ฯพณฯ  ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ  พล.อ. เปรม  ติณสูลานนท์  ชาตกาล เมื่อวันที่  26  สิงหาคม พ.ศ.2463  ที่ตำบลบ่อยาง  อ.เมือง จ.สงขลา  เป็นบุตรรองสุดท้องจาก 8 คน  ของรองอำมาตย์โท หลวงวินิจทัณฑกรรม ( ปึ้ง  ติณสูลานนท์ ) และนางพินิจทัณฑกรรม ( ออด )

      ในดวงของพณฯท่าน  มีการปรับเวลากำเนิด โดยท่านปรมาจารย์โหรใหญ่ที่เคยอยู่ในวัยร่วมสมัยกับ ฯพณฯ  ซึ่งศึกษาจากเหตุการณ์ใหญ่ๆที่เคยเกิดขึ้น เช่น เวลารับการประกาศโปรดเกล้าฯให้เป็นนายกรัฐมนตรี และประกาศยุบสภา  ว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่เกิดเวลา  6.14 น.  และข้อมูลนี้ในวงการโหราศาสตร์ของประเทศไทย  มักจะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเวลาเกิดของ ฯพณฯ

      ถ้าใช้เวลาเกิดที่ว่านี้อ้างอิง  ก็มีจุดที่น่าสนใจหลายอย่างที่น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง เพราะ

เวลาเกิดนั้น  กุมลัคนา( 02 กย 23) สนิทองศา และมีมฤตยู ( 3 มีน 45 ) เล็ง 180 องศาใส่ ดวงชะตานี้ เพราะคุณสมบัติของการกุมกันสนิทองศา และเล็ง 180 องศา นี่เองที่ทำให้ดาวทั้งสองตัวนี้  กลายเป็นดาวเด่นสำคัญในดวง

โดยอาทิตย์ เป็นเจ้าเรือนภพ 12 และ มฤตยูเจ้าเรือนที่ 6 อริ อยู่ในเรือนที่ 7 คู่ครอง แลมฤตยูที่ว่านี้ ก็มี ซีอุส มาทำมุมอริ 150 องศาให้ คอยกำกับวิถีทางอยู่  

นอกจากนี้  ยังมีอาพอลลอน  อยู่ใกล้ชิดกับลัคนาในภพ 12  ทำให้ อาพอลลอนนี้ แรงรองลงมาจาก อาทิตย์และมฤตยู

ถ้าเราใส่ อีรีส (Eris) ดาวเคราะห์แคระ ที่มีมวลมากว่า พลูโตเข้าไปในดวงชะตานี้  จะเห็นว่า อีรีส ที่อยู่ที่ตำแหน่ง 29 มีน 08 ทำมุม 150 องศา มรณะ กับลัคนา  ( 02 กย 24 ) โดยมี จุดเมษ ( 00 เมษ 00 ) และฮาเดส ( 28 มีน 47 )ความโหด การทารุณ การเจ็บไข้ได้ป่วย  ยากจน ช้านาน สกปรก อยู่ร่วมทำมุมเช่นว่านี้ด้วย

อันว่า Eris อีรีส นั้น ตำราโหราศาสตร์สากล ท่านใช้ชื่อตาม เทพแห่งความขัดแย้งและวุ่นวาย  มีคุณสมบัติแปลว่า  ความขัดแย้ง แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น ความวุ่นวาย  จราจล ยุแยงตะแคงรั่ว  การกระด้างกระเดื่อง หรือเป็นปมที่ต้องแก้ไข ( Complex )ซึ่งปัจจัยต่างๆที่กล่าวมานี้  ต่างก็เข้ามาบงการชี้นำในจังหวะลีลาต่างของชีวิต

ซึ่งกระบวนการในมุมสัมพันธ์มรณะ 150 องศากับลัคนากำเนิดที่ว่านี้  ตามประวัติการทำงานของฯพณฯ (ซึ่งต่อไปนี้ จะขอเรียกว่า ป๋า  ที่ติดปากคนไทยร่วมสมัยมาช้านาน) ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแทบทั้งสิ้น

ปัจจัยดาวทิพย์อีกตัวหนึ่ง ที่เข้ามามีส่วนสำคัญในดวงชะตา  ได้แก่ วัลคานุส ความรุนแรง แข็งแรง ( 7 มถ 52 ) ลอยกลางฟ้าในภพ 10 โดยมี ราหู การเกี่ยวข้อง ทำมุมอริ 150 องศา กำกับวัลคานุส แปลได้ว่า ป๋าท่านต้องเกี่ยวข้องกับความรุนแรงและการใช้กำลัง

ในเรือนที่สามของดวงป๋า นั้น  มีจูโน ( Juno ) ดาวเคราะห์น้อย 5 พจ 12 และอังคาร 23 พจ 50  มาอยู่ร่วมเรือนชะตาที่ 3 ด้วย 

อังคารนั้น แปลว่า การทหาร การกีฬา
ซึ่งป๋านั้น สนใจกีฬากอล์ฟเป็นอย่างมาก  ถึงกับแต่งตำราตีกอร์ฟ เอาไว้ตั้งช่วงสมัยเป็นพลตรี

ผู้นำทางทหารในประเทศไทย นั้นมีบุคลิก 2 แบบ  คือ โผงผางเด็ดขาด ใช้อำนาจกันจริงจังน่ากลัว   ได้แก่ จอมพลสฤษดิ์  ธนรัชต์ กับ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์  บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย  อันนี้พวกหนึ่ง

แต่อีกพวกหนึ่ง คือ  จอมพลถนอม  กิตติขจร และก็ ป๋า  นี่แหล่ะ ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ภาพลักษณ์ออกมา นิ่มๆสุขุมลึกเหมือนคนใจดี  ตามสำนวนฝรั่งที่เขาว่า เป็น กำปั้นเหล็กในถุงมือกำมะหยี่ ( Hide the Iron Fist in a Velvet Glove ) นั่นแหล่ะ

เหตุที่เป็นดังนี้เพราะ  อาทิตย์  ในดวงชะตา ณ ตำแหน่ง 2 กย 25 ถ้านับจากเรือนลัคนา จะเป็นเรือนที่ 1 แต่เป็นเรือนที่ 12 ของเรือนชะตาเมอริเดียนในระบบเรือนชะตาเท่าของวิชาเรือนชะตาสนธิของเทคนิคยูเรเนียน

มองดูทั่วไป คนอื่นเห็น ป๋า ท่านอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่โอ่อ่า  หรือ ความโอ่อ่าอัครฐานแวดล้อมท่าน  ทั้งยศฐาบรรดาศักดิ์

แต่พอท่านชอบที่จะใช้  อาทิตย์ยศศักดิ์ เรื่องนี้อย่างเก็บตัวเงียบ  และอยู่เบื้องหลัง  ตามลักษณะอาทิตย์ ยศศักดิ์ ในเรือนที่ 12 วินาศของเรือนเมอริเดียน

อาทิตย์เดียวกันนี้เอง  ถ้าอยู่ในเรือนชะตาโลก  อาทิตย์นี้กลับเป็นเรือนที่ 6 ซึ่งหมายถึง ผู้รับใช้  และในเรือนชะตาราหู  ที่แปลว่าแนวทางการติดต่อของเจ้าชะตานี้ต่อผู้อื่น  อาทิตย์ตัวนี้ กลับมาอยู่ในเรือนที่ 10 กัมมะ

แปลได้ว่า  ในความเป็นจริง ท่านทำงานรับราชการมาตลอดชีวิต  เกืดในบ้านพักราชการ เติบโตขึ้นแวดวงราชการมาตลอดจนปัจจุบัน แต่เหนือผู้อื่นตามลักษณะของอาทิตย์ในเรือนชะตาโลกนี่เอง

ส่วนในเรือนชะตาจันทร์  โดยปรกติเรือนชะตาจันทร์ นี้จะใช้ทำนายดวงชะตาของเพศหญิง แต่สำหรับผู้ชายแล้วใช้อธิบาย สติปัญญาและการทำงานของสมอง ซึ่งดวงของป๋านั้นอาทิตย์ ไปอยู่ในภพ 5 ซึ่งเสริมร่วมธาตุกับจันทร์ จึงเป็นเรื่องดี  ป๋าท่านจึงเป็นผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ เพราะดูจากประวัติของท่าน ท่านสอบเข้าได้ รร.สวนกุหลาบ เรียน จนจบ มัธยม 8 และสอบเข้า รร.เทคนิคทหารบก ซึ่งสมัยนั้น พิเศษกว่า รร.นายร้อยทหารบก เพราะเป็นหลักสูตรพิเศษ  การที่เด็กจากต่างจังหวัดมาสอบเข้าเรียนได้ที่กรุงเทพ สมัยนั้นต้องถือว่าเป็นช้างเผือก  ดูจากภูมิหลังของท่าน ก็มาจากขุนนางต่างเมือง จะหาเส้นสายฝากเข้าเป็นเด็กเส้นนั้น คงจะไม่จริง ต้องฝีมือล้วนๆ ยิ่งเรียนจน จบมัธยม 8 นั้น ยิ่งไม่ใช่ง่ายเพราะหลักสูตรสมัยนั้น รร.สวนกุหลาบ สอนเป็นภาษาอังกฤษ ตำรับตำราเรียนเป็นText ฝรั่งทั้งสิ้น และต้องรู้ทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสด้วย

    ดวงนี้ได้จากอ่าน       ตำรา
อาจารย์ผดุงเอามา         กล่าวไว้
นิตยสารโหรา               ยูเรเนียน
ปีที่ 1 ฉบับที่ 6 ใช้         39  คือปี

  หน้า 23 เรื่องฝึกอ่าน     เรือนชะตา
อาจารย์ประยูรท่านว่า       เอาไว้
สอนอ่านเรือนชะตา         เมอริเดียน
ปรับเวลาเกิดป๋าให้           ใครสน  มุ่งเรียน

   เอาเนื้อความมาลง        ไม่เหมาะ
ลิขสิทธิ์จำเพาะ                มีให้
ทายาทท่านมีเฉพาะ           ตามกฎ  หมายแฮ
เคยขอแล้วเงียบไป             จึ่งอ้าง  ที่มา

   ในโปรแกรม Virgo         ก็มี
เขาใช้เวลานี้                    ทั่วรู้
เห็นทำแล้วดูดี                  เหมาะเจาะ  ดวงแฮ
ไม่เชื่อลองทำดู                อึ่งตู้   เป็นจริง!!

  เขาปรับเขาทำแล้ว    เข้าท่า
จึ่งหยิบเอาลงมา          ว่าไว้
แกะผสมปั่นสังขยา       รสอร่อย    ดวงเฮย
ยั้งเผ็ดมุ่งหวานให้         หลีกเลี่ยง   ฝ่ายใด    

   ดวงนี้อร่อยแท้ตาม     ประวัติ    
โยงได้หลายเรื่องชมัด   ยิ่งใช้
เขียนลงแบบมวยวัด      ยำเปรอะ
ศูนย์ฯเรือนจุดเรื่องให้    แกงโฮะ  โหราฯ 
 

โชคดีไป ที่อาทิตย์กุมลัคน์ ในทัศนะของหลักการโหราศาสตร์ เป็นเรื่องที่ ตรวจเช็ด ตำแหน่งของดาวอาทิตย์หากเป็นชาย ให้ตั้งเป็นจุดเริ่มต้นดังจุด ลัคน์ ได้... โชคดีไป...

อันว่า  นอกจากอาทิตย์ในเรือนชะตาต่างๆแล้ว  อาทิตย์นั้น  ยังได้ลากพาเอาศูนย์รังสีเข้ามาด้วยหลายตัว   นอกจาก ลัคนา ในมุมกุม 0 องศาแล้ว  ยังพาเอา เสาร์ สะท้อน 16 ตล 42 มาในมุมครึ่งฉาก

แปลได้ว่า  ท่านมักจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เงียบเหงา ที่รู้ว่าเงียบเหงา โศกเศร้า  ตามลักษณะ ดาวเสาร์ สะท้อน เพราะท่านเคยสะท้อนอารมณ์ออกมาจากเพลงที่มักจะนำมาร้องสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งได้แก่ เพลงยอดดอย  นั่นเอง

อีกทั้งท่านเป็นคนขรึม  พูดน้อย  จนได้รับ ฉายาจากสื่อว่า  เตมีย์ใบ้  แทบจะตลอดสมัยที่เป็นนายกฯ 

ดาวพุธ  ของป๋า 18 สห 58 ท่านอยู่ในภพ ที่ 12 เป็นวินาศแก่ลัคนา  ในเรือนชะตาลัคนา ท่านจึงพูดน้อยในแวดวงของท่าน ยิ่งพุธทำมุม 135 กับแอตเมตอส  ท่านจึงนิ่งได้นานไม่มีอาการหลุกหลิก และ ทำมุม 45 กับโปไซดอน สะท้อน ( 4 ตล 42 ) แปลว่า พูดเป็นหลักการ เป็นแนวคิดแนวสั่งสอน

อาทิตย์ของป๋า  ยังทับ ลัคนา/อาพอลลอน  1 กย 26 แปลว่า คนไกล  หรือผู้อื่นอยู่ห่างไกลจากฉัน  ทำให้ป๋ามีการเข้าถึงเข้าพบได้ยาก จากคนทั่วไป  และเข้าถึง เมอริเดียน/ลัคนา 18 กฎ 10 ที่หมายถึงจุดอาชีพ ด้วย  ป๋าจึงสูงส่งในแนวยศศักดิ์ตามลักษณะของอาทิตย์ หน้าที่การงานและส่วนตัวถูกทำให้ห่างเหินเกินไปจนรู้สึกได้ในสายตาของคนทั่วไป

อะไรไม่สำคัญเท่า  ดวงป๋ามีจุดโหราศาสตร์ มฤตยู/อาพอลลอน 2 มถ 22  เข้ามาทำมุม 45 องศาด้วย

อาจจะแปลได้ว่า  ท่านเป็นนักเทคนิคทางการคำนวณ เพราะเรียนมาจากสายวิทยาศาสตร์ ม.8 ที่รร.สวนกุหลาบ และเป็นนักเรียนนายร้อยเทคนิคทหารบก  รุ่น 5 โดยอาชีพ  และอยู่เหล่าทหารม้า ซึ่งก็คือ ยานเกราะ  หรือรถถังนั่นเอง

จุดนี้อาจจะแปลได้อีกว่า  ทำให้ผู้อื่นเครียด  ซึ่งจากบุคลิกและอำนาจราชศักดิ์ ของท่าน ใครไปเจอไปหาไปติดต่อด้วยก็คงต้องสำรวมเป็นธรรมดา เพราะท่านมีบุคลิกที่กล่าวมาแล้วนี่เอง

" ป๋า" สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก รร.สวนกุหลาบ ในปี พศ .2480 และสอบเข้าเรียนใน รร.เทคนิคทหารบก  รุ่น 5 ได้ในปีนั้น  อายุช่วงนั้น คือ อายุ 18 ปี 

ช่วงที่ป๋าเติบโตมาเรียนหนังสือชั้นมัธยมในกรุงเทพนั้น  มีเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับการเมืองการปกครองของไทยหลายๆอย่าง  เช่นการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช  มาเป็นระบอบประชาธิปไตย  พ.ศ.2475 โดยคณะราษฎร์ มีการปราบกบฎบวรเดช  และการปฏิวัติ รวมไปถึงในปีที่ ป๋า เรียนจบ มัธยมปลายนั้น  ก็มีเหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีน ในพ.ศ.2480  ไทยเรียกร้องดินแดนคืน  จากฝรั่งเศส  ในทวีปยุโรป เยอรมันเปิดฉากสงครามโลกรุกหนัก  อีกทั้งเมื่อป๋าเข้าเรียนเป็นนักเรียนนายร้อยเทคนิคนั้น  ประเทศไทยก็อยู่ในภาวะการเตรียมพร้อมทำสงคราม   ช่วงเวลาเหล่านี้ ประเทศตกอยู่ในสภาวะลำบากขาดแคลนและการพัฒนาของประเทศมุ่งไปทางด้านการทหาร

ในเดือนมีนาคม 2480 ซึ่ง นักเรียนทั่วประเทศไทย จะต้องมีการสอบไล่ขึ้นชั้น และสอบแข่งขันเข้าเรียนต่อนั้น ยิ่งการแข่งขันที่มีคู่แข่งสูงมาก  การที่จะสอบผ่านเข้าไปได้ถือเป็นด่านแรกที่จะต้องพิชิตให้ได้ที่สำคัญที่สุดของชีวิต  

ในดวงป๋าปีนี้  ค่าโค้งสุริยยาตร์  = 17.02 องศา โดยมีค่า เมษ วี 1 อยู่ที่ 17 เมษ 02   อาทิตย์ดาวเด่นในดวงกำเนิดป๋าเริ่มฉายแสงทำงานสำคัญครั้งแรก  เพราะ เมษ วี1 นั้น = ลัคนา = อาทิตย์ ทั้งพาเอาบริวารทั้งหลายทั้งปวงเข้ามาด้วย อันได้แก่  เสาร์สะท้อน 16 ตล 42 และราหู/โปไซดอน การศึกษา ในมุมเล็ง 180 องศา ซึ่งก็คือ การลำบากและพลัดพราก  ซึ่งการเป็นทหารใหม่นั้น  แน่นอนต้องมีการย้ายไปอยู่ประจำกรมกองนักเรียน อาศัยกินอยู่หลับนอนทำงานเรียนหนังสือ ซึ่งแปลกไปจากที่อยู่เดิม ในข่ายอิทธิพลของดาวเสาร์  และยังเข้า เมษ/โครโนส = รัฐบาล 16 มษ 36 ทับสนิทองศา เกี่ยวข้องกับรัฐบาล  เข้า เมอริเดียน/พฤหัส และ อาทิตย์/พฤหัส เป็นต้น ซึ่งเจ้าชะตาสมหวังและสุขใจเป็นอย่างยิ่ง

ค่าโค้งช่วงอายุวัย 17 ปี นี้สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อเข้าเป็นมุมเท่าทบ และใน Harmonic ที่ 16 เพราะจะเป็นปีอายุที่ ป๋า ประสบชัยชนะในเกมแห่งชีวิต  ดังจะปรากฏผลในกาลข้างหน้า

แล้วถ้า เอา 2531+17  มันจะตก 2548 และย่าง 2549 ซึ่งในปีดังกล่าว  มีเหตุการณ์สำคัญต่อ ป๋า อย่างไร  อันนี้ต้องไปอ่านจากประวัติศาสตร์เอาเอง

แหะ ๆ  เรื่องนี้ตั้งใจจะเขียนในแนวยุทธวิธีโหร นะคับ  จบแค่ พ.ศ. 2531  ช่วงป๋า ผบ.ทบ. เป็นนายกนั้น  มีประวัติเหตุการณ์ ที่น่าสนใจน่าศึกษาเกี่ยวกับการดูดวงเมือง  ทั้งเศรษฐกิจ  สงครามกลางเมือง  กบฎ  เหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง  ที่เกี่ยวข้องอย่างน่าสนใจในเชิงโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน

ไม่ได้ยกยอปอปั้น ประจบประแจง หรือตำหนิติเตียน ด่าว่าให้ร้าย แต่อย่างใด  พยายามเขียนอย่างเป็นกลาง และรับผิดชอบ

อีกทั้งตั้งใจจะเผยแพร่วิธีดูแบบใหม่  เช่น เทคนิคในการอ่านเรือนชะตาสนธิ และเรื่อง วงรอบแนวสำนักท่านปรมาจารย์โหรจรัญ  พิกุล

และที่สำคัญก็คือ  เขียนฟรีไม่ได้อะไรสักอย่าง และไม่ได้หวังจะได้ด้วยสิ แค่เอามันส์น่ะคับ

ป๋า ได้บรรจุเป็นนายทหารรับพระราชทานกระบี่ ในปี พ.ศ. 2484 และถูกส่งไปภาคสนามในมณฑลบูรพา ในเหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีน และปีเดียวกัน ในวันที่ 8 เดือน ธันวาคม 2484 กองทัพญี่ปุ่นบุกประเทศไทย  และ ในปี 2485 นั่นเอง ป๋า ถูกส่งไปรบที่ สหรัฐไทยใหญ่ หรือเชียงตุง

เท่าที่รู้  ที่นั่นทุรกันดาลมาก  ถูกตัดขาดเนื่องจากความขาดแคลนยุทธปัจจัยต่างๆ ไปประจำอยู่ถึง 4 ปี มิหนำซ้ำตอนสงครามเลิกในปี 2488  ก็กลับถูกลอยแพให้เดินกลับจากเชียงตุงมาเชียงใหม่ และให้เดินนำธงไชยเฉลิมพลกลับมารายงานตัวที่กรุงเทพกันเอาเองให้จงได้  เพราะไม่มีน้ำมันรถใช้ สำนวนที่เรียกว่า เดินนับไม้หมอนรถไฟ ก็มาจากเหตุการณ์นี้นี่เอง ครั้งนั้นมีทหารและพลเรือนล้มตายเป็นอันมากเนื่องจากไข้ป่ามากกว่าไปตายเพราะข้าศึกยิง

เคยอ่านหนังสือเรื่องทหารเหลือใช้ในสงคราม ที่เขียนโดย พลตรีถาวร ช่วยประสิทธิ์  ท่านเป็นนายทหารรุ่นเดียวกับ ป๋า ท่านเขียนเล่าเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้

ช่วง พศ.2481 ปีที่ป๋าเป็นนักเรียนนายทหารปีที่ 2 นั้น ดวงชะตาเริ่มเข้า วัยอายุนิวมูนรอบใหม่ (Secondary Progress Lunar Phase ) ตรงกับวันที่ 21 มีนาคม พศ. 2481 เวลา 16.50 น. กรุงเทพ

ดวงนี้แรงเพราะ อาทิตย์จันทร์มูนเฟสทับลัคนา สนิทองศา มีพฤหัสเล็งมฤตยู แม้มฤตยูจะเป็นอริในดวงและ มีซีอุส ทำมุม 150 อริใส่ แต่พฤหัสก็มีแอตเมตอสทำมุม 150 มรณะ

และ จุดรอดพ้นชะตากรรมรังแกอย่างมีโชค = แอตเมตอส/วัลคานุส//พฤหัส 16 มษ 58  = พฤหัส/มฤตยู 16 มษ 55 สนิทองศาเกือบถึงทับลิบดาสนิท

เลยทำให้รอบชีวิตนี้ของป๋า รอดจากเหตุการณ์หฤโหดๆได้ตั้งร่วม 28 ปี

ช่วงเวลาดังกล่าว 28 ปีเศษ   นับเสมือนตามวงรอบของพระจันทร์  ที่โคจรรอบโลกใช้เวลา 28 วันเศษ จาก 21 มีนาคม พ.ศ.2481 ถึง 24 มิถุนายน พศ. 2510 เวลา 13.03 น.

เรื่องที่เกี่ยวกับการได้รับยศศักดิ์ในระดับนานาชาติ เช่น สมรภุมิเกาหลี และเวียดนาม  ป๋าท่านยังอยู่ในระดับนายทหารปานกลางยังไม่โดดเด่น  ไม่มีบรอนด์สตาร์  ซิลเวอร์สตาร์ 

อาจจะเป็นเพราะ  จุดยศที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง อันได้แก่  วัลคานุส+โปไซดอน-โครโนส 6 พจ 21 = เนปจูน ปฏิเสธ ในมุม 45  เล็ง เมอริเดียน/จันทร์ 5 พภ 48 อารมณ์ของเจ้าชะตา

เรียกว่า บรรดาพวกทหารทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องนั้น    เขาไปรบกันหลายสมรภูมิอย่างโชกโชน  ส่วนป๋าท่านไปรับราชการคุมกำลังฝึกทหารม้าอยู่ที่ อุตรดิตถ์ และไปเรียนยานเกราะอยู่ที่อเมริกา และกลับมาสอนหนังสือเป็นอาจารย์ใหญ่ รร.ยานเกราะ ผลงานยังไม่โดดเด่น

พ.ศ. 2511  ป๋าเป็นพลตรี ตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า  สระบุรี  ในวงรอบนิวมูนที่สองของชีวิต  ป๋าท่านได้รับแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองควบเข้าไปด้วย  ทีนี้แหล่ะชีวิตเปลี่ยนไป เพราะรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร  ป๋าท่านได้เป็น วุฒิสภา และสมาชิกสภานิติบัญญัติ เนื่องจากเป็นนายทหารคุมกำลังในระดับคีย์แมนคุมรถรบ

เมื่อตรวจหาเวลาเกิดของป๋า  นั้น มีเรื่องน่าแปลกใจอยู่ 3 เรื่อง คือ

1. จุดนายกรัฐมนตรี  พฤหัส+โครโนส-วัลคานุส กำเนิด 25 กฎ 03 เล็ง กับเมอริเดียนกำเนิด 25 มก 32 พอดี

2. จุดจอมพล ป๋าเป็น พล.อ. คนเดียวที่มิได้เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่มีสิทธิในการแต่งชุด พลเอก พลอากาศเอก และพลเรือเอก  ขาดแต่คฑาจอมพลเท่านั้น  ที่ท่านมิได้ถือในมือ  จุดจอมพลนั้น ได้แก่ ซีอุส/โครโนส//อาทิตย์ กำเนิด 24 กฎ 49 เล็งเมอริเดียนสะท้อน 25 มก 32 จุดจอมพลนี้ แปลได้อีกว่า ผู้บัญชาการสงคราม  และจุดที่เกี่ยวข้องกับผู้บัญชาการทหาร อีกจุดหนึ่งได้แก่ ซีอุส/โครโนส//ลัคนา 24 กฎ 33 เท่ากับ เมอริเดียน สะท้อน 25 มก 32 ในมุมเล็ง 180 องศา

สมัยที่ป๋าเป็นแม่ทัพภาค 2 คุมอีสานนั้น ท่านมีอำนาจบัญชาการรบด้วยตนเองอย่างเต็มรูปแบบ ในการปราบปรามความไม่สงบจากภัย กองกำลังผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และในอีกหลายกรณีต่อมา

3. จุดรัฐบุรุษ โครโนส+วัลคานุส+อาทิตย์ 13 ธน 30 = อาทิตย์สะท้อน 27 ตล 35 = ลัคนา สะท้อน 28 ตล 07 ทั้งคู่ในมุม 45 องศา

วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2517 วันแรกที่ป่าได้รับการแต่งเป็นแม่ทัพกองทัพภาคที่ 2 ยศพลโท  วันนั้นวันอังคาร เวลาราชการ 8.00 น. ซีอุส/โครโนส//ลัคนา กำเนิด จุดผู้บัญชาการกองทัพ 24 กฎ 33 = ลัคนา วี 1 24 ตล 50  และ  = อาทิตย์ วี1 25 ตล 23 ในมุม 90 องศา ทั้งคู่ จุดนี้มีอาพอลลอน ร่วม สนิทองศา 23 ตล 57

อาพอลลอน นั้น แปลว่า ความสำเร็จ  ความสงบสุข และการมีชื่อเสียงโด่งดัง

อาทิตย์ดาวเด่นในดวงชะตา วี 1 จรมาทำมุมกับเมอริเดียน สะท้อน กำเนิด25 มก 32 ในมุมฉากแรงและ เล็ง มฤตยู สะท้อนกำเนิด 26 มษ 14

เรื่องของเรื่องเลยทำให้ ป๋า ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปฏิบัติงาน ทำให้ได้รับการไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง

ป๋า เริ่มเป็นนักการเมืองระดับเสนาบดี ครั้งแรก ในรัฐบาล พลเอกเกรียงศักดิ์  ชมะนันท์เป็นนายกรัฐมนตรี  โดยได้รับการแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ทั้งๆที่ครองตำแหน่งยศพลโท  และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นนายกรัฐมนตรีเอง 

อันว่า งานมหาดไทยนั้น ถือว่าทรงอำนาจในการปกครองส่วนท้องถิ่น  ใครคุมได้ก็ถือว่า ควบคุมสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทั่วประเทศ

ป๋า ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกนี้ เมื่อวันที่  11  พฤศจิกายน พ.ศ . 2520

ลัคนา วี1 และอาพอลลอน วี1 ราศี ตุลย์ 27 องศา จรมาโดน ลัคนา+โครโนส-วัลคานุส 27 กฎ 17 กำเนิด จุดรัฐมนตรี

และจุด ลัคนา/โครโนส//วัลคานุส กำเนิด นี้ที่ 20 มถ 13 = วัลคานุสสะท้อน จร ท้องฟ้า 21 ธน 10

วงรอบอายุวัยของดวงป๋า  มีจุดที่น่าสนใจอีก 2 จุด  ที่บ่งบอกความรุ่งโรจน์ของชีวิต  อันได้แก่ พลูโต+โครโนส-วัลคานุส = การเปลียนแปลงอันใหญ่หลวงอันเนื่องมาจากการบังคับโดยรัฐ  หรือเรียกภาษาโหราว่า  พุ่งไปสู่จุดยอด ในดวงป๋าอยู่ที่  3 มิถ 42 ซึ่งทับสนิทองศากับเมอริเดียนกำเนิด 4 มิถ 28 ถ้าเอามาพล๊อตตำเหน่ง เรียนลำดับในจานคำนวณ 90 องศา 

เมื่อใดก็ตามจุดเมษอายุวี 1 โค้งมาหา หรือ อาทิตย์ วี1 จรโค้งมาหา มีค่าเท่ากับ จุดนี้  ในจาน 90 องศา

วิชาแนวสำนักท่านปรมาจารย์โหรจรัญ  พิกุล  ท่านให้ถือว่า วัยที่ว่านี้ เป็นวงจรอายุสำคัญที่เจ้าชะตาขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต

ในทางปฏิบัติ  เมื่อลงจานคำนวณ 90 องศา ในดวงของป๋า จุดนี้อยู่ที่ตำแหน่ง 57.33 องศา

ถ้าเอาเมษ วี 1 จรมาหา  อายุที่สำคัญในปีนั้น คือ อายุได้  57 ป๊เศษ ป๋าเกิด คศ.1920

ถ้าเอาปีเกิดบวกอายุที่ได้จะตก คศ. 1977  ถึง 1978 แปลงจากคริสตศักราช เป็น พุทธศักราช  บวกด้วย 543 = 2520-2521

ซึ่งในปี พ.ศ. 2520 นั้น วันที่ 11 พฤศจิกายน ป๋าได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ควบตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก  และในปี 2521 วันที่ 1 ตุลาคม ป๋าได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้บัญชาการทหารบก  และในปี 2521 นั้น ป๋าก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติเชิดชูยิ่งชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก

ที่แปลกก็คือ เมื่อเอาอาทิตย์กำเนิด 2 กย 25 ไปพล๊อตในจาน 90 องศา จะได้ 62.38 ถ้านับวนอายุ จะได้ 90 - 62.38 = 27.22 + 57.33 = 84.55  ถ้าบวกปี คศ.เกิด จะได้ 2004-2005 หรือปี พ.ศ. 2547 ถึง 2548

เรียกว่า อาทิตย์จรสุริยยาตร์มาถึงอายุนี้ ป๋าก็ขึ้นสู่จุดสุดยอดของชีวิต  ระยะเวลาดังกล่าวอยู่ในช่วงปลายของรัฐบาล พตท.ดร.ทักษิณ  ชินวัตร ก่อนถูกปฎิวัติ ในวันที่ 19 กันยายน พ.ส.2549

เพราะหลังจากนี้แล้ว  เสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆก็เป็นไปตามหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย  ที่ได้ถูกบันทึกเอาเหตุการณ์ต่างๆทางการเมืองเอาไว้  ให้อนุชนรุ่นต่อไปได้ศึกษา

อีกจุดหนึ่งได้แก่ มฤตยู+ซีอุส-โครโนส = กำลังอำนาจที่ได้มาเนื่องจากอำนาจแห่งรัฐ หรืออำนาจอันสูงส่ง จุดนี้ อยู่ที่ 1 มิถ 52 ทำมุมฉากกับอาทิตย์กำเนิด  เมื่อเอามาพล๊อตลงจานคำนวณ 90 องศา  จะอยู่ที่ 61.52  อาทิตย์อยู่ที่ 2 กย 38 ลงจาน 90 ได้ตำแหน่ง 62.38 ห่างกัน 1 องศา 

ป๋าอายุ 61 ย่าง 62 ตกราวๆ พ.ศ. 2524 ช่วงนั้นป๋าดำรงตำแหน่งเป็น  นายกรัฐมนตรี มีเหตุการณ์สำคัญคือ กบฏเมษาฮาวาย  ซึ่งป๋าปราบปรามได้อย่างหมดจดเด็ดขาดทั้ง 42 กองพัน

ป๋าเกิด พ.ศ. 2463  ปีนี้ 2553  นับตามปี ได้ 90 ปี  จุดอิทธิพลที่ว่า นี้ ห่าง อาทิตย์กำเนิดป๋า ซึ่งเป็นดาวเด่นประจำชีวิต  เกือบ 1 องศา แสดงว่า ตอนอายุ 89  เมื่ออาทิตย์ วี1 จรมาถึงจุดอิทธิพลนี้  ป๋าก็เข้ามาจะโดยตรงหรือโดยอ้อมให้เกี่ยวข้องหรือ อาจจะผิดไม่เกี่ยวเลยก็ได้เพราะผู้เขียน จับประเด็นผิด  ว่าปี 2552 เมษายน นั้น  ป๋าโดนบุกด่าหน้าบ้าน จนมีเหตุการณ์เกือบบานปลายจะเผาบ้านเผาเมือง  คล้ายๆกันกับ เมษาฮาวาย 2524 

เรื่องวงรอบของเหตุการณ์ก็ว่าไปแบบหนึ่ง  แต่บุคคลและตัวละครเดิมนั้น  ยังไงก็มีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์เช่นกัน โดยเฉพาะตัวคีย์แมนของยุคนั้นๆ

ผมไม่อยู่หลายวัน จะกลับมาเชียงใหม่วันเสาร์คับ  ไปทำมาหาเลี้ยงชีพ และเลยถือโอกาสพักร้อนไปด้วย  ไม่ได้ไปก่อม๊อบหรืออารายทางการเมืองทั้งสิ้น แค่ไปตั้งศาลพระภูมิที่มหาชัยเองอ่ะ

ฝากๆดูแทนกันด้วยนะคับ   กลัวพวกโฆษณาลดความอ้วน  เข้ามายุ่มย่าม

ฝากอาหารเสริมลดน้ำหนักดีดีได้มั๊ยค๊ะ