เห็นด้วยกับ reply#1

คุณภารตลองดูเว็บบอร์ดต่อไปเรื่อยๆ หรือลองไปทบทวนดูกระทู้เก่าๆ ที่เว็บอื่นอย่างเว็บผมเอง ดูดีกว่า อย่างกระทู้หนึ่งที่คุณภารตไปช่วยตอบ คนตั้งกระทู้สารภาพออกมาจนได้ว่าพึ่งเรียนกับอาจารย์ได้ชั่วโมงเดียว ผมเลยตัดบทให้เขากลับไปเรียนกับอาจารย์ในชั่วโมงต่อๆ ไป ซึ่งคุณคงได้อ่านแล้ว

โดยส่วนตัวผมเองอยากให้กระทู้ของคุณดาวมฤตยูเป็น Topic of the Year 2006 โดยไม่ขอเอากระทู้ไหนๆ ในเว็บผมมาแข่งด้วยเป็นอันขาด

Topics of the Year 2006 เข้าท่าดีครับ ท่านอาจารย์โรจน์ แต่ผมเพิ่งจะเปิด..เพิ่งจะก่อร่างสร้างเวปได้ไม่กี่เดือนเอง..สงสัยต้องรอเป็นปีหน้า...ดีครับ..คิดไปคิดมา  ท่านอาจารย์โรจน์ กับผม คล้ายๆเป็นโต้โผ เจ้าของวิก...ก็ต้องมี ดาราประจำ  ดารารับเชิญ บางท่านก็ต้องเชิญมา  บางท่านเห็นดีเห็นงามก็ขอมาเล่นแจมด้วย  บางท่านถึงกับต้องขู่กัน ถึงจะมา ..ครบครับ พระเอก นางเอก ผู้ช่วย เสนา ผู้ร้าย  ตัวโกง ตลกหน้าม่าน มีครบทุกรส... ขาดแต่แม่ยกกระเป๋าหนักนี่แหละ...วิกผมยังไม่มี ... เลยนั่งอิจฉาท่านอาจารย์โรจน์อยู่นี่แหละ

ความเห็นที่ 5 ของคุณภารตจะทำให้คนเข้าใจผิดว่าเว็บผมมีแม่ยก (สาวๆ?) อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่เจตนาคุณน่าจะหมายความถึงการขายโปรแกรม Virgo ซึ่งบางช่วงก็ใช่ว่าจะขายดีอะไรนักหนา

เรื่องการถามในเว็บบอร์ดก็คงต้องหาเส้นแบ่งความพอดีอย่างผู้ตั้งกระทู้ว่าแหละครับ

อันที่จริงความรู้ต่างๆในด้านโหราศาสตร์นั้นมีหนังสือในท้องตลาดไม่ว่าไทยหรือเทศมีจำหน่ายอยู่เยอะแยะหรืออาจารย์ที่สอนกันก็มีอยู่มากเช่นกันเอาเป็นว่าที่สังเกตุเจอในกระทู้ส่วนมากเป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่เกินวิสัยที่จะเรียนรู้และหาข้อมูลส่วที่น่าจะเป็นห่วงคือนำหลักวิชามาใช้อย่างไรให้เกิดผล และทุกวันนี้ยังมีหลายๆท่านยังแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนคือสากล อันไหนคือยูเรเนียน เมื่อความรู้เบื้องต้นยังไม่กระจ่าง ผลของมันคือความสับสนอลมาน ไม่รู้จะหยิบจะจับตรงไหนมาใช้ เบื้องต้นต้องแก้ไขความกระจ่างของการเรียนวิชาโหราศาสตร์ว่า1.กระบวนการอ่านมีอะไรบ้าง

2.กระบวนการวิเคราะห์ทำอย่างไร

3.แล้วเราจะสรุปผลจาการวิเคราะห์แบบไหน

ขอฝากทุกท่านที่ต้องการความรู้และแนวทางที่ถูกต้องเพราะตอนนี้ที่เมืองไทยยังไม่มีหลักสูตรที่มาตรฐานเหมือนกับการเรียนหนังสือจนถึงระดับมหาวิทยาลัยซึ่งต่างประเทศเขามีหลักสูตรโหราศาสตร์ในระดับปริญญากันแล้วดูเช่นเวียตนาม

เมื่อเราผ่านความรู้ขั้นพื้นฐานกันแล้วหรือมีองค์ความรู้ผ่านการศึกษาเบื้องต้นทั้งจากาเรียนเองหรือศึกษาจากอาจารย์มาแล้วหลังจากนี้ก็มาหาความรู้จากcase studyของจริงหรือนำปัญหามาวิเคราะห์บนเวบบอร์ดเพื่อดูแนวทางของท่านอื่นๆในการเสริมสร้างประสพการณ์ให้แกร่งขึ้นเมื่อมีวิชาความรู้ทีดีขึ้นให้รวมตัวกันเพื่อพัฒนาวิชาก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆวิธีการเทคนิคที่ดีกว่าต่อยอดองค์ความรู้สู่นักโหราศาสตร์รุ่นต่อไปให้มีแนวทางที่ดีและถูกต้อง ดังนั้นขอฝากทุกๆท่านจงช่วยกันและอย่ามีอัตตาเพราะชีวิตนั้นสั้นแต่ชื่อเสียงของท่านจะปรากฏบนโลกอีกนานเท่านานความยิ่งใหญ่มิใช่อยู่ที่ท่านรู้อะไร แต่อยู่บนความศรัทธาที่ท่านมีใจเมตตาแก่ผู้รับต่างหากเล่า

เวบบอร์ดน่าจะเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ซึ่งหลายคนก็หลายมุมมอง ย่อมจะทำให้ได้แนวความคิดที่หลากหลาย บางท่านอาจจะพิจารณาด้วยเรือนชะตา บางท่านอาจจะใช้พระเคราะห์สนธิ ก็จะทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่แก่ผู้ติดตาม เช่น การนำดวงชะตากรณีศึกษามาพิจารณาร่วมกันว่าแต่ละท่านมีทัศนะวิจารณ์กันอย่างไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความรู้กัน แทนที่จะมาหาเก็บตกความรู้เพื่อไปต่อจิ๊กซอว์ แล้วต่อไม่ติด หรือต่อผิดอีกต่างหาก

น่าฉงฉาน  กบในกะลา มักจะมองว่ากะลาคือโลกของมัน โหราศาสตร์คือศาสตร์ที่ศึกษาชีวิต  ลองย้อนไปดูสิว่าทำไม่เรียนมาแทบตาย ไหงทายคนนั้นแม่นจิงๆ อีกคนไม่แม่นซะเลย  ผมยอมรับท่านอ.จรัญ จริงๆ ถ้าท่านยังอยู่ คงนั่งหัวเราะกระทู้นี้ แล้วก็หาความรู้ต่อไป

โดยข้อสรุปส่วนตัว ผมว่าการเรียนแบบเล่นต่อจิ๊กซอว์อาจไม่ใช่เรื่องต้องห้ามโดยสิ้นเชิง เพียงแต่ว่าถ้าคุณไม่เคยเห็นภาพใหญ่ของมัน หรือรวบรวมชิ้นส่วนด้วยวิธีการที่เหมือนไม่ได้ให้เกียรติกันแล้ว มันก็เป็นเรื่อง

ปล.ถึงคุณภารต ป้าแอมดาวน์ลายฝากบอกมาว่าได้ย้ายจากวิกหลักไปประจำอยู่สาขาย่อยตั้งนานแล้ว รายละเอียดไว้คุยกันหลังไมค์ครับ

พึ่งได้อ่านความเห็นที่ 15 ชัดๆ คงเป็นลูกติดพันจากกระทู้ในเว็บบอร์ดผม จึงขอชี้แจงดังนี้

ในกระทู้นั้น ผมไม่ได้บอกว่าคุณโง่ และไม่อาจรู้ได้ว่าคุณเรียนกับอาจารย์ไหน เรียนตัวต่อตัวหรือเป็นคลาสกี่คน ที่แนๆ ผมไม่ประสงค์จะไปก้าวก่ายการเรียนการสอนของสำนักไหนๆ ทั้งนั้น การที่คุณพึ่งเรียนได้ชั่วโมงเดียวนอกจากไม่ได้หมายความว่าใครจะโง่แล้ว ปัญหาอะไรในห้องเรียนไม่ว่าการแย่งกันถาม หรืออาจารย์ดูแล(ยัง)ไม่ทั่วถึง ก็เป็นเรื่องที่สามารถคลี่คลายไปได้ ถ้ายังเชื่อมั่นว่าเขาเป็นอาจารย์คุณได้ เมื่อคุณตั้งใจเรียนไปสักระยะ ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นเอง

สมัยที่เรียนกับอาจารย์ประยูร อาจารย์มักจะปรามพวกที่ชอบถามเกินชั่วโมงเรียนว่า ให้รอก่อน ใจเย็นๆ ค่อยๆเรียนแล้วจะรู้และเข้าใจเอง ซึ่งเป็นความจริง การเรียนกับอาจารย์ประยูรนั้น อาจารย์จะค่อยๆสอนบทเรียนไปเรื่อยๆให้พวกเราค่อยๆเห็นภาพโหราศาสตร์ เห็นภาพชีวิตของคนไปเรื่อยๆ จนจบเทอม เราไม่รู้ตัวเองหรอกว่า เรารู้เรื่องได้อย่างไร และเข้าใจเมื่อใด ในชั่วโมงเรียนอาจารย์กำลังสอนเรื่องหนึ่ง แต่นักศึกษาสนใจอีกเรื่องหนึ่ง แล้วมาถามอาจารย์ ซึ่งมักจะยังไม่ได้คำตอบ แม้กระทั่งในชั่วโมงสอน นักศึกษาบางคนคิดเร็วกว่าที่สอน ตั้งคำถามมาในขณะที่ถ้าอดใจรออีกนิดเดียวอาจารย์ก็กำลังจะอธิบายอยู่แล้ว เหตุการณ์เหล่านี้มีให้เห็นเป็นประจำ

ในฐานะผู้สอนยูเรเนียน มักพบว่านักศึกษาที่เรียนใหม่ๆไม่ว่าสมัยไหนๆจะเหมือนกัน คือมักอยากรู้เกินที่สอน และไม่เข้าใจเจตนาของอาจารย์ว่า อาจารย์มีแนวการสอนอย่างไร นักศึกษาบางคน ใจร้อน หรืออาจจะเคยเรียนมาจากบางแห่ง เมื่อมาเรียนรวมกับผู้ที่เพิ่มเริ่มต้น ก็มักเอาตนเองเป็นตัวตั้ง คือ ต้องการถามในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ ดดยไม่คิดถึงเพื่อนๆในชั้นเรียนว่า เขายังไม่รู้เรื่อง และเขากำลังรับฟังบทเรียนจากอาจารย์ และจะมีอีกพวกหนึ่งคือ ขณะที่อาจารย์สอนอยู่หน้าชั้น ก็จะมีการจับกลุ่มดูดวงกันและส่งเสียงรบกวนเพื่อนในชั้นเรียนเสมอๆ แต่ครั้นเรียนไปจนจบหลักสูตรปรากฎว่า คนที่มัวแต่สนใจดูดวงกับสนใจสิ่งที่ตนอยากรู้จะกลายเป็นพวกที่ไม่ค่อยได้ความรู้กลับไป

นักศึกษาบางคนใจร้อน มาถึงนึกว่าอาจารย์จะเอาดวงชะตาตัวอย่างมาสอนหรือแนะนำการดูดวงให้เลย พอให้เรียนทฤษฎีและใช้เวลาเรียนนานวัน พวกนี้ก็จะเลิกเรียน เพราะเขาคิดว่า อาจารย์น่าจะมียาวิเศษ หรือสูตรสำเร็จที่บอกปุ๊บรู้ปั๊บ เรียนไม่เกิน 3 วัน 7 วันดูดวงได้เลย บางคนบอกว่าทำไมบางสำนักเรียน 3 เดือนก็ดูดวงได้แล้ว บางคนบอกเรียนรายเดือนดีกว่า เดือนไหนมีเงินก็ค่อยมาเรียน เดือนไหนไม่ว่างก็ไม่ต้องมาเรียน แต่ไม่คิดถึงว่า สำนัก หรืออาจารย์ที่สอนนั้นมีต้นทุนค่าใช้จ่าย ค่าสถานที่ ค่ารถ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด การสอนนักศึกษา 2-3 คน กับสอนนักศึกษา 10 คน อาจารย์ก็ใช้ความรู้ที่มีอยู่สอนเท่ากันสำนักกับอาจารย์มีค่าใช้จ่ายเท่ากัน คือ ค่าเช่าสถานที่และค่าใช้จ่ายการเดินทางมาสอน แต่ค่าตอบแทนของสำนักกับของอาจารย์ที่มีนักศึกษา 2-3 คน กับ 10 คนนั้นไม่เท่ากัน เรียกว่าเหนื่อยเท่ากันแต่ได้ค่าเหนื่อยไม่เท่ากัน ถามว่าคุ้มมั๊ย ไม่มีคำว่าคุ้มหรอก ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมบางแห่งเปิดสอนไม่สม่ำเสมอ แต่คนที่เรียนกลับคิดอีกด้านหนึ่งว่า การเรียนคือการลงทุนของตนเอง ที่ต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่า เมื่อเรียนไปแล้วต้องดูดวงได้ ถ้าดูดวงไม่ได้แสดงว่าอาจารย์ไม่ดี อาจารย์ไม่พัฒนาตนเอง อาจารย์ไม่รู้จักพัฒนาหลักสูตรให้ง่าย เป็นเร็ว สารพัดที่อาจารย์ควรปรับปรุงตนเอง อาจารย์ประยูรกล่าวเสมอว่า ใบประกาศนียบัตรที่แจกให้นักศึกษาโหราศาสตร์แต่ละรุ่นไม่ได้แปลว่าผู้ได้ไปแล้วจะเป็นโหรได้ และอาจารย์ก็ไม่สนใจด้วยที่คนที่มาเรียนจากอาจารย์แล้วไม่รู้เรื่องแล้วเอาไปพูดว่าเรียนกับอาจารย์แล้วไม่รู้เรื่อง มาตรฐานคนเรียนไม่เท่ากัน แต่มาตรฐานของอาจารย์คนหนึ่งๆที่มีให้นักศึกษาในแต่ละชั้นมีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะประสบการณ์ของอาจารย์มากขึ้นทุกวัน

เก็บมาเล่าสู่กันอ่านแค่นี้แหล่ะ

สาธุ..พ่อแก่ มาให้ขอคิดแล้ว..ยังไงกราบขออาราธนาไว้..ยกขึ้นเป็นบทความนะคร้าบ..เพื่อเป็นสิริมงคลกับเวป

จริงครับ  ตามหลักของ วิก มาตรฐานก็ต้องมี นักร้อง นักดนตรีวงปี่พาทย์ ครบชุดกับ สัญญลักษณ์ ของหลักของ นาฏดนตรี ก็คือเศียร พ่อแก่  ฤาษี เทริด ชฎา หัวโขน และศีรษะพ่อครูพ่อปู่ฤาษี  รวมทั้งรูปเคารพ ของครูบาอาจารย์ ที่ยังมีชีวิตและที่ล่วงลับไปแล้ว .. นับถือเป็นมงคล ปูชา จ ปูชนียานัง

อาจจะยังมังคับ..หลวงพี่  เห็นเขาว่าจะเอาลงวีซีดี ขายเผยแพร่ทั่ววงการอยู่นา  ..คล้ายๆแบบ คลิปลับ ช่วงนี้ใกล้เทศกาล คงขายดี

ผมที่ใช้ชื่อว่ามือใหม่ ในกระทู้ http://www.rojn-info.com/webboard/show.php?No=905139

เป็นคนละคนกับ คห.15 คุณนักเรียนใหม่

จึงเรียนมาคุณโรจน์ทราบ