ถามสั้นแต่ตอบยาวนะเนี่ย...เอาแบบที่คนอธิบายเข้าใจอยู่คนเดียวนะ ก็คือว่าถ้าพื้นดวงชะตากำเนิดดวงดาวไหนให้คุณ เวลาทายอนาคตดวงดาวนั้นก็จะมีผลต่อชะตาด้วย เช่นหากเวลาเกิด ดาวพฤหัสให้คุณแก่เจ้าชะตา แต่อนาคตปีหน้า ดาวพฤหัสโคจรในองศาที่เป็นโทษแก่เจ้าชะตาก็จะทายว่า ปีหน้าเจ้าชะตาจะดวงตก จบ.....ยาวกว่านี้ กระจ่างกว่านี้ รออาจารย์ละกัน

ประโยคนี้  ก็คิอ ปรัชญาการทายจร  นั่นแหล่ะ แสดงให้เห็นว่า  ดวงกำเนิดกับดวงจรนั้นเกี่ยวข้องกัน

แต่จะเกี่ยวข้องทางไหนก็มีหลายทฤษฎีที่เค้าค้นพบกัน  เช่น 

แนวทาง ดวงวัย ก็ได้แก่ ดวงโปรเกรสในหลายรูปแบบ  และ ดวง วีต่างๆ เห็นว่าเดี๋ยวนี้ไปได้ถึง วี8

รวมไปถึงดวงวงรอบของดาวใหญ่จังหวะต่างๆในดวงชะตา  เช่นทินวรรษ และ จันทรวรรษ ฯลฯ

อีกแนวทางหนึ่ง ก็คือ แนวทางดวงจร  มีหลักว่า  ต้องหาจังหวะฟ้าว่า  จะใช้กันตรงไหน

ซึ่งก็มีตั้งหลาย จังหวะ  ไม่ใช่มีแต่ จรปัจจุบันหรือทรานสิตอย่างเดียวซะเมื่อไหร่

ต้องมี ดวงอายันตสงกรานต์  ดวงอมาวสี  ดวงขึ้นฤดูกาล  ดวงจรย้ายราศีแบบต่างๆ

การทายจรมันก็เป็น  วิชาใหญ่ มีทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมากมาย

ส่วนเทคนิคการทำนายนั้น  มีหลัก อยู่ 2 แบบที่เกี่ยวข้อง  คือ หมากรุก กับ ตู้เซฟ

ซึ่งแล้วแต่ผู้ถนัด  หรือ บางท่านก็ใช้มันทั้ง สอง แบบ  นั่นแหล่ะคับ

ส่วนตัวอย่างนั้นมีมากมาย  เช่น  ดวงกุ้ง กิตติคุณ  หรือ ดวงรงค์  วงษ์สวรรค์  ที่ยกมาให้ดูนั่นแหล่ะ  ขอรับ

สรุปว่า  การทายจรนั้น  แยกออกมาจาก การทายพื้นดวงชะตากำเนิด ซึ่งก็มีทฤษฎีต่างๆและเทคนิคในการทำนายเยอะแยะนัก

เรียนกันจนหัวโต  และบางทีพุงก็โตไปก่อนหัว

พื้นดวง บอกเหตุการณ์ อะไร?

ทายจร บอกเวลา เมื่อไร?

อ.ภารต อธิบายแถวตรงนี้หน่อยสิครับ

ส่วนเทคนิคการทำนายนั้น  มีหลัก อยู่ 2 แบบที่เกี่ยวข้อง  คือ หมากรุก กับ ตู้เซฟ

หมากรุก คือ แบบไหนครับ

ตู้เซฟ นี่พอคิดว่า เป็นแบบค่อยๆไล่บีบเข้าไปทีละชั้นๆ แต่จริงๆเป็นไงละครับ

เทคนิคแนวนี้ ผมตั้งชื่อเรียกไปเองแหล่ะคับ

หมากรุก  คือ  การวิเคราะห์ภาพรวมของแต่ละจุดเจ้าชะตา

เหมือนอย่างเราดูภาพหมากรุก  ตอนขุนจะจนมุมโดยรุกฆาตนั้น

จะเดินหน้าก็ติดเบี้ยหงาย  หลบไปทางซ้ายก็โดนตาม้า  ลบขวาโดนโคนฝ่ายโน้นล๊อคไว้หมด

จะถอยหลังก็ติดก็ขัด โดนพวกกันเองปิดทาง  โดนเขารุกอีกทีก็จนมุม โดนรุกฆาต

ดวงคนก็เช่นกัน  เวลาจะตาย นั้น  ( ยกตัวอย่าง )

เสาร์มาฉากอาทิตย์  ตนุลัคน์ก็โดนมฤตยูเล็ง  ดาวมรณะก็มาทับลัคน์

ส่วนตัวช่วยทั้งหลายนั้น เช่น พฤหัส ก็มาเสียหายโดนอังคารบล๊อค

พออาทิตย์จร มาชุดชะนวนถึง เสาร์ ก้เกิดเหตุวันนั้น  พอดี

เป็นการพิจารณาแยกส่วน และ มองทั้งองค์รวมไปด้วยกัน

เลยเห็นว่า  ผู้ชำนาญในการอ่าน  เขาชะโงกมองดวง เขาก็รู้ก็เห็นแล้ว

ว่าดีร้ายประการใดเพราะเหตุใดและเมื่อไหร่

เหมือนคนที่เล่นหมากรุกเป็น  มองแปบเดียวก็รู้แล้วว่า ใครจะชนะหรือแพ้

ขุนใครกำลังเป็นรอง  ...เลยเรียก เทคนิคแบบนี้ว่า หมากรุก

ส่วนเทคนิค แบบตู้เซฟ  นั้น  เป็นการไล่ลำดับเวลา ไปตาม  วัย  ปี  เดือน  วัน  ชั่วโมง  นาที

ตามวงรอบ  คือมีมาใน  พื้นดวง ก่อน  จากนั้น  ดวงวัยอายุนี้ ขานรับ  ดวงปีบอกว่ามี  ดวงเดือนบอกว่ามา

ดวงวันบอกว่าใช่  มันจะมาเป็น วงรอบของกระบวนการหาในแต่ละล๊อค  ของมันที่ลงตัวเฉพาะ

เช่นเดียวกับการ ไขกุญแจตู้เซฟ  โดย วงรอบในแต่ละเฟือง จะมีเลขรหัสเฉพาะตัว  ต้องถูกตั้งแต่ชั้นนอกสุดก่อน

แล้วไล่ตามลำดับเข้ามาให้ถูกเลข และการหมุน ซ้ายหรือขวา ซึ่งเป็นการเฉพาะของตู้ใบนั้น

พอเข้าครบทุกวงก็จะดังแกร๊ก  พอไขกุญแจ อีกที ก็เหมือนกับ อาทิตย์จรมาถึงมาจุดชนวน  ก็เลย เปิดออกได้

เรื่องของเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะคับ  ท่านสารวัตร