คนที่นับถือพุทธศาสนา มักจะเชื่อเรื่องกรรม ครับ  ชาตินี้และชาติก่อน  รวมทั้งชาติหน้า  ก็เลยพ่วงเข้ามาด้วย  เรื่องนี้มีในหลักโหราศาสตร์สากล  และในโหราศาสตร์ไทยท่านปรมาจารย์พลูหลวงเคยเล่าให้ผมฟังถึงหลักเกณฑ์เอาไว้บ้างเหมือนกัน  ว่าให้ดูเอาจากภพหรือเรือนชะตานี่แหล่ะ  มันกลับกันไปมาได้  ในโหราศาสตร์สากลเขาก็ดูย้อนหลังจากวันเกิดไป 280 วันก่อนคลอด  แล้วย้อนหาเวลาจุติ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  มันมีการคลาดเคลื่อน  และการตีความตามทิฎฐิของแต่ละบุคคล  ทำให้ยากที่จะพิสูจน์ครับ  ผมเคยเห็นบทความท่านปรมาจารย์พลตรีประยูร  พลอารีย์ เขียนเอาไว้เหมือนกัน  ตอนนี้นึกไม่ออกว่าอยู่ที่ไหนแล้ว  ก็ใช้หลักคล้ายๆกัน   สรุปว่า  หลักเกณฑ์มีแน่นอน  แต่พิสูจน์ได้ตามความเชื่อของแต่ละคน  เช่นเดียวกับตายแล้วไปไหนนั่นแหล่ะครับ  ดูเวลาตาย ว่าเวลานั้น ภพ 10 จะไปตกสุคติ  หรือ ทุกขคติ  เรายังรู้เลย  แล้วทำไมอีแค่ย้อนกลับทำไมจะไม่ได้  เช่นเดียวกัน

ผมเคยอ่านเจอของท่านปรมาจารย์พล.ต.ประยูร คลับคล้ายคัลคลาว่าเวลาที่เสียชีวิตสามารถใช้ถือเป็นเวลาของบุคคลผู้นั้นในอีกโลกหนึ่งได้อะไรทำนองเนี่ครับ เดี๋ยวต้องกลับไปค้นดูครับ

เสน่ห์ของวิชาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนมันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะคับ   ดูเหมือนกับว่าเข้าถึงหยั่งถึง  แล้วให้คลำดู  ก็พอจะเหมือนรู้ แต่ก็อาจจะทายผิดได้   แต่พอเฉลยก็จะร้องอ๋อ   ยังงี้นี่เอง  แล้วก็ยกทฤษฎีต่างๆที่เรียนมานั้น  มาจับเข้าเทียบก็จะได้รายละเอียดให้ชวนพิศวง  แต่พอยังไม่รู้คำตอบก็ได้แต่สันนิฐานกันเข้าไป  ถูกก็มีเยอะ  ที่พลาดผิดก็มี  เรียกว่าไม่เชื่อเลยก็โง่พลาดโอกาสสำคัญไป  แต่ถ้างมงายเชื่อทันทีหมดใจเลยก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก  แต่สนุกและมันส์ชะมัดเลย

คือแบบว่าใจหนึ่งผมก็ว่าเราต้องมีที่มา แต่อีกใจก็ค้านว่าจะเป็นไปได้อย่างไร พอดีว่าน้องคนหนึ่งที่เป็นกัลยาณมิตรส่งไฟล์เสียงของอาจารย์ท่านหนึ่งมาให้ลองฟังน่ะครับ เลยชักไม่แน่ใจ ทำให้อยากรู้ที่มาของตัวเอง(แต่ใจหนึ่งก็ว่าจะรู้ไปทำไม)

  เลยอยากทราบวิธีเจาะแบบง่ายๆไม่ซับซ้อน แบบไม่คิดลึกน่ะครับและต้องขอบพระคุณอาจารย์และท่านอื่นๆด้วยครับที่ช่วยมาชี้แจง (ยังอยากทราบต่อครับ)