ในการปฏิบัติจริง  ถ้าหวยออกแล้ว  มาแกะที่เรือนชะตาสนธิ  มันก็เห็นหมดแหล่ะคับ  จึงนับว่า  ทฤษฎีเรือนชะตาสนธินี้ใช้ได้  แต่เรามักจะไม่ค่อยคล่องกัน  สู้มาทางพระเคราะห์สนธิไม่ได้เพราะมีลูกเล่นพิศดารได้มากกว่า  มีทางให้คัดกรองได้มากกว่า ง่ายกว่า    การไปสู่จุดหมายคำตอบทำได้เร็วกว่า  คมกว่า  น่าจะมั่นใจได้มากกว่า   อันนี้เป็นความเห็นของผมคนเดียวไม่เกี่ยวกับคนอื่น  และยิ่งพระเคราะห์สนธิไป เล่นกับ พลาสิดุส และระบบสากลเต็มรูปแบบแล้วยิ่งอร่อย  ทำให้ดูง่ายขึ้นพิศดารขึ้นอีกมากมายนัก

ถ้ามีดาวในเรือนมากพอ ก็สามารถจะผสมดาวทั้งหมดออกมาเป็นความหมายโดยรวมที่ชัดเจนได้ (รวมกับทั้งดาวในเรือนสะท้อนด้วย) แต่ดวงส่วนใหญ่มักมีดาวกระจายไปตามเรือนต่าง ๆ ดูได้เฉพาะความหมายดาวในเรือน จะไม่คมชัดมาก

Master ท่านหนึ่งว่า...

In some cases, when a house contains many planetary occupants, and especially when, in addition, the reflex house also contains many planets, horoscope analysis by houses can, in effect, bring together a diverse number of horoscaopical factors, helping the astrologer reach that most desired of all goals, syntyhesis.

But most frequently, however, no such extraordinary groupinga of many planets in a house, together with similar groupings in the reflex house, are found to exist in the average horoscope. Clearly, then, chart synthesis must proceed by mean of tools other than astrological houses alone.

In actual practice, ...

ผ่านมาเห็นขอแชร์ จากประสบการณ์ในการวิเคราะห์หวย  ลองเอาเรือนชะตามาคำนวนหาหวย  มันไม่ค่อยจะเกี่ยวกันเลยจริงๆสิพับผ่า นอกจากว่า ดาวดวงนั้นมันเป็นเกษตรอยู่ในเรือน แต่พอเจาะดู ศูนย์รังสี ในดาวแต่ละดวง เห็นอะไรชัดๆกว่ามากจริงๆ แต่ศูนย์รังสีมันก็เยอะมากๆอีกเช่นกัน  แต่กลับกันพอดูดวงคนใช้เรือนชะตา ทายให้พี่น้องหรือคนใกล้ตัว เขากลับประทับใจมากกว่า ศูนย์รังสี อาจจะเป็นเพราะ มันเป็นแบบกำปั้นทุบดิน ประมาณว่า ทายยังไงก็โดน มันต้องโดนสักเรื่องแหละ เคยทดลองเอาศูนย์รังสี วางลงไปในเรือนชะตา แล้วทายผสมเขายิ่งประทับใจ  อย่างเช่น ศูนย์รังสี  ลัคนา/จันทร์ อยู่ในเรือนที่5ผมก็ทายเขาไปว่า ตัวเขาชอบเรื่องบันเทิง (ชอบเที่ยวเธค)เขาชอบใหญ่เลยแหะ เพราะมันตรงเผ๋งเลย เขาชอบใหญ่เลย ก็แง๋ละผมเห็นเค้าเที่ยวเธคทุกวัน อิอิ บ้างครั้งคนเรามันก็ต้องใช้ไหวพริบกันบ้างละ ผมเห็นเค้าเที่ยวทุกวันก็เพราะผมก็เที่ยวเกือบทุกวันเหมือนกัน อิอิ

แซว คห. 5 เล่นหน่อยนะครับว่า...

รู้คำตอบแล้วทาย ระบบไหนก็แม่นเป๊ะหมดละครับ เราหาเหตุผลให้กับเหตุการณ์ที่เกิดแล้วได้เสมอ ๆ (พวกใบ้หวยก็ปรับวิธีการหลังหวยออกทุกงวด มีวิธีการเป็นสิบเป็นร้อย)

ถ้าทำเป็นว่า เราไม่รู้อะไรเลย ไม่มีข้อมูลแวดล้อมเลย ทำไมเราจึงเลือกศูนย์รังสีหรือโครงสร้างนั้น นี้ มาทาย นั่นแหละครับคือวิธีการที่สุดยอด...

ยูเรเนียนพระเคราะห์สนธินี่มันให้ข้อมูลเยอะ ถ้าใช่จะใช่เลย แต่ส่วนที่ไม่ใช่นั้นมากกว่ามาก ถามว่าที่เหลือล่ะทำไมไม่ใช่ ทำไมถึงเลือกอันที่ใช่ขึ้นมาได้ อย่าบอกว่าเพราะมันไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดไง เพราะต้องไม่ลืมว่า (เราสมมติว่า)  เรายังไม่รู้คำตอบ ถ้าคุณพบวิธีการที่เข้าถึงคำตอบได้ทุกครั้ง โดย "หวย" ยังไม่ออก นั่นแหละสุดยอด

"เหตุ" มีเกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวเรามีมากมาย

มี "ผล" เพียงบางอย่างที่เกิดกับเราโดยตรง บาง "ผล" ก็เกิดกับคนใกล้ชิด คนอื่น เกิดเป็นข่าว เกิดกับประเทศของเรา โดยเราร่วมรับรู้ด้วยบ้าง ไม่ร่วมรับรู้ด้วยบ้าง (แต่คนที่เกิดในช่วงใกล้ ๆ กับเราจะรับรู้ไป)

พระเคราะห์สนธิที่มากมายจนล้อกันว่าเป็น "กองทัพจุด" นั้น ก็คือ "เหตุ" (จำนวนมาก) มีเพียงบาง "ผล" ที่เกิดจาก "เหตุ" เหล่านั้นที่เราจะร่วมรับรู้ด้วย หรือเกิดกับเราโดยตรงทีเดียว

ปรัชญาไปเรื่อย...ยังไงก็ไม่ผิด เหมือนยกดาวดวงเดียว สองดวงมาทายแบบภาพรวมน่ะยังไงก็ไม่ผิด ใคร ๆ ก็พูดได้ แต่ (ไม่ใช่เป้าหมาย) การจะทายเฉพาะเจาะจงลงไปเลยนี่สิ สุดยอด (รวมทั้งการมีดาวให้ 5 ดวงขึ้นไป ทายอะไรก็ถูกหมด แปลเป็นเรื่องอะไรก็ได้ อาชีพอะไรก็ได้ ดาวมันมีดีร้าย 2 ด้าน ด้านละหลาย ๆ ความหมาย ผสมแล้วเข้าข้างตัวเองนั้นจะแก้ตัวได้ง่ายกว่าระบบอื่นใดทีเดียว ทำใจให้เป็นกลาง จะกล้าวิจารณ์วิชาที่ตนเองรักเหมือนลูก)

ผมก็รุ่นเดียวกับคุณ อธิ นั้นแหละ อายุ 38 ปี คุณอธิไม่

เที่ยวบ้างเหรอคับ  ไม่ได้ไปจับเด็กหรอกคับ อาจาน

ผมชอบดื่มเฉยๆ อิอิ

ตอบคุณอธิ อีกที  ผมก็ไม่ได้รู้จักตัวเค้า แบบเป๊ะ ๆนะคับ มารู้จักกันทีหลัง  อีกที แล้วทายนะ ออกกึ่งรู้จักแต่ไม่รู้จัก ทายแบบเดาๆนิด ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก แต่เห็นเค้าบ่อยอะไรทำนองนี้แหละคับ ที่เป็นตัวช่วย ทำไมใครชอบว่า ผมไม่แม่นจัง อิอิ

ผมก็นักดื่มครับ แต่ไม่ชอบหรือไม่ได้ไปนอกสถานที่มานานแล้ว

แต่ถ้าชวนมา มักจะไม่ขัดใจใคร...!

ไม่ได้ว่าไม่แม่นนะครับ ต้องขอโทษด้วยครับ ไม่ได้หมายความแรงอย่างนั้นเลย แต่ต้องยอมรับนะครับว่าใช้ข้อมูลที่รู้แล้วประกอบ คือทางมันง่ายขึ้น ใช่ไหมครับ

ผมก็ใช้ ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ใครหลุดอะไรให้ฟัง ผมก็ใช้โดยอัตโนมัติ เป็นสัญชาตญาณของทุกคนน่ะ ทายการเมืองอะไรนี่ ก็ใช้กันทุกคน

ผมต้องการจะสื่อว่า แต่พอจิตว่าง ๆ เราต้องรู้ตัวเองนะ คือไม่หลงหรือหลอกตัวเองน่ะว่า ฝีมือสุด ๆ โอ้อวดเกินจริง มันจึงจะทำให้เข้าถึงแก่นแท้วิชาใด ๆ ได้ คือที่จะโปรโมทวิชาน่ะ ผมเข้าใจได้ เพราะเรารักวิชานี้ ผมก็รัก ส่งคนของเราไปรบน่ะ ชนะมาด้วยอะไรก็แล้วแต่ เราก็พากันพอใจ เป็นธรรมดาของคนรักวิชาเดียวกัน เฮฮากันในหมู่คณะของเรา แต่เวลาเราพูดถึงหลัก ถึงความจริงกัน เราก็ต้องพูดให้ถึงแก่น ไม่ NE กันเอง ผมคิดอย่างนี้นะ

เราชาวยูเรเนียนนั้นเวลาทายอะไร ผมเชื่อว่าไม่ได้ใช้ดาวอย่างเดียวหรอก อ่านข่าว ตามข่าว วงในวงนอก ดูกระแส ดูโพล รอใกล้ ๆ เกิดเหตุการณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลแวดล้อมมากที่สุด นี่เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราอยากให้มันแม่นที่สุด ใช้อะไรได้ก็ต้องใช้ แต่เวลาที่เราทดลองหรือทดสอบวิชาของเราอยู่ เราต้องจิตว่าง ใช้ดาวอย่างเดียว คือใช้วิชาของเราอย่างเดียว เหมือนหนึ่งว่าเราไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ มันจึงจะชัดว่า หลักอะไรที่ใช้ได้บ้าง ใช้ได้แค่ไหน ในกรณีใด ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง มีข้อยกเว้นมากเกินไปบ้าง เรามีความโน้มเอียงส่วนตัว (Bias) ประกอบกับครั้งไหนบ้าง

โรงเรียนโหราศาสตร์กรุงเทพ
ลำดับขั้นการพยากรณ์ (ทฤษฎี)
พลตรี ประยูร พลอารีย์

........

(ง) ทฤษฎีพระเคราะห์สนธิประกอบกับทฤษฎีเรือนชะตา

เมื่อนักพยากรณ์มีความคล่องแคล่วทั้ง 2 ทฤษฎีดีแล้ว ก็สามารถที่จะใช้ทั้ง 2 ทฤษฎีประกอบกันได้

หลักสำคัญในการประกอบ 2 ทฤษฎีนี้เข้าด้วยกันก็คือ แกนดาวของพระเคราะห์สนธิหากสถิตในเรือนชะตาใด จะมีอิทธิพลตามความหมายของเรือนชะตานั้น ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น

อาทิตย์ = เมษ/เสาร์ และอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 12 (เรือนที่ 10 ในดวงชะตาหญิง คือ มารดา เรือนที่ 12 คือ เรือนที่ 3 (พี่น้อง) นับจากเรือนที่ 10 จึงแปลว่า "พี่ น้อง ของมารดา อาทิตย์ หมายถึง บุคคลเพศชาย อาทิตย์ในเรือนที่ 12 จึงแปลว่า ลุงหรือน้าชาย โครงสร้างชุดนี้คือ อาทิตย์=เมษ/เสาร์ จึงแปลว่า "การพลัดพรากของลุงหรือน้าชาย" เพราะอาทิตย์สถิตในเรือนที่ 12

โดยทำนองเดียวกัน ในการพยากรณ์จรตามอายุขัย (ทั้งนี้รวมทั้งในการพยากรณ์จรด้วย) ดาวพระเคราะห์ที่สถิตในเรือนชะตาใดก็ตาม เมื่อโคจรไปจะนำเอาความหมายของเรือนชะตานั้น ๆ ไปด้วย เช่น ดาวพระเคราะห์ในเรือนที่ 2 เมื่อโคจรไปตามอายุขัยหรือตามโค้งสุริยยาตร์ไปก็จะนำเอาอิทธิพล "สมบัติเงินทอง" ติดไปด้วย เช่น เมื่อจรไปสัมพันธ์กับพฤหัส เขาก็จะมีโชคทางการเงิน หรือดาวในเรือนที่ 8 เมื่อจรไปสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา ก็จะนำเอาการสูญเสีย ความเจ็บป่วย ทุกข์โทรมนัส แม้ในที่สุดคือ ความตาย ไปสู่สิ่งตามความหมายของจุดเจ้าชะตานั้น ๆ ด้วย เช่น เสาร์ในเรือนที่ 8 ถึงจุดเจ้าชะตา (เมอริเดียน) อาจมีผลทำให้เจ้าชะตาเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือถึงแก่กรรมด้วยโรคเรื้อรังในวัยชราได้ ในดวงชะตาของผู้บรรยาย ศุกร์ในเรือนที่ 8/เมอริเดียน + โค้งสุริยยาตร์ = จันทร์ มีผลทำให้ญาติสนิทหญิงถึงแก่กรรมไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
........

ตอนทำนายผมก็ระวังอยู่คับ อย่างเช่น ที่ อาจานภารตบอกว่า ลัคนา/จันทร์ ในภพ 5  ผมก็เริ่มถามเค้าก่อนทางโทรศัพท์นะคับ  ดูฟรีๆ ไม่คิดตังค์เพราะผมไม่ใช่หมอดูอาชีพ  ว่า พี่เล่นการพนัน หรือ ชอบทำอะไรเสี่ยงหรือป่าวคับ  เค้าก็บอกว่า ไม่ชอบ ผมก็ไล่ถามไปเรื่อยๆตามความหมายของภพที่ 5 มาลงที่  พี่แก่เป็นคนชอบเที่ยวนี้เอง  เรื่องของเรื่องแก่มีปัญหากับแฟน  พอดีรู้จักกับเพื่อนผมก็เลยแนะนำบอกว่า ไม่ลองให้ผมดูดวงให้ล่ะ เพื่อได้คำแนะนำอะไรดีๆ ผมก็ดูให้แก่ยกตัวอย่างเป็น sample เฉยๆคับ ก็ไม่มีไรผมไม่ได้ติดใจเรื่องแม่นหรือไม่แม่นอะไร หรอกคุณอธิ  ยกตัวอย่างให้ฟังเฉยๆ ก็แม่นบ้างไม่แม่นบ้างหละคับ อิอิ

ขอบคุณคับ คุณ nUm  ลึกซึ่งมากๆ ความรู้ใหม่เลยว่างๆผมก็เข้ามาเก็บวิธีคิดของ อาจานหลายๆท่านอยู่เรื่อยคับ เริ่มแรกตอนเข้าวงการ ผมก็ใช้แต่ ศูนย์รังสีอย่างเดียวจริงๆ เพราะมาเจอเว็ปนี้ความคิดก็เลยเริ่มเปลี่ยน ไปหาหนังสือ เรือนชะตา มาอ่านเหมือนกันคับ

อย่าว่าแต่แกนดาวสถิตย์เรือนชะตาเลย  แม้แต่ตัวดาวในแกนเอง  มันยังลากเอาเรือนชะตามาด้วยเช่นกัน  และ แถมยังเอา เรือนชะตาในกลุ่ม midpoint  trees  มาสนธิกันได้อีกด้วย  ซึ่งก็บอกรายละเอียดขยายประเด็นออกไปได้มากมาย  อยู่ที่ว่าจะหยิบมาใช้เป็นหรือเปล่าเท่านั้น

ส่วนที่ขยายก็ขยายกันไปเป็น   กองทัพจุด ปะทะ กองกำลังเรือนชะตา  แต่ในปัจจุบันนี้เองยังมีพัฒนาเทคนิคการควบบีบอัดยัดซ้อนหลาย layer จนเหลือแต่หัวกระเด็นรวบยอดกันได้อีกแน่ะ  ซึ่งก็ถ่ายทอดเทคนิคกันชนิดย้ายไปลอกมากันหลายต่อหลายสำนัก

ผมยังสงสัยอยู่ว่า คุณสงสัยจัง เจ้าของกระทู้ ให้นิยามของทฤษฏีเรือนชะตาของยูเรเนียนว่าอย่างไร หมายถึง การใช้เรือนชะตาในการอ่านดวงชะตาทั่วไป (ตามโหราศาสตร์คลาสสิค) หรือหมายถึง การใช้ทฤษฏีเรือนชะตาที่ทางฮัมบูร์กพัฒนาขึ้นมา

เพราะถ้าเป็นอย่างแรก เข้าใจว่า เว็บนี้ก็ใช้เป็นหลักเลยทีเดียว ผมเองก็นิยมใช้เช่นกัน แต่หากหมายถึงอย่างหลัง เข้าใจว่า ยังมีคนใช้ไม่มากนัก

ข้าพเจ้าก็คิดว่าจะเป็นอย่างที่คุณ Pallas ว่าไว้นะครับ หากเป็นตามทฤษฎีเรือนชะตาแบบยูเรเนียนนั้น เท่าที่เห็นก็ไม่มีใครมาใช้ตอบในเวบเป็นเรื่องเป็นราวเลย(เคยเห็น ท่านสัจจะ เอามาอ่านเป็นตัวอย่างอยู่บ้าง หรือท่าน Udo ก็นำมาใช้ในงานวิจัยช่วงหลังของท่าน) แต่ถ้าเป็น การพยากรณ์ในการใช้เรือนชะตาตามแบบโหราศาสตร์สากล ก็เห็นพอๆกัน โดยจะเป็นการอ่านแบบผสมกับพระเคราะห์สนธิด้วย ส่วนผู้ที่ตอบแบบพระเคราะห์สนธิก็จะมีการกล่าวอ้างอิงเรือนชะตา(แบบสากล)อยู่บ้างในบางคน ในภาพเราจึงรู้สึกคล้ายกับว่า มักจะใช้พระเคราะห์สนธิเสียเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งผู้ที่ตอบแบบพระเคราะห์สนธิก็จะเขียนสมการให้เห็นชัดเจน และ บางทีก็ยกคำแปลจาก คัมภีร์มาทั้งดุ้นประกอบ จึงดูเหมือนว่าจะกินเนื้อที่มากขึ้น(ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น) ส่วนผู้ที่ตอบแบบเรือนชะตาส่วนใหญ่ก็จะตอบแบบสรุปความ จึงดูเหมือนได้ใช้เนื้อที่น้อย

มันเหมือนกับวิชาลมปราณ กับ วิชากระบี่ นั่นแหละ ใช้กระบี่หรือมีดสั้นมันเห็นบาดแผลชัดเจน ส่วนลมปราณมันทำลายอวัยวะภายใน มองไม่เห็นภายนอก กระบี่เฉียบคมมองเห็นจุดตาย แต่ลมปราณมันทำลายทั้งองคพยพ ก็เปรียบดูแล้วกัน อันไหนเป็นเรือนชะตา อันไหนเป็นพระเคราะห์สนธิ นี่คือคำตอบหนึ่งของ เพราะเหตุใด .....อย่างแรกช้าเสียเวลาหรือ ไม่ประทับใจหรืออย่างไร

เท่าที่สัมผัสในสายของโหราศาสตร์ตะวันตก+ยูเรเนียน นักโหราศาสตร์ส่วนใหญ่ก็มองเรือนชะตาอยู่ด้วย(อ่านภาพรวม) แต่เวลาอธิบายก็มาตบท้ายที่พระเคราะห์สนธิ(ลงรายละเอียด) ยิ่งตอบในเวบมันก็เป็นธรรมดาที่จะแสดงข้อมูลทั้งหมดไม่ไหว จึงต้องเลือกเขียนออกมาบางส่วน บางคนเขียนเรือนชะตาแล้วขยายด้วยพระคราะห์สนธิ บางคนเขียนพระเคราะห์สนธิแล้วสรุปเข้าเรือนชะตา ซึ่งพระเคราะห์สนธิมันเขียนเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ได้ จึงไม่ต้องว่ากันยาว เคยเห็นนักฟิสิกส์ระดับโลกเวลาคุยกัน เขาไม่ต้องพูดเลย เอาชอล์กเขียนสมการในกระดานไปมา แค่นั้นแหละจบ อย่างในหนังเรื่อง THE DAY THE EARTH STOOD STILL วันพิฆาตสะกดโลก

ถ้าพูดถึงทฤษฏีเรือนชะตาตามหลักของโหราศาสตร์ยูเรเนียน ข้าพเจ้าคิดว่ายังเผยแพร่น้อยมากครับ เรียกได้ว่า นับจากที่ อ.ประยูร ท่านถึงแก่กรรมไปแล้ว ก็ไม่มีใครมาถ่ายทอดเรื่องเรื่องนี้อีกเลยก็ว่าได้(หรืออาจจะอยู่ในหลักสูตร Advance ของสำนักใดก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยไปเรียนเหมือนกัน) ส่วนใหญ๋เราศึกษาจากใน คัมภีร์สูตรเรือนชะตา ที่ท่าน อ.ประยูร แปลและเรียบเรียง ซึ่งเนื้อหาในเล่มก็จะออกมาในเชิงของปรัชญา มากกว่าเทคนิคการพยากรณ์ ใครอ่านแล้วสามารถตีความนำมาใช้ได้ก็นับว่าสุดยอด หรือถ้าจะพูดว่า วิชากระบี่หกชีพจร ยังไม่มีใครฝึกสำเร็จถึงขั้นใช้ได้อย่างใจเลย ก็น่าจะพูดได้นะครับ

มันเลยเหมือนกับว่า ระบบเรือนชะตาทั้ง 6 จุดเจ้าชะตา เรือนชะตาสะท้อน หรือเรือนชะตาจร มันยังพัฒนาไม่ถึงที่สุดหรืออย่างไร ซึ่งก็ไม่คิดว่าอย่างนั้นครับ เพียงแต่ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ์ยังไม่เข้าถึงแก่นมากกว่า (กังฟูแพนด้า)

อีกอย่างคือระบบเรือนชะตาทั้งแบบตะวันตก หรือแบบตะวันออก ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จัดว่ายอดเยี่ยมอยู่แล้วในระดับของการใช้พยากรณ์ เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องศึกษาหรือพัฒนาทฤษฎีใหม่ต่อยอดไปอีก ก็สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ของการพยากรณ์อยู่แล้ว

อ.วรเชษฐ์ เคยถามว่าข้าพเจ้าใช้เรือนชะตาหรือไม่ ข้าพเจ้าตอบว่าใช้ครับ ใช้เรือนชะตามตามแบบโหราศาสตร์ไทย ซึ่งเรียกว่าระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ เป็นการอ่านเรือนชะตาที่ละเอียดเพียงพออยู่แล้ว มันอ่านได้ 3 จังหวะ อ่านจากตนุลัคน์ ตนุเศษ ระบบพระคราะห์ถ่ายเรือน เรือนชะตรจร ชันษาจร ลัคนาจร บอกเรื่องราวได้ครอบคลุมเหมือนๆกัน บางทีก็เป็นการ Cross Check ไปด้วย หรือ หากไม่รู้จะเริ่มอ่านอะไรก่อน พอตั้งดวงไทยปุ๊บเห็นเลย จากนั้นก็ใช้พระเคราะห์สนธิ อ่านรายละเอียดของเรื่องออกมาได้ บางทีข้าพเจ้ายังอยากเรียกว่า ระบบเรือนชะตาสนธิเลย เพราะถ้าจะสร้างคำแปลจะได้สูตรเรือนชะตา มากกว่า 2 หมื่นคำแปลเลยแหละ

ดังนั้นในมุมมองส่วนตัวของข้าพเจ้า คิดว่าระบบเรือนชะตาของไทยนี่แหละ สุดยอด สมบูรณ์แบบมาก จนแทบจะไม่ต้องใช้แบบอื่นอีกแล้ว ที่เหลือเป็นเพียงการพัฒนาเรื่องการคำนวณ การอ่านให้ครอบคลุมเนื้อหาสมัยใหม่มากขึ้นเท่านั้นเอง

ผมใช้เรือนชะตาทั้ง 6 แบบฮัมบูร์ก  สำหรับแกะดวงชะตาตนเอง  หรือคนใกล้ชิด  เพราะมีให้คำตอบที่เป็นนามธรรมมาก  แล้วไว้ใช้ค้นคว้าวิจัยส่วนตัวเอา  ซึ่งท่านอาจารย์วรเชษฐ์  ท่านเคยแนะเรื่อง Antiscia และ Contrascia ไว้  พอเอามาลองใช้ก็ให้ผลเชิงประจักษ์ชัดเจน  ทั้งกับตนเองและลูกค้า   โดยเฉพาะประเด็นเรื่องที่ต่างมุมมอง  เช่น  เจ้าชะตาคิดว่าตนเองเป็นอย่างนี้  แต่ในมุมมองคนอื่นกลับเห็นแตกต่าง  และเห็นเช่นไร  ซึ่งเป็นการขยายความจริงในหลายๆมุมมอง  ซึ่ง คนอื่นที่ว่านี้ก็ยังแยกย่อยไปได้อีก คือ คนอื่นทั่วไปและคนอื่นที่ใกล้ชิด  อีกทั้งรวมไปถึงในประเด็นที่ว่า  ในมุมมองกลับ  เรื่องบางเรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าชะตา  คนอื่นมองว่าน่าจะสำคัญหรือให้ผลรุนแรงแต่  ในกรณีเดียวกันเจ้าชะตาอาจจะไม่สนใจด้วยซ้ำหรือกลับมีปฏิกริยาไปเป็นอื่น  นี่คือประเด็นเรื่องเรือนชะตาสนธิ  ซึ่งแตกต่างกับ เรื่องพระเคราะห์สนธิซึ่งให้อาการกริยาออกมาทางดาวหรือปัจจัยต่างๆ  กับมุมสัมพันธ์  ซึ่งให้ผลไปอีกอย่างหนึ่ง  ที่เป็นที่นิยมใช้กันก็เพราะเป็นเรื่อง  เวลาและสถานที่  กับเหตุการณ์  ซึ่งสำหรับการพยากรณ์ทั่วไปก็น่าจะเพียงพอแล้ว

คล้ายๆกับคำถาม  อัตตนัย หรือ ปรนัย  กับ ทำรายงาน  ซึ่งเป็นข้อสอบเหมือนกันได้คะแนนเหมือนกัน  แต่ลีลาต่างกัน

ยกตัวอย่างเช่น ทำนายว่าจะเกิดอุบัติเหตุ  เวลาเท่านี้  วันนี้กับเจ้าชะตา  อันนี้เป็นพระเคราะห์สนธิบอกมา  แต่พอเข้าเรือนชะตาสนธิ  ณ วันเวลาดังกล่าว  เกิดกับเจ้าชะตา  หรือ เจ้าจะชาตะอยู่ในเหตุการณ์นี้เฉยๆ  ไม่โดนตัว แต่เสียใจสะเทือนใจ  เพราะญาติโดน เพื่อนโดน หรือ ต้องเสียหายจ่ายเงิน  หรือเห็นผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร  หรือไม่เห็นแต่ได้ข่าวอุบัติเหตุ ณ วันเวลาดังกล่าว  เรียกว่า เรือนชะตาเป็นการขยายมุมมองของพระเคราะห์สนธิได้มากขึ้นไปอีกหลายเท่า  เหมาะสำหรับนักวิจัยโหราทฤษฎี ชนิดเข้าเส้น  คือ ทำนายถูก แต่ยังต้องการรายละเอียดในการถูกเพิ่มขึ้นอีกด้วยแบบละเมียดละมัย

ซึ่งความหมายแบบ Exactly แนวนี้  โดยพิสูจน์ได้ อย่างมาตรฐานชนิด ทฤษฎีสมการครบถ้วนเป็นเหตุเป็นผลเป็นตัวเลข เป็นตรรกทางวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์สมการ  ทั้งเดินหน้าและถอยหลังได้ตามมิติเวลา  มีในโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนบูรณาการ เท่านั้น  อย่างอื่น  บอกไม่ได้ครบ  และไม่พิศดารเท่า  อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมเอง เพราะคลุกคลีมานานกับสารพัดวิชาที่มีให้ศึกษาในเมืองไทยเราในเชิงพยากรณ์  เคยทำนายเรื่องบิดาของลูกค้าคนหนึ่งที่เป็นอัมพาต พูดไม่ได้ แต่นอนรักษาตัวที่ รพ. ว่า กระดูกซี่โครงน่าจะหัก มีปัญหา  ซึ่งลูกค้าบอกว่าไม่มี  เราก็เถียงว่า  ก็ดวงยูเรว่ายังงี้ นี่หว่า  ลุกค้าโทรไป รพ.เดี๋ยวนั้นเลย  บอกกับหมอเจ้าของไข้  ให้ตรวจ  หมอยังเถียงด่ากลับมา  ผมก็ว่าดวงบอกยืนยัน  ปรากฎว่า พนันกันเอาเข้าห้อง x-ray  กันเดี๋ยวนั้น   ผลปรากฏว่า  หักจริง ตรงตามตำแหน่งที่ว่าอีกต่างหาก เพราะพยาบาลพลิกตัวแรงไปกดเข้า หมอมันยังงง  จนทุกวันนี้   เรื่องพวกนี้ที่เล่าให้ฟังเป็นเรื่องประสบการณ์  ที่ทำให้ศรัทราในหลักวิชานี้   อ้ายที่ทำนายผิดก็มีเยอะ  แต่พอมาแกะดูแล้ว  ก็ยังเชื่อวิชาอยู่ดี  เพราะแค่คนละมุมมองที่ต่างกันเท่านั้น  ไม่ใช่วิชาผิด

เรื่อง ใช้โหราศาสตร์ คำนวนหวย อะครับ ผมมั่วเอาครับ ดูเรือน 5 เป็นหลัก ครับ

ส่วนการใช้อีกแบบหนึ่งคือ คัดดาวเด่นในดวงครับ จากนั้น มาดูอีกที ดาวใหนให้ มุมสัมพัน  หวย หากจันทร์ อยู่ เมษ กรกฎ ตุล มังกร มีโอกาสออกเบิ้ลหามครับ