ReadyPlanet.com


"กรรม" หรือ "ดาว" กำหนดชะตาชีวิตเรา


ถึง อาจารย์และคนอื่น ๆ คะ

อืม !  ท่านคิดว่า "กรรม" หรือ "ดวงดาว" คะ ที่ส่งผลต่อชะตาชีวิตของเรา



ผู้ตั้งกระทู้ ไอ้ตัวเล็ก กระจ้อยร้อย กระจิดริด กระจิดจิ๋ว :: วันที่ลงประกาศ 2007-04-23 13:19:25 IP : 124.157.166.8


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (580879)

ดวงดาวเป็นหนึ่งใน  " เครื่องมือ " สำหรับ  วัด  กรรมที่ดีชิ้นหนึ่งเท่าที่มนุษย์คิดขึ้นมาได้ โดยใช้ภูมิปัญญาที่เป็นสากลสะสมกันมาหลายชั่วรุ่นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-04-23 13:23:57 IP : 222.123.86.82


ความคิดเห็นที่ 2 (580922)

โบราณว่า
ถามหมอผี หมอผีว่าผีทำ
ถามพระอาจารย์ พระอาจารย์บอกว่ากรรมเก่า
ถามหมอดู หมอดูว่าเพราะดวงดาว

ทั้งหมดล้วนมาแต่เหตุครับ
สิ่งที่ส่งผลต่อชะตาชีวิตปัจจุบัน
ทุกเรื่อง ค่อนข้างจะคล้องจองกันทั้งหมด
เมื่อเกิดเป็นผลที่ประจักษ์ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2007-04-23 14:09:10 IP : 203.188.35.60


ความคิดเห็นที่ 3 (580955)
คล้าย ๆ กับว่า "กรรม" เป็นสิ่งกำหนดชะตาของเราแบบลับ ๆ ส่วน "ดาว" เป็นเครื่องมืออ่านความลับว่าชีวิตเราถูกกำหนดมายังไง  รึป่าวคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ศิษย์ตัวเล็ก วันที่ตอบ 2007-04-23 14:45:43 IP : 124.157.166.8


ความคิดเห็นที่ 4 (581826)
แนวๆนี้ล่ะครับปัญหาคือเราจะเจอคนที่ใช้เครื่องมือนี้เป็นรึเปล่านั่นแหละ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-04-23 23:23:36 IP : 203.150.137.191


ความคิดเห็นที่ 5 (581892)

ขออนุญาตร่วมแสดงความเห็นด้วยครับ

ถ้าจะคุยเรื่อง กรรม คงต้องทำความเข้าใจความหมายของกรรมกันก่อน เพราะคนไทยส่วนมากมักจะเข้าใจคลาดเคลื่อนกันมาก

กรรม แปลว่า การกระทำ มีความหมายกลางๆ ไม่บวก ไม่ลบ แต่คนมักเข้าใจไปว่า กรรม มีความหมายในแง่ลบ ซึ่งไม่ถูกต้อง และมักเข้าใจในลักษณะเป็นผลของการกระทำ เช่น ถ้าเจอเรื่องไม่ดี มักพูดว่า เป็นกรรมของเขา จริงๆแล้ว ศัพท์ทางพระจะเรียกผลของการกระทำว่า วิบากกรรม ซึ่งคนละอย่างกับวิบากที่ใช้ทั่วไปในภาษาไทย

เมื่อแปลกรรมว่า การกระทำ จะเข้าใจง่ายเลยครับ เช่นหัวข้อกระทู้ บอกว่า การกระทำ (กรรม) กำหนดชะตาชีวิตเรา ก็ย่อมชัดเจนในตัวว่า เรากระทำสิ่งใด ก็จะได้ผลของสิ่งนั้นเป็นชะตาชีวิตเราครับ ปลูกต้นมะม่วงย่อมออกผลเป็นมะม่วง ไม่ใช่ออกเป็นมะพร้าว พูดจาสุภาพ คนฟังก็รื่นหู แต่ถ้าด่าคนอื่น คนถูกด่าย่อมไม่พอใจ

ส่วน ดวงชะตา เป็นการนำปรากฏการณ์ธรรมชาติมาใช้บอกความเป็นไปของมนุษย์ เช่น ดวงกำเนิด ก็นำเหตุการณ์ที่คนโผล่ออกมาจากครรภ์มารดาออกมาเจอโลกภายนอกเป็นครั้งแรก มาคำนวณปรากฏการณ์บนท้องฟ้าในขณะนั้นแล้วเขียนออกมาเป็นดวงชะตา ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวบ่งชี้ถึง ทุนที่ชีวิตนั้นนำติดตัวมาจากภพก่อนหน้า ซึ่งย่อมจาก กรรม หรือ การกระทำในภพก่อน

อย่างไรก็ตาม กรรมปัจจุบัน หรือการกระทำของเจ้าชะตาหลังจากเกิด ย่อมแสดงผลออกมาเช่นกัน และหลายครั้งให้อิทธิพลแรงกว่ากรรมเก่าเสียด้วย จึงเป็นที่มาของคำสอนที่ว่า เมื่อโชคมาถึง ต้องพยายามไขว่คว้า จึงจะได้โชคนั้นมา ถ้ามัวแต่นั่งเฉยๆ โชคนั้นก็ลอยผ่านไป

ผมนับถือพุทธ จึงไม่เชื่อเรื่อง พรหมลิขิต ครับ แต่ผมเชื่อใน กรรมลิขิต ดังนั้น เราอยากได้ผลอย่างไร ก็ต้องกระทำปัจจัยที่เป็นเหตุของผลนั้นๆครับ เช่น นักเรียนอยากสอบผ่าน ก็ต้องขยันอ่านหนังสือ คาดการณ์ข้อสอบที่จะออก คิดวิธีการตอบที่ได้คะแนน แต่ไม่ใช่ไปกราบไหว้อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สอบผ่าน เพราะไม่ใช่ปัจจัยที่เป็นเหตุให้สอบผ่านเลยครับ อยากร่ำรวยก็ต้องรู้จักหาเงิน เก็บเงิน คบเพื่อนดีและใช้ชีวิตให้เหมาะสม ไม่ใช่มัวแต่ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ตัวเองรวย แต่ไม่ทำอะไรเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น Pallas วันที่ตอบ 2007-04-24 01:35:13 IP : 125.25.198.76


ความคิดเห็นที่ 6 (581959)

อย่างนี้.....ชะตา ก้ออยู่ในกำมือของเราซิครับ ดวงดาว แค่กำหนดสิ่งที่จะเกิด

แต่ผมสงสัยอย่าง ถ้าเราตั้งหน้าตั้งตา สวนกระแส วิถีชีวิตเปลี่ยนแน่นอน

แต่แผนผังของดวงดาว ที่ถูกกำหนด จะเปลี่ยนไปด้วยมั๊ย โครงสร้างต่างๆ จะเหมือนเดิม รึเปล่า

เพราะ...มันถูกกำหนดมาแล้ว นี่นา 

ผู้แสดงความคิดเห็น a man วันที่ตอบ 2007-04-24 06:28:55 IP : 125.24.38.8


ความคิดเห็นที่ 7 (582073)
โครงสร้างก็เปลี่ยนไปเป็นโปรเกรสไม๊อะจ๊านคับ...เรื่องกรรม-การกระทำ-เป็นเครื่องกำหนด พูดยากนะ สิ่งที่เราได้รับในชาตินี้มาจากการกระทำของเราชาติที่แล้ว ก็เหมือนโอกาสของคนแต่ละคนไม่เท่ากัน คนบางคนพยาย๊าม พยายามเพราะอยากเปลี่ยนการกระทำในชาตินี้ แต่พยายามเท่าไหร่นิสัยของตัวเองก็ผลักดันให้กลับไปกระทำสิ่งเดิม ๆ อีก สุดท้ายกลับเข้าวังวนเดิม ..ใช่ปะคับจ๊าน..แต่ยังไงก็เหอะ เกิดเป็นคนเนอะ ต้องสู้ซักตั้ง อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าลงมือทำอะไรเพื่อตนเองบ้าง
ผู้แสดงความคิดเห็น ไส้กรอกสามช่า วันที่ตอบ 2007-04-24 08:43:37 IP : 58.147.94.181


ความคิดเห็นที่ 8 (582137)

ในสิ่งที่ร้ายก็มีสิ่งที่ดีแฝงอยู่และสิ่งที่ดีก็มีความร้ายแฝงอยู่ เรียนโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน เพื่อที่จะพอบรรเทาสิ่งที่ร้ายให้บรรเทาไปในระดับพอที่จะรับได้ ส่วนสิ่งที่ดีก็น่าจะดีขึ้นตามความประสงค์ เช่นเดียวกับไฟฟ้า ถ้าเรารู้จักที่จะควบคุมจังหวะและรู้จักธรรมชาติของมัน เราจะได้ประโยขน์จากมันอย่างอเนกอนันต์...ดวงของคนก็เช่นกันครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-04-24 09:31:08 IP : 203.150.103.155


ความคิดเห็นที่ 9 (582673)

 "กรรม" คือ "การกระทำ" ใครทำดีหรือไม่ดีก็ได้ผลตามนั้น ถ้าอยากกินมะม่วงก็ต้องปลูกมะม่วง *-*   อันนี้เห็นด้วยคะ เพราะนับถือหลักพุทธศาสนาเหมียนกัน

แต่ก็ยังแอบสงสัยอยู่นะคะ ว่าแล้วอะไรที่กำหนดให้เราตัดสินใจทำกรรมดี/ชั่ว ณ เวลานั้น ๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไอ้ตัวเล็กขี้สงสัย วันที่ตอบ 2007-04-24 15:19:10 IP : 222.123.82.151


ความคิดเห็นที่ 10 (582805)

ถามว่า เราตั้งหน้าตั้งตาสวนกระแส แผนผังของดวงดาวจะเปลี่ยนหรือไม่
คำตอบคือ ดวงกำเนิดไม่เปลี่ยนครับ เพราะดวงกำเนิดเป็นผลของกรรมเก่า ซึ่งยังให้ผลอยู่เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น นาย ก.ประพฤติตนเป็นโจรขโมยของมาตลอด วันหนึ่งตัดสินใจกลับตัวเป็นคนดี ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่ความดี ความสุจริต ปรากฏว่า ตำรวจมาจับด้วยคดีลักขโมยเดิม ความดีที่ทำขึ้นมาใหม่ย่อมไม่สามารถไปล้างผลของกรรมเก่าได้ทั้งหมด แต่อาจบรรเทาได้ เพราะช่วงที่ นาย ก.ทำความดี อาจมีคนที่เมตตามาให้ความช่วยเหลือ นาย ก. ระหว่างที่ติดคุกก็ได้
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆที่เราไม่สามารถควบคุมได้อีกมาก ที่แม้เราจะพยายามประกอบปัจจัยที่เหมาะสมแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลที่เราต้องการก็ได้ เช่น นาย ข. ต้องการพ้นจากความยากจนและให้ครอบครัวสบาย จึงไปฝึกฝนภาษาอังกฤษ และไปทำงานอยู่ที่โรงแรมย่านเขาหลัก เพราะได้รายได้สูง ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม ไม่ฟุ่มเฟือย คบเพื่อนดี ดูเพียงเท่านี้ เราก็พอจะคาดได้ว่า นาย ข.น่าจะร่ำรวยและทำให้ครอบครัวสบายได้ แต่ปรากฏว่า เกิดเหตุการณ์สึนามิ พัดพาเขากลืนลงทะเล เสียชีวิตไป ผลสุดท้ายครอบครัวของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ลำบากอีกครั้ง ฯลฯ  เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเสมอในโลกของเรา ถ้าไม่ค่อยใจกฎธรรมชาติ ก็จะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม แต่ถ้าเข้าใจ ก็จะรู้ว่าเป็นเรื่องปกติ
ถ้าถามต่อว่า แล้วโหราศาสตร์ช่วยอะไรได้ คำตอบคือ โหราศาสตร์สามารถบอกจังหวะแนวโน้มชีวิตที่จะเป็นไปได้ ทำให้เวลาที่ดวงดี น่าจะประสบความสำเร็จ ก็ควรจะทุ่มเททำให้เต็มที่  กล้าเสี่ยง แต่เวลาดวงไม่ดี ก็ควรระมัดระวัง เน้นปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลสำคัญมากในการใช้ชีวิต
ถามว่า อะไรที่กำหนดให้เราตัดสินใจทำกรรมดี/ชั่ว ณ เวลานั้น ๆ คำตอบของผมคือ ตัวเราเองเป็นผู้กำหนดครับ ถ้าเราปล่อยจิตของเราให้เป็นไปตามกิเลส ก็ย่อมตัดสินใจตามกิเลสนั้น แต่ถ้าจิตของเราใช้ปัญญา ก็จะตัดสินใจได้ดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Pallas วันที่ตอบ 2007-04-24 16:37:33 IP : 61.90.143.87


ความคิดเห็นที่ 11 (582832)
ตอบภาษาดาว เค้าก็จะว่า เพราะดาวมันเล็ง มันกุม มันทำมุมร้อยแปดกะเรา เราก็เลยเกิดอาการแบบนั้น ปัญญาถูกปิด กิเลสเข้าสิง ในที่สุดคำตอบก็เป็นวงกลมคือ เราทำตามกิเลส แต่กิเลสนั้นเกิดจากดาวที่กำหนดในดวงเราไว้ เพราะมีดาวนี้ เราจึงรู้สึกแบบนี้ ตัดสินใจแบบนี้ อ้าว วนกลับที่เก่าอีกแล้วน้อง...พี่มึนอ่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พี่ไอ้ตัวเล็ก วันที่ตอบ 2007-04-24 16:51:46 IP : 222.123.25.102


ความคิดเห็นที่ 12 (582851)
"แต่ก็ยังแอบสงสัยอยู่นะคะ ว่าแล้วอะไรที่กำหนดให้เราตัดสินใจทำกรรมดี/ชั่ว ณ เวลานั้น ๆ" ... มันย่อมมี เหตุ-ปัจจัย ปรุงแต่ง และที่สำคัญคือ "จิต" เราเองที่มีมาแต่เกิดและได้รับการสั่งสมมาเรื่อยๆๆจนโต หากเมื่อจิตเราดี-พร้อมที่จะตั้งรับมั่น (เปรียบได้กับว่าเรามี base ที่แน่นดีพอในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่จำเป็นว่าทุกๆคนต้องมีเท่าๆกัน และแน่นอนว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ 100% perfect) และในห้วงขณะเวลานั้นๆเรายังควบคุม-กำราบมันได้อยู่ (ยังเอามันอยู่) เราก็รอดได้ แต่จะรอดแบบสวย หรือแบบขาดๆวิ่นๆก็ยังถือว่ารอดมาได้ ก็สุดแท้แต่ละคน... อ้าว! แข่งกันมึนใหญ่เลยวุ้ย อิอิ
ผู้แสดงความคิดเห็น ^^ วันที่ตอบ 2007-04-24 17:00:58 IP : 202.139.211.254


ความคิดเห็นที่ 13 (582870)
อิทัปปัจยตา มั้ง... อาจารย์และผู้รู้ทุกท่าน โปรดชี้แนะครับพ้ม...สามช่าจะได้หายมึนกันซ้ากที
ผู้แสดงความคิดเห็น ^^ วันที่ตอบ 2007-04-24 17:15:03 IP : 202.139.211.254


ความคิดเห็นที่ 14 (583119)

เรามันก้อ...มนุษย์ ปุถุชน ธรรมด๊า ธรรมดา กิเลสวนอยู่รอบตัว ซ้าย ขวา หน้า หลัง บนลงล่าง หลับตา ยังอยู่ในหัวเลย !!

เคยมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งในสมัยพุทธกาลกล่าวถึงว่า มีพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้าเบื้อง ซ้ายหรือขวา นี่แหละ ซึ่งแตกฉานในการพยากรณ์มาก ทรงทำนาย  เณรน้อยองค์หนึ่งว่า ชะตาถึงจะต้องมรณะแล้ว ใน 3 วัน 7 วัน แต่พอเณรน้อยไปช่วยชีวิตฝูงปลาที่อยู่ในบ่อแห้งเหือด เมื่อถึงเวลาตามคำทำนาย เณรน้อยกลับไม่มรณะภาพ กลับมีชีวิตยืนยาวต่อมาอีกนานอักโข(ขออภัย ถ้าเล่าผิดเล่าถูก ไม่ได้เปิดหนังสือ แต่เรื่องมันประมาณนี้แหละ)

ในทางธรรมะ ก้อถือว่าเป็นการสร้างกรรมใหม่ที่มีอานิสงฆ์ มาก จนยับยั้งกรรมเก่าไว้ก่อน

แต่ในทางโหราศาสตร์ ถ้าผังดาวไม่เปลี่ยน โครงสร้างไม่เปลี่ยน มันคืออะไรครับ อะไรจะเป็นตัวบอก ถ้าเราเจอเคสแบบนี้ เราจะรู้ได้งัยคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น a man เอ้า! มึนเหมือนกัน วันที่ตอบ 2007-04-24 20:50:22 IP : 125.24.49.251


ความคิดเห็นที่ 15 (583164)
เรามันแค่ปุถุชนเท่านั้นเอง ปุถุชนที่ยังคงอยู่คู่กับอวิชชา (ในที่นี ้คือ โหราศาสตร์)..." แต่ในทางโหราศาสตร์ ถ้าผังดาวไม่เปลี่ยน โครงสร้างไม่เปลี่ยน " ก็จะไปเปลี่ยนได้งัยอ่ะ เพราะเรายังต้องศึกษาอยู่คู่ก๊ะมันไปอีกนานจนกว่าเราจะเบื่อ/หรือไม่เราก็เลิกราไปเองน่ะแหละ เพราะเราอาจจะเห็นหนทางอื่นๆซึ่งเรารู้สึกว่ามันดีกว่าโหราศาสตร์ ซึ่งก็ไม่จำเป็นหรอกว่าจะต้องเป็นศาสนาพุทธของเราเท่านั้น (ก็แล้วแต่บุคคลอีกนั่นแหล่ะ)....
ผู้แสดงความคิดเห็น มึนน..ต่อปายย ^^ วันที่ตอบ 2007-04-24 21:20:02 IP : 202.139.223.18


ความคิดเห็นที่ 16 (583588)
ถ้าดูจากดวงโปรเกรสที่สร้างขึ้นมาจากดวงกำเนิดโดยใช้กฎเกณฑ์ที่ว่า 1 ปีเท่ากับ 1 วันโดยนับจากวันที่เกิด...จะเห็นว่าดวงพระเคราะห์วงในเปลี่ยนตำแหน่งเยอะ ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเปลี่ยนมาก หลายตัวถึงกับข้ามราศีไปทีเดียว.และแม้แต่ดวงนอกบางตัวก็เช่นกัน..ซึ่งวิธีการหาดวงจรวัยเช่นนี้มีมาแต่สมัยกลางของยุโรป ดวงแบบนี้จะเห็นได้ชัดว่า ... เมื่ออายุเปลี่ยนไป...นิสัยใจคอ..ภูมิธรรม..และประสบการณ์ในการแก้ปัญหาของเจ้าชะตา ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร...เช่นสมัยเด็ก..สมัยหนุ่มสาว นิสัยก็อย่างหนึ่ง...พออายุมากเข้านิสัยก็คลี่คลายไปอีกแบบหนึ่ง...หลายท่านดีขึ้นแต่ก็มีอีกหลายท่านเพี้ยนไปจนน่ากลัว ...จะเห็นได้ว่าโหราศาสตร์เองก็มีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เช่นกัน แต่จะเห็นว่าเรื่องเดียวกันมีคำตอบจากฐานวิชาอาจจะต่างกันหรือเหมือนกันก็ได้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังไม่มึน วันที่ตอบ 2007-04-25 08:30:43 IP : 203.150.134.134


ความคิดเห็นที่ 17 (583624)

จ๊าน..เค้าว่าวิชาที่เราเรียนเราคร่ำเคร่งกันน่ะเป็นอวิชชาอ่ะ ไอ้ " เค้า " น่ะ ไม่ได้ร่ำเรียนมาเป็นสิบ ๆ ปีหรอกเหรอ ตกลงมันเป็นอวิชชาจริงอ่ะ ทำไม๊ ทำไม เค้าถึงประนามกันจั๊ง

ผู้แสดงความคิดเห็น อวิชชา...ที่น่าศึกษา วันที่ตอบ 2007-04-25 08:58:29 IP : 124.157.166.198


ความคิดเห็นที่ 18 (584035)
คำว่า อวิชชา แปลว่า วิชาที่ไม่นำไปสู่การพ้นทุกข์! ในสมัยพระพุทธองค์ก็มีโหราศาสตร์นี่นา!
ผู้แสดงความคิดเห็น ^^ วันที่ตอบ 2007-04-25 14:23:34 IP : 202.139.223.18


ความคิดเห็นที่ 19 (584182)
จริงๆ เขาถึงขั้นว่าเป็น เดรัจฉานวิชาด้วยซ้ำ ...ตามรากศัพท์ เดรัจฉานแปลว่าขวาง หมายถึงลำตัวขนานกับพื้นโลก คำว่าสัตว์เดรัจฉาน จึงตรงข้ามกับมนุษย์ ที่มีลำตัวตั้งตรง .... เดรัจฉานวิชาแปลว่า วิชาซึ่งขวางทางไปนิพพาน ... ซึ่งวิชาทางโลกปัจจุบันก็ขวางทั้งสิ้นครับ เขาถึงห้ามภิกษุ หากินกับการดูดวง ....มีอยู่ในมหาศีล ในหมวดพระวินัยปิฎก ถึงกับทรงประณามภิกษุผู้หากินด้วยวิชานี้ ว่า เงยหน้ากิน เพราะตามองดาวต้องเงยหน้ามอง.....เรื่องนี้เคยได้ยินมาว่า มีผุ้เคยทูลถามสมเด็จพระอริยวงษาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช วัดสระเกศ ( อยู่  ญาโณทัย ) ซึ่งพระองค์ก็เป็นจอมโหร มีชื่อคนสำคัญในยุคนั้น  ท่านก็ตรัสว่า  เท่าที่ท่านเคยสำรวจพระไตรปิฎกมา ไม่เคยเห็นว่ามีพุทธประณาม ในเรื่องนี้ตรงไหนอย่างไร  แต่กลับมีเรื่องที่เกี่ยวกับ กาลเวลา หรือการรู้จักกาล เช่น กาลัญญุตา ว่าภิกษุต้องมีความรู้เรื่องเวลา  .... วิชาโหราศาสตร์ก็แปลว่า ศาตร์แห่งเวลา....ดังนั้นจึงไม่น่าผิดที่ภิกษุจะเรียนรู้ แต่ห้ามมิให้นำมาใช้หากินเป็นอาชีพต่างหาก...เราเองเป็นฆารวาส ไม่ใช่พระสักหน่อย....ดังนั้นจึงไม่อยู่ในเคสนี้นี่ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต....แก่วัดแก่วาอีกแล้ว วันที่ตอบ 2007-04-25 16:42:24 IP : 222.123.64.56


ความคิดเห็นที่ 20 (584202)
อิอิ... สาตุ๊ สาตุ๊ อีกรอบนึง
ผู้แสดงความคิดเห็น ู^^ วันที่ตอบ 2007-04-25 16:58:50 IP : 203.107.201.62


ความคิดเห็นที่ 21 (584292)

เอาเต๊อะ เอาเต๊อะ จะอะไรวิชาก็จะเรียนอ่ะ ..อยากรู้ก็จึงเรียน ..ใช่ปะ ...แล้วบรรดาวิชาที่ไม่ขวางทางนิพพานเนี่ยมันมีอะไรบ้างท่านพี่

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องรอง วันที่ตอบ 2007-04-25 18:01:06 IP : 222.123.130.211


ความคิดเห็นที่ 22 (584608)

ช่าย...ผมเห็นด้วย

อย่าง การฝึก อิทธิฤทธิ์ อภิญญาหก พุทธศาสนา ก็มิได้มีข้อห้ามอันใด เพียงแต่พระพุทธองค์ไม่สรรเสริญ 

ผมว่าถ้าโหราศาสตร์ จะเป็นอวิชชา ก็เพราะมีหมอดู บางประเภท(ขอเรียกว่าหมอดู) เอาความศรัทธาของคน มาหากิน  ต้องสะเดาะเคราะห์  ต้องทำพิธี ต้องแก้เคล็ด แล้วเรียกเงินเรียกทอง

พวกนี้..ต้องกำจัด!!  เนอะ อาจารย์ เนอะ แล้วส่วนใหญ่ ก็ไม่ค่อยรู้จริงเสียด้วย ได้แต่หลอกชาวบ้านไปวันๆ

พวกเนี้ยแหละ ทำให้ โหราศาสตร์ มัวหมอง

ผู้แสดงความคิดเห็น a man คิดแล้ว...แค้น !! วันที่ตอบ 2007-04-25 22:22:08 IP : 125.24.58.3


ความคิดเห็นที่ 23 (585412)

วิชาใดก็ตามที่ขวางทางไปสู่นิพพาน  เรียก เดรัจฉานวิชา หรืออวิชชา ทั้งหมด   แม้กระทั้งวิชาวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ   และอื่น ๆ ก็รวมทั้งหมด   มิได้มีแต่โหราศาสตร์ 

จะสนไปไยในเมื่อ  พระพุทธองค์ยังไม่พ้นคำนินทา  เรา ๆโดนเขาว่าบ้าง ก็ช่างเถอะ

และไอ้คำนินทาว่าร้ายจากคนทั้งหลายก็มิได้ทำให้เราฉลาด  หรือพ้นทุกข์  เพิ่มขึ้นด้วย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปลาทองแก้มป่อง วันที่ตอบ 2007-04-26 14:14:42 IP : 61.19.65.126



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.