|
อาลัย สมัคร สุนทรเวช นายกในดวงใจ | |
พระราชทานเพลิงศพ วันนี้ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ภารต...ก็ผมชอบของผมอ่ะคับ :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-14 09:55:04 IP : 118.172.62.184 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2128293) | |
ผมเคยคุย msn กับลุง oldman เรื่องสมัครกับตำแหน่งนายกฯ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm เคยลงคะแนนให้เป็นผู้ว่ากทม. วันที่ตอบ 2010-11-15 04:06:45 IP : 192.251.226.205 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2128942) | |
นายกสมัคร สุนทรเวช กับ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในมุมมองโหราศาสตร์สากล เรื่องท่านนายกสมัครนั้นผมร่ำๆจะเขียนอยู่หลายหนแล้ว แต่พอจะลงมือเขียนแล้วติดนู่นติดนี่มีเหตุธุระให้ฟั่นเฝอเฉไฉไปเป็นอื่นตั้งหลายครั้ง และ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมานี้ ก็เป็นวันพระราชทานเพลิงศพท่านนายกสมัคร ที่เมรุหลวงวัดเทพศิรินทร์ ซึ่งก็มาอ่านเจอในรายงานข่าวของบริการโทรศัพท์มือถือก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ในฐานะที่เคยเป็นคนกรุงเทพมาก่อน อีกทั้งเคยเห็นท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กมัธยมต้น ราวพ.ศ. 2519 ซึ่งผมไปยืนรอรับน้องสาวของผมที่หน้า รร.ราชินี ปากคลองตลาด ช่วงตอนเลิกโรงเรียน เพื่อพาน้องกลับบ้านด้วยกัน ซึ่งตอนนั้น ผมก็เห็นท่านนายกสมัคร ท่านก็มารับลูกสาวของท่านซึ่งเป็นฝาแฝด และเรียนร่วมชั้นกับน้องสาวของผมบ่อยครั้ง โดยที่ตอนนั้นท่านเป็นนักการเมืองชื่อดังมีคนรู้จักมากมายแล้ว ซึ่งท่านก็มาของท่านแบบปรกติชนเหมือนผู้ปกครองคนอื่นๆทั่วไป จำได้ว่า ลูกสาวท่านนายกบรรหาร คนหนึ่งก็เรียนร่วมชั้นอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน ตอนช่วงการเมืองเดือดเลือดพล่าน สมัยพรรคประชากรไทยฟีเวอร์ ในกรุงเทพคึกคักกันมาก มีการขายเทปคำปราศรัยตามสี่แยกไฟแดง พร้อมกันนั้นพระเณรเถรเจ้าตามวัดต่างๆในกรุงเทพ ต่างก็พร้อมใจกันเป็นหัวคะแนนให้พรรคนี้กันอย่างออกหน้าออกตา เป็นที่ฮือฮาเอิกเกริก กันไปทั้งเมือง หลังการเลือกตั้งผมซึ่งตอนนั้นเริ่มพอจะรู้ความกับเขาบ้างแล้ว ยังไปรอลุ้นผลคะแนนที่ หน้าศาลาว่ากลางกรุงเทพมหานคร ที่เสาชิงช้า กับเขาด้วย เฮฮากันเป็นที่สนุกสนาน ซะเหลือเกิน โดยเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2522 ซึ่งครั้งนั้น พรรคประชากรไทยได้รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรแทบจะยกกรุงเทพ โดยได้ถึง 29 เสียงจากจำนวนทั้งหมด 32 เสียง ของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยเราได้นายกรัฐมนตรีตาหวานชอบทำแกงเขียวหวานใส่บรั่นดี ที่ชื่อ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ผลงานของท่านนายกสมัครนั้น มีมากมายเกินกว่าที่ผมจะเขียนบรรยายแต่ที่เห็นๆและนึกได้เสมอสำหรับตัวผมเองก็คือ ข้าวสารถุงพลาสติกถุงละ 5 กิโลกรัม นี่แหล่ะ เพราะจำได้ว่าสมัยก่อนคนไทยซื้อข้าวสารกันเป็นถัง กี่ถังต่อครัวเรือนก็ว่ากันไป ต่อมาคนไทยกินข้าวแพงเพราะพ่อค้านำไปส่งออกได้ราคาดีกว่า จึงมีการกักตุนข้าวสารกันมากมายถึงขั้นขาดแคลนต้องใช้ทะเบียนบ้านซื้อข้าวสารตามโควตาให้เป็นที่เดือดร้อนวุ่นวายอยู่ช่วงหนึ่ง ตอนนั้นมีข้างสารประชากรไทยถุงละ 5 กิโลกรัมออกมาขาย วางขายกันทั่วไป มีแม้กระทั่งในร้านทำผมของผู้หญิง ชนิดซื้อง่ายขายคล่อง แก้ปัญหาการขาดแคลนข้าวสารและช่วยให้ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในการจ่ายเงินซื้อข้าวสารบริโภคเป็นถังได้อย่างชะงัดกันทีเดียว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพฤติกรรมการขายข้าวสารของคนกรุงเทพก็เปลี่ยนไปเลย จากซื้อเป็นถังกลายเป็นซื้อเป็นถุงแทน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ทะยอยเขียนไปเรื่อยๆ วันที่ตอบ 2010-11-16 20:39:28 IP : 118.172.3.127 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 360855 |