http://www.thairath.co.th/content/life/28047

แบบนี้  ไม่มีคับ  ในแนว ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล

เอารูปแอบอ้าง  สมเด็จเกี่ยว  ด้วย  ท่านเมตตาแค่เจิมศีรษะ หัวโขนครู และ หัวพิเภก ซึ่งท่านก็ทำให้ทั่วไป
ท่านอาจารย์ชิด  แก้วดวงใหญ่ และคุณตาดทิพย์  แก้วดวงใหญ่ ที่เป็นทายาท  บ้านท่านอยู่บ้านบาตรใกล้วัดสระเกศ  บ้านนี้ทำหัวโขนมาแต่ ร.6 เป็นช่างหลวง  เค้าให้พระวัดสระเกศ  เจิมมาแต่ รุ่น สมเด็จพระสังฆราช อยู่ ญาโณทโย จนถึง สมเด็จเกี่ยว  มาแต่ไหนแตไร

อ้ายหมอลักษณ์  คงไปสั่งทำมาจากบ้านนี้  แล้วมั่วนิ่ม  ไปให้ท่านเจิมซึ่งท่านก็คงเมตตาให้เสมอหน้ากัน

ผมเด็กแถวผมรู้จักทุกท่านที่กล่าวมา

คนจะเป็น พิธีกร  ครอบเศียรครูได้นั้น  เขามีจารีต ถือธรรมเนียมปฎิบัติมากมาย อย่างน้อยต้อง  ยิ่งโหรครอบด้วยแล้วต้องของหลวงเท่านั้น

โหรบาง  เสมเสริมสุข   โหรหลวงที่เคยไปหาไปไหว้  ท่านยังไม่ทำเลย ให้แต่เจิมกับจับมือ จับดินสอ

พิธีนี้โดยมาก  เขาครอบร่วมกับพิธีครอบครูนาฏศิลป์  โดยขอครอบเศียรพิเภก หรือ พระเวสสุญาณ ซึ่ง พิเภกเป็นอวตาล ตามมารับใช้พระราม
 ซึ่งเศียรนี้ เท่าที่รู้มีเศียรเดียว  พระครูกิตติญาณประยุต  ประสม  อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ ให้ ครูชิต แก้วดวงใหญ่ จัดสร้างขึ้น ราวปี 2518  ผมอยู่ในเหตุการณ์ตลอด ตั้งแต่เขาคุยกันจนสร้างเสร็จ    ปัจจุบันเก็บอยู่ในหอศิลป์บรมครู  วัดพระพิเรนทร์  วรจักร  กรุงเทพ

ถามหลวงพ่อสม  ว่า ทำไมไม่สร้างพิเภก เป็นเศียรครอบ  ท่านว่า  ชีวิตพิเภก  นั้น  ทุกข์จะตายห่า  ใครครอบก็แย่สิวะ  กว่าจะดี พี่น้องต้องบรรลัยหมด เขาถึงต้องสร้างเศียร พระเวศสุญาณ แทนเป็นเทพเจ้าแห่งโหรา เป็นแว่นทิพย์พระนารายณ์   เขาถึงครอบแล้ว  โชคดี ถือเป็นมงคล  คนโบราณเขาคิดกันแบบนี้  ไม่ใช่ฉาบฉวยหาแดกกันง่ายๆ เศียรพิเภกเขาใช้บูชาไหว้อย่างเดียว  ไม่ให้ครอบ

เขาไม่ครอบเศียรพิเภก กัน  ครอบแล้ว ตกทุกข์ได้ยาก

หลวงพ่อสมท่านก็เป็นโหร   เป็นศิษย์สายตรงกับ  สมเด็จพระสังฆราชวัดสระเกศ และร่วมสำนักกับ สมเด็จเกี่ยว  เขาสนิทกันบวชรุ่นเดียวกัน   

ที่พูดที่ด่าได้นี้  เพราะผมอยู่ในเหตุการณ์  และรู้จักทุกท่านที่ว่ามา

แม้ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ท่านเป็น โหรอังกฤษ  ท่านไม่ขัด  แต่ท่านไม่เชื่อ  ท่านเชื่อ ดวง เชื่อเวลา

โหราศาสตร์ มิใช่เพียงพยากรณ์วิถีชีวิตเท่านั้น ยัง สามารถที่จะลิขิตแนวทางอันนำไปสู่ความสุข ความร่ำรวยได้อีกด้วย อย่างเช่น อาจารย์จรัญ พิกุล ได้นำโหราศาสตร์มาผนวกกับดาราศาสตร์ คำนวณเพลา ในการทำพิธีมงคล แก้เคล็ด วันขอเงินจากพระจันทร์... สร้างความสำเร็จแก่ผู้ศรัทธา และ ประกอบพิธีกรรม จนได้รับการสืบสานต่อในปัจจุบัน

O O O

พิธีกรรมขอเงินจากพระจันทร์....กำหนดเอา วันพระจันทร์ดับ (สุริยคราสก็อยู่ในวันพระจันทร์ดับ) เนื่องจากว่าวันนั้น   ฟ้า หมายถึง สวรรค์ และ ภพของมนุษย์ นาคา นรก ทุกแดนภูมิจะมีประตูที่เปิด...พระอาทิตย์ พระ จันทร์ ทำมุมเอื้อประโยชน์ ต่อมวลมนุษย์
ครอบครูโหรก่อนเรียน

แต่ก็จะต้อง มีวิธี การที่จะทำให้เกิดประโยชน์ คือทำอย่างไรให้มีโชคลาภ หรือให้มีความสำเร็จ ซึ่งก็ต้องอิงในทางพราหมณ์ ตั้งเครื่องบวง-สรวงบูชาพระจันทร์

...อันประกอบด้วยอาหารหวานคาว ผลไม้ในการ บูชาให้จุดธูป 15 ดอก ตามกำลังของพระจันทร์ จะเป็นมงคล สวดบทชุมนุมเทวดา อธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการ....เมื่อเป็นที่พอใจแก่พระจันทร์ก็จะให้ทุกอย่างตามที่ต้องการ เป็นการเร่งบุญมิให้บุญที่ทำนั้นไปสะสมในชาติและภพอื่น

อย่างไรก็แล้วแต่ หากจะให้พลังเข้มข้นก็อยู่ที่ตัวเราด้วย ต้องทำในสิ่งที่เป็นมงคล ทำบุญถวายสังฆทาน สมาทานศีล 5 เป็นอย่างน้อย และสิ่งที่ห้ามในวันของเงินพระจันทร์ คือ ห้ามทะเลาะเบาะแว้งกับใคร และอย่างยิ่งคือ อย่าให้ใครยืมสตางค์ อย่าให้ใครทวงหนี้

...เพราะ เหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมงคลหรืออัปมงคล...ก็จะฝังดำรงคงเดือนเต็มๆ...จนกว่าจะถึงเพลาขอเงินฯครั้งต่อไป

.................................................................

จากสิ่งที่ลงตีพิมพ์ ที่เป็นสีแดงหนา โดยเฉพาะตัวสีน้ำเงินเท่าที่สัมผัสท่านอาจารย์มา นับตั้งแต่ปีหลังที่เกิดสุริยะคราสพาดดวงเมืองปี 3538 ที่ท่านอาจารย์ เริ่มพลิกแพลงใช้วิชาโหราศาสตร์เพื่อชีวิต โดยใช้เงื่อนไขของกรรมนำมากับชีวิต ในเรื่องของ วันขอเงินจากพระจันทร์

ท่านอาจารย์ ไม่เคยแนะนำให้อิงกับสิ่งใดทั้งสิ้น นอกจากท่านอาจารย์ จะแนะนำให้ทำจิตใจนอบน้อม และอธิฐานขอพรจากพระจันทร์เท่านั้น

โดยปกติท่านอาจารย์จะเป็นผู้ที่เชื่อแต่เรื่องของ ดาว (โหราศาสตร์เพียงอย่างเดียว) จะสังเกตุได้ว่า ท่านมักจะพูดเสมอว่า หากไม่มีดวงอาทิตย์เพียงดวงเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่มี

ผมจะขอยกตัวอย่าง สิ่งที่ท่านอาจารย์ได้บันทึกเอาไว้ในหนังสือ ขอเงินจากพระจันทร์ ที่อาจารย์ จรัญ พิกุล ได้กล่าวไว้ว่า.....

ปฏิทินขอเงินพระจันทร์ พ.ศ. 2542

          เรานิยมกันว่า “หมอดูแม่นๆ” แต่ที่จริงแล้วความแม่นยำไม่ได้ช่วยอะไรให้เราเลย เช่นทายว่าเราจะตายพรุ่งนี้ แล้วจะรอให้ตายกระนั้นหรือ ทำอย่างไรจึงจะไม่ตาย ไม่เคราะห์ร้าย ทำอย่างไรจึงจะจัดการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรดีและทำอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตให้สอดคล้องต้องชะตากับดวงดาวแต่ละวัน ปฏิทินขอเงินพระจันทร์ฉบับนี้  จึงเป็นปฏิทินบอกวันไหนเดือนไหนเราจะเสริมชะตาได้ดี และใช้ได้กับทุกท่านที่เกิดมาบนโลกนี้ ซึ่งมีดวงจันทร์คอยกำกับความเป็นไปของโลกในระดับหนึ่งทางอารมณ์ น้ำ ฯลฯ และวันต่างๆที่เราควรจะทำอย่างไร และมีวันหนึ่งที่ใช้เป็นวันขอโชค เสริมชีวิต ขอเงินจากจันทร์เล่มนี้ได้บอกไว้หมดแล้วในปีใกล้โลกแตก ค.ศ.2000 ทำอย่างไร วันไหนโปรดอ่านดูตามวันสำคัญข้างล่างนี้ และดูภาพแต่ละเดือนในเล่มควบคู่ตามไปด้วย.

          ช่วงระยะหรือจังหวะทั้ง 8 ของดวงจันทร์จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราทุกคน ซึ่งถ้ารู้จักใช้ชีวิตให้สอดคล้องถูกจังหวะตามช่วงทั้ง 8 ของดวงจันทร์แต่ละเดือน จะช่วยเราพัฒนาชะตาของเราให้เจริญเติบโตได้ทั้งทางด้านวัตถุ จิตใจอารมณ์และวิญญาณ ซึ่ง

 เรียกกันว่าช่วงจันทร์ดับหรืออมาวสี หรือนิวมูน จะมาในวันไหนดูที่ปฏิทินดวงจันทร์ในเล่มนี้มี 12เดือน จะบอกวันและเวลาไว้ว่านิวมูนเกิดตรงจุดเวลาใดของเดือน ให้ใช้ชีวิตก่อนและหลังเวลานิวมูนในระยะ 12 ชั่วโมง โดยให้รู้จักจินตนาการในสิ่งที่คุณต้องการสร้างสรรค์ ใช้อารมณ์ไปในทางบวก ให้ชิงตัดบท สิ่งที่คาดหมายของสิ่งต่างๆเข้ามาในชีวิต และหลีกเลี่ยงการวิวาท ขัดแย้ง ทำอะไรในทางลบ และคอยดูว่าชะตาเราวันนี้เกิดมีอะไรไม่ดีขึ้นมาบ้าง เพราะถ้ามีอะไรผิดปกติ หรือไม่ดีขึ้นมา อาจจะแสดงว่าในอีก 1 เดือนจากวันนี้ไปอาจมีชะตาบางวันไม่ราบรื่นขิ้นมาอีก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้ขอเงินจาดดวงจันทร์ อย่าให้กระเป๋าตังค์ขอคุณแฟบในวันนี้ มิเช่นนั้น คุณก็อาจจะแห้งไปจนตลอดเดือนหรือถึงช่วงจันทร์ดับเดือนหน้า

วิธีขอเงินจากดวงจันทร์

          ในช่วงแห่งวันจันทร์ดับ(นิวมูน) ให้ทำเสมือนหนึ่งว่ายังมีสตางค์มีเงินอยู่เต็มกระเป๋าให้ทำกริยานอบน้อม พนมมืออย่างสุภาพแล้วร้องขอว่า “ขอให้ฟ้าดำรงพวกเราให้อยู่ในสภาพที่ท่านหลอมหล่อพวกเราให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเถอะ” แล้วหาเงินที่ไหนมาใส่ในกระเป๋าให้เต็มตลอดวันนี้ นี่จะเป็นวิธีที่จะใช้จันทร์ช่วยเหลือพวกเราให้เจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ไปจนตลอดทั้งเดือน ที่เดียวแหละ(คือถึงจันทร์เดือนใหม่)...

เท่านี้แหละครับ ตามหลักฐาน โดยไม่มีการอิง..ในพิธีกรรมใดๆทั้งสิ้น ท่านอาจารย์ จรัญ จะใช้โครสร้างของมูลเฟรด จังหวะทั้ง 8 เป็นเงื่อนไขกรรม ตามกฎของโหราศาสตร์ ยูเรเนียน เท่านั้นเอง ไม่มีเรื่องของพิธีกรรม หรือพิธีพาณิชย์ ใดๆทั้งสิ้น.

วรเชษฐ์ ตียเกษม
ลูกศิษย์ จากเชียงใหม่

ในปี 2543 หรือ ค.ศ 2000
ท่านอาจารย์ได้เริ่มให้ทาง บริษัท สำนักพิมพ์โชคชัยเทเวศร์(1988)จำกัด เป็นผู้จัดพิมพ์เป็นปีแรก โดยยังใช้ชื่อเดิมว่า ปฏิทินขอเงินจากพระจันทร์ เหมือนกับชื่อเดิมที่ได้จัดทำการเผยแพร่ โดยที่ท่านอาจารย์จรัญ พิกุล จัดทำโดยการซีล๊อกซ์ แล้วเย็บเล่ม

ภายในเล่มของ ปฏิทินขอเงินจากพระจันทร์ ตั้งแต่ปี 2000 ยังคงเนื้อหาคล้ายของเดิมจะเพิ่มเติมก็เพียง ข้อเขียนเพิ่มขึ้นจากเดิม ก่อนเนื้อหาที่เคยได้เขียนไว้แต่ ท่านอาจารย์ จรัญ พิกุล ได้บันทึกไว้ว่า 

....ชะตาชีวิตคือ แผนที่ หรือผังภูมิของดวงดาวบนท้องฟ้าขณะเกิด โหราศาสตร์จะเกี่ยวข้องกับมวลมนุษย์ชาติตั้งแต่เกิดจนถึงตาย อาทิเช่น โลกใบนี้หากขาดดวงอาทิตย์ สรรพสิ่งที่มีชีวิตบนพื้นโลกย่อมไม่บังเกิดขึ้น ดวงจันทร์มีอิทธิพลทำให้เกิดน้ำขึ้น น้ำลงและยังทำให้ทราบวันเวลาทางจันทรคติ ข้างขึ้น ข้างแรม ดังสุภาษิตที่ว่า “ ชะตาชีวิต ล้วนฟ้าลิขิต ” ย่อมไม่ผิด  โหราศาสตร์ ( Astrology ) เป็นศาสตร์ทางดาราศาสตร์ ( Astronomy ) และเป็นภาคหนึ่งของภาควิชาดาราศาสตร์ ( Science ) สามารถพิสูจน์หาความจริงได้ โดยอาศัยหลักธรรมชาติ หรือกฎธรรมชาติ ( Natural Law ) วิชาโหราศาสตร์จึงสามารถค้นหาความจริงของเหตุการณ์ที่ปรากฏบนโลกใบนี้ที่ผ่านมาในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างถูกต้องและแม่นยำที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าวโหราศาสตร์ย่อมมีผลในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของมนุษย์เรา และยังช่วยในการดำรงชีวิตเพื่อให้สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้นชีวิตจะอยู่ได้อย่างเป็นอมตะ และยังเป็นบ่อเกิด นักโหราศาสตร์ ( Astrologer ) หรือหมอดูขึ้นมามากมาย หมอดูจะดีหรือไม่เพียงใดขึ้นกับความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละท่าน หมอดูจะนำเอาแผนที่หรือผังภูมิดวงดาวบนท้องฟ้าที่เรานิยมที่เรียกกันว่า “ ดวง ” ชะตาชีวิตของแต่ละคนนำมาพยากรณ์................(ต่อจากนี้เป็นข้อเขียนบทความเดิม)

         ในหนังสือ ปฏิทินขอเงินจากพระจันทร์ ยังมีวันสำคัญที่ท่านอาจารย์จรัญ พิกุลระบุถึงเพื่อเป็นการดำรงตน นั่นคือการกำหนดชะตาชีวิตประจำปี วันกำหนดชะตาที่ว่านี้คือ วันปีใหม่ทางโหราศาสตร์ หรือวันที่ดวงอาทิตย์ยกเข้าในราศีมกร ตามปฏิทินทางโหราศาสตร์สากลเท่านั้น ท่านได้กล่าวไว้ว่า “ จากวันปีใหม่ของโหราศาสตร์ จงใช้ชีวิตให้ดีที่สุดในวันเดียวจะแสดงผลได้ทั้งปี แต่ถ้าเกิดมีอะไรไม่ดีเข้ามา ก็อาจจะทำให้ปีนั้นมีอะไรพลอยไม่ปกติไปด้วย ”

         เพียงแค่นี้แหละครับ เท่าที่หลักฐานและจากการรับรู้เท่าที่ผมได้รับจากท่านอาจารย์จรัญ

วรเชษฐ์ ตียเกษม
ลูกศิษย์จากเชียงใหม่