ReadyPlanet.com


โหรยูเรเนียนทำนายดวงแม้ววาระสุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย มาร์คอยู่ได้ เลือกใหม่ก็ได้เป็นนายก


http://www.oknation.net/blog/canthai/2009/09/13/entry-1

บรรดาโหรทำนายดวง"แม้ว"วาระสุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย
ทาย"มาร์ค"นั่งนายกฯยาวถึงปีหน้า


นัก โหราศาสตร์ทำนายดวง"ทักษิณ"วาระสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตไม่เหลืออะไรเลย เหมือนพ่อ ผิดกับ"อภิสิทธิ์"ไปต่างประเทศยังไงก็ได้กลับมาเมืองไทย และยังได้เป็นนายกฯลากยาวไปถึงปีหน้า ชี้เหตุการณ์19 ก.ย. ไม่รุนแรง ทำนายยุบสภาปี 53 หลังแก้รธน.

ที่ห้อง 604 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน  เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 13 กันยายน  ชมรมสกายคล็อก โหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน จัดงาน “วันโหรจรัญ” ครั้งที่ 5 ประจำปี 2552โดยมีการสัมมนาทางวิชาการโหราศาสตร์สากล-ยูเรเนียน เรื่อง “เศรษฐกิจและโรคภัยไทย ปี 2553”

นายจรัสโรจน์ บถดำริห์ ทายาทของ นายจรัญ พิกุล (บถดำริห์) อดีตปรมาจารย์โหรผู้ยิ่งใหญ่แห่งสยาม กล่าวว่า ในการจัดงานครั้งนี้ เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ทำกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการร่วมรำลึกถึง นายจรัญ พิกุล และให้นักโหราศาสตร์รุ่นใหม่ได้รับความรู้เพิ่มขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิและ วิทยากร อีกทั้งการสัมมนาครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่ เพื่อเป็นแนวทางให้รู้ว่าควรปฏิบัติตัวในทิศทางใด

ขณะ ที่ นายวิโรจน์ กรดนิยมชัย นักโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน กล่าวว่า ในอดีตเมื่อ 90 ปีที่แล้วมีไข้หวัดสเปนนิสฟูลระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50-60 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นเชื้อโรคชนิดเดียวกันกับไข้หวัด 2009 โดยในปี ค.ศ.2010 ยังมีไข้หวัด 2009 ระบาดเหมือนเดิมแต่อาจจะมีความรุนแรงไม่เท่ากับในสมัยอดีตที่ผ่านมา เพราะวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนามากขึ้น โดยโอกาสติดเชื้อไข้หวัด 2009 มีเพียง 1 ใน 3 ของคนทั้งโลกที่มีโอกาสติดเชื้อ และจะมีการระบาดหนักในช่วงฤดูหนาว 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนทางด้านเศรษฐกิจโลกในปีหน้าประเทศที่อยู่ตรงข้ามกับสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น จีน รัสเซีย และอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าของสหรัฐอเมริกา จะมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า โดยประเทศจีนอาจจะเป็นประเทศมหาอำนาจแทนประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ปัญหาหนึ่งคือ โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศจีนอาจจะต้องมีการปรับตัว

นาย วิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์การเมืองในอนาคต จะมีนายกรัฐมนตรีที่ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเหมือนกับปี พ.ศ.2523 ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เงื่อนไขในครั้งนี้อาจจะต่างกันตรงที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคตข้างหน้านี้

“ส่วน เหตุการณ์ 19 กันยายนนี้ที่จะเกิดขึ้น ก็จะต้องมาดูด้วยว่า ประเทศไทยปีนี้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีดวงเมืองอยู่ โดยในแต่ละปีสามารถดูดวงได้ว่า แต่ละปีคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งในปีนี้และปีหน้านายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เช่นเดิม ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง และไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงตัวนายกรัฐมนตรี” นายวิโรจน์กล่าว

นาย วิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าหากเปรียบเทียบดวงชะตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น มีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง ดวงชะตาชีวิตของนายอภิสิทธิ์ เป็นดวงชีวิตที่ต้องเดินทางระหว่างต่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นนายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปไหนมาไหนนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นดวงของเขา

ดังนั้นในการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้นายอภิสิทธิ์ไปแล้วก็ต้องกลับมา และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

“ส่วน ดวงชะตา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ต้องดูดวงของพ่อเขา พ่อเป็นอย่างไรลูกเป็นอย่างนั้น สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นส่วนหนึ่งมาจากพ่อ ข้อมูลจากหนังสือ “ตาดูดาวเท้าติดดิน” หน้า 37 พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงพ่อตัวเองว่า

“สิบกว่าปีที่ ผ่านมา พ่อไม่เหลืออะไรเลย ในวาระสุดท้ายในชีวิตของพ่อ ทักษิณต้องพาพ่อไปอยู่ที่ จ.นนทบุรี แล้วพ่อก็ตาย โดยที่ไม่เหลืออะไรให้ลูกหลานไว้สืบทอดเลย”

ซึ่งนั่นก็คือ ชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ” นายวิโรจน์กล่าว

นาย วิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์นั้นในช่วงเดือนนี้จะต้องระวังให้มาก เพราะอาจมีอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย ระหว่าง พ่อ หรือ นายอภิสิทธิ์ ต้องเข้าโรงพยาบาล และดวงในปีหน้าอาจจะมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ได้ หลังจากการแก้รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว

(มติชน)

***********************

วันอาทิตย์อ่านเรื่องเบาๆเรื่องการทำนายทายทักเรื่องโหรเรื่องหมอดูพอให้สมองได้พักบ้าง

มีคนบอกว่าถ้าเครียดให้ไปหาหมอดู...การทำนายวันนี้น่าจะเข้าเค้า อ่านแล้วหายเครียดไปเยอะเลย

ยิ่งมีการทำนายทายทักให้คนที่เราไม่ชอบตกอับเราจะยิ่งสบายใจ อิ อิ

บรรดาโหรทำนายดวง"แม้ว"วาระสุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย

โหรก็ว่าไปตามโหร อย่างน้อยเราเชื่อว่าคงถูกยึดทรัพย์ค่อนข้างแน่ โดยคำสั่งศาล...ชัวร์

ใน สายตาผมแม้ไม่ใช่โหร แต่ก็มองเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยคนเสื้อแดงคงไม่มีศักยภาพที่จะ สั่นสะเทือนความมั่นคงของรัฐบาลได้หรอก หากรัฐบาลใช้อำนาจตามกฎหมายอย่างเหมาะสม

ในอดีตรัฐบาลไม่เคยโค่นด้วยฝ่ายค้านแม้แต่ครั้งเดียว แต่จะถูกโค่นโดยพรรคร่วมรัฐบาลกันเองเท่านั้น

การให้มีประชุมเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็แค่ทำให้บรรยากาศในสภาดูผ่อนคลายขึ้น

แต่ต้องไม่ลืมว่า"แรงต้าน"จากสังคมภายนอกมีมากมายมหาศาล

เฉพาะ เรื่องแก้เรื่องแบ่งเขตเบอร์เดียวนั่นก็คือทำให้เขตเลือกตั้งเล็กลง นักการเมืองสามารถใช้อิทธิพลการเมืองการเงินและการจัดตั้งได้ดีกว่าเขตใหญ่

เมื่อ มองผลดีผลเสียเรื่องเขตใหญ่ 3 คน (ประชาชน 1 คนเลือกผู้แทน 3คน ) กับเขตเล็ก ประชาชน 1 คน เลือกผู้แทน 1 คน ( แบบรัฐธรรมนูญ 2540 )

สิ่ง ที่น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าน่าจะเป็นเขตใหญ่เพราะอย่างน้อยก็ทำให้การซื้อ เสียงทำได้ยากขึ้น ใช้เงินมากขึ้น นักซื้อเสียงลำบากขึ้น

หากแก้ไขตามเสียงเรียกร้องของนักการเมือง/พรรคการเมืองคิดหรือว่าประชาชนนอกสภาจะไม่รู้ไม่เห็น...และจะทำนิ่งเฉย

สิ่งที่รัฐบาลอ้างได้เรื่องเดียวคือมาตรา 190 ที่ยังไม่มีการทำกฎหมายลูกให้ชัดเจน หากแก้ไขผูกมัดเกินไปก็จะทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก

ทางออกของ มาตรา 190 น่าจะอยู่ที่กำหนดให้มี "กฎหมายลูก" มาขยายความตามเจตนารมณ์มาตราตรา 190 มากกว่า

เพราะหากแก้ไขไปในทิศทางอื่นไม่น่าจะตรงกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

และแน่นอนเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆเนื่องเพราะรัฐบาลก็เงี่ยหูฟังประชาชนอยู่แล้ว

หากไม่รับฟังเสียงประชาชนรัฐบาลก็อยู่ลำบากเนื่องเพราะไม่มีเสียงมากเด็ดขาดในสภา

จึงต้องอาศัยหันหลังพิงประชาชนให้มากที่สุดอย่าทำอะไรที่ทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน

กว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้กว่าจะยุบสภาคงต้องรออีกนาน

เว้นแต่เสียงสนับสนุนในสภาจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เพียงพอ นั่นจึงต้องถึงคราวยุบสภา

ถ้า ดูตามสภาพการณ์ตอนนี้ยังไม่เห็นมีสัญญาณว่ามีอะไรที่เป็นปัญหายิ่งใหญ่จนถึง กับพรรคร่วมรัฐบาลจะตัดใจจากไปสู่สนามเลือกตั้งในเวลาอันใกล้นี้

ที่สำคัญพรรคร่วมรัฐบาลคงยังสะสมเสบียงกรังในการเลือกตั้ง..."ยังไม่พอ"..

เลยขอฟันธงไว้ตรงนี้ว่า"การยุบสภา"จะยังไม่เกิดขึ้นก่อนงบประมาณใหม่เข้าสู่สภากลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย

แคนไทเมือง

 



ผู้ตั้งกระทู้ เฮอะ :: วันที่ลงประกาศ 2009-09-14 10:43:00 IP : 61.90.16.22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1983808)

มติชน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1252831912&grpid=00&catid=no

ผู้แสดงความคิดเห็น เฮอะ วันที่ตอบ 2009-09-14 10:44:09 IP : 61.90.16.22


ความคิดเห็นที่ 2 (1983912)

เชอะ::ขอบคุณคร๊าบ

ผู้แสดงความคิดเห็น เชอะ::ได้รับทราบความเคลื่อนไหว วันที่ตอบ 2009-09-14 13:31:27 IP : 58.9.140.170


ความคิดเห็นที่ 3 (1984252)

จริงแล้ว  ในงานเดียวกันนี้ ผมก็แสดงความเห็นอีกแบบหนึ่ง  แบบมุขปาฐะ

เรื่องดวงนายกฯ นี้เป็นเรื่องที่สนใจของผู้คนในแผ่นดินนี้   ไม่ผิดหรอกคับที่จะทำนาย  เพียงแต่  เราดำเนินการให้งานสำเร็จลุล่วง  และว่าตามวิชาการที่ร่ำเรียนมา  ซึ่งอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไปได้  แต่ทั้งหมดนั้นเราเป็นพรรคพวกโหราแนวเดียวกัน  ต่างรู้จักและรักชอบพอต่างนับถือกันด้วยกันทั้งนั้น

เรื่องหนักๆมีท่านอาจารย์หลายท่านที่อธิบายตามหลักวิชาการ  แนวการเมืองเศรษฐกิจและการแพทย์

ส่วนผมเลยแหวกมาในแนว  โหราการมุ้ง  ซะ  โดยบรรยายเรื่อง  โหราสมพงษ์หญิงชาย

แบบ ประชดสังคมไง   เห็นหลายท่านจดกันน่าดู  แถมแอบตามมาซักมาถามหลังไมค์อีก

ก็ บางปีมาวิชาการจ๋า บางปีมาแนวแพทย์  บางปีมาแนวปฏิบัติธรรม และปีนี้มาแนวโลกีย์ซะนี่

เรื่องโหราการเมืองเนี่ย  วงรอบมันก็ใช้ได้จริง แต่มันก็มีอีกหลายๆวงรอบและจังหวะดาวสำคัญที่ต่างก็ทำมุมสำคัญๆ  ซึ่งใช้ได้ทั้งนั้น

การที่จะบอกลีลาพ่อลูกต้องเหมือนกันนั้น  ก็เป็นมุมมองหนึ่งแนวลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น  แต่ก็อีกเหมือนกันแหล่ะที่เรื่อง อภิชาตบุตร  อนุชาตบุตร และอวชาตบุตร  มันก็มีนะคับ

ขนาดแอ๊ปเปิ้ลตกใส่หัว  ฝรั่งกับไทยยังมองไม่เหมือนกัน

ของไทยตกปุ๊บ พี่ไทยร้อง ออกมาว่า ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น

แต่ ท่านเซอร์ไอแซค นิวตันนั้นพอตกปุ๊บเกิด  ยูเรก้าซาโตริ  แว๊บวาบความคิดขึ้นมา  เป็นตำรา The Principia  ให้นักเรียนสายวิทย์ทั่วโลกร่ำเรียนจนมึนปวดหัว   เพราะสามารถคิดไกลไปถึงแรงโน้มถ่วงของโลก  กลายเป็นวิชาฟิสิกส์เชิงกลศาสตร์  ไปได้ก็มีแน่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...มาแระ วันที่ตอบ 2009-09-15 07:00:24 IP : 118.172.51.159


ความคิดเห็นที่ 4 (1984287)

จะส่งบทความที่เป็นกรณีพาดหัวข่าวให้ได้ยังไงครับ

ขอเมล์ด้วยครับ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2009-09-15 09:05:43 IP : 203.149.16.44


ความคิดเห็นที่ 5 (1984374)

 

สด ๆ ร้อน ๆ ลีลาชีวิตพ่อ-ลูก

"โศกนาฎกรรมตามรอยพ่อ! ลูกชายนักบินยานโคลัมเบียพา F-16 โหม่งโลก"

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000106930

ลูกชายนักบินอวกาศอิสราเอลประจำยานโคลัมเบียที่ระเบิดกลางอากาศเมื่อ 6 ปีก่อน ขับเครื่องบินเอฟ-16 โหม่งโลกเสียชีวิตตามบิดา....

แน่นอนว่าไม่เหมือนกันทุกกรณี แต่ลีลาชีวิตคล้ายกันโดยอุปมาอุปมัย

ผู้แสดงความคิดเห็น nUm วันที่ตอบ 2009-09-15 11:31:25 IP : 61.7.177.63


ความคิดเห็นที่ 6 (1984402)

bharot06@gmail.com  ได้เลยคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จัดให้ วันที่ตอบ 2009-09-15 12:27:47 IP : 118.172.5.158


ความคิดเห็นที่ 7 (1984519)

กงกรรม กงเกวียน

วิโรจน์  กรดนิยมชัย

1 กันยายน  2552

                  “ การทำธุรกิจในแบบของพ่อมีช่องโหว่มากเกินไป  

          พ่อวิ่งไปข้างหน้าแต่ลืมข้างหลัง ไม่ทันได้คิดสร้างทายาทขึ้นมารับช่วงต่อ

          ไม่มีคนคอยดูแลรายละเอียดในสิ่งที่พ่อบุกไว้ และวิ่งเร็วเกินไปจนไม่มีใครฉุดอยู่

            เหมือนรถไฟที่เครื่องมันแรงเกิน พอไปถึงทางโค้งรั้งไว้ไม่ไหว มันก็ตกราง ” 
 

            “ ในที่สุดไม่ถึง 10 ปี กิจการของพ่อก็ค่อยๆลดลง

              จนเหลือแต่โรงหนังศรีวิศาล  และที่ดินนิดหน่อย” 
 

                   “ กระทั่งวัยล่วงเลยมากว่า 70 ปี 

          ผมเห็นว่าพ่อเหนื่อยมามากแล้วควรพักบ้าง

          จึงชวนพ่อมาอยู่บ้านสวนนนทบุรี ซึ่งผมจัดไว้ให้

            พ่อดูมีความสุขมาก เพราะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ

            ทำสวน ปลูกดอกไม้ ตามความชอบของพ่อ และสิ้นลมอย่างสงบเมื่อปี 2540

            จากไปโดยไม่ทิ้งทรัพย์สินเงินทองไว้ให้ ไม่มีกิจการใหญ่โตให้ลูกหลานสืบช่วงต่อ

            เหลือไว้แต่มรดกทางความคิด และจิตวิญญาณ ซึ่งดูเหมือนผมจะได้รับมากกว่าใคร” 
 

      เป็นข้อความที่  ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวถึง เลิศ ชินวัตร บิดาผู้ล่วงลับไปแล้วจากหนังสือ “ ทักษิณ        ชินวัตร ตาดูดาว เท้าติดดิน” โดย “วัลยา”  สนพ. มติชน

      ข้อความข้างต้นนี้ เปรียบเสมือน Road Map หรือแผนที่นำทางชีวิตของ ทักษิณ  ชินวัตร เป็นอย่างดี หากเขารู้จักหลักปรัชญาที่ว่า อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน และได้มีโอกาสย้อนกลับมาอ่าน อ่านสิ่งที่เขาได้เขียนเอาไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับผู้อ่านคนอื่นๆ แต่สำหรับตัวเขาเอง สิ่งที่เขาเคยเขียนไว้ เขาได้นำมาเป็นบทเรียนและเป็นอุทาหรณ์สอนใจตนเองบ้างหรือเปล่าไม่มีใครตอบได้ ซึ่งถ้าเขาได้อ่าน วันนี้ชีวิตของเขาอาจจะไม่เหมือนที่เป็นเช่นนี้ก็ได้

      ผู้เป็นพ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการสร้างสิ่งต่างๆเอาไว้ให้ลูกหลาน ทายาท ไว้สืบสานต่อ เลิศ ชินวัตร หรือบุญเลิศ หรือพ่อเลี้ยงเลิศ ก็เช่นเดียวกัน คงหวังที่จะสร้างสิ่งต่างๆเพื่อสร้างอนาคต เตรียมไว้เพื่อให้ลูกหลานได้สืบทอดในอนาคต จากที่ผมได้อ่านหนังสือเล่มนี้รู้ว่ามีหลายสิ่ง หลายตอนที่เจ้าของอัตชีวประวัติ มีความภาคภูมิใจที่กล่าวถึงพ่อของเขา ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ พ่อนำสิ่งแปลกใหม่ เช่น ตู้เย็น หลังแรกมาใช้งานที่ร้านกาแฟในตลาดสันกำแพง เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ทำหลายสิ่งเหมือนที่พ่อของเขาเคยทำ คือ นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สื่อสารทันสมัยหลายอย่าง แม้กระทั่งเป็นผู้ลงทุนสร้างดาวเทียมดวงแรกของประเทศไทยที่ทำให้สามารถพูดได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ที่กล้านำเทคโนโลยีชั้นสูงมาให้คนไทยได้ใช้ และสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวของเขา เช่นเดียวกับที่พ่อของเขา นำตู้เย็นหลังแรกมาใช้งาน  และสร้างความร่ำรวยให้กับครอบครัวในสมัยนั้น

      การใช้ชีวิตของ  ทักษิณ ชินวัตร ก็คงเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไปที่

      “ คนรุ่นหลังย่อมต้องมีความก้าวหน้ากว่าคนรุ่นก่อนหน้า สังคมจะได้เจริญก้าวหน้า ”

      “ลูกย่อมต้องได้สิ่งที่ดีกว่าพ่อแม่

        เพราะบทเรียนที่ลูกได้รับรู้มาจากพ่อแม่นั้น จะสอนให้ลูกรู้จักเลือกทางเดินที่ดีกว่า” 
 

ปรัชญาโหราศาสตร์ที่สำคัญ

อดีต  ปัจจุบัน และอนาคต ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน

      ในทางโหราศาสตร์แล้วการเปรียบเทียบเหตุการณ์ใดๆนั้นจะเปรียบเทียบในเชิงปรัชญาเปรียบเทียบ ซึ่งอาจจะเหมือนกันทั้งนามธรรม และรูปธรรม หรือเหมือนกันเพียงรูปธรรม แต่ต่างกันที่นามธรรม หรือเหมือนกันในนามธรรม แต่แตกต่างกันที่รูปธรรมก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ที่สามารถเข้าใจหรือตีความหมายของปรัชญาได้เพียงใด

      …ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมเองเคยทำผิดพลาดก็หลายครั้งหลายหน ทุกคราวล้วนสร้างความลำบาก ก่อแรงบีบคั้นให้กับชีวิต และครอบครัวมากอย่างสาหัส ผมจึงไม่อยากให้ผู้อื่น ต้องประสบความทุกข์ดังที่ผมเคยมีเคยเป็น ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมา ไม่มีใครผิดทั้งหมดหรือถูกทุกเรื่อง ท่านผู้อ่านก็เช่นกัน ย่อมต้องเคยกำลังเผชิญ หรืออาจต้องพบกับความล้มเหลว พลั้งพลาดในอนาคตไม่มากก็น้อย “ตาดูดาว เท้าติดดิน” จึงเป็นประสบการณ์ ที่ผมปรารถนาจะแบ่งปันให้ท่านผู้อ่านนำมาปรับประยุกต์ กับการดำเนินชีวิตในวันข้างหน้า บางเรื่องอาจหยิบไปใช้ บางเรื่องอาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจ สุดแท้แต่จะพอใจ โดยเฉพาะ ในภาวะที่บ้านเมืองยุ่งเหยิงเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ …………………….

      ข้อความอีกตอนหนึ่งของทักษิณ ชินวัตร จากหนังสือเล่มเดียวกันนี้ แม้จะเขียนไว้หลายปีแล้ว แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้เตือนใจได้ในวันนี้ 
 

    อดีต ปัจจุบัน อนาคต
    เลิศ  ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร พานทองแท้ ชินวัตร
    เกิด  ปี 2462 เกิด 26 กรกฎาคม 2492 เกิด 2 ธันวาคม 2522

 
 

      ทักษิณ  ชินวัตร ผู้ก้าวขึ้นสู่อัศวินคลื่นลูกที่ 3 นับจากวันที่เขาเริ่มโครงการดาวเทียม “ไทยคม” โดยได้รับสัมปทาน เมื่อ 11 กันยายน 2534 หลังจากที่ได้เข้าพบกับ พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้าคณะปฏิวัติที่เรียกว่า “รสช.” เป็นที่น่าสังเกตว่า อายุการใช้งานของดาวเทียมแต่ละดวงจะอยู่ระหว่าง 12-15 ปี ซึ่ง ดาวเทียมไทยคม 1 มีอายุใช้งาน 15 ปี (เท่ากับการโคจรครึ่งรอบการโคจรของดาวเสาร์) ผู้ได้รับสัมปทานมาเมื่อปี 2534 ก็ขายหุ้นให้แก่ เทมาเสก เมื่อ 23 มกราคม 2549 หรือ 15 ปี หลังจากได้รับสัมปทาน   และหลังจาก 19 กันยายน 2549 เขาก็ต้องพ้นไปจากความยิ่งใหญ่ โดย พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิวัติ “คมช.”

      บทความนี้ผมเขียนค้างมาหลายวันแล้ว ด้วยยังไม่มีเวลามากพอที่จะเขียนบทสรุป  แต่เผอิญที่ เมื่อ13 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ผมได้ไปบรรยายในงานวันโหรจรัญ และได้มีการนำสิ่งที่ผมบรรยาย รวมทั้งบทสัมภาษณ์ของผมไปตีพิมพ์ในสื่อหลายแห่ง  ซึ่งตอนที่ให้สัมภาษณ์นั้น ผมไม่ได้นำบทความนี้ไปด้วย จึงได้แต่คุยกันปากเปล่าเท่าที่จำได้ แต่เมื่อข้อความที่สื่อนำไปใช้นั้น สร้างความเข้าใจที่คิดว่า ผมมีอคติกับ ทักษิณ ชินวัตร ผมจึงจำเป็นต้องเขียนบทความนี้ต่อให้จบเร็วขึ้น

      ล่าสุด  เมื่อช่วงหัวค่ำได้มีลูกศิษย์คนหนึ่งโทรมาแจ้งว่า ทักษิณ ชินวัตร พูดถึง โหร กับ โหน ผมจึงตามอ่านใน TWITTER ได้พบข้อความหนึ่งที่ ทักษิณ ชินวัตรกล่าวไว้เอง ผมจึงได้ข้อสรุปของบทความนี้โดยไม่ต้องสรุปเอง ขอบคุณครับ ทักษิณ ชินวัตร กับประโยคสุดท้ายที่คุณเขียนเอง 
 

วันที่  14 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 12:12:12 น.  มติชนออนไลน์

"แม้ว"ตอบทวิตเตอร์ไม่สนโหรทำนาย สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย ดวง"มาร์ค" นายกฯถึงปีหน้า ยุบสภาฯหลังแก้รธน.

"แม้ว"ไม่สนโหรทำนาย วาระสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตไม่เหลืออะไรเลย เหมือนพ่อ ผิดกับ"อภิสิทธิ์"ไปต่างประเทศยังไงก็ได้กลับมาเมืองไทย และยังได้เป็นนายกฯลากยาวไปถึงปีหน้า ชี้เหตุการณ์19 ก.ย. ไม่รุนแรง ทำนายยุบสภาปี 53 หลังแก้รธน. อดีตนายกฯ อัดปชป.มีแต่ต่อรอง-โชว์วาทะ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 14 กันยายน หลังจากที่มี นักโหราศาสตร์ทำนายดวงว่า วาระสุดท้ายของบั้นปลายชีวิตไม่เหลืออะไรเลย เหมือนพ่อ ผิดกับดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังได้เป็นนายกฯ ลากยาวไปถึงปีหน้า ว่า "โหรมีสองประเภทครับ คือโหร กับโหนผม ไม่ได้ติดตามเลยไม่ทราบว่า เป็นอันไหนแน่ ทุกวิชาชีพถ้าจะให้เป็นที่เคารพ ต้องมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพนั้นๆ"

พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวในทวิตเตอร์อีกว่า การเมืองอ่อนแอ มีการต่อรองตลอดเวลา รัฐบาลประชาธิปัตย์ทุกรอบ จะโชว์วาทะ และความจัดเจนในการเมืองมากกว่าความสามารถในการบริหารบ้านเมือง  

"ผมอโหสิกรรมให้ทุกคนมานานแล้วครับ

กรรมใครกรรมมันต่างก็ต้องชดใช้กันเอง ถ้าเราไปเครียดแค้นกัน ก็จะติดบ่วงกรรมกันไปไม่รู้จักจบสิ้น"

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...จัดให้คับ วันที่ตอบ 2009-09-15 17:41:59 IP : 118.172.33.71



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.