กระชุ่มกระชวยเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ หรือเปล่า

เรียนเชิญ ท่านnUmผู้เชี่ยวชาญกาลชะตาและท่านอธิผู้โด่งดัง ขอโทษที่เอ่ยชื่อ แต่อยากฟังสำนวนและวิชาการที่น่าทึ่งถือว่าเป็นวิทยาทานนะค่ะ จะรอค่ะ

        ปัญหานี้ขืนตอบไป     ไม่แฟร์
คนถามหนุกคนทายแย่         เสี่ยงแท้
เวลาเกิดเหตุไม่แน่              อีกทั้ง    คำเฉลย
ถูกผิดอาจมีแง่                   เสี่ยงนัก   ทำนาย

 

       ตามหลักการเป็นวัน          สำคัญ
อาทิตย์สะท้อนจรเจอกัน           รวิเก่า
พฤหัสจรเล็งลัคน์นั้น                เสียคู่
รักจืดเพราะงี่เง่า                     เข้าวัด    พักใจ

เหตุการณ์สำคัญอยู่ช่วง 19.30 - 21.30 น. ของวันที่ 22 ตุลาคม 2552

ขอรับรองว่าจะเฉลยโดยไม่มีการปิดบังใด ๆ

( ไม่ได้ตั้งใจจะมาลองวิชาอะไรนะคะ เพียงแต่อยากนำมาเป็นกรณีศึกษากันเท่านั้นเอง ด้วยความเคารพ )

รับการผ่าตัด

ma+ur-su v1 = -mc  r = -ve = -vu

ma+ur-su t = -as r= -me r

ma/ur//su r = ar/su t

ไป ร.พ. คลอดบุตร

ขอปรบมือให้ท่านอาจารย์ภารต ค่ะ เข้ารับการผ่าตัดจริง ๆ แต่ว่าไม่ใช่การคลอดบุตรนะคะ ท่านอื่น ๆ เห็นว่าอย่างไรค่ะ แต่ทายว่ารับการผ่าตัดก็ถูกแล้ว

ปกติแล้วจะเข้ามาแอบอ่าน เวลาที่มีคำถามทำนองแบบนี้ แล้วก็รู้สึกทึ่งกับคำตอบ ของอาจารย์ภารต และท่านอื่น ๆ

แต่เรียนตามตรงว่าก็ไม่แน่ใจว่าท่านทราบข้อมูล หรือ ขออภัยถ้าจะใช้คำว่า "เตี้ยม" กันหรือเปล่า พอเกิดเหตุกับตัวเอง ก็เลยลองเข้ามาตั้งกระทู้ดู

ก็รู้สึกทึ่งมาก ๆ ค่ะ ตอบได้ถูกต้องจริง ๆ ด้วย นับถือ ๆ

ขอบคุณค่ะ

นั่นแหละ คนไม่เคยเจอ เจอแรก ๆ ก็หยั่งงี้ นึกว่าเตี๊ยมกัน เพราะมันจะตรงซะจนน่าแปลกใจ แต่ถ้าติดตามไปนาน ๆ จะรู้ว่าอะจ๊านเฮาทายแม่น แต๊ ๆ จิงบ่อ....

อาจารย์ภารต นับถือๆ เดี่ยวว่างๆผมจะเอาสูตรสมการข้างบนไปศึกษา

ติดตามผลงานมานาน อาจารย์ภารต ท่านเป็นโหรที่แท้จริง ไม่เอากระแสการเมืองมาทำนายด้วยอคติ แล้วเอาเท้าขยี้ผู้คนซ้ำเพื่อสร้างชื่อ อ้ายคนประเภทนั้นมันค้องเจอเท้าเข้าสักวัน

จุ๊ๆๆ  ไม่อาว  ไม่ล่วงล้ำเกิน คนอื่น  เราพรรคพวกกันทั้งนั้น

วิชาโหร  น่ะ  หลักการมันก็มีวนเวียนอยู่เท่านี้แหล่ะ

เรียนๆไป  เดี๋ยวมันก็ทันกันเองแหล่ะคับ ถ้าไม่หยุดเรียนซะก่อนกลางคัน

ที่ผมบ้าเรียนและยังเรียนไม่จบวิชานี้ก็เพราะ  มันมีอะไรที่ให้ทึ่งแบบนี้แหล่ะ

ผ่าตัดเสริมความงามรึเปล่าครับ

ผ่าตัดไส้ติ่งค่ะ ปวดท้องอย่างแรงตั้งแต่คืนวันที่ 21 ตค. แต่อดทน มาจนถึงวันที่ 22 ตค. แล้วผ่าตัดตอนประมาณ 19.30 - 21.00 ประมาณนี้ ตอนแรกคิดว่าปวดกระเพาะถึงอดทนเอา

นี้ถ้ายังทนต่อไป มีหวังไส้ติ่งแตกแน่ ๆ เกือบตาย ปีนี้ดวงไม่ดี มีแต่เรื่องเจ็บป่วย อุบัติเหตุ

     พฤหัสจรถึงลัคน์นั้น      ใครว่า
ดวงจะดีนักหนา                จริงไม่!
ศุกร์จรทับจันทรา              มีโชค   แน่แฮ? 
เฉกเคสนี้นั้นไซร้               แหกคอก   ทฤษฎี !!!

     ล้วงลึกจากก้นบึ้ง         รากชะตา
เจาะทลวงดวงชัณษา         บอกได้
ยูเรเนียนโหรา                  สองชั้น  จานเวย
มรดกโหรครูให้                 ทิ้งไว้   ได้เรียน

ผ่าตัดใส้ติ่ง = อังคาร+มฤตยู-ราหู
ลืมมองดาวดูเดือนปาย

เลื่อนให้ถึง 20 คห.  จะได้ติดดาวให้กระทู้อ่ะ

พฤหัสจรถึงลัคน์นั้น           ใครว่า
ดวงจะดีนักหนา                จริงไม่!
ศุกร์จรทับจันทรา              มีโชค   แน่แฮ? 
เฉกเคสนี้นั้นไซร้               แหกคอก   ทฤษฎี !!!

นับถือ ๆ ค่ะ ว่าแต่ว่า ที่ว่าเคสนี้แหกคอกนั้น มันน่าจะมีเหตุมีผล

มีที่มาที่ไป และจะเป็นไปได้หรือว่า จะไม่มีเรื่องดี ๆ ตามมาเลย

สงสัยค่ะ (ด้วยความเคารพ)

รอดพ้นชะตากรรมรังแกอย่างหวุดหวิด  ไงคับ

เอาซวยเป็นโชค   เอาโรคเป็นครู

เรื่องนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์เชิงมุมของปัจจัย

ซึ่งขัดแย้งกันระหว่างระบบยูเรเนียนกับโหราแนวสากล

พฤหัสเล็งนั้นยุเรเนียนถือว่ามุมแรง  ต้องมีโชคแน่

แต่โหราสากลบอกว่า  กว่าจะมีโชคได้ต้องดิ้นรนแทบตาย

ที่เขียนแค่สามบรรทัดนั้น  มีเบื้องหลังในการพยากรณ์หลายแนวทาง

เช่น  ต้องดูจากดวงกาลชะตาที่ถาม  เป็นอันดับแรก

จะเห็นว่า อังคารทำมุมฉากกับอาทิตย์ ตอนเวลาถาม 

เจาะจงไปที่ เหตุการณ์อังคารกับอาทิตย์นั่นแหล่ะ

ดูว่าเสาร์กับพลูโต ฉากกัน  และ  จันทร์ กุม พฤหัส

เท่านี้ก็พอจะหา สโคปให้แคบได้ จากนั้นไปดูที่ดวงชะตา

ณ วันเกิดเหตุ  ในแนวอังคาร  หาจากจานคำนวณ 2 ชั้น ก็เห็น จุดผ่าตัดเข้า

ความเป็นจริงตามหลักวิชาโหราศาสตร์  ถ้าเรียนมานานๆแบบบ่มจนเก๋า

จะรู้ได้เองว่า  การแกะเมื่อหวยออกแล้ว  หรือ เหตุการณ์เกิดแล้ว  แต่เป็นเพราะปัจจัยใดทางโหราศาสตร์

กับการใช้เทคนิคคำนวณเพื่อเจาะหาผล และออกคำทำนาย ให้ถูกต้องแล้วรอผลเฉลย   นั้น

เป็น คนละเรื่องกัน  ทั้งๆที่มองดู  จะดูเหมือนว่า  คล้ายกัน

เช่น เวลาคำนวณหา หวย  ว่าตัวไหนจะออก 1  ถึง 0  สิบตัว

ก่อนแทง  จะเห็นว่า  ตัวนั้นก็ดี  ตัวนี้ก็เยี่ยม  มีลูกรักลูกชัง

ถึงเวลาออกมา  ตัวที่รักดันไม่ออก

แต่เมื่อเอาสถิติเก่าที่ออกไปแล้วมาหาว่าทำไมตัวนี้ถึงออก

เราจะสามารถจะอธิบายได้จากหลายทฤษฎี แน่ะ!

แล้วทำไมก่อนออกจึงดันไม่เลือกแทงซะเองล่ะ  ตัวนี้น่ะ

ดังนั้น  เรียนเพื่อรู้วิชาโหราศาสตร์  ก็แบบหนึ่ง

เรียนเพื่อ แกะดวงหาว่าทำไมจึงเกิดการณ์นี้   โดยอธิบายจากวิธีการโหราศาสตร์ก็แบบหนึ่ง

และเรียนเพื่อ พยากรณ์ให้ตรงประเด็น  ด้วยหลักโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน  ก็อีกแบบหนึ่ง

ซึ่งมองดูเหมือนกันแต่ดันไม่เหมือนกัน  ซะนี่

ท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ท่านถึงเคยว่า  เป็นวังวนแห่งโหรา

ต้องคนเรียนศึกษาและคลุกคลีอยู่กับวิชานี้มากๆจะเข้าใจได้เอง

ถ้ามองแนวยูเรเนียนล้วน ๆ ตามความเห็นที่ 23 อาจารย์ภารตกำลังบอกถึงวิธีการกรองจุดอิทธิพลที่มาเป็นกองทัพใช่หรือไม่

และกรองกันยังไงล่ะเนี่ยอาจารย์

บางคนที่เรียนโหราศาสตร์ยูเรเนียน   ใช้โปรแกรมเป็น  รู้จักจุดเจ้าชะตา  รู้จักความหมายปัจจัย  รู้จักจุดอิทธิพล และศูนย์รังสี รวมไปถึงความหมายต่างๆตาม ฐานข้อมูลคำแปล  และรู้จักดวงจร ดวงทรานสิต และการกระทบทำมุมทั้ง 8   ก็นึกว่า  ตูข้าคงจบแล้ว  ยูเรเนียนทำไม่ง่ายจังแหม  ยิ่งหวยออกแล้วด้วย  แกะได้ยันรายละเอียดเชียว

บางท่านก็ลึกล้ำพิศดารเล่นแขนดาวแกนดาว หาลูกละเอียด

แต่มันจะไปติดแหงก  ตรงที่ แกะอดีตได้เฉียบ แต่พยากรณ์เดินหน้าไม่ได้  วางเวลาเกิดเหตุไม่แม่นฉมัง

ถูกวิธีคิด  ผิดวิธีทำ  เรื่องนี้ไม่ต้องให้ใครบอก  เจ้าตัวคนทำนั่นแหล่ะรู้ดี

จะว่าวิชาไม่แน่นก็ไม่ได้  ตำราไหนๆก้อ่านมาหมด

เหลือแต่ การวินิจฉัย ฟันธง ซึ่งตรงนี้  แต่ละสำนักจะขยายต่อออกไปทางเทคนิค ที่ไม่เหมือนกัน

จะให้สั้น  ให้ยืด  ให้ย่น หรือ ให้ย่อ  ต่อขยายหลายรูปแบบ

เป็นเรื่องของปัจเจกแต่ละคน  แต่ละโหราจารย์แล้วล่ะทีนี้

ในทางสำนักใหญ่ปัจจุบัน  ถ้าเรียนรู้คลุกคลี  พอจะรู้ทางกันได้

สามารถแยกแยะ  ว่า ต้นทางมาจากไหนแนวไหน คล้ายๆเชิงกระบี่แบบนิยายจีนกำลังภายใน หรือแนวดนตรี

มีทั้งลูกทุ่ง  ลูกกรุง  สตริง  เพื่อชีวิต  ฮาร์ดร๊อค  เฮฟวี่  ไทยเดิม  เครื่องสาย  ปี่พาทย์  คลาสสิค  แจ๊ส ฯลฯ

จะไปบอกว่าใครดีกว่ากัน นั้นเป็น  นานาจิตตัง  แถมยังเป็น  นานาสังวาส  ซะอีกแน่ะ

ในหนังสือ ทฤษฎีการพยากรณ์  ของท่านปรมาจารย์ประยูร  พลอารีย์ นั้น 

ถ้าอ่านให้ดี  จะแยก  การผูกดวงเอาไว้  2 แบบ  

คือ ตั้งแกน ราศีเมษ แบบดวงไทย กับ แบบพลาสิดุสสากล

เพียงแต่ว่า สมัยนั้นเรือนพลาสิดุส ยังไม่เป็นที่นิยมในสมัยที่เขียนตำรานี้ และ โหรไทยเข้าใจยาก

ท่านจึงอธิบาย  พลาสิดุส  ในรูปแบบดวงไทย

จากนั้น  มาเข้าสู่  ยูเรเนียน  ที่ตั้งแกนเมษ  กันเลย

คนที่เรียนรุ่นหลังกันมาจะเคยชิน กับ ระบบตั้งแกน

และไม่คุ้นกับพลาสิดุส  สากลแล้ว

หรือ  ต่อๆมารุ่นหลังๆ  ไม่รู้จักเอาซะด้วย

ท่านอาจารย์ อารี  สวัสดี  ท่านเคยบอกว่า  การสถาปนาฟ้าเป็นสิ่งสำคัญ

ต้องเห็นท้องฟ้าตามความเป็นจริง แนวปรากฏการณ์ซะก่อน

ซึ่งก์หมายถึง จุด จอมฟ้า  จุดลัคนา  ตามสภาพเป็นจริง

เช่นอาทิตย์ขึ้น  อาทิตย์สูงสุด อาทิตย์ตก  และอาทิตย์เที่ยงคืน

ซึ่งดวงสากล แบบ พลาสิดุส ทำได้

อีกทั้งการใช้มุม  ในแต่ละสำนักไม่เหมือนกัน  ยูเรเนียนเน้นใช้ ฮาโมนิกที่ 8

0,45,90,135 และ 180  องศา หรือ รุ่นใหม่ เล่น ฮาโมนิคที่ 16

คือ เล่นไปถึง มุม 22.30 องศา  มิหนำซ้ำ  พอเข้า ฮาโมนิคแล้ว

ดันให้ความหมายที่เหมือนกัน  เช่น ถ้าเขามุม ตามที่คำนวณด้วยโปรแกรมแล้ว

ถ้าเข้ามาในข่าย วังกะ 1 องศา  ผู้ศึกษาจะเข้าใจว่า ปัจจัยทำมุมแล้ว

แต่ละตัวให้ผลเท่ากัน นี่แหล่ะ ที่มาของกองทัพจุด  เลยเลือกไม่ออก กรองไม่ได้

เพราะโปรแกรม  ไม่ได้เรียงให้  ตามความแรง แต่เรียงตามหลักพระเคราะห์ใกล้ไกล

การเรียงตาม ความแรงมุม และระยะวังกะ  ต้องคิดต้องหาเอาเอง!!

และต้องใส่ความหมายให้ได้เองด้วย

พอขึ้นต้นด้วยจุดเมษแกนโลก   ซึ่งไม่ผิด แต่คนพื้นฐานไม่แน่นจะงงและหลงฟ้าได้ง่าย

อีกทั้ง  ไม่เล่นมุมอ่อน  ซึ่งความจริงแล้ว ความหมายของทุกการทำมุมจะมีความหมายเฉพาะ

และความสำคัญในการแปลความหมายและการตีความ ที่เป็นเงื่อนไขไวยากรณ์ดาวเฉพาะทาง ก็เป็นวิชาหนึ่งต่างหาก

ถ้าเข้าใจเรื่องพวกนี้ อันได้แก่ เรื่อง พลาสิดุส  การสถาปนาฟ้าตามความเป็นจริงทางดาราศาสตร์ เชิงปรากฎการณ์

เรื่อง ความหมายของมุมดาว  วงรอบ  วัยโค้ง  จังหวะฟ้า

โดยเฉพาะจานคำนวณ 2 ชั้นเพื่อให้มองได้ครบองค์รวมของทั้งจักรวาล

และรู้จักที่มาของสมการดาวอย่างลึกซึ้ง  ว่าอะไรใช้ได้จริง

ก็จะช่วยกรองตัดกองทัพจุดอิทธิพลออก  ให้เหลือเฉพาะตัวเจ๋งๆ  ไม่กี่ตัว

ซึ่งพอปรับเข้าเหตุการณ์  สถาปนาจุดเจ้าชะตา  ก็จะเข้าใจได้ ในการหาคำตอบและกำหนดเวลาได้เอง

ซึ่งวิธีนี้เป็นเรื่อง พยากรณ์ ไปข้างหน้า

         ส่วนถ้าหวยออกแล้ว  รู้คำตอบแล้วมาแกะ

มิติอื่นมันจะปิด   เพราะเราไปรู้คำตอบซะแล้ว

มันก็ไปหยิบความหมาย  โดยเลือกตามกองทัพจุด

อะไรมันเข้าข่ายก็ไปหยิบเอามา  ให้เข้ากับ คำตอบที่ต้องการ  ที่รู้แล้วมันก็ถูกทั้งนั้น

แต่พอทำบ่อยเข้ามันจะชินนึกว่าวิธีนี้ใช่ เพราะไปข้ามวิธีการชั่งน้ำหนักกรองเรื่อง

เวลาเจอคำถามที่ไม่รู้คำตอบมาก่อน

ก็จะงง  ไม่รู้จะเลือกอะไร  กรองไม่ได้  

ทำให้ 10  คนทั้ง 10  คน

ทายไม่เหมือนกัน  ทั้งที่เรียนมาเหมือนกัน

และทำวิธีเหมือนกัน  แต่ต่างกันตรงวินิจฉัย

นี่แหล่ะคับ  ปมเงื่อนสำคัญแห่ง โหรายูเรเนียน

ที่เขาเลิกเรียนกันซะก่อนกลางคันนั้น  ก็เพราะแบบนี้แหล่ะ

แสดงว่าตำราของเดิม บอกไม่หมดว่างั้น...รุ่นเก๋า ๆ ก็กั๊กเหมือนกันแฮะ...

ไม่ใช่ไม่หมด  แต่เขาไปบอกกันในห้องเรียนคับ

เพียงแต่คนวงนอกที่ไม่มีโอกาสได้เรียน

ที่ใช้วิธีอ่านเอาแต่หนังสือตำราอย่างเดียวจะไม่มีโอกาสทราบ

ครูบาอาจารย์โหรท่านน่ะ  เท่าที่ผมสัมผัสมาทุกคนเลย

ถามอะไรท่านก็ตอบให้ทั้งนั้น  แต่ท่านไม่รู้ว่า เราน่ะไม่รู้เรื่องอะไรต่างหาก

เมื่อไม่มีปุจฉา  มันก็ไม่มีวิสัชชนาสิคับ

แต่ที่เล่าให้ฟังนั้น เพราะให้รู้ว่า  มันมีเงื่อนไขระหว่างบรรทัดที่ไม่ได้เขียนบอกไว้

ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยในช่วงนั้น  การตลาด  การหาpackage ที่โดดเด่น

เพื่อแข่งกับโหราแนวไทย  อีกทั้งเทคโนโลยี่และ โนว์ฮาว ในยุคสมัยนั้นๆ

สมัยก่อน พิมพ์หนังสือตำรา  สักเล่มนึง  อาจารย์โหรบางท่านต้องใช้เงินออมแทบทั้งชีวิต

ขายไม่หมดครอบครัวก็เดือดร้อน   มีหลายท่านลาโรงไปเพราะเรื่องนี้

หรือพอจะมีไฟทำขายลิขสิทธิ์  ก็ได้เงินก้อนแค่นิดหน่อย  พอยาไส้ เป็นค่าเลี้ยงลูก

ไม่ต้องดูไกลหรอก  ดูท่านปรมาจารย์พลูหลวง เรา สิคับ

ช่วงที่ท่านโดนคดีความ รร.ช่างศิลป สมัยก่อนนั้น

ต้องย้ายบ้านหนีหลบตำรวจ  อาศัยขายบทความตำราโหรและประวัติศาสตร์เลี้ยงชีพ เลี้ยงลูกๆของท่านซึ่งก็มีตั้งหลายคน

ท่านขายขาดลิขสิทธิ์ให้ สำนักพิมพ์   ได้เงินก้อนมาน้อยนิด  แต่สำนักพิมพ์นั้นยังคงขายรวยไม่เสร็จจนป่านนี้

ดังนั้นไม่รู้อาไรต้องถาม  ต้องถามเอาเอง  ครูบาอาจารย์โหรท่านบอกให้ทั้งนั้นแหล่ะ

ปัญหามันอยู่ที่ว่า  ตนเองก็ยังไม่รู้ว่า ตนเองไม่รู้อะไร  นั่นแหล่ะ

มันก็เลยไม่รู้ว่าจะถามอะไร