ReadyPlanet.com


ขอคำอธิบายจากท่านผู้รู้โหราศาสตร์ยูเรเนียน


โหราศาสตร์ยูเรเนียนมีวิธีการกำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ สำหรับการพยากรณ์จร เกี่ยวกับเรื่องเรือนชะตา ท่านอัลเฟรด วิตเตอร์ กล่าวไว้ดังนี้ 1. เรือนชะตาลัคนา จะตรงกับเดือนต่าง ๆ ของปีนั้น 2. ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน จะตรงกับชั่วโมงต่าง ๆ ของวันนั้นๆ 3. ลัคนา คือ จุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของ บุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน 4. เมอริเดียนหรือเรือนที่ 10 เป็นจุดที่เชื่อมโยงนาที เกิดของบุคคลทั้งหลายกับนาที่ที่เกิดเหตุการณ์ ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน กรุณาอธิบายพร้อมยกตัวอย่างให้เข้าใจด้วย ขอบคุณล่วงหน้าครับ


ผู้ตั้งกระทู้ นายนกแล ผู้กำลังศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียน :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-11 16:33:16 IP : 203.113.38.11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (762798)
ผมขอผ่านคับ...เพราะไม่รู้ว่า  ท่านปรมาจารย์อัลเฟรค  วิตเตอร์ กล่าวเอาไว้ที่ไหน  และถ้าพิเคราะห์จากคำถามที่โพสมา มันทะม่องๆยังไงไม่รู้เฮะ.....มันผิดจากสามัญสำนึกอย่างไรชอบกลเชียวคับ..ยังกะคนละวิชาแน่ะ....สงสัยผมเรียนมาน้อยไม่เข้าใจคำอธิบายในคำถามที่ยกมา   ซึ่งควรจะเป็นว่า  ลัคนาบอกสถานที่  เมอริเดียนบอกนาที  จันทร์บอกชั่วโมง อาทิตย์บอกวันเกิดเหตุ  อมาวสีบอกเดือนเกิดเหตุ อาทิตย์ยกเข้าราศีมังกร และ อาทิตย์จรสุริยยาตร์ รวมทั้ง อาทิตย์ทินวรรษ บอกปีที่จะเกิดเหตุ ครับ เรียนมาแบบนี้  อีกทั้งทฤษฎีเรือนชะตาก็ไม่ใช่แนวนี้ อีกแหละ เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ในฐานะจุดตั้งรับของแต่ละเรือนชะตา  เช่นเจ้าชะตาคิดอย่างไร และแสดงออกอย่างไร และเกี่ยวข้องอย่างไร รวมไปถึง คนอื่นเห็นเราแสดงออกอย่างไรในเชิงปฏิสัมพันธ์
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...นกอีมู..หนักบินไม่ได้แล้ว วันที่ตอบ 2007-09-11 17:25:54 IP : 203.154.79.105


ความคิดเห็นที่ 2 (762805)
ตอนโพส์ต เสาร์เล๊งลัคฯนะจ๊ะ จาน.
ผู้แสดงความคิดเห็น Horary วันที่ตอบ 2007-09-11 17:40:42 IP : 125.25.180.129


ความคิดเห็นที่ 3 (762825)
คำถามแนว อัลเฟรด ฮิทช์ค็อกซ์  มังคับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-11 18:20:02 IP : 203.154.79.105


ความคิดเห็นที่ 4 (762845)

ขอมั่วบ้าง ในความคิดผม  ผมไม่คิดว่าเป็นแนว อัลเฟรด ฮิทช์ค็อกซ์ นะครับ 

ขอช่วยตอบดูสักหน่อย  ยังมิได้ดู Horary เหมือนกัน  แต่ตำราว่าไว้ว่าเสาร์เล็ง เสาร์กุมลัคนาดวงกาลชะตานี่ในสมัยก่อนห้ามตอบเลยนะครับ  แต่เคยอ่านเจอตำราใหม่หน่อยเสนอว่า  ให้ทำการพิจารณาด้วยความรอบครอบเพิ่มขึ้น  ขอตอบละครับ

ข้อหนึ่ง  น่าจะเป็นว่า ถ้าใช้ระบบเรือนชะตาเมอริเดียนแบบเรือนเท่ากัน  เรือนละสามสิบองศา  อาทิตย์จะโคจรอยู่ในแต่ละเรือนประมาณสามสิบวัน  ฉะนั้นจึงบอกว่าตรงกับเดือน (แต่ไม่น่าจะตรงกับเดือนต่างๆพอดีเปะๆ)

ข้อสอง  ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน (ตีความก่อนว่าน่าจะหมายถึง  ครึ่งเรือนของหนึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน ก็เท่ากับ 15 องศานั่นเอง)  ในเวลา 4 นาที เมอริเดียนจะเคลื่อนด้วยอัตราปานกลางราว 1 องศา   ฉะนั้น 15 องศา เมอริเดียนจะใช้เวลาเคลื่อนที่ประมาณ 15*4 = 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนั่นเอง

ข้อสาม  ไม่แน่ใจครับ ขอไม่ตอบ  แต่อยากถามว่าประโยคนี้อ่านเจอจากไหน  ถ้าเป็นหนังสือ สูตรเรือนชะตา ช่วยบอกหน้าหน่อยครับ จะลองศึกษาดู

ข้อสี่  ไม่แน่ใจอีกครับ  แต่ขอเดาว่า   (MC จร) ใช้บอกนาทีที่เกิดเหตุ  และ  (MC เดิม) ใช้บอกตัวตนหรือสันดานของเจ้าชะตา ในตำราเขียนว่า (ตัวกู)    เมื่อมาสัมพันธ์กันก็บ่งว่า นาทีนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา    แต่ขั้นตอนกว่าจะไล่มาถึงนาทีนี่ต้องผ่านหลายขั้นนะครับ  บอกได้แค่ว่าต้องไล่จากใหญ่ไปหาเล็ก  ไม่ใช่ไปชี้ที่เล็กแล้วอ่านไปหาใหญ่ 

(ในการอ่านคำตอบนี้ควรอ่านด้วยวิจารณญาณ  ถ้าผิดขออภัยเด้อ  และถ้าผิดขอให้ผู้รู้ทั้งหลายช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ)

ผู้แสดงความคิดเห็น กล้วยปิ้ง วันที่ตอบ 2007-09-11 18:46:50 IP : 203.113.67.71


ความคิดเห็นที่ 5 (762967)
ถ้าอธิบายเรื่องกาลชะตาในแนว ท่านกล้วยปิ้งก็น่าจะเป็นไปได้ครับแต่คำถามเขาว่าเป็นพยากรณ์จร  ผมก็ยิ่งงง ถ้าเป็นกาลจักรลัคน์จรแบบโหรไทยก็เป็นไปได้แต่ก็ไม่เคลียร์อยู่ดีครับ  เรื่องคัมภีร์สูตรเรือนชะตาผมก็ว่าผมอ่านมาหลายๆรอบแล้วเชียวนะ  คิดว่าไม่ผ่านตาตามที่แสดงมาในกระทู้นี้เลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-11 22:32:10 IP : 203.154.79.105


ความคิดเห็นที่ 6 (763018)

อาจารย์ครับ ศิษย์ขออนุญาติลองวิเคราะห์นะครับ ผิดหรือถูก กรุณาวิจารณ์ด้วย

1. เรือนชะตาลัคนา จะตรงกับเดือนต่าง ๆ ของปีนั้น

อันนี้ แบ่งจักรราศี เป็น 12 เรือน ตาม เดือนรึเปล่า แต่เรือนชะตาลัคนา เป็นเรื่องราวต่างๆ แต่มิได้เกิดเรียงตามเดือนนี่ครับ

2. ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน จะตรงกับชั่วโมงต่าง ๆ ของวันนั้นๆ

เมอริเดียนเดิน ประมาณ 2ชั่วโมง/ราศี ครึ่งเรือนที่ว่านี้ หมายถึง ในเรือนหนึ่งๆรึเปล่าครับ

3. ลัคนา คือ จุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของ บุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน

ลัคนาหมายถึงสิ่งที่สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ถ้าหมายถึงเจ้าชะตา จะเป็นไปได้มั๊ยว่า เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาแสดงตัวตนต่อบุคคลอื่น ซึ่งในที่นี้ จะหมายถึงอาทิตย์ของผู้อื่น

4. เมอริเดียนหรือเรือนที่ 10 เป็นจุดที่เชื่อมโยงนาที เกิดของบุคคลทั้งหลายกับนาที่ที่เกิดเหตุการณ์ ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

อันนี้งงครับ หมายถึงเมริเดียนจรรึเปล่า

ผู้แสดงความคิดเห็น D.B.S. วันที่ตอบ 2007-09-12 00:09:27 IP : 58.9.204.17


ความคิดเห็นที่ 7 (763060)
การพยากรณ์จรแนวยูเรเนียน (แนวอัลเฟรด วิตเตอร์...ของแท้)ว่าเดือนนี้จะเกิดอะไร  ที่ ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครมากล่าวถึง ได้แก่ การพยากรณ์ที่เรียกกันว่า  ....  เดือนนี้คุณจะป่วยด้วยโรคอะไร...โดยหาจาก  ศูนย์รังสี  อาทิตย์กำเนิด/อาทิตย์วี1 โคจรไปในดวงกำเนิดของเจ้าชะตา  ในรูปของสมการ  ดาว+ดาว-อาทิตย์  และ อาทิตย์+ดาว-ดาว บ้าง  ตรงนี้ก็แม่นฉมังนัก เอาไว้ใช้ตรวจโรคตนเองและผู้อื่นได้เลย  ว่าเดือนนี้จะเป็นอะไร  เพราะว่าศูนย์รังสี อาทิตย์กำเนิด / อาทิตย์วี1 หมายถึง  ร่างกายของเจ้าชะตาในวัยที่ต้องการ  ถ้าไปเจอจุดอิทธิพลร้ายที่เข้าอาทิตย์แรงๆ ดังสูตรที่ยกมาเป็นสมการอาทิตย์ข้างต้น เช่น อาทิตย์+เสาร์-อังคาร หรือ อาทิตย์+อังคาร-เสาร์ หรือ เจอทั้ง 2 อย่าง อันนี้สามารถวางคำทำนายโดยตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่า จะมีการหยุดชะงักกิจกรรมทางร่างกาย ทีนี้ก็ลองพิจารณาจุดอื่นดูว่า อาทิตย์กำเนิดมี เนปจูน หรือฮาเดส มาร่วมอาทิตย์กำเนิด ตรงไหนบ้างสัมพันธ์ในมุมแรงๆกับอาทิตย์กำเนิดหรือไม่  ถ้าใช่ก็จะรู้สมมติฐานของโรคแล้วล่ะว่ามันมาแน่  ทีนี้ก็ควรเตรียมตัวป้องกันเตรียมการรักษาแต่เนิ่นๆเชียวอย่าประมาทจนให้ร่างกายทรุดเชียว  อันนี้ก็เป็นการทายพยากรณ์เดือนแบบยูเรเนียน ( ของแท้)อีกวิธีหนึ่งซึ่งมักจะไม่ค่อยมีใครเอามากล่าวถึง....ครับ  เพราะจุดนี้มันจะกระดึบๆค่าไปตามอาทิตย์ วี1 ถ้าใช้จานคำนวณละเอียดเช่น จาน 90 จาน 45 หรือจาน 22.30 หรือ 3.45 จะเห็นภาพแนวองศาลิบดาใหญ่มาก มองเห็นได้ชัดมากครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เล่าไว้กันลืม วันที่ตอบ 2007-09-12 07:44:15 IP : 203.150.139.15


ความคิดเห็นที่ 8 (763066)
ปัญหาและทฤษฎีอะไรก็ตาม นั้นบางทีต้องดูที่ โปรแกรมโหราศาสตร์ระดับโลกชื่อดังต่างๆ ด้วยว่า  เขามีแนวอย่างไรกันบ้าง เพราะผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเขาประมวลหลักโหราศาสตร์lสากลทั่วโลกเอาไว้ให้แล้ว  เช่น Solarfire , Janus , Astrolog , Zet ส่วนของพี่ไทยเราช่วยเสริมครับ เสริมในสิ่งที่ขาดหายไปในโปรแกรมของนอกโดยเฉพาะในแนวยูเรเนียน เช่น จาน 2 ชั้น เนี่ยคนไทยคิดต่อยอดออกไปได้นะครับ  และยังมีทีเด็ดอีกหลายอย่าง ที่ฝรั่งเจ้าตำรับก็ทึ่ง
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-12 07:57:08 IP : 203.150.139.15


ความคิดเห็นที่ 9 (763853)

อ.ภารต คะ

ตาม คห.7 จะหาอ่านเพิ่มเติมได้จากใหนค๊ะ   

ผู้แสดงความคิดเห็น คนไกล วันที่ตอบ 2007-09-12 23:27:44 IP : 58.11.169.157


ความคิดเห็นที่ 10 (763854)

อ.ภารต คะ

ตาม คห.7 จะหาอ่านเพิ่มเติมได้จากใหนค๊ะ   

ผู้แสดงความคิดเห็น คนไกล วันที่ตอบ 2007-09-12 23:28:11 IP : 58.11.169.157


ความคิดเห็นที่ 11 (763949)
ผู้ตั้งกระทู้ขอเรียนให้ท่านผู้รู้ทราบว่า เนื้อหาที่ตั้งกระทู้นั้น อยู่ในเอกสารพิเศษ 12 หน้า 3 หัวข้อ "การพยากรณ์จร" ซึ่งเป็นบทเรียนหลักสูตรโหราศาสตร์ชั้นสูง โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ สอนโดยท่านอาจารย์ พลตรีประยูร พลอารีย์ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจจึงได้ตั้งกระทู้ไว้ในเวบนี้เพื่อหาคำอธิบายจากท่านผู้รู้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น นายนกแล ผู้กำลังศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียน วันที่ตอบ 2007-09-13 07:58:03 IP : 203.113.38.11


ความคิดเห็นที่ 12 (763952)
ผู้ตั้งกระทู้ขอเรียนให้ท่านผู้รู้ทราบว่า เนื้อหาที่ตั้งกระทู้นั้น อยู่ในเอกสารพิเศษ 12 หน้า 3 หัวข้อ "การพยากรณ์จร" ซึ่งเป็นบทเรียนหลักสูตรโหราศาสตร์ชั้นสูง โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ สอนโดยท่านอาจารย์ พลตรีประยูร พลอารีย์ ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจจึงได้ตั้งกระทู้ไว้ในเวบนี้เพื่อหาคำอธิบายจากท่านผู้รู้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น นายนกแล ผู้กำลังศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียน วันที่ตอบ 2007-09-13 07:58:49 IP : 203.113.38.11


ความคิดเห็นที่ 13 (763955)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-09-13 08:00:04 IP : 203.113.38.11


ความคิดเห็นที่ 14 (764310)
งานของ อ.ประยูร ท่านเขียนละเอียดมาก มียกตัวอย่างประกอบให้เห็นชัดเจน ที่ จขกท. ยกมา ผมเข้าใจว่าเป็นการพยากรณ์จร แบบใช้เรือนชะตา ผมไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการใช้อย่างนี้ อาจเป็นเอกสารหลักสูตรชั้นสูงที่ผมไม่เคยเรียน ขอผ่านครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2007-09-13 14:57:54 IP : 61.7.163.69


ความคิดเห็นที่ 15 (764880)
กระทู้นี้น่าสนใจครับ แม้ว่าผมจะเป็นลูกศิษย์สายตรงของอาจารย์พลตรีประยูร ที่สมาคมโหรฯ แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเอกสารทั้งหมดของอาจารย์ และยอมรับว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่เคยรู้จากอาจารย์โดยตรง เอกสารชุดนี้ผมก็ไม่เคยเห็น ตามความเข้าใจของผมคิดว่า น่าจะมีรายละเอียดอื่นๆประกอบบ้าง จะเป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าของกระทู้จะเอาข้อความทั้งหมด "ในเอกสารพิเศษ 12 หน้า 3 หัวข้อ "การพยากรณ์จร" ซึ่งเป็นบทเรียนหลักสูตรโหราศาสตร์ชั้นสูง โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ สอนโดยท่านอาจารย์ พลตรีประยูร พลอารีย์ " จัดส่งให้ผมด้วย เพื่อจะได้ช่วยวิเคราะห์ให้ว่า วิตเตอ ท่านหมายถึงอย่างไร เผื่อจะได้ช่วยนำมาเผยแพร่ให้ความรู้ร่วมกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2007-09-14 10:27:58 IP : 125.25.136.153


ความคิดเห็นที่ 16 (765067)

ค้นแล้วก็ไม่เห็นลักษณะข้อความดังกล่าว ถ้าเป็นไปได้ จขกท. scan แล้ว post ให้ดูได้หรือไม่

จากเนื้อหาดังกล่าวหลายท่านไม่รู้จัก ไม่แน่ใจจะเป็นการจรของเรือนชะตา ที่ให้ผลทำนองเดียวกันกับการจรของดาวพระเคราะห์เข้าสู่เรือนชะตา ทำให้ไม่ค่อยมีการใช้ในทางปฏิบัติ รอผู้รู้มาช่วยให้ความเห็นต่ออีกที

ผู้แสดงความคิดเห็น ศิษย์อ.ประยูรคนหนึ่ง วันที่ตอบ 2007-09-14 13:04:49 IP : 124.121.64.196


ความคิดเห็นที่ 17 (765069)
สอบถามจากอาจารย์พิเชษฏ์ซึ่งท่านเป็นผู้จัดการโรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพสมัยที่อาจารย์ประยูรมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ที่ศึกษา รวบรวม และช่วยในการดูแลการจัดพิมพ์ตำราที่อาจารย์ประยูรเขียนขึ้นมาตั้งแต่สมัยอาจารย์ประยูรสอนที่คลองหลอด ได้ความว่าไม่มีเอกสารดังกล่าว และไม่เคยพบว่าอาจารย์สอนข้อความข้างต้น การพยากรณ์จรสำหรับบุคคลทั่วไป ให้ไปอ่านหนังสือสูตรพระเคราะห์สนธิหน้า 76 เรือนชะตาอาทิตย์คะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ศิษย์คนหนึ่ง วันที่ตอบ 2007-09-14 13:06:39 IP : 58.9.72.8


ความคิดเห็นที่ 18 (765788)
ผมขอคัดลอกเนื้อหาทั้งหมดดังนี้ เอกสารพิเศษ 12 การพยากรณ์จร 1. ทั่วไป อาจแบ่งอย่างไม่เป็นทางการได้เป็น ก) การพยากรณ์จรสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามวาระ (เป็นไปตามธรรมดาของโลก) ข) การพยากรณ์จรสำหรับเหตุการณ์ที่มิได้เป็นไปตามปกติวิสัย (ไม่เป็นไปตามธรรมดาของโลก) เหตุการณ์จรที่เกิดขึ้นตามลักษณะในข้อ ก) ตามปกติมักจะไม่ค่อยมีผลทางด้านจิตของเจ้าชะตาเท่าใดนัก ถึงแม้ “การแต่งงาน” ก็จัดว่าเป็นเหตุการณ์จำพวกนี้ด้วยก็ตาม เหตุการณ์ในทำนองเช่นนี้มักเห็นไม่ค่อยชัดในดวงชะตา ส่วนเหตุการณ์จรที่เกิดขึ้นตามลักษณะในข้อ ข) ตามปกติมักมีผลทางด้านจิต เพราะมักเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าชะตามิได้คาดฝันมาก่อน แต่ตรวจพบได้ง่ายในดวงชะตา และตามปกติแล้วนักพยากรณ์ผู้ฉลาดมักจะเพ่งเล็งไปที่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามลักษณะดังกล่าวนี้ โครงสร้างดาวพระเคราะห์สำหรับเหตุการณ์จำพวกนี้มักมี “ดาวมฤตยู” รวมอยู่ด้วยเสมอ ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์ทางด้านดีก็ตาม เช่น เมษ (จย) = พฤหัส อาทิตย์ (จย) = มฤตยู (มีลาภลอย) เพราะเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม หากเจ้าชะตามิได้คาดคิดว่าจะเป็นไปได้ เมื่อกลับมามีอันต้องเป็นไป ก็ย่อมต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา (มฤตยู) 2. หลักนิยม ตามเทคนิคของวิชาโหราศาสตร์กำหนดว่า การพยากรณ์จรที่สมบูรณ์แบบจะต้องประกอบด้วย (ก) การพยากรณ์จรตามอายุขัย ซึ่งใช้ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยซึ่งโคจรไปตามกฎเกณฑ์ของโหราศาสตร์ (โหราศาสตร์ยูเรเนียนนิยมการพยากรณ์โดย “โค้งสุริยยาตร์”) (ข) การพยากรณ์จรโดยอาศัยดาวจรปัจจุบัน ซึ่งใช้ดาวพระเคราะห์หรือปัจจัยซึ่งกำลังโคจรอยู่บนท้องฟ้าในขณะปัจจุบัน ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น (1) การพยากรณ์ปี นิยมใช้ดวงสงกรานต์ กับดวงโซล่าร์ (2) การพยากรณ์เดือน นิยมใช้ดวงวันอมาวสี กับดวงลูน่า (3) การพยากรณ์วัน ใช้ดาวพระเคราะห์จรประจำวัน เกี่ยวกับเรื่องการพยากรณ์จรตามอายุขัยในที่นี้มิได้กล่าวถึงการพยากรณ์ปี เดือน วัน เอาไว้ (ความจริง ก็มีและแบ่งช่วงในการพยากรณ์ออกเป็นปี เดือน วัน เช่นเดียวกัน) เพราะการพยากรณ์โดย “โค้งสุริยยาตร์” มีวิธีการพยากรณ์จนถึงวันได้เหมือนกัน และมีผู้นิยมปฏิบัติกันเสียด้วย ส่วนการพยากรณ์ละเอียดลงไปจนถึง ชั่วโมง และ นาที นั้น เป็นเรื่องของการพยากรณ์จรโดยจะอาศัยดาวพระเคราะห์จรปัจจุบันโดยเฉพาะ การพยากรณ์จรจะต้องประกอบด้วยการพยากรณ์ทั้ง ข้อ ก) และ ข) จะเว้นข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้เป็นอันขาด 3. วิธีการ ไม่มีวิธีการทางโหราศาสตร์ใด ๆ ที่สามารถจะพยากรณ์ว่า ขณะนี้ ขณะนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นโดยตรงจากดวงชะตา โดยไม่มีการวินิจฉัยมาตามลำดับขั้น คือ พื้นดวงชะตา การพยากรณ์เหตุการณ์ภายในห้วงเวลาอันหนึ่งมาตามลำดับจนถึงขณะนั้น (ถึงแม้จะมีวิธีการพยากรณ์แบบกาลชะตา ซึ่งเรียกกันในภาษาไทยเราว่า “มหากาลจักร” ซึ่งสามารถที่จะพยากรณ์ได้เลยว่า เดี๋ยวนี้จะมีอะไร? เกิดขึ้น ฯลฯ ก็ตาม เราใช้เพียงเป็น “ลูกเล่น” แบบทายสนุก ๆ หรือทายประกอบเท่านั้น จะพยากรณ์กันให้จริง ๆ จัง ๆ นั้นไม่ได้ และบางครั้งก็ทดลองไม่ได้ด้วย การพยากรณ์ที่เป็นหลักจริง ๆ คือ พยากรณ์จากดวงชะตาเพียงอย่างเดียวที่แม่นยำที่สุด) เพราะฉะนั้น การพยากรณ์จรจึงต้องปฏิบัติทีละขั้น ๆ จะข้ามขั้นไม่ได้ ดังต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 การตรวจพื้นดวงชะตา เพื่อตรวจดูว่า ในดวงชะตาจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของเขา พื้นดวงชะตาจะให้ ข่าวสารที่เป็นประโยชน์สำหรับการพยากรณ์จรแก่เรา ดังต่อไปนี้ (ก) ความแรงและไม่แรงของดวงชะตา (จุดเจ้าชะตาสัมพันธ์ถึงกัน, จุดเจ้าชะตาสถิตในเรือน เกณฑ์ หรือเรือนที่ 1,4,7,10 มากน้อยเพียงใดหรือไม่) (ข) จุดแรงและจุดไม่แรงของดวงชะตา (ดาวพระเคราะห์สถิตสัมพันธ์กัน มีดาวหลายดวงสถิต ในเรือนชะตาเดียวกัน มากน้อยเพียงใด) (ค) จุดดีจุดร้ายในดวงชะตา (พระเคราะห์สนธิดี – ร้าย เรือนชะตาที่มีศุภเคราะห์ – บาป เคราะห์) และรุนแรงเพียงใด (การมีจุดเจ้าชะตาเข้าไปร่วมอยู่ด้วยมากน้อยเพียงใดทั้งใน พระเคราะห์สนธิและในเรือนชะตา ถ้าร่วมมากก็รุนแรงมาก ร่วมน้อยรุนแรงน้อย ทั้งนี้ พิจารณาทั้งมุมและระยะวังกะด้วย) (ง) พระเคราะห์สนธิพิเศษ หรือการมีดาวพระเคราะห์ในเรือนชะตาพิเศษ (เช่น สถิตในเรือนที่ 1,4,7,10 หรือ สถิตในเรือนที่ 2 ที่ 8 ซึ่งจะให้ข่าวสารแก่เราว่า เจ้าชะตามีชีวิตหนักไปทาง ด้านใด) (จ) จุดเจ้าชะตาใด ดีร้ายอย่างไร ขั้นที่ 2 การตรวจวัย ปฏิบัติเพื่อตรวจดูว่า ในวัยที่พิจารณานั้น ๆ ดาวพระเคราะห์ดวงใดบ้างที่แสดงอิทธิพลเต็มที่ และดาวพระเคราะห์ใดยังแสดงอิทธิพลไม่เต็มที่ เพื่อจะได้วินิจฉัยความแรงและไม่แรงของอิทธิพลของ ดาวพระเคราะห์ที่พิจารณาถูกต้อง ซึ่งอาจสรุปได้ดังนี้ อายุ 1 - 14 พุธ พลูโต อายุ 15 – 28 ศุกร์ คิวปิโด อายุ 29 – 42 อังคาร วัลคานุส อายุ 43 – 56 พฤหัส อาพอลลอน อายุ 57 – 70 เสาร์ แอดเมตอส กำหนดเวลาแสดงผลของดาวพระเคราะห์เหล่านี้เป็นเกณฑ์โดยประมาณเท่านั้น และนัก ศึกษามีสิทธิ์ที่จะใช้วัยตามโหราศาสตร์ยุคศิลป์ได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่าง เช่น การพยากรณ์ที่เกี่ยวกับการประสบความสำเร็จที่สำคัญในชีวิตก็ควรวินิจฉัยเมื่อ เขาอายุประมาณ 43-56 (การประสบความสำเร็จในชีวิต) พฤหัสจะแสดงผลไปทางด้านนี้ในวัยอายุดัง กล่าว การแสดงผลของพฤหัสในวัยที่ต่ำกว่านี้ส่วนใหญ่มักหนักไปทางด้านกายสังขาร เช่น มีลาภทาง กาย ซึ่งมีผลให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ หรือมีคู่ครอง หรือเรื่องของการร่วมเพศ เป็นต้น มักไม่แสดงผลไปทาง โชคลาภความสำเร็จ ดังนี้เป็นต้น ขั้นที่ 3 ตรวจเหตุการณ์ชีวิตในห้วงเวลาต่าง ๆ นิยมตรวจในห้วงเวลาดังต่อไปนี้ (ก) ตรวจเหตุการณ์ประจำปี (จะต้องอยู่ในกรอบของพื้นดวงชะตา) (ข) ตรวจเหตุการณ์ประจำเดือน (จะต้องอยู่ในกรอบของปี) (ค) ตรวจเหตุการณ์ประจำวัน (จะต้องอยู่ในกรอบของเดือน) (ง) ตรวจเหตุการณ์ประจำชั่วโมง (จะต้องอยู่ในกรอบของวัน) (จ) ตรวจเหตุการณ์ประจำนาที (จะต้องอยู่ในกรอบของชั่วโมง) เนื่องจากการพยากรณ์โดยโค้งสุริยยาตร์เป็นการพยากรณ์ที่ไว้ใจได้ เพราะฉะนั้นจึงมีบ่อยที่ ผู้พยากรณ์เว้นการพยากรณ์ประจำเดือน โดยข้ามไปพยากรณ์วันและนาทีกันเลยทีเดียว ท่านอัลเฟรด วิตเตอ กล่าวถึงการพยากรณ์จรในโหราศาสตร์ยูเรเนียนว่า “โค้งสุริยยาตร์หรือโค้งจรตามอายุขัยของระวิมรรคอาจเทียบได้กับ “เข็มสั้น” ของนาฬิกาเป็น สิ่งที่ชี้บอกชั่วโมง ซึ่งสำหรับบุคคลก็ชี้บอกปี เวลาดาราศาสตร์หรือโค้งจรตามอายุขัยสำหรับศูนย์สูตร เทียบได้กับ “เข็มยาว” ที่ชี้บอกนาทีในชั่วโมง ซึ่งหากเป็นเรื่องของบุคคลก็ชี้บอกวัน ภายในปีหนึ่ง ๆ เวลาของเมอริเดียนจรปัจจุบันเทียบได้กับ “เข็มวินาที” ซึ่งจะชี้บอกย่านเวลาต่าง ๆ ภายในแต่ละวัน” โหราศาสตร์ยูเรเนียนอาศัยแนวทางนี้ สำหรับกำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ สำหรับ การพยากรณ์จร เกี่ยวกับเรื่องราวของเรือนชะตา ท่านอัลเฟรด วิตเตอ กล่าวไว้ดังนี้ “เรือนชะตาลัคนา จะตรงกับเดือนต่าง ๆ ของปีนั้น ๆ ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน จะตรงกับชั่วโมงต่าง ๆ ของวันนั้น ๆ” และกล่าวต่อไปถึงอิทธิพลของลัคนากับเมอริเดียน สำหรับใช้เป็นมูลฐานในการพยากรณ์ว่า “ลัคนา คือ จุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของบุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน เมอริเดียนหรือเรือนที่ 10 เป็นจุดที่เชื่อมโยงนาทีเกิดของบุคคลทั้งหลายกับนาทีที่ เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน” ส่วนกรรมวิธีในการใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ เราจะได้ศึกษากันต่อไป 4. วิธีปลีกย่อยซึ่งใช้ในทางปฏิบัติ วิธีการพยากรณ์ตามที่กล่าวมาแล้วในข้อ 3 เป็นวิธีการทั่ว ๆ ไป ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า โหราศาสตร์ระบบใดก็ตามจะมีลำดับวิธีการตามที่กล่าวมานั้น อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติจริงจะทำการพยากรณ์ตามขั้นตอนตามตำรา มักประสบความยุ่งยากบ่อย ๆ เพราะนอกจากจะยืดยาวจนบางครั้งก็หาข้อยุติไม่ได้แล้ว ในบางครั้งบางคราวผู้พยากรณ์ก็ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีก เพื่อเป็นการลดงานให้น้อยลง เรามีวิธีการพิจารณาปลีกย่อยเพิ่มเติมไปจากวิธีการในข้อ 3 ดังต่อไปนี้ ก) ประการแรกของการตรวจดวงชะตาจร ควรคำนึงถึง (1) วงรอบจังหวะชีวิตที่สำคัญ นิยมใช้วงรอบของโค้งสุริยยาตร์ กล่าวคือ ให้สอบดูว่าในปีที่พิจารณานั้น โค้งสุริยยาตร์มีค่า เป็นจำนวนเท่าของ 3 องศา 45 ลิบดา (เอา 3 องศา 45 ลิบดา หารลงตัวหรือไม่) คือ 3º45‘, 7º30‘, 11º15‘, 15º00‘, 18º45‘, 22º30‘, 26º15‘, 30º00‘, 33º45‘, 37º30‘, 41º15‘, 45º00‘, 48º45‘, 52º30‘, 56º15‘, 60º00‘, 63º45‘, 67º50‘, 71º15‘, 75º00‘, 78º45‘, 82º30‘, 86º15‘, 90º00‘ เหตุการณ์ที่หากเกิดขึ้น ตรงปีที่โค้งสุริยยาตร์มีค่าตามข้างบนนี้ มักเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ ๆ และในขณะเดียวกัน ในปีที่โค้งสุริยยาตร์มีค่าตามข้างบนนี้ก็มักจะเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์ สำคัญ ๆ เช่นเดียวกัน (เพื่อเตือนผู้พยากรณ์ว่า ควรเพ่งเล็งปีใด) (2) ปีที่เจ้าชะตามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนชีวิตใหม่ (ก) ปีที่จุดเจ้าชะตาผ่านจุดทวาร (เมษ กรกฎ ตุล มกร) และจุดจุลทวาร (จุดที่ทำมุม 45 องศากับจุดทวาร) โดยเฉพาะอาทิตย์ (ข) ปีที่จุดเจ้าชะตาผ่านเส้นแบ่งราศีต่าง ๆ (รวมทั้งปีที่จุดเจ้าชะตาจรผ่านเรือนชะตาต่าง ๆ ด้วย โดยเฉพาะเรือนชะตาเมอริเดียนและลัคนา) (ค) ปีที่จุดเจ้าชะตาโคจรมาสัมพันธ์หลายจุด เช่น เมษ (จย1) = อาทิตย์ จันทร์ (จย1) = เมษ/ราหู ได้ 2 พฤติภาพในปีเดียวกัน เป็นต้น เหตุการณ์ที่สำคัญ ๆ จะเกิดขึ้นในปีนั้น (ง) ปีที่จุดเจ้าชะตาโคจรเข้ามาสัมพันธ์กับ พลูโต เนปจูน/แอดเมตอส โดยเฉพาะเมื่อ พลูโต หรือ เนปจูน/แอดเมตอส สัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตาอยู่ก่อนแล้วใน ดวงชะตากำเนิด เช่น พลูโต = อาทิตย์/จันทร์ หรือ เมษ = เนปจูน/แอดเมตอส (3) ในการพยากรณ์เหตุการณ์ในรอบเดือนก็ดี ในรอบวันก็ดี หรือ การกำหนดนาทีที่เกิดเหตุ การณ์ก็ดี ให้อาศัยหลักการพิจารณาพิจารณาตาม (1) และ (2) ข้างบนนี้ โดยอนุโลม (4) การพิจารณาดาวพระเคราะห์จร ให้เพ่งเล็ง “ราหูจรปัจจุบัน” ให้มาก โดยเฉพาะเมื่อจรมา สถิตในเรือนที่ 1 ของเมอริเดียนหรือลัคนา (หรือของเรือนชะตาอาทิตย์ จันทร์ แม้ในเรือน ชะตาราหูก็ตาม) ข) ใช้วิธีการตั้งปัญหาขึ้นในใจ (เหตุการณ์เช่นนี้จะมีหรือไม่?) แล้วตรวจด้วยวิธีแพ้คัดออก ค) เหตุการณ์สำคัญ ๆ จะเกิดขึ้น เมื่อดาวพระเคราะห์จรปัจจุบัน โคจรมาสัมพันธ์กันในลักษณะที่จะ ให้เหตุการณ์ เหมือน หรือ คล้ายคลึง กับโครงสร้างที่เกิดจากจรตามอายุขัยเสมอไป ท่านวิตเตอ ได้ยกตัวอย่างของดวงชะตาของไกเซอร์องค์สุดท้าย ดังนี้ บิดาถึงแก่กรรม อาทิตย์ (จย1) = 6มน40 อังคาร + ลัคนา – เสาร์ = 7ธน02 อาทิตย์ (จร) = 24มถ44 อังคาร + อาทิตย์ – เสาร์ = 24กย35 มารดาถึงแก่กรรม อาทิตย์ (จย1) = 19มน50 เสาร์ + อาทิตย์ – อังคาร = 19มถ21 อาทิตย์ (จร) = 12สห20 เสาร์ + เมษ – อังคาร = 12สห23 ถูกลอบสังหาร (2 ครั้ง) อาทิตย์ (จย1) = 19มน06 (ครั้งที่ 1) เสาร์ + อาทิตย์ – อังคาร = 19มถ21 = 19มน30 (ครั้งที่ 2) อาทิตย์ (จร) = 23พจ42 จันทร์ = 24พจ22 (ครั้งที่ 1) อาทิตย์ (จร) = 15มน15 มฤตยู (จร) = 16ธน47 (ครั้งที่ 2) แต่งงานบุตรสาว อาทิตย์ (จย1) = 1มษ21 จันทร์ + จันทร์ = 1ตล20 อาทิตย์ (จร) = 2มถ41 อังคาร/เสาร์ = 2มถ52 (ในขณะที่ท่านวิตเตอ กล่าวถึงเรื่องนี้ยังไม่มีการใช้ดาวทิพย์ ยังไม่มีการค้นพบ) ประการที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องพิจารณา ข้อ ก) ข้างบนก่อน เหตุการณ์สำคัญ ๆ จะเกิดขึ้นตามจังหวะที่กล่าวมาตาม ก) (1) และ (2) เป็นส่วนใหญ่ 5. การพยากรณ์จรสุริยคติ เกิดขึ้นหรือพัฒนาขึ้นตามหลักอุปมา คือ “หนึ่งวัน เทียบได้กับ หนึ่งปี” ดวงชะตาที่คำนวณขึ้น ณ เวลาเกิดหลังวันเกิดเป็นจำนวนวันเท่ากับจำนวนอายุเป็นปี เมื่อผสมกับตำแหน่งปัจจัยต่าง ๆ ในดวงชะตากำเนิด จะเป็นเหตุการณ์สำหรับอายุนั้น ตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ซึ่งปรากฏในปฏิทินซึ่งโคจรไปแต่ละวัน ๆ จึงถือว่าเป็นตำแหน่งที่โคจรไปในแต่ละปี ๆ นับแต่ปีเกิดเป็นต้นไป ดังตัวอย่างเช่น เจ้าชะตาเกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1924 เป็นต้น ตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ในดวงชะตากำเนิดก็คือ ตำแหน่งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1924 และตำแหน่งของดาวพระเคราะห์จรสุริยคติเมื่อเจ้าชะตาอายุ 1 ปี ก็คือ ตำแหน่งของดาวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1924 อายุ 1 ปีในที่นี้หมายถึง อายุ 1 ปีเต็ม และตำแหน่งของดาวพระเคราะห์จรสุริยยคติเมื่อเจ้าชะตาอายุ 2 ปี คือ ตำแหน่งของดาวในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1924 ..................... ตำแหน่งของดาวพระเคราะห์จรสุริยคติเมื่อเจ้าชะตาอายุ 20 ปี ก็คือ ตำแหน่งของดาวในวันที่ 25 (5+20) กุมภาพันธ์ ค.ศ.1924 ...................ฯลฯ ระยะเชิงมุมของปัจจัยที่เป็นจุดเจ้าชะตา คือ อาทิตย์ จันทร์ ราหู มีประโยชน์มากในการพยากรณ์โดยวิธีการพยากรณ์จรสุริยคติดัดแปลง กล่าวคือ ระยะเชิงมุม อาทิตย์จรสุริยคติ – อาทิตย์กำเนิด คือ “โค้งสุริยยาตร์” ระยะเชิงมุม จันทร์จรสุริยคติ – จันทร์กำเนิด คือ “โค้งจันทรยาตร์” (หรือโค้งจันทรจรสุริยคติ) ระยะเชิงมุม ราหูจรสุริยคติ – ราหูกำเนิด คือ “โค้งราหู” โค้ง “สุริยยาตร์” กับ “จันทรยาตร์” มีประโยชน์ในการพยากรณ์มากที่สุด โดยเฉพาะโค้งสุริยยาตร์ถือกันในโรงเรียนโหราศาสตร์ฮัมเบอร์กว่า เป็นโค้งมาตรฐานของการพยากรณ์จร 6. ดวงชะตาตัวอย่าง เจ้าชะตา (หญิง) เกิดเมื่อ วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ.1946 เวลา 06.00 น. เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ.1958 ประสบอุบัติเหตุรถบรรทุกชน เวลา 13.55 น. ไม้ตำท้องทะลุทวารต้องตัดมดลูกออกหมด ตัดปอดและตับออกอีกเล็กน้อย เมื่อหายแล้วเดินไม่ปกติ รอดตายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตำแหน่งปัจจัยต่าง ๆ คือ เมอริเดียน 25 ธน 16 อังคาร 18 กฎ 54 ฮาเดส 23 มษ 20 ลัคนา 23 มน 18 พฤหัส 24 ตล 56 เซอุส 20 สห 39 อาทิตย์ 2 มษ 42 เสาร์ 17 กฎ 58 โครโนส 19 พภ 40 จันทร์ 11 ธน 04 มฤตยู 13 มถ 51 อาพอลลอน 16 กย 42 ราหู 25 มถ 09 เนปจูน 7 ตล 23 แอดเมตอส 18 มษ 07 พุธ 7 มษ 06 พลูโต 9 สห 37 วัลคานุส 20 มถ 18 ศุกร์ 15 มษ 03 คิวปิโด 18 กย 20 โพไซดอน 8 ตล 00 ตำแหน่งดาวพระเคราะห์ในวันเกิดอุบัติเหตุ คือ อาทิตย์ 4 มถ 31 อังคาร 21 มน 24 มฤตยู 8 สห 16 จันทร์ 5 กย 48 พฤหัส 22 ตล 36 เนปจูน 2 พจ 36 ราหู 29 พจ 42 เสาร์ 23 ธน 45 พลูโต 29 สห 50 (โค้งสุริยยาตร์ 12 องศา 01 ลิบดา) นักศึกษาควรบันทึกตำแหน่งปัจจัยกำเนิดลงบนแผ่นดวงชะตา ทั้งแบบ 360 องศา และแบบ 90 องศา และขอให้นักศึกษาลองพิจารณาดูว่า ดวงชะตาที่ร้าย ๆ นั้น บาปเคราะห์สถิตสัมพันธ์กันอย่างใดบ้าง และขอให้สังเกตระยะวังกะเอาไว้ด้วย ถึงแม้มุมจะเป็นมุมเล็กขนาด 22 ½ องศาก็ตาม เช่น จันทร์ = (22 ½º) มฤตยู/ฮาเดส (วังกะ 4 ลิบดา) อุบัติเหตุ ฆาตกรรม เมษ + ฮาเดส – มฤตยู = (45º) ราหู (วังกะ 12 ลิบดา) อุบัติเหตุ อังคาร + มฤตยู = (180º) อาทิตย์ (วังกะ 3 ลิบดา) อุบัติเหตุ อังคาร + เนปจูน = (45º) จันทร์ (วังกะ 13 ลิบดา) ทำลายกาย ควรจะเก็บดวงชะตานี้เอาไว้เป็นสถิติตัวอย่างในการพยากรณ์เรื่องอุบัติเหตุด้วย อนึ่ง ถ้าหากนักศึกษาบันทึกตำแหน่งของปัจจัยที่เกี่ยวกับเรื่องของอุบัติเหตุต่าง ๆ ลงบนดวงชะตา ก็จะพบว่า อังคาร (จร) = 21 มน 24 ใกล้ลัคนา (23 มน 18) เสาร์ (จร) = 23 ธน 45 ใกล้กับเมอริเดียน (25 ธน 16) ในกรณีเช่นนี้นักศึกษาอาจปรับดวงชะตาเสียใหม่โดย ให้เมอริเดียน สถิต 23 ธน 45 ทับเสาร์ (จร) สนิท แล้วเปิดตารางเรือนชะตาที่แล็ตติจูด 18น 48 (เชียงใหม่) จะได้ลัคนา 21 มน 01 เราก็จะได้เมอริเดียนและลัคนาใหม่ ซึ่งควรจะเป็นตำแหน่งจริงในดวงชะตากำเนิด และในดวงชะตาจรปัจจุบัน ก็จะเป็น เมอริเดียน (กำเนิด) = เสาร์ (จร) (23ธน45) (23ธน45) (กำหนดให้เท่ากัน) ลัคนา (กำเนิด) = อังคาร (จร) (21มน01) (21มน24) เมื่อปรับดวงชะตาตามนี้แล้ว ลองสอบดวงชะตาดูอีกครั้ง นักศึกษาก็จะพบว่าสอดคล้องกับชะตาชีวิตของเจ้าชะตาดี ดังเช่น เมษ + เมษ – เมอริเดียน = เมอริเดียน/เสาร์ (มีความจำกัด อึดอัด) (6กฎ15) (5ตล52) (45º) = เมอริเดียน/แอดเมตอส (ความเฉยนิ่ง) (20สห56) = เมอริเดียน/อังคาร (ตื่นเต้น ไม่สงบ) (6ตล20) เมอริเดียน+เมอริเดียน-เมษ = ลัคนา/มฤตยู (ผู้อื่นสร้างความตื่นเต้นให้) (22 ½º) = อาทิตย์/เสาร์ (ลำบากกาย) (22 ½º) = อาทิตย์/แอดเมตอส (ทรหด) --------------------------------- ขออภัยที่การจัดเรียงไม่เรียบร้อย
ผู้แสดงความคิดเห็น นายนกแล วันที่ตอบ 2007-09-15 10:20:41 IP : 203.113.38.6


ความคิดเห็นที่ 19 (765821)
ผม copy ไปจัดหน้าใหม่ และลองอ่านคราว ๆ ดูแล้ว คิดว่าเป็นเอกสารของ อ.ประยูร จริง แต่ก็ไม่เข้าสิ่งที่ท่านอัลเฟรด วิตเตอ กล่าวถึงการพยากรณ์จรในโหราศาสตร์ยูเรเนียน ต้องอาศัยอาจารย์ท่านอื่น ๆ ช่วยเฉลยด้วยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2007-09-15 12:13:25 IP : 61.7.161.36


ความคิดเห็นที่ 20 (766037)

เอกสารบางฉบับตกหล่น
บางฉบับไม่ได้เข้าไปรับ
บางฉบับเก็บแล้ว หาย
เป็นการดีครับที่ได้โพสต์ เอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อความรู้ครับ

เอกสารฉบับนี้ คงประกอบกับบทเรียน 18 บทของท่านอาจารย์ประยรู
เป็นบทสรุปของบทที่ 16 ถึง บทที่ 18 ครับ

คำตอบของกระทู้จะสามารถเข้าใจได้ง่ายหากนำบทเรียน18 บท คือบทที่16 - 18 มารื้อฟื้นครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2007-09-15 20:44:38 IP : 58.9.154.134


ความคิดเห็นที่ 21 (766045)
ขอบคุณมากครับ.คุณนกแล...ในความอุตสาหะวิริยะ พิมพ์ลอกแบบสรุปบทเรียนนี้ นำมาเผยแพร่ ถือเป็นคุณประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับนักศึกษารุ่นต่อไปครับ  ในเรื่องพยากรณ์จรที่เต็มรูปแบบ....ตาม คห.1และ คห.5 ที่ผมสรุปหลักการใหญ่มานั้น ก็ยังเชื่อว่า ไม่ได้ต่างจากบทเรียนที่ยกมานี้เลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-15 20:59:43 IP : 58.9.221.219


ความคิดเห็นที่ 22 (766055)

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีความอุตสาหะพิมพ์ลงมาให้ดูทั่วกัน ถือว่าเป็นวิทยาทานแบบหนึ่ง ผมเอามาเรียบเรียงหน้าเสร็จแล้ว เท่าที่อ่านดู เรื่องการพยากรณ์จร เป็นเอกสารประกอบการเรียนที่อาจารย์ประยูรกล่าวไว้เป็นประจำ ในส่วนของเนื้อหาทั้งหมดก็จะเป็นหลักเกณฑ์การพยากรณ์จรที่ผมใช้สอนเป็นปกติ และใช้อยู่ปกติ จึงขอแนะนำให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน สามารถยึดถือเป็นตำราแม่บทการพยากรณ์จรที่ดีที่สุด และใช้ได้ผลจริงๆ

แต่เฉพาะในส่วนที่มีคำกล่าวของท่านวิตเตอ ....

สำหรับ การพยากรณ์จร เกี่ยวกับเรื่องราวของเรือนชะตา ท่านอัลเฟรด วิตเตอ กล่าวไว้ดังนี้ “เรือนชะตาลัคนา จะตรงกับเดือนต่าง ๆ ของปีนั้น ๆ ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน จะตรงกับชั่วโมงต่าง ๆ ของวันนั้น ๆ” และกล่าวต่อไปถึงอิทธิพลของลัคนากับเมอริเดียน สำหรับใช้เป็นมูลฐานในการพยากรณ์ว่า “ลัคนา คือ จุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของบุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน เมอริเดียนหรือเรือนที่ 10 เป็นจุดที่เชื่อมโยงนาทีเกิดของบุคคลทั้งหลายกับนาทีที่ เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน” ส่วนกรรมวิธีในการใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ เราจะได้ศึกษากันต่อไป

จะพบว่า อาจารย์ประยูรเองยังบอกว่า แล้วเราจะได้ศึกษากันต่อไป แสดงว่า แม้จะมีเอกสารดังกล่าวแล้ว อาจารย์ประยูรก็ยังไม่ได้สอนหรืออธิบายใดๆในชั้นเรียน ณ ขณะนั้น เท่าที่สังเกตุ อาจารย์ประยูรท่านจะค้นคว้าเอกสารต่างๆมาก แล้วท่านก็จะนำมาสังเคราะห์และพิสูจน์ ด้วยการทดสอบ ลองใช้ดูก่อน เพื่อทำความเข้าใจจนสามารถอธิบายขยายผลต่อไปได้ ดังนั้นการที่ท่านนำคำกล่าวของวิตเตอมาเสนอไว้นี้ ท่านคงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาในชั้นเรียนได้เห็นหลักเกณฑ์ที่หลากหลาย ส่วนการจะนำไปใช้นั้น ก็อาจจะต้องพิจารณาขยายความกันอีกครั้งหนึ่ง

ผมไม่มีโอกาสได้รับเอกสารชุดนี้ และเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ก็จะขอนำมาศึกษาแนวคิดของท่านวิตเตอสักระยะหนึ่งก่อน จนแน่ใจว่าสามารถอธิบายได้ ขอเวลาเรียบเรียงให้ดีก่อน แล้วจะนำมาอธิบายให้ภายหลังครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2007-09-15 21:19:30 IP : 125.25.139.21


ความคิดเห็นที่ 23 (766088)
คิดว่าหลาย ๆ ท่านรวมทั้งผมก็มีเอกสารและบทความของ อ.ประยูร แต่ไม่กล้าเผยแพร่ ผมก็มีแปลก ๆ ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนอย่าง "sensitive curve" เป็นต้น ผมคิดว่าน่าจะมีการสังคายนา รวบรวมเป็นหนังสือก็ดีนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2007-09-15 22:42:14 IP : 61.7.165.250


ความคิดเห็นที่ 24 (766107)

เขียนบทความที่จะใช้บรรยายวันพรุ่งนี้เสร็จก็เลยมาเร่งพิจารณาเอกสารการพยากรณ์จร ก็ได้ข้อสรุปมาให้ทราบในเบื้องต้น ดังนี้

 

เรือนชะตาลัคนา จะตรงกับเดือนต่าง ๆ ของปีนั้น ๆ

หมายถึง ในดวงสงกรานต์ประจำปี ณ เวลาประสงค์ของท้องถิ่น เราจะได้ตำแหน่งของลัคนาและเมอริเดียน ของท้องถิ่นที่ประสงค์ ลัคนาสถิตย์ ณ ราศีใด ก็แสดงว่า เดือนนั้นจะมีเหตุการณ์ตามเรือนชะตาลัคนา เช่น ในปี 2550 ดวงสงกรานต์ของไทย ลัคนาสถิตราศีมกร เหตุการณ์ความไม่สงบ ความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อข้ามปีใหม่ และหากคำกล่าวของ ท่านวิตเตอ เป็นทฤษฎีที่พิสูจน์ได้ดังนี้จริง ในปี 2551 ลัคนาของไทยสถิตราศีเมษ ดังนั้นเราก็คงต้องเฝ้าดูกันว่า เหตุการณ์สำคัญอะไรจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2551

                                               

ครึ่งเรือนชะตาเมอริเดียน จะตรงกับชั่วโมงต่าง ๆ ของวันนั้น ๆ”

หมายถึง ปกติเรือนชะตาหนึ่งๆนั้นจะมีความกว้างเชิงมุม คือ 30 องศาในกรณีที่เป็นเรือนเท่า ซึ่งจะเท่ากับระยะเวลา 2 ชั่วโมง ดังนั้น เลาทุก 1 ชั่วโมงจึงมีความกว้างประมาณ 15 องศา หรือท่ากับ ครึ่งหนึ่งของเรือนชะตา และเหตุที่ต้องกำหนดที่เรือนชะตาเมอริเดียนนั้นก็เพราะว่า เมอริเดียนเป็นจุดเหนือสุดหรือจุดจอมฟ้า ซึ่งไม่ว่ามนุษย์จะอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ตาม เมอริเดียนจะเป็นจุดที่สูงสุดของชีวิตหรือตรงกับเวลาเที่ยงวัน ไม่ว่าคุณจะเกิดที่ใดก็ตาม ณ เวลาเดียวกันจะมีตำแหน่งเมอริเดียนตรงกันเสมอ ซึ่งต่างจากลัคนาที่หากอยู่กันคนละLattitude Longitude ก็จะทำให้ตำแหน่งของลัคนานั้นแตกต่างกัน

                       

และกล่าวต่อไปถึงอิทธิพลของลัคนากับเมอริเดียน สำหรับใช้เป็นมูลฐานในการพยากรณ์ว่า

 

“ลัคนา คือ จุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของบุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน

ลัคนาหมายถึงจุดเริ่มต้นของอาทิตย์ที่โคจรจากซีกโลกใต้ขึ้นไปยังซีกโลกเหนือ เทียบได้กับ ขณะที่มนุษย์เราเกิดขึ้นมา เอาศีรษะโผล่ขึ้นมาจากครรภ์มารดา อาทิตย์ก็คือชีวิต ดังนั้น ลัคนาจึงเป็นจุดเชื่อมโยงในทางปรัชญาของการเกิดขึ้นของคนทุกคน

 

เมอริเดียนหรือเรือนที่ 10 เป็นจุดที่เชื่อมโยงนาทีเกิดของบุคคลทั้งหลายกับนาทีที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน”

ในข้อนี้ก็คงเช่นเดียวกับที่ได้อธิบายแล้วข้างต้นเรื่องของตำแหน่งของเมอริเดียนปัจจัยเดียวที่คนทุกคนถ้าเกิดวันเดือนปีเดียวกัน เวลาเดียวกัน แม้จะต่างสถานที่กัน ตำแหน่งเมอริเดียนก็จะเป็นที่เดียวกัน การเกิดของมนุษย์ กับการเกิดของเหตุการณ์ก็คือสิ่งเดียวกัน  เช่น ณ วันที่ 12 กันยายน 2551 เวลา 18.45 น.กทม. มีเด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นจากครรภ์มารดา ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันที่อีกจังหวัดหนึ่ง มีอุบัติเหตุรถชนกัน ณ วัน เวลาเดียวกัน เมื่อคำนวณดวงชะตาของ 2 เหตุการณ์ก็จะพบว่า เมอริเดียนของเด็กคนนี้ กับเมอริเดียนของเหตุการณ์รถชนกัน เป็นตำแหน่งเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2007-09-15 23:39:56 IP : 125.25.128.96


ความคิดเห็นที่ 25 (767140)
ผมขอขอบคุณอาจารย์วิโรจน์ที่กรุณาอธิบายให้ผมพอมองเห็นแนวทางเพื่อทำความเข้าใจ แต่ผมยังไม่กระจ่างเกี่ยวกับเรื่องลัคนาคือจุดที่เชื่อมโยงอาทิตย์ทั้งหลายของบุคคลทั้งหลายเข้าด้วยกัน กรุณาขยายความหมายด้วยครับหรือถ้ายกตัวอย่างได้ก็จะดีมากครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น นายนกแล วันที่ตอบ 2007-09-17 22:17:02 IP : 203.113.39.8


ความคิดเห็นที่ 26 (767165)

ตามความเข้าใจส่วนตัวนะครับ

ลัคนาหมายถึงสิ่งแวดล้อมอื่นที่ใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับเจ้าชะตาโดยตรง ถ้าเป็นบุคคลอาจมากกว่าหนึ่งได้ ดังนั้น อาทิตย์ของเจ้าชะตาเหล่านั้น อาจสัมพันธ์กับลัคนาของเราได้

ในทางปฏิบัติ ลองหาอาทิตย์กับบุคคลที่ใกล้ชิดเราจะเห็นว่าทำมุมสัมพันธ์กับลัคนาของเราได้มากกว่าหนึ่ง (หรืออาจไปสัมพันธ์กับจุดเจ้าชะตาจุดอื่นของเราก็ได้)

ผู้แสดงความคิดเห็น เจเจ วันที่ตอบ 2007-09-17 22:36:58 IP : 124.121.58.31


ความคิดเห็นที่ 27 (767351)
เรื่องนี้คงอธิบายเพิ่มไม่ได้แล้วครับ เพราะคุณต้องเรียนรู้เข้าใจในเรื่องดาราศาสตร์ ธรรมชาติของอาทิตย์วัน  อาทิตย์ปี ขณะการเกิด แอกหลายๆเรื่อง เท่าที่อธิบายมานี้ก็เพื่อว่า ผู้ที่เรียนมาแล้วในระดับหนึ่งจะทำความเข้าใจได้ แต่ถ้าปรัชญามูลฐานเกี่ยวกับลัคนา ยังไม่เข้าใจ ผมขอแนะนำ เข้าห้องเรียนดีกว่า หรือหาหนังสือ อารัมภบทโหราศาสตร์ ของอาจารย์ประยูร มาอ่านก้ได้ เรื่องเรียนนั้นก็ไม่ได้แปลว่าต้องเรียนกับผม คุณสดวกจะเรียนกับอาจารย์ท่านใดก็ได้ ผมหวังว่าอาจารย์ที่สอนยูเรเนียนทุกท่านสามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะเรียนมาจากอาจารย์เดียวกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2007-09-18 09:21:45 IP : 203.149.16.34


ความคิดเห็นที่ 28 (768096)

ในทางปฏิบัติ  มีใครสังเกตและสงสัยบ้างหรือไม่ครับว่า  ทฤษฎีก็ว่าไปอย่าง มีเหตุมีผลที่พิจารณาแล้วน่าเลื่อมใสแท้ๆ  ถ้าเราลองทำตามก็น่าจะทำนายได้ถูกต้องทั้งเรื่องราวและเวลา แต่เอาเข้าใจ ทำตามยูเรเนียนทุกอย่าง เรื่องราวคืออะไรยังพอจะอนุมาณได้ค่อนข้างตรง แต่เหตุเกิดเมื่อไหร่ กลับมักจะคลาดเคลื่อนไม่ตรง  ทั้งวันเวลาและนาที โดยเฉพาะการทำนายไปข้างหน้าหรือพยากรณ์ ทั้งๆที่วัดตามตำราทุกอย่างๆละเอียด ที่ว่า อาทิตย์บอกวัน  จันทร์บอกชั่วโมง เมอริเดียนบอกนาที และลัคนาบอกสถานที่นั้น....ตามสถิติจะคลาดเคลื่อน แต่ถ้าแกะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วกลับค่อนข้างแม่นยำ...ผมสงสัยและค้นคว้าเรื่องนี้มานานมาก  ..... จนกระทั่งมาคิดออกทีหลังว่า เรื่องราวและทฤษฎีอาจจะไม่สมบูรณ์ต้องใช้แบบบูรณาการเป็นแนวสากลยูเรเนียนมาผสมผสาน  โค้งวี1 จะเป็นตัวบอกช่วงเวลาที่แม่นยำ และศูนย์รังสีจะบอกเรื่องราวได้อย่างน่าพิศวง แต่การกำหนดวัน  ต้องไปตัดสินที่ ดาวทรานสิตกระทบดวงกำเนิด เท่านั้น ว่าจะเกิดเดือนไหน วันไหน ในเรื่องเดือนพิจารณาจาก จันทรวรรษ และ อมาวสี ส่วนวันนั้น เรื่องทรายสิตกระทบกำเนิด และเวลาเกิดเหตุต้องหาจากดวงกาลชะตา ถ้าทำแบบนี้ทีละขั้นตอน จะทำให้การกำหนดเวลาในเรื่องการพยากรณ์จร...จะแม่นยำมาก...มากจนน่าพิศวงทีเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังไม่ถึงบ้าน วันที่ตอบ 2007-09-19 00:47:16 IP : 125.25.71.89


ความคิดเห็นที่ 29 (768107)
ผมไม่ค้านทฤษฎีเขานะครับ แต่การค้นคว้าส่วนตัวมันเป็นแบบนี้ครับ....ต้องลงลึกไปอีกหลายๆแนวยูเรเนียนอย่างเดียวไม่จุใจครับ....เลยพาลสรุปว่าโหราศาสตร์ที่ใช้ดวงดาวมันเป็นวิชาเดียวกัน...มุมมองบางอย่างอาจจะไม่ชัดครบ   แต่ในอีกมุมมองของอีกทฤษฎีหนึ่ง กลับอธิบายเรื่องนั้นได้ละเอียดขึ้นในแนวองค์เสริมเพื่อความสมบูรณ์ของคำตอบ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-19 00:57:01 IP : 125.25.71.89


ความคิดเห็นที่ 30 (768530)

อาจารย์ประยูร เคยกว่าวว่า หนังสือตำราที่มีมาแต่ในอดีตนั้น เราอาจจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ อย่าได้ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไข ดพราะเราต้องเคารพองค์ความรู้ของท่านผู้รู้ในอดีต ที่ท่านได้คิดวิเคราะห์จนเป็นความรู้ของท่านเหล่านั้น

เราสามารถพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ได้ แต่ไม่ใช่การทำลายความรู้เดิม แต่เราจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ยอมรับความรู้หรือความเห็นที่แตกต่าง (มากหรือน้อย) ซึ่งคงไม่ใช่หน้าที่ของเรา ผู้นำไปใช้ต่างหากที่จะต้องพิสูจน์เองว่า การได้รับความรู้จากหลายแหล่ง หลายทาง ทำให้เขามีโอกาสปรับตัว พัฒนาตน สังเคราะห์ความรู้ด้วยการทดสอบ ไม่ใช่รับความรู้ด้วยความเชื่อ เหมือนหลักกาลามสูตรที่ว่า ให้รู้เพราะรู้ เชื่อเพราะควรเชื่อด้วยเหตุผล

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2007-09-19 14:04:00 IP : 203.146.104.35


ความคิดเห็นที่ 31 (769894)
จริงแท้แน่นอนเลยครับ   การเคารพหลักการและตำราที่มีแต่อดีตหรือ องค์ความรู้ใดก็ตามที่มีไว้เพื่อการเผยแพร่ เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความเคารพ  ครูบาอาจารย์รุ่นเก่าท่านเป็นอัจฉริยะสามารถที่จะคิดค้นและศึกษาหลักวิชาต่างๆในสมัยที่สื่อต่างๆรวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยในการช่วยทำงานยังไม่เปิดกว้างเหมือนเช่นปัจจุบัน....เราต้องช่วยกันยกย่องท่านครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-09-21 07:35:03 IP : 203.150.192.204


ความคิดเห็นที่ 32 (770523)

อิชั้นเห็นด้วยกับทั้งท่านอาจารย์วิโรจน์ และอาจารย์ภารตอย่างยิ่ง นักโหราศาสตร์รุ่นนี้โชคดีมาก มีทั้งตำราและแนวทางเก่าๆที่ท่านปรมาจารย์ทิ้ง ไว้ให้ศึกษา อิชั้นเคยอ่านตำราเก่าๆ ทุกบทความมักจะทิ้งท้าย ให้นักโหราศาสตร์นำไปศึกษาและค้นคว้าต่อ แนวโหราศาสตร์ปัจจุบันเป็นแนววิทยาศาสตร์มากขึ้น ไม่ใช่วิธีการท่องจำหรืออิงสถิติอย่างเดียว มีการนำทฤษฎีเก่ามาทดลองพิสูจน์ ทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมมากมาย ทำแล้วทำอีกจนแน่ใจกว่าจะนำไปใช้ แต่ก็ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้นัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการค้นพบอะไรใหม่ๆมันก็มาจากรากฐานเก่าๆที่ท่านปรมาจารย์ทำไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น มิได้เกิดทฤษฎีใหม่ที่ลบล้างของเก่าใดๆเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-09-21 17:19:51 IP : 58.9.186.6


ความคิดเห็นที่ 33 (1906280)

ตั้งแต่เกิดมา.ยังไม่รู้วันเกิด   ขึ้น11คำ เดือน9 2511ใครทราบกรุณาบอกด้วย นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น _dada_ วันที่ตอบ 2009-02-24 14:29:12 IP : 61.7.166.12


ความคิดเห็นที่ 34 (2107476)

lv replica men bag lv handbags still cost in the thousands of louis vuitton which means that you may never gucci replica chanel bags.

ผู้แสดงความคิดเห็น dreamy (justin-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 10:45:21 IP : 125.126.157.28



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.