช้ได้ตรงเป๊ะ ๆ นั้น 

คงไม่ใช้เพราะไม่ได้คิดล่วงหน้า 

แค่นี้ผม ก็ว่าผมแม่นแล้วน่ะ 

เพราะได้  ทั้ง  วิชา ส่วนหนึ่งของ

ปรมาจารย์  เทพย์   ประยูร  จรัญ  วีระขัติยกุล  

ถึงแม้มันจะน้อยนิดก็ตาม  ก้อไม่อยากคุยหรอกครับว่าแม่น  โคตร ๆ อิอิ

ขอย้ำครับ  แม่น  ดวงไทยแม่นอยู่แล้ว  แล้วระบบรังษีดาว อีก  โหยยยยยยย  ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ  แม่นโคตร ๆ ๆๆๆๆๆ  อิอิอิ

(ไม่ได้ต้องการที่จะก้าวร้าวหรือเถียงท่านปรมาจารย์ ภารต น่ะครับ  แต่แค่อยากแสดงความรู้สึกส่วนหนึ่งของตัวเองแค่นั้นครับ )

ส่วนท่านอาจารย์ จะมีความเห็นติติงหรือวิจารณ์คนหัวแข็ง แบบผมก็เชิญเลยน่ะครับ  ยอมทุกอย่าง  น่ะฮ้าตัวเอง  อิอิ

เวลาข้างหน้าจะเป็นตัวบอกครับ  คุณเรียนโหรามาก็คงทราบดีแหละครับว่า  วัยนี่แหละ มันจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำรอบ  สมมติว่า เราว่าเราอายุ 22 เรียนสำเร็จพอแล้วนะ...ย้อนกลับไปดู อายุเท่าไหร่ที่เราเริ่มเรียนวิชานี้  แล้วคูณ 2 เข้าไป  ช่วงเวลาอายุเท่านั้น  ถึงตอนนั้นคุณจะเริ่มค้นใหม่ศึกษาใหม่ ชนิดรื้อโครงสร้างทีเดียว  พออายุ 44 ย่าง 45 ความรู้ตรงนั้นกับตรงนี้ คุณจะทราบด้วยตนเองว่า แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  นี่ผมทำนายคุณเอาไว้ล่วงหน้า ตอนนี้เรื่องมันยังไม่เกิดหรอกครับ  มันไม่ Get  อิอิ..

ผมว่ายิ่งหยุดมันยิ่งเกิดครับอาจารย์  มันเวลาครูบาอาจารย์พูดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วพอทีนี้มาเจอในดวงมาตรองดูก็ยิ่งลึ้งซึ้งเหลือจะพรรณาครับ  ผมว่าถึงจุหยุดขนาดไหนมันก็เกิดความรู้ขึ้นเรื่อยๆ ครับ  อิอิ

หนังชีวิตคับ  ต้องดูยาวๆๆ  อิอิ

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ   จะขอกล่าวถึงวิชาการวิเคราะห์ดวงดาวนะครับ วิชาจิตศาสตร์ไม่เกี่ยวครับ ดวงดาวบนท้องฟ้ากุมชีวิตเราทุกคนจริงหรือที่บอกว่าทายแม่นยำนั้น ผมเคยไปดูหมอมาไม่เห็นมีใครทายถูกสักราย บอกว่าเร็วๆนี้จะโชดดีแต่จนแล้วจนรอดมีแต่ปัญหาจนไม่อยากรู้อนาคตของตัวเองแล้ว ถ้าใครว่าแม่นจริงอยากให้ทายอดีตให้หน่อยว่าที่ผ่านมาสิบกว่าปีนี้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เอาที่หลักๆก็ได้  ผมเกิด วันพุธที่26ต.ค2503เวลา5.20น.ครับ ไม่ใช่อยากลองนะครับ แต่อยากหาคนดูที่แม่นจริงๆ