ReadyPlanet.com


การวินิจฉัย ดวงชะตาบ้านเมือง... จรัญ พิกุล


 

จากเอกสารปีพ.ศ.2493
โหราศาสตร์สากล :)
ตัวอย่างที่แสดง บางดวงชะตาเป็นเหตุการณ์ที่แสดงเป็นตัวอย่าง
ที่พึ่งจะเกิดขึ้น การวินิจฉัยจะเป็นไปตามกฏเกณฑ์ที่บัญญัติไว้
ฉะนั้นการสรุปของเหตุการณ์ จึงต้องขึ้นกับผู้วินิจฉัย
ในที่นี้ ของดในการประมวลความหมายจากข้อมูลที่วินิจฉัย
ที่ได้แสดงภาพ และแสดงความหมายจะเป็นเพียงการแสดง
เพื่อให้ทราบถึงโครงสร้างพื้นฐาน จากตำราพื้นฐานเท่านั้น.

ในการวินิจฉัยผลทั่วไปของดวงเหตุการณ์บ้านเมืองนั้น
จะต้องพินิจพิจารณาถึงปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน
ตลอดจนถึงการชั่งตรองอิทธิพลต่างๆที่มีต่อกัน และลงมติวินิจฉัยว่า
อันไหนที่มีกำลังแรงเหนือกว่า หรือเอามารวมกันแล้วหาผลของส่วนรวม

ดังนั้นในการวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงต้องอยู่ที่ ความจัดเจนจากการปฎิบัติ
มีค่าสูงส่งยิ่งกว่ากฏเกณฑ์ใดๆ เพราะไม่มีหนังสือตำรับตำราเล่มไหน
ที่สามารถจะรวบรวมเอากฏเกณฑ์ทั้งหมดบรรจุไว้ได้

ปัจจัยสำคัญในการวินิจฉัยชาตา
ไม่ว่าดวงชาตาบุคคลหรือดวงชะตาการเมืองใดๆ ย่อมมีปัจจัยอยู่ 4 อย่างด้วยกันคือ

1. ตำแหน่งดาวเคราะห์ที่มีพลัง 
    ได้แก่ดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งเป็นเกษตร และมหาอุจจ์
    เช่นดาวอาทิตย์ในราศีสิงห์ หรือราศีเมษ ดาวอังคารในราศีเมษ ราศีพิจิก หรือราศีมกร 
    ดาวเคราะห์ที่มีกำลังเข้มแข็งเหล่านี้ จะอำนวยโชคอย่างเด่นชัด
    และผ่อนความร้ายแรง เมื่อมีดาวเคราะห์อื่นมาสัมพันธ์ร้าย
    ในทางกลับกัน ถ้าดาวเคราะห์ที่เป็นประเป็นนิจ ก็จะเป็นตำแหน่งที่อ่อนกำลัง
    และยังผลแต่ทางความอับโชค หรือโชคร้ายตามกรณีแวดล้อม

    ตำแหน่งดาวเคราะห์ที่มีกำลังทางภพ หรือเรือนชะตาก็มีผลสอดคล้อง
    เช่นเดียวกับราศี เช่นดาวอังคารในภพที่1. ที่8. และที่.10.
    ดาวอาทิตย์ในภพที่1. ที่ 5. เป็นต้น อำนวยโชคดีมาให้ และผ่อนคลาย
    ความร้ายแรงลง ในเมื่อมีโยคเกณฑ์ร้าย.

ภาพที่ 1.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศี มกร ปี2009

จาก ภาพดาว(พลาซิดุส)
ดาวเสาร์ มาในเรือนที่ 12. ราศีตุลย์ ตำแหน่งมหาอุจจ์ มีดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือน

ภาพที่ 2.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศีเมษ ปี 2010

จากภาพดาว(พลาซิดุส)
ดาวอาทิตย์  มาในเรือนที่ 3.ชิดเส้นแบ่งเรือนที่ 4. กุมจุดเมษ
ตำแหน่งมหาอุจจ์มีดาวอังคารเป็นเจ้าเรือน

ดาวจันทร์ มาในเรือนที่ 6.ราศีพฤษ. ตำแหน่งมหาอุจจ์ มีดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือน

ดาวศุกร์ มาในเรือนที่ 4. ราศีเมษ. ตำแหน่งประ มีดาวอังคารเป็นเจ้าเรือน

ดาวพฤหัส มาในเรือนที่ 3 ราศีมีน. ตำแหน่งเกษตร ครองเรือนตนเอง

ดาวเสาร์ มาในเรือนที่ 9. ชิดเส้นแบ่งเรือนที่ 10. กุมจุดเมอริเดียน
ตำแหน่งมหาอุจจ์ มีดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือน



ผู้ตั้งกระทู้ วรเชษฐ์ ตียเกษม :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-16 10:56:09 IP : 118.172.49.54


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2129877)

ขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น JigSaw วันที่ตอบ 2010-11-19 16:08:07 IP : 183.89.125.14


ความคิดเห็นที่ 2 (2130233)

การวินิจฉัย ดวงชะตาบ้านเมือง

2. ตำแหน่งดาวเคราะห์ที่มีความเด่น
    ตำแหน่งนี้แบ่งออกเป็น 2. ทางคือ
    2.1 ความเด่นทางราศี
    2.2 ความเด่นทางเรือนชะตา

    
    ความเด่นตามข้อ 2.1 ความเด่นทางราศ๊ 
    ได้แก่ความเคราะห์ที่ตกอยู่ในทวารราศี 
    หรือองศาแรกของราศี เมษ กรกฏ ตุลย์ และมกร
    รวมทั้งการกุม อุปราคา อมาวสี(New moon) และบูรณมี(Full Moon)ด้วย
    ที่ตกในตำนี้มีความเด่นเพิ่มพลูความสำคัญเป็นพิเศษ

    ความเด่นตามข้อ 2.2 ความเด่นทางเรือนชะตา
    คือตำแหน่งดาวเคราะห์ การกุม อุปราคา อมาวสี(New Moon)
    และบูรณมี(Full Moon) ตกในทวารราศี หรือใกล้เส้นแบ่งเรือนชะตา
    ที่ 1 - 4 - 7 และ 10.  เส้นแบ่งเรือนที่ 1. หรือ "ลัคนา" ให้ความสำคัญที่สุด
    ดาวเคราะห์ในตำแหน่งเหล่านี้ แสดงบทบาทเหตุการณ์สำคัญ
    ลำพังความเด่นเอง ไม่มีทั้งโชคและเคราะห์ ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่
    โยคเกณฑ์ที่เข้ามาสัมพันธ์ ถ้าดาวเคระห์ที่มีความเด่นได้ตำแหน่ง
    สัมพันธ์ดี ก็แสดงเหตุการณ์ไปในด้านดี ถ้าหากได้ตำแหน่งสัมพันธ์ร้าย
    ก็จะแสดงไปในทางเสีย

    ตำแหน่งดาวเคราะห์ที่มีกำลัง และความเด่นรวมกัน ตัวอย่างเช่น
    ดาวอังคารมาในราศีเมษ (ตำแหน่งเกษตร) ในเรือนชะตาที่ 10.(ความเด่น)
    จะทำให้ ดาวอังคารมีความสำคัญยิ่งนัก.

ภาพที่ 3.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศี มกร ปี2009

จาก ภาพดาว(พลาซิดุส)
ดาวอาทิตย์ กุม เส้นแบ่งราศีมกร
ดาวพลูโต ใกล้เส้นแบ่งราศี มกร
ดาวจันทร์ ใกล้เส้นแบ่งราศี มีน
ดาวเสาร์ ใกล้เส้นแบ่งราศี ตุลย์
ดาวศุกร์ ใกล้แบ่งราศี มกร

ดาวเสาร์ ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 1. ราศีตุลย์ ดาวศุกร์
ดาวพลูโต ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 4. ราศีมกร ดาวเสาร์.

ภาพที่ 4.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศี เมษ ปี2010

จาก ภาพดาว(พลาซิดุส)
ดาวอาทิตย์ กุม เส้นแบ่งราศี เมษ
ดาวอังคาร ใกล้เส้นแบ่งราศี สิงห์
จุดโชด ใกล้เส้นแบ่งราศี ตุลย์ (จุดคำนวน-ลัคนา,จันทร์,อาทิตย์)
จุดเมอริเดียน ใกล้เส้นแบ่งราศี ตุลย์
ดาวเสาร์ ใกล้เส้นแบ่งราศี ตุลย์ (พักร์)
ดาวชีล่อน ใกล้แบ่งราศี กุมภ์
ดาวเนปจูน ใกล้เส้นแบ่งราศี กุมภ์
จุดเวอร์เท๊กซ์ ใกล้เส้นแบ่งราศี กันย์
ดาวมฤตยู ใกล้เส้นแบ่งราศี มีน
ดาวจันทร์ ใกล้เส้นแบ่งราศี พฤษภ
ดาวพุธ ใกล้เส้นแบ่งราศี เมษ

ดาวชีล่อน ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 3 ราศีกุมภ์ ดาวมฤตยู
ดาวเสาร์ ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 10. (กุมเมอริเดียน)ราศีตุลย์ ดาวศุกร์
จุดเวอร์เท๊กซ์ ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 9. ราศีสิงห์ ดาวอาทิตย์
ดาวอาทิตย์ ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 4. ราศีเมษ ดาวอังคาร
ดาวเนปจูน ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 3. ราศีกุมภ์ ดาวมฤตยู
ดาวอังคาร ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 8. ราศีกรกฏ ดาวจันทร์
ดาวจันทร์ ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 6. ราศีมิถุน ดาวพุธ
จุดโชค ใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 11. ราศีพิจิก ดาวอังคาร

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-11-20 22:13:05 IP : 182.53.142.81


ความคิดเห็นที่ 3 (2130997)

การวินิจฉัยดวงชะตาบ้านเมือง

3.ตำแหน่งดาวเคราะห์
  ดาวเคราะห์ที่มีโยคเกณฑ์สัมพันธ์เข้มแข็งที่สุดในดวงชะตาต่างๆ
  ไม่ว่าดวงชะตาบุคคล หรือดวงชะตาใดๆ จะพบเห็นว่า
  ดาวเคราะห์ที่มีตำแหน่งสัมพันธ์กันเป็นจำนวนมาก
  แต่ มิได้มีความสำคัญ เท่าเทียมกันหมด 

  กล่าวโดยทั่วไปโยกเกณฑ์มุมสัมพันธ์ใหญ่ มีความสำคัญยิ่งกว่า
  โยคเกณฑ์เล็กเช่นดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์ในง่ามมุม 120 องศา
  ย่อมสำคัญกว่าง่างมุม 60 องศา แต่ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่เกณฑ์
  มุมสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทองศา 

  โยคเกณฑ์สัมพันธ์ที่เข้มแข็ง มีอิทธิพลที่สุด คือดาวเคราะห์ที่อยู่
  เกือบตรงองศา ลิปดาที่สุด ถ้าองศา ลิปดาที่ยิ่งห่างออกไป
  ก็ยิ่งอ่อนกำลังลง โยคเกณฑ์ 90 องศาที่อยู่ถายใน 1 องศา
  ย่อมมีผลมากกว่า ดาวเคราะห์ที่เล็งกัน ซึ่งห่างไปหลายองศา 

  โยกเกณฑ์ใดๆที่ได้ ตรงองศาลิปดา คือตำแหน่งที่สำคัญ
  และถึดเอาเป็น หลักในการพยากรณ์ได้ เมื่อดาวเคราะห์ดวงใด
  มีตำแหน่งทางกำลังทาง ความเด่นและโยคเกณฑ์ รวมกันดาวเคราะห์
  ดวงนั้นได้ชื่อว่าเป็น ดาวเคราะห์ดวงสำคัญยิ่ง ถ้าตำแหน่งดังกล่าวนี้
  ปรากฏในดวงชะตาสงกรานต์ ก็เรียกว่า เจ้าแห่งปี ถ้าหากปรากฏใน
  ดวงอุปราคาก็เรียกว่า เจ้าแห่งอุปราคา

  ในเมื่อไม่มีดาวเคราะห์ใดๆ ได้การรับพิจารณาให้เป็นเจ้าแห่งดวงดังกล่าว
  และเมื่อดาวเคราะห์สองดวงหรือมากกว่า มีตำแหน่งทัดเทียมกันแล้ว
  ดาวเคราะห์เหล่านี้ ต่างก็จะสำแดง บทบาทสำคัญ ต่อโชคชะตาของประเทศ
  ออกเป็นหลายสาขาด้วยกัน ตามเรือนชะตา ต่างๆซึ่งดาวเคราะห์เหล่านี้ได้สถิตอยู่...

ภาพที่ 5.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศี มกร. ปี2009
เรือนชะตา พลาสิดุส

จากภาพดาว
ดาวชีล่อน โครจรสัมพันธ์ ลัคนา ระยะห่าง 0.02 ลิปดา
ดาวพฤหัส โคจรเข้ากุม ดาวเนปจูน ระยะห่าง 0.03 ลิปดา 
                  สัมพันธ์จุด ลัคนาแลเมอริเดียน
ดาวพุธ โคจรสัมพันธ์ ดาวอังคาร ระยะห่าง 0.10 ลิปดา

ดาวชีล่อน ถือเป็น ดาวเจ้าแห่งปี ในเรือนที่ 5 ราศีกุมภ์ ดาวมฤตยู , เสาร์-ราหู
                  
หากโหราศาสตร์สากลโบราณที่ยึดถือเพียงดาว 10 ดวง
ดาวเนปจูน ถือเป็นดาวเจ้าแห่งปี ในดวงชะตาประจำปี 2010 ราศีกุมภ์ ดาวมฤตยู , เสาร์-ราหู

ภาพที่ 6.
ตัวอย่าง
ภาพดาว อาทิตย์ ยกเข้าราศี เมษ. ปี2010
เรือนชะตา พลาสิดุส

จากภาพดาว
ดาวจันทร์ ทำมุมสัมพันธ์ ลัคนา ระยะห่าง 0.13 ลิปดา
ดาวจันทร์ ทำมุมสัมพันธ์ ดาวพฤหัส ระยะห่าง 0.23 ลิปดา
ดาวชีล่อน ทำมุมสัมพันธ์ จุดเวอร์เท๊กซ์ ระยะห่าง 0.27 ลิปดา
ดาวเสาร์ ทำมุมสัมพันธ์ จุดเมอริเดียน ระยะห่าง 0.28 ลิปดา

ดาวจันทร์ ถือเป็นดาวเจ้าแห่งปีทางจักราศี                
                 ในดวงชะตาประจำปี 2010 ราศีพฤษภ ดาวศุกร์

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-11-23 16:10:06 IP : 115.87.155.227


ความคิดเห็นที่ 4 (2132836)

4. การร่วมของอิทธิพล
    เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ หรือเป็นที่น่าตื่นเต้นขึ้นแล้ว
    จะพบเห็นในดวงชะตา บ้านเมืองนั้นๆว่า อิทธิพลของดาวเคราะห์
    มากกว่าหนึ่งดวงขึ้นไป ร่วมกันทำให้เกิดผลขึ้น
    เช่นเมื่อเกิดสงคราม นอกจากเรือนที่ 7. ตกอยู่ในที่ร้ายแล้ว
    ดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวเคราะห์แห่งสงคราม
    ก็มักมีส่วนเข้ามาพัวพันอิทธิพลอยู่ด้วย

    หรือเมื่อธนาคารประสบความอลเวง จะพบเห็นว่า
    นอกจากเรือนที่ 2. ตกอยู่ในโยกเกณฑ์ร้ายแล้ว
    จะเป็นโดยดาวเคราะห์ที่เข้าไปสถิตย์อยู่ หรือโดยเกษตรก็ตาม
    ยังมีการาร่วมอิทธิพลของ ดาวพฤหัส ที่มีตำแหน่งเสียกับดาวเสาร์
    อีกด้วย ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ชี้บ่งถึงความยุ่งยาก ทางการเงิน เช่นกัน... :)

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-11-30 01:09:50 IP : 118.172.26.31


ความคิดเห็นที่ 5 (2133224)

ตัวอย่าง
การพยากรณ์ ดวงชะตาบ้านเมือง เมื่อปีพ.ศ. 2490
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492
และการพยากรณ์ชาตาโลก เมื่อปีพ.ศ. 2493


ตัวอย่าง
การพยากรณ์ ดวงชะตาบ้านเมือง เมื่อปีพ.ศ. 2490
ดวงชะตา"ศาราทวิษุวัติ" พ.ศ. 2490 มีความสำคัญที่น่าสนใจ
เพราะว่าเป็นดวงชะตาที่การรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน ได้อุบัติขึ้นในระยะต่อมา
อาทิตย์ประเวศสู่ราศีตุลย์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2490 เวลาอัตราวิทยุ 4.29 น.
ปรากฏตำแหน่งดาวเคราะห์ต่างๆ ตามภาพดาวดังต่อไปนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-01 12:17:22 IP : 118.172.27.9


ความคิดเห็นที่ 6 (2133225)

ภาพที่ 7.
ภาพดาว

วันที่ 24 กันยายน 2490 (1947) เรือนเท่า 0 เมษ
.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-01 12:21:03 IP : 118.172.27.9


ความคิดเห็นที่ 7 (2133227)

ภาพที่ 8.
ภาพดาว

วันที่ 24 กันยายน 2490 (1947) เรือนพลาสิดุส

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-01 12:26:32 IP : 118.172.27.9


ความคิดเห็นที่ 8 (2133230)

ทวารเรือนชะตาที่ 10. ราศีมิถุน 7 องศา (ปัดเศษลิปดา จากการคำนวนเมื่ออดีต)
เรือนที่ 11. ราศีกรกฏ 7 องศา
เรือนที่ 12 ราศีสิงห์ 6 องศา
เรือนที่ 1. ราศีกันย์ 5 องศา
เรือนที่ 2. ราศีตุลย์ 5 องศา
เรือนที่ 3. ราศีพิจิก 6 องศา

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-01 12:33:39 IP : 118.172.27.9


ความคิดเห็นที่ 9 (2133654)

เมื่อวางผังดวงชะตาบรรจุดาวและเส้นแบ่งเรือนชะตา
เรียบร้อยแล้ว จะพบเห็นว่าเรือนที่ 10. (ที่หมายถึง รัฐบาล)
มีดาวมฤตยู จัตุโกณ กับดาวอาทิตย์ ดาวพุธเกษตรเรือนชะตาที่ 10.
จัตุโกณ กับ ดาวจันทร์ ราศีมกร. ซึ่งเป็นประ.
ดาวพฤหัสเกษตรเรือนชะตาที่ 4. (ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาล)
ตรีโกณกับ ดาวอังคาร


ภาพที่ 9.
รัฐประหารยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าอมาวสี
วันที่ 14 ตุลาคม 2490 ตกราศีตุลย์ 20 องศาทับดาวพุธ(เกษตรเรือนที่ 10.)
ในดวงชะตา ศารทวิษุวัต พอดี รัฐประหารจึงได้อุบัติขึ้น ภายในอมาวสีเดือนนั้น



ภาพที่ 10.
อนึ่งดวงบูรณมีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2490
ทับเส้นแบ่งเรือนชะตาเรือนที่ 4. ของดวงอมาวสีด้วย



ภาพที่ 11.
คืนวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 ดาวจันทร์จรสู่ ราศีกันย์
จัตุโกณ กับ ดาวมฤตยู ของดวงชะตา ศารทวิษุวัต
แสดงถึงวันที่เกิดเหตุ


ภาพที่ 12.


ภาพที่ 13.
และได้รับกำลังจาก ดาวอังคาร กุม ดาวเสาร์
ในวันที่12 พฤศจิกายน 2490 ซึ่งตกเรือนที่ 4. ด้วย


ภาพที่ 14.
เหตุการณ์เป็นไปได้ในทางสันติเพราะ
ดาวศุกร์จร กุม ดาวพฤหัสเมื่อวันที่ 9 ในเรือนชะตาที่ 4. ดวงศารทวัษุวัต
และนี่คือ ฤกษ์ ที่เป็นมงคลให้ความสำเร็จผลในการทำ รัฐประหาร


จากการพิจารณา จะเห็นได้ว่า
ดาวเคราะห์มีความสัมพันธ์ถึงกันตลอด นับตั้งแต่ดวงศารทวิษุวัต
ดวงอมาวสี ดวงบูรณมี และการกุมของดาวเคราะห์ดวงสำคัญคือ
ดาวอังคาร กับ ดาวเสาร์.

ดังนั้นในการพิจารณา ดวงชะตาที่เกี่ยวกับบ้านเมือง
จึงต้องวินิจฉัย ถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อกันของดาวเคราะห์
ในดวงต่างๆดังตัวอย่าง ดวงที่เกิดรัฐประหารนี้เป็นต้น.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-02 19:52:37 IP : 118.172.30.240


ความคิดเห็นที่ 10 (2135202)

ตัวอย่าง
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492

บทความโหราศาสตร์ที่เกี่ยวแก่การพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง
ซึ่งได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างๆนั้น เป็นของพิสูจน์อันดีว่า
วิชาโหราศาสตร์สามารถ พยากรณ์เหตุการณ์ได้ถูกต้องแม่นยำเพียงใด
ดังนั้นในบทนี้ จึงได้นำบทความพยากรณ์ทางโหราศาสตร์
บางรายที่ได้ผลประจักษ์ผลมาแล้วเป็นข้อพิสูจน์ดังต่อไปนี้

หนังสือพิมพ์รายวัน "ฤกษ์อรุณ" ฉบับที่ 4. ประจำวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2491
ได้นำบทความโหราศาสตร์การเมืองภายใต้หัวเรื่องว่า "ปรากฏการณ์บนฟากฟ้า"
ทำนายเหตุการณ์ร้าย เกี่ยวกับรถไฟในประเทศไทย โดยใช้ปรากฏการณ์
ของ จันทร์บังอังคาร ซึ่งอุบัติเมื่อ 4.50 (ตามการคำนวนในปัจจุบันได้เวลา 5.18 น.)
ของวันที่ 7 กันยายน 2491 ราศีพิจิก 2 องศา ตกเรือนที่ 3.(การคมนาคม)
อีก 5 วันต่อมา ขบวนรถสินค้ากับรถบรรทุกถ่านหิน ได้เกิดชนกันที่สถานีช่องแค.

ภาพที่ 15.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-09 00:19:40 IP : 118.172.28.130


ความคิดเห็นที่ 11 (2136145)

ตัวอย่าง 2. จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492

หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับที่ 830 ประจำวันพุธที่ 23 กันยายน 2491
พาดหัวข้อข่าวว่า " โลกก้าวเข้าสู่ความวิปริตวันนี้"

ลงบทความพยากรณ์การเมือง
โดยอาศัยดวงชะตาศารทวิษุวัต
อาทิตย์ ยกเข้าสู่ราศีตุลย์ 23 กันยายน 2491 เวลา 10.22 น.
เป็นหลักในการพยากรณ์ว่า
"รัฐบาลจะต้องประสบกับ มรสุมอย่างหนัก ฯ"

อีก 7 วันต่อมามีการจับกุมในกรณ๊
รัฐประหารซ้อน 1 ตุลาคม 2491.

ภาพที่ 16.
ภาพดวงชะตา

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-12 12:29:57 IP : 58.9.211.16


ความคิดเห็นที่ 12 (2136588)

ตัวอย่าง 3. จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492

หนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับที่ 878 ประจำวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2491
ลงคำทำนายเหตุการณ์ของโลก โดยอาศัยปรากฏการณ์ของดาวหาง
ที่ปรากฏแก่ตาโลก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2491


ว่าจะนำความเดือดร้อนยุ่งยากมาสู่ประเทศจีน พม่า และอิิียิปต์
ต่อจากนั้นมา รัฐบาลเชียงใคเช็ดก็แพ้พ่ายต่อจีนแดงอย่างรวดเร็วเป็นลำดับ

พม่าก็เกิดจลาจลกระเหรี่ยงลุกลามขึ้น ฯลฯ

นายกรัฐมนตรีอียิปก็ถูกลอบยิงเผาขน
ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2491.

ภาพที่ 17.
ภาพดวงชะตา

                       

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-14 10:11:00 IP : 110.168.140.233


ความคิดเห็นที่ 13 (2137470)

ตัวอย่าง 4. จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492

หนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับที่ 917 ประจำวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2492
ทำนายถึง เหตุการณ์ของประเทศไทยที่สำคัญ
จะผันแปรอุบัติขึ้นโดยฉับพลัน ไม่ทันคาดหมาย
อีก 10 วันต่อมาเกิด การจารจลปะทะนองเลือดกรณี 26 กุมภาก็อุบัติขึ้น
ทำนายโดยอาศัยดวงชะตาเหมายัน
ดาวอาทิตย์ประเวศสู่ราศี มกร

ภาพที่ 18.
ภาพดวงชะตา

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-17 13:16:03 IP : 58.11.22.123


ความคิดเห็นที่ 14 (2138035)

ตัวอย่าง 5. จากหนังสือวรสาร
บทพิสูจน์ ผลของการพยากรณ์ เมื่อปีพ.ศ. 2491 , 2492


หนังสือพิมพ์วรสาร ฉบับ 181 ประจำวันที่ 15 มีนาคม 1992
ลงคำทำนายเหตุการณ์ 15 - 30 มีนาคม 1992
โดยอาศัยดวงบูรณมี ซึ่งมี ดาวอาทิตย์ กุม ดาวอังคาร
ในเรือนที่ 3 เล็งดาวจันทร์ในเรือนที่ 9 ได้แก่อุบัติเหตุการคมนาคม
ไฟไหม้ , การจับกุม ต่อมาปรากฏว่าเกิดเพลิงไหม้ 2 ราย
ที่บ้านโป่ง และคลองเตย เกิดอุบัติเหตุการคมนาคมหลายราย.

ภาพที่ 19.
ภาพดวงชะตา

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-20 08:23:11 IP : 58.9.41.148


ความคิดเห็นที่ 15 (2138834)

วิธีพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมือง

ปรากฏการณ์ต่างๆที่โหราศาสตร์ทำนายบ้านเมือง มีส่วนสัมพันธ์อยู่ด้วยนั้น
แยกออกได้เป็นส่วนใหญ่ได้ 2 จำพวกคือ

1.จำพวกที่เกิดขึ้นทุกๆปี ในรูปลักษณะต่างๆกัน
    ได้แก่วัน เวลา เมื่อดวงอาทิตย์ผ่านเส้นศูนย์สูตร
    เรียกว่า จุดราตรีเสมอภาค 

    และเวลาเมื่อดวงอาทิตย์โคจรปัดเหนือและปัดใต้สุด
    เวลาแห่งวันดับ หรือวันอมาวสี New Moon
    วันเพ็ญหรือวันบูรณมี Full Moon
    และวันเวลาที่เกิด อุปราคา Eclipse

    อุบัติการณ์ทางโหราศาสตร์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทุกๆปี
    ตามวันเวลาต่างๆกัน เพราะฉะนั้นจึงจัดเป็นจำพวกแรก
    ที่ต้องอยู่ในดุลย์พินิจก่อนอื่น เป็นปัจจัยสำคัญ
    ที่จะคลี่คลายเหตุการณ์บ้านเมืองด้านอื่นๆออกไป.

2. จำพวกที่อุบัติขึ้นนานๆครั้ง ครั้งละหลายๆปี หรือหลายสิบปี
    ซึ่งจัดเป็น ปรากฏการณ์พิเศษ ที่อุบัติขึ้นอันผิดปกติ
    นอกเหนือจากจำพวกแรก เช่นการกุมกันของดาวเคราะห์
    ดวงสำคัญๆ นับตั้งแต่การกุมของดาวอังคาร กับ ดาวพฤหัส
    ซึ่งมีราวๆทุก 2 ปี จนถึงการกุมของดาวมฤตยู กับ ดาวเนปจูน
    ซึ่งมีราวๆทุกระยะ 170 ปีเป็นต้น (ในยุดนั้นยังไม่ได้กล่าวถึงดาวพลูโต).
 
ยังมีสิ่งพึงสังเกตุว่า ตำแหน่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ
พลุสงกรานต์เหนือและใต้หรือ Aphelion , Perihelion
คือจุดที่โลกโคจรออกห่างดวงอาทิตย์มากที่สุด และใกล้ที่สุด

พลุสงกรานต์เหนือ Aphelion คือจุดที่โลกโคจรไกลจากดวงอาทิตย์
มากที่สุด ตกในราวเดือน กรกฏาคม
พลุสงกราต์ใต้ Perihelion คือจุดที่โลกโคจรใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
ตกในราวเดือน มกราคม.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-22 21:52:05 IP : 118.172.25.5


ความคิดเห็นที่ 16 (2139176)

ภาพที่ 20.
ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 1.
ดวงอาทิตย์ประเวศเข้าสู่ จุดแรกของราศีทวาร มกร ปัดใต้สุด
เรียกว่า ดวงชะตา เหมายัน Winter Solstice ประจำปี ค.ศ. 2010
ซึ่งแบ่งภาคฤดูหนาวทางโลกซีกเหนือ และฤดูร้อนทางซีกโลกใต้

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-24 01:37:58 IP : 118.172.0.33


ความคิดเห็นที่ 17 (2139351)

ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 1. ดวงชะตาอมาวสี วันที่ 6 ธันวาคม 2010
วันดับ หรือ วันอมาวสี New Moon ทีมีความสำคัญถัดจากดวงจตุทวารศี
มีความสำคัญยิ่งยวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้พยากรณ์เกี่ยวกับ
เหตุการณ์ปัจจุบันในรอบเดือนหนึ่งๆ ให้พิจารณาดูว่า
ตำแหน่งที่ตั้ง องศา ลิปดา ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์นั้น
สัมพันธ์ได้ โยกเกณฑ์ อันใกล้ชิดกับดาวเคราะห์ใดบ้าง
หรือว่าดาวเคราะห์ตั้งแต่หนึ่งดวงขึ้น ในดวงชะตาอมาวสีในเดือนนั้นอยู่ในเรือนมุม
(คือเรือน 1 - 4 - 7 - 10) ดวงอมาวสีเดือนใดก็ตาม ถ้าปรากฏตามลักษณะนี้แล้ว
ก็จัดว่ามีความสำคัญพิเศษ แต่ถ้าไม่มีการปรากฏในลักษณะดังกล่าวแล้ว
ชะตาอมาวสีในเดือนนั้น ก็ไม่สู้มีความสำคัญอะไรนัก.

ภาพที่ 21.
ภาพดวงชะตา อมาวสีเดือน ธันวาคม 2010

 
อิทธิพลของอมาวสี ยังคงครอบคลุมเหตุการณ์ไปจนถึงอมาวสีในเดือนถัดไป
และจะไม่นานเกินกว่า 1 เดือน นอกจากว่าอมาวสีนั้นเป็น อุปราคา.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-24 13:52:46 IP : 118.172.0.33


ความคิดเห็นที่ 18 (2139362)

ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 1. ดวงชะตาวันเพ็ญ วันที่ 21 ธันวาคม 2010
วันเพ็ญ หรือ บูรณมี Full Moon ที่เกิดจากดวงจันทร์โคจรเล็ง (180 องศา)
กับดวงอาทิตย์ ในทุกๆเดือนแห่งอมาวสี ผลสัมพันธ์ของดวงวันเพ็ญ
หรือดวงบูรณมี ที่คำนวนขึ้นนั้น โดยทั่วไปมีความสำคัญน้อยกว่า
การพยากรณ์เช่นเดียวกับดวงชะตา อมาวสี

กำหนดระยะเหตุการณ์ภายในรอบ 15 วัน
นอกจากว่า วันเพ็ญ หรือบูรณมีนั้นเป็น อุปราคา.

ภาพที่ 22.
ภาพดวงชะตาวันเพ็ญ หรือดวงบูรณมี ที่เป็นอุปราคา

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-24 14:14:13 IP : 118.172.0.33


ความคิดเห็นที่ 19 (2139606)

การพิจารณา จักรราศี กับ เรือนชะตา

จักรราศีทั้ง 12 ราศีครอบงำเหตุการณ์อย่างเดียวกับเรือนทั้ง 12 เรือนชะตา
เสนอสนองต่อกันตามลำดับเป็นคู่ๆไป คือราศีเมษ มีความหมายคู่กับเรือนที่ 1.
ราศีพฤษภคู่กับเรือนที่ 2. และต่อๆไปจนถึงราศีมีน ที่คู่กับเรือนที่ 12.

อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของราศีต่างๆทั้งโดยทั่วไป
และโดยเฉพาะมีมาก และน้อยกว่าเรือนชะตาต่างๆตามลำดับ

ตัวอย่างเช่น ดาวมฤตยูมีสัมพันธ์ร้ายสถิตอยู่ในราศีมกร
ย่อมยังผลกระทบกระเทือนถึงรัฐบาล และกษัตริย์ความหมายดังเรือนที่ 10.
แต่ทว่าราศีนั้นครอบงำโดยทั่วๆไปในโลก
(ยกเว้นแต่ประเทศที่อยู่ภายใต้ราศีดังกล่าว)

ส่วนเรือนชะตาที่คำนวนได้จากดวงชะตาอมาวสี - ดวงชะตาบูรณมี
หรือดวงจตุทวารราศี ย่อมอยู่ภายใต้ขอบเขตจำกัด
เฉพาะประเทศ หรือท้องถิ่นที่กำหนดไว้(ตามตำแหน่งแล๊ตฯ-ลองติจู๊ต).
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-25 15:05:15 IP : 118.172.53.154


ความคิดเห็นที่ 20 (2139854)

ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 2.
จำพวกที่อุบัติขึ้นนานๆครั้ง ครั้งละหลายๆปี หรือหลายสิบปี
ซึ่งจัดเป็น ปรากฏการณ์พิเศษ

ภาพที่ 23.
ภาพตัวอย่าง ดาวพฤหัส กุม ดาวมฤตยู

ดาวพฤหัส
แสดงถึงความไพบูลย์ สันติสุข ความเพิ่มพลู ความเจริญทางโภคทรัพย์
ในเกณฑ์ร้าย สิ่งดังกล่าวจะประสบแต่ผลเสีย การผลิตกรรมมากเกินไป
อาจจะมีการทรยศ หรือศัตรูลึกลับทางต่างประเทศ ตลอดจนอาชญากรรมลึกลับ

ดาวมฤตยู
แสดงถึงตัวแทนของประชาชน ผู้ซึ่งมีอำนาจในการบริหารประเทศ
ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบัญญัติกฏหมาย เป็นที่รวมของอำนาจทั้งหมด
สภานิติบัญญัติโดยทั่วไป และคณะพรรคที่มีอำนาจโดยเฉพาะ
แสดงถึง ความปลอดอุปสรรค เสรีภาพ ความเจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน
ในเกณฑ์ร้าย อาจก่อการนัดหยุดงาน เสรีภาพ ขบถ และการระเบิด.

วงรอบการกุมกันของคู่ดาวนี้ จะเวียนเข้ามากุมกันอีกในวันที่ 21 เมษายน 2024
หรือหลังจากการกุมตามภาพดาวข้างต้น จะเวียนเข้ามากุมกันอีก 13 ปีข้างหน้า

เป็นภาพคู่ดาวที่แสดงถึง
การขยายตัวของความสมบูลณ์พลูสุข โดยเฉพาะด้านทุนนิยม
จากการบริหาร การวางนโยบายโดยเฉพาะพรรคที่มีอำนาจ
ในเกณฑ์ร้าย จะแสดงถึงความขัดสน เศรษฐกิจที่ทรุดโทรม
การอาศัยอำนาจ โดยผู้บริหารที่มีอำนาจ การจำกัดเสรีภาพโดยกฏหมาย
อันไม่เป็นธรรม อันเกิดจากการนัดหยุดงาน การต่อต้าน
การใช้ความรุนแรงจากผู้ต่อต้านผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ เป็นต้น.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-26 23:11:31 IP : 118.172.59.88


ความคิดเห็นที่ 21 (2140362)

ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 2. ดวงชะตาพฤหัสประเวศสู่ ราศีเมษ
เป็นจำพวกที่อุบัติขึ้นนานๆครั้ง ครั้งละหลายๆปี หรือหลายสิบปี
ซึ่งจัดเป็น ปรากฏการณ์พิเศษ

ภาพที่ 24.
ภาพตัวอย่าง ดาวพฤหัส ประเวศสู่ ราศีเมษ

ดาวพฤหัส
แสดงถึงความไพบูลย์ สันติสุข ความเพิ่มพลู ความเจริญทางโภคทรัพย์
ในเกณฑ์ร้าย สิ่งดังกล่าวจะประสบแต่ผลเสีย การผลิตกรรมมากเกินไป
อาจจะมีการทรยศ หรือศัตรูลึกลับทางต่างประเทศ ตลอดจนอาชญากรรมลึกลับ

วงรอบการประเวศสู่ ราศีเมษ นี้จะเวียนเข้ามาอีก
ในวันที่ 11 เดือนพฤษภาคม 2022 และวันที 20 ธันวาคม 2022
หลังจากการประเวศสู่ ราศีเมษ ตามภาพดาวข้างต้น กันใหม่อีก 11 ปีข้างหน้า.

จากภาพดาว
ดาวพฤหัสประเวศ(ย้าย)เข้าสู่ราศีเมษในครั้งนี้ 23 มกราคม 2011
ดาวพฤห้สมาสถิตชิดกับเส้นแบ่งเรือนชะตาที่ 6.
สัมพันธ์ กับเส้นแบ่งเรือนที่ 1 หรือ ลัคนา
สัมพันธ์ กับเส้นแบ่งเรือนที่ 10 หรือ จุดเมอริเดียน
สัมพันธ์ กับดาวเสาร์ในเรือนที่ 12.ที่มาจากเรือนที่ 4.

เส้นแบ่งเรือนที่ 6.(จุดเริ่มต้นเรือนที่ 6.) ราศีเมษ หมายถึง
การสาธารณสุข หรือความเจ็บไข้ การบริการของชาติ
กองทัพบก ทัพเรือ ข้าราชการพลเรือน และชนกรรมาชีพ

ดาวพฤหัสในเรือนที่ 6. ในเรือนนี้ไม่เข้มแข็ง
อาจเกิดความวุ่นวายจากวงการการทำงาน และการบริการของชาติ
อาจมีการเจ็บไข้ขนานใหญ่ภายในประเทศเกี่ยวกับโรคตับและคอพอก
โรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วยคนไข้ อาชญากรลึกลับใต้ดินอาจอุบัติขึ้น

ดาวพฤหัสจากเรือนที่ 3. หมายถึงการขนส่ง คมนาคมภายในประเทศ
ตลอดจนถึงการให้ข่าวสื่อ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
และบรรดาประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงฯ.

ความสัมพันธ์ ที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตำแหน่งดาวพฤหัสกับจุดลัคนา
หมายถึง การขยายตัวในลักษณะผิดทาง การเกิดปัญหาอุปสรรค - ขัดแย้งฯ.

เส้นแบ่งเรือนที่ 1. หรือจุดลัคนาหมายถึง ประเทศและประชาชนพลเมือง
โดยส่วนรวมทั้งหมด สภาพทั่วไปของความไพบูลย์รุ่งเรือง
ความสมบูรณ์พลูสุข และสุขภาพของประชาชนทั่วไปฯ.

เส้นแบ่งเรือนที่ 10. หรือจุดเมอริเดียนหมายถึง
ผู้ปกครองประเทศ ประธานาธิบดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐบาลผู้รับผิดชอบ
บุคคลสำคัญของชาติ  การค้าของประเทศ สินเชื่อและอำนาจ
เกียรติคุณ - ชื่อเสียงของประเทศ

ความสัมพันธ์ ที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตำแหน่งดาวพฤหัสกับจุดเมอริเดียน
หมายถึงโอกาศการขยายตัว ความไพบูลย์ - ชื่อเสียง ที่เกิดจาก
ความหมายของเรือนที่ 6. ส่งผลต่อ สิ่งหรือเรื่องราว รวมทั้งบุคคล คณะ
ตามความหมายของจุดเมอริเดียน หรือเรือนที่ 10.

สัมพันธ์ กับดาวเสาร์ในเรือนที่ 12.ที่มาจากเรือนที่ 4. หมายถึง
ดาวเสาร์ในตำแหน่งนี้ ถึงจะมีตำแหน่งดี ก็ยังแสดงถึง ความเป็นศัตรู
ความริษยาทางต่างประเทศ ภัยของการสูญเสียอำนาจ หรือความไม่นิยมรัฐบาล
แม้นว่าจะมี มีการแก้ไขกฏหมายและการปกครองที่ดีขึ้น หรือชนชั้นกรรมาชีพ
มีฐานะกระเตื้อง ความเป็นอยู่ดีขึ้นก็ตาม

เรือนที่ 4. หมายถึง ที่ดิน เจ้าของที่ดิน และคนงานที่เกี่ยวกับงานดิน
(การเกษตร)พืชผลไร่นาธัญญาหาร เหมืองแร่ สาธารณะอาคาร
ประชาชาซึ่งขัดแย้งแตกต่างจากผู้ปกครองประเทศ
คณะฝ่ายค้านในรัฐสภา หรือฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาล.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-28 23:16:41 IP : 118.172.62.203


ความคิดเห็นที่ 22 (2140853)

ตัวอย่าง
ภาพดวงชะตา จำพวกที่ 2. ดวงชะตาดาวมฤตยูประเวศสู่ ราศีเมษ
เป็นจำพวกที่อุบัติขึ้นนานๆครั้ง ครั้งละหลายๆปี หรือหลายสิบปี
ซึ่งจัดเป็น ปรากฏการณ์พิเศษ

ภาพที่ 25.
ภาพตัวอย่าง ดาวมฤตยู ประเวศสู่ ราศีเมษ

แสดงถึงตัวแทนของประชาชน ผู้ซึ่งมีอำนาจในการบริหารประเทศ
ผู้มีอำนาจสูงสุดในการบัญญัติกฏหมาย เป็นที่รวมของอำนาจทั้งหมด
สภานิติบัญญัติโดยทั่วไป และคณะพรรคที่มีอำนาจโดยเฉพาะ
แสดงถึง ความปลอดอุปสรรค เสรีภาพ ความเจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน
ในเกณฑ์ร้าย อาจก่อการนัดหยุดงาน เสรีภาพ ขบถ และการระเบิด.

วงรอบการประเวศสู่ ราศีเมษ นี้จะเวียนเข้ามาอีกประมาณ
ในวันที่ 29 เดือนเมษายน 2094 และวันที 19 เดือนกุมภาพันธ์ 2095
หลังจากการประเวศสู่ ราศีเมษ ตามภาพดาวข้างต้น
ย้ายเข้าสู่ราศีเมษกันใหม่อีก 83 - 84 ปีข้างหน้า.

จากภาพดาว
ดาวมฤตยูประเวศ(ย้าย)เข้าสู่ราศีเมษ ในครั้งนี้ 22 มีนาคม 2011
ดาวมฤตยูมาในเรือนที่ 12 ราศีมีน
กุมดาวพุธ  เรือนที่ 12 ราศีมีน จากเรือนที่ 3. และเรือนที่ 6.
จุดเมอริเดียน สัมพันธ์กับดาวพฤหัสในเรือนที่ 12.
ดาวเสาร์ในเรือนที่ 7. ราศี ตุลย์ จากเรือนที่ 10.
สัมพันธ์กับ จุดเส้นแบ่งเรือนที่ 1. จุดลัคนา ราศีเมษ
สัมพันธ์กับดาวอังคาร ในเรือนที่ 12 ราศีมีน จากเรือนที่ 1.
สัมพันธ์กับดาวพฤหัส ในเรือนที่ 12. จากเรือนที่ 10.
สัมพันธ์กับดาวเนปจูน ในเรือนที่ 11 ราศีกุมภ์ จากเรือน 12.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2010-12-31 17:56:06 IP : 118.172.22.150


ความคิดเห็นที่ 23 (2142387)

ภาพที่ 25.
ภาพตัวอย่าง ดาวมฤตยู ประเวศสู่ ราศีเมษ

จากภาพดาวที่จะเป็นแม่แบบ ในเรื่องของดาวมฤตยู(ตามความหมายที่ได้กล่าวมา)
นานไปอีกประมาณ 80 กว่าปีที่จะเปลี่ยนความหมายไปจากโครงสร้างดังกล่าว
โครงสร้างของดาวมฤตยูที่ประเวศ(ย้าย)เข้าสู่ราศีเมษครั้งนี้ ภาพดาวที่สถิต
เรียงรายในดวงชะตา คู่ดาวที่ให้ความสำคัญมีอยู่ 2 ชุด ที่ให้ความสำคัญ
ต่อไปจากตำแหน่งของดาวมฤตยูสถิตในเรือนที่ 12. จากภาพดาวได้แก่

1. ดาวจันทร์ ในเรือนที่ 2. (จากเรือนที่ 4.) ทำมุมสัมพันธ์ห่างเพียง 46 ลิปดากับ 
    ดาวพฤหัส ในเรือนที่ 12. (จากเรือนที่ 9. และ 12. )
    ที่อุบัติขึ้นตามทฤษฎีที่ได้กล่าวข้างต้นคือ
2. ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 7. (จากเรือนที่ 10.) สัมพันธ์เล็งกับจุดลัคนาฯ 
    และทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 11. (จากเรือนที่ 12.)
    รวมทั้งสัมพันธ์กับ ดาวอังคาร ในเรือนที่ 12. (จากเรือนที่ 1.)

โดยที่จุดลัคนา ทำมุมสัมพันธ์ 45 องศากับ ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 11.
(จากเรือนที่ 12.) และ จุดราหู ในเรือนที่ 9.(จากเรือนที่11.)

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-04 23:40:11 IP : 118.172.36.90


ความคิดเห็นที่ 24 (2142991)

ภาพที่ 25.
ภาพตัวอย่าง ดาวมฤตยู ประเวศสู่ ราศีเมษ
ขยายความหมาย โดยหลักพื้นฐานจากทฤษฏี

จากตำแหน่งของดาวมฤตยูสถิตในเรือนที่ 12.
หมายถึง การเกิดอาชญากรรมลึกลับ คดีลึกลับซับซ้อนภายในโรงศาล
การเปลี่ยนแปลง หรือการวางกฏระเบียบใหม่ในสถานพยาบาล องค์การกุศล
เกี่ยวข้องกับโรงงาน หรือเรือนจำ ความยุ่งยาก และความไม่พอใจ

ที่เกี่ยวพันธ์ มาจากเรื่องของ รัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาสามัญ
สภาการเมืองและท้องถิ่น นโยบายและความมุ่งหมายของชาติ
สัมพันธมิตรกับประเทศต่างๆ และการบัญญัติกฏหมาย

1. ดาวจันทร์ ในเรือนที่ 2. (จากเรือนที่ 4.) ทำมุมสัมพันธ์ห่างเพียง 46 ลิปดากับ 
    ดาวพฤหัส ในเรือนที่ 12. (จากเรือนที่ 9. และ 12. )
    คู่ดาวสำคัญที่อุบัติขึ้นตามทฤษฎีที่ได้กล่าวข้างต้น ที่หมายถึง

ดาวจันทร์ในเรือนที่ 2. หมายถึง
เรื่องของธุรกิจ การเงิน การคลัง การค้าทั่วไป
การค้นพบบ่อเกิดเศรษฐกิจทรัพย์ใหม่ รายได้แผ่นดินจะเพิ่มพลู การเก็บภาษีอากร
ผ่อนเบาลง พืชผล ที่ดินและประชาชนได้ผลเพิ่มพลูฯ

เรือนที่ 4.หมายถึง
ที่ดิน เจ้าของที่ดินและคนงานที่เกี่ยวกับงานดิน พืชผลไร่นา-ธัญญาหาร
เหมืองแร่ สาธารณะอาคาร ประชาชนซึ่งขัดแย้งแตกต่างกับผู้ปกครอง
ประชาธิปไตยซึ่งขัดแย้งแตกต่างกับราชาธิปไตย คณะฝ่ายค้านในรัฐสภา
หรือฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลฯ

ดาวพฤหัสในเรือนที่ 12.หมายถึง
เรื่องอำนวยผลโชคดีให้กับโรงพยาบาล สถานบำบัดโรค องค์การกุศล
มีการบริจาคเพิ่มขึ้น ประชาชนมีความสนใจในสิ่งเหล่านี้ และได้รับผล
ประโยชน์ตอบแทน พิธีการหรือการประชุมสาธารณะเกี่ยวกับเรือนนี้เพิ่มขึ้น
เรือนจำ หรือโรงงานจะได้รับการปรับปรุงให้มีสภาพที่ดีกว่าเดิม

เรือนที่ 9.หมายถึง
การเดินเรือ การคมนาคมทางทะเล การเดินทางระยะไกล การบิน
ไม่ว่าจะเกี่ยวกับคนผู้โดยสาร หรือสินค้า การศาสนา เรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
ด้านการศึกษาความรู้ชั้นสูงหมายถึง มหาวิทยาลัย การโฆษณา การหนังสือพิมพ์
ข่าวสารการเมืองนอกประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ศาสตราจารย์ และสถาบันฯ

เรือนที่ 12.หมายถึง
เรือนจำ ที่ดัดสันดาน อาชญากร จารชน ศัตรูลึกลับของประเทศ
ทั้งภายในและภายนอก สมาคมหรือคณะพรรคลับ โรงพยาบาลโรคจิต
องค์การประชาสงเคราะห์ทั่วไป
เรื่องด้านร้ายหมายถึง การวินาศกรรม ความทุกข์ระทม
และความสูญเสียของชาติตลอดจนศาสนาลึกลับ

ลักษณะความสัมพันธ์ของคู่ดาวทั้ง 2 ดวงหมายถึง
โอกาศ จังหวะของการติดต่อ และประโยขน์ของความสัมพันธ์จากเรื่อดังกล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-06 13:01:12 IP : 118.172.27.82


ความคิดเห็นที่ 25 (2143553)

2. ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 7. (จากเรือนที่ 10.) สัมพันธ์เล็งกับจุดลัคนาฯ 
    และทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 11. (จากเรือนที่ 12.)
    รวมทั้งสัมพันธ์กับ ดาวอังคาร ในเรือนที่ 12. (จากเรือนที่ 1.) หมายถึง

ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 7. หมายถึง
การเกิดศัตรู การเกิดการขัดแย้ง เกิดปัญหาที่จะต้องเสียหายจากผู้อิ่น
จากสิ่งหนึ่งที่ประสงค์กับการต่างประเทศ ความยุ่งยาก การปฏิเสธ
กระเทือนทั้งทางไมตรี ทางเศษฐกิจ และทางการค้า - ทางการเมือง
กับทางต่างประเทศ เกิดความตึงเครียด เย็นชาริษยา เป็นศัตรูกัน
เหตุการณ์การเมือง และการค้าถูกกระทบกระเทือนเสียผลประโยชน์
กับต่างประเทศ ภายในประเทศและเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับประชากรโดยรวม
เกิดการสมรสลดลง การหย่าร้าง และอาชญกรรมที่เกี่ยวกับสตรีจะมีขึ้น. 

เรือนที่ 10. หมายถึง
ผู้ปกครองประเทศ ประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐบาล
และผู้รับผิดชอบ บุคคลสำคัญของชาติ การค้าของประเทศ สินเชือ
และอำนาจ เกีรยติคุณ ชื่อเสียงของประเทศ

จุดลัคนา หรือเส้นแบ่งเรือนที่ 1. หมายถึง
ประเทศและประชนชน - พลเมืองโดยส่วนรวมทั้งหมด สภาพความทั่วไปของ
ความเจริญรุ่งเรือง ความไพบูลย์พลูสุขและสุขภาพฯ

ลักษณะความสำพันธ์ ของตำแหน่งดาวเคราะห์และจุดลัคนา หมายถึง
ความแตกแยก การเป็นศัตรู การประกาศตนในการขัดแย้ง
หรือการสูญเสียบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ได้มาในสิ่งประสงค์

ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 11. หมายถึง
การเกิดอุปสรรค ขัดขวางในเรื่องงานทางด้านรัฐสภา ติดขัดไม่ราบรื่น
เกิดความอลเวงปั่นป่วน และชงัก - ชักช้าในการบัญญัติกฏหมาย
จะเกิดความก้าวหน้าเล็กน้อย หรือไม่มีเลย เกิดการไม่ลงรอย
หรือความแตกแยกภายในพรรคหนึ่งพรรคใด หรือหลายๆพรรค
ร่างพ.ร.บ. และญัตติอาจถูกขัดขวง หรือผ่านไม่ได้
กฏหมายที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย จะก่อให้เกิดความอลเวง

เรือนที่ 12.หมายถึง
เรือนจำ ที่ดัดสันดาน อาชญากร จารชน ศัตรูลึกลับของประเทศ
ทั้งภายในและภายนอก สมาคมหรือคณะพรรคลับ โรงพยาบาล
องค์การประชาสงเคราะห์ การวินาศกรรม ความทุกข์ระทม
และความสูญเสียของชาติ ตลอดจนศาสนาเร้นลับ

ลักษณะความสัมพันธ์ ของคู่ดาวเคราะห์ทั้งสอง หมายถึง
การขัดแย้ง ของความไม่พอใจ-ในสิ่งหรือผลประโยชน์
ก่อเกิดปัญหาจนกลายเป็นศัตรู

ลักษณะความหมาย ของคู่ดาวเคราะห์ทั้งสอง หมายถึง
การนำความชะงัก-ชักช้า และความอลเวงมาสู่กลไกชีวิตของประเทศชาติ
อาจจะมีการสูญเสียบางอย่างทางการต่างประเทศหรือความเคลื่อนไหวสำคัญ
ที่ยังผลทำให้ประชาชนวุ่นวายในการเมืองภายในประเทศ ประชาชนอับโชค
และเกิดความไม่พึงพอใจ มีอาชญากรรมลึกลับเกิดขึ้น ความเสื่อมเกีรยติ
หรือความเสื่อมโทรมบางอย่างอาจเกิดขึ้นกับวงการตำรวจ เทศบาลหรือรัฐบาล
หุ้นส่วนและการลงทุนอาจยังผลร้าย และเกิดความสูญเสียอย่างหนัก

ดาวอังคาร ในเรือนที่ 12. หมานถึง
การเกิดอาญชกรเพิ่มขึ้น บางรายก็ลึกลับจนยากแก่การสืบค้น
หรือการคลี่คลายเหตุการณ์ การปองร้ายฆาตกรรม วินาศกรรม การวางเพลิง
เหตุการดังกล่าวจะอุบัติขึ้น เกิดความยุ่งยากที่เกี่ยวกับเรือนจำ หรือโรงงาน
การแหกคุก เกิดเหตุการณ์การตายเป็นอันมาในเรือนจำ โรงงาน และโรงพบาบาล
ประเทศอาจต้องประสบภัยจากศัตรูลึกลับ หรือการก่อการร้ายจากต่างประเทศ

จากเรือนที่ 1. หมายถึง
ประเทศและประชนชน - พลเมืองโดยส่วนรวมทั้งหมด สภาพความทั่วไปของ
ความเจริญรุ่งเรือง ความไพบูลย์พลูสุขและสุขภาพฯ

ลักษณะความสัมพันธ์ ของคู่ดาวเคราะห์ทั้งสอง หมายถึง
การขยายตัวในด้านผิดทาง การเกิดอุปสรรค ทำให้เกิดศัตรูที่ไม่แสดงตัว

ลักษณะความหมาย ของคู่ดาวเคราะห์ทั้งสอง หมายถึง
เกิดความอับโชคเคราะห์กรรมแก่ผู้ปกครอง หรือรัฐบาล
การเกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน
เกิดความวุ่นวาย อาชณกรรม - การฆาตกรรม
รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยม และการสนับสนุน
คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่กรรมหรือถูกปองร้ายหมายชีวิต
ความไม่พอใจพาคพิงมาถึงกองทัพบก ทัพเรือ หรือวงการตำรวจ
และเกิดการปฏิวัติ - รัฐประหารขึ้นได้
(ผลที่รุนแรงจะเกิดในลักษณะ การกุมของดาวเคราะห์).

การพิจารณาจากข้อมูล - ภาพดาว 
ข้างต้นเป็นการพิจารณาตามหลักทฤษฏีโหราศาสตร์การเมือง - ระบบสากล ทุกขั้นตอน
ในที่นี้ยังขาด การพิจารณาร่วมกับราศี ธาตุ และคุณะที่จะให้การขยายความมากขึ้น

จากข้อมูลทางทฤษฏี ภายหลังจากนี้จะเป็น การวินิจฉัยจากนักพยากรณ์
หลังจากการพิจารณาอย่างถ่องแท้ ร่วมกับข้อมูลปรากฏการณ์ต่างๆ
ที่จะต้องนำมาผสมเรื่องราว เพื่อเป็นการระบุเหตุการณ์ ในแต่ระยะเวลา
หรือในแต่ละเรื่องราว โดยการพิจารณาจากข้อมูลจากภาพดาวที่เกิดปรากฏการณ์
เป็นข้อมูลนำมาผสมเรื่องราว ผูกเป็นเรื่องโยงให้เข้าใจเป็นเรื่องประกอบกัน
โดยจะนำมาจากการวินิจฉัยในรูปแบบท่วงทำนองเดียวกัน.

 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-08 11:41:33 IP : 118.172.62.199


ความคิดเห็นที่ 26 (2143999)

สรุป. - การวินิจฉัยโหราศาสตร์การเมือง
ตามระบบโหราศาสตร์สากล คลาสสิกดั่งเดิม(แบบโบราณ)
มีกฏเกณฑ์การวางผังชตาบ้านเมือง มีแนวทางดังต้องไปนี้

1. คำนวนผังดวงชะตา เมื่อดาวอาทิตย์ประเวศ(ย้าย)เข้าสู่ราศีทั้ง 4.
    เมษ. กรกฏ. ตุลย์ และมกร ตามวันและเวลาของประเทศที่ต้องการ
    เป็นรากฐานเบื้องต้น

2. คำนวนดวงชะตาอมาวสี (ดวงชะตา นิวมูล หรือดวงชะตาเดือนดับ)
    ในระหว่างดวงจตุทวารราศี (เมษ. กรกฏ. ตุลย์ และมกร) ไว้ทุกเดือนตลอดปี
    และวินิจฉัยสัมพันธ์กับดวงจตุทวารราศี

3. คำนวนดวงบูรณมี (ดวงชะตาฟลูมูล หรือดวงวันเพ็ญ) แทรกในดวงชะตา
    ของดวงชะตาอมาวสีทุกเดือน และพิจารณาเช่นเดียวกันกับดวงชะตาอมาวสี

4. การคำนวนดวงชะตาอุปราคา ถ้ามีอุปราคาเดือนได ให้ถือเป็นกรณีพิเศษ   
    ที่มีความสำคัญและกินเวลา ยาวนานในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

5. การกุมของดาวเคราะห์ดวงสำคัญ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญ
    แสดงถึงเหตุการณ์สำคัญๆเด่นๆจะบังเกิดขึ้น.

หมายุเหตุ. การประเวศ(ย้าย)สู่ราศีของดาวเคราะห์ นับเป็นดวงชะตาที่สำคัญ
               เช่นเดียวกับการกุมกันของดาวเคราะห์ ต้องนำขึ้นพิจารณา.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-10 13:01:21 IP : 118.172.48.54


ความคิดเห็นที่ 27 (2144494)

ปรากฏการณ์ที่ต้องให้ความสำคัญ ในการวินิจฉัยร่วม - ประกอบ  

อิทธิพลของอุปราคา และวงรอบของปรากฏการณ์ต่างเป็นต้นว่า
วงรอบของตำแหน่งดาวเคราะห์ต่างๆ นับตั้งแต่ดาวพลูโตลงมา
กลับมาสถิตย์ ณ.ตำแหน่ง - ราศีเดิม และดาวอาทิตย์ - ดาวจันทร์
โคจรกลับมาอยู่ที่เดิมทั้ง 2 ดวง ที่เรียกกันว่า วงรอบเมโทนิคหรือ
วงรอบจันทรคติ นอกเหนือจากการที่ดาวเคราะห์ 2 ดวงที่ทำมุมสัมพันธ์กัน
โดยเฉพาะวงรอบของดาวพฤหัส - ดาวเสาร์ ที่เกิดขึ้นประมาณทุกๆ 20 ปี
รวมทั้งภาพดาวของกาลชะตาที่สำคัญๆ ที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากๆ. 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-11 23:33:14 IP : 118.172.22.58


ความคิดเห็นที่ 28 (2145858)

อิทธิพลของอุปราคา
ดวงชะตาอุปราคาดังกล่าวนี้ใช้ทำนายเหตุการณ์บ้านเมือง
และวินิจฉัยตามกฏสามัญของโหราศาสตร์บ้านเมือง
ตามแต่อิทธิพลของสถานที่เกิดอุปราคา องศาของจักราศี
ซึ่งรวมทั้งสุริยุปราคา และจันทรุปราคา มักมีความร้ายแรง
ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ก็ย่อมแล้วแต่ขอบเขตของความมืดมน
ถ้าจับจนมืดเต็มดวงก็ร้ายนัก ถ้ามืดเป็นบางส่วนก็ผ่อนเบาลง

อิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่สุดของอุปราคา มีอยู่ตามท้องถิ่นที่แลเห็น
ที่ๆมองเห็นถนัดตา มักจะก่อให้เกิดผลเป็นผลพิเศษ
และเหตุการณ์ทั้งหลายที่อยู่ภายใต้ความครอบงำของเรือน
ชะตาก็จะรับผลกระทบกระเทือนอย่างหนัก หรือแม้กระทั่ง
เส้นทางเดินของแนวพาดผ่านของเส้นทางอุปราคาที่เกิดนั้น
ย่อมก่อเกิดอิทธิพลตามท้องถิ่นนั้นๆ

ถัดจากความสำคัญอันมีต่อประเทศที่แลเห็นอุปราคานั้นแล้ว
ผลจะบังเกิดขึ้นตามท้องถิ่นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้ราศี
ซึ่งอุปราคาอุบัติ ถ้าตกอยู่ในตำแหน่งสัมพันธ์ที่ให้คุณกับ
ดาวสมพระเคราะห์และอยู่ในเรือนทวารทั้งสี่ ความร้ายแรง
ของอุปราคาก็จะผ่อนเบาลงและอาจจะก่อให้เกิดผลดีขึ้นก็ได้
ตามเหตุการณ์ของเรือนชะตานั้นๆ ถ้าตกตำแหน่งร้าย ก็จะได้
รับผลร้ายหนักตามส่วน

อุปราคาตกในดวงชะตาของบุคคลสำคัญ การวินิจฉัยดวงชะตาอุปราคา
ในทัศนะโหราศาสตร์นั้น พึงสังเกตุตำแหน่งที่ตั้งอุปราคาตามองศา ลิปดา
ราศีซึ่งตกสัมพันธืกับดวงชะตาคนสำคัญและดวงชะตาผู้ปกครองประเทศ
เช่นอุปราคากุมอาทิตย์ในดวงชะตา มักจะเป็นลางร้าย หรือถึงกาลมรณะ
และถ้ากุม เล็งดาวบาปพระเคราะห์ดวงใดในดวงชะต่กำเนิด ก็จะทำให้เกิด
ความยุ่งยากตามสภาพของดวงดาวเคราะห์นั้นๆ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-17 00:26:25 IP : 58.9.72.206


ความคิดเห็นที่ 29 (2145953)

ภาพที่ 26.
ภาพตัวอย่าง
ภาพดวงชะตาสุริปราคาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1995
ที่มีแนวทางคราสพาดผ่าน ผ่าสะพายแหล่ง
ของพื้นที่ประเทศไทยในขณะที่มองเห็นได้เต็มดวงสุริยุปราคา
..
.

ผู้แสดงความคิดเห็น ดวงสุริยคราสประเทศไทย วันที่ตอบ 2011-01-17 12:11:46 IP : 118.172.101.163


ความคิดเห็นที่ 30 (2146525)

จากภาพที่ 26.
ภาพตัวอย่างดวงชะตาสุริยุปราคา
เมื่อวันที่ 24 เดือนตุลาคม 1995 เวลา 11.36 น.
มองเห็นสุริยุปราคาเงามืดเต็มดวง ได้จากประเทศไทยแนวคราสที่พาดผ่าน
ใน 42 อำเภอ 10 จังหวัดหรือ 34 อำเภอ 11 จังหวัด.

อุปราคาครั้งนี้มาในตำแหน่ง 00 องศาราศีพิจิก 18 ลิปดา
ธาตุน้ำ ตามระบบสากล หรือระบบสายนะ ในตำแหน่งนี้หากคำนวน
ตำแหน่งแบบดาวฤกษ์ หรือระบบนิรายะนะจะมาในราศีตุลย์ ธาตุลม

ความหมายธาตุน้ำหมายความถึง
ก่อให้เกิดฝนตกมากเกินไป ความเสียหายจากอุทกภัย
ความตายจากการจมน้ำ อุบัติเหตุทางทะเล หรือแม่น้ำ
ความยุ่งยากที่เกี่ยวกับอาชีพทางที่เกี่ยวกับน้ำ หรือของเหลว
ความเจ็บไข้ ภัยของโรคระบาค อัตราคนตายสูง คนสำคัญจะถึง
แก่กรรม

(ในระบบนิรายะนะ สุริยุปราคาครั้งนี้มาในธาตุลม หมายความถึง
ก่อให้เกิดพายุทำลายล้าง รัฐสภาตกต่ำ ร่างกฏหมายล้มเหลว
คณะพรรคแตกแยก การต่างประเทศเกิดความยุ่งยาก
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวน หรือผันแปร
ปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือสัมพันธไมตรี)

(เพิ่มเติม สามารถหาอ่านเรื่องสุริยุปราคา โดยท่านอ.จรัญได้จาก
หนังสือวันโหรจรัญ. วันสัมมนาด้านวิชาการครั้งที่ 2.)

สุริยุปราคาในวันที่ 24เดือนตุลา 1995 มาในเรือนที่ 10 ของประเทศไทย
ณ.ตำแหน่ง 00 องศาราศีพิจิก 18 ลิปดาดาวอังคารเป็นเจ้าเรือน
จุดนี้สัมพันธ์กับจุดเมษอย่างสนิทในง่างมุม 150 องศา
มาในเรือนที่ 8.มรณะของราศีเมษ สัมพันธ์กับดาวเสาร์ดาวอังคาร
และจุดลัคนาที่หมายถึงประเทศไทย และประชาชนพลเมืองโดยรวม

ดาวเสาร์มาในตำแหน่งใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 3 ราศีมีนห่างเพียงองศาเศษ
ในเรือนของดาวเสาร์เอง(ตามแบบโบราณ)และดาวมฤตยู สัมพันธ์กับ
ดาวศุกร์ในเรือนที่ 10 ที่มาจากเรือนที่ 5 และ 10 และยังสัมพันธ์กับ
จุดดาวอาทิตย์ - จันทร์ในเรือนที่ 10 ที่มาจากเรือนที่ 8 และเรือนที่ 7

จุดเมอริเดียนสัมพันธ์กับจุดดาวเนปจูน และดาวเสาร์ ที่มาจาก
เรือนที่ 2 และเรือนที่ 3 ในเรือนที่ 1.
จุดลัคนาสัมพันธ์กับจุดดาวอังคารและพลูโตในเรือนที่ 11.
ที่มาจากเรือนที่ 4. และเรือนที่ 10. เรือนที่เป็นเรือนของ
ตำแหน่งดาวอาทิตย์ - จันทร์สถิตอยู่ สัมพันธ์กับจุดดาวพุธในเรือนที่ 9.
ที่มาจากเรือนที่ 6. และเรือนที่ 9.
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-19 13:08:34 IP : 58.9.65.15


ความคิดเห็นที่ 31 (2146877)

การพิจารณา
ณ.ตำแหน่ง 00 องศาราศีพิจิก 18 ลิปดาดาวอังคารเป็นเจ้าเรือน
จุดนี้สัมพันธ์กับจุดเมษอย่างสนิทในเรือนที่ 3.ง่างมุม 150 องศา
มาในเรือนที่ 8.มรณะของราศีเมษ หมายถึง
การตาย ประเภทคนตาย(ตามลักษณะธาตุน้ำ) ภาษีคนตาย
ความสัมพันธ์การเงินระหว่างประเทศ ความลับของรัฐบาล
โรคระบาค สภาองคมนตรีฯ ที่จะเป็นเรื่องกล่าวขาน
ตามหน้าหนังสือพิมพ์ดังไปทั่วโลก

สัมพันธ์กับดาวเสาร์พักร์ ดาวอังคาร และจุดลัคนาที่หมายถึง

ดาวเสาร์ - เหตุการณ์ร้ายที่เกี่ยวกับการคมนาคม ความยุ่งยากที่เกี่ยวกับ
การสื่อสาร การศึกษา หุ้นส่วนบริษัทที่เกี่ยวกับรถยนต์ตกต่ำ
คนงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจะเกิดความไม่พอใจ
และจะทำให้เกิดความยุ่งยาก

ดาวอังคาร - เกิดการเป็นปากเสียงซึ่งเกี่ยวด้วยเรื่องทางทหารในรัฐสภา
ทหารเข้าแทรกแซงในกิจการของรัฐสภา รัฐบาลอาจมีฐานะง่อนแง่น
ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างรุนแรง โดยไม่นึกคาดหมาย
เกิดความริษยาและการแตดแยกในพรรค เกิดการเจ็บป่วย
หรือการตายในวงรัฐสภา กองทัพบก หรือกองทัพเรืออาจร่วมการ
ปรึกษาหารือแก้ไข ประชาชนซึ่งขัดแย้งแตกต่างกับผู้ปกครอง
ประชาธิปไตยซึ่งขัดแย้งกับราชาธิปไตย - คณะพรรคฝ่ายค้าน
ในรัฐสภา หรือฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาล

ลัคนา - หมายถึงเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศ และประชาชนพลเมืองโดยรวม
สภาพทั่วไปของความไพบูลย์รุ่งเรือง และสุขภาพ

ดาวเสาร์พักร์ มาในตำแหน่งใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 3 ราศีมีนห่างเพียงองศาเศษ
หมายถึงตำแหน่งนี้ ทำให้ดาวเสาร์ถูกจัดให้เป็น ดาวเจ้าแห่งอุปราคา
ที่อำนวยความหมายแสดงถึง เจตนารมณ์ของการกระทำ ที่มาจากความคิด
ผู้ปฏิบัติการจริงจัง นักการปกครอง รัฐมนตรีจนถึงพลตำรวจ ข้าราชหการ
ทั้งฝ่ายรัฐบาลและเทศบาล ตำรวจผู้มีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวโยง
กับประเทศ เทศบาลหรือสภา ตัวแทนของความยุติธรรม กฏหมาย
ความเสมอหน้าและแบบแผน สัมพันธ์ร้ายส่องถึงเคราะห์กรรมอันใหญ่ของชาติ
ความหายากขาดแคลนในเรื่องดังกล่าวของดวงชะตานี้
จึงเน้นความสำคัญของเรื่องของดาวเสาร์ และเรือนที่ 3.ดังกล่าวข้างต้น

มาในเรือนของดาวเสาร์เอง(ตามแบบโบราณ)และดาวมฤตยู
(เรือนที่ 2ราศีกุมภ์ ดาวเสาร์สถิตย์ในราศีมีน) 
หมายถึง เหตุการณ์ที่จะเสียหายและเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
อย่างมาก ยังความเสียหายให้แก่ผู้ปกครอง หรือรัฐบาล
และอำนาจฝ่ายปกครองประเทศ ฯ

สัมพันธ์กับ
ดาวศุกร์ในเรือนที่ 10 ที่มาจากเรือนที่ 5 และ 10 หมายถึง
การอำนวยผลดีต่อผู้ปกครองและรัฐบาล ฯ
ในเรื่องของสถานที่รื่นเริงและหย่อนใจ สังคมชั้นสูง
และเรื่องของผู้ปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐบาล
และผู้รับผิดชอบ บุคคลสำคัญของชาติ การค้าของประเทศ
สินเชื่อและอำนาจ เกียรติคุณ ชื่อเสียงของประเทศ

สัมพันธ์กับจุดดาวอาทิตย์ - จันทร์ในเรือนที่ 10 ที่มาจากเรือนที่ 8
และเรือนที่ 7 เน้นความสำคัญของดาวเสาร์ และเรื่องที่เกี่ยวพันธ์

เรือนที่ 10. หมายถึง ผู้ปกครอง ประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คณะรัฐบาลและผู้รับผิดชอบ บุคคลสำคัญของชาติ การค้าของประเทศ
สินเชื่อและอำนาจเกียรติคุณ และชื่อเสียงของประเทศ.

เรือนที่ 8. หมายถึง ความตาย ความสำพันธ์ด้านการเงินระหว่างประเทศ
                 ความลับของรัฐบาล โรคระบาค สภาองคมนตรีฯ
เรือนที่ 7. หมายถึงการต่างประเทศ ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
                 ไม่ว่ามิตรหรือศัตรูการเมืองหรือการค้า การหย้าร้าง
                  สินค้าขาเข้าและสงครามฯ
สรุป.ความหมายยังผลเสียของดาวเสาร์ที่มาจากเรือนที่ 1. และเน้นผลมากขึ้น 
      จากจุดดาวอาทิตย์-ดาวจันทร์.ตำแหน่งวันเดือนดับ หรืออมาวสี.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-20 21:29:30 IP : 58.9.137.227


ความคิดเห็นที่ 32 (2147213)

จากภาพดวงชะตา สุริยุปราคา 24/10/1995
การพิจารณา
พิจารณาจากความสัมพันธ์จากดาวเคราะห์
คุ่ดาวที่สัมพันธ์กันสนิทองศาคือ ดาวมฤตยู ในเรือนที่1.
และ จุดราหู ในเรือนที่ 10 ห่างกันเพียง 0.08ลิปดา

ส่วนการพิจารณาระหว่างดาวเคราะห์กับดาวเคราะห์ด้วยกัน
ได้แก่ ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 2. กับ ดาวศุกร์ ในเรือนที่10
มีตำแหน่งสัมพันธ์กัน 120 องศาห่างกัน 1. องศาเศษ
คู่ดาวนี้เนื่องจากเป็นคู่ดาวที่มาจากเรือนที่ 1. และ 10.
ทำให้เป็นตำแหน่งที่เน้นความสำคัญมากขึ้น

ตำแหน่งที่สำคัญที่ต้องพิจารณาอีก 2 ตำแหน่งคือ
1. ตำแหน่ง ดาวพลูโต ในเรือนที่ 11.ทำมุมสัมพันธ์กับ 
    จุดลัคนา เส้นแบ่งเรือนที่ 1.ระยะห่างเพียง 00.14 ลิปดา
2. ตำแหน่ง ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 1. ทำมุมสัมพันธ์กับ
    จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ 10. ระยะห่างเพียง 00.33 ลิปดา.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-22 13:25:34 IP : 58.9.228.6


ความคิดเห็นที่ 33 (2147453)

ความหมาย
พิจารณาจากความสัมพันธ์จากดาวเคราะห์
คุ่ดาวที่สัมพันธ์กันสนิทองศาคือ ดาวมฤตยู ในเรือนที่1.หมายถึง
เกิดความยุ่งยากจากการติดต่อทางด้านอาชีพการงาน
การกลับกลอกการงาน การนัดหยุดงาน การปฏิบัตินอกกฏหมาย
ความแตกแยกหรือขบถ ความไม่พึงพอใจในกฏหมาย
โชคร้ายจะมีต่อรัฐบาล และวิถีทางของรัฐสภาไม่ราบรื่นนัก

และ จุดราหู ในเรือนที่ 10 ห่างกันเพียง 0.08ลิปดา หมายถึง
การติดต่อทางด้านอาชีพการงานกับสาธารณะหรือบุคคลหลายคน
หรือต้องอยู่ในสังคมเพราะการติดต่อทางด้านอาชีพการงาน
(ราหูไม่มีบันทึกในหนังสือ - ตำราโหราศาสตร์การเมือง
ในที่นี้นำข้อมูลมาจาก หนังสือทฤษฏีเรือนชะตา โดยอ.ประยรู พลอารี)

ตำแหน่ง ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 2. กับ ดาวศุกร์ ในเรือนที่10 หมายถึง
ดาวเสาร์ในเรือนที่ 2. - ธุรกิจ การเงินของชาติจะจำเริญรุ่งเรือง
ดาวศุกร์ในเรือนที่ 10 - อำนวยผลดีต่อผู้ปกครอง รัฐบาล เกี่ยวพันธ์
                               กับวัหยุดงานสาธารณะ พิธีการฉลองนักดนตรี
                               ศิลปินอาจได้รับเกียรติ หรือภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์.

1. ตำแหน่ง ดาวพลูโต ในเรือนที่ 11.ทำมุมสัมพันธ์กับ 
    จุดลัคนา เส้นแบ่งเรือนที่ 1.ระยะห่างเพียง 00.14 ลิปดา     

    ดาวพลูโต ในเรือนที่ 11.
หมายถึงมิตรสหายที่อาจแปรโฉมหน้าได้
    การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการในความหวังต่างๆ ในความปรารถนา
    และในมิตรภาพ (ข้อมูลจาก หนังสือทฤษฏีเรือนชะตา โดยอ.ประยรู พลอารี)

    จุดลัคนา เส้นแบ่งเรือนที่ 1. หมายถึง เรื่องที่เกี่ยวกับประเทศ
    และประชาชนพลเมืองโดยรวมสภาพทั่วไปของความ
   ไพบูลย์รุ่งเรือง และสุขภาพ

    มุมสัมพันธ์ แสดงถึง ความฝืด หรือความเสียหาย - ความไม่สะดวก
    จากปัญหาต่างๆรอบตัว

2. ตำแหน่ง ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 1. ทำมุมสัมพันธ์กับ 
    จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ 10. ระยะห่างเพียง 00.33 ลิปดา.

    ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 1. หมายถึง ความสนใจอันเป็นที่นิยมกันแพร่หลาย
    จนออกนอกหน้าเกิดความยุ่งยาก สับสนอลหม่าน ของผู้ปกครอง รัฐบาล
    เกิดความไม่พึงพอใจในทางการเมือง ประชาชนต้องการอำนาจยิ่งขึ้น
    และอาจได้อำนาจนั้นมา เกิดความสับสนรุกลนไม่แน่นอน
    ทางด้านการเมือง หรืออาชญากรรมความอัปยศอดสูขึ้นได้

    จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ 10. หมายถึง ผู้ปกครอง ประธานาธิบดี 
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะรัฐบาลและผู้รับผิดชอบ บุคคลสำคัญของชาติ 
    การค้าของประเทศ สินเชื่อและอำนาจเกียรติคุณ และชื่อเสียงของประเทศ.


    มุมสัมพันธ์ แสดงถึง ความเป็นอุปสรรค หรือเหตุการณ์ในทางเสื่อมความนิยม
    จากประชาชนพลเมืองโดยรวม สภาพทั่วไปของความไพบูลย์รุ่งเรืองของประเทศ
    ในด้านตัวแทนของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยแผนใหม่ ประชามติ
    อิทธิพล และผลประโยชน์ของประชาชน ความย่อยยับอลเวง
    คลอนแคลน อัปยศอดสู ความเสื่อมเกียรติ เกิดความไม่พึงพอใจ
    ความมุ่งร้ายระหว่างชนชั้น  ทำให้ฐานะการเมืองหวั่นไหวไม่มั่นคง.

- เนื่องจากสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะบังเกิดขึ้นใหม่อีก 75 ปี
  หลังจากการเกิดปรากฏการณ์ครั้งนี้ จากการสรุปจากการวินิจฉัย
  โดย ท่านอาจารย์ จรัญ พิกุล เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านได้กล่าวไว้ว่า
  "เหตุการณ์ในระหว่าง 75 ปีต่อจากปรากฏการณ์ในครั้งนี้
   บ่งชี้ว่า จะบังเกิดปรากฏการณ์ด้านการเมืองแบ่งเป็นสองขั้วชัดเจน
   และการเงินจะไปอยู่ในมือของบุคคลไม่กี่คน ไม่กี่กลุ่ม
"...

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-23 15:55:56 IP : 58.9.246.180


ความคิดเห็นที่ 34 (2147980)

ผลของอุปราคา

ผลที่รุนแรงที่สุดของอุปราคา
ได้แก่ภูมิภาคที่มองเห็นอุปราคา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ที่อุบัติขึ้นตามทวารเรือนชะตา เช่นกำลังอุทัย กำลังเหนือศรีษะ
หรือกำลังจะตก และกำลังตรงกันข้ามกับศีรษะ (1 - 4 - 7 - 10)
และผลถัดไปได้แก่ประเทศที่อยู่ภายใต้ราศีที่อุปราคาอุบัติ

อิทธิพลของอุปราคา เมื่อคำนึงในด้านอัปมงคลแล้ว จะนำความยุ่งยาก
มาสู่วงการ ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของเรือนที่อุปราคาอุบัติอยู่

ดวงชะตาอุปราคาที่ได้ตำแหน่ง สัมพันธ์ดี กับดาวสมพระเคราะห์
และถ้ามีตำแหน่งเกษตรอุจจ์ ผลร้ายก็จะบรรเทาลงไปเป็นอันมาก

ในตำแหน่งกลับกัน ถ้าอุปราคามี ตำแหน่งเสีย กับบาปพระเคราะห์
หรือเป็นประ เป็นนิจ ผลร้ายก็จะเพิ่มพลูยิ่งขึ้น

อุปราคาที่เต็มคราสมีผลรุนแรงยิ่งขึ้น ถ้าในดวงชะตาบุคคล
หรือหมู่คณะที่มีกำลังอ่อน ผลของอุปราคาก็จะเป็นภัยเอามาก
เช่นเดียวกับความกดดันของไอน้ำที่มีมากกว่าความทนทานของหม้อน้ำ

ในบางครั้งอุปราคามักจะตามหลังด้วยเหตุการณ์อันแปรผันใหญ่หลวง
และเกิดความคึกคักของเหตุการณ์ยิ่งไปกว่าที่จะเกิดภัยพิบัติ
หรือความอับโชคใดๆ

อิทธิพลของอุปราคา ในชั้นแรกผ่านทางราศีของจักราศีทีมี
อิทธิพลที่มีส่วนเกี่ยวแก่โลกโดยรวม
และในชั้นหลังก็โดยผ่านทางเรือนชะตา
ที่มีส่วนเกี่ยวกับท้องถิ่นโดยเฉพาะ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-25 12:14:41 IP : 58.9.230.122


ความคิดเห็นที่ 35 (2148571)

ราศีตุลย์ ปกครอง
ประเทศออสเตเลีย อาร์เจนติน่า พม่า จีนภาคเหนือ ญี่ปุน อินโดจีน สยาม

ราศีกับประเทศต่างๆ
การกำหนดราศีเกี่ยวกับประเทศต่างๆนี้ ส่วนมากที่สุดยึดถือ
เอาเป็นถูกต้องได้ เพราะว่าได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้วอย่างละเอียดละออ
เป็นเวลาอันยาวนาน อย่างไรก็ดีบางประเทศยังต้องมีการตรวจสอบต่อไปอีก
เนื่องจากความแปรผันระหว่างยุดสมัยโยราณและยุดสมัยปัจจุบัน

การจำแนกประเทศออกไปตามราศีต่างๆนั้น
ส่วนใหญ่มีหลักยึดถืออยู่สองประการคือ
1. ถือเอาที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
2. ถือเอาตามความผันแปรของประชากร
    และความผันแปรทางการเมืองของประเทศ

การจำแนกตามข้อแรก ถือเอาประเภทของสิ่งต่างๆที่มีความเปลี่ยนแปลง
เล็กน้อยแม้ว่าเวลาจะล่วงเวลาจะล่วงพ้นมานานตามยุดสมัยของภูมิศาสตร์
เป็นต้นว่า ประเภทสัตว์ที่มีชีวิตเช่นช้าง เสือ เป็นต้น นอกจากนี้มีการถือ
เอาประเภทของโลหะต่างๆใต้ธรณีซึ่งไม่มีความเปลี่ยนแปลง
การกำหนดราศีเกี่ยวกับประเทศโดยยึดหลักดังกล่าวนี้
จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานับด้วยพันปี

ส่วนการจำแนกตามประเภทที่สอง ซึ่งถือเอาความแปรผันของประชากร
และการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเป็นหลักนั้น มีความแปรผันรวดเร็ว
เพียงชั่วเวลาที่ล่วงไปแล้วไม่กี่ศตวรรษ ความแปรผันบางประการ
อาจมีขึ้นเนื่องจากผลของสุริยุจักรวาล คือดาวเคราะห์ต่างๆรวมทั้ง
โลกเรา และพระอาทิตย์ที่ยกโขยงผ่านออกจากราศีหนึ่งไปสู่อีกราศีหนึ่ง
ในระยะไม่น้อยกว่า 2,100 ปี และความแปรผันอื่นๆอันเกี่ยวเนื่องจาก

การกุมของดาวเคราะห์ต่างๆเช่น ดาวพลูโตกับดาวเนปจูนทุกๆ 492 ปี
ดาวเนปจูนกับดาวมฤตยูทุกๆ 170 ปี ดาวมฤตยูกับดาวพลูโตทุกๆ 127 ปี
ดาวเสาร์กับดาวมฤตยูทุกๆ 45 ปี ดาวเสาร์กับดาวเนปจูนทุกๆ 36 ปี
ดาวเสาร์กับดาวดาวพลูโตทุกๆ 29 ปี ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสทุกๆ 20 ปี
ดาวพฤหัสกับดาวมฤตยูทุกๆ 14 ปี ดาวพฤหัสกับดาวเนปจูนทุกๆ 13 ปี

เมื่อการกุมเหล่านี้ นำมาพิจารณาเกี่ยวกับราศีและธาตุต่างๆแล้ว
ก็จะปรากฏระยะรอบของเวลา และความเกี่ยวพันอันเป็นผลประจักษ์ขึ้น
เช่นการกุมของ ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ มักจะวกมาอุบัติซ้ำอีก ในจุดรอบเดียว
ของราศีภายในระยะเพียงไม่กี่องศาทุกๆระยะ 60 ปี และยังคงอุบัติซ้ำอีกภายใน
ธาตุเดียวกันในระยะราว 240 ปี ดังนั้นกว่าการกุมจุดผ่านธาตุทั้ง 4. ไปได้ต้อง
กินเวลาประมาณ 960 ปี ปัจจุบัน(พ.ศ.2493)นี้การกุมกันของดาวคู่นี้กำลังเวียน
อยู่ที่ราศีธาตุลม

วัฏจักรการกุมต่างๆเหล่านี้ มีส่วนสนองสัมพันธ์กับผลสะท้อนความแปรผัน
ทางการเมืองของประเทศ และได้ชักโยงไปสู่ความเปลี่ยนแปลงแก้ไขอันเหมะสม
กับราศีที่คุ้มครองประเทศนั้น.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-26 21:31:25 IP : 118.172.27.234


ความคิดเห็นที่ 36 (2148990)

การพิจารณาวงรอบต่างๆ

วงรอบของดาวเคราะห์นับตั้งแต่ดาวพลูโตลงมาจนถึงดาวอังคาร
จะให้อิทธิพลตามการวินิจฉัยข้างต้น เหตุการณ์สำคัญๆมักจะมี
ความสัมพันธ์ถึงกันและกันเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิด
ปรากฏการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้ๆกัน

ตัวอย่าง
ปรากฏการณ์วงรอบของดาวพลูโต ณ.เส้นแบ่งราศี มกร
โคจรย้ายเข้าราศีมกร วันที่ 26 มกร 2008  เวลา 09.37.13 น.
โคจรพักร์ย้ายเข้าราศีธนู วันที่ 14 มิถุนายน 2008 เวลา 12.13.08 น.
โคจรย้ายเข้าราศีมกร วันที่ 27 พฤศจิกายน 2008 เวลา 08.02.59 น.

ปรากฏการณ์สำคัญ
สอดแทรกหลังจากดาวพลูโต โคจรทับเส้นแบ่งราศี มกรได้แก่
การโคจรสัมพันธ์ของดาวเสาร์ และดาวมฤตยู ในลักษณะสัมพันธ์ 180 องศา
ที่เกิดขึ้นถึง 5 ครั้ง โดยที่ครั้งแรกเกิดปรากฏการณ์ขึ้น วันที่ 4 พฤศจิกายน 2008
ระหว่างที่ ดาวพูลโต กำลังโคจรทับเส้นแบ่งราศีมกร วันที่ 27 พฤศจิกายน 2008
และปรากฏการณ์เข้าร่วมที่สำคัญของ ดาวพฤหัส ที่โคจร ย้ายราศีทับเส้นแบ่งราศี
มกร - กุมภ์ - มีน และเมษ และทำทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ดาวมฤตยู ดาวเนปจูนฯ.

ตำแหน่งที่สำดัญดังกล่าว ที่ก่อเกิดอิทธิพลเด่นชัดจะเกิดขึ้นในช่วงที่
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้เคียง และซ้ำซ้อนเป็นต้นว่า
ปรากฏการณ์ของดาวพฤหัส กุม ดาวมฤตยู 2 ครั้ง ในระหว่างช่วงที่
ดาวเสาร์ ทำมุม 180 องศากับ ดาวมฤตยู ในครั้งที่ 2 และ 3 .
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-28 15:18:27 IP : 118.172.34.71


ความคิดเห็นที่ 37 (2149362)

จากเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดจากความต้องการเปลี่ยนแปลง
ด้านการเมือง และความไม่สงบภายในประเทศไทยที่เกิดขึ้นเมื่อ
เดือนเมยายน 2009

ภาพตัวอย่างที่ 27.
ภาพดาวความสัมพันธ์ระหว่าง
1. ภาพดวงชะตาสุริยคราส (ภาพที่ 26.)
2. สัมพันธ์กับภาพดวงชะตา ดาวพลูโต ประเวศเข้าสู่ราศี มกร
    ราศีของดาวเสาร์ ครั้งที่ 2.เมื่อวันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2008
3. สัมพันธ์กับภาพดวงชะตา ดาวเสาร์ สัมพันธ์ 180 องศา ดาวมฤตยู  
    ราศีกันย์ กับราศี มีน ครั้งที่ 1.เมื่อวันที่ 4 เดือนพฤศจิกายน 2008
4. สัมพันธ์กับภาพดวงชะตา ดาวอาทิตย์ ประเวศเข้าสู่ราศี มกร
    ราศีของดาวเสาร์ เมื่อวันที่ 21 เดือนธันวาคม 2008
5. สัมพันธ์กับภาพดวงชะตา วันจันทร์ดับ หรือ New Moon  
    เมื่อวันที่ 26 เดือนมีนาคม 2009 



 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-01-30 11:00:53 IP : 118.172.37.123


ความคิดเห็นที่ 38 (2150818)

1. สัมพันธภาพระหว่างดวงชะตาทั้ง 5 ดวงชะตา
    ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อเนิ่องที่เกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยยะ

เริ่มตั้งแต่ดวงชะตาแม่บท ดวงชะตาสุริยะคราส 24 ตุลาคม 2538 ดวงที่ 1.
พิจารณาที่ให้ความหมายจากดวงชะตาแม่บทในเรื่อง เด่น จากดวงชะตา
ได้แก่ เรือนที่ 10 และ ดาวเสาร์พักร์ ที่สัมพันธ์กับ จุดสุริยะคราส
ในเรือนของดาวมฤตยู เรือนที่ 2 กับ ดาวเนปจูน ในเรือน ดาวเสาร์ เรือนที่ 1.
สัมพันธ์กับ จุดเมอริเดียน  ของดวงชะตา

จากดวงชะตาที่ 2 .
ดวงชะตาดาวพลูโตประเวศ(ย้าย)ราศีสู่ราศีมกรหลังจากพักร์ถอยหลัง โคจรปกติ
จากภาพดาว ตำแหน่งของจุดดาวพลูโต ในดวงชะตา กุมลัคนา ทำมุมสัมพันธ์สำคัญ
กับ จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ และสัมพันธ์กับดาวพฤหัส ในเรือนตนเอง
เรือนที่ 12 และเรือนที่ 1. กับดาวอังคาร ในเรือนดาวพฤหัส เรือนที่ 12.

ในขณะที่ ดาวเสาร์ ในเรือนที่ 9. ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเนปจูน ในเรือนที่ 2.
เรือนของดาวเสาร์ และสัมพันธ์กับ ดาวมฤตยู ในเรือนที่ 3. เรือนตัวเอง

ความสัมพันธ์จากดวงชะตาที่ 2. ดวงชะตาพลูโต สู่ดวงชะตาที่ 1.
ดวงชะตาสุริยะคราสจะเห็นได้ว่า
ตำแหน่ง จุดลัคนา ที่กุมดาวพลูโต มาในเรือนที่ 12. ของดวงชะตาสุริยะคราส

ดาวเสาร์ ของดวงชะตาพลูโตทับเส้นแบ่งเรือนชะตาที่ 9. ดวงชะตาสุริยะคราส
ทำมุมสัมพันธ์ เล็ง กับ ดาวเสาร์ ดวงสุริยะคราส

ดาวมฤตยู ของดวงชะตาดาวพลูโต ทับ ดาวเสาร์ ของดวงชะตาสุริยะคราส สนิทองศา

จุดเมอริเดียน ของดวงชะตาพลูโต ทำมุมกับ ดาวศุกร์
ดาวเจ้าเรือนที่ 10 ของดวงชะตาสุริยะคราส

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-02-04 20:05:27 IP : 118.172.27.213


ความคิดเห็นที่ 39 (2152206)

2.สัมพันธภาพระหว่างดวงชะตาทั้ง 5 ดวงชะตา
   ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อเนิ่องที่เกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยยะ

ภาพตัวอย่างที่ 28.
จากดวงชะตาที่ 3.
การวินิจฉัย
ภาพดวงชะตา ดาวเสาร์ ทำมุมสัมพันธ์ 180 องศา ดาวมฤตยู

ดวงชะตา ดาวเสาร์ สัมพันธ์ ดาวมฤตยู ที่มาในช่วงใกล้ๆกับช่วงจังหวะ
ดาวพลูโต สถิตย์บนเส้นแบ่งราศีมกร ที่มาในเรือนที่ 7. ราศีธนู ดาวพฤหัส

ดาวเสาร์มาในเรือนที่ 4. ชิดเส้นแบ่งเรือน ราศีกันย์ ดาวพุธ
ทำมุมสัมพันธ์ ดาวมฤตยู , จุดเมอริเดียน

ดาวมฤตยูมาในเรือนที่ 10. ชิดเส้นแบ่งเรือนที่ 10.
กุมจุดเมอริเดียน ราศีมีนดาวเนปจูน

ดาวเสาร์ และ ดาวมฤตยู ทั้ง 2 ต่างทำมุมสัมพันธ์กับ
ตำแหน่ง ดาวศุกร์ , ดาวอังคาร และดาวพฤหัส 

จุดลัคนา ทำมุมสัมพันธ์ มรณะแท้ กับดาวจันทร์ ในเรือนที่ 8.
เรือนมรณะ ราศีมกร จากเรือนที่ 2.ในขณะที่ ดาวจันทร์
ทำมุมสัมพันธ์กับดาวอาทิตย์ในเรือนที่ 5. ราศีตุลย์ ดาวศุกร์
โดยที่ ดาวอาทิตย์ ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพลูโต ในเรือนที่ 7.

จุดเมอริเดียน ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเสาร์ - มฤตยูในเรือนที่ 4.
ราศีกันย์ ดาวพุธ และเรือนที่ 10 ราศีมีน ดาวพฤหัสและเนปจูน
ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวพฤหัส ในเรือนที่ 7. ราศีธนูใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 8.
จากเรือนตัวเอง (เรือนที่ 7.) และจากเรือนที่ 10.
ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวศุกร์ ในเรือนที่ 6. ราศีพิจิก  ดาวอังคาร
จากเรือนที่ 5. และ เรือนที่ 12.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-02-09 18:17:23 IP : 118.172.37.58


ความคิดเห็นที่ 40 (2153078)

การพิจารณา
ดาวเสาร์ในเรือนที่ 4. ทับเส้นแบ่งเรือนชะตา หมายถึง
การยังความอับโชคให้แก่ผู้ปกครองหรือรัฐบาล เสียความนิยม
หรือดำเนินแผนล้มเหลว คนงานและประชาชนส่วนมากจะอับโชค
การครองชีพจะฝืดเคือง และว่างงาน พืชผลเสียหาย งานก่อสร้าง
กสิกรรม และเหมืองแร่ไม่รุ่งเรืองเกิดอุปสรรค บ้านและที่ดินขาย
ไม่ออก ฝ่ายค้านถูกจับกุม.

ดาวมฤตยูในเรือนที่ 10. ทับเส้นแบ่งเรือนชะตา หมายถึง
การเกิดความยุ่งยากโดยปัจจุบันทันด่วน รัฐบาลขาดความนิยมเชื่อถือ
อาจมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล อาจมีการพ่ายแพ้ มีการเลือกตั้งใหม่โดยทั่วไป
การเลือกตั้งซ่อมที่ไร้ผล

ดาวเสาร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวมฤตยู หมายถึง
การเกิดความยุ่งยากต่อผู้ปกครอง หรือรัฐบาลและอำนาจฝ่ายปกครอง
ประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเปลี่ยนแปลง
มีความผันแปรอย่างสำคัญ และกว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ก็ต้องเผชิญ
กับอุปสรรคที่คอยขัดขวางอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลต้องเผชิญหน้า
กับความปั่นป่วน ซึ่งอาจเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้และลาออก
การเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี การตายหรือการลาออกของสมาชิก
คณะรัฐมนตรี การแตกแยกภายในพรรค การตาย หรือจากไปของรัฐบุรุษ
คนสำคัญ มีการเลือกตั้งทั่วไป หรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผล
ถึงรัฐสภา การเลือกตั้งและสภาอื่นๆ ในประเทศผู้ปกครองจะมีการขัดแย้ง
การชักช้าและความยุ่งยากอย่างรุนแรง และในที่สุดตกหนักต่อผู้ปกครองประเทศ
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-02-12 21:37:55 IP : 118.172.29.164


ความคิดเห็นที่ 41 (2154138)

จุดลัคนา ทำมุมสัมพันธ์ มรณะแท้ กับดาวจันทร์ ในเรือนที่ 8.
เรือนมรณะ ราศีมกร จากเรือนที่ 2.ในขณะที่ ดาวจันทร์
ทำมุมสัมพันธ์กับดาวอาทิตย์ในเรือนที่ 5. ราศีตุลย์ ดาวศุกร์
โดยที่ ดาวอาทิตย์ ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพลูโต ในเรือนที่ 7.

จุดลัคนา เส้นแบ่งเรือนที่ 1. หมายถึง เรื่องที่เกี่ยวกับประเทศ 
และประชาชนพลเมืองโดยรวมสภาพทั่วไปของความไพบูลย์รุ่งเรือง
และสุขภาพโดยรวม

ทำมุมสัมพันธ์ มรณะแท้ หมายถึง การขยายตัวในทางที่ผิด
การสูญเสีย ล้มหายตายจาก ความตาย

ดาวจันทร์ ในเรือนที่ 8. เรือนมรณะ หมายถึง เกิดอาการตาย
ในหมู่ชน ผู้หญิง เด็กและชนชั้นต่ำ เกิดการฆาตกรรม อาชญากรรม
โรคระบาค คนจะตายมาก

ดาวจันทร์ ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวอาทิตย์ หมายถึงยังความโชคดี
ต่อผู้ปกครอง รัฐบาล ตลอดจนประชาชน

ดาวอาทิตย์ ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพลูโต หมายถึง การพัฒนาการ
ของการกระทำในทางที่เกิดปัญหา ไม่ลื่นไหล
(คำแปลไม่มีในเอกสาร พิจารณาจาก พูลโต+อาทิตย์+มุมสัมพันธ์)

จุดเมอริเดียน ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเสาร์ - มฤตยูในเรือนที่ 4.
ราศีกันย์ ดาวพุธ และเรือนที่ 10 ราศีมีน ดาวพฤหัสและเนปจูน
ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวพฤหัส ในเรือนที่ 7. ราศีธนูใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 8.
จากเรือนตัวเอง (เรือนที่ 7.) และจากเรือนที่ 10.
ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวศุกร์ ในเรือนที่ 6. ราศีพิจิก  ดาวอังคาร
จากเรือนที่ 5. และ เรือนที่ 12.

จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ 10. หมายถึง ผู้ปกครอง ประธานาธิบดี 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะรัฐบาลและผู้รับผิดชอบ บุคคลสำคัญของชาติ 
การค้าของประเทศ สินเชื่อและอำนาจเกียรติคุณ และชื่อเสียงของประเทศ.


ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวเสาร์ - มฤตยูในเรือนที่ 4. (กล่าวแล้วข้างต้น)

ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวพฤหัส ในเรือนที่ 7. ราศีธนูใกล้เส้นแบ่งเรือนที่ 8.
หมายถึง การต่างประเทศรุ่งเรือง อาจมีการส่งคนสำคัญไปยังต่างประเทศ
หรืออาจจะมีการต้อนรับแขกเมืองที่สำคัญ ในยามสงครามอาจมีการตกลง
เรื่องสันติภาพ ความปองดอง

เส้นแบ่งเรือนที่ 8. หมายถึง ความตาย ความสำพันธ์ด้านการเงินระหว่างประเทศ
ความลับของรัฐบาล โรคระบาค สภาองคมนตรีฯ

ทำมุมสัมพันธ์กับ ดาวศุกร์ ในเรือนที่ 6. หมายถึง การเกิดปัญหากองทัพบกและเรือ
จะต้องใช้จ่ายสูง เรือนที่ 6. หมายถึง การสาธารณสุข หรือความเจ็บไข้ การบริการ
ของชาติ กองทัพบก ทัพเรือ ข้าราชการพลเรือน และชนกรรมาชีพ

(ความหมายเรือนชะตา และความหมายดาว ในทางโหราศาสตร์การเมือง
 จะกล่าวในช่วงสรุปส่งท้ายของบทความ)

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-02-17 00:39:08 IP : 118.172.24.135


ความคิดเห็นที่ 42 (2156976)

3.สัมพันธภาพระหว่างดวงชะตาทั้ง 5 ดวงชะตา
   ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อเนิ่องที่เกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยยะ

ภาพตัวอย่างที่ 29.
จากดวงชะตาที่ 4.
การวินิจฉัย  ภาพดวงชะตา วันที่ 21 ธันวาคม 2008 
ดาวอาทิตย์ ประเวศ(ย้าย)สู่ราศีมกร 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-02-28 11:31:03 IP : 58.9.40.113


ความคิดเห็นที่ 43 (2157584)

ดวงชะตาอาทิตย์ประเวศ(ย้าย)สู่ราศีมกร
ลัคนามาในราศีกรกฏเรือนจันทร์ 16 องศา 18 ลิปดา
เมอริเดียนมาในราศีเมษเรือนอังคาร 12 องศา 55 ลิปดา

ดาวอาทิตย์มาในเรือนชะตาที่ 6. กุมดาวพลูโต
ร่วมดาวอังคาร และดาวพุธ ในเรือนเดียวกัน

ดาวจันทร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพุธ ระยะห่าง 0.05ลิปดา Hnที่ 9.
ดาวศุกร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ระยะห่าง 0.07ลิปดา Hnที่ 5.
ดาวศุกร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพลูโต ระยะห่าง 0.19ลิปดา Hnที่ 8.

จุดลัคนาทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์ในเรือนที่ 3. 
ทำมุมสัมพันธ์กับจุดเวอร์เท็กซ์ในเรือนที่ 4.
ทำมุมสัมพันธ์กับดาวอังคาร เล็งดาวพุธ ในเรือนที่ 6.
ทำมุมสัมพันธ์กับดาวศุกร์ ดาวซีล่อนดาวเนปจูน ในเรือนที่ 8.
และดาวมฤตยู จุดเมษ ในเรือนที่ 9.

จุดเมอริเดียน เส้นแบ่งเรือนที่ 10.ทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์
จุดเวอร์เท็กซ์ในเรือนที่ 4.
ทำมุมสัมพันธ์กับดาวอังคาร ดาวพุธในเรือนที่ 6.
ทำมุมสัมพันธ์กับจุดราหู ในเรือนที่ 7.
และดาวศุกร์ในเรือนที่ 8.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-03-02 00:03:28 IP : 118.172.0.144


ความคิดเห็นที่ 44 (2158382)

ดวงชะตาอาทิตย์ประเวศ(ย้าย)สู่ราศีมกร
ลัคนามาในราศีกรกฏเรือนจันทร์ 16 องศา 18 ลิปดา
เมอริเดียนมาในราศีเมษเรือนอังคาร 12 องศา 55 ลิปดา

เส้นแบ่งเรือนที่ 1.ของดวงชะตา มาในเรื่องของประเทศ
และประชาชนพลเมืองโดยรวม ที่เกี่ยวพันธ์กับ แผ่นดิน เจ้าของ
ผู้ปกครอง การขัดแย้งแตกต่างกับผู้ปกครองประชาธิปไตย
ต่างกับราชาธิปไตย คณะฝ่ายค้าน กับ ฝ่ายรัฐบาล

เส้นแบ่งเรือนที่ 10.ของดวงชะตา มาในเรื่องของผู้ปกครอง รัฐบาล
ผู้บริหารประเทศเกีรยติคุณ ชื่องเสียงของประเทศ ที่เกี่ยวพันธ์กับ
การเริ่มต้น การริเริ่ม การดำเนินการใหม่กับประเทศ และประชาชนพลเมือง
โดยส่วนรวมทั้งหมด ทั้งเรื่องของความไพบูลย์รุ่งเรื่องและสุขภาพโดยรวม

ดาวอาทิตย์มาในเรือนชะตาที่ 6. กุมดาวพลูโต
ร่วมดาวอังคาร และดาวพุธ ในเรือนเดียวกัน

เรือนชะตาที่ 6. หมายถึงการสาธารณะสุข หรือการเจ็บไข้การบริการของชาติ
กองทัพบก - เรือ ข้าราชการพลเรือน และชนชั้นกรรมกรชีพ
ก่อเกิดอิทธิพลที่เกี่ยวกับเรื่องทางธุรกิจการงานในประเทศ คนรับใช้
คนงานกรรมกรที่อยู่ใต้การบังคับบัญชา กองทัพบก-เรือ การนัดหยุดงาน
การเกิดความไม่พอใจระหว่างนายงานกับคนงาน ตลอดจนทำให้นายงาน
เกิดความกระวนกระวาย โรคภัยจะระบาค

การกุมดาวพลูโตหมายถึงการเกี่ยวพันธ์กับองค์การกรรมกร ผู้จัดระเบียบองค์การ
กลุ่มชน ผู้อำนวยการและกรรมการที่มีภาระหลายบริษัท การค้าที่เชื่อมโยงถึงกัน
งานรวมกลุ่มร่วมคณะ การเกี่ยวพันธ์แก่เรื่อง จิตวิทยาของมหาชน ไม่ว่าจะเป็นนาย
ทุนผู้อิ่มเอิบไปด้วยอำนาจ หรือเป็นกรรมกรที่ไร้งานที่หิวกระหาย ความก้าวหน้า
ทางสังคม หรือกลุ่มองค์กรที่ปฏิบัติหน้าที่เสมือนเครื่องมือ คอยบั่นทอนการฝาก
ที่เติบใหญ่บนสรีระการเมือง การจรรโลงสังคมให้ดำเนินไปสู่แนวทางที่ดีงามยิ่งขึ้น
ความก้าวหน้าทางสวัสดิภาพและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การส่งเสริมภราดรภาพ
แต่ยังเกี่ยวพันธ์ถึงเรื่องการรวมกำลังพรรคพวกทางโจรกรรม การปฏิวัติรากฐานจารีต
นิยมที่คร่ำครึ ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปด้วยการทำลายให้ของเก่าสูญสิ้น และสร้าง
สรรคของใหม่ให้เกิดขึ้น รวมทั้งความสำเร็จแห่งอุดมการณ์ที่เล็งผลเลิศในทางปกครอง
และเศรษฐกิจ ฯ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-03-04 15:46:24 IP : 118.172.1.250


ความคิดเห็นที่ 45 (2160505)

ดาวจันทร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพุธ ระยะห่าง 0.05ลิปดา Hnที่ 9.
ดาวจันทร์ในเรือนที่ 4. ดาวพุธในเรือนที่ 6. ใกล้เส้นแบ่งเรือนชะตาที่ 7.

ดาวจันทร์ แสดงถึงประชาชนอันตรงกันข้ามกับราชาธิปไตย ฯ.
จากเรือนที่ 1. แสดงถึงประเทศและพลเมืองโดยส่วนรวมทั้งหมด
สภาพความไพบูลย์รุ่งเรืองและสุขภาพ ฯ.
ดาวพุธ แสดงถึงการแสดงสุนทรพจน์ โต้วาที การพูดสาธารณะ
การชุมนุมทางการเมือง การอภิปรายในรัฐสภา นักวิจารณ์ทางวิทยุ
ดาวพุธครอบงำการใช้ความคิดทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ร้ายหรือดี
จากเรือนที่ 12. แสดงถึงเรือนจำ ที่ดัดสันดาน อาชญากร จารชน ศัตรูลึกลับ
ของประเทศทั้งภายในและภายนอกประเทศ สมาคมหรือคณะพรรคลับ
โรงพยาบาล โรคจิต  ฯ หมายถึงวิศนาสกรรม ความทุกข์ระทมและความสูญเสีย
ของชาติ ตลอดจนศาสนาเร้นลับ

เรือนที่ 4. หมายถึงที่ดิน ดินแดนประเทศ เจ้าของที่ดินและคนงานที่เกี่ยวกับงานดิน
พืชผลไร่นาธัญญาหาร เหมืองแร่ สาธารณะอาคาร ประชาชนที่แตกต่างระหว่าง
ประชาธิปไตยที่ขัดแย้งกับราชาธิปไตย คณะฝ่ายค้านในรัฐสภา
หรือฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลฯ

เรือนที่ 6. หมายถึงการสาธารณะสุขหรือความเจ็บไข้ การบริการของชาติ
กองทัพบก-เรือ ข้าราชการพลเรือน และชนกรรมกรชีพ ฯ.

ดาวทั้งสองเกี่ยวพันธ์กันในเรื่องการดำเนินงานหรือลงนามในสัญญาการค้าอื่นๆ
การปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องที่คล้ายคลึงกัน อาจมีการเสนอหรือผ่านกฏหมาย
มีการอภิปรายด้วยเรื่องสำคัญในสภา.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-03-12 14:02:54 IP : 58.9.209.141


ความคิดเห็นที่ 46 (2160827)

ดาวศุกร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวเสาร์ ระยะห่าง 0.07ลิปดา Hnที่ 5.
ดาวศุกร์ในเรือนที่ 8. ดาวเสาร์ในเรือนที่ 3.

ดาวศุกร์ แสดงถึงความไพบูลย์ของประเทศ ส่งเสริมความรู้สึกอันดี
ระหว่างชนชั้น และรักษาไว้ซึ่งความสันติสุข
จากเรือนที่ 4. และ 11. แสดงถึงที่ดิน ดินแดนประเทศ เจ้าของที่ดินและคนงาน
ที่เกี่ยวกับงานดินพืชผลไร่นาธัญญาหาร เหมืองแร่ สาธารณะอาคาร
ประชาชนที่แตกต่างระหว่างประชาธิปไตยที่ขัดแย้งกับราชาธิปไตย
คณะฝ่ายค้านในรัฐสภาหรือฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลฯ
จากเรือนที่ 11.หมายถึงรัฐสภา โดยเฉพาัะอย่างยิ่งสภาสามัญ
สภาการเมืองและท้องถิ่น นโยบายและความมุ่งหมายของชาติ
สัมพันธมิตรกับประเทศต่างๆ การบัญญัติกฏหมาย

ดาวเสาร์แสดงถึง เจตนารมณ์ของการกระทำ ที่เป็นการออกมาจาก
แนวความคิดมากกว่าความรู้สึก การแสดงออกมาอย่างจริงจัง
นับตั้งแต่นักปกครอง รัฐมนตรี ตลอดจนถึงตำรวจ ราชการทั้งฝ่ายรัฐบาล
และเทศบาล ประชาชนผู้มีตำแหน่งความรับผิดชอบเกี่ยวโยงประเทศ ฯ.
จากเรือที่ 7.หมายถึงการต่างประเทศ ที่มีความสัมพันธ์ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู
การเมือง การค้า และสงคราม ฯ.
จากเรือนที่ 8. หมายถึงการตาย ความสัมพันธ์การเงินระหว่างประเทศ
ความลับของรัฐบาล สภาองคมนตรี ฯ.

ดาวศุกร์ในเรือนที่ 8.หมายถึงความยุ่งยากความสูญเสีย
เกิดการตายในหมู่สตรี คดีที่น่าบัดสี ฯ.

ดาวเสาร์ในเรือนที่ 3. บรรดาุธุรกิจในเรือนนี้จะไม่เจริญรุ่งเรือง
คนที่อยู่ในวงการดังกล่าวจะเกิดความไม่พอใจ และทำความยุ่งยาก

ดาวทั้งสองสัมพันธ์เกี่ยวพันธ์ในเรื่องของ การภาษีอากร ธุรกิจ การเงินทั่วๆไป
ชีวิตสังคมและครอบครัวเข้าที่คับขัน ฯ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-03-14 11:10:03 IP : 61.90.96.7


ความคิดเห็นที่ 47 (2163129)

ดาวศุกร์ทำมุมสัมพันธ์กับดาวพลูโต ระยะห่าง 0.19ลิปดา Hnที่ 8.
ดาวศุกร์ในเรือนที่ 8. ดาวพลูโตในเรือนที่ 6.

ดาวศุกร์ แสดงถึง ...กล่าวแล้วในข้างต้น
ดาวศุกร์จากเรือนที่ 4. และ 11. แสดงถึง ...กล่าวแล้วในข้างต้น

ดาวพลูโตในเรือนที่ 6. แสดงถึง การเกี่ยวพันธ์กับองค์การกรรมกร
ผู้จัดระเบียบองค์การกลุ่มชน ผู้อำนวยการและกรรมการที่มีภาระหลายบริษัท
การค้าที่เชื่อมโยงถึงกันงานรวมกลุ่มร่วมคณะ การเกี่ยวพันธ์แก่เรื่อง
จิตวิทยาของมหาชน ไม่ว่าจะเป็นนายทุนผู้อิ่มเอิบไปด้วยอำนาจ
หรือเป็นกรรมกรที่ไร้งานที่หิวกระหาย ความก้าวหน้าทางสังคม
หรือกลุ่มองค์กรที่ปฏิบัติหน้าที่เสมือนเครื่องมือ คอยบั่นทอนการฝาก
ที่เติบใหญ่บนสรีระการเมือง แต่ยังเกี่ยวพันธ์ถึงเรื่องการรวมกำลังพรรคพวก
ทางโจรกรรม การปฏิวัติรากฐานจารีตนิยมที่คร่ำครึ ทำให้โลกเปลี่ยนแปลง
ไปด้วยการทำลายให้ของเก่าสูญสิ้น และสร้างสรรคของใหม่ให้เกิดขึ้น
รวมทั้งความสำเร็จแห่งอุดมการณ์ที่เล็งผลเลิศในทางปกครองและเศรษฐกิจ ฯ.

เรือนที่ 6. หมายถึงการสาธารณะสุขหรือความเจ็บไข้ การบริการของชาติ
กองทัพบก-เรือ ข้าราชการพลเรือน และชนกรรมกรชีพ ฯ.

ดาวพลูโตจากเรือนที่ 5. แสดงถึง การที่เกี่ยวพันธ์กับสังคมชั้นสูงและงานสังคม
โดยทั่วไปหมายถึงการมรสพต่างๆ การพนันขันต่อ การเก็งกำไรที่ถือเอา
ความสนุกสนานและตื่นเต้นมากกว่าเพื่อหามาเลื้ยงชีพ

จากภาพดาวดู่ดาวชุดนี้อุบัติขึ้นในฮาโมนิดที่ 8. ที่หมายถึงการขัดแย้ง
และปัญหาอุปสรรค มีความรุนแรงมากกว่า 2. คู่ดาวที่กล่าวก่อนข้างต้น
จึงเป็นเหตุให้ผลที่จะเกิดขึ้น ปรากฏเป็นสำคัญ.

ผู้แสดงความคิดเห็น วรเชษฐ์ ตียเกษม วันที่ตอบ 2011-03-22 12:03:02 IP : 58.11.63.160



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.