คนจะสอบติดและเรียนสำเร็จ มันเป็นเรื่องวาสนาสะสม  คือ สติปัญญาต้องดีพอ  มีความรู้อย่างลึกซึ้งในวิชาที่จะสอบเข้า และได้เข้าสอบและแก้ปัญหาจากข้อสอบถูกต้องพอได้มาตรฐานที่เกณฑ์มหาวิทยาลัยเขายอมรับและสามารถทำได้ทันเวลา ที่กำหนดไว้

ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้   ไม่ได้เกี่ยวกับการทำบุญถวายสังฆทานก่อนสอบ หรือการแก้เจ้ากรรมนายเวร แต่อย่างใดทั้งสิ้น

การคิดว่า  อยากเรียนอะไร อยากมีอาชีพอย่างไร  กับอยากทำอะไรเป็นอาชีพข้างหน้านั้นแตกต่างกัน

การบริหารเวลาในการเตรียมตัวสอบเป็นเรื่องสำคัญมาก   การจัดแบ่งเวลาในการศึกษาจนเข้าใจในแต่ละหัวข้อของวิชาที่สอบจนกระจ่างละเอียดทะลุลึกทุกแง่มุม   การจัดแบ่งเวลาในการทบทวนบทเรียนไม่ให้ลืม   และการจัดแบ่งเวลาในการฝึกทำข้อสอบเก่าในทุกแง่มุม  เป็นเรื่องสำคัญมากๆและถือเป็นการสะสมวาสนาถ้าทำจนวาสนาเต็มแล้ว  สอบเมื่อไหร่อย่างไรก็ผ่านได้อย่างง่ายดาย  ไม่เกี่ยวกับหัวสมองดีหรือเจ้ากรรมนายเวรมากางกั้น

ถ้าไม่มีเหตุปัจจัยเช่นนี้แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็สอบไม่ได้ผ่านเท่าที่ได้ตั้งใจไว้

เพราะคนที่เขาผ่านการสอบได้นั้น  เขาทำเช่นว่านี้ได้ทุกคน เพราะเป็นหลักการสากลยอมรับกันทั่วโลก

เรียนมาทางวิทยาศาสตร์  แหะๆ  อย่าไปงมงายกับคำบอกเล่าสิคับ

อย่างนี้ ฝรั่ง เจ๊ก จีน ฯลฯ ที่สอบเข้าแพทย์ได้ ท่านถวายสังฆทานก่อนสอบซะเมื่อไหร่เล่าคับ เขาสอบได้มากี่ชั่วรุ่นแล้ว

ที่จิตตกเพราะดูหนังสือไม่ทัน แก้ปัญหาข้อสอบไม่ได้ต่างหาก  พอใกล้เวลาสอบเข้า เลยประสาทกิน

เอาใหม่ ยังมีเวลาถมเถไปอีกตั้งหลายปี   บริหารเวลาตั้งสติตั้งใจสงบอารมณ์กันใหม่   ชีวิตยังทันถมเถ ไม่มีอะไรสายเกินไปที่จะเรียนรู้

Practice makes perfect. !!!  only one way to win พระก็ยังต้องฝึกเลยครับ  ต้องเรียกว่ากำจัดจุดอ่อนดีที่สุด ^^ อย่างที่ เขาว่านั่นแหละ
ที่สำคัญรักษากำลังใจของตนไว้ให้ดี . . .

เคมีชีวพันธุกรรมหรือเนื้อเยื่อ..ทำแล้วโชดดี ได้ทุนไปเมืองนอก อาจได้ถึง ดร. เชียว