โอ้ว ว ว ว วันที่ 17 ส.ค. ที่ทำงานข้าเจ้าทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปีพอดิบพอดีเลยคับ

เอ้อ...คห.ที่2

12 ปี มากี่ทีแร้ว...จ๊ะ???

ปล.นับเวลาโลกอ่ะ

พรุ่งนี้จะเริ่ม ทานมังสะวิรัติ ตามคำแนะนำแล้วค่ะ วันนี้ ไทนแระ เจอหมูทอดของป๊ะป๋า...ไม่ทานเด๋วมีงอลล...

อันว่า พะโลมอญ นั้น เค้าไม่ใส่ผงพะโล้เลยคับ  ตามตำรามาตรฐานทานเองที่บ้านนั้น  ต้องใช่ไข่เป็ด แม้ว่าจะใช้ไข่ไก่เบอร์ 0 หรือ เบอร์ 1 ก็ได้แต่ความเหนียวหนึบกำซาบจะสู้ไข่เป็ดไม่ได้
    สิทธิการิยะ :  Ingredient :-  ใช้ไข่เป็ด 15 ใบ ( เผื่อตอนทำนั้นหอมชาวบ้านมาขอตักแบ่ง )  รากผักชี รากโตๆ สัก 10 ราก , กระเทียมแกะเปลือก สัก 3 ขีด ถ้าได้กระเทียมไทยจะหอมกว่ากระเทียมจีนแดงที่กลีบโต , พริกไทยเม็ด 1 ขีด , ซีอิ้วดำหวานตราเด็กสมบูรณ์ 3 ช้อนโต๊ะ , น้ำตาลปีบ 4 ขีด , เต้าหู้เหลือง 2 แผ่น ,หมูสามชั้นหั่น 3 ขีด ( หมูกับเต้าหู้นี้ตามอัธยาศรัย และถ้าใช้ฟองเต้าหูทอดแบบห้อยเป็นพวง แทนเต้าหู้แผ่นจะอร่อยมากกว่า )

วิธีทำ : ล้างรากผักชี ให้สะอาด หั่น , ปอกเปลือกกระเทียม , พริกไทย ผสมกันปั่นละเอียด ด้วยเครื่องปั่น ( แต่ก่อนแม่ใช้โขลก กว่าจะละเอียดต้องนานเมื่อยด้วย สมัยนี้ปั่นพรวดเดียวเสร็จ )  ต้มไข่ให้สุก โดยใส่เกลือป่นสัก 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปด้วย พอน้ำเดือดให้คนด้วยทัพพี ตลอด สัก 6 นาที แล้วหยุดคนเพื่อให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางลูก เวลาแกะจะได้ไม่แตก  ต้มไปถึง 15  นาที เทน้ำร้อนออก เอาน้ำเย็นใส่ ทิ้งไว้สักครู่ค่อยปอกไข่ พักไว้ แล้วไปหั่นหมู กับเต้าหู้ซะ ขนาดตามจริตผู้ทำ
            ตั้งกะทะจีนใบใหญ่แบบมีหูไฟอ่อนไว้ก่อน ใส่น้ำมันถั่วเหลือง ไม่ต้องเยอะมาก กะให้พอท่วมของที่ปั่นเอาไว้  แล้วก็เอามาเจียวซะ  พอเริ่มหอมฟุ้ง ใส่ไข่ + หมู ลงไป  เทซีอิ๊วดำกับ น้ำตาลปี๊บลงไป ใช้ตะหลิวตักเครื่องปรุงให้ซีอิ๊วกับน้ำตาลปี๊บละลาย ตรงนี้ต้องระวังเรื่องน้ำมันต้องพอดีไม่ให้มันลอยมากจนเกินไปจะไม่อร่อยต้องตักช้อนน้ำมันทิ้ง กะว่าน้ำตาลซีอิ๊วรัดไข่พอดีแล้ว  เทของทั้งหมดในกระทะลงในหม้อ เติมเต้าหู้ แล้วเติมน้ำสุก พอท่วมไข่ จากบบนสุดของไข่ 1 ข้อนิ้วกลาง เติมน้ำปลา ชิมรสหวานเค็มตามใจชอบ  ปิดฝาต้มจนเดือด มีเคล็ดลับต่ออีกว่า  ทำเสร็จตอนกลางวันนี้ อย่าเพิ่งกิน พอถึงตอนเย็นให้อุ่นให้น้ำพะโล้งวดให้เห็นยอดไข่ในหม้อ ไข่จะสีดำเพิ่มขึ้น .... เพราะจะทำให้เครื่องปรุงน้ำพะโล้เข้าเนื้อไข่ได้เต็มที่ มื้อเย็นพอทานได้  มื้อเช้าอุ่นทั้งหม้ออีกทีพอเดือด  อ่า...ทีนี้แหล่ะคุณเอ๊ย.....ยิ่งได้ทานกับข้าวสวยหอมมะลิที่ไม่แฉะนะ หุงพอเป็นตัวอุ่นๆ .... จะรับประทานชนิดเจริญอาหารได้แบบแหกหม้อแหกไห....อย่าเพิ่งเชื่อว่าอร่อยให้ลองทำดูคับ สูตรนี้คุณชวดผมท่านเคยเป็นข้าหลวงและเป็นวิเสสห้องเครื่องอยู่วังสุโขทัยได้มา สืบทอดกันมานานแล้ว เขาเรียกกันว่า พะโล้มอญ

เอ่อ...ป้าหญ่ายคับ ที่บอกว่าอยู่มา 12 ปี นี่หมายถึงอยู่ที่ออฟฟิศนี้นะคับ นี่ยังไม่รวมที่อื่นก่อนหน้านี้นะ ถ้าบอกไปเด๋วคนอื่นเค้าจะคำนวณอายุจิง (ที่อาจจะม่ายตรงกะอายุซาหมอง)ได้คับ

ส่วนคุณพี่หญ่าย มะต้องห่วงร๊อก ข้าเจ้าเตรียมอุปกรณ์แพคอาหารกับบ้านไว้พร้อมแล้ว ทั้งปิ่นโต กล่องพลาสติก ถุงร้อนใส่แกง และ อื่น ๆ อีกมากกมาย กะว่าจะส่งไปทางบ้านยวมสารภี กะซอยวัดจันทร์แล้วก้อบ้านป้าหญ่ายด้วย  เพราะงานนี้ข้าเจ้าเป็น Mother งานเองคับ เพราะฉะนั้นของกินเพียบ โฮะ โฮะ

แม้...กว่าจะตอบ

รอครบรอบที่12 ครั้งต่อไปก็ได้มั้ง

จ๊ะๆๆ แท๊งค์กิ้วจ๊ะ..น่าร้ากก ซะม่ะมีอ่ะ

...เห็นด้วยโตยก๊า ..น่าร้ากก ซะม่ะมี   อิอิ...

...ป.ล. กะลังเบิ่งอีเกิ้งโดนกินตับง่ะตอนนี้ !  เพิ่งเริ่มเห็นปามาน  02.40am. นาลิกาบ้านอ้าย***ล่ะก๊า ....