สมมุตินะครับ อยากถ้าเป็น ลูกค้ามาถามว่า อาชีพนี้ทำแล้วจะเป็นไง

  วิธีทำก็คือ 1. ดูว่าดาวไรเข้าจุดเจ้าชะตาบ้าง? แล้วแปรเป็นอาชีพว่าทำแล้วรุ่งไหม?

2. ใส่จุดอิทธิพลไปแล้วดูว่าทำมุมกับดาวเคราะห์ไร?

3.กรณีถ้าจุด อิทธิพลอาชีพนั้นมีมากกว่า 1 จุด ให้ดูว่าจุดไหนแรงกว่าโดยดูจากการเลือกจุดที่ทำมุมกับจุดเจ้าชะตาดีที่สุด?

อย่างงี่ถูกเปล่าอะครับ

มีอีกอันที่อยากถามครับ

   มีคนชอบถามว่า จะได้แต่งงานไหม?  อาจารย์ภารตจะใช้วิธีไหนตรวจสอบครับ? ขอละเอียดอะครับ ขอบคุณครับ

คห.8 ฟังดูคล้ายถูกในแง่วิธีการแบบยูเรเนียน  เหมือนเซียนพระส่องดูเนื้อพระว่าน่าจะใช่ แต่ในทางปฏิบัติจริงของเรา วิธีนี้เป็นเพียงหนึ่งในส่วนประกอบอีกหลายๆส่วน..ที่จะต้องนำมาพิจารณาก่อนการวินิจฉัยเพื่อออกคำพยากรณ์

ความจริงก็ไม่ได้หนีหลักการพื้นฐานเลยครับ..ดูดาวศุกร์ความรักดีมั๊ย?...จุดสามีภรรยาดี? จุดแต่งงานซึ่งมีมากมายหลายจุด เป็นอย่างไร? อายุวัยเป็นอย่างไร? อาจจะแปลกไปบ้างตรงที่ดูภาพเคลื่อนไหวขององค์ประกอบรวมว่าเป็นอย่างไร?..ซึ่งต้องศึกษากันพอสมควรครับ...ถ้าภาพแรกไม่ดีต่อให้ตัวอื่นดีอย่างไร ก็ลดคุณภาพลงไปอย่างฮวบฮาบทีเดียว...ตัวทอนสำคัญที่ว่านั้นได้แก่..เสาร์ ...ช้า นาน รอ อุปสรรค พลัดพราก ความจำกัดของเงื่อนไขสารพัดอย่างที่ไม่ได้ดั่งใจเช่น อายุ รักซ้อน ความเจ็บป่วย พิการ พินาศ แม้กระทั้งความตาย

ผมได้อ่านความเห็นที่ 6 โดยคุณอมรแล้ว
ผมดีใจจริงๆ เนื่องจากในใจของผม มีบทความที่ผมชอบมากอยู่ตอนหนึ่ง จึงอยากจะมาเผยแพร่ ให้แก่ผู้ที่สนใจโหราศาสตร์ และกับบางท่านที่ศึกษา แล้วยึดมั่นในสิ่งที่เรียนๆมา( คนที่ค้นคว้า พยายามที่หาความจริงกับโหราศาสตร์ ) ดังนี้ครับ

ในการอ่านดวงชะตานี้ เราจำเป็นต้องค้นหาความหมายของดาวเคราะห์ว่า มีเกณฑ์ได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างไร

ในการนี้ผู้ที่เริ่มศึกษาจำต้องใช้เวลาศึกษาอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาหลายปี จึงจะทราบแนวทางและเข้าใจความหมายได้

อันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพิภพซึ่งเป็นเรื่องที่กว้างใหญ่ไพศาล อันจำเป็นต้องใช้เวลานาน ก่อนที่เราจะสรรหาความเข้าใจในกฏเกณฑ์แห่งดาวเคราะห์ทั้งมวลได้

ความยากลำบากในเรื่องนี้ โหราจารย์ท่านได้กล่าวไว้ว่า สิ่งที่ทุกคนจะทำไม่ได้ และสิ่งที่จะทำให้ถูกต้องได้ยากที่สุดก็คือ  ศิลปะในการแปลความหมายของดวงชะตา

อย่างไรก็ดีเท่าที่ได้กล่าวมานี้ พอจะเป็นนิทัศน์ได้ว่า การที่ใครคนหนึ่งสามารถแปลความหมายของตำแหน่งดาวเคราะห์ ได้ถูกต้องเพียงสองสามดาวเคราะห์

มิได้หมายความว่าคนผู้นนั้นจะสามารถขบปริศนาของดวงชะตาได้ทะลุปรุโปร่งทุกอย่าง
ความจริงเรายิ่งพยายามศึกษาในเรื่องอำนาจลึกลับของดวงดาวได้มากเพียงใด เราก็จะพบแต่สิ่งที่เหลือไว้ให้เราค้นคว้ามากขึ้นเท่านั้น

ยิ่งกว่านั้น แม้ที่สุดเราจะสามารถรู้กฏเกณฑ์ต่างๆในทางโหราศาสตร์ได้มากแล้วก็ดี

แต่เราก็ยังไม่สามารถค้นหาคำตอบ อันซ่อนไว้อย่างละเอียด ซับซ้อนของดวงชะตาใครได้ จริงเป็นเรื่องที่เราต้องศึกษากัน
 
การมีความรู้กว้างขวางเช่นนี้ ก็มิใช่จะก่อเกิดความสัมฤทธิผลแก่ทุกคนเสมอไป บางคนอาจจะพบความล้มเหลว บางคนอาจจะพบกับความสำเร็จ ทั้งนี้ เกี่ยวกับการมี หัว ในศาสตร์ลึกลับนี้เป็นสำคัญ......ฯลฯ

ผมเห็นด้วยกับคุณอมรที่กล่าวว่า
"ที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย เห็นจะต้องค้นคว้าหาความจริงกันต่อไป"

เหนือฟ้า มีฟ้า

เหนือชะตา กรรมลิขิต

AMol ก็ดีใจ ที่มีผู้เข้าใจเช่นคุณสัจจะ ความเห็นที่ 6 ถ้าไม่มองให้ลึกซึ้งเหมือนกับการตีรวน ในข้อเท็จจริง ทั้งความรู้ และตำรา ก็ยังวงเวียนแบบเดิม ๆ นักศึกษารุ่นหลังๆ เรียนจบหลักสูตรแล้วยังสับสน ช่องว่าง ระหว่าง เหตุการณ์จริงกับทฤษฎี จะเชื่อมกันได้อย่างไร การค้นหาความจริง จึงเป็นการอุดช่องว่าง แต่ก็ใช่ว่า อุดได้ทุกเรื่องทุกราย อย่างที่ท่านปรมาจารย์กล่าวไว้ ดวงใครดวงมัน ทฤษฎีจึงต้องมีบทแทรก ดวงดาวยังเคลื่อนที่ ทฤษฎียังต้องพัฒนาต่อไป

ได้อ่านกระทู้นี้แล้วอดที่จะร่วมแสดงความเห็นไม่ได้ ขอเสนอความเห็นประกอบนะครับ

กรณีศึกษาที่ได้จาก กระทู้นี้ก็คือ

1.การที่จะเลือกสมการพระเคราะห์สนธิใดมาใช้ หรือ

2. การเลือกจุดอิทธิพลอันไหนมาใช้ และ

3. ยังมีจุดอิทธิพลอีกมากที่ไม่มีความสัมพันธ์กับจุดเจ้าชะตาแต่มีอิทธิพล

จากประสบการณ์ของผมเองนั้น ปกติผมจะใช้ดาวพระเคราะห์ปกติดวงเดียวหาความสัมพันธ์กับเรื่องที่ต้องการก่อน จากนั้นจึงค่อยขยับไปที่ศูนย์รังสี และสุดท้ายจึงไปหาพระเคราะหสธิที่ใช้ดาวมากกว่า 2 ดวง เพื่อหาตำแหน่งของปัจจัยเหล่านั้น และหาความสัมพันธ์ปกติก่อนว่าสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตาหรือไม่ กรณีต่อมาจึงใช้โค้งสุริยยาตร์ของจุดอิทธิพลกับจุดเจ้าชะตาว่า เหตุการณ์เหล่านั้นจะเกิดขึ้นในอายุเท่าไหร่ อย่างกรณีตัวอย่าง จุด สามี ซึ่งมีหลายจุด แสดงว่า เจ้าชะตามีกรรมที่มีโอกาสจะเป็นสามีได้ภายใต้เงื่อนไขว่า จุดสามีเหล่านั้นปรากฎ ในช่วงอายุที่เหมาะสมเท่าไร เช่น

กรณีที่ 1 อาทิตย์/อังคาร โค้งถึงเมอริเดียนที่ 5 องศา ก็สามารถตีความได้ว่า เมื่ออายุประมาณ 5 ขวบ พาอของเขามีบทบาทการเป็นสามี ไม่ใช่ตัวเจ้าชะตาจะเป็นสามีเอง และในกรณีเดียวกัน ค่าโค้ง 5 องศาก็คือ 45-5 = 40 แสดงว่า เจ้าชะตามีโอกาสที่จะได้เป็นสามีเมื่ออายุ 40 ปี

กรณีที่ 2 อาทิตย์+อังคาร-คิวปิโด  โค้งถึงลัคนา ที่ 47 องศา ก็แสดงว่า เมื่อครึ่งหนึ่ง คือประมาณ 23  ปีเศษเจ้าชะตาอาจจะเคยมีความสัมพันธ์กับใครมาแล้ว หรือถ้าช่วงนั้นยังเรียนอยู่ก็แสดงว่า อาจจะมีกิจกรรมในหมู่คณะของนักศึกษา หรือกิจกรรมในสมาคมอะไรก็ได้

กรณีนี้อย่าแปลความหมายว่า ต้องเป็นสามีเพียงอย่างเดียว เพราะความหมายหรืออิทธิพลของปัจจัยทางโหราศาสตร์นั้นสามารถแปลความหมายอื่นๆได้ด้วย เพราะหากเราไปใช้เพียงความหมายเดียว จะเจอกรณีที่ไปเจอหญิงสาวมาดูดวงแล้วเจอจุดภรรยา (จันทร์+ศุกร์-คิวปิโด)แล้วจะไปตีความว่าเธอเคยไปมีอะไรกับใครมาเมื่ออายุเท่านั้นเท่านี้ก็ไม่เหมาะสม บางเรื่องก็ต้องระวังการอ่านความหมายให้ดีด้วย จะต้องใช้อิทธิพลของดวงชะตาแวดล้อมอื่นๆประกอบอีกมาก เช่น ดวงทินวรรษ หรือดวงสงกรานต์ของเจ้าชะตาในปีนั้นๆว่า มีปัจจัยอะไรที่บ่งบอกว่าเขาจะต้องแต่งงานด้วยหรือไม่ นี่คือประเด็นที่สำคัญ

หลักการอ่านดววงชะตานั้น อย่าใช้เพียงปัจจัยเดียวมาอ่านแล้วสรุปเหตุการณ์ว่า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งมีโอกาสพลาด จนถึงผิด ได้

   ขอบคุณท่านอาจารย์วิโรจน์ และท่าน AMol ครับ ที่ให้เกียรติเข้ามาร่วมอรรถาธิบายในปัญหานี้ ผมขอเสริมอีกนิดก็คือว่า ปัญหาที่สำคัญอีกก็คือ  เรื่องตั้งธงคำตอบไว้ก่อน จากนั้นหาสูตร และดาวไปยัดเรื่องตามที่ตั้งธงไว้ ซึ่งเป็นวิธีของการแกะภาพในกรณีที่ เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว....วิธีนี้เป็นการตรวจสอบเหตุการณ์ของอดีตโดยโหราศาสตร์แนวสืบสวน   ไม่ใช่โหราศาสตร์แนวพยากรณ์ไปข้างหน้า

    เรามักจะลืมหลักพื้นฐานเช่น ธาตุ เพศ คุณะ ราศี เรือน มุมดาวสัมพันธ์ เงื่อนไขเวลาเช่น อายุ วัย ฯลฯ แม้กระทั่งศูนย์รังสี ... โดยที่ความหมายของศูนย์รังสีเอง..เช่น..ระหว่าง อาทิตย์/คิวปิโด กับ คิวปิโด/อาทิตย์ หรือ อาทิตย์/อังคาร กับ อังคาร/อาทิตย์ .... ซึ่งแตกต่างกัน แต่มักจะไม่ค่อยรู้กัน

    เคยมีประสบการณ์ พฤหัสถึงจันทร์ และศุกร์/อังคาร เข้าถึงเจ้าชะตา ในมุมเด่น...น่าจะทำนายว่าคงจะมีกิ๊กแบบลงตัว...ซึ่งก็กำลังขั้วแห้งกันอยู่ในช่วงเวลานั้น....ถึงเวลาเอาเข้าจริงๆ..กลับกลายเป็นว่า ..น้องสาว(ตัวจริง)ดัน(เสือก)ส่งเสื้อมาให้ตัวนึง!!  แหม? ขัดลาภชะมัด...ยังงี้ก็มี?เลยแห้วไปเลย ...ทั้งๆที่ว่าตามสูตรเป๊ะเลย

ผมเข้าใจครับอาจารย์ คล้ายๆกันเลยครับ คืออย่างปีนี้อะครับ โค้ง ศุกผมเข้า พฤหัส ผมเองก็หวังว่าจะเป็นมีโชคจากรัก แต่ก็กลัวว่าจะเป็นอย่างอื่นแทน (เรามีวิธี fix ไหมครับว่าให้ต้องออกมาเป็นแบบนี้ ไม่ให้เป็นอีกอย่างแทน)

ข้อความจากความเห็นที่ 18 มีสิ่งที่ทำให้เห็นประการหนึ่งคือ การเข้าใจผิดในเรื่องของการใช้โค้งสุริยยาตร์ " โค้ง ศุกผมเข้า พฤหัส" การที่ ดาวพระเคราะห์ทำมุมกับดาวพระเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็นดาวจร หรือมีความสัมพันธ์กันด้วยวิธีใดๆก็ตามจะไม่ให้อิทธิพลแก่เจ้าชะตาเลย เพราะ ศุกร์ และพฤหัส ต่างก็เป็นดาวพระเคราะห์เหมือนกัน ไม่มีจุดเจ้าชะตามาเกี่ยวข้อง จึงไม่ทำให้เห็นผลใดๆทั้งสิ้น  นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และประการที่สอง ปัจจัยเพียงชุดเดียว ก็ยังไม่สามารถยืนยันคำตอบได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง อาจจะเป็นเพียงได้พบเห็นเหตุการณ์เท่านั้น

อยากให้ผู้ที่อ่านคัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ อย่าอ่านเพียงสูตรดาว แล้วนำมาใช้โดยยังไม่ได้ทำความเข้าใจที่ถูกต้อง ควรอ่านหลักการอุปมาอุปมัย และทฤษฎีต่างๆ และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนซึ่งถึงแม้จะเข้าใจได้ยาก แต่ถ้ามีความอดทนก้จะสามารถทำความเข้าใจได้

จุดอิทธิพลมีความสำคัญแน่นอน ถึงแม้จะไม่ทำมุมถึงจุดเจ้าชะตาเพราะเหตุการณ์ที่จะเกิด มันไม่เป็นสรณะ อาจเกิดครั้งเดียวในชีวิตก็ได้ ซึ่งทุกคนต้องเจออยู่แล้ว ยกตัวอย่าง เช่น จุดการเสียชีวิต ที่ไม่จำเป็นต้องถึงจุดเจ้าชะตา และทุกคนต้องเจออย่างหลีกเลียงมิได้ ส่วนจุดอื่นๆ ต้องลองสังเกตุดูครับและขอยืนยันมันแสดงอิทธิพลจริงๆ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นเปรียบเทียบได้ในเชิงปรัชญา

คิดได้อย่างไงครับ คุณ เจเจ การเสียชีวิต แม้ไม่ทำมุมถึงจุดเจ้าชะตา แต่ทุกคนต้องตาย ทั้งแหลมและคมมาก ท้าทายกฎโหรฯ อย่างที่พูดไว้ ทำให้นึกถึงจุด อุบัติเหตุ แม้ไม่ทำมุมถึงจุดเจ้าชะตา แต่ทุกคนก็ต้องประสบกับอุบัติเหตุ

ยังต้องมีกฎเกณฑ์อะไรมากกว่าที่เราเรียนรู้เป็นแน่แท้

แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่พ้นจุดเจ้าชะตาอยู่ดี ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เช่น วันนั้น ชั่วโมงนั้น หรือเดือน หรือปี หรือเพราะเราหาไม่เจอด้วย

พูดถึงเรื่องจุดเจ้าชะตา
จุดอิทธิพลจุดเจ้าชะตาผสม
ทั้งหมดมี 90 จุด
แยกเป็น
1.จุดที่ไม่มีลัคนา เมอริเดียน 24 จุด
2.จุดที่ผสมกับลัคนา เมอริเดียน(สำหรับผู้ที่เวลาเกิดตรง) 66 จุด
ทั้งหมดรวมเป็น 90 จุด

โครงสร้างที่สำคัญของจุดเจ้าชะตาผสมคือ
เมอริเดียน เมษ  อาทิตย์ 
โครงสร้างนี้มีความสำคัญ ในการตรวจเช็ดโครงสร้างชีวิตกำเนิด และผันไปในดวงชะตาจร หรือโค้งอายุ