ดูย้อนหลังแล้วครับ จาก 2 ลิงค์นี้

http://music.ohozaa.com/my/thaiTVPlayer.jsp?channel=3&w_y=2009&w_time=T23&dateSelected=17-03-2009&MainStreamLocal=/AutoDetected?s=true:hstrm&StreamDetected=strm8&Streamlist={hidden}

ttp://music.ohozaa.com/my/thaiTVPlayer.jsp?channel=3&w_y=2009&w_time=T00&dateSelected=18-03-2009&MainStreamLocal=/AutoDetected?s=true:hstrm&StreamDetected=strm8&Streamlist={hidden}

หาข้อมูลวันเกิดของ "เอ๋" และผู้ร่วมรายการแต่ละคน มาดูน่าจะถูกอารมณ์สำหรับพวกเรามากกว่า เพราะว่านิยมโหราศาสตร์มากกว่าน่ะ..

ดูแล้วคับ  ตามหลักแล้ว ยังอ่อนแอปัญญามาก ถึงขั้นเป็นมิจฉาทิษฐิแบบเดียรถีย์ ชนิดหนึ่งในทางพระพุทธธรรม  แถมยังเป็นแนว   Schizophrenia  เรื่องนี้อธิบายไปก็เท่านั้น เอากรรมมาล่อ เอาเคราะห์มาขู่ เพราะเป็นเรื่องหากินกับความไม่รู้แต่ศรัทราในการปฏิบัติธรรมโดยเฉพาะการทำความดีของผู้คนในสังคม

พุทธศาสนาของพระพุทธโคดมนั้น  ท่านไม่ตื้นเขินทางปัญญาขนาดนี้หรอกครับ  มิฉะนั้นไม่อาจจะผ่านด่านอุปสรรคทางปัญญาในช่วงพุทธกาลและยังคงยั่งยืนมาจนปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่ามีการตั้งตัวกันเป็น เจ้าลัทธิ เจ้าสำนัก ศาสดาพยากรณ์  มีมาอยู่ทุกยุคทุกสมัย  แม้นในยุคปัจจุบันก็มีให้เห็นอยู่มากมาย  ซึ่งบางทีก็แฝงเข้ามาคราบพระพุทธศาสนา  ซึ่งก็ไม่ผิดกฏหมาย  หรือจริยธรรม  แต่ไม่เป็นไปตามอริยมรรคที่แท้จริงของพระศาสนโคดม  ซึ่งการแยกแยะนั้นคนที่ศึกษามาพอจะทราบรู้ได้ด้วยตนเอง

ตกลงมันไม่จริงหรือนี่...ดูแล้วเคลิ้มเ

เช๊ย...เชย

พวกนี้เหมือนทำเป็นขบวนการ ตอนนี้เห็นมีหนังสือเรื่องนี้ขายเกร่อามร้านหนังสือในห้างทั่วไป วางป้าย Best Seller ด้วย

หากินกับ ยารักษาโรคกาย  มูลค่าทางตลาดไม่มาก
แต่ถ้าหากินกับ  ความกลัวตาย  กลัวเจ็บ   มูลค่าการตลาดมหาศาล..เช่นอาหารเสริม  ลดความอ้วน  ผิวขาว  แก้ความแก่  ดูแลสุขภาพ

เช่นเดียวกันกับ

หากินกับ ให้คนมีความสุข  มูลค่าทางการตลาดไม่มาก
เทียบไม่ได้พอกับหากินกับ ความเชื่อ ความศรัทรา  ความไม่รู้ ความกลัวทุกข์  พลัดพราก  จากของรัก การเสื่อมในโลกธรรม 8 ซึ่งจะมีมูลค่าการตลาดมหาศาล

นี่แหล่ะ  หายนะแห่งทุนนิยม
วิชาการตลาด  ที่มุ่งเฟ้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป็น section
เจาะหา demand เพื่อกอบโกยจากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว
โดยกลุ่มนายทุนที่หน้าด้านและใจดำ

อาศัยเกาะพุทธศาสนาเจือการตลาด  หลังพุทธพรรษายุกาลล่วงแล้ว  2552 พรรษา

 จริงอย่างที่อาจารย์ภารตพูด ช่วงนี้หนังสือประเภทกรรม เกร่อจริง ๆ มีมากกว่าหนังสือประเภทหมอดูแม่น ๆ อีก      แนวอิทธิปาหารย์ก็เยอะ ถามว่าในแง่ของการจรรโลงสังคมดีหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าดีไว้ก่อนที่สอนให้คนกลัวการทำชั่วทางอ้อม แต่ทะแม่ง ๆ ชอบกล อันไหนจริงอันไหนเท็จ เรื่องที่ยกมาเล่ากุเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งขอไม่เอ่ยชื่อเต็ม แต่บอกใบ้ว่าเป็นแนวพุทธ+วิทย์ ของทันตแพทย์ท่านหนึ่งอันนี้ใช้ได้ทีเดียว แต่เล่มอื่น เฮ้อ....

หนังสือเรื่อง ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น ของ ทพ.สม นั้น มีการถกเถียงในหลายเว็บบอร์ดในเชิงวิชาการว่า มีความคลาดเคลื่อนและบิดเบือนทั้งฟิสิกส์และพุทธศาสนา จนทางสำนักพิมพ์ยอมรับว่าจะระงับการจัดพิมพ์ แต่ก็ยังวางขายอยู่ในร้านหนังสือทั่วไป ติดป้าย Best Seller เสียด้วย

ผมพยายาม post web link ว่าด้วยข้อผิดพลาดและบิดเบือนของหนังสือ ไอน์สไตน์พบฯ แต่ทำไม่ได้ ดูเหมือนเว็บบอร์ดนี้จะล็อคไม่ให้พิมพ์ web link ในกระทู้

เลยขออนุญาตว่า ท่านใดสนใจอ่าน ให้ลอง google ด้วยคำว่า "ผิดพลาด ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" แล้วดูที่ link gotoknow.org/blog/science/ และที่ scribd.com ได้เลยครับ

เรื่องไอน์สไตน์ กับพระพุทธเจ้านี้  ผมว่า  อาจารย์ศุภวรรณ  กรีน  เขียนได้ดีมาก   อธิบายเรื่องนิพพาน กับ ความเร็วสัมพัทธ์  ไว้น่าฟัง  ในเรื่อง   ไอน์สไตน์ถาม พระพุทธเจ้าตอบ

ส่วนหนังสือแนวนี้  เรื่อง ฟิสิกส์แห่งเต๋า  ของ ฟรีสจ๊อป  คาปร้า  http://www.midnightuniv.org/midschool2000/newpage20.html

http://en.wikipedia.org/wiki/Fritjof_Capra

พวกนี้อธิบายได้  ชัดเจนกว่า ของ  ทพ.ฯ  เยอะนัก

แม้ว่า  เรื่องพวกนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ฝรั่งเขียนได้ดี  วิทยาการทางจิตนี้  แนวอภิญญา ท่านโพธิรักษ์  เขียนไว้ เรื่อง  ทางเอก  3  เล่มนั้น  สุดยอดชนิดกระจ่างหาที่ไหนอ่านไม่ได้เชียวในโลกนี้ เป็นเรื่องแนวปฏิบัติทางจิตล้วนๆ  ส่วนท่านเขมานันทะ นั้นท่านอธิบายปรากฏการณ์นิพพาน  ในหนังสือ ธรรมวิทรรศน์  เอาไว้อย่างน่าฟัง รวมทั้งในอีกหลายเล่มของท่าน  แม้แต่ กฤษณามูรติก็ไปไม่ถึง  รวมทั้งบทความของท่านพุทธทาสภิกขุ  เรื่อง วิเวก  เรื่อง นิพพาน  เรื่องอิทัปปัจจยตา  รวมไปถึง ปรมัตถสภาวธรรม ฯลฯ ส่วนธรรมชาติแห่งจิตในอภิธรรมนั้น  ท่าน อจ.ดร.รวี  ภาวิไล ทำไว้แล้วให้อ่านเข้าใจง่าย  ในหนังสือ อภิธรรมสำหรับคนรุ่นใหม่  

หนังสือพวกนี้เป็น วิมุติวรรณกรรมแห่งสยามประเทศ  ไม่ได้น้อยหน้าตำราฝรั่งใดๆเลย

ดีกว่าพวกแก้กรรมกิ๊กก๊อก..พวกกาฝาก..ที่เกลื่อนกราดในยุคนี้มากนัก ชนิดคนละภพคนละไฟลั่มเลยทีเดียว

ของพรรค์นี้ พวกเราเหล่าโหรา ควรหัดสังเกต  นรลักษณ์  ของเจ้าสำนักต่างๆของหนังสือที่ว่าด้วย เพราะว่าไม่รู้เวลาและวันเกิดที่แน่นอนของพวกเขา   แต่ถ้าดูหน้าดูตาเป็น ถ้าเรียนมาบ้างก็น่าจะดูออก   นกกระเรียนกะอีแร้ง  แม้จะนกเหมือนกัน  ศีลไม่เสมอกันนะจ๊ะ....ดูแค่การงก  การขยายอัตตา  และ กิเลสแห่งการสร้าง  ก็ได้

ปรากฎการณ์จตุคามรามเทพ นั้น เป็นปฏิกิริยาสังคมแนวอุปาทานหมู่ หรือที่เรียกกันว่า ฮิตติดกระแสแนวศรัทราความเชื่อ  สังเกตได้ว่าจะมีตัวตายตัวแทนเป็นยุคๆรุ่นๆไป  ใครที่มาถูกรุ่นถูกจังหวะ ก็สามารถกอบโกยร่ำรวยกันได้ชั่วพริบตา  พอหมดเวลาของมันแล้วก็จืดจางหายกลายเป็นตำนาณความจดจำ ปลุกซ้ำอย่างไรก็ไม่ขึ้น

จำได้ตอนผมเด็กๆก็เรื่อง  โป่งข่าม หรือแก้วขนเหล็ก  จากนั้นมาก็พระหลวงพ่อปาน  วัดบางนมโค  พญางิ้วดำ พระเจ้าคุณนรรัตน์  กรมหลวงชุมพร และหลวงพ่อสุขวัดมะขามเฒ่า   หลวงปู่ทวดสารพัดรุ่น  หลวงปู่โต๊ะ  หลวงพ่อคูณ  พระอาจารย์มั่น  เสด็จพ่อ ร.5  วัดปากน้ำ  เพชรพญานาค  หินธิเบต  กริ่งวัดสุท้ศน์สารพัดรุ่น  ปลัดขิกหลวงพ่อต่างๆ  ธรรมกายดูดทรัพย์  พระจตุคาม  พระราหู  สวดภาณยักษ์  กระทั่งลูกปืนอาจารย์อ๊อด ฯลฯ 

ตอนนี้ให้จับตาดูกระแสลูกปัดโบราณ  กับพิฆเนศ วัดสำนักต่างๆให้ดีเหอะ

พวกนี้เป็นเรื่องยอดนิยมตามกระแสของประชาชนแนวศรัทราความเชื่อที่หาคำอธิบายไม่ได้  ตามดวงแล้วอะไรที่  เมษ+วัลคานุส - จันทร์  กับ ศุกร์+โปไซดอน-จันทร์  ในแต่ละจังหวะฟ้าที่เข้าแกน  ตกอะไรก็เรื่องนั้นแหล่ะมาแรงคับ 

คล้ายๆกับพวกเพลงฮิตยอดนิยมนั่นแหล่ะ  ศิลปินโดยมากมากันครั้งเดียว หมดแล้วหมดเลย  นอกจาก born to be จริงๆ ถึงจะมีหลายระลอก