คำว่า แรง ไม่ได้บอก ว่าดีหรือไม่ดี  นี่คับ

พฤหัสทำมุมฉาก  กว่าจะได้โชคก็ต้องดิ้นรนวิ่งเต้นลำบากสารพัด

ดีไม่ดี  เผลอๆ ไม่ได้อีกก็มีให้เห็นถมไป

เลยมีคนนินทาว่า ดูเคราะห์ร้าย ยูเรเนียนจะฉมัง นักหนา

แต่ดูโชคลาภ  หวือ  พลาดเสียคนมาซะนักแล้ว

การดูโชคลาภ  ทาง โหราสากล มีกรรมวิธีที่ให้ผลน่าประทับใจกว่ามาก

และจะชัวร์มากขึ้น  ถ้าดูเป็นทั้งสองแบบ

อาจารย์ครับ  เขียนทิ้งไว้แบบนี้เดี๋ยวผมว่าต้องมีคนมาถามต่อว่า "กรมมวิธีที่ให้ผลน่าประทับใจ" ดูยังงัยอีก  เฉลยไปเลย   เอ..ว่าแต่ว่าบทเรียนทางไกลของอาจารย์มีสอนไว้หรือป่าวครับ  เหมือนผ่านๆตานะ  ผมก็ลืมเหมือนกันไม่ใช่อะไรหรอก.

อะไรๆมันก็ต้องมีพื้นฐานมาก่อนคับ  การเรียนจากการอ่าน ก็ช่วยให้เรารู้มาบ้างก่อน จากนั้นก็ค่อยๆต่อยอดจากการซักถามการแนะนำ ทำ ตัวอย่าง  ทำworkshop รู้จักการใช้โปรแกรม  ซึ่งแต่ละคนมีระดับความลึกซึ้งที่ต่างกันในการเรียน

อีกทั้งสาขาที่สนใจ  ซึ่งต้องว่าไปเป็นเรื่องๆคับ  ความจริงบางเรื่องที่ดูแสนจะพื้นฐาน เช่น ราศี เรือน ธาตุ คุณะ มุม  ลีลาการโคจร ซีกดวง  ด้านดวง   แบ่งดวง   ดูๆไปก็ว่าง่าย อ่านก็พอจะเข้าใจได้ ชั่วโมงเดียวก็น่าจะรู้  ซึ่งจะว่าจริงก็ใช่ ไม่จริงเลยก็ใช่  เพราะไปเจอผู้ชำนาญเข้า  เขาเอามาใช้ได้อย่างพิศดาร  ในประเด็นที่ไม่คิดว่าจะได้  ก็ดันได้  แบบน่าประหลาดใจ หรือในมุมมองที่ไม่คาดคิด  ในการประยุกต์ใช้

ส่วนการประทับใจว่าแบบไหนใช้ได้ผลกว่ากันนั้น  เจ้าตัวต้องเล่นเอง  พิสูจน์เอง

โหราศาสตร์สากลยูเรเนียน  เป็นเรื่องของการเอาไปทดลองใช้เองในชีวิตประจำวันให้เห็นเชิงประจักษ์

ไม่ใช่ฟังแต่เลคเชอร์แล้วเก่ง นึกเอาเองว่าคงใช่  ซึ่งคิดว่าเหมือนถ้าใช้เมื่อไหร่จะถูก ซึ่งมันไม่ใช่ในความเป็นจริง

ดวงชะตานั้น  การอ่านไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะแต่ละคนแต่ละห้วงเวลาสถานที่ไม่มีการเหมือนกัน

แต่มีหลักเกณฑ์แนวทาง  เพื่อง่ายและช่วยให้เร็วขึ้น ในการแกะความหมาย ภาษาดาว เพื่อแปลเป็นภาษาคน

และจากภาษาคนเป็นภาษาไทย  แล้วยังต้องแปลเป็นไทยร่วมสมัย

แล้วยังต้องมาเรียบเรียงว่า ทำยังไงที่จะสื่อให้ตรงเป้าตรงใจผู้ฟัง

บางท่านและหลายท่านเรียนรู้อ่านมาตั้งเยอะแยะ  พอให้อ่านดวงจริง  ดันทำไม่ได้

ออกอ่าวออกทะเลไปซะเยอะเชียว  แต่ถ้าให้แกะดวงจากหวยที่ออกไปแล้วล่ะก็...เจ๋ง  ยังงี้ก็มี

ซึ่งไม่มีประโยชน์อ่ะ  นอกจากเอาไว้ขู่วางฟอร์มคนอื่นที่ไม่เคยเรียนมาว่า ฉันรู้ภาษาลึกลับพวกนี้

สรุปก็คือว่า  ต้องมาเข้าวงการกันก่อน แล้วค่อยมาฝึกปรือเป็นยอดฝีมือกันอีกทีนึง

ตำราที่ใช้สอนนั้น ก็เป็นตำราที่พวกผมเรียนมาจากท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล ใช้สอนพวกผมนั่นแหล่ะคับ

เพราะถ้าพวกผมเรียนมาจากตรงนี้ แล้วใช้การได้  คนอื่นก็น่าจะใช้การได้เช่นกันน่ะคับ

เยี่ยมครับ  ตอบได้ดี โดยเฉพาะประโยคนี้

" ส่วนการประทับใจว่าแบบไหนใช้ได้ผลกว่ากันนั้น  เจ้าตัวต้องเล่นเอง  พิสูจน์เอง

โหราศาสตร์สากลยูเรเนียน  เป็นเรื่องของการเอาไปทดลองใช้เองในชีวิตประจำวันให้เห็นเชิงประจักษ์

ไม่ใช่ฟังแต่เลคเชอร์แล้วเก่ง นึกเอาเองว่าคงใช่  ซึ่งคิดว่าเหมือนถ้าใช้เมื่อไหร่จะถูก ซึ่งมันไม่ใช่ในความเป็นจริง

ดวงชะตานั้น  การอ่านไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะแต่ละคนแต่ละห้วงเวลาสถานที่ไม่มีการเหมือนกัน "

อ่านแล้วเห็นภาพเลย

"เลยมีคนนินทาว่า ดูเคราะห์ร้าย ยูเรเนียนจะฉมัง นักหนา
แต่ดูโชคลาภ  หวือ  พลาดเสียคนมาซะนักแล้ว"

ข้าพเจ้าคิดว่าออกจะนินทากันเกินเลยความเป็นจริงไปหน่อยนะคับ

หากคิดว่าเทคนิคของยูเรเนียน ดูเคราะห์ร้ายได้ฉมัง ก็ย่อมดูโชคลาภได้ไม่แพ้กัน มันอยู่ที่ว่าวิเคราะห์ได้ละเอียดลึกเพียงพอกับความจำเป็นที่จะดูในเรื่องดังกล่าวหรือไม่(ทั้งร้ายหรือดี) ส่วนเรื่องว่าจะพลาดมันเป็นเรื่องเฉพาะของบุคคล ไม่เกี่ยวกับหลักการทางทฤษฎีแต่อย่างใด

ก็เคยได้ยินเค้านินทามาแบบนี้อ่ะคับ   ส่วนจะเกินเลยไปหรือไม่นั้น  อันนี้คงแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนกระมัง  ก็อย่างที่ท่านมาแว๊วบอกล่ะคับ  ว่า มันมีมากกว่าที่นึกลึกกว่าที่คิด

หลักการทฤษฎีบางอย่าง  ในมิติของมันน่ะถูกต้อง  แต่ประสบการณ์จริงและหลักการอื่นที่น่าจะมองข้ามไปไม่ได้  ก็น่าจะมีผลเป็นตัวแปรที่สำคัญได้  เช่น  ศูนย์รังสี  ศุกร์/พฤหัส  ซึ่งเข้ากับอะไร นักจะให้คุณให้โชค

ถ้าเข้ามุม แข็ง เช่น 45 , 90 , 135 , 180 ( ยกเว้นมุมทับ)

ก็น่าจะได้อะไรสักอย่าง กลับมีโอกาสพลิกล๊อคสูง  หรือกว่าจะได้ต้องมีเงื่อนไขอุปสรรคมากมาย

อย่าลืมว่า  ศุกร์นั้น มาจากเรือนอะไร  พักร์หรือเปล่าหรือเดินปรกติ  ไหนจะธาตุ คุณะ  ลีลาการปรากฎ

แล้วไปลากอะไรมาอีกด้วย  

แล้วดาวคู่นี้ ในพื้นดวงชะตาทำมุมอะไรกันมาก่อนดีหรือร้ายหรือสัมพันธ์กันหรือไม่ ในตำแหน่งไหน   ฯลฯ

ซึ่งรุ่นหลังทางยูเรเนียนเนี่ย แทบไม่เคยเห็นใครนำมาพิจารณาเลย 

เห็นศูนย์รังสีเข้าปุ๊บ  ทายฉอดๆ ตามตำราเลย

แล้วมันจะไม่พลาดกันได้อย่างไรล่ะ

ซึ่งโดยมาก เรื่องพวกนี้  พวกที่มาทางยูเรเนียนเพียวๆ มักจะมองข้ามไป

ไม่ใช่ท่านปรมาจารย์ทั้งหลายท่านไม่ได้สอนนะคับ  ท่านถึงกับเขียนเป็นตำรากันเชียว

อาจจะเป็นเรื่องปกติ
ที่เกี่ยวกับเรื่องร้ายๆมักจะอยู่ในความทรงจำได้ดี
พอมีเรื่องดีๆเข้ามามักมองข้าม
อ่านดาวดูดวงแล้ว บอกไปตามดาว แต่คนฟังมักจำแต่เรื่องร้ายๆ

เรื่องดาวมันมีสองด้าน
ตามวิชาโหราศาสตร์
ดาวดี ความดีก็มีจริงตามนั้น แต่เรื่องเกินเหตุมันก็มี(ไม่ดี)
ส่วนดาวร้าย ก็ร้ายตามนั้น แต่ก็อำนวยผลจากเรื่องร้ายภายหลังที่ผ่านมา เป็นการระมัดระวัง(เรื่องดี)
ทั้งสองก็เป็นหลักโครงสร้างของการดำเนินชีวิตจริง สาธุ สาธุ...