ตั้งคำถามแบบนี้มา  เป็นการมัดมือชกว่าจะต้องวิเคราะห์ในแนวยูเรเนียนในรูปแบบนี้เท่านั้น

ซึ่งในทางปฎิบัติจริง  จะไม่ใช่คับ

ในการวิเคราะห์ดวงชะตาแนวตำรับท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล  จะแตกต่างจาก  ยูเรเนียน แนว พลตรีประยูร  พลอารีย์  หลายอย่างด้วยกัน

ต้องคนที่สนใจติดตามงานของทั้ง 2 ปรมาจารย์มาและเข้าใจอย่างลึกซึ้งพอ  จึงจะทราบได้ว่า มีหลายอย่างที่ไปกันคนละแนวทาง

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะขัดแย้งกัน  คือต้องเรียนทุกหัวข้อที่เหมือนกันแต่ เทคนิคการวิเคราะห์จะใช้คนละแนวทางซึ่งต่างกันอย่างชัดเจน

ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไรนั้น  ผมมาทำเว็บนี้อยู่ 3 ปีกว่า  จะเห็นแนวทางได้ชัดแจ้ง 

ว่างๆจะวิเคราะห์รายสำนักให้ฟัง  ถ้าเขาไม่ด่าให้ซะก่อน

แต่ถึงกระนั้น  ก็ไม่ใช่หมายความว่าของเราดีแต่ผู้เดียวรึก็เปล่าเลย

ทายผิดบ่อยๆไป  สำนักอื่นเขาก้ทายได้ฉมังนัก

การใช้  a+b-c อย่างเดียวนั้น  เป็นแค่เพียง 1 ใน 4 รูปแบบ  เท่านั้น

อีกทั้งเป็นการบังคับท้องฟ้า  จากจุดอ้างอิงทางคำนวณเท่านั้น  ไม่ใช่เชิงประจักษ์หรือเชิงปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์

จุดนี้มันไหวตัวเกินไป  (ถ้าเวลาเกิดผิดไป2 นาที ซึ่งไม่ใช่  4  นาทีหรือ 1 องศา)  กระบวนการนี้ผิดทันทีเชียว

ในทางปฏิบัติแรก ตามแนวสำนักท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุลนั้น

ท่านจะดูว่า  ภพ 10 เกี่ยวกับเรื่องอะไร  เจ้าเรือนไปไหน เป็นอย่างไร

อังคารหรือกิจกรรมในชีวิต  นั้น อยู่กับอะไร แนวทางไหน  ดีหรือร้ายก่อน

ซึ่งกระบวนการนี้ ยังไปได้หลายกระบวนที่ลึกซึ้ง  หลายขั้น

ไม่ว่าจะเป็น จตุรางคไหน  ธาตุไหน เรือนไหน ราศีอะไรมีอะไรสัมพันธ์กับปัจจัยอะไรในมุมใด 

และลากอะไรมา  ในลีลาอย่างไร เป็นตัวตั้ง

การงานนั้น  เป็นงานเก่า งานประจำ หรืองานใหม่จากใหม่จริงๆ หรือ งานใหม่จากงานเก่า

หรืองานอดิเรก  กันแน่  ว่าลีลาตามอายุ  ตามวัยเป็นเช่นไร

ภาพข้างหน้าเป็นเช่นไร ในลีลาไดนามิค ภาพเคลื่อนไหว

คือต้องเห็นตามปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ก่อน ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง

จากนั้นค่อยบังคับฟ้า  ว่า อังคาร/พฤหัส  ว่า ทำอะไรแล้วจะโชคดี

จากนั้นค่อยมาไล่เวลาเกิด  ลัคนาเกิด จากเทคนิคของระบบการไล่หาเวลาเกิด 

ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะอีกแหล่ะ ว่า  ตรงจริงหรือเปล่า

จากนั้นจึงค่อยบังคับให้ไปตาม  สูตร ซึ่งมี 4 สุตร

a+b-c , a-b-c ,a+b+c และ a/b//c 

แต่ละสูตรนั้น  แตกต่างกันในด้านการให้ความหมายตามหลักไวยากรณ์ซะด้วย

แล้วดูว่า  อันไหนคล้องจองกับภาพใหญ่ที่สุดตามชะตาของชีวิต

ไหนจะต้องดู เวอร์เทค และ จุดอารเบียน เจ้าเรือน ภพ 11  และภพ 11  ไปจนถึง ภพ 6 และเจ้าเรือน ภพ 6

เอามาประกอบกัน เป็นภาพจริงขึ้นมาก่อน  ดูจากวัยอายุ และ ภาพเคลื่อนไหวกระบวนดาวข้างหน้า จากอีกหลายเทคนิค

จึงจะเอามาประมวลผลเป็นความหมายและคำตอบที่ ปรับเข้ากับพื้นฐานความถนัดของดวงชะตาจริงซะก่อน

นั่นแหล่ะจึงจะได้คำตอบว่า   ทำอะไรแล้วโชคดี

การถามแบบข้างบนนั้น  จึงเป็นเรื่องสเปะสปะ  ตามที่ว่านั่นแหล่ะ

เพราะโดยทั่วๆไป  คนที่เรียนมาแรกๆก็มักจะเข้าใจแบบนี้  คือมันก็ไม่ผิด แถมยังฟังดูโก้หรูมีเทคนิคยูเรเนียนกันพอสมควร

แต่วิชานี้และจักรวาลรวมไปถึงธรรมชาติของมนุษย์ มันไปไกลกว่านั้นอีกเยอะ

แม้กระทั้งคำว่า  นายหน้า   ที่ใช้ ลัคนา/ราหู  ซึ่ง ตามยูเรเนียนก็มี 3 สูตร  นอกจาก ลัคนา/ราหูแล้ว

ยังมี ศุกร์ + ฮาเดส - พุธ และ ลัคนา + ราหู - เมอริเดียน  ก็แปลว่า  นายหน้าได้อีก

หลักสำคัญ  ของยูเรเนียน  นั้น ต้องดู ดาวโดด  ดาวสะท้อน ก่อน แล้วจึงดู ศูนย์รังศีตามความแรง  แล้วถึงจะเลยมาพิจารณาดูจุดอิทธิพล 3 ตัว

ซึ่งแต่ละขั้นตอนยังมีเทคนิคการกรอง  เข้าไปให้กระชับ  ขึ้นอีก

สรุปว่า  การพิจารณา ว่า ทำอะไรแล้วรวย  ตามที่ถามมา นั้น ต้องเข้าใจกระบวนการโหราอย่างลึกซึ้งเอามามากๆพอสมควรล่ะคับ

สำหรับโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนนั้น จริงๆ ตอนสมัยเรียนกับอาจารย์ประยูร ท่านจะเน้นเรื่องเรือนชะตามาก ท่านบอกย้ำเสมอว่า จะดูอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ดูเรือนชะตาก่อน การทำมุมของดาวต่างๆมาทีหลัง แต่ปัญหาหนึ่งของผู้เรียนโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนที่อาจารย์เห็นคือ ลูกศิษย์หลายคนพอเรียนพระเคราะห์สนธิ มักจะลืมให้ความสำคัญกับเรียนชะตา เนื่องจากการดูการทำมุมของดวงดาวมีจุดให้ดูเยอะกว่ามาก ตอนเรียน สังเกตุเห็นว่าการที่อาจารย์จะทายอะไรออกมาสักอย่าง อาจารย์จะเช็คหลายจุดมากกว่าบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงกันหรือไม่ แต่ก็ดูได้รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ อาจารย์บอกว่านักศึกษาทุกคนต้องพยายามดูให้ถูกต้องอย่างน้อย 90 % จึงจะถือว่าใช้ได้

สำหรับอาจารย์จรัญไม่เคยเรียนกับท่าน เลยไม่ทราบ เพียงแต่อาจารย์ประยูรจะเล่าให้ฟังว่าท่านทั้งสองสนิทกัน และมีการแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านโหราศาสตร์กันอยู่เป็นประจำคะ

เท่าที่ผมรู้มา  ยูเรเนี่ยนมีการศึกษาในเมืองไทย  อยู่ก่อนปี 2509  ท่านอาจารย์จรัญ  พิกุล  ร่วมกันค้นคว้ากับ ท่านอาจารย์ พันเอก.จง แปลกบรรจง จนออกเป็นหนังสือ แนะนำยูเรเนียน  ในปี 2511  จากนั้นก็มีเจอท่านอาจารย์ พลตรีประยูร  พลอารีย์  ที่ไปศึกษาโดยตรงจาก ต้นตำรับเยอรมัน  จนไปร่วมกันเปิด รร.สอน โหราศาสตร์  ชื่อ  รร.โหราศาสตร์กรุงเทพ ที่สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน  ในบริเวณที่เป็นส่วนของวิทยาลัยเกริก  ตอนเด็กๆนั่งรถ รร.ผ่านเห็นป้ายนี้ทุกวัน ยังเคยสงสัยว่า  โหราศาสตร์ก็มี รร.ด้วยเฮะ  ต่อมาเคยมาเป็นเพื่อนส่งพระภิกษุ มาหาซื้อตำรับตำรา   สรุปว่า ปรมาจารย์รุ่นเก่าๆน่ะเขาทันกันคับต่างนับถือฝีมือแลกเปลี่ยนความรู้กัน

เพียงแต่ว่า ศิษย์รุ่นต่อมา มี 2 แนว  คือ  เรียนจากห้องเรียนจากอาจารย์โดยตรง  กับ ซื้อตำรามาเรียนเอง  ค้นคว้าต่อเอง ทั้งจากอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งและจากทั้งสองท่าน และที่เรียนมันให้ครบทั้งสองท่านก็มีเยอะ

ประเภทแนวลูกทุ่งลูกกรุง  บ้างชอบเพลงทางหวาน  บ้างชอบทางเกรี๊ยว

ลีลาของรุ่นหลังๆ จึงแตกต่างกัน 

เรื่องเรือนชะตานี้  ความจริงสายท่านอาจารย์พลตรีประยูร  พลอารีย์  ท่านถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ  ถึงกับแปลสูตรเรือนชะตาสนธิ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่แสนจะเข้าใจได้ยาก  แต่เนื่องจากท่านอาจารย์เขียนไว้ไม่จบ  การอธิบายจึงต่างคนต่างเข้าใจต่างคนต่างศึกษา

ใครจับประเด็นออกก็จะเข้าใจได้ถึงความมหัศจรรย์ของระบบเรื่อนชะตาแนวพิศดาร

ที่ผมเขียนประเด็นนี้  เพราะเห็นว่า  รุ่นหลานศิษย์  ตีความโหราศาสตร์ยูเรเนียน  ไม่เหมือนรุ่นเก่า

ทั้งๆที่มองดูน่าจะใช่  แต่ ไม่ยักกะใช่  แค่คล้ายๆ

วิชาโหราศาสตร์ยูเรเนียนนั้น  ว่าไปแล้ว  เทคนิคการแกะดวงที่รู้ผลแล้ว  กับเทคนิคการคลำไปหาเป้าหมายที่ประสงค์  แตกต่างกันอย่างมาก

บางท่านสับสนในการศึกษาเอาเทคนิคการแกะดวง  มาใช้ทำนายอย่างจริงจัง  หรือเรียนมาแต่วิธีนี้จากไหนก็ตาม

ผลที่ทำนาย แม้จะใช้ยูเรเนียน  ดูเหมือนยูเรเนียน  แต่เจ้าตัวคนทำนายจะรู้เองว่า  มันยังมีข้อพลาดข้อบกพร่องอีกเยอะแยะ

ไม่เหมือนกับแกะดวงที่รู้ผลแล้ว...เลยเรียนกันไม่จบซักที  เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ยูเรเนียนบอกได้แน่นอน  แต่หยิบไม่ถูกเองซะนี่

เลยโทษโน่นโทษนี่ไปเรื่อย

หลักการพยากรณ์

อ่านก่อน พยากรณ์ทีหลัง

อ่านก่อนหมายถึงในดวงมีปัจจัยอะไรบ้าง เรือน ภพ ธาตุ คุณะ เกษตร อุจน์ เรือนมุม ชั้น 2 - 3  มุมสัมพันธ์

พยากรณ์ทีหลังหมายถึง การสรุปแปลความหมายของดวงที่อ่าน อยากรู้เรื่องการเดินทาง ใช้ภพ3 ดาวพุธ

ศูนย์รังสีที่มีพุธ

เชิญผู้รู้ท่านอื่นต่อน่ะครับ