อาลัย อจ.วาณิช  จรุงกิจอนันต์
           ผมรู้จักงานเขียนของท่านอจ.วาณิช  จรุงกิจอนันต์  มานานหลายปีดีดัก ต้องแต่ผมยังเป็นวัยรุ่น และท่าน อจ..ก็ยังคงจะอยู่ในวัยหนุ่ม จำได้ว่า หนังสือเรื่องเพื่อนผู้อยู่ในบ้าน  จะเป็นเรื่องสั้นที่เป็นตอนๆนำมารวมเล่ม  นอนอ่านระหว่างปิดเทอมใหญ่  รู้สึกว่าเป็นงานเห็นที่สนุกสนาน  เปิดให้เห็นมุมมองต่างๆ เช่น สุนัข แมวจรจัด เห็บ หมัด แมงมุม ตุ๊กแก จิ้งจก  อ่านแล้วเพลิดเพลินสนุกดีแท้ จากนั้นก็เจอบ้างในบางที่เช่น ในต่วย’ตูน ใน นิตยสารผู้หญิงบางเล่มที่พอหยิบอ่านได้ เช่น ลลนา และมาเจอกันใน มติชนสุดสัปดาห์ เป็นยืนพื้น  เรียกว่า ที่ไหน ซื้อได้เป็นซื้ออ่านได้เป็นอ่าน  ตามสภาวะเศรษฐกิจ  มีอยู่เล่มหนึ่ง คือ กลวิธีการเขียนเรื่องสั้น  ซึ่งทำให้ผมพอจะมีภูมิรู้บ้างว่า เรื่องสั้นเรื่องไหนดี และอย่างไหนถึงเรียกว่า เรื่องสั้น  แม้ว่าผมจะเขียนเรื่องสั้นได้ไม่ดีไม่เก่งแต่หนังสือเล่มนี้ เป็นครูสอนผมที่ดีว่า จะเขียนอย่างไรให้ได้ดี  ถือว่าเป็นตำราชั้นครู

           ผมเองไม่เคยรู้จักท่านเป็นการส่วนตัว  เคยเห็นท่านแต่ในวงเหล้าวงเบียร์ สมัยที่ผมซ่ายังเที่ยวกลางคืนซึ่งมักจะมารอเพื่อนอยู่ที่ล๊อบบี้ ของ รร.รอยัล ที่ถนนราชดำเนิน  ซึ่งเห็นพวกรุ่นใหญ่ๆเขาเช่น อจ.สุจิตต์ วงษ์เทศ และใครต่อใครอีกหลายท่านซึ่งรุ่นนี้ปัจจุบันเป็นเซียนเหยียบเมฆขี่มังกรกันไปหมดแล้ว   สมัยนั้นได้แต่มองเขาคุยกันเฮฮา  ว่าเป็นรุ่นใหญ่ ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเสนอหน้าเข้าไปอะไรกับเขาหรอกครับ  เรียกว่ารู้จักกันแค่ตามอ่านในหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกับใครต่อใครอีกหลายๆท่าน ที่ไม่รู้จักตัวจริงแต่รู้จักแค่ผลงาน แต่ถึงกระนั้นก็เหมือนสนิทคุ้นเคยซะนี่กระไร อย่างท่าน อจ.วาณิช นี่ก็เหมือน อาเฮียเหมือน อาเจ่ก  ที่พร่ำบ่นเล่าสอนประสบการณ์ของท่านให้ฟังในมุมมองของท่านว่าท่านไปเจออะไรมา

           สรุปว่าตลอดมาผมก้รู้จักท่านข้างเดียวมาตลอด  จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว 2552  ซึ่งผมก็ย้ายภูมิลำเนามาอยู่เชียงใหม่นานหลายปีแล้ว  และมาพบเจอท่านอาจารย์อารี สวัสดี นายกมูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านได้มาเชียงใหม่เรื่อง หอดูดาวที่จะตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์  ในนามของนายกสมาคมดาราศาสตร์ แห่งประเทศไทย  พอดีท่านบอกว่า ให้ไปเจอกันที่บ้านอากู๋ แกรมมี่ หรือคุณไพบูลย์  ดำรงชัยธรรม  ที่แถว ทางไปอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ก็มานัดนั่งรถตามกันไป  เพราะท่านเป็นเพื่อนชาวสุพรรณบุรี มาด้วยกันกับท่านอาจารย์อารี  สวัสดี  ซึ่งพอไปถึงนั่นแหล่ะถึงได้ไปเจอ อจ.วาณิช อยู่ร่วมวงโต๊ะกับเขาด้วย  ซึ่งที่ๆผมนั่งก็ยังห่างกันอยู่  พอทานไปได้ที่   หลังจากที่ฟังผู้ใหญ่เขาคุยกันไปทานสุราอาหาร กันแล้ว ก็ต้องมีการขอตัวเข้าห้องน้ำ  บังเอิญ หรือไงไม่ทราบ ผมกับ อจ.วาณิช มายืนคลายเบาอยู่ข้างกันซะนี่  พอเสร็จจะล้างมือผมเลยยกมือไหว้ท่านและแจ้งแนะนำตัวว่า ผมติดตามผลงานท่านมานานแล้ว  ท่านก็หัวเราะตบไหล่รับไหว้ เพราะดูท่าเริ่มจะหนักไปทางออกเมาบ้าง แล้วเห็นหน้าตาตัวแดงกล่ำเชียว ผมยังถามท่านว่า  ท่านไปสรรหาพล็อตมาจากไหน ท่านยังบอกผมว่า โฮ๊ย แค่ขวดใบเดียวท่านก็สามารถเขียนได้เรื่องออกจะมากมายสารพัด เราก็ร้องว่าอ้อ มืออาชีพเขาย่อมทำกันได้ แล้วก็แยกย้ายกันไม่เจอะไม่เจอกันจนป่านนี้ พอเมื่อวานขณะที่กำลังตามข่าวจราจลคนไทยฆ่ากันอยู่ในกรุงเทพ  ก็ได้รับข้อความข่าวตอนช่วงเที่ยงๆ ว่า อจ.วาณิช  จรุงกิจอนันต์  กวีซีไรท์ ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคลูคีเมีย รดน้ำศพที่วัดธาตุทอง กรุงเทพ ห้าโมงเย็น ก็รู้สึกใจหาย เพราะเมื่อคืนวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 นี้เองผมเพิ่งไปซื้อ หนังสือ วาณิช 60.5 จากร้านซีเอ็ดที่ห้างคาร์ฟู เชียงใหม่ มาอ่านและอ่านจบไปตั้งครึ่งเล่มแล้ว  ซึ่งก็ทำให้ใจหายซ้ำเข้าไปอีกเหมือนคุยกันแหงบๆเมื่อคืน รุ่งขึ้นได้ข่าวว่าตายแล้วอะไรทำนองนั้น

ไม่ได้เป็นหนอนหนังสือ ไม่ได้รู้จัก คุณวาณิช จากหนังสือด้วย แต่นับถือท่านในฐานะนักเขียนไทยสุดเจ๋งคนหนึ่ง

ตอนได้ข่าว หนูก็ใจหายเหมือนกันคะ

ขอไว้อาลัยแด่ คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ คะ

ผลงานของท่าน จะเป็นตัวแทนของท่านตลอดไป ตราบเท่าที่ยังมีหนังสืออยู่ในโลกคะ

ที่ไม่เขียนดวงมรณะของท่านลงเพราะ  ผมก็ตรวจดูแล้วอย่างละเอียด เห็นว่า ไม่น่าจะเสียชีวิตเนื่องจากดวงวันเกิดนี้  พอดีโทรคุยกับท่านอาจารย์อารี  สวัสดี ซึ่้งเป็นเพื่อนรักกันกับท่าน อาจารย์วาณิช  ท่านก็บอกว่า  ดวงที่ว่ากันนั้น ไม่ตรง

ดวงเกิดจริงกับดวงแจ้งเกิดนั้น คนละดวงกัน

ผมเคยเรียน ดาราโหรา กับ อ.อารี ราว 2 ปีก่อน อ.อารี มักพูดถึง คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ เผอิญผมไปเปิดเจอบันทึกที่ผมจดไว้ ใจจริง จะเปิดดูเรื่องอื่นครับ เห็นที่ตัวเองจดจดไว้ว่า

"ถึง 4 องศาทีไร ได้ทุกทีเลย"

เลยเอามาเล่าให้คุณภารตพังครับ ปฏิทินนี่คงเป็นแบบลาหิรีนะครับ ไม่ใช่แบบที่ยูเรเนียนใช่ ช่วงเมษา จะมีช่วงหนึ่งที่ เสาร์ มฤตยู เล็งกันอยู่ราว 4 องศานะครับ

ก็ขอไว้อาลัยให้กับคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ด้วยครับ

quality hair extensions remi hair the full lace wigs That means customers wigs and lively looking Heavy oils are not wigs hair pieces henry margu.