|
จตุคามรามเทพ...กับโหราศาสตร์?? | |
จตุ-เทวฤทธิ์รักษ์ บรมธาตุ คาม-วาสีศาสน์ สถิตย์สถาน ราม-ลักษณ์-ขัตตุราช สุมนญาณ เทพ-สี่ประจำทวารบาล อยู่เหย้า เมืองนคร | |
ผู้ตั้งกระทู้ ภารต :: วันที่ลงประกาศ 2007-08-03 22:40:36 IP : 203.151.240.178 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (728716) | |
เฝ้าพระธาตุนานร่วมแปด ร้อยปี บังเกิดในทศวรรษนี้ แรงเหลือ สร้างเสริมเพิ่มบารมี บำรุงศาสน์ อาถรรพณ์ท่านน่าเชื่อ ชนทุ่ม บูชา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-03 22:44:53 IP : 203.151.240.178 |
ความคิดเห็นที่ 2 (728811) | |
จานค่ะ...ในดวงจะมีอะไรบอกหรือเปล่าเกี่ยวกับการเกี่ยวข้อง ในเรื่องจตุคาม ตอนนี้มีงานจตุคามตลอดเวลาตั้งแต่อิชั้นไม่รู้จัก จนตอนนี้แทบจะจำรุ่นจำชือได้แล้ว...ทำให้แทบทุกวัด เยอะมากเลยค่ะ เด็กที่ทำงานก้อบูชากัน แต่ครอบครัวอิชั้นไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย,,,มันจะเหมือนไปหลบหลู่มั๊ยค่ะ เห็นใครเค้าบอกว่าท่านมีอานุภาพด้านการค้าขาย แต่จริงๆท่านเป็นเทพเฝ้าทิศเฝ้าประตูเมืองไม่ใช่รึค่ะ...ต้องขออภัยจริงๆค่ะไม่มีความรู้ด้านนี้เลย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-04 01:11:46 IP : 58.9.183.94 |
ความคิดเห็นที่ 3 (728857) | |
เรื่องนี้อธิบายได้หลายด้านหลายมุม เป็นปรากฎการณ์ร่วมสมัยที่สำคัญในช่วงระยะเวลานี้เรียกว่าเป็นเรื่องสำคัญตอนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ประเทศไทยทีเดียวครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 07:57:56 IP : 203.154.52.122 |
ความคิดเห็นที่ 4 (728864) | |
ในแง่โหราศาสตร์อย่าลืมว่าดั้งเดิมนั้นพิมพ์ท้าวจตุคามรามเทพ...สร้างจากผงสุริยัน-จันทรา..และพระปิดตาพังพกาฬ..รวมถึงหมู่ดาวฤกษ์ทั้ง 27 ฤกษ์...ในทางโหราอาถรรพณ์ศาสตร์แปลความหมายอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากเป็นสัญญลักษณ์ของ ราหู เท่านั้น....ดังนั้นขอสรุปตรงนี้ก่อนเลยว่าตามความเห็นของผม...การห้อยจตุคามรามเทพก็คือการบูชาเทพราหู...ในอีกรูปแบบหนึ่ง....ดังนั้นประเด็นทางโหราศาสตร์นี้จึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับจตุคามรามเทพได้...ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับทัศนะทางโหราศาสตร์แล้วล่ะว่า...เรื่องมันจะเป็นอย่างไรมาอย่างไรและใช้อย่างไร(ถ้มีจะใช้)ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในแนวโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน..โดยที่ไม่ขัดกับโหราศาสตร์สายอื่นด้วย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 08:14:07 IP : 203.154.52.122 |
ความคิดเห็นที่ 5 (728869) | |
แม้ว่าจะอธิบายตามแนวโหราศาสตร์แต่ก็ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับศาสตร์ในแขนงอื่นด้วยเช่น ประวัติศาสตร์ เทวศาสตร์ พิธีกรรม พุทธศาสนา และไสยศาสตร์แนวการทรงเจ้า รวมไปถึงแนวสังคมวิทยา เรื่องอุปาทานหมู่ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 08:18:04 IP : 203.154.52.122 |
ความคิดเห็นที่ 6 (728901) | |
ในทางประวัติศาสตร์ มีหลายกระแส แต่ถ้าจับตรงลงไปที่องค์พระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช..พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงษ์...ได้เข้ามายังนครศรีธรรมราชก่อนสุโขทัยแน่ เพราะพ่อขุนรามคำแหงยังอัญเชิญปู่ครูมายังกรุงสุโขทัย.เพื่อมาประดิษฐานพระพุทธศาสนาเถรวาท อย่างน้อยต้องเกิน พ.ศ. 1826 นับถึงปัจจุบัน 2550 ต้องเกิน 800 ปีขึ้นไป เพราะตอนนั้นศูนย์กลางพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงษ์คงมั่นคงแล้วที่นครศรีธรรมราช....ในตำนานคัมภีร์รัตนพิมพวงศ์ ซึ่งเป็นตำนานประวัติพระพุทธศาสนาในลานนาประเทศสมัยนั้น...ซึ่งพระเถระในอาณาจักรล้านนาได้นิพนธ์เอาไว้เป็นภาษาบาลี ..ที่ตกทอดต้นฉบับมาถึงสมัยนี้...กล่าวถึงพระร่วงกรุงสุโขทัยทรงมีพระราชสาส์นมาถึงเจ้าเมืองนครว่าอยากจะได้พระพุทธสิงหิงห์....ทางสยามจะยกทัพไปตีเอาเมืองสิงหลได้หรือไม่...ซึ่งพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชหรือเจ้าเมืองนครฯ...ท่านทรงตอบว่า คงจะยากเพราะตามตำนานนั้น ....เกาะสิงหลหรือลังกา..มีเทวดาอารักษ์รักษาปกปักเมืองอยู่ครบ 4 ทิศ อันได้แก่ ...พระราม...พระลักษณ์ (มาจากรามายณหรือรามเกียรติ)...พระขัตตุคาม ( มาจากศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู...เป็นเทพเจ้าแห่งการสงครามซึ่งเป็นบุตรของพระแม่อุมากับพระศิวะ..เป็นพี่น้องร่วมท้องของพระพิฆเณศวรที่มีเศียรเป็นช้าง..เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปกรรม)...ซึ่งมีพระนามอีก 2อย่างที่รู้จักกันในเมืองไทยคือ พระขันธกุมาร หรือพระสกัณธ์.....ส่วนอีกองค์หนึ่งคือ พระสุมนซึ่งเป็นเทวดาที่รักษายอดเขาสุมนกูฏซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาท ซึ่งนับถือกันว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับลอยไว้ที่ยอดเขานี้.....เทพอารักษ์ทั้ง 4 องค์นี้ เลยนับถือกันในเกาะลังกา...เช่นเดียวกับ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬไชยศรี พระเจตคุปต์ ....ของเมืองไทยเราปัจจุบันนี้...ดังนั้นองค์ท้าวจตุคามจึงมีที่มาที่ไปทางประวัติศาสตร์พอสมควร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 08:45:09 IP : 203.154.52.122 |
ความคิดเห็นที่ 7 (728906) | |
มีการสร้างทรารบาลแกะสลักในทิศทั้ง 4 ของทางขึ้นพระบรมธาตุมาแต่สมัยแรกสร้างตามคติความเชื่อนี้....เมื่อเวลาผ่านไป พระรูปอาจจะมีการทรุดโทรมไปเนื่องจากเหตุหลายอย่างเช่นภัยสงคราม...ก็เลยเสียหายไป 2 รูป ได้แก่รูปท้าวขัตตุคาม และท้าวรามเทพ...เมื่อมีการบูรณองค์พระธาตุขึ้นใหม่ในสมัยนั้นจึงทำทางขึ้นทางเดียว....และปั้นรูปท้าวขัตตุคามและท้าวรามเทพ..เป็นปูนปั้นเฝ้าบันไดทางขึ้นแทนการแกะสลักรูปไม้อย่างเดิมซึ่งรูปไม้นั้น...เป็นรูปท้าวสุมน กับท้าวลักษณ์ปรากฎอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 08:56:24 IP : 203.154.52.122 |
ความคิดเห็นที่ 8 (728988) | |
ขอบพระคุณค่ะ...แล้วเคยมีคนบอกว่า ตอนนี้นะค่ะ การปลุกเสกท้าวจตุคาม ต้องทำแต่ในน้ำ เช่น ทำพิธีกันกลางมหาสมุทร หรือ ท้องฟ้า จึงจะทรงศักดานุภาพมาก จริงเหรอค่ะ ท่านมีอิทธิฤทธิ์ด้านไหนกันค่ะ เห็นบางที เอาเรื่องเหนียว อาวุธไม่ระคายผิวมาประชาสัมพันธ์ แต่เท่าที่เห็นคนที่เกี่ยวข้องรวยเป็นแถวๆ ตอนช่วงเดือนที่บ้านเมืองแย่ๆ งานที่อิชั้นทำหยุดชะงัก ลูกค้าน้อยลงมาก แต่กลับมีงานจตุคามมากมายทำกันไม่หวัดไม่ไหว ในขณะที่โรงพิมพ์อื่นๆเดี้ยงไปตามๆกัน ตอนแรกค่อนข้างแอนตี้ เพราะดูเหมือนงมงาย แต่เคยมีคนงานพูดว่า "พี่อย่าแอนตี้เลย ถ้าไม่มีจตุคาม โรงงานเราก้อไม่มีงานทำนะ"....จริงแฮะ! แต่ปัจจุบันก้อยังเฉยๆอยู่ ไม่ได้บูชาอะไร แต่เลิกอคติแล้ว....เกี่ยวกับโหราศาสตร์ยังงัยค่ะ..องค์จตุคามแทนดาวราหูเหรอ อิชั้นราหูกุมลัคน์ เกี่ยวมั๊ยค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-04 12:19:24 IP : 125.24.57.100 |
ความคิดเห็นที่ 9 (729053) | |
อันนี้เป็นเรื่องไสยศาสตร์และการทรงเจ้า....จากข้อมูลที่ผมวิเคราะห์เอาเอง....รู้สึกว่า...คนทรงจะอ่อนประวัติศาสตร์มากทีเดียว...มีการจับแพะชนแกะตำนานต่างๆ...เอามารวมเป็นเล่มเดียวกัน....เริ่มตั้งแต่เอาคำพูดที่พวกเซียนพระเครื่องมักจะพูดถึงจารึกลานทองของพระซุ้มกอของกรุทุ่งเศรษฐีจังหวัดกำแพงเพชร...ที่จารึกโดยพระมหาเถรปิยทัสสีสารีบุตร...ที่ว่ากันว่ามีข้อความตอนหนึ่งเขียนจารึกไว้ว่า....มึงมีกูไว้ไม่จน...ซึ่งทำให้พระเครื่องกรุซุ้มกอทุ่งเศรษฐีนี้โด่งดังเป็นหนึ่งในเบญจภาคี...เมื่อปัจจุบันนี้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ...คำพูดประโยคนี้จึงถูกใจมหาชนเป็นอันมาก..และเนื่องจากพระกรุทุ่งเศรษฐีมีจำกัดมาก..ทีนี้มีความเชื่อผกผันมาสู่...จากโบราณวัตถุมาสู่อุตสาหกรรมที่เน้นเฉพาะพิธีกรรมการปลุกเศกและเอาปริมาณพระที่เข้าร่วมพิธีอีกทั้งความเชื่อเรื่องมวลสารอาถรรพณ์ต่างๆเข้ามาประกอบ.....จึงเหมาะสำหรับยุคปัจจุบันโดยเอาของเก่าตำนานเดิมมาหากินให้ถูกช่องทางทางการตลาด...เหมือนกับวัดใหญ่แห่งหนึ่งที่แต่เดิมต้องการหาเงินมาเอาสายไฟในวัดที่เดินระเกะระกะไม่เป้นระเบียบให้ลงใต้ดินโดยเอาตำนานเดิมของวัดมาออกทำพระชนิดหนึ่ง...พอดังขึ้นมาการตลาดถูกช่องมีมวลชนรองรับ.เงินไหลทะลัก...จนป่านนี้ยังออกไม่หมดรุ่นมองดูเหมือนแสนโลภยิ่งกว่าชาวบ้านเขาวะอีก...ทะเลาะสาวไส้กันเองจนชาวบ้านเขาเบือนหนี....อีกเรื่องหนึ่งก็คือ..ต้องปลุกเศกกลางทะเลก็เพราะเอาตำนานเรื่องพระนารายณ์หรือพระอุปคุตที่ประทับอยู่ใต้สะดือทะเลเอามาผนวกเพราะมีอนุสาวรีย์อยู่ที่หน้าองค์พระธาตุอีกชุดหนึ่งว่ามีชาวอินเดียมาขึ้นฝั่งที่นี่สร้างเมืองนคร...ซึ่งก็เย็บเล่มผิดอีกเพราะเรื่องนี้เก่าแก่กว่าเป็นรุ่นอาณาจักรตามพรลิงค์หรือราชวงศ์ไศเรนทร์เป็นศาสนาพุทธมหายานรุ่นอาณาจักรศรีวิชัย..พศ.1200-1700 เลยย้อนขึ้นไปร่วมพันปี....ที่จริงอ่าวไทยเราตื้นมาก...ถ้าเป็นจริงดังที่พูดต้องไปนู่นไปปลุกเศกที่แถวฟิลิปปินส์ในเรือดำน้ำก้นมหาสมุทรโน่น..ลึก 5หรือ6 กิโลเมตร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..เล่าตามความเห็น วันที่ตอบ 2007-08-04 13:43:51 IP : 203.151.240.130 |
ความคิดเห็นที่ 10 (729071) | |
อ. ภารต แน่น(ประวัติศาสตร์)จริงๆ ฮิฮิ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น beginner วันที่ตอบ 2007-08-04 14:00:00 IP : 138.48.209.202 |
ความคิดเห็นที่ 11 (729088) | |
อ.ภารต ครับ OldMan เคยวิเคราะห์ เรื่องนี้ หลายเดือนแล้ว บางท่านอาจจะเคยผ่านตามาบ้าง แต่ถ้ายัง Copy มาให้อ่าน เพื่อสนับสนุนกระทู้นี้ อีกความเห็นหนึ่งครับ ในกระแสของเหรียญวัตถุมงคลที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวผู้คนในยุคนี้ ไม่มีสิ่งใดดังเทียบเท่าเหรียญจตุคามรามเทพ มีการสร้างรุ่นต่าง ๆ มากมายหลายจังหวัด ทั่วประเทศ แนวคิด มุมมองในแง่โหราศาสตร์ ในดวงอายันตสงกรานต์ปีนี้ น่าจะมีสูตรดาวบอกความหมายในแง่ของเงื่อนไขชะตากรรมของประเทศ ทำไมผู้จึงแตกตื่นไขว่คว้าหามาบูชา เพื่อความเป็นศิริมงคลกับตัว ลองมาศึกษา ความน่าจะเป็นจาก สูตรดาว เช่นเคย ไม่มีสูตรใดในพระคัมภีร์ วิเคราะห์ การสร้างเหรียญต่างๆ น่าจะประยุกต์กันได้กับ สูตร ศาสตร์ลึกลับ ไสยศาสตร์ คือ ฮาเดส/อาพอลลอน คำแปลสูตรเดิม ฮาเดส+อาพอลลอน (การขาดประสบการณ์ ความยากจนอย่างกว้างขวาง ความทุกข์ยาก ในหมู่ชน การค้าเศษขยะ หรือของที่ทิ้งแล้ว ความรู้เกี่ยวกับอดีต ประวัติศาสตร์ ศาสตร์ลึกลับ, ไสยศาสตร์) และ ฮด/อพ ดวงสงกรานต์ 25 สห 35 น่าสนใจ ทำมุมกับปัจจัยโดด ลัคนา ประเทศไทยในดวงอายันตสงกรานต์ เสาร์ (ความจำกัด, เหนี่ยวรั้ง, ทำให้หยุด, การพลัดพราก การสูญเสีย) เซอุส (การอำนวยการ ทิศทาง, อำนาจที่ต้านทานไม่ได้) โพไซดอน (วิญญาณ แนวความคิด) -ราหู (สะท้อน /การติดต่อโดยทั่วๆ ไป) เกิดสูตร..... ฮาเดส+อาพอลลอน-ลัคนา (ผู้อื่นตกอยู่ในภาวะยากจนอย่างใหญ่หลวง ประสบความทุกข์ยากของ หมู่ชนในสิ่งแวดล้อมนั้น ผู้อื่นพากันกลับไปสนใจในอดีต, ปัดไปให้อดีตเป็นตัวการในความทุกข์ยากนั้น เจ้าชะตา ถูกผู้อื่นทำให้สนใจในสิ่งที่เกิดในอดีตที่ไม่น่าชื่นชม) ฮาเดส+อาพอลลอน-เสาร์ (การเริ่มต้นหรือการจบสิ้นของความทุกข์ยากอันใหญ่หลวงของหมู่ชน ความทุกข์ยากของผู้ลี้ภัย เงินเฟ้อ, การยากจนลง ความสิ้นหวังอย่างใหญ่หลวง การล้มละลาย อัตวินิบาตกรรม) ฮาเดส+อาพอลลอน-เซอุส (ความทุกข์ยากในหมู่ชนที่เกิดจากความเกลียดชังอย่างศัตรู การ ทำลายอย่างกว้างขวาง งานสร้างสรรค์ในด้านประวัติศาสตร์) ฮาเดส+อาพอลลอน-โพไซดอน(ฉันพี่ฉันน้อง ติดต่อกับผู้มีจิตใจตรงกันทางสังคมหรือการเมือง ปรัชญา ชีวิตตรงกัน ฐานะทางสังคม พบผู้นิยมและผู้มีจิตใจตรงกันในวิทยาการอย่างหนึ่ง) เมษ+โพไซดอน(ปัญญา แนวความคิด วิญญาณ) เมอริเดียน+โครโนส (มีอิสระเสรี มีความสามารถในบางสิ่งบางอย่าง สิทธิอำนาจ) พุธ+เนปจูน (ญาณสังหรณ์ ความเพ้อฝัน ความคิดฝัน ความคลุมเครือ ความไม่แน่นอน ความสับสน ความหลอกลวง) พฤหัส+เซอุส (การสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จ กิจกรรมที่ก่อให้เกิดโชค) โครโนส+แอดเมตอส (ความเป็นอยู่พิเศษ สูตรพื้นฐานสำหรับบุคคลพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง ความแตกต่าง การโค่นล้มของผู้สำเร็จราชการหรือของรัฐบาล ความแตกต่างในทางความสูง ภูเขา, เทือกเขา) ฮาเดส+อาพอลลอน-ราหู (ร่วมประสบการหยุดชะงักของธุรกิจ, การตกต่ำของเศรษฐกิจ เป็นผู้ร่วม รู้เห็นในสิ่งที่ซ่อนอยู่ มีการเกี่ยวข้องกับศาสตร์ทางโบราณคดี หรือประวัติศาสตร์) พลูโต+อาพอลลอน(...เริ่มต้นเล็กๆ และใหญ่โตขึ้น การขยายตัวของธุรกิจ ...เจริญเติบโตทุกทิศ ทุกทาง การซ้ำ) พลูโต+วัลคานุส(การเปลี่ยนรูปหรือการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง การเปลี่ยนรูปที่ไปอย่างรวดเร็วมาก พัฒนาการที่ไม่มั่นคงหรือเกินตัว...) คิวปิโด+โพไซดอน(หมู่คณะหรือกลุ่มลัทธิทางปัญญา, ศาสนา, ปรัชญาชีวิต) ฮาเดส+วัลคานุส (...ฆาตกรรม ) // สูตรดาวจากการตั้งเงื่อนไข อาเดส/อพอลลอน จะหมายถึง องค์จตุคามรามเทพ หรือไม่ ไม่อาจชี้ชัดได้ แต่จากดวงสงกรานต์ ปีนี้ บ่งบอดชัดเจนถึงความเชื่อใน ศาสตร์ลึกลับ ไสยศาสตร์ กับผู้คนในประเทศนี้ การสร้างในหลากหลายรุ่นหลายจังหวัด (พล/อพ) จะเห็นว่าโครงสร้างมีทั้งดีและร้าย ดังที่เป็นข่าวแทบทุกวัน ในแง่กรรมดี ผู้ที่ที่ยึดถือพิธีกรรมที่ไม่ละทิ้งหลักการทางศาสนา ตามแนวทางหลักการบูชาองค์จตุคามรามเทพ เทวารักษาบ้านเมือง ที่ถูกต้อง ซึ่งแผ่ขยายไปทั่วประเทศ นำไปสู่สูตรดาว พฤหัส+เซอุส (การสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จ กิจกรรมที่ก่อให้เกิดโชค) เชื่อว่าเป็นการร่วมกันสร้างกรรมดีอย่างหนึ่ง ที่จะลบล้างสภาวะอึมครึม การแตกแยกทางความคิดด้านการเมืองของประเทศโดยรวม ให้บ้านเมืองฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ // | |
ผู้แสดงความคิดเห็น OldMan วันที่ตอบ 2007-08-04 14:38:42 IP : 125.25.32.102 |
ความคิดเห็นที่ 12 (729106) | |
อู้หู.....ความรู้เพียบ ขอบคุณค่ะ แล้วตกลง การบูชาที่ถูกต้องควรทำอย่างไรค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-04 15:25:21 IP : 58.9.200.173 |
ความคิดเห็นที่ 13 (729167) | |
อีกประการหนึ่งที่คิดว่า...แหล่ลงข้อมูลจากการเข้าทรงอ่อนประวัติศาสตร์ก็คือ เทวดาที่เป็นทวารบาลปูนปั้น มีอยู่ 2 องค์คือ ท้าวขัตตุคาม กับ ท้าวรามเทพนั้น ที่มีป้ายบอกชื่อเอาไว้ในปัจจุบัน ส่วนท้าวสุมน กับท้าวลักษณ์เทพนั้นไม่มีชื่อสาบสูญไปนานแล้ว...ดังนั้น...ก็เลยเอาเฉพาะชื่อของทั้ง 2 องค์ดังกล่าวเข้ามาผนวกกัน...ซึ่งน่าจะเป็น ท้าวขัตตุคามรามเทพ...ตามหลักภาษาศาสตร์....แต่คนไทยนั้นยิ่งเชื่อโชคลางมาก...ชื่ออะไรที่มีการออกเสียงว่าขัดๆคงจะไม่เวิร์คแน่...ดังนั้นเพื่อให้ฟังดูดี...จึงนำคำว่า จัตตุ ซึ่งแปลว่า สี่ เขามาใส่แทน ขัตตุ ...โดยอีก 2 องค์นั้นดั้งเดิมคงไม่รู้ชื่อ นับแต่นั้นจึงเป็นการเรียกรวมว่า...องค์ท้าวจตุคามรามเทพ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต....ค่อยๆอธิบายไป..ใจเย็นๆจ้า วันที่ตอบ 2007-08-04 17:37:01 IP : 203.154.79.140 |
ความคิดเห็นที่ 14 (729175) | |
อ้อ... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-04 17:47:44 IP : 58.9.200.173 |
ความคิดเห็นที่ 15 (729306) | |
ขอพระคุณท่านOldMan มากครับที่ช่วยเข้ามาร่วมวงด้วยในประเด็นนี้ครับ..... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-04 21:20:48 IP : 203.151.241.53 |
ความคิดเห็นที่ 16 (729529) | |
ตอนนี้ เค้าเอาไสยศาสตร์และวิทยาศาสตร์มารวมกันแล้วคะ แถมประธานในพิธีเป็น รมว. กระทรวงศึกษาฯ อีก ที่นี่ประเทศไทย จริงๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น beginner วันที่ตอบ 2007-08-05 01:28:52 IP : 138.48.209.202 |
ความคิดเห็นที่ 17 (729688) | |
...รุ่นต้มพระคับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ต้องรุ่นนี้คับ วันที่ตอบ 2007-08-05 11:54:19 IP : 203.150.194.34 |
ความคิดเห็นที่ 18 (729690) | |
จานขา...หวาดเสียว ถนอมตัวด้วยค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi...อันตรายหนา วันที่ตอบ 2007-08-05 12:00:24 IP : 125.24.44.57 |
ความคิดเห็นที่ 19 (729694) | |
เดี๋ยวเกิดมีคนสั่งจองขึ้นมา จานมีมวลสารแล้วยังค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi...margetshare วันที่ตอบ 2007-08-05 12:05:05 IP : 125.24.44.57 |
ความคิดเห็นที่ 20 (729695) | |
ไสยะพามืดมิด ไม่เห็น มันก็เลยเป็นไป เช่นนี้ ทั้งครูพระชาวบ้าน รัฐมนตรี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...งงกับปรากฎการณ์ทางสังคม วันที่ตอบ 2007-08-05 12:06:45 IP : 203.150.194.34 |
ความคิดเห็นที่ 21 (729696) | |
อืมม์...น่านซิ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi......??? วันที่ตอบ 2007-08-05 12:09:07 IP : 125.24.44.57 |
ความคิดเห็นที่ 22 (729700) | |
บ้างก็ว่าผมแอนตี้ ไสยศาสตร์ บ้างก็ว่าทำบังอาจ ล้อพระ บ้างก็ว่าโหราศาสตร์ ไม่แตก เฮ้อ!คงไม่รู้อะไรสินะ บ้าบ้า บอบอ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ชินแล้ว..ไม่รู้อะไรสักอย่าง วันที่ตอบ 2007-08-05 12:17:15 IP : 203.150.194.34 |
ความคิดเห็นที่ 23 (729703) | |
คนรู้จริงเค้าไม่โม้เค้าไม่เบ่ง พวกนักเลงเค้าตั้งรับพร้อมขับสู้ คนไม่จริงคนไม่เจ๋งอวดเก่งจัง อยากจะดังอยากจะเด่นเป็นเข้าไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi...เก่งกว่าจานเดี๋ยนก้อไม่เอา วันที่ตอบ 2007-08-05 12:25:52 IP : 125.24.44.57 |
ความคิดเห็นที่ 24 (729876) | |
แน่จริงต้องน้ำแท้ ต้มเดือด น้ำมันพร้าวนั้นจุดเดือด มันช้า ที่เห็นว่าข้างบนเดือด ล่างอุ่น มะนาวกรดปุดปุดซ่า เคยเห็น เล่นกล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-05 18:42:32 IP : 203.150.138.241 |
ความคิดเห็นที่ 25 (729878) | |
ต้มพระไม่เท่าไร ขอแต่ อย่าต้มชาวบ้านละกัน >:( | |
ผู้แสดงความคิดเห็น beginner วันที่ตอบ 2007-08-05 18:48:53 IP : 138.48.209.202 |
ความคิดเห็นที่ 26 (729893) | |
น้ำแท้...ก้อกลายเป็นรุ่น ดาวพระศุกร์ ซิค่ะจาน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-05 19:23:18 IP : 125.24.44.57 |
ความคิดเห็นที่ 27 (731215) | |
ทีนี้ต้องมาดูเรื่องพิธีกรรม...แน่อนต้องทำพิธีปลุกกันที่วัดพระบรมธาตุนั่นแหละ...แรกเริ่มนั้นคงเป็นการจัดสร้างเสาหลักเมืองของนครศรีธรรมราชองค์ใหม่ขึ้น เอาผงไม้ที่เหลือจากเสาที่สร้างมาผสม เป็นมวลสารหลักตรงนี้แหละที่มวลสารอาถรรพณ์เข้ามามีบทบาทในการจัดสร้างรูปปฏิมากรรมองค์ท้าวจตุคามและองค์รูปพระปิดตาพังพะกาฬซึ่งเป็นรูปพระโบราณในท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมากของเมืองนครเอง เช่นเดียวกับ พระนางตรา และพระกรุท่าเรือ ทั้ง 3 นี้เป็นพระกรุเมืองใต้ที่ขึ้นชื่อลือชาในด้านคงกระพันชาตรี นับถือกันมาแต่นมนาน ในการสร้างแนวโบราณนั้นสันนิฐานว่า มาจากการที่นิยมการสืบทอดพระพุทธศาสนาจึงมีการสร้างปฏิมากรรมพระพิมพ์ บ้างเป็นเนื้อดินดิบ บ้างเป็นเนือ้โลหะ ผสม การสร้างพระรุ่นนี้น่าจะเป็นการที่นำเถ้ากระดูกของพระที่มีผู้นับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาผสมมวลสารสร้างเป็นองค์พระขึ้นไว้บรรจุในเจดีย์เพราะเป็นดินดิบไม่ผ่านการเผา เนื่องจากไม่นิยมการเผาซ้ำเพราะถือว่าเถ้ากระดูกเคยผ่านการเผามาแล้ว นอกจากนี้การสร้างฤกษ์ในท้องฟ้าทั้ง 27 ฤกษ์ ก็เป็นการดึงเอาโหราศาสตร์เข้ามาร่วมในเรื่องนี้ด้วย ดังนั้นสรุปได้ว่าเดิมที ช่วงต้น ไม่ว่าผงสุริยันจันทราเอย ปิดตาพังพะกาฬเอย หมู่ฤกษ์เอย รวมทั้งรูปท้าวจตุคามเอย เป็นการลงตัวทั้งวิธีการและพิธีกรรม.และเจตนาในการสร้าง..ทำให้พวกรุ่นแรกๆมีความขลังอลังการ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต....ว่าไปเรื่อยๆ วันที่ตอบ 2007-08-07 08:18:21 IP : 203.150.139.131 |
ความคิดเห็นที่ 28 (731394) | |
แล้วรุ่นหลังๆ จะทราบได้งัยค่ะว่าขลังไม่ขลังเนี่ย...รุ่นแรกๆ คงหายากแล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi วันที่ตอบ 2007-08-07 12:19:29 IP : 125.24.62.133 |
ความคิดเห็นที่ 29 (731750) | |
นั่นสิ..ตอนโน้นเขาสร้างเพื่อ คนนำไปใช้....แต่รุ่นหลังนี้ สร้างเพื่อ..คนผลิตหรือคนขาย....สังเกตดูได้จากพิธีกรรม...ดูจากวิธีโหราศาสตร์นั้น...จุดปลุกเสก..ปีหนึ่งๆมีไม่กี่ครั้งเท่านั้น....อะไรก็ตามที่จะเข้มขลังมลังเมลืองนั้น...ฟ้าต้องเปิดก่อน..แต่ก่อนพ่อขุนพันธ์..ท่านทราบ..วันเวลาที่ปลุกพิ๊กรรมและมวลสารรวมไปถึงเจตนาสร้างนั้นบริสุทธิ์....จึงแรงเข้มขลัง...ผมเคยไปรอท่านพ่อขุนพันธ์อาบน้ำ...ไปยืนรอหน้าห้องน้ำเลยบ้านแถว ถนนคลัง เมืองนคร...ได้ยินท่านว่าบริกรรมคาถาเสกดังๆร่วม 20 นาทีกว่าขันแรกจะรดซู่..ฟังแล้วยังขนรุกเลยล่ะ....เดี๋ยวนี้รุ่นสร้างทีหลังมีคิวจองปลุกกันทุกวัน...บางรุ่นก็ได้ฤกษ์แต่บางรุ่นที่ไม่ตรงล่ะ?....นอกจากนี้เดี๋ยวนี้เขาเอาเคล็ดใช้ดาราค้างฟ้า...เช่น ป๋าแอ๊ด สมบัติ เมทะนี ..ซึ่งก็โอเค เป็นดาวศุกร์/เมษ...แต่คนอื่นที่ไม่ใช่ล่ะก็มีถมไป...ยิ่งเอาผู้หญิงมากดกันในพิธี...ก็สมัยก่อนเขาถืออาถรรพณ์พวกนี้เคร่งครัดกันจะตาย...แค่เฉียดกรายยังไม่ได้เลย อย่าว่าแต่เข้าร่วมพิธี...อีกทั้งพฤติกรรมของคนที่เป็นประธานด้วย..บางท่านก็รู้ๆกันอยู่...ว่าด้วยแนวดารานะครับ...แต่ทั้งนี้นั้น..การเอาศุกร์/เมษ มาก็ทำให้แปลได้ว่าเจตนาต้องการให้ดังให้คนรู้จักรุ่นนี้...ซึ่งมีแฝงไปในทางพาณิชย์ของนายทุนคนขายมิใช่..ผู้ใช้...มีผลในทางปั่นราคาความนิยมเท่านั้นเอง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2007-08-07 18:08:55 IP : 203.154.81.121 |
ความคิดเห็นที่ 30 (731781) | |
ว่าแล้วก้อคงไม่พ้น วัตถุบูชาแนวพาณิชย์ แล้วแต่จะประชาสัมพันธ์กันแบบไหน จะยึดหลักศาสนา ก้อ...ไม่รู้ซิ ที่โรงงาน บางครั้ง มีหลวงพี่ หลวงพ่อ หลวงลุง เข้ามาคุมงานกันเอง นั่งเฝ้าหน้าเครื่องคอมฯ ทำแบบ เคลียร์ตังค์ (ไม่ได้นินทาเพศบรรพชิตน่ะค่ะ)เฮ้อ ...ญาติโยม ไปไหนโหมด ปล่อยพระปล่อยเจ้ามาทรมาน...อิชั้นงงเจ้าค่ะ จะหาอะไรมาถวายก้อไม่กล้า...ตะวันตกดินแล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi....ก้อ..ลูกค้าอ่ะ วันที่ตอบ 2007-08-07 18:52:33 IP : 58.9.194.33 |
ความคิดเห็นที่ 31 (731789) | |
เรื่องจตุคามยังมีอีกเยอะ...ว่าสนุกแล้วนะ....เรื่องพระกริ่ง..นี่อีก..ผมมีข้อมูลอีกเพียบ....กล้าพูดได้ว่าเรื่องพระกริ่งเนี่ย..ข้อมูลผมไม่เป็นรองใครในปฐพีทีเดียว...ว่าเฉพาะเรื่องกริ่งโบราณเท่านั้นนะคับ..ไม่ใช่กริ่งใหม่โรงงาน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..ขอคุยเบ่งมั่งสิ วันที่ตอบ 2007-08-07 19:06:57 IP : 203.154.81.121 |
ความคิดเห็นที่ 32 (731795) | |
ส่วนเรื่องจตุคามฯนั้น...ผมไม่ได้คัดง้างนะครับเพียงแต่อยากจะคุยเรื่องแก่นแท้เป็นมาอย่างไรต่างหากและจะใช้อย่างไรให้ประโยชน์สูงสุด..ตามแนวโหราอาถรรพณ์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..ไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝง วันที่ตอบ 2007-08-07 19:10:17 IP : 203.154.81.121 |
ความคิดเห็นที่ 33 (731833) | |
คืออะไร ค่ะ พระกริ่ง ที่ข้างในองค์มีเสียงกรุกกริ๊ก รึเปล่า....ว่ามาเลยค่ะจาน อยากรู้เหมือนกัน....จตุคาม จบก้อได้...ยิ่งพูดมากไปเสียวไส้ค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น patoi...คุ้นๆเหมือนเคยมีคนบอก วันที่ตอบ 2007-08-07 19:50:06 IP : 58.9.183.145 |
ความคิดเห็นที่ 34 (2107855) | |
lv handbag lv louis vuitton handbag fashionable handbags.In the end louis vuitton handbag Gucci Hysteria series LV chanel replica chanel bags. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น aaryn (fiona-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 11:39:21 IP : 125.126.157.28 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 361034 |