เรากำหนดเอง โดยกรรม(การกระทำของเรา)  เพียงแต่ระยะเวลาส่งผลของการกระทำ มาเร็วช้าแตกต่างกัน ทำให้งง ไม่รู้ว่าผลที่เผชิญอยู่ เป็นเพราะการกระทำก่อนหน้าของเราเหมือนกัน และสิ่งที่เรากำลังกระทำ ทำไมยังไม่เห็นส่งผล

เคยได้ยินมาว่า  เรือมนุษย์ที่จะออกทะเลแห่งชีวิตนั้น ต้องฟันฝ่าคลื่นลมในรูปแบบต่างๆกัน กัปตันเรือควรรู้จักเรือ และ กาลเวลาของคลื่นและลม การรู้จังหวะว่า เมื่อใด ควรจะเร่งรีบ หรือควรจะหลบเข้าอ่าวหาที่กำบัง  เรือนั้นคงเข้าถึงจุดหมายไม่อับปางเสียหาย  การรู้จักกำลังของเรือ สภาพเรือ รู้จักแผนที่เดินเรือ  รู้จักเวลา สถานที่และฤดูกาล รวมทั้งเมืองท่าต่างๆที่แวะเวียน จะดีกว่าไม่รู้อะไรสักอย่าง หรือรู้ได้ไม่ครบกระบวนทัศน์ ซึ่งอาจจะทำให้ความมั่นใจ ของเที่ยวเรือลำนั้นอ่อนไปได้  แต่โบราณมา มนุษย์ถูกสอนให้เชื่อว่า มีกรรมหรือพรหมลิขิต  ในวิถีชีวิต แต่ไม่รู้ว่ามีกรรมอย่างไรแค่ไหน เมื่อใดแสดงผลออกมา มีแต่วิชาโหราศาสตร์เท่านั้นที่บอกว่า กรรมของมนุษย์คนนั้นๆ มีในแบบใดในชาตินี้   ดังนั้นในสมัยโบราณยุค อาณาจักรคาลเดียน เคยยกโหราศาสตร์ขึ้นเป็นศาสนาด้วยซ้ำ มีหลักฐานทางโบราณคดี ถึงแม้ว่าปัจจุบันไม่ใช่แล้ว แต่โหราศาสตร์ที่เป็นสากล ก็ยังไม่ได้ขัดแย้งกับศาสนาใดทั้งสิ้นแต่กลับเสริมได้กลมกลืนกับคำสอนของศาสดานั้นๆด้วยซ้ำ

นั่นคงเป็นเรื่องจริงอยู่ครับ  เคยมีพงศาวดารกระซิบ ได้ฟังคนที่เคยฟังมาอีกต่อหนึ่ง จากเจ้าคุณพระภัทรมุนี (อิ๋น ภทรมุนี) ปธ.9 วัดทองนพคุณ ท่านเล่าว่าท่านเคยฟังมาจาก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) อีกทีว่า รัชกาลที่ 4 ท่านเป็นสหชาติกับ เจ้าอาวาสวัดอนงค์ องค์ก่อน เกิดปี เดือน วัน เดียวกัน ท่านแปลกใจก็ตรัสสอบถาม เรื่องราวความเป็นมา ครองวัดกับครองราชย์ ก็ปีเดียวกัน  แม้ปีที่ได้ช้างเผือก อีกองค์ก็ได้แมวขาว เพียงแต่คนหนึ่งเป็นรัชทายาท อีกคนลูกชาวบ้านเท่านั้น  คงใช้แทนความหมายของคำตอบของคุณได้มังครับ