เคยสงสัยเหมือนกันว่า รัฐจะเก็บภาษีจากหมอดูต่างๆ กันยังไง   หมอดูบางคนคุยว่ามีรายได้เยอะแยะเป็นเดือนละหลายล้าน  เคยคิดเห็นเล่นๆว่าแล้วเจ้าตัว เคยเสียภาษีให้รัฐบ้างไหม  ยังมีอาชีพอื่นที่ยังไม่ได้เสียภาษีให้รัฐอีกเยอะ  คงทยอยกันโดนค้นเจอแหละ   ก็รัฐหมดตัวแล้ว

แล้วมี จนท.สันพากอน ปลอมตัวมาดูหมอกะอาจานมั่งอะป่าวอ่ะค้าบ แบบว่า ไปนั่งร้านก๊วยเตี๋ยว นั่งนับชามที่ขายได้ต่อวัน

อาจารย์ไปรับค่าจ้างจากนิติบุคคลมาหรือเปล่าครับ เช่น ค่าเขียนบทความในนิตยสาร น่ะครับ เพราะถ้าเคยรับ เขาก็นำเลขบัตรประชาชนใส่ในหนังสือหัก ณ ที่จ่าย

สรรพากรเขาจะมีระบบคอมพิวเตอร์จับคู่ดูว่า หากมีหัก ณ ที่จ่ายเข้ามา ก็ต้องมีรายได้เข้ามา แต่ถ้า ภงด.ที่ยื่น (หรืออาจไม่ได้ยื่น) ไม่มีตัวนี้ ระบบคอมฯก็จะรายงานออกมา

จากนั้น ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สรรพากรไปดำเนินการต่อครับ

ระบบคอมฯของสรรพากรประเทศไทยมีประสิทธิภาพติดอันดับโลกเลยล่ะครับ

ปล. หากหาที่ปรึกษาภาษีดีๆ (บางทีไม่ต้องเสียตังค์) อาจช่วยลดภาระตรงนี้ได้ครับ

อาจารย์มีอะไรให้ช่วยไหมคะ แฟนทำบัญชี (ถนัดด้านภาษี) กำลังว่างงาน
สนใจให้เค้าดูให้ไหมคะ

เคยดูหมอไพศาลไปออกรายการทีวีรายการหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นหมอดูยังไม่ออกสื่อมากเท่าสมัยนี้ แกบอกว่าตอนนั้นหมอดูรายอื่นไม่ได้เสียภาษี พอตัวแกเองไปแสดงความจำนงจะขอเสียภาษี สรรพากรเองกลับงง ไม่รู้จะเก็บภาษีแกยังไง ไปๆ มาๆ เลยต้องถือว่าเป็นอาชีพที่ภาษากฎหมายเรียกว่า "ทำของ"

โดยหลักการเห็นด้วยว่า ใครที่มีรายได้ประจำเป็นกอบเป็นกำจากอาชีพการงานอะไรก็ควรเสียภาษี แต่จะใช้หลักเกณฑ์อะไรแค่ไหนถึงจะยุติธรรมกับทุกฝ่ายคงเป็นเรื่องที่คุยกันยาว

คุณคนดูครับ ภาษีหัก ณ ที่จ่ายนั้น เป็นเครดิตภาษีที่ต้องนำไปยื่นประกอบภงด.ตอนสิ้นปี แปลว่า ใช้เป็นส่วนลดจากภาษีที่คำนวณได้ ถ้าคำนวณภาษีดีๆ อาจได้รับภาษีคืนตอนสิ้นปีด้วย

ส่วนเรื่องการเปิดร้านดูดวงนั้น ถ้ามีความรู้ภาษี ก็จะทราบว่าหักค่าใช้จ่ายได้แน่ๆ แต่ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นรายได้วงเล็บอะไรในประมวลรัษฎากร ซึ่งจะส่งผลต่อการหักค่าใช้จ่ายว่า หักได้กี่เปอร์เซ็นต์ มีทั้งหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา หรืออาจเลือกหักตามจริง ตรงนี้ต้องหารือกับเจ้าหน้าที่

เรื่องภาษีเป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนควรเรียนรู้เอาไว้ เพราะส่งผลโดยตรงกับฐานะการเงินของตัวเองครับ

ส่วนประเด็นที่ผมเสนออ.ภารตนั้น ผมไม่ได้บอกว่า รายได้จากนิติบุคคลนั้นจะเป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่ทำให้ต้องเสียภาษีเยอะนะครับ ผมหมายความว่า หากระบบคอมพิวเตอร์ค้นพบความผิดปกติอย่างที่ผมอธิบายไป ก็จะเป็นประเด็นตั้งต้นให้เจ้าหน้าที่สรรพากรเจาะลึกข้อมูลของผู้เสียภาษีแต่ละรายได้ เปรียบเสมือนยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ พอสรรพากรเริ่มเจาะลึกก็จะพบภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างใต้ ปัญหาเล็กจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ครับ เป็นข้อเตือนใจว่า หากเราได้รับเงินได้ที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เราต้องนำเงินได้นั้นใส่เข้าไปใน ภงด. ไม่อย่างนั้นจะเป็นชนวนขยายไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้นได้

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย  มันอยู่ที่จิตสาธารณะ เมื่อเรามีรายได้จากการประกอบอาชีพใด ก็ควรจะเสียเงินให้รัฐใช้พัฒนาบ้าง ไม่ต้องไปหาทางหลบเลี่ยงภาษีหรอก ไม่ควรแนะนำให้ทำเช่นนั้น  แต่มีความรู้ไว้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียให้มากเกินไป (ถ้าเจอสรรพากรไม่ดี) สุดท้ายที่อยากจะบอก ช่วยรัฐ ช่วยสาธารณะ ช่วยกัน ประเทศเราจะน่าอยู่ขึ้น

     ถามหลวงท่านก็ว่า         ต้องเสีย
ถามบัญชีบอกว่าเฮีย            ซ่อนบ้าง
ถามทนายบอกต้องเคลียร์     รีบจบ
ถามแบ๊งค์ท่านก็อ้าง            เหลือแค่   สี่พัน

     หน้าที่พลเมืองนั้น          เคยเรียน
รัฐศาสตร์ยังคงเพียร             ศึกษา
การเงินเคยอ่านเขียน            เจนจบ
แต่รายจ่ายมันเยอะจ้า           ยาไส้    แค่พอ

     โชคดีเจอหลวงท่าน         ใจดี
คำนวณฐานภาษี                  ปรับแก้
ทำนองคลองธรรมมี              ลดแหลก
สองหมื่นเจ็ดพันแน่              จ่ายแล้ว   ตัวเบา?

ผมอ่านกระทู้นี้อีกรอบก็ไม่พบว่า มีใครแนะนำให้หลีกเลี่ยงภาษีนะครับ มีแต่แนะนำว่าให้ปรึกษาผู้รู้หรือหาความรู้ จะได้เสียภาษีได้อย่างถูกต้องตามที่ควร

นักโหราศาสตร์รู้ดีครับว่า ภาษีกับความตายมันเป็นเรื่องกลุ่มเดียวกัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดาวพลูโต ดาวแห่งภาษีกำลังแสดงอิทธิพลต่อแกนโลกอยู่ เรื่องนี้ก็ย่อมเป็นเรื่องใหญ่

ในทางธุรกิจแล้ว การหลบเลี่ยงภาษี กับ การบริหารภาษี ต่างกันมากครับ คนเราควรบริหารภาษี แต่ไม่ควรเลี่ยงภาษี สรรพากรบ้านเราส่วนใหญ่แล้วน่ารักครับ คือมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีสูง ในขณะเดียวกันก็สามารถพูดคุยให้ภาษีที่ต้องจ่ายนั้นสมเหตุสมผลได้

เออ ! จริงแฮะ  ไม่มีจริงๆ ด้วย  ต้องขอโทษที่เข้าใจผิด  เห็นจะมีคำแนะนำจากนักบัญชี ก็พาลคิดไปในทางที่ไม่ดี ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  (นี่เป็นตัวอย่างของความมีอคติ ไม่มองให้รอบด้าน ต้องขอโทษ ไว้ ณ ที่นี้ด้วย)  

ไม่ทราบท่านที่ร่วมแจมกระทู้นี้ยังติดตามความคืบหน้ากันหรือเปล่า  ตัวผมเองเมื่อเช้าพึ่งไปชี้แจงกับสรรพากรเขตลาดพร้าวมาครับ  โดยสรุปคือผมให้การว่าผมเปิดเว็บขึ้นมาเพื่อขายโปรแกรมอย่างเดียว ไม่ได้รับสอนหรือรับดูดวง  โดยที่ระยะหลังก็ขายได้น้อยลง และไม่ได้จดจำว่าขายใครไปกี่ราย  ทางเขาก็แนะนำว่าจากการที่ผมเป็นข้าราชการที่ต้องยื่นภาษีทุกปีอยู่แล้ว ก็ขอให้ประเมินจำนวนโปรแกรมที่ขายได้ลงไปในแบบภงด.90  ซึ่งอาจจะมีผลให้ผมได้ภาษีคืนน้อยลง หรือที่เขาไม่บอกคืออาจกลายเป็นต้องจ่ายสักเล็กน้อย  กับไม่ได้บอกว่าจะมีการประเมินย้อนหลังหรือไม่  แต่เอาเป็นว่าในกรณีผมดูเหมือนจะไม่ได้อ่วมอย่างที่คิด  ขอรายงานให้ทราบเผื่อใครจะเป็นรายต่อไปคิดว่าอย่าพึ่งไปกังวลกับมันเลยครับ  น่าจะเป็นการเคลียร์กันเพื่อ "บริหารภาษี" อย่างที่คุณ Pallas ว่าครับ

ปล. ได้แหย่เขาไว้หน่อยว่า มีคนพูดว่าทำไมไม่ไปเก็บภาษีหมอดูฟันธงบ้าง  เขาบอกว่าได้มีการตรวจสอบอยู่เหมือนกัน  เจ้าของเรื่องคือสรรพากรเขตจตุจักรครับ