เปล่าคับ  ผมแค่เป็นแฟนพันธุ์แท้ท่านปรมาจารย์ประยูร  อุรุชาฎะ เฉยๆและเคยไปถามปัญหาโหราศาสตร์กับท่านบ่อยๆสมัยที่ท่านนั่งทำงานอยู่ที่อาคารแถวถนนราชดำเนิน...ไปฟังท่านเปิดเพลงมาร์ช เยอรมัน ไปเฉลยปัญหาและไขข้อข้องใจในทฤษฎีโหราศาสตร์ไทยแผนใหม่ คุยแต่ละครั้งครึ่งวันค่อนวัน เคยตามไปกับท่านพาขึ้นไปโลหะปราสาทสมัยเฉลิมไทยยังไม่รื้อ ผมไปเรื่อยแหล่ะคับ สารพัดอาจารย์ เช่น ท่านจำรัส  ศิริ ที่ ห้องสมุดโรงเรียนวัดราชบพิธ ก็สอบถามวิชากันหลายครั้ง ท่านปรมาจารย์คำนวณ ทองเจือ  อ่างแก้ว ผมก็ไปหาถึงคอกม้าที่สระบุรี ทีเดียว  ไม่รู้บังเอิญหรือไงไม่ทราบ ผมโชคดีที่อยู่ในวงจรนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว  ตำรับตำราอะไรต่างๆก็เสาะหามาจนได้เกือบครบ  แม้กระท่านท่านอุตตโมภิกขุ  หรือท่านปรมาจารย์อรุณ  เทศถมทรัพย์ ผมก็ไปกราบถามปัญหาทฤษฎีสิบลัคนา ที่วัดสำนักที่ชลบุรี หลายๆครั้ง...แต่ละท่านก็เฉลยวิชาที่ผมติดขัดสงสัยอย่างไม่มีการปิดบัง มิหนำยังสอนทีเด็ดเคล็ดลับและเกล็ดวิชารวมทั้งประวัติต่างๆ  ให้ฟังอย่างพิศดารทีเดียว  นับเป็นคุณูปการอย่างมากครับ ... อาจารย์เหล่านี้ท่านมักจะถามก่อนเลยว่า เรียนอะไรมา เรื่องที่ท่านเขียนนั้นเป็นอย่างไร  เข้าใจอย่างไร เราก็บอกไป ท่านก็จะเสริมเติมตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้างครับ  ไม่ใช่ไปเรียนโดยตรงแบบเล็คเช่อร์  แต่เป็นการเล่าแบบมุขปาฐะ แบบผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์ เล่าให้เด็กฟัง  เช่นไปอ่านตรงนั้นหรือยัง ตรงนี้หรือยัง  เรื่องนี้เข้าใจว่าอย่างไร อะไรประมาณนี้แหล่ะครับ

ขอบคุณครับ อ.ภารต ที่ให้ข้อมูล

อ.จำรัส ศิริ กับ อ.อรุณ เทศถมทรัพย์ ผมก็พยายามตามแนวทางของท่านครับ 

แล้ว อ.ภารต เคยเจอท่าน อ. อักษร ไพบูลย์ ไหมครับ 

ไม่เคยเจอครับ รู้จักท่านจากงานเขียนตำรา  รู้จักก็ทราบว่าท่านอายุมากแล้ว  และทราบอีกทีก็ได้ข่าวว่าท่านเสียไปแล้ว  เคยได้ยินศิษย์สายตรงของท่านเล่าผ่านมาอีกทีหนึ่งครับ  ซึ่งแนวทางของท่านก็เป็นแนวมาตรฐานโหราศาสตร์ไทยเดิมแท้ใช้ทักษาครับ  ปัจจุบันก็มีการสอนแบบแนวนี้ในสมาคมโหรแห่งประเทศไทย โดย อจ.ศิวนาถ  ฤชุพันธุ์ เลขาธิการสมาคมโหรครับ

ขอถามอีกหน่อยครับ

ไม่ทราบว่า อะไร คือ จุดที่ทำให้ อ.ภารต หันมาศึกษาโหราศาสตร์สากลยูเรเนี่ยน  มีจุดเด่นอะไรที่โดดเด่นกว่าโหราศาสตร์ระบบอื่นครับ

และ ดวงๆเดียวกัน ถ้าอ่านด้วยโหราศาสตร์สากลและโหราศาสตร์แขนงอื่นๆ เช่น ไทย หรือ ภารตะ  จะอ่านออกมาได้เรื่องราวเหมือนๆกันหรือไม่

    ผมไม่ได้ว่าโหรไทยไม่ดีแต่อย่างไรเลย  แต่กลับสรรเสริญในความเป็นปรีชาญาณของคนไทยรุ่นก่อนว่า รู้จักพัฒนาองค์ความรู้ได้อย่างเป็นอัจฉริยะทั้งสิ้น  ผมนั้นศึกษามาจากความไม่รู้  ไปดำน้ำงมหาวิชาเอาในเวิ้งนครเขษมบ้าง  สนามหลวงตามแผงหนังสือบ้าง  หอสมุดแห่งชาติท่าวาสุกรีบ้าง  อ่านทุกเล่มเท่าที่หาได้  ซื้อทุกเล่มถ้ามีตังค์ บทความเรื่องวิวัฒนาการองค์ความรู้แห่งโหรสยามที่เขียนเอาไว้ในเว็บนี้  เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตผมที่มีประสบการณ์ในด้านการศึกษาโหราศาสตร์ไทย  มาก่อนทั้งสิ้น  ทุกวันนี้ผมก็ยังค้นคว้าอยู่ แต่ในความเห็นผม ในระยะ 10 ปีหลังมานี่  ตันแล้วครับ  ไม่มีวิวัฒนาการต่อ  หมดจากทักษาดาวฤกษ์ของท่านอาจารย์พันเอกจง  แปลกบรรจง  กับงานสิบลัคนา และ งานโหราศาสตร์แผนใหม่ของท่านอาจารย์พลูหลวง   หมดแล้วครับ ไม่มีอะไรใหม่  มีแต่ย้อนยุคกลับไป หาของเดิม  และไปเด่นทางพยากรณ์ศาสตร์ เรื่องแนวเลข 7 ตัว และไพ่ยิปซี  ซึ่งยังมีการต่อยอดออกไปบ้าง ผมเป็นโหรไทยอาชีพมานานแสดงอภินิหารกับความแม่นยำของวิชาให้เป็นที่ฮือฮามาก็เยอะสอนลูกศิษย์ที่เป็นโหรไทยดังๆก็หลายท่าน

     แต่โหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนจาน 2 ชั้น ซึ่งถ้ามีโปรแกรมทันสมัยที่ยอดเยี่ยมสามารถที่จะลดเวลาในการทำงานลงอย่างในปัจจุบัน  มีอะไรที่เป็นมนต์ขลังให้ตะลึงพรึงเพริศ  อย่างน่าประทับใจใหลหลงครับ  ทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปได้  ยิ่งผมบังเอิญโชคดีที่ท่านอาจารย์วรเชษฐ์  ตียะเกษม ท่านมีเมตตาสอนให้อย่างไม่มีปิดบัง  อะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีเหตุมีผลมีตรรกะรองรับที่มากกว่า  คุยกันเป็นจุดเป็นตัวเลขพิกัด  มีหลักฐานรองรับทางดาราศาสตร์ปัจจุบันที่ถูกต้องแม่นยำ  จะได้รับการพิสูจน์ในความคงทนที่มากกว่า  และผมเชื่อว่าของที่เป็นองค์ความรู้สากลนั้นถ้าโบราณาจารย์ท่านรับรู้รับทราบในสมัยของท่าน  ท่านก็คงรับเข้ามาเช่นเดียวกันครับ

คือ ผมอยากทราบความเห็นทั่วๆไปไงครับ  เพราะผมเองเดิมก็เริ่มต้นด้วยโหราศาสตร์ไทย  แล้วก็มีโอกาสได้เรียนยูเรเนี่ยนในแนวพระเคราะห์สนธิ 

แต่พอเริ่มสนใจโหราศาสตร์สากลที่ใช้เรือนชะตา  พอแค่ศึกษาเริ่มต้นก็มีปัญหาว่า  ดวงแบบสากล  กับแบบที่ตัดค่าอายนศะ ก็เริ่มต่างกันแล้ว  เช่นดาวดวงเดียวก็อยู่ต่างราศี  บางที่ก็ต่างเรือนชะตาไปเลย  เวลาอ่านๆยังไม่เริ่มถอดความหมาย  มันเลยรู้สึกแย้งๆกันอยู่ในใจ  ก็เลยอยากทราบจาก อ.ภารต (ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ทั้งหลายๆแนว) ว่าเวลาอ่านจากทั้งสองแบบ จะได้เนื้อเรื่องเหมือนกันไหม 

ผมก็มิได้ว่าว่า อ.ภารต ว่าโหราศาสตร์แนวอื่นไม่ดีนะครับ  ผมถึงถามว่า อะไรคือจุดเด่นของโหราศาสตร์แนวสากลยูเรเนี่ยนไงครับ  (ถ้าทำให้เข้าใจผิดก็ขออภัยด้วยครับ  มันยากที่จะสื่อสารให้เข้าใจเจตนาผ่านทาง  การเขียน  พอดีภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงครับ)

  แต่ก่อนผมคิดเอาเองว่า..ในกระบวนวิชาโหรไทยผมเป็นคนหนึ่งที่เจ๋ง  เข้าสิบลัคนาอินทภาสบาทจันทร์กาลจักร์ลัคน์จรและโหราพลูหลวงครบเครื่อง พร้อมทั้งสุริยยาตร์และมานัตต์ ตำราโหราสากลก็แค่ผ่านหูผ่านตายังไม่มีอะไรประทับใจ  และก็ใช้มาหากินร่วมสิบปี  พอไปเจอท่านปรมาจารย์พลตรีประยูร ที่ท่านแนะให้ที่ภูเก็ต ก็เริ่มสนใจยูเรเนียน  ซึ่งผมกังขาเรื่องดาวทิพย์มานานแล้ว  เพราะเคยเห็นบทความที่เขาพยากรณ์เขียนลงในพยากรณ์สารบ้าง  โหราเวศม์บ้าง  พวกคำว่า  ฮด  วล  ซอ  ฯลฯ แหม! ดูแล้วขลังเป็นบ้า  ก็กะว่ามีเวลาจะศึกษา  พอมีผู้แนะ ก็เริ่มเสาะหาตำรามาเรียน  ช่วง พศ. 2530 ตะลุยอ่านไร่อยๆรู้บ้างไม่รู้บ้าง  จากนั้นก็มาหาตำราท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล  ตำราท่านอาจารย์ผดุง  ผึ่งประเสริฐ  และท่านอื่นๆ ก็พอจะเข้าใจบ้างด้วยตนเอง  ใช้เวลาสักหลายปีหน่อย  พอจับทางได้รู้เรื่อง  ช่วงนั้นมีการลงทุนหลายอย่างเพราะว่าคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาท  เครื่องพีซีเริ่มถูกลง ก็วิ่งหาเครื่องหาโปรแกรมกัน  ท่านอาจารย์มานิตย์  ธีรเวชชโรกุล ก็แนะนำบ้าง  อะไรที่ไหนมีหาได้หามา  ทุ่มเทกับเรื่องนี้เยอะมาก แต่ยังใช้โหรไทยหากินอยู่  พอเริ่มมีโปรแกรมท่านอาจารย์โรจน์  จินตมาส  กับ โซล่าร์ไฟร์ และ แอสโตรบิวด์ นี่แหล่ะครับ  ทำให้งานโหราศาสตร์สากลยุเรเนียนง่ายขึ้น  เริ่มเข้าใจมากขึ้น  แต่ก็มีบางอย่างในยูเรเนียนที่ทำให้แกะย้อนหลังได้สะดวกมั่นใจ  และทายข้างหน้าไม่ถูก  ไม่พอใจในคำทำนาย  ใช้วิชาโหรไทยทายได้ดีกว่า  ก็ทำให้งงอยู่มาก  ว่าเราน่าจะไปถึงที่สุดแล้วทำไมยังไม่ชัวร์    คิดอยู่อย่างนี้หลายปี  จนเริ่มกังขาในยูเรเนียน  วันดีคืนไปจับโหราสากลซึ่งมีอยู่หลายเล่มมาปัดฝุ่นค่อยๆอ่านใหม่  แกะตามโปรแกรมที่มีอยู่ก็เริ่มจะจับทางได้ ทีนี้ก็มาบ้าโหราศาสตร์สากลคนกันใหม่อีก  พอเอายูเรเนียนมาจับผสม  ทีนี้มันพิศดารแล้ว  อีกทั้งโชคดีที่ได้รับการเมตตาแนะนำจากท่านอาจารย์วรเชษฐ์  ตียเกษม  ประเภทบ้านอยู่ใกล้ไล่วิชากันทุกวัน  ภาพจิ๊กซอร์ต่างๆก็เลยต่อติดปะติดปะต่อกันทั้งโหรไทยโหราสากลโหรยูเรเนียน  จากที่คิดว่ารู้มากก็กลับมาเป็นไม่รู้แล้วก็มาเรียนใหม่  หลายๆรอบเข้า  จนปัจจุบันก็น่าจะพออยู่ในระดับพอรู้บ้าง   ก็กล้อมแกล้มตอบปัญหาต่างๆได้นี่แหล่ะครับ  ก็ต้องขอบพระคุณทุกอาจารย์ที่สั่งสอนและให้วิชาทางตำรับตำราให้ได้มีโอกาสได้ศึกษาค้นคว้า จนถึงวันนี้

การเรียนโดยให้ใช้การท่องจำแบบสิทธิการิยะ  หรือใช้แบบ Assumption หรือวิธีที่ให้รับให้เชื่อตรงนี้ก่อนไม่งั้นไปต่อไม่ได้นั้น  หรือเอาดาวเคราะห์มาอ้างหรือเอาดาวมาขู่นั้น  ปัจจุบันใช้ไม่ได้แล้วในบางสังคมโดยเฉพาะในวงการวิชาการสากล ทุกอย่างต้องมีเหตุผลทางตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ถูกต้องรองรับ  มุมมองเปลี่ยนไปยุคสมัยหนึ่งอาจจะใช้ได้และเพียงพอในยุคนั้นซึ่งปัจจุบันไม่ใช่แล้ว  เกิดเป็นข้อแตกต่างระหว่างการคำนวณกับการ คะเน  และกระบวนการอธิบาย   ดังนั้นเพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้จึงต้องมีการบูรณาการใหม่หมดในหลายสาขาวิชา  เรียนเพื่ออนุรักษ์ก็อย่างหนึ่ง แต่เรียนเพื่อเป็นเลิศในสาขาก็อีกอย่างหนึ่ง

 ขอบคุณผู้รู้ทั้งหลายที่ช่วยอธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับวิชาโหราศาตร์ระบบต่างๆ ผมเองก็ได้พยายามศึกษาวิชาโหราศาสตาร์ไทยมาหลายปีแล้ว

แต่ก็ยังมี่ข้อสงสัยอยู่อีกมาก เพราะบางครั้งก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราทำนายไว้ ทั้งที่ดวงดาวจรทำมุมกับดวงดาวในพื้นชะดาเดิมอย่างชัดเจน ผมจึง

เห็นว่าควรจะเริ่มศึกษาวิชาโหราศาตร์สากลอย่างจริงจังเสียที่ เพื่อจะได้มีข้อเปรียบเทียบผลการพยากรณ์