เขาห้ามทำไมครับ ไม่เคยได้ยิน

หลักการเขามีอยู่ว่า  การเกิดนั้นมี 2 ครั้ง ระหว่างระยะฝังตัวตั้งครรภ์ ครั้ง 1 และ คลอดออกมาจากครรภ์มารดามีสภาพบุคคลครั้งหนึ่ง  การสร้างเหตุการณ์ร่วมในระหว่างอยู่ในครรภ์ 9 เดือน ( ภพ 4 ถึงภพ 12 )กับ 9 เดือนหลังคลอด ( ภพ 1 ถึงภพ 9 ) เป็นระยะสำคัญของชีวิต  ถ้ามีเหตุการณ์ที่ดีเข้าร่วมมากและมีการบำรุงสร้างฐานชีวิตให้สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจเช่นอาหารที่ดี จิตใจของมารดามีความสุขสงบ  จะเป็นแม่พิมพ์ให้ลูกนั้นสมบูรณ์พูนสุขไปตลอดชีวิต...อันนี้มีมาแต่โบราณในยุคโบราณและทุกอารยธรรมยึดถือกันมาเช่นนั้น    แต่ปัจจุบันเป็นยุคการแข่งขันบริโภคนิยม  การแพทย์เจริญขึ้น ธรรมเนียมนี้อาจจะคลายตัวลง  แต่โหรเราก็ยังใช้หลักการเดิมอยู่  ในการพิจารณาธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตทั่วๆไป 

ในกรณีนี้วิธีแก้ก็คือ ไปเยี่ยมคนเกิดแสดงความยินดี ( จะรู้จักหรือไม่รู้จักก็ไม่ต้องไปสนใจ )  สักหลายๆคนแก้เคล็ดก็ได้ โดยหลีกเลี่ยงคนป่วยหรือคนตาย  ซะ

เรื่องนี้ค่อนข้างลึกลับต้องบิดาหรือ มารดาแท้ๆเท่านั้นถึงจะทราบครับ  มีอยู่เคสหนึ่ง  ฝ่ายหญิงอายุ 40 กว่าแก่ๆแล้ว เธอคุมกำเนิดแบบใส่ห่วงอยู่  พอดีห่วงหมดอายุมาหลายเดือนเกินมาร่วมปี  วันดีคืนดี สามีเออรี่  มาอยู่บ้าน  อาจจะมีบรรยากาศอะไรบางอย่างนึกครึ้มขึ้นมา...เลย..........ฯลฯ 

ผลที่สุดป่องครับ   ทีนี้ทำไงล่ะ  สารพัดข้อมูลว่าคลอดลูกตอนแก่แล้วลูกจะปัญญาอ่อนบ้าง  ไม่แข็งแรงบ้าง  ก็แอบกระมิดกระเมี๊ยนมาถามผม  ซึ่งก็ไม่ใช่ใครพรรคพวกกันทั้งนั้น  ผมก็สอบหาเวลาจู้ฮุกกรูที่ว่านั้น  ก็เอามาทำนาย หาวันเวลาคลอดให้  ก็ผ่านฉลุย  เจ้าเด็กที่ว่านี้  มันเรียนได้ 4 ทุกวิชา ไม่เคยได้ 3 เลย  อัจฉริยะแบบโคตรๆ

ส่วนเท่าที่เรียนรู้มาเขาใช้ให้หา ชาติจุติที่แล้ว ว่า ชาติก่อนเป็นไงมาไงคับ เป็นแนวโหราอาถรรพณ์ไป

ถ้าเด็กสมบูรณ์ในช่วงตั้งครรภ์และขวบปีแรก  กระดูกข้อเท้าจะใหญ่แม้โตจะมีรูปร่างผอมก็ตาม  ดังนั้นตำราโหราหาผัวเมีย  โบราณท่านจึงให้ดูที่ข้อเท้าก่อน  ว่ามั่นคงหรือไม่  จากนั้นไปดูคางต้องไม่แหลมกระดูก  เพราะจะมั่นคงในชีวิต แก่ตัวสบาย ( จะได้ให้ผัวพึ่งพิงได้น่ะ..ไม่ใช่อะไรหรอก )