ถ้าจะให้เห็นภาพชัด ภาษาอังกฤษน่าจะอธิบายได้ชัดครับ

เรือนที่ 2 Income, wealth

เรือนที่ 5 Investment

เรือนที่ 7 Partnership

เรื่อง Broker จะเป็นเรือนที่ 7 หรือเปล่า ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับ ตอนที่ผมเลือก Broker ก็ไม่เคยดูดวงเสียด้วยว่าดวงสมพงศ์กันหรือเปล่า มัวแต่เลือกโบรกเกอร์ที่มีโปรแกรมเทรดหุ้นผ่านเน็ตที่ผมชอบใจที่สุด  และผมเองไม่ได้เทรดผ่านพนักงาน marketing ด้วย

แต่ผมว่า โบรกเกอร์จะใช่เรือนที่ 7 หรือเปล่า ไม่น่าจะเป็นประเด็นหลักในการวิเคราะห์ว่าเจ้าชะตาเหมาะจะเล่นหุ้นหรือเปล่านะครับ

คำถามต่อมาเรื่อง การเล่นหุ้นเข้าข่ายการพนันหรือเปล่า ผมว่าผมตอบไปกลายๆแล้วในความเห็นที่ 50 นะครับ แต่ถ้าจะให้ขยายความ ผมว่า การเล่นหุ้นจะเข้าข่ายการพนันเมื่อผู้เล่นเข้าไปเก็งกำไรจากราคาหุ้น โดยไม่มีข้อมูลประกอบที่จะทำให้ลดความเสี่ยงเลย

ลองยกตัวอย่างการพนันอย่างการซื้อหวยก็ได้ครับ การซื้อหวย 3 ตัวเป็นการเก็งกำไรที่มีโอกาสถูก 1 ใน 1000 หรือ 0.1% (กรณีตัวตรง) หากซื้อถูกก็ได้กำไรกลับมาหลายสิบเท่าหรือเป็นร้อยเท่า (ผมไม่แน่ใจเพราะไม่เคยซื้อเลย) แต่หากผิด เงินที่ลงไปก็หายไปทั้งหมดเลย

ส่วนการซื้อหุ้น เราได้หุ้นเป็นสินทรัพย์กลับมา เผอิญว่าสินทรัพย์ตัวนี้มีราคาขึ้นๆลงๆอยู่ตลอดเวลา หากเราคาดการณ์ผิด ราคาหุ้นลงมา แล้วเราขายออกไป เราก็ขาดทุน แต่ยังได้เงินกลับมาบ้าง (ยกเว้นไปซื้อหุ้นที่ล้มละลายนะครับ) หากราคาหุ้นขึ้น เราขายออก ก็ได้กำไร แต่กำไรตามปกติก็หลัก 10-15% ไม่ได้เป็นหลายสิบหลายร้อยเท่าเหมือนหวย นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงผลตอบแทนในรูปเงินปันผลนะครับ (หุ้นหลายตัวให้เงินปันผลสม่ำเสมอและดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอีกครับ)

อีกประการหนึ่ง เราพอจะคาดการณ์ราคาหุ้นได้จากปัจจัยพื้นฐานของมัน คือความสามารถในการทำกำไรในอนาคต แล้วคำนวณกลับมาว่า ราคาหุ้นที่เหมาะสมเป็นเท่าไร ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ในระยะยาว ราคาหุ้นจะวิ่งเข้าหามูลค่าที่แท้จริงอยู่เสมอ นั่นแปลว่า เราพอจะสามารถคาดการณ์ผลกำไร บนความเสี่ยงที่คำนวณออกมาได้ ต่างจากหวยตรงที่เราไม่สามารถคาดการณ์ตัวเลขที่ออกมาได้ เพราะหากคาดการณ์ได้ ก็แปลว่าหวยล็อคครับ นี่ผมพูดการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานนะครับ เพราะถ้าพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยต่างอะไรกับการใช้โหราศาสตร์ซักเท่าไหร่

กลับมาที่คำตอบว่า การเล่นหุ้นเข้าข่ายการพนันหรือเปล่า คำตอบของผมคือ มีส่วนเข้าข่ายการพนัน ถ้าเล่นแบบเก็งกำไร และจะไม่ใช่การพนัน กรณีลงทุนในหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานของมันครับ

สำหรับคุณอึ่งอ่างชอบกินแมงเม่า ผมคิดว่า Investment ต้องดูเรือนที่ 2 ด้วยครับ ส่วนเรือนที่ 5 คือ Speculation อันนี้ผมศึกษาจากตำรา Financial Astrology ของผู้พันวิลเลียม ประกอบกับประสบการณ์การวิเคราะห์ดวงชะตาบุคคลที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาระยะหนึ่งครับ แต่ก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นผู้รู้เรื่องนี้นะครับ เป็นแต่เพียงผู้กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ครับ

ไม่ทราบว่าตำราของผู้พันวิลเลียมที่ว่าให้ผลในเชิงประจักษ์ได้มากน้อยแค่ไหนฮับ ได้กำไรหรือขาดทุนหลังจากใช้ตำราเล่มนี้ฮับ  รบกวนคุณ pallas ช่วกรุณาไขข้องข้องใจหน่อยได้ไหมขอรับ

พูดถึงหวย หุ้น หรือเรื่องลุ้นในการเสี่ยงโชค ทฤษฏี น่ะมีอยู่ บวก ลบ คูณ หาร นั้นได้หมด

จากอดีต จนถึงปัจจุบัน การคิดเข้ามาขุดทอง หาเงินจากวิชาโหราศาสตร์ ไม่เคยหยุดนิ่งเหมือนกัน

ในบางค่าย เคยได้กำไร มาเป็นแสนเป็นล้าน (เขาเล่าว่า) บางค่ายก็ตั้งทฤษฏี ให้ศิษย์นำไปใช้ลงทุน

จนถึงปัจจุบันอีกเช่นกัน ผมเห็นอาจารย์หลายๆที่เล่นกับการหาเงินด้วยวิธีนี้ หลบหน้าหลบตาลูกศิษย์ แม้นกระทั่งตัวอาจารย์เอง บางท่านยังหลบที่จะเข้าไปเจอะเจอกับผู้ลงทุน

ตรวจดวงตัวเองให้ดีก่อนนะครับ ว่าจะเสียเงินหรือเปล่า เป็นอันดับแรก อันดับรอง เดือดร้อนหรือเปล่าหากเงินลงทุน ต้องจำเป็นหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน

คิดแล้วค่อยๆพิจารณาว่า ควรลงทุนหรือไม่ครับ

อดีต พระอาจารย์ใหญ่ก็เล่นหุ้น ลูกศิษย์ก็เล่นหวย ผลครับ เจ๊งครับ  ที่กล่าวมาเป็นข้อเตีอนใจนะครับ

ใครอยากเล่น เล่น ใครอยากลงทุน ลง

แต่หากได้ หรือเสีย นั่นมิใช่จากวิชาโหราศาสตร์นะครับ นั่นเป็นเรื่องชะตากรรมของผู้เล่นนะครับ

Indicator Index มีหลายชนิดครับ อาทิเช่น สมัยก่อน ระบบหุ้นแท่งเทียนก็ถือว่าเป็นความลับ ... ใช้กันอยู่ในระบบ commudity ของญี่ปุ่น  ฝรั่งก็เพิ่งจะมาฮือฮากัน  โดยมากเครื่องมือพวกนี้เขาใช้หาแนวโน้มของราคากัน  แต่ก็ไม่ใช่จะมีเฉพาะราคาอย่างเดียวเมื่อไหร่  ที่มีผลชัดเจนกับราคาหุ้นที่ขึ้นลง  ยังมีอีกหลายองค์ประกอบ เช่น Momentum, 14 RSI ( Relative Strength Index ) ,Stochastic ,Larry Williams Percent R ,Volumn และอะไรต่อมิอะไรอีกที่สามารถทำให้แมงเม่ากลายเป็นอึ่งอ่างได้ ... เส้นผมบังภูเขานั้นก็มีอีกหลายเส้นโตๆ  ความจริงเป็นระบบมาตรฐานนั่นแหล่ะเพียงแต่ว่า  สามารถใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยราคา เพื่อให้รู้แนวโน้มองค์รวมของตลาดและหุ้นรายตัวได้  ซึ่งผมก็ไม่เคยเจอที่ตำราไหนมาก่อน  แต่เคยฟังผู้คร่ำหวอดในวงการนี้ท่านเปรยๆ  ถึงวิธีใช้วิธีทำ วิธีหา ก็เลยวาบความคิด เอาลองมาทำดูก็เห็นจริงตามนั้น  ซึ่งผมเองก็ไม่ได้คิดเองหรอกครับ วิธีนี้จะเป็นการกรองหุ้นที่ถูกตัวถูกตลาด และถ้าใช้ร่วมกับโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนเข้าไปก็จะทำให้ช่วงระยะเวลาเทขายแม่นยำขึ้น และมีโอกาสในการหากำไรทั้งเข้าและออกได้อยางน่าพอใจ  เรื่องนี้ที่รู้เพราะเรียนตรงมาทางด้านนี้ จากสำนักเอแบค สมัยเก่า  และสมัยที่ฟองสบู่ยังไม่แตกเคยไปเป็นผู้ติดตามขาใหญ่ของเอเชียสมัยนั้นอยู่หลายปีรู้เห็นเรื่องนี้มาบ้างแหล่ะครับ

คุณคห.ที่ 62 ครับ ที่เห็นนี้ยังน้อยไปครับ ผมจะเปรียบเทียบยังไงดี... เอาเป็นว่าฤาษีชีไพรที่อยู่ในป่า มักจะอาคมแก่กล้าใช่ไหมครับ ....อย่างนั้นเลยครับ ฮิๆๆๆ

ความเห็นที่ 60 ครับ ผมลงทุนในหุ้นโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ตามแนวทาง Value Investment ของปู่บัฟเฟตต์ และแนวของปีเตอร์ ลินช์ ผู้จัดการกองทุนชื่อดังของอเมริกา เป็นหลักครับ ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและโหราศาสตร์เป็นเครื่องมือประกอบเท่านั้น ผลตอบแทนที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้ครับ เป็นไปตามเป้าหมายที่ผมวางไว้ ยังเอาชนะตลาดได้อยู่ ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าผมมีพื้นความรู้ทางการเงินอยู่พอสมควร งานประจำก็เกี่ยวข้องกับการเงิน ก็เลยสะดวกที่จะใช้แนวทางนี้มากกว่า

ส่วนโหราศาสตร์นั้น ขอบอกตามตรงว่า ผลการนำโหราศาสตร์มาพยากรณ์การเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่ผมทดลองเองนั้น ยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าผมยังไม่มีเวลาศึกษาเรื่องนี้เพียงพอ ตำราโหราศาสตร์การเงินที่มีอยู่หลายเล่ม ก็ยังไม่ได้อ่านอย่างเอาจริงเอาจังเสียที ส่วนใหญ่อ่านข้ามๆไป เลือกเฉพาะที่สนใจเป็นเรื่องๆมากกว่า และยังไม่ได้ลองทำวิจัยเชิงประจักษ์ให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที ถ้าคุณสนใจ การเริ่มต้นอ่านโหราศาสตร์การเงินของผู้พันวิลเลียมก็เป็นตำราพื้นฐานที่ดีครับ เพราะให้ภาพรวมของโหราศาสตร์การเงินทั้งหมด ไม่เฉพาะแต่เรื่องหุ้นเรื่องเดียว

หลักโหราศาสตร์ที่ผมใช้กับการลงทุนและคิดว่าได้ผลค่อนข้างชัดนั้น คือการดูดวงตัวผมเองมากกว่า ว่าเหมาะที่จะลงทุนในหุ้นหรือเปล่า สไตล์การลงทุนแบบไหนจึงเหมาะกับเรา หุ้นแบบไหนจะถูกโฉลกกับเรา ช่วงนี้มีโชคในการลงทุนหรือเปล่า ฯลฯ คล้ายกับที่คุณสัจจะบอกนั่นล่ะครับว่าต้องตรวจดวงตัวเองให้ดีก่อน

ในตำรา แกก็บอกอยู่แล้วนะครับว่า Sun Spot Theory ใช้ไม่ได้ผล มีความน่าเชื่อถือต่ำ เพราะทดสอบกับตลาดหุ้นระหว่างปี 1789-1981 พบว่าแม่นยำเพียง 35% (อยู่หน้า 138) คนอ่านคงอ่านไม่ละเอียดแล้วไปใช้เลย จึงเจ๊งไป อันนี้คงโทษตำราไม่ได้

ตำราเล่มนี้เป็นการรวบรวมทฤษฎีโหราศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเงินมาไว้ด้วยกัน ไม่ได้บอกว่าทฤษฎีที่เอามาเขียนจะใช้งานได้จริง หลายๆตัวแกก็ทดสอบและแสดงผลให้ดูว่าแม่นยำแค่ไหน อย่างไร การทดสอบทั้งหมดก็มีขอบเขตเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯเท่านั้น ไม่ครอบคลุมตลาดประเทศอื่น ดังนั้น อ่านเสร็จ นำมาใช้เลยไม่ได้หรอกครับ พาลจะเจ๊งไปเปล่าๆ ยังไงก็ต้องนำมาทดสอบกับตลาดบ้านเราก่อน หลายๆเรื่องผมรู้สึกว่าแกกั๊กเอาไว้เยอะอยู่เหมือนกัน ที่ไม่ชอบใจอีกเรื่องคือ ไม่ค่อยพูดถึงปรัชญาดาวที่ใช้เลย อธิบายแต่เทคนิคล้วนๆ ตำราประเภทนี้อ่านแล้วนำไปใช้เลยยากครับ ส่วนข้อดีที่ชอบคือ รวบรวมทฤษฎีไว้เยอะ ทำให้เห็นภาพใหญ่ว่าเขาใช้อะไรกันบ้าง แล้วเราค่อยใช้ดุลยพินิจของเราเลือกศึกษาเอง

ไม่รู้ว่าจะนอกกฎเกณฑ์ชาวบ้านหรือเปล่า ผมดูดวงของคุณที่ถามกระทู้แรกแล้วเห็นว่า ถ้าเอาดีทางเล่นหุ้นท่าทางมีสิบล้านก็หมดครับ เพราะดาวที่เกี่ยวกับหุ้นเป็นประ(ดวงไทย) แถมเลข 7 ตัว หินะ+ปัตนิ(หุ้นส่วน) ไม่น่าลงทุนในหุ้นครับ แต่ถ้าคิดว่าเหนือดวงก็ตามสบายครับ

ขอให้โชคดีครับ

เพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้รู้สึกน่าสนใจมาก โดยเฉพาะการถกในเรื่องทฤษฎีทางด้านโหราศาสตร์การเงินกับการนำมาใช้จริงของ อ.ภารตและคุณPallas ทางชมรมSkyclockน่าจะนำมาเป็นหัวข้อหนึ่งในการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างท่านอาจารย์และท่านผู้รู้ทั้งหลายสักครั้งนะคะ

lv wallet for men louis vuitton bags still look for other type of louis vuitton embossed or stamped in a pattern louis vuitton replica louis vuitton travel fake.