ReadyPlanet.com


UFO กับบทพิสูจน์แนวโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน


มนุษย์ต่างดาวเนี่ยมีจริงมั๊ยคับ   ทางโหราศาสตร์เรานี่มีอะไรพิสูจน์กันมาบ้าง


ผู้ตั้งกระทู้ ภารต..หาเรื่องเปิดประเด็น :: วันที่ลงประกาศ 2009-02-09 21:17:19 IP : 118.172.57.218


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1899403)

http://th.wikipedia.org/wiki/Wow!_signal

http://www.bigear.org/Wow30th/wow30th.htm

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..ที่มาที่ไป วันที่ตอบ 2009-02-09 21:26:19 IP : 118.172.57.218


ความคิดเห็นที่ 2 (1899407)
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2009-02-09 21:30:02 IP : 118.172.57.218


ความคิดเห็นที่ 3 (1899417)

ne-kr-ad = จานบิน , ดาวเคราะห์จากนอกโลก ( 22 สห 57 ) = -ad = su ( 23 สห 09 ) ครบวงจร สนิทองศาพอดี!!

su+me+no ( ให้สัญญาณ ) = -as  ทำมุมเล็งกันสนิท =-ze = mc/vu

me+ur-no ( ส่งสัญญาณติดต่อกลับ )= -me = as/me = ar/po = -ma

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยิ่งแกะยิ่งเหวอ!!?? วันที่ตอบ 2009-02-09 21:44:48 IP : 118.172.57.218


ความคิดเห็นที่ 4 (1899419)
ดู History Channel - UFO Hunter มีบางตอนกล่าวถึงเรื่องนี้ กรณีอื่น ๆ ถ้าได้ เวลา สถานที่ ประสบ UFO น่าเอามาแกะว่าจริงหรือเท็จ
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2009-02-09 21:54:26 IP : 119.42.76.96


ความคิดเห็นที่ 5 (1899441)
ขอส่งอันนี้เข้าประกวดด้วยได้ไหม เห็นมันมาโทนเดียวกัน แนวต่วยตูน
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ..มาแว๊ว...Astrology Detective วันที่ตอบ 2009-02-09 22:46:33 IP : 58.64.104.18


ความคิดเห็นที่ 6 (1899451)
มีอีกประเด็นหนึ่งที่อยากให้ท่านผู้รู้ทุกท่านลองช่วยวิเคราะห์ดูว่าเท็จจริงประการใดในเชิงโหรา...เชิญทัศนา
http://jitjakkravan.blogspot.com/
ผู้แสดงความคิดเห็น สงสัย วันที่ตอบ 2009-02-09 23:34:29 IP : 61.19.65.45


ความคิดเห็นที่ 7 (1899454)
ลองสร้างกองทัพจุดมาแปลเล่นนะครับ
 
MC = AS/SU = NE+KR-AD = MO+ME-UR = KR+AP-NO = SU/ME//NO = -LM = NE/HA//PL = AR+ZE-HA = NO+ZE-NE = MA+UR=VU = UR+PL-ZE = MO+VU=PL
NE/KR//AD = LA = (MC/SU)
NE+HA-PL = -MC = LM = KR = MO+MO-MC
 
นาทีนี้ ณ สถานที่นี้ของวันนี้ เทหะวัตถุบนท้องฟ้าซึ่งเป็นยานพาหนะ ทำการติดต่อโดยผู้มีวิทยาการ ได้ส่งสัญญาณมาซึ่งล้มเหลวเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ไม่บรรลุเป้าหมาย เหนื่อยเปล่า อาจเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะการเกิดชนกันโครมใหญ่ หรือการระเบิดอย่างรุนแรง หรืออาจเป็น Super Nova ที่ส่งผลให้เกิดารเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด ที่รุนแรงในพัฒนาการนั้น
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...ให้เขาดูฤกษ์ก่อนทำ First Contact สิ วันที่ตอบ 2009-02-09 23:43:45 IP : 58.64.104.18


ความคิดเห็นที่ 8 (1899678)

ความเห็นผมแปลนะว่า  Tunguska น่าจะเป็นดาวหางชนโลกชนิดระเบิดกลางอากาศ

  ส่วนจิตจักรวาล  นั้นมาเดียวกับ  โนวาอนาลัย  น่ะครับ  เป็น การพยายามสร้างศาสนาสากล  ซึ่งแต่ละท่านพยายามสถาปนาศาสนาขึ้นมา  ก็คล้ายกับ  ศาสดาปกาสก  เช่นท่านศาสดาคุรุนานัก แห่งศาสนาซิกส์  เมื่อ 500 กว่าปีก่อน  ซึ่งท่านคุรุนานักท่านทำสำเร็จครับ มีองค์ศาสดา  ต้องมีนักบวช  และวินัยกำกับ  ถ้าไม่มีสร้างไม่ได้  เพราะปัญหานี้พระพุทธองค์ของเรา พระศากยะมุนี  ก็ยังเคยปรารภว่า  ศาสดาก่อนๆสายพุทธ คือ พระกุกกุสันโธ เป็นต้นไม่ได้สร้าง บัญญัติวินัยกำกับไว้  ก็เลย สืบวงศ์ศาสนาได้ไม่นาน ตอนหลังหายสาบสูญหมด  เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกับ  แนวรามเกียรติ์ และภควัตคีตา  พวกนี้เป็นศาสนาเช่นกันแต่เป็นศาสนาที่ถูกควบกลืนไปแล้ว กับพราหมณ์ หรือฮินดูในปัจจุบัน  เพราะไม่มีนักบวชและบัญญัติวินัยไว้อย่างเคร่งครัด   ประเด็นนี้ต้องแยกต่างหากครับ  กลัวไปกล่าวพาดพิง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เล่าให้ฟัง วันที่ตอบ 2009-02-10 12:16:33 IP : 118.172.97.38


ความคิดเห็นที่ 9 (1899692)
ส่วนประเด็นพลังงานยุคใหม่นั้น  ก็น่าจะเป็น ก้อนแก๊ส  ใต้ทะเล  ซึ่งปัจจุบันค้นพบแล้วว่า  มีทางนำมาใช้แทนพลังงานฟอสซิล  ได้อีกร่วม 2000 ปี
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...โลกสังนิวาส วันที่ตอบ 2009-02-10 12:30:38 IP : 118.172.97.38


ความคิดเห็นที่ 10 (1899880)

ABC มีเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ
ตะวันตกนกบินเฉียงไปทั้งหมู่
ฝูงละร้อยสองร้อยช่างน่าดู
จับเข้าคู่คี่บวกลบเจนจบจริง

พุธ-พุธ-มฤตยู
คิดขึ้นมาได้ คำสั่ง โทรเลข

เนปจูน+วัลคานุส+ราหู
พยายามจะทำกลลวง หลอกลวงผู้อื่นเป็นผลสำเร็จ

เมษ+เซอุส+โพไซดอน
ปฏิบัติงานในสาขาที่เกี่ยวกับปัญญา ตรรกศาสตร์ การพิสูจน์

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-10 16:23:29 IP : 58.9.71.155


ความคิดเห็นที่ 11 (1899909)

แล้วเอาจุดเจ้าชะตาที่ไหนมารองรับตรรกะนี้ล่ะ boss 

ตามหลักไวยากรณ์การแปลดาวมันก็ใช่จริงอยู่แต่เป็น passive ข้อกล่าวหานา ไม่ใช่ active ซะหน่อย

โดยเฉพาะ  พุธ-พุธ-มฤตยู  น่ะ  ชอบกลนา  อยู่ๆจะ set up ขึ้นมาดื้อๆแบบสูตรยัดดาวได้ยังไง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ฉงฉัยจัง วันที่ตอบ 2009-02-10 17:48:59 IP : 118.172.31.96


ความคิดเห็นที่ 12 (1899916)

   เหล็กไหลไพรดำทั้ง      ภูติผี
UFO ก็มี                       น่าเล่น
ต่างฝ่ายต่างถือดี             พิสูจน์
นานเนิ่นแล้วรำเต้น           ซึ่งล้วน   อจินไตย

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังซตพ.ไม่ได้สักอย่าง วันที่ตอบ 2009-02-10 17:57:59 IP : 118.172.31.96


ความคิดเห็นที่ 13 (1899943)

ME-ME-UR = SU
SU=AR+AR-UR
SU=-UR

แปลว่า เหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนก วันแห่งความน่าตื่นเต้นทั่ว ๆ ไป (ได้ในทุก ๆ เรื่อง แล้วแต่จะเอาอะไรใส่เข้าไปข้างหน้า -UR นั่นเอง)

อย่างนี้ได้ไหมครับ

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ เช่น

ne-kr-ad =-ad ก็คือ ne-kr=ad+ad ก็คือ ar+ne-kr=ad+ad หรือป่าวครับ ซึ่งแปลว่า...โคตรคลุมเครือเลย (ar+ne-kr) หาทางออกไม่ได้ อึดอัด ๆ (ad+ad)

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-10 18:41:45 IP : 58.9.71.155


ความคิดเห็นที่ 14 (1899957)

ก็สัญญาณมันมาจากนอกจักรวาลนี้  นี่คับ   มันถึงได้ลบซ้อนลบ ไงล่ะ  แนวโจทย์ดาราศาสตร์โอลิมปิคไงคับ  เพราะตั้งสมมติฐานว่าสัญญาณมันน่าจะมาจากนอก Solar System

ก็ต้องอึดอัดกันต่อไปอีกนาน เพราะมันเข้าแกนโลกอ่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ก็นั่นน่ะสิ วันที่ตอบ 2009-02-10 18:58:56 IP : 118.172.31.96


ความคิดเห็นที่ 15 (1900033)

อ่านโดยใช้ จุดเจ้าชะตา ถึง ปัจจัยเดี่ยว

AR(r)=r JU[90|-0.45]

AR : โลก

JU : ประสบความสำเร็จ

 

NO(r)=r -KR[90|0.27]=r VE[90|-1.00]=r -NE[90|0.12]

NO(r) : การติดต่อสัมพันธ์

VE : แนวสันติ

-KR : ติดต่อทางการทูต

-NE : จากอวกาศ (หรือเข้าใจผิด?)

 

ที่น่าสนใจคือ

NE(r) =r KR[180|-0.15]

NE+KR : การทูต...การหลงผิดอันใหญ่หลวง..การไม่มีขอบเขต (อวกาศ ?)

 

MC(r)=r CU[90|-0.56]=r ZE[135|-0.32]

MC : นาทีนี้

ZE : ปรารถนา

CU : สมาคม

 

SU(r)=r -AD[180|-0.36]=r AS[90|-0.16]=r VU[45|0.27]

SU : วันนี้

AS : สถานที่นี้

SU+AS : การทักทายปราศรัย...การคบหาสมาคม

SU+AS-AD : ...การคบหาสมาคมเป็นหมัน...

AD+VU : ชะตากรรมรังแก...อุปสรรคอย่างใหญ่หลวง

 

สรุป

เมื่อเห็น NE = NO คิดว่าเป็นการเข้าใจผิด

แต่เมื่อ AR = JU เป็นหลักแห่งโลกแล้ว

การติดต่อครั้งนี้ควรถือว่าเป็นความสำเร็จ

แม้ว่าจะเป็นหมันก็ตามที

ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2009-02-10 21:27:57 IP : 119.42.76.70


ความคิดเห็นที่ 16 (1900092)

http://ufos.about.com/

มีหลายเคสที่น่าสนใจดีคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...แฟนานุแฟนต่วย'ตูน วันที่ตอบ 2009-02-11 00:55:07 IP : 118.172.48.208


ความคิดเห็นที่ 17 (1900252)

แก้คำผิดตาม คห. ที 7 ก่อนครับ สงสัยเมื่อคืนก่อนจะง่วงไปหน่อย
 
บันทัดที่ 3 แก้จาก .... MA+UR=VU = UR+PL-ZE = MO+VU=PL เป็น .... MA+UR-VU = UR+PL-ZE = MO+VU-PL
 
มีประเด็นความเห็นเรื่องของ ABC มาแลกเปลี่ยนครับ
 
ข้าพเจ้าเคยแสดงความเห็น หรือเขียนเป็นบทความไว้ว่า การใช้จุดอิทธิพลควรระวังเรื่องของ กลลวงทางคณิตศาสตร์ เพราะบางสมการนำมาใช้มัน่าจะขาด Logic รองรับ
 
จากตัวอย่าง ME-ME-UR = SU ในเมื่อ ME-ME มันเป็น 0 มันก็ไม่ควรจะนำมาใช้ เพราะไม่งั้นกลายเป็นว่าเราอะไรมาใส่ข้างหน้าก็ได้หรือไงกัน(ที่ใส่ได้อย่างเดียวคือ AR-AR เพราะ AR=0 อยู่แล้ว) มันแปลกๆ เพราะ A-A-B = C มันก็คือ -B = C นั่นเอง ไม่งั้นเราจะเอาอะไรมาใส่ก็ได้รึ เช่นวันดีคืนดี เราใส่เป็น JU-JU-UR=SU หรือ SA-SA-UR=SU ได้หรือ ก็ในเมื่อผลทางคำนวณมันจะได้เป็นตำแหน่งเดียวกันเป๊ะจะทายยังไง เพราะมันก็ตำแหน่งเดียวกับ -UR=SU กรณีจึงแปลความได้เพียงอย่างเดียวว่า -UR=SU เท่านั้น เอาอย่างอื่นมาใส่ไม่น่าจะได้
 
หรือหากจะใช้เหตุผลทางด้านพลังงาน ในเมื่อพลังงานของ A ถูกหักล้างด้วยพลังงาน A จึงไม่เหลือ A อีกต่อไปนั่นเอง
 
ส่วน ne-kr-ad= -ad นี่ก็เหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าเขียนผิด แต่ที่จริงมันถอดสมการได้เป็น ne-kr = -ad+ad หรือเป็น ne = kr นั่นเอง จากภาพดวงจะเห็น ne มันเล็ง kr พอดี ดังนั้นสมการนี้ไม่เกี่ยวกับ ad แต่อย่างใดครับ(ในทางตรง) เพราะไม่งั้นหากเขียนเป็น ne-kr-ur = -ur ก็เขียนได้เหมือนกันน่ะสิ(เหตุผลเดียวกัน)
 
แต่ถ้า me+ur-no= -me อันนี้ได้ครับ เพราะอันนี้มันคือ me+me-no = -ur หรือ me+ur=no+me เพียงแต่การแปลความหมายอาจเปลี่ยนไปจากที่ตั้งใจก็ได้
 
อีกอย่างถ้าเป็น A+B-C = A ก็ไม่น่าจะได้นะครับ เพราะมันเป็นเรื่องของ B=C
 
มีข้อยกเว้นว่าหากเป็น ดวงกำเนิดบวกโค้ง อาจใช้ได้บ้างในบาง ซึ่งต้องลองถอดสมการมาดู
 
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของกลลวงทางคณิตศาสตร์ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับปรัชญาทางโหราศาสตร์ก็ได้นะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...เพราะฉันคิด..ฉันจึงมีอยู่ วันที่ตอบ 2009-02-11 12:01:18 IP : 210.246.184.2


ความคิดเห็นที่ 18 (1900264)
ไอ๊หยา! time zone ไม่ตรงกับ อ.ภารต ของผมเป็น 5 คำนวณได้ ลัคนา เมอริเีดียน คนละตำแหน่ง อุตส่าห์ดูเป็นตุเป็นตะ
ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2009-02-11 12:24:57 IP : 119.42.78.43


ความคิดเห็นที่ 19 (1900279)
โปรแกรมที่คุณ nUm ใช้ไม่ได้ปรับค่า Daylight Saving Time ให้นะครับ ต้องไปเลือกเองว่า DST=0 หรือ 1 แต่อย่าถามว่าทำไม่ไม่คำนวณให้อัตโนมัตินะครับ มิฉะนั้นโปรแกรมจะต้องแพงขึ้นเท่าตัว อิอิ (เพราะต้องไปใช้ Module ของ ACS Atlas)
 
เรื่องของ UFO หรือ เทหะวัตถุตากฟากฟ้า นี่น่าสนใจอย่างเรื่อง Tungaska หรือ Wow! Signal เป็นต้น ทั้ง 2 กรณีนี่มีความเหมือนที่แตกต่างกันอยู่
ข้าพเจ้าขอตั้งข้อสังเกตุไว้เบื้องต้นว่า ข้าพเจ้าให้ความสนใจกับ KR กับ MC ณ ขณะนั้น รวมด้วยกับ UR กับ NE กรณี Tungaska MC ทับ KR ส่วน Wow! Signal MC=KR (Harmonic ที่ 5) และสมการ NE+KR-AD
 
ทั้ง Tungaska และ Wow! Signal SU กับ UR มี Declination เท่ากันด้วย(ในคิดค่าบวกลบ)
 
ข้าพเจ้าปรับ Lat-Long เล็กน้อยเป็นตำแหน่งของ Ohio State University Radio Observatory คือ 83W3, 40N15,-5,1 ปรากฏว่า MC=NE+KR-AD[0|0.19]
 
ที่สำคัญในดวงของ Wow! Signal ปรากฏโครงสร้างเบญจโกณ(ห้าเหลี่ยมใน Harmonic ที่ 5) ของ AR=MC/KR=SU/UR ครับเกิดเป็น The Vitruvian man ยืนพอดีเลย(หากตั้งแกนเมษไว้บน) ดังนั้น ณ สถานที่นั้น เวลานั้น ไม่ธรรมดาแน่ๆครับ แต่จะเป็นเรื่องอะไรนี่ยังเป็น The X-Files ต่อไป (หรือข้อมูลที่ได้มันคือ Davinci Code รึปล่าว อิอิ)
 
อีกอย่างหากดูตามบทความครบรอบ 30 ปีของ BigEar ปรากฏว่าปี 2007 ในดวง Solar Return NE+KR-AD ทับ AR พอดีเป๊ะ
 
และมาปีนี้ Solar Return 2009
t NE+KR-AD =v1 NE+KR-AD
r NE+KR-AD =r MC =v1 AS =t AR/AS
t NE+KR-AD =v1 MC =r AR/SU =t AR/SU
v1 NE+KR-AD =t MC/AS
v1 NE/KR =r AD
 
แล้วก็
t SU+ME-NO =v1 SU+ME-NO
r SU+ME-NO =v2 AS =v1 NO =v1 AR/AS =v2 AR/MO =r MC/AS =t MC/MO
t SU+ME-NO =t MO =v1 AR/SU =v1 MC/AS =t MC/SU =v2 MC/MO =v2 AS/SU
v1 SU+ME-NO =r AS =t MO =t MC/SU
v2 SU+ME-NO =t AS
r SU/ME =t SU/ME =r MO =r MC/MO =r AS/SU
v1 SU/ME =t NO
 
อาจจะมี Second Contact ก็ได้นะครับ หรือไม่งั้นก็อาจมีสัญญาณอะไรซะอย่างบนฟากฟ้าไกล เมื่อหลายร้อยปีแสงก็ได้ แต่เพิ่งเดินทางมาถึงโลกเรา
ผู้แสดงความคิดเห็น ..มาแว๊ว...จักรวาลในเปลือกนัท วันที่ตอบ 2009-02-11 12:42:20 IP : 210.246.184.2


ความคิดเห็นที่ 20 (1900311)
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2009-02-11 13:39:50 IP : 118.172.90.133


ความคิดเห็นที่ 21 (1900326)

งั้นเอาใหม่ ( แหม ! ลองแกล้งปล่อยลูกเฟอะฟะออกไป  กระทุ้งรับลูกกันเป็นแถว )   

ณ เวลานั้น มีปรากฏการณ์ = -M = ME+UR-NO = สัญญาณตอบกลับ =-ME = สื่อสาร =-MA=พลังงาน = Ar/po = ทางภูมิปัญญา= UR/NE = จากอีกโลกหนึ่ง =JU/PO = ประสบความสำเร็จ

โดยที่ สถานที่ตรงนั้น = AS = NO/PO = ติดต่อทางภูมิปัญญา = จากพื้นโลก =AR/AD = AR/UR = เกิดขึ้นอย่างฉับพลันกระทันหัน = NE+KR-AD = กับเทหวัตถุนอกโลก,จานบิน,ดาวเคราะห์ = JU/UR = อย่างประสบความสำเร็จ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จับดาวยัดสูตรให้เข้าเรื่องไง วันที่ตอบ 2009-02-11 14:08:03 IP : 118.172.90.133


ความคิดเห็นที่ 22 (1900340)

สังเกตดู  โครงสร้าง YOD ดัชนีพระเจ้า ในภาพดวงของ อังคาร-เสาร์ = เมอริเดียน  จึงทำให้ขาดช่วงไป เพราะ อังคาร/เสาร์ = การหยุดชะงัก  ทีนี้มาดูว่า  อังคาร/เสาร์นั้น  ลากเอาอะไรมา  ปรากฎว่า พาเอา   เนปจูน/ฮาเดส = เกิดความเสียหายผิดพลาด = พุธ/เสาร์ = วงโคจร =ฮาเดส / โครโนส = ที่อ่อนสัญญาณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ด้นจะให้มันจนได้แหล่ะ วันที่ตอบ 2009-02-11 14:31:51 IP : 118.172.90.133


ความคิดเห็นที่ 23 (1900493)

สมการที่ยกมานั้นถูกทั้งปรัชญา ถูกทั้งคณิตศาสตร์ ถูกทั้งประชดประชัน แต่ Non Sense และเฟอะฟะมากครับ

เรื่อง NE พูดไปได้เรื่อย ๆ ล่ะครับ พูดเรื่องเนปจูน คนพูดก็ NE ตามไปด้วย โดยเฉพาะ NE.UR อย่าง WowSeti เนี่ยด้วย

สมัยเรียนนู้นนน... ทำการทดลองอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเจออย่างนี้แหละครับ อะไรก็ไม่รู้ เอาเครื่องสโคป คอมพ์จับ ไปจับ NE.UR ลมมันเลยจะจับเอา... ยิ่งไม่ค่อยได้นอนดึก ๆ 5 ทุ่ม ตีห้านี่ อะไรมันก็อะไรนั่นแหละ ทั้งเบลอ (NE) ทั้งเพี้ยน (UR)

แปลดาว ยัดดาว ว่ากันได้เรื่อย ๆ แปลกันไปหนุกหนาน...

NE+KR-AD = .... โคตรไร้สาระสิ้นดีSU+ME-NO = .... ไอ้หมอนี่โม้ไปทั่ว

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-11 20:54:20 IP : 58.9.54.196


ความคิดเห็นที่ 24 (1900495)

ที่ว่า...สมการที่ยกมา...นี่หมายถึงสมการที่ผมยกมานะครับ เช่น ME-ME-UR = SU ...

(ย้อนอ่านแล้ว เห็นว่าเขียนไม่เคลียร์ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน)

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-11 21:01:16 IP : 58.9.54.196


ความคิดเห็นที่ 25 (1900523)

ไม่มีใครสรุปว่า  ที่พิสูจน์ตามหลักโหราแนวยูเรเนียนที่เอามานำเสนอนี้   ถูกผิดหรอกคับ   เพียงแต่สะกิดใจให้ผู้อ่านรู้ว่า  ขนาดสัญญาณจากนอกโลก  พวกเราก็ยังสามารถเอามาเล่นเอามาพิสูจน์ทางตรรกะโหรากันก็ยังได้แถมยังให้ผลที่แปลกๆ  ซะด้วย

ที่มามันคงจะเป็นว่า ne+kr-ad = -ad  นี่แหล่ะ  เพราะในทางคณิตศาสตร์  = ne+kr = -ad+ad = 0  แล้วจะใส่ ad ไปทำไม? ให้มันเกะกะ  ถ้าอย่างนี้ก็โมเมใส่อะไรลงไปก็ได้นะสิ  เพราะ  ne+kr = 0 = จุดเมษ

ก็ต้องขออธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจเพิ่มขึ้นว่า ne+kr-ad = ดาวพระเคราะห์ , วัตถุท้องฟ้า  , วัตถุหนักในที่อันไม่มีขอบเขต ( UFO ) ที่มาจากคำแปลหน้า  361 สูตรพระเคราะห์สนธิ

จากสมการ  ศูนย์รังสี= (a + b )/2 = ( c+c )/2 = (2c )/2 = c  หรือ จุดกึ่งกลางของ ปัจจัย a และ ปัจจัยb มีค่าเท่ากับปัจจัย c โดดๆ

พอเราต้องการหาเรื่อง ซึ่งได้แก่ UFO มายัดดาว  เพื่อจะให้เป็นสูตรตามกระทู้ ที่ตั้ง   ก็เลยหลีกเลี่ยงตัด ad สะท้อนไม่ได้  ซึ่งในกรณีก็เวลานี้ดันมาเข้า  ad สะท้อนซะด้วย น่ะสิ

ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล เคยตั้งสมมุติฐานว่า  สูตรพระเคราะห์สนธินั้น  ถ้าจะให้ผลแม่นยำจริงต้อง   เป็น โครงสร้างของ  a/b = c  โดยที่ c ต้องเป็นดาวโดดเท่านั้น   แต่ปัจจุบันโดยมากเข้าใจกันว่าเป็น  a+b-c  หรือ เป็นการแปลความหมายของจุดอิทธิพล หรือ planetary picture
                              

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ไม่งั้นมันก็ไม่เป็นประเด็นน่ะสิ วันที่ตอบ 2009-02-11 21:58:03 IP : 118.172.91.76


ความคิดเห็นที่ 26 (1900565)

  บาง คห.ภาษาไม่รื่นหูเลย กระทู้สดุดเลย เฮ้อ

ผู้แสดงความคิดเห็น เข้ามาอ่าน วันที่ตอบ 2009-02-11 22:41:59 IP : 61.19.65.142


ความคิดเห็นที่ 27 (1900578)

คห. 25 ตอบได้ดีครับ กลับเข้าลู่เลย ส่วนผมก็ไม่อยากให้กระทู้สะดุดหรอกครับ เพียงแต่กระตุกบ้างเล็กน้อย ไปกันต่อเถิดครับ

ใช้จุดแบบ A+B-C, A-B-C, A+B+C, A/B//C ก็คงไปต่อกันได้อีกยาว ผมจะนั่งนิ่ง ๆ ละ

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-11 23:26:18 IP : 58.9.54.196


ความคิดเห็นที่ 28 (1900588)

คิดว่าการแสดงความคิดเห็นในมุมมองแต่ละคนเป็นสิ่งที่ดี เพราะเท่าที่ติดตามเวปนี้คือเวทีแชร์ความคิดแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ แต่หากเป็นไปได้ของให้หลีกเลี่ยงการเสียดสี ประชดประชัน หรือการสร้างบรรยากาศเครียดเท่านั้นแหละ  และหากคุณเลือกที่จะนั่งนิ่งๆก็เป็นสิทธิ์ของคุณ แต่จะเป็นการดีกว่ามิใช่หรือหากกลับเข้ามาแชร์ไอเดียใหม่ในรูปแบบที่อ่านแล้วสมูทมากกว่านี้ และเท่าที่ผ่านมาก็ติดตาม ชื่นชม & ทึ่งในแนวความคิดของคุณเหมือนกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น เข้ามาอ่าน วันที่ตอบ 2009-02-12 00:36:15 IP : 61.19.65.142


ความคิดเห็นที่ 29 (1900657)
เอาประเด็นใหม่ดีกว่า   นี่เลย  วันที่  21  กรกฎาคม 2512  เวลา  9.56  น. กรุงเทพ แนวเดียวกับกระทู้ UFO สัญญาณจากนอกโลกนี่แหล่ะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..พิสูจน์ดูซิว่าเป็นไงมาไงจริงบ่ วันที่ตอบ 2009-02-12 09:33:54 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 30 (1900658)

ดูจากยอดคลิกแล้ว แสดงคนชอบกระทู้นี้มาก ผมอาจไม่เข้าใจอารมณ์ของกลุ่มคุย ก็เลยรู้สึกว่าเอาจุด 3 ดาวมาใช้แล้วมันจะเฟ้อได้ จึงได้เข้ามาขัดอารมณ์ชวนให้คิดกัน แต่มาคิดดูอีกทีแล้ว คงเป็นกลุ่มที่คุยกันเรื่องนิยายวิทยาศาสตร์ (NE.UR) ไม่ได้จะเอาความจริงอะไร ผมก็เลยต้องขอโทษที่เข้ามาผิดคิวไปหน่อย

ขอแสดงความคิดเห็นเจาะเฉพาะเรื่องจุด A+B+C ต่อไปก็แล้วกันครับว่า จุดอย่างนี้ใช้ได้แค่ไหน ในกรณีใด ผมคิดว่าเรื่องนี้ในสมัยหนึ่งก็คงมีการคุยกันมาก ทั้งค้นหาหลักฐานมายัน เช่น Carl Perch ยกข้อเขียนของ Alfred Witte ที่กล่าวถืงไว้ในที่ต่าง ๆ

ซึ่งสรุปย่อที่สุด ก็คงต้องอ้างถึงศัพท์ที่มีความคล้ายกับ จุดสะท้อน (Antiscia) แต่เป็นอีกมุมมองหนึ่งคือ จุด Anareta ซึ่งสามารถคำนวณได้จาก ผลรวมของจุดกรกฎ (90 องศา) + จุดมกร (270 องศา) ซึ่งเท่ากับ 360 (มองง่าย ๆ ก็คือจุดเมษนั่นเอง หรือค่าครบรอบตามฮาร์โมนิกส์ของ "โลก")

เราอาจหาจุดอิทธิพล (A+B-C) จากหลักการ Anareta ได้โดยเอา กรกฎ(70)+มกร (290)-ดาว C

จากแกนดาว A+B (หรือเมื่อเป็นศูนย์รังสีจะอยู่ที่ A/B) จะทำให้เป็นจุดอิทธิพล เราต้องเอา C มาลบ เขียนว่าเป็น A+B-C

กรณี A+B+C จึงเกิดขึ้นได้โดยนำเอาจุดอิทธิพลที่เกิดจากหลัก Anareta นั้นมาลบ เขียนได้ว่า A+B-(Anereta ของ C หรือ กรกฎ+มกร-C) ซึ่งก็จะได้ A+B-(-C) หรือ A+B+C ในที่สุด

เนื่องจาก กรกฎ+มังกร = 90+270 = 360 = เมษ (AR) นั่นเอง ดังนั้นมองอย่างจุดสะท้อนรอบแกนเมษ ตามที่เรานิยมใช้กันในประเทศไทย Anerata ของ C ก็คือ AR+AR-C หรือ - C นั่นเอง (ซึ่งเรามองเป็น สะท้อน C เป็นการมองจากต่างนิยาม แต่อธิบายความจริงเดียวกัน)

ยกตัวอย่างกรณีจุด MC+PO+SU หรือ Perch Point (เรียกตามชื่อของ Carl Perch ผู้คิดและนำเสนอจุดนี้ แต่ Carl เรียกว่า Personality Point หรือ Point of Personality แล้วแต่ภาษา) ซึ่งแปลว่า "จิต และใจ ในกาย" (body, soul and mind หรือ non-physical part (Geist-seele = spiritual soul) ผสมกับ physical part (body) โดยที่มองว่า คนเรามีส่วนที่เป็นกายภาพคือ SU กับ ส่วนที่ไม่ใช่กายภาพคือ MC+PO โดยที่ MC เป็นส่วนที่คิด ตัดสินใจ สั่งการอะไรต่าง ๆ ซึ่งพอจะตรงกับคำว่า "ฉัน, กู" โดยทั่ว ๆ ไป สำหรับ PO เป็นส่วนที่เก็บจำและส่งต่อประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ หรือพอจะตรงกับคำรวม ๆ ของไทยว่า "จิตวิญญาณ")

จุด MC+PO+SU นี้เขียนใหม่ได้เหมือนกันว่า MC+SU+PO หรือแปลว่า "ฉัน, กายฉัน และจิตวิญญาณของฉัน" เมื่อมองอย่างหลักการ Anerata จะได้ว่า Anerata ของ PO คือ กรกฎ+มังกร-PO ดังนั้น MC+SU-PO = MC+SU-(กรกฎ+มังกร-PO)

เมื่อมองอย่างไทยที่คุ้นเคยกัน มันก็คือ MC+SU-(AR+AR-PO) ซึ่งจะกลายเป็นรูป A+B-C หรือจุดอิทธิพลมาตรฐานแล้ว แปลตามปรัชญาได้ว่า "ฉัน, กายฉัน และจิตวิญญาณซึ่งเหมาะสมที่จะมาเกิดในโลกนี้" อันทำให้เข้าใจได้เลยว่า MC+SU+PO ทำไมจึงจะใช้งานได้

แยกในส่วน AR+AR-PO ซึ่งเท่ากับ กรกฎ+มังกร-PO มาแปลเชิงปรัชญากันโดยเฉพาะต่อไปดีกว่าว่า จิตวิญญาณของโลก, จิตวิญญาณองค์รวม (Collective Phyche), จิตไร้สำนึก (Subconscious ในกรณีนี้แปลคำนี้ว่า จิตไร้สำนึก ดูจะเหมาะกับ จิตใต้สำนึก คือเป็นจิตส่วนที่คนเราหาสำเนียกไม่ มิได้อยู่ใต้ ๆ บางอย่างตามศัพท์คำหลังนั้น),

มองอย่างทฤษฎีฮาร์โมนิกส์ AR+AR-PO นี้อาจหมายถึง จิตวิญญาณที่เป็นญาติพี่น้อง (ฮาร์โมนิกส์) กันกับโลก หรือ ดวงจิตที่เหมาะสมที่จะมาเกิดในโลก (หรือภพภูมินี้) หรือ จิตวิญญาณที่สั่นสะเทือนเข้ากันกับเลยฮาร์โมนิกส์ของโลก (360)

การมองอย่างทฤษฎีฮาร์โมนิกส์นี้ AR+AR-PO คือจุดลอย ๆ หรือวิญญาณที่ล่องลอย (เกตุ ๙ ไทย?) แม้จะเป็นจิตที่ยิ่งใหญ่ จิตจักรวาล (ปรมาตมัน) หรือจิตองค์รวม อันเป็นที่รวมของเรา มนุษยชาติทั้งปวงว่าล้วนมาจากที่เดียวกัน แต่ในต่างกรรมต่างเวลากัน (MC+SU) จุด AR+AR+PO ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

คนที่จะมาเกิดในโลกนี้ได้ (เป็นญาติพี่น้อง หรือฮาร์โมนิกส์ของโลก) จะต้องมีจุดลอย ๆ คือ AR+AR-PO นี้ไปลบออกจาก MC+SU แล้วส่งพลังเกิด "จุติ" ขึ้นในโลกตามสภาวะแห่งกรรมของคนหนึ่ง ๆ นั้น

หาก MC+SU-(AR+AR-PO) = MC+SU+PO นี้ไม่เอื้ออำนวยที่จะ "จุติ" ในโลก (คือสอดคล้องกับฮาร์โมนิกส์หรือภพภูมิของ "โลก" หรือ "คน" นี้) ก็จะเกิดมาเป็นคนไม่ได้
ฮาร์โมนิกส์ (หรือเลขแห่งการสั่นสะเทือน (Vibration) สมมติเพื่ออ้างอิงใช้ในการคำนวณ) ของโลก ก็คือ 360 เมื่อมองกลับไปที่รากฐานคือ ดาวเดี่ยว = เมษ ว่าแรง คือ ฮาร์โมนิกส์ของดาวนั้นมันตรงกันกับฮาร์โมนิกส์ของโลก (ในทางคลื่น ฮาร์โมนิกส์ คือความถี่เป็นจำนวนเท่าของความถี่หลัก ศัพท์ชาวบ้าน เราพูดได้ว่า มันเป็นญาติพี่น้องกัน ดังที่เราใช้ในภาษาเรียกขานในนักวิทยุสมัครเล่น ว่า ฮาร์โมนิกส์ หมายถึง ภรรยาและลูก ๆ)

ซึ่งเราพิสูจน์ด้วยคณิตศาสตร์ได้ว่า A= AR และแปลงให้ใช้ได้กว้างขวางขึ้นให้อยู่ในรูปทั่วไปของ ศูนย์รังสี = เมษ ได้ว่า A/A = AR (และพิสูจน์ต่อเป็นรูปทั่วไปของ จุดอิทธิพล = เมษ ได้ว่า A+AR-AR = AR ส่วน Antiscia กับ Anerata คนไทยเรา "รับรู้" รวมกันเป็น AR+AR-A หรือ -A ดังที่เล่ามายืดยาว)
จาก A/A = AR เราจะมองเห็นว่า "แรง" เมื่อ = คือมุมสัมพันธ์ตามค่าฮาร์โมนิกส์ของโลก คือองศาหรือความถี่ซึ่งเป็นจำนวนเท่าของ 360
ทำให้เป็นรูปทั่วไปในเชิงผลรวม (Summ) ได้ว่า A+A = AR+AR หรือย่อกลับได้เป็น A+A = AR หรือ A+A = 360 (ค่าฮาร์โมนิกส์หรือสภาวะที่สิ่งใด ๆ จะ "สมคล้อย" หรือ "พ้องพร้อม" (Synchronicity) กับโลก)

หาก A+A นี้ทำให้อยู่ในรูปทั่วไปเพื่อใช้งานได้กว้างขึ้นคล้ายศูนย์รังสี (A+B /2) แต่อยู่ในรูปของผลบวกแทน จะได้ว่า A+B = 360 เรายังคงได้ความจริงในมุมของ A/B = 360 หากจะมองอย่างศูนย์รังสีเช่นกัน (ดาว 2 ดวง อะไรบวกกันได้ 360 แสดงว่า ดาวคู่นั้นได้มุมสัมพันธ์กับ "โลก" จึงส่งผล "แรง")

รูปผลบวกนี้ นำมาขยายผลต่อไปให้มากกว่า 2 ดาว จะได้ว่า A+B+C (พบบ้างว่าฝรั่งบางท่านเรียกว่า Mean Point) และ A+B+C+D และ A+B+C+D+E ไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะใช้งานได้ ต้องไปเท่ากับ "โลก" หรือ 360

หากเทียบกับมุมสัมพันธ์ที่ "แรง" โดยมองอย่างง่ายที่สุด คือให้ระยะระหว่าง A กับ B กับ C เท่ากัน จะได้ว่า A+B+C = AR ก็คือเป็น "ตรีโกณ" (Grand Trine)
และเช่นกันกับ A+B+C+D = AR ก็คือ "จตุโกณ" (Grand Cross)
และเช่นกันกับ A+B+C+D+E = AR ก็คือ "เบญจโกณ" และต่อไปอย่างนี้เรื่อย ๆ

บางท่านมองว่า Alfred Witte ขยายผล "ตรีโกณ" มาเป็น พระเคราะห์เข้ารูป (Planetary Picture) ในแบบ A/B = C ซึ่งในกรณีของ "ตรีโกณ" ตามโหราศาสตร์ดั้งเดิมนั้น ระยะจาก A ถึง B (หรือ A-B) จะต้องได้ "มุมสัมพันธ์" (Aspect) ด้วย จึงจะแสดงผลรุนแรง เช่น A-B = 120 เป็น ตรีโกณใหญ่ รุนแรงและสมดุลที่สุด A-B = 180, 90 , 60 ก็ใช้ได้ และมีชื่อเรียกเฉพาะตั้งไว้ต่าง ๆ แล้ว (T-Square, T-90, Yod) ซึ่งที่จริงถ้าเข้าใจ "พระเคราะห์สนธิ" ก็ไม่จำเป็นต้องจำ หรือตั้งรูปเฉพาะพวกนี้อีก เพราะได้รวบสถาปนารวมกันไว้ใน "พระเคราะห์สนธิ" แล้ว

หากมองในแบบนั้น Alfred Witte ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า A/B = C นั้นใช้ได้เป็นการทั่วไป A-B ไม่จำเป็นต้องได้มุมสัมพันธ์ต่อกันต่ออย่างใด นี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีผู้มองเห็นมาก่อน (แล้วก็พิสูจน์ขยายรูปทั่วไปออกเป็น A+B-C = D ("แรง" เป็นพิเศษเมื่อ D = AR เพราะจะได้เป็นญาติพี่น้องหรือร่วมฮาร์โมนิกส์กัน) หรือ A+B = C+D หรือ A/B = C/D ย้อนไปย้อนมาระหว่างรูปดาวเดี่ยว ศูนย์รังสี และจุดอิทธิพล จะได้ลงรอยกันได้หมด เป็นทฤษฎีอันเป็นหนึ่งเดียวกัน)

กลับมาที่ผลบวกของ A+B+.... หากขยายผลขึ้นให้อยู่ในรูปทั่วไปในลักษณะคล้ายกัน คือไม่เกี่ยวกับระยะเชิงมุมระหว่าง A, B,... แต่อย่างใด จึงทำให้ได้จุด MC+SU+PO (หรือ MC+PO+SU ลำดับไม่สำคัญเมื่อเป็นผลบวก) ใช้งานได้ แต่ "คนนี้" จะมาเกิดในภพภูมิของโลกได้ ก็ต่อเมื่อจุดนี้ไปเท่ากับข้อมูลชุดหนึ่งที่เอื้อต่อการ "จุติ" ในโลกได้ พวงของข้อมูลชุดนั้นบ่งบอก "กรรม" ที่ติดตัวมาจาก "ชาติก่อน" (...the beyond (เหนือโลก, พ้นโลกออกไป, ที่แห่งหนึ่งนอกเหนือไปจากโลกนี้), วิญญาณจากโบราณกาลหรืออดีตอันไกลโพ้น, ... มีหลายโครงสร้าง และหลายศัพท์ หากแปลเข้าอย่างไทยให้ดี จะพบว่า คล้าย ๆ จะเป็นการ "มาจาก" และ "ไปยัง" ซึ่ง "นรก" หรือ "สวรรค์")

จุด MC+SU+PO จึงใช้เป็นตัวบอกตัวตนที่แท้จริง และ "องศาสำคัญ" (หรือคล้ายกับแนวคิด Sabian Symbol นั่นเอง) ได้ Carl Perch ตั้งชื่อได้เหมาะสมว่า Personality Point (แต่ออกจะเป็นเชิง จิตวิทยา ตามสมัยนิยม) คือมันเป็นจุดที่บอก "เกือบจะทุกสิ่ง" ของเจ้าชะตา ว่าชีวิตนี้เกิดมาจากหนใด "กรรม" ใด เกิดมาเพื่ออะไร มารับใช้อะไร จะไปสู่ที่ใดเมื่อ "ตาย"

เมื่อขยายผลผลรวม เป็น 4 ดาว เช่น SU+MO+MC+AS จึงได้จุด Destiny จากรากฐานแนวคิดเดียวกัน (ซึ่ง Carl Perch เป็นผู้คิดเช่นกัน) ดังความเข้าใจของผมที่เล่ามาแต่ต้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมได้เคยเสนอจุดไว้บ้าง เช่น SU+MO+MC+AS+VX ว่าเป็นจุด Higher Destiny (โดยให้ความสำคัญกับ VX ว่าเป็นจุดเจ้าชะตาที่สำคัญด้วย) ว่าเป็นค่า "องศาสำคัญ" หรือ ค่าฮาร์โมนิกส์แม่หรือหลักหรือฐาน อันแสดงถึงตัวเจ้าชะตาได้อย่างแรง (เหมือน โลก หรือ เมษ มีค่าฮาร์โมนิกส์ = 360)

เมื่อเข้าใจเรื่องโค้งสุริยยาตร์ (Solar Arc) แล้วนำเอาเรื่อง A-B (ระบุช่วงระยะเวลาแสดงผลของ A/B = C) กับ A+B ไปคิดต่อ โดยให้ ARv = AR+V = AR+SUv-SUr = SUv-SUr แล้วแปลงรูปให้อยู่สมการพื้นฐานแบบ A/B (A+B /2), A+B-C, A+B=C+D, A-B=C-D จะทำให้เข้าใจลึกซึ้งขึ้นว่ามันบอกอะไร จากการพิสูจน์ได้ว่า มันใช้พยากรณ์อนาคตได้จริงหรือไม่

และขอสรุปไว้ในท้ายนี้สักนิดว่า การใช้ในรูป A+B+C, A-B-C นั้นหากไม่เข้าใจที่ไปที่มา จะทำให้หลงหรือ "หลุด" ได้ง่าย ๆ ที่แท้แล้วอาจแปลงให้อยู่ในรูปที่ง่ายกว่านั้นได้มาก เช่น ME-ME-UR = SU เขียนง่าย ๆ ก็ได้ -UR = SU ไม่รวมนัยแห่งการส่งสัญญาณว่า "มันก็ตื่นเต้นกับทุกเรื่องแหละ-ในวันนั้น"

และจากรูปที่เขียนง่ายเกินไปอาจ "หลุด" ได้ง่ายเช่นกัน ควรเขียนในรูปสมการมาตรฐาน เช่น -AD = AR+AR-AD (หรือ กรกฎ+มังกร-AD นั่นเอง) อีกทั้งยังทำให้แปลในเชิงปรัชญาได้ง่ายขึ้นและลึกซึ้งขึ้นด้วย โดยเห็นความเกี่ยวกันโลก คือ AR อย่างแรง (ฝรั่งเขาไม่เขียน -A แต่เขียนในรูป AR+AR-A เสมอ คงจะมีเหตุผลโดยนัยนี้ด้วยมั้ง)

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-12 09:36:17 IP : 58.9.54.196


ความคิดเห็นที่ 31 (1900663)

เวลานี่เป๊ะชัวร์เลยนะครับ เพราะผู้เชี่ยวชาญท่านยืนยันด้วยตาเห็นเชียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ลองแกะดูดิแล้วจะตะลึง วันที่ตอบ 2009-02-12 09:43:40 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 32 (1900665)
คห.30  สงสัยตื่นแต่เช้า ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมัวพิมพ์  
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ขอบคุณค้าบ วันที่ตอบ 2009-02-12 09:46:06 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 33 (1900684)

ตาม คห.31 นั้น  เรื่องมันยุ่งเพราะ  โหรเราติดภาพว่า  โลกมันแบนเพราะดวงมันเป็นทรงกลมแบน   ซึ่งจริงแล้ว  โลกเป็นทรงกลมและจักรวาลก็เป็นทรงกลมฟ้า มีการปัดเหนือปัดใต้ ( Declination ) และ ระยะห่างดวงดาวในแนวระนาบ ใกล้-ไกล ไม่เท่ากัน แถมการโคจรยังเป็นวงรีคล้ายลูกแพรซะอีก มิหนำซ้ำโลกมีสันฐานกลมคล้ายผลส้มตรงกลางป่องออก

การสะท้อนแกนนั้น  ตามปรัชญาทางการแปลความหมายท่านว่า  หมายถึงผู้อื่นเห็น เป็น passive ทีนี้ Po หรือ โปไซดอนเนี่ย  แปลว่า วิญญาณ หรือ แนวความคิด  ซึ่งมันแสดงออกภายใน  มีค่าเป็นบวก   พอแสดงออกมาให้ผู้อื่นเป็นจะมีค่าเป็น ลบ  แต่ถ้าไม่มองเห็นอยู่ภายในจะมีค่าเป็น บวก  ดังนั้น Carl Perch ก็ไม่ผิดที่มีค่า  Po เป็นบวก  แสดงว่า  ตะแกเป็นมวย  เข้าใจเช่นกันว่า  ถ้าใช้ Po เป็นลบไม่ได้  เพราะต้องการสื่อกับทางจิตวิญญาณภายใน  ไม่ใช่ภายนอก  ซึ่งความหมายนี้เป็นคนละเรื่องกัน   เพียงแต่ว่า การพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์มันยาก

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ปรากฏการณ์กับความเป็นจริง วันที่ตอบ 2009-02-12 10:09:52 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 34 (1900697)
ทำไปทำมา มันเป็น วิชาใหม่แนว Fractal Geometry  ไม่ใช่แนว Euclid  Geometry แบบเดิมๆ  
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เคยเรียนแต่คณิตศาสตร์การพนัน วันที่ตอบ 2009-02-12 10:35:52 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 35 (1900708)

http://images.google.co.th/images?sourceid=navclient&hl=th&rlz=1T4GGLJ_th&q=fractal+geometry&um=1&ie=UTF-8&ei=65mTSfe9F9XJkAWBsIWEDA&sa=X&oi=image_result_group&resnum=4&ct=title

http://en.wikipedia.org/wiki/Fractal

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...มีที่มาที่ไป วันที่ตอบ 2009-02-12 10:42:58 IP : 118.172.24.144


ความคิดเห็นที่ 36 (1900725)

ตอบ คห. 34

ที่จริงก็เป็นเรื่องเดียวกัน คือ ไม่ว่า ยุคลิด หรือใครคิดก็ตาม เพื่อให้ใช้อ้างอิงคำนวณต่อกันได้ว่า 1 รอบวงกลม มี 360 องศา

เมื่อโลกกลม ก็จะ 360 องศาด้วย เมื่อจักรราศีกลม ก็จะ 360 องศาด้วย และการคิดคำนวณอื่น ๆ ที่ตามมาจะต้องมีสัมพัทธภาพ (Relativity) ถึงกรอบเดียวกันนั้น

หากมองเป็น Fractal (ส่วนย่อย ๆ ประกอบขึ้นเป็นตัวใหญ่นั้น) จะบวกลบคูณหารอย่างไร ก็ต้องไม่เกินเลข 360 นั้น หากเกินก็ต้องทอนออก (คิดแบบส่วนย่อยนี้ก็คิดแบบ มันประกอบหรือเกิดจากอะไร ให้ละเอียดลออไป แต่สิ่งนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งนั้นเช่นเดิม และเราไม่อาจสังเคราะห์สิ่งนั้นด้วยการผสมสิ่งย่อย ๆ ที่เราแยกแยะนั้นได้ง่าย ๆ เราเพียงย่อยเพื่อสะดวกแก่การใช้ในเรื่องเฉพาะหนึ่ง ๆ เท่านั้น)

เหมือนแผ่นจานหมุน ซึ่งก็คือเครื่องคำนวณ คิดเลขในกรอบ 360 (หรือฮาร์โมนิกส์มูลฐานของโลก ทรงกลม วงกลม ราศีจักร จักรวาล) จานหมุนนี่ยอดเยี่ยมมากที่มันยังเป็นหน่วยความจำ (Memory เทียบได้กับปุ่ม M, M+, M- บนเครื่องคิดเลข) ที่แสดงตำแหน่งดาวต่าง ๆ ได้ด้วย อีกทั้งเป็นภาพที่ก่อเกิดจินตนาการหรือการประเมินเชิงแนวโน้มได้ดีกว่าตัวเลขและสมการอีกด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-12 11:09:14 IP : 58.9.67.216


ความคิดเห็นที่ 37 (1900783)
ในมิติมุมมองของ วิศวกร  อิเลคโทรนิค ก็พยายามให้มันเป็นเช่นเดียวกับวงจรไฟฟ้า circuit  ที่มีกรอบ input process และ output เป็น object และ module  เช่นนี้แล  แต่ มิติเวลาและอวกาศ  ถ้าลอกออกมาทีละ เลเยอร์  มันจะเห็นอาการ เป็น fractal  แต่ถ้ามองจากรูปที่ซ้อนเลเยอร์สำเร็จรูปแล้ว   มันก็เป็นเช่น  circuit นั้นก็ไม่มีใครเถียงได้  เพราะปรากฎการณ์ก็เห็นที่คำนวณได้มันก็เป็นเช่นนั้น จริงๆ     แต่จากประสบการณ์ที่เคยใช้มันสังหรณ์ใจชอบกล  อาจจะมีมากกว่าที่นึกลงได้ลึกกว่าที่คิดเคยคิดเอาไว้ก็เป็นได้  อย่างที่พระท่านว่า   สัพเพ สังขารา อนิจจัง   สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..จักรวาลในเปลือกลูกนัทด้วยคน วันที่ตอบ 2009-02-12 12:04:49 IP : 118.172.34.123


ความคิดเห็นที่ 38 (1900789)

อ้าว แล้วเรื่อง  สัญญาณจากต่างดาว  ดวงใหม่นี้  ว่าไงดีคับ....ช่วยพิสูจน์กันหน่อยน่า

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เค้าว่าจริงกันนะ วันที่ตอบ 2009-02-12 12:08:00 IP : 118.172.34.123


ความคิดเห็นที่ 39 (1900856)
อ.ภารต อย่าเพิ่งแพร่งพรายนะครับว่าเรื่องเป็นอย่างไร (หรือเปิดไปแล้ว) จักขอศึกษาหน่อยว่า จะเริ่มตรงไหน จะทายกันอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สไตล์ จุดอิทธิพล หากใช้ได้จริง ผมจักได้ดวงตาบ้าง
ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-12 13:51:04 IP : 58.9.67.216


ความคิดเห็นที่ 40 (1900948)

อุ๊บอิ๊บ...ยังไม่เฉลยก็ได้....  ทายกันมาได้เลยคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...งานเนี๊ยะน่าทึ่งของจริง วันที่ตอบ 2009-02-12 16:13:29 IP : 118.172.55.178


ความคิดเห็นที่ 41 (1900981)

สไตล์การใช้จุดอิทธิพลนั้น  ถ้าใช้แกะจากเหตุการณ์ที่รู้เฉลยแล้ว  จะทึ่งและมหัศจรรย์กับมัน แต่ถ้าใช้ทำนายก็จะโดนบล๊อคด้วยกองทัพจุดและกองกำลังเรือนชะตา  ที่แห่แหนยกพลกันมาให้ผิดเพี้ยนไปได้ง่าย  จำต้องหาวิธีจากดวงสากลกรองให้เบาบางซะก่อนแล้วค่อยเข้าไปจับประเด็นหนักๆ  ด้วยยูเรเนียนอีกทีนึงเพื่อขยายให้มั่นใจ  และถึงจะใช้ทำนายได้อย่างแน่ใจว่า  คำนายนั้นไม่เข้าป่าเข้ารกเข้าพงออกทะเลมหาสมุทรเป็นแน่

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ต้องใช้หลายๆแบบมีรุม วันที่ตอบ 2009-02-12 17:17:04 IP : 118.172.55.178


ความคิดเห็นที่ 42 (1901055)
วันนี้ขณะทำงานอยู่ เปิดอ่านกระทู้ เห็นตอนแรกนึกว่า เอาอีกแล้วงานเข้ารึเปล่าเนี่ยเรา ไหงออกมารูปนี้ แต่อ่านไปก็พอเข้าใจเจตนาได้อยู่ เพียงแต่วิธีการนี่เล่นเอาเกือบตกเก้าอี้
 
ที่จริงๆ ข้าพเจ้าไม่คิดว่ากระทู้นี้เป็นแค่นิยาย Sci-Fi เท่านั้นหรอกครับ เพราะก็เ็ป็นเรื่องที่สนใจอยู่ด้วย มองว่าเป็นเรื่องของ Astrology Detective มากกว่า คิดว่าเราน่าจะสามารถเอาหลักวิชามาิวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ที่อาจจะไม่สามารถตอบด้วยศาสตร์อื่นๆได้ น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่นักโหราศาสตร์ควรจะทำ แม้แต่อย่าง Carl Perch ยังได้ชื่อว่าเป็น Astrologer Detective ช่วยงานกับกรมตำรวจเลย นี่ถ้่า DSI เปิดแผนกนี้แล้วเรา้เข้าไปอยู่ เผลอๆ หลายคดีอาจกระจ่างไปแล้วก็ได้ เอิ๊กๆๆๆ
 
ตอนตอบครั้งแรกก็เหมือนเล่นๆ แต่ที่จริงก็คัดกรองสมการที่เกี่ยวข้องมาร้อยเรียงเรื่องราวไปเหมือนกันครับ แล้วเมื่อมาดูรายละเอียดก็พอจะเห็นความเชื่อมโยงของ 2 เหตุการณ์ที่น่าสนใจเหมือนกัน อีกทั้งดวง Solar Return ก็สอดรับอีก เลยมาสรุปเป็นข้อมูลอ่านล่วงหน้าไปอีกหน่อย ก็คงต้องติดตามผลกันต่อไป
 
ทีนี้มาดูดวงอันต่อไป ตาม คห.29 ผูกดวงตอนแรกก็น่าสนใจแล้วเพราะ NE+KR-AD=AR(แกนมกร)เข้าเต็มๆ แสดงว่าตั้งใจคัดสรรเรื่องมาเข้าประเด็นแน่นอน แต่มาถามเอาวันนี้ SU ทับ NE และ เท่ากับ MC ดูๆเหมือนว่าในคำถามจะมีอะไร ลับลวงพราง อยู่มั่งรึเปล่า แต่ตรวจต่อพบว่า NE+KR-AD= -MO แสดงว่าคงไม่ผิดต้องเป็นเรื่องนี้แน่ เพียงแต่ว่ามี AS=ZE=UR=SA และ SA,MO เรือนที่ 6 แหม่หวาดเสียวเหมือนกัน แต่ไหนๆก็ไหน The Show must Go on (ถือว่าวันนี้ SU=NE เป็น April Fool"s Day ของชาวโหรแล้วกัน)
 
อย่างนี้ก็ไม่ต้องคิดมาก ข้าพเจ้าแสดงให้ดูแล้วกันว่าข้าพเจ้าทำงานยังไง ส่วนผลสรุปจะออกยังไงก็ค่อยว่ากัน ขอปล่อยมีดบินเล่มที่หนึ่ง ออกไปก่อน
 
กรณีนี้มีคำถามเป็นธงนำ และพิจารณาจากกาลชะตาและสมการที่ทดสอบแล้ว ว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้แน่ๆ ก็ค่อยจะสามารถใช้จุดอิทธิพลมาอ่านเลยได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นคำถามประเภทว่าวันนี้ เวลานี้มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ นี่ต้องเหนื่อยอีกหลายรอบ แต่คิดว่าถ้าจะเอาจริงๆ ด้วยเทคนิคของทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ ยังคิดว่าจะพอเอาอยู่ครับ จากที่เคยลองอยู่หลายกรณีในเวบนี้ก็ใช้พระเคราะห์สนธิเป็นหลักอยู่แล้ว
 
เอาเลยละกันจากที่พบ NE+KR-AD=AR แสดงว่ากรณีของเทหะวัตถุจากฟากฟ้าหรือยานอวกาศนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นที่สนใจของทั้งโลก แต่เอ มันจะเกี่ยวกับกรุงเทพไหมหนอ ลองตรวจสอบดูแล้วมันไม่เห็นจะเข้ากับ MC หรือ AS หรือจุดชะตาอื่นๆ ไม่เข้าเลย ทั้งจุดสะท้อนหรือศูนย์รังสีจุดเจ้าชะตาก็ไม่มี งั้นลองหาเทียบกับจุดอิทธิพล A+B-C ดูมั่ง เฮ! พบแล้ว AR+MC-AS[0|-0.10]มุมกุมเลยด้วย ชักเข้าเค้า หาต่อเจออีก SU+MO-MC[45|0.11] แถมยังไปเท่ากับ SU-MO-MC[22.30|-0.08](A-B-C ปกติข้าพเจ้าไม่ใช้ แต่เห็นมีพูดถึงกันข้างบนก็ลองดูซะหน่อย ถือเป็นปัจจัยเสริม) สรุปตอนนี้คือเราได้
 
NE+KR-AD=AR=AR+MC-AS=SU+MO-MC และแถม = SU-MO-MC แสดงว่า ณ วันนี้ ชั่วโมงนี้ เวลานี้ บนโลกใบนี้ มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ เทหะวัุตถุบนฟากฟ้า หรือยานอวกาศเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นที่สนใจโดยทั่วไป
 
มาดูต่อว่าเรื่องราวควรจะเป็นอย่างไร อ่านด้วยพระเคราะห์สนธินี่แหละ จากภาพดวงพบว่าถ้าตั้ง SU+MO-MC เป็นแกน เราจะได้เป็นว่า NE+KR-MC<=SU+MO-MC=>UR.AP.JU(Stellium) ซึ่งก็ได้ภาพเป็น Planetary Patterns แบบ T090 อาจเขียนเป็น SU+MO-MC = [NE+KR-MC]/[UR.AP.JU] แปลความได้ว่า วันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ มีปรากฏการณ์ของเทหะวัตถุบนฟากฟ้า ที่บ่งบอกถึงความตื่นเต้นอย่างมีความสุขเนื่องมาจากผลสำเร็จทางวิทยาการ(กรณีนี้ไม่แปลว่าโหราศาสตร์เพราะไม่เข้ากับสมมุติฐาน) และจาก Stellium ของ UR.AP.JU จึงอ่านต่อได้ว่ามีจันทร์เป็นแกนจะได้ UR.AP.JU<=MO=>PO.CU ก็น่าจะแปลความได้อีกมาก มีอันนึงน่าสนใจ MO=UR/PO อาจแปลว่า การโฆษณาชวนเชื่อในสาธารณะ ตรงนี้ท่านเลยถามว่า พิสูจน์ดูซิว่าเป็นไงมาไงจริงบ่ คงตอบได้ว่า ถ้าจริงก็คงเอาเหตุกาณณ์นี้ไปใช้หากินได้อีกนาน เพราะมันพ่วงเอามาทั้ง AP,JU,CU มาอีก หรือถึงแม้จริงก็ต้องมีคนไม่เชื่ออีกเยอะเพราะ MO=NE ด้วยสิ ถ้าไม่จริงมันก็ต้องเป็น Propaganda ครั้งใหญ่ หรือ conspiracy theory เชียวแหละ
 
ถ้าอ่านมุมอื่นต่อจะได้เรื่องราวเพิ่ม เช่น AS=PL=NO = -SU= -ME = MA น่้าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแบบรื้อถอนโครงสร้างหรือรูปแบบความสัมพันธ์บางอย่างเดิมไปด้วย และ เกิดการวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
 
มีจุดนี้ด้วยครับ SU+ME-NO= -SU ซึ่งก็คือ A+B-C= -A ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นกลลวงทางคณิตศาสตร์ ก็เลยไม่ใช้ แต่กรณีนี้มันได้ว่า ME = NO ในมุม 11.15 (แปลกกว่าปกติ เป็นเพราะ SU=ME ด้วยอ่ะ)
 
ถ้าไม่ใช้แล้วมีจุดอื่นให้ใช้ไหมล่ะ ลองสืบค้นดู ได้ว่า SU+NO-ME=MC แทน ซึ่งแปลได้ใกล้เคียงกันว่า การส่งข่าวสาร หรือการติดต่อ และยังมี ME+VU-UR= -AS เป็นข่าวใหญ่ที่น่าตื่นเต้น
 
ทั้งหมดที่อ่าน มาจากพื้นฐานสมมุติฐานว่า มี NE+KR-AD เกิดขึ้นจริง หากไม่ใช่ก็คงผิดแบบเข้าป่าไปเลย แต่หากใช่ก็แสดงว่า สมการ NE+KR-AD สามารถใช้ในการตรวจเรื่องแบบนี้ต่อไปได้ และเป็นการข้ามสมการที่น่าจะไม่เข้ากับเรื่องราวออกไป หรือหากเกี่ยวกับเรื่องนี้มันก็อาจแค่เบาบางไป
 
ก็ขอปล่อยมีดบินเล่มแรกเพียงเท่านี้ก่อนครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ..มาแว๊ว...เอี๊ยบ(ใบไม้) ไค(ร่าเริง) วันที่ตอบ 2009-02-12 20:39:40 IP : 58.64.106.104


ความคิดเห็นที่ 43 (1901061)
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2009-02-12 21:16:21 IP : 118.172.33.213


ความคิดเห็นที่ 44 (1901107)

ประเด็นเพิ่มเติมในมุมมองอื่นล่ะคับ   ช่วยนำเสนอกันหน่อย  

ผมก็อึดอัดอยากจะเล่าความเป็นมา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต..เค้าขอร้องอย่าเพิ่งชาเหลย วันที่ตอบ 2009-02-12 22:53:33 IP : 118.172.33.213


ความคิดเห็นที่ 45 (1901111)

เรื่อง Detective อะไรเนี่ย  เมืองไทยเราก็มีเหมือนกันคับ  แต่แหม เป็น Thai Style  คับ  เท่าที่ผมรู้  เชอร์ล๊อก  นู  ( พล.ต.ท. ธนู  หอมหวล...มรณกรรมไปแล้ว ) ท่านคิดไม่ออกมั๊ง   เลยใช้ร่างทรงเรียกผีมาถามคับ  อย่างเช่น กรณี คดีเฮียเลี้ยง  วิลล่าคาเฟ่  ผมไปรู้ไปเห็นมาโดยบังเอิญเรื่องมันก็จบไปนานมากแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ห้ามถามต่อเรื่องนี้ วันที่ตอบ 2009-02-12 23:16:26 IP : 118.172.33.213


ความคิดเห็นที่ 46 (1901166)
ถ้ายังไม่แถลงก็จะขอปล่อยมีดบินเล่มที่ 2 ไปเลยแล้วกันไม่รอแระ(เพราะเด๋วจะไม่ว่างแล้ว)  กระทบเล่มแรกที่ปล่อยไปแล้วเพื่อเบี่ยงเบนวิถีออกสักนิดคับ ดวงนี้แปลกๆ เพราะดาวหลายดวงที่พิจารณาเข้ามุมกับเมษ ในมุมเล็กสุดที่ข้าพเจ้าเคยตรวจสอบคือ บางดวงทำมุม 11:15 (Harmonic 32) อ่านออกมาจึงได้อีกมุมมองคือ AR=MO=NE=KR=AD =UR.AP.JU ดังนั้นเราจึงพบว่า NE+KR-AD = NE/KR//AD = NE-KR-AD = NE+KR+AD(หากต้องการลดรูปสมการก็ย้ายข้างไปมาเอาเองนะครับ) กลายเป็นว่า MO ถือเป็นจุดสำคัญของการตรวจสอบไปด้วย ซึ่ง MO=SU/MC ดังนั้นจากเดิมที่เหมือนกับว่า NE+KR-AD ไม่ถึงจุดเจ้าชะตาเดี่ยว แต่ก็มีความแรงได้เพราะโครงสร้างหลายอย่างมันลงตัว(อย่างน่าอัศจรรย์) ซึ่งช่วย Support ได้ว่า NE KR AD ใช้ตรวจเรื่องแบบนี้ได้น่าสนุกครับ และอ่านไปอ่านมาพบว่าดวงนี้เป็นเรื่องของ Harmonic ที่ 32 ซะเยอะเลย
 
ดังนั้นหากต้องการรายละเอียดเพิ่มนอกจากแกนเมษแล้ว เราอาจอ่านจากการตั้ง MO เป็นแกนอ่านต่อไปได้อีกมาก นอกเหนือจาก UR.AP.JU<=MO=>PO.CU เช่น MO=MC/SU=MC/ME=SU/NO=ME+UR-NO....
 
หรือ AS.PL=NO นี่ก็บอกความหมายของ New connections ซึ่งสัมพันธ์ถึง SA กลายเป็น NO+PL-SA=AS=MC ไป New connections which become effective in old age, but not at present การติดต่อใหม่ซึ่งจะส่งผลในวัยชรา(ในระยะยาวต่อๆมา) แต่ไม่ส่งผลในปัจจุบัน
 
สรุปคือ เหตุการณ์นี้เมื่อปักใจว่าใช่แล้ว จิ้มไปตรงไหนก็อ่านได้ใจความที่ต้องการทั้งนั้น (อ้าวววว...เป็นซะงั้น) ล้อเล่น...ที่จริงต้องคิดเยอะเหมือนกันก่อนแปลความ
 
ที่จริงไม่น่าจะเรียกว่าใช้ จุดอิทธิพล นะครับเดี๋ยวจะตีความว่าใช้เฉพาะ ABC เพราะที่จริง A/B ก็คือจุดอิทธิพล น่าจะเรียกว่าเป็นการอ่านด้วยทฤษฎีพระเคราะห์สนธิ จะครอบคลุมกว่า
 
ปล. เห็นโครงสร้างดาวแล้วคิดว่า หากวันนั้นมีการกำหนดฤกษ์เพื่อจัดชุมนุมใหญ่ทางโหราศาสตร์ ป่านี้โหราศาสตร์จะต้องเป็นวิทยาการที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกไปแล้ว เอิ๊กๆๆๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น ..มาแว๊ว...ใบไม้ร่าเริง วันที่ตอบ 2009-02-13 08:19:38 IP : 58.64.106.104


ความคิดเห็นที่ 47 (1901206)

ผมมีข้อคิดอยากจะเสนอว่า...

การที่พูดกันว่า A ที่จริงก็เป็นจุดอิทธิพล หรือ A/B ก็คือจุดอิทธิพลนั้นไม่ถูกต้องนัก ที่จริง A ก็คือดาวเดี่ยว, A/B ก็คือศูนย์รังสี เราเรียกให้ถูกจะแสดงความแรงหรืออิทธิพลของมันได้ชัดเจน

ชื่อเรียกเหล่านี้บ่งบอกระดับความแรงหรือสำคัญอยู่ในตัว อย่าไปลดค่าที่แท้ของมัน

แต่ที่พูดกันอย่างนั้นได้ เพราะพูดแบบหลังจากที่เราค้นพบทฤษฎีแล้วว่า สามารถใช้ A/B, A+B-C ได้ โดยพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า สามารถเขียน A ให้อยู่ในรูป A/B และสามารถเขียน A, A/B ให้อยู่ในรูปของ A+B-C ได้เสมอ และในทางกลับกับ

คือคล้าย ๆ กับเวลาเราพบสิ่งใหม่โดยการย่อยของเดิม (ยุคลิก กลายเป็น Fractal?) เราเลยคิดว่าไปว่า สิ่งต่าง ๆ คือ Fractal อย่างนี้ไม่ได้ถูกนักในการใช้ปฏิบัติจริง

เหมือนเราบอกว่า สมัยหนึ่งสิ่งต่าง ๆ ก็คือ (ธาตุ) ดิน น้ำ ลม ไฟ พอเราพิสูจน์ได้ละเอียดขึ้น เราว่า สิ่งต่าง ๆ ก็คือ (ธาตุ) คาร์บอน ไฮโดรเจน อ๊อกซิเจน และต่อมาสิ่ง ๆ ก็คือ อะตอม และ อนุภาคย่อย ๆ ฯลฯ

แต่สิ่งต่าง ๆ ก็ยังเป็นไม้ เหล็ก เหมือนเดิม เวลาจะต่อรถเข็น เก้าอี้ เราไม่ต้องมองและไม่ควรมองว่าสิ่งต่าง ๆ เป็นอะไรย่อย ๆ ดังที่ว่ามา เราก็อ๊อกหรือตอกตะปูรวมกันได้เลย

ความจริงในระดับประกอบกันแล้ว มันจริงกว่าใช้ได้เลย และเร็วกว่าแรงกว่าในบริบทส่วนใหญ่

เมื่อก่อนผมก็คิดเห็นด้วย เหมือนกับว่ามันเท่ดี ซับซ้อนดี แต่เพิ่งมาสะกิดใจคิดได้ว่า มันยังไงๆ อยู่นา ดังข้างต้น

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-13 09:18:26 IP : 58.9.67.216


ความคิดเห็นที่ 48 (1901252)
แล้วตกลงว่าจะให้เล่าได้รึยังล่ะคับ   คนอ่านบางท่านอึดอัดใจจะตายอยู่แล้ว  หลังไมค์สอบถามกันให้วุ่นวาย  ถามว่าผมเจอเองเหรอ  ผมก็บอกว่าก็อยู่ร่วมในเหตุการณ์อยู่แต่ยังเด็กมาก  จำได้แต่ว่าเห็นมีพระสงฆ์องค์เจ้าหลายรูป  และใครต่อใครหลายคนที่ผมรู้จัก
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จำได้ลางๆ วันที่ตอบ 2009-02-13 10:24:19 IP : 118.172.25.159


ความคิดเห็นที่ 49 (1901258)

นิมนต์เล่าเลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-13 10:27:47 IP : 58.9.67.216


ความคิดเห็นที่ 50 (1901276)

AR = JU = UR = AP = HA = ZE = KR =SU+MO-MC วันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้

ลองผสมดาวเดี่ยวร่วมแกนแรง ๆ ที่ AR

เมษ.พฤหัส.ฮาเดส
โชคดีในความโชคร้าย

เมษ.พฤหัส.เซอุส
การประดิษฐ์ที่ก่อให้เกิดโชคลาภ

เมษ.มฤตยู.ฮาเดส
เศร้าโศกเนื่องจากเหตุการณ์ซึ่งอุบัติขึ้นโดยฉับพลัน โชคร้ายอย่างหนัก ถูกจู่โจม ฆาตกรรม

เมษ.มฤตยู.เซอุส
พายุ อัคคีภัย การระเบิด

เมษ.มฤตยู.โครโนส
คำสั่งของรัฐที่ก่อให้เกิดความประหลาดใจ เหตุการณ์ภายในรัฐนั้น รัฐประหาร

เมษ.ฮาเดส.มฤตยู
ความสะเพร่าจะเป็นสาเหตุแห่งการถึงแก่กรรม

เมษ.เซอุส.มฤตยู
กระทำการในทันทีทันใด ผลิตวัตถุระเบิด โดยเฉพาะกระสุน ฟ้าผ่า ภูเขาไฟที่ยังครุกรุ่นอยู่

เมษ.เซอุส.ฮาเดส
ไม่บรรลุเป้าหมายเพราะความชั่วร้าย เสียหายเนื่องจากอัคคีภัยธรรมชาติ (เช่น ไฟไหม้ป่า เป็นต้น) ไฟไหม้เนื่องจากฟ้าผ่า

เมษ.โครโนส.มฤตยู
ตื่นเต้นหรือเกิดความเครียดอย่างใหญ่หลวง เหตุการณ์ฉับพลันภายในวงการรัฐบาล โรงงานเทคนิค

เมษ.โครโนส.เซอุส
กระทำการใหญ่ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ไฟไหม้ครั้งใหญ่

เมษ.อาพอลลอน.เซอุส
สร้างเครื่องจักรกล ประดิษฐ์คิดค้นทางด้านวิทยาศาสตร์

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-02-13 10:55:28 IP : 58.9.67.216



[1] 2 ถัดไป >>


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.