จานไปโชว์ตัว ที่กรุงเทพ...จะขอตอบแทนพลางๆนะค่ะ

solar arc เป็นดวงจรชนิดหนึ่ง สมมติฐานมาจาก 1 องศา เท่ากับ 1ปี จึงเป็นดวงจรอายุ  อายุการใช้งานประมาณ 1ปี

solar return เป็นดวงจร ทรานสิต แต่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า เมื่ออาทิตย์ จรมาครบรอบ เรียกว่าดวง วงรอบชนิดหนึ่ง ระยะการใช้งาน 1 ปี เหมือน lunar return คือ วงรอบพระจันทร์ เมื่อจันทร์จรมากุม จันทร์กำเนิด ระยะการใช้งาน 1 เดือนซึ่งในการนี้ เราสามารถใช้ทฤษฏีนี้ ได้กับดาวเคราะห์ทุกดวง

จะดูแบบไหนก็ได้ เพราะบางที แบบนั้นออก แต่แบบนี้ไม่ออก แต่ถ้าแรงจริง ดูแบบไหนก็จะออกมา แบบ Confirm ทีเดียวเชียว

การดูประกบ ดวง 2 ชั้น พื้นดวง ดวงจร (จรอะไรก็ได้) จะเป็นการบอกเหตุการณ์เบื้องต้น ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  แต่จะเกิดเมื่อไหร่ ทรานสิตจะเป็นตัวตัดสิน

ในที่นี้ ถ้าดู 3 อย่าง ที่คุณบอก solar return ก็จะกลายเป็นทรานสิต ซึ่งไม่ค่อยได้ประโยชน์นัก ทั้งนี้ทั้งนั้น คือการดูจากใหญ่มาเล็ก ทีละขั้นตอน พื้นดวง ดวงจร และการประกบดวงเพื่อหาข้อยุติ

โค้งคือจุดเจ้าชะตา อันนี้ไม่เคยได้ยินค่ะ จุดเจ้าชะตา มีอยู่แล้วตามนั้น โค้ง เป็นการจรว่าตอนนี้ เดินทางไปถึงไหน

ตอบซะยาวเลย คือ ทวนความเข้าใจที่เรียนมานะค่ะ ถ้าท่านใดมีความเห็นขัดแย้ง แย้งมาเลยนะค่ะ หูตาจะได้กว้างไกลขึ้น

Patoi อธิบายได้แจ่มแจ้งครับ ท่านอาจารย์เคยสอนว่า การพยากรณ์จรให้พิจารณาจากภาพใหญ่ทั้งแนวสากลและยูเรเนียนคือโปรเกรสต์ ดวงทินวรรษ ว่าเป็นอย่างไร จากนั้นตรวจสอบจากค่าโค้งทั้ง V1 V2  ภาพออกมา confirm กันก็ล๊อคเป้าได้เลย ส่วน transit เป็นตัวกระตุ้นและกำหนดวันที่เกิดเหตุการณ์อีกทีครับ ส่วนที่ว่าโค้งคือจุดเจ้าชะตาอย่างหนึ่งก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกันครับ ผมเข้าใจว่าจขกท.หมายถึงโค้งของเจ้าชะตาที่มีอยู่แล้วและจรไปตามค่าโค้งกระมังครับ

ไม่ครับ โค้งที่ผมหมายถึงคือ โค้งปัจจัยต่างๆนั้นแหละครับ โค้ง v1 v2  ศุก โค้ง v1 v2 เสา คือว่างี้ฮะ  เช่น การที่โค้งศุก = เสากำเนิด เนี่ยเราถือว่าทำงานแล้วใช่ไหมครับ ดังนั้นจารย์ผมเลยบอกว่า โค้งจึงถือว่าเป็นจุดเจ้าชะตาอย่างหนึ่ง เพียงแค่ ทำมุมกันก็แรงแล้ว ดังนั้นผมสงสัยว่า อย่างงี้ ถ้าตั้งจาน 3 ชั้น (พื้นดวง โค้ง v1 v2 ของทุกดาว แล้วก็ ทินวรรษ) แล้วเกิดว่า ศุกจร(ของsolar return) = โค้ง v1 เสา แบบนี้ถือว่าดาวมีความแรงพอที่จะใช้ทำนายได้ยังครับ ?

อืม เดิมทีผมก็คิดว่า เออต้องแยกดูทีละชุด ไม่ควรดู 3 ชั้นพร้อมกัน ต้องดู ที่ละคู่แล้วรวมผล 

จะเอาแรงแบบไหนค่ะ แล้วแบบไหนเรียกว่าแรง ปัจจัยถึงปัจจัยยังสรุปไม่ได้ และยิ่งถ้าปัจจัยนั้นๆไม่ได้เกี่ยวข้องกันในพื้นดวง ถึงจรมาเจอกัน ก็อาจไม่มีไรเกิดขึ้น อย่าดูแค่จุดๆเดียวแล้วสรุปค่ะ ภาพรวมค่ะ เน้น

ศุกร์จรที่บอกคือทรานสิต การทำมุมกับเสาร์โค้ง มีหลายระยะ หลายมุม มันทำมุมกันเรื่อยๆแหละค่ะ  แล้วยังภาพดาวท้องฟ้าขณะนั้นอีกที่มีดาวเข้ารูปอะไรกับศุกร์จรที่คุณบอก โอย เยอะแยะตาแป๊ะไก่ค่ะ ยังงี้มันก็แรงตลอดเลยซิค่ะ

สรุปคือ จะบอกว่า โค้งปัจจัย ไม่ถือว่าเป็นจุดเจ้าชะตา? เพราะที่คุณบอกว่า ปัจจัยถึงปัจจัยไม่แรง อันนี้ผมรู้ครับ แต่ผมหมายถึง ปัจจัยจร ถึงโค้งปัจจัย

ออ อีกอย่าง ดาวเข้ารูป มันมีหลักตายตัวไหมว่า ดาวเข้ารูป (ที่จะใช้พยากร จร นั้นต้องมีจุดเจ้าชะตา ในสูตรดาวเข้ารูปนั้นเสมออะครับ

ถือว่าเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันนะ  สิ่งที่บอกเป็นสิ่งที่อิชั้นศึกษามา ผิดถูกประการใดอยู่ที่การตีความของอิชั้นเอง มิใช่ตำราผิด

ถ้าคุณเข้าใจดาวเข้ารูป คุณจะทราบว่า จะเกิดปรากฎการณ์ แบบนี้ไม่บ่อยนัก ซึ่งมีความแรงอยู่แล้ว ในระดับหนึ่ง

ถ้าดาวเข้ารูปนั้น มีปัจจัย ที่เกี่ยวข้องในพื้นดวง (พื้นดวงมี) นับ1คะแนน ดวงจรต่างๆมี(solar arc,Progress,Solar return) นับอีก1 คะแนน เข้าจุดเจ้าชะตา นับอีก1คะแนน แต่จะเกิดไม่เกิด....อย่าลืมกฎการครบวงจร และการตั้งรับของจุดเจ้าชะตาในดวง