ReadyPlanet.com


อาถรรพ์หมายเลข 1 . 1 . 11 เวลา 1 น. 1 นาที. 1 วินาที


ปีใหม่ที่จะเวียนเข้ามาในชีวิตประจำวัน
วันที่ 1 เดือน 1 ปี 11 เวลา 1 นาฬิกา 1 นาที 1 วินาที
ตัวเลขมักจะมีความหมาย โดยเฉพาะนักตัวเลขวิทยา
จากตัวเลข 1. เมื่อรวมกันแล้ว ได้เลข 7.

และจะเวียนเข้ามาในเดือนพฤศจิกายน
วันที่ 11 เดือน 11 ปี 11 เวลา 11 นาฬิกา 11 นาที 11 วินาที
เมื่อรวมกันแล้ว ได้เลข 66 หรือเมื่อรวมกันแล้วได้เลข 3.



ผู้ตั้งกระทู้ สัจจะ :: วันที่ลงประกาศ 2010-12-04 15:23:59 IP : 182.53.143.168


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2134426)


วันที่สำคัญควรจับตามอง และพิจารณา ที่จะเป็นแม่แบบได้ คือ
วันที่ 1 เดือน 1 ปี 11 เวลา 00.00.01
ตามภาพดวง

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2010-12-06 11:40:47 IP : 118.172.21.1


ความคิดเห็นที่ 2 (2134430)

    พลูโต้เล็งไปทิ่ม    รัฐบาล
ศุกร์ตนุโดนซะอาน    แอ๊ตจิ้ม
จัน-ทร ก็ซมซาน      ถูกอัด  ร่วมเฮย
โครโนส!ย่ำแย่ปิ้ม     ป่นด้วย   (ก็)ว่าปาย?

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ต้องทำใจให้พอใจในสิ่งมีอยู่ วันที่ตอบ 2010-12-06 11:56:09 IP : 118.172.6.5


ความคิดเห็นที่ 3 (2134514)

ขออนุญาตแสดงความเห็นหน่อยนะค๊าบ

ในเชิงของเลขศาสตร์ก็ดูน่าสนใจเลขเบิ้ล แต่ก็คงเป็นเรื่องของเลขศาสตร์ ข้าพเจ้ายังไม่เห็นความเชื่อมโยงใดๆกับทางโหราศาสตร์เลย เพราะวันดังกล่าวไม่พบว่ามีความสำคัญในเชิงทัศนสัมพันธ์ของปัจจัย ของดวง Transit ที่จะถือว่าเป็นต้นแบบของปีได้ เนื่องจาก อาทิตย์สถิตประมาณเกือบ 10 องศาราศีมกร เมื่อทดลองผูกดวงวันที่ 1 เวลา 00:00:01 ก็ไม่พบว่า อาทิตย์ หรือจันทร์จะสัมพันธ์กับแกนโลกหรือเส้นแบ่งราศีหรือเส้นแบ่งเรือนชะตาแต่อย่างใด จึงจะไม่ทราบว่าจะถือว่าเป็นต้นแบบได้อย่างไร มีเพียงเมอริเดียนที่กุมโครโนส ซึ่งก็แน่นอนว่าจะกุมกันทุกวันตามเวลาที่ค่อยๆเปลี่ยนไปอยู่แล้ว มีที่จะนับว่าใกล้เคียงที่สุดก็คือ Lunar Phase เป็น Balsamic Moon เท่าั้นั้นซึ่งหากจะถือเป็นต้นแบบก็คงจะใช้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ไปจนถึง Newmoon ต่อไปคือ 4/01/2010 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาด้วยจึงนับว่าน่าสนใจ

วันที่ 1 ม.ค. แม้เป็็นวันแรกของปีใหม่ทางปฏิทินสากล แต่ในทางดาราศาสตร์เราถือว่าวันขึ้นปีใหม่คือ เห-มายันสงกรานต์ อาทิตย์ยกเข้สู่ราศีมกร ถือเป็นวันต้นแบบของปี นักโหราศาสตร์จึงผูกดวงขึ้นเพื่ออ่านเหตุการณ์ในรอบปีต่อไป ซึ่งปีนี้ก็มีความน่าสนใจเพราะใกล้กับ Fullmoon ซึ่งเป็นจันทรคราสด้วย และหากพิจารณาประเทศไทย ลัคนาดวงเหมายันก็กุมอาทิตย์ที่ราศีมกรอีกตังหาก จึงนับได้ว่าเป็นดวงต้นแบบสำหรับบ้านเราจริงๆ

ส่วนในเรื่องของเลขศาสตร์ไม่ขอแสดงความเห็นใดๆนะครับ แต่ตั้งข้อสังเกตุว่า ปีนี้มีวันที่ 10/10/10 10:10:10 ก็ไม่พบว่ามีเหตุการณ์น่าสนใจเป็นนัยยะสำคัญแต่อย่างใด

เดี๋ยวในปี 2012 เราก็คงจะได้มาคุยกันอีกเพราะมันมี 21/12/2012 หรือ 12/12/12 อีกนะค๊าบ

ผู้แสดงความคิดเห็น NooM วันที่ตอบ 2010-12-06 18:53:13 IP : 124.120.210.197


ความคิดเห็นที่ 4 (2134522)

เคยได้ยินท่านปรมาจารย์จรัญ  พิกุล  ท่านเคยเล่าไว้ว่า

เป็นวันสำคัญที่มวลชนจำนวนมากในโลกให้ความสนใจและให้การเฉลิมฉลองในบางพื้นที่

ซึ่งเป็นข้อกำหนดของเทศกาลทางสังคมร่วมกัน

เหตุการณ์อาจจะไม่เกิดสำคัญๆวันนี้ แต่ มันเป็นเรื่องของแม่แบบวงรอบของช่วงคาบเวลานั้น

คล้ายๆเสมือนเป็นดวงชะตากำเนิดของวงจรคาบเวลาอ่ะคับ

ตัวอย่างเช่น  งานปีใหม่ count down ทางดาราศาสตร์อาจจะบอกว่า ไม่สัมพันธ์กันเลย

เป็นเพียงกำหนดนัดกันทางปีปฎิทินสากล

แต่ในความเป็นจริง  ทั้งโลก ในแต่ละพื้นที่ ณ ห้วงเวลานั้น

กำลังเฉลิมฉลองยิงพลุ ปวงชนเฮฮาสนใจร่วมกันเรียงตามลำดับเวลาของดวงอาทิตย์

เขาถือเป็นกาลชะตาสำคัญ  ท่านอจ.จรัญ ท่านแนะให้ไปหาลัคนาสิ่งแวดล้อมเช่นนั้นมาเข้าตัว

เพื่อเป็นแม่แบบที่ดี  โศกเศร้าน้อย เฮฮามาก

ถ้าตั้งรับดีๆอย่างเตรียมการมาก่อน ไม่ฉุกระหุก  จะไม่เมื่อย  เพราะเดินไปขึ้นรถไกล

ไม่เหนื่อยเพราะ เตรียมตัวไปรอไว้ก่อนแล้วอย่างพร้อมและมีความสุข

เพราะดูทางหนีทีไล่ห้องน้ำห้องท่า  ไม่ปวดฉี่

จะสนุกสนานฮฮา ครึกครื้นต่อปี

เขาเรียกว่า การสร้างเงื่อนไขแห่งเหตุที่ดีในช่วงเวลาสำคัญๆ

อีกอย่างหนึ่ง  อาทิตย์+ซีอุส-อังคาร ที่แปลว่า  ดอกไม้ไฟ

แปลได้ว่า  กระตือรือร้น  ก็ได้

แปลว่า อำนวยการมีชัยต่อสู้ก็ได้

เมื่อสิ่งเหล่านี้มาร่วมเป็น ลัคนา = สิ่งแวดล้อม บรรยากาศแวดล้อมเจ้าชะตา ณ เวลา สำคัญ

ในทางวิชาโหราศาสตร์ ด้าน โหราอาถรรพณ์  ย่อมน่าจะดีกว่า  ไปรบกวนพระท่านรดน้ำมนต์  ให้ ณ เวลานั้นกระมังคับ

โดยเฉพาะ  พวกฆราวาสทำมาหากินเลี้ยงชีพหาเงินกันให้คร่อกๆอยู่เนี่ย

เพราะพระท่านก็กำลังสวดชยันโตฯขึ้นปีใหม่อยู่  กว่าจะจบบทลงภวันตุเมได้  ก็ผ่าน ฤกษ์ 4 นาทีสำคัญ ไปแล้ว

คืออันนี้เป็นแค่แนะแนวทางความเห็นเชิงโหราเฉยๆนะคับ

ได้ยินได้ฟังกันมาแบบนี้  ไม่ได้ให้ใครเชื่อหรือเห็นด้วยตาม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...โหราอาถรรพณ์เวทย์ วันที่ตอบ 2010-12-06 19:34:17 IP : 118.172.4.118


ความคิดเห็นที่ 5 (2134551)

พวกเคล็ดลางอาถรรพณ์เนี่ย  อย่าไปคิดว่า สมัยนี้ไม่มีนะคับ

http://www.youtube.com/watch?v=LWbCKfhfsQQ&feature=player_embedded

ลองผูกดวง วันที่ 3 ธค.2553 เวลา 22.30 น.กทม ดูสิคับ

ดู พุธ+โครโนส-พฤหัส กับ พุธ/โครโนส//พฤหัส น่ะ

แกะดูเถอะคับ  ว่า ฤกษ์เนี๊ยะ  มันเกิดผลหรือเปล่า

หรือตามกระบวนการจาน 2 ชั้น ลองไปดูที่ 11 มีน 25 ดูสิคับ

ว่า ฟ้าท่านบอกอะไรไว้บ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เชิงวิชาการโหราคับไม่ได้อคติ วันที่ตอบ 2010-12-06 21:13:06 IP : 118.172.4.118


ความคิดเห็นที่ 6 (2134567)

ดวงชะตาที่ผู้คนจดจ้องทั่วโลก

หากจะค้นหา เรื่องดวงชะตาเวลาโฮลาลี่ 
กับเงื่อนไขทางทฤษฎีที่บัญญัติ
คงจะไม่มีความสัมพันธ์อันใดระหว่าง
ดวงชะตาที่กล่าวมากับเงื่อนไขทางทฤษฏี

เวลาที่กล่าวมาเป็นเวลา ฤกษ์ทางสากล นิยม
ที่ทางอ.จรัญ จะผูกดวงชะตา เพื่อนำมาวิเคราะห์ร่วม เสมอมา

ท่านกล่าวเสมอว่า ไม่มีทฤษฏีใดๆ
ในวิชาโหราศาสตร์ทุกระบบในโลก
ที่จะกำหนดกับเรื่องนั้นๆ ในรูปแบบนั้น
แล้วเกิดเหตุการณ์ตามนั้น เป๊นไปในรูปแบบเดียวกัน

สรุป.
เป็นวิชา ฤกษ์ ครับทราบและใช้กันเฉพาะกลุ่ม สากลสู่เรนียนสาย อ.จรัญ
(อาจจะ วิเคราะห์ร่วม หรือพยากรณ์แบบกาลชะตาได้ครับ)
แต่ทาง นักตัวเลขวิทยา คงจะสืบสานกันยาว

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2010-12-06 22:22:39 IP : 118.172.48.3


ความคิดเห็นที่ 7 (2134670)

ไม่ค่อยจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับท่านสัจจะเลย ในเมื่อท่านออกจากถ้ำมาบ้าง ก็รู้สึกดีใจที่จะได้มาโขกหมากรุกหาความสำราญกันบ้าง จึงลองเปิดประเด็นเพื่อที่จะได้คุยแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการกัน เป็นการขยายความรู้ออกไป แทนที่จะปล่อยให้ท่านมาเล่าให้ฟัง แล้วทุกคนฟังแล้วจบกันไป ไม่ได้มีใครมาถามไถ่

สังเกตุเวลาที่ผมโพสต์ไหมครับ อุตส่าห์บิดเบือนฟ้า โพสต์เอาเมื่อเมอริเดียนกุมพฤหัสพอดีเป๊ะ ก็เพื่อให้เห็นเจตนา เลยใช้ชื่อจริงเลยแืทนที่จะใช้นามแฝงแบบที่ก็รู้อยู่ดีว่าใคร

ระยะนี้ผมก็เจอคำถามเป็นคำศัพท์แปลกๆบ่อย ล่าสุดก็มีถามด้วยประโยคว่า "ภาพเล็กข่มภาพใหญ่" ก็เ้ลยลองมานึกเทียบเคียงกับเรื่องนี้

เราสามารถผูกดวงเวลาใดก็สามารถใช้พยากรณ์ทั้งสิ้น อันนี้ก็เป็นความจริง โหราศาสตร์จึงมีทั้งการผูกดวงตามเวลาที่ถาม หรือเวลาเกิดเหตุการณ์ เป็น Horary Astrology หรือผูกดวงไปตามช่วงเวลาของกิจกรรม Event ต่างๆ เป็น Electional Astrology หรือ การวางฤกษ์นั่นเอง

เมื่อเรามองว่าเป็นเรื่องของฤกษ์ เราจึงอาจมองได้ว่าการผูกดวงฤกษ์นั้นเพื่อกิจกรรมดังกล่าวนั้นจะมีผลเช่นไรบ้าง จะเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างหรือแม้แต่ว่ากิจกรรมนั้นจะสำเร็จสมประสงค์อย่างใด ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ ซานติก้าผับ หากนักโหราศาสตร์ผูกดวงปีนั้นขึ้นมาก่อนก็อาจมองเห็นว่า การใช้โครงสร้าง SU+ZE-MA หรือการจุดดอกไม้ไฟจะดีจริงหรือไม่ เพราะมันเท่ากับ HA = -VU และ MA/SA แม้จะเท่ากับ SU/JU หรือ MO/JU ก็เถอะ คงต้องมาชั่งนำหนัก หรือบางท่านก็อาจบอกว่าอย่างนี้สิถึงควรจะจุดเพื่อเป็นการปรับแก้ไปในตัว อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ เพราะไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อโดยตรง เพียงแต่ผมเห็นว่าการสร้างกิจกรรมทดแทนใช่ว่าจะทำได้และให้ผลดีทุกครั้งเป็นสูตรสำเร็จทุกๆปี ซึ่งปีนี้ SU+ZE-MA ทับลัคนาและเท่ากับ -SA =SA/UR ด้วยสิ น่าคิดนะว่าการฉลองปีใหม่ปีนี้จะมีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจไหม และอีกอย่างคือ 3 ปีมานี้ เมอริเดียนยังคงกุมโครโนสในดวงปีใหม่นะ แต่ก็ไปสัมพันธ์กับปัจจัยอื่นๆแตกต่างกันไป เหตุที่ผมยกตัวอย่างปีซานติก้าผับเพราะมันรู้้สึกว่ามีอะไรทะแม่งๆคล้ายกันอยู่นะครับ ดูตำแหน่งปัจจัยอื่นๆสิ ไล่ตั้งแต่จันทร์มาเลย

กลับมาเรื่องการเป็นแม่แบบหรือต้นแบบ ในเชิงเปรียบเทียบของ "ภาพเล็กข่มภาพใหญ่"จริงหรือ? ซึ่งโดยหลักการน่าจะเป็นภาพใหญ่มีอิทธิพลครอบคลุมภาพเล็กซะมากกว่า น่าจะมองได้ว่า ดวง Electional 01/01/11 นี้ คือภาพเล็กที่อยู่ภายใต้กรอบใหญ่ของ เหมายันสงกรานต์ เราจึงคงน่าจะต้องให้น้ำหนักของการเป็นแม่แบบไปที่เหมายันมากกว่า แต่แน่นอนว่าการนำดวง Election นี้มาใช้ประกอบด้วยก็จะทำให้เราได้เข้าใจภาพใหญ่ได้ชัดเจนมากขึ้น แต่หากจะใช้ดวงปีใหม่นี้อ่านภาพรวมทั้งหมดหรืออ่านแต่ดวงปีใหม่นี้อย่างเดียว อาจจะมีบางส่วนที่ขัดแย้งกับเหมายันก็ได้ คงยากที่จะไปใช้ในการทำนายได้ทุกเหตุการณ์ที่ปรากฏโครงสร้างในดวงนี้ เช่นทำนายเฉพาะเจาะจงไปที่รัฐบาลหรือบุคคลระดับสูงแต่อย่างใด

ที่จริงที่ผมค้างไว้กับดวงปีใหม่ก็คือ อาทิตย์ที่อยู่ประมาณ 10 องศาราศีมกรนั้น ความเกี่ยวพันกับบ้านเราอีกอย่างคือ จะเล็งกับเมอริเดียนท้องถิ่น กทม.ที่อยู่ทีประมาณ 10 องศาราศีกรกฏ หากจะนับว่าดวงปีใหม่มีความน่าสนใจขึ้นอีกอย่างก็ตรงนี้ด้วย เพียงแต่ผมพยายามจะชี้ประเด็นของความเป็นแม่แบบว่ามีน้ำหนักแค่ไหนครับ

จังหวะฟ้าใดๆเราสามารถใช้พยากรณ์ได้ นั้นจริงครับ เพียงแต่เราจะให้น้ำหนักกับจังหวะฟ้านั้นแค่ไหน ใช้พยากรณ์ในขอบเขตแค่ไหน คงต้องขึ้นอยู่ประสบการณ์ และการวางหลักการของแต่ละท่านด้วย

มีอีกประเด็นที่ผมก็อยากจะแลกเปลี่ยน แต่ก็ยังเกรงว่าจะทำให้เกิดการเข้าใจเจตนาผมผิดไป ในภาวะการณ์ของช่วงนี้ที่เพิ่งจะมีวิวาทะกันไปไม่นานมานี้ แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตุไว้เกี่ยวกับเรื่องขอพรจากพระจันทร์ในวัน Newmoon เชื่อว่าไม่ได้เกิดผลกับทุกคนหรือทุกรอบของ Newmoon ทั้งนี้เพราะโครงสร้างของดวง Newmoon นั้นไม่เหมือนกัน อีกทั้งจุดตั้งรับของแต่ละคน(ดวงกำเนิด)ก็ไม่เหมือนกันด้วย Newmoon จึงย่อมให้ผลกับแต่ละคนต่างๆกันไป แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าการตั้งใจที่ดีในวันต้นแบบจะมีแนวโน้มที่ดีของช่วงนั้นๆครับ เพียงแต่กำลังพิจารณาถึงรูปธรรมของผลลัพท์ที่ได้ เพื่อที่จะไม่มีใครมามองว่ามันไม่เห็นจะจริงฉันทำก็ไม่เห็นจะได้ผลอะไรก็เงียบกันไป ส่วนคนที่เดือนนั้นให้ผลก็จะมาบอกกัน แทนที่จะลองมาพิจารณาดูว่าที่ให้ผลเพราะโครงสร้าง Newmoon นั้นไปสัมพันธ์กับเราอย่างไรบ้าง

ที่เขียนมาก็มิได้ต้องการจะขัดแย้งคำครูที่ว่าไว้แต่ประการใด แต่เพื่อทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจกันมากขึ้น และไม่ได้หมายความว่าความเห็นผมจะถูกหรือรอบด้านเพียงพอแต่อย่างใดนะครับ

ด้วยความเคารพในศาสตร์แห่งโหร และขอรำลึกถึงท่าน อ.จรัญ เนื่องในวันครบรอบวันเกิดเมื่อ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น NooM...โพสต์ตอนเมอริเดียนเล็งพฤหัส วันที่ตอบ 2010-12-07 12:46:53 IP : 124.121.243.32


ความคิดเห็นที่ 8 (2134671)

ขออภัยโพสต์ตอนเมอริเดียนฉากพฤหัสน่ะครับ รีบเขียนไปหน่อยกลัวไม่ทัน

ผู้แสดงความคิดเห็น NooM วันที่ตอบ 2010-12-07 12:49:14 IP : 124.121.243.32


ความคิดเห็นที่ 9 (2134776)

สวัสดีครับคุณหนุ่ม
ศรัทธาแห่งศาสตร์ เรานำมาแลกเปลี่ยนกัน
จะเป็นเครื่องชี้วัดในตัวตน ตนเองทราบดีที่สุดครับ

ในลักษณะที่คุณหนุ่มกล่าวมา ในด้านทฤษฏีการศึกษา 
ไม่มีอะรที่ผิดไปจากการศึกษาจากทฤษฎีครับ
(โดยเฉพาะผู้ที่ศึกษาแต่ระบบเดียว จะเห็นได้ชัดเจนนับแต่อดีต)

ใช่ครับ จุดสุดยอดของความหมายจากการพยากรณ์ ต้องจากใหญ่คุมเล็ก
แต่ในบางครั้ง(ตามความเจนจัด)ภาพเล็กๆ จะทำให้ผู้วิเคราะห์
วิเคราะห์เข้าหาภาพใหญ่ได้ โดยไม่หลุดครับ

เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นกับทุกท่านที่เคยศึกษาวิชาด้านนี้มา
ที่จะพบภาพดาวที่ แรง ตามที่เข้าพูดๆกันนับแต่อดีตมา
จากดาวจรทรานสิต หรือจากดาวจรโค้ง วี1 หรือ วี2
สัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา ทั้งกำเนิดหรือโค้ง
ทำให้ผู้ที่ประสบไม่เป็นอันกินอันนอน(ผมก็เคยเป็นคนหนึ่ง)
แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง อะไรเกิดขึ้นเลย
นอกไปจากการพบเห็น หรือแค่อ่านหนังสือพิมพ์

หากจะอธิบาย คงต้องกล่าวถึงโครงสร้างจากการศึกษาทั้งหมด
ผมว่า มันค่อนข้างที่จะยืดยาวครับ เอาเป็นอันว่า
ผมเห็นด้วยตามโครงสร้าง เพื่อการศึกษา ตามที่คุณหนุ่มกล่าวมา

แต่.ในเรื่องที่ผมกล่าวมานั้น มันมีแต่ครับ!
ผมขอเป็นการอธิบายเป็นการส่วนตัวนะครับ
เพราะมันอาจจะกระทบไปหลายด้าน
ที่สำคัญ การตอบบนกระทู้ อธิบายไม่ชัด
อาจจะทำให้เข้าใจผิดกันไป

ขอสรุปสั้นๆว่า
เรื่องหลายเรื่องตามที่ผมได้เคยกล่าวไปแล้วว่า
"ท่านกล่าวเสมอว่า ไม่มีทฤษฏีใดๆ
ในวิชาโหราศาสตร์ทุกระบบในโลก
ที่จะกำหนดกับเรื่องนั้นๆ ในรูปแบบนั้น
แล้วเกิดเหตุการณ์ตามนั้น เป๊นไปในรูปแบบเดียวกัน"
เลยทำให้ผมไม่มองข้าม ดวงชะตาต่างๆ
โดยภาพรวมทั้งหมด เพื่อจะชี้ให้เห็นเด่นชัดครับ


ส่วนเรื่องของ วันขอเงินจากพระจันทร์
บางทีเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากศาสตร์ยูเรเนียน
แต่ก็คงอยู่ในวังวนของศาสตร์เดียวกันครับ

ตามเงื่อนไขที่คุณหนุ่มกล่าวมา จากข้อสังเกตุนั้น
หากเป็นการศึกษา ผมคิดว่าคงเป็นการที่ต้องศึกษา
เหมือนกันทุกสำนักละครับ แต่การที่เรานำมาใช้เป็นเงื่อนไข
หรือชิงสร้างเป็นแม่แบบ ดังที่เรานำดวงนิวมูลมาอ่านภาพเหตุการณ์
ที่จะเป็นไปทั้งเดือนฉันใด การเราชิงสร้างเรื่องราวให้เกิดคุณประโยชน์
ให้กับตน ก็เป็นไปฉันนั้น คงเป็นเงื่อนไขบางอย่าง ที่เรา(หากเป็นนักโหรา)
ควรพิจารณาร่วมกับดวงของเขาด้วยว่า ใช่หรือไม่.

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2010-12-07 17:59:45 IP : 118.172.59.141


ความคิดเห็นที่ 10 (2134853)

ขอแซมเรื่อง ขอเงินพระจันทร์หน่อยคับ

โหราหลายท่าน ใช้ทฤษฎีนี้ แต่ต่างจังหวะกัน  บางท่านใช้ วันเพ็ญ  บางท่านใช้ วันจันทร์ดับ หรือ อมาวสี

แต่หลายท่านบอกว่า แล้วแต่ดวงชะตาบุคคลที่ตั้งรับ

ที่มาที่ไปของเรื่อง ขอเงินพระจันทร์นี้ เป็นเรื่องอุปมา  ของสิ่งที่เรียกว่า " กระแส "

หรือเปรียบคุณสมบัติทางภาษากฎหมายของทรัพย์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า สังกมทรัพย์

อ่านว่า  สัง-กะ-มะ-ซับ  ซึ่ง ตามความหมายของราชบัณฑิตยสถาน ท่านหมายความว่า

สังหาริมทรัพย์  ซึ่งโดยปรกติอาจใช้ของอื่นอันเป็นประเภทและชนิดเดียวกันมีปริมาณเท่ากันแทนได้

เช่น  ยืมเงินกัน 100  บาท  ยืมเป็นธนบัตร ราคา 100  บาท หมายเลขอะไรก็ว่าไป สมมติว่า เป็น หมายเลข 666 ก็แล้วกัน

เวลาคืน  คืนเป็นใบละ 50 บาท 2 ใบ หมายเลข 11 กับ 112  ก็ได้  เพียงขอให้เป็นธนบัตร เหมือนกัน และมีมูลค่า เป็นหรือปริมาณเท่ากัน

เท่านั้นก็พอ ไม่จำเป็นต้องไปหา ธนบัตรใบละ 100 หมายเลข 666 ที่ยืมเอาไปแต่แรกมาใช้คืน

ซึ่งแตกต่างจาก พระเครื่อง สมมตยืมเอา พระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง องค์นี้ไป เวลาคืนต้องเอา พระเครื่องสมเด็จวัดระฆังองค์นี้เท่านั้นมาคืน

องค์อื่นๆมาคืน แม้จะเป็นพระเครื่องเหมือนกัน สมเด็จ และวัดเดียวกัน ก็ไม่ได้เลย  ยิงกันแน่ถ้าทำแบบนี้

พอรู้ว่าเงิน เป็น สังกมทรัพย์แล้ว  เช่นเดียวกับ ข้าวสาร  น้ำตาล  น้ำบริโภค ฯลฯ

พอถึง คำว่า น้ำ  ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำทะเล น้ำที่ไหนๆ  ก็มีคุณสมบัติ เหมือนกัน คือ เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะ

เป็นกระแส ไหลจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่ง เปลี่ยนแปลงไปมาหมุนเวียนได้

เงินกับน้ำ จึงเหมือนกัน ตามสภาพปรัชญา

ในทางโหราศาสตร์ สากล จึงมาเกี่ยวข้องกับ ปรากฎการณ์น้ำขึ้นน้ำลงกับ สภาพปรากฎการณ์ตอนเดือนดับ-เดือนเพ็ญ

ตามธรรมชาติ น้ำขึ้น-ลงเต็มที่ในเดือนดับกับเดือนเพ็ญ  คือ วันเดียวกัน มีขึ้นสูงสุดและลงสูงสุด แต่คนละด้านของพระจันทร์กัน

ตำแหน่ง รุ้ง-แวง ของแต่ละพื้นที่ จึงเป็นตัวกำหนดปรากฎการณ์นี้ได้

ทีนี้ทฤษฎี ขอเงินพระจันทร์ เขาถือว่า  เงินก็อุปมา เหมือน กระแสน้ำ

ช่วงน้ำขึ้น ถ้ามีภาชนะ ใส่น้ำ โดยปรกติ สมมติว่า 10 ลิตรก็แล้งกัน

เวลาน้ำลง ภาชนะนี้ ก็จะลงหมด 10 ลิตรเลย

สมมติว่า  เราใส่ไว้เกิน สัก 5 ลิตร  เป็น 15 ลิตร

เวลาลงจึงเหลือ ทิ้งไว้ให้ 5 ลิตร เป็นส่วนที่เกินมา

ทำให้ยังคงพอมีใช้  ไม่ได้หายหมด

กระเป๋าตังค์ก็เช่นกัน กับภาชนะใส่น้ำ โดยอุปมาอุปมัย

ให้มันมีเกินๆมากๆกว่าปรกติ เข้าไว้  เวลามันหมด ยังพอมีเหลือให้ใช้อยู่บ้าง

พิธีกรรม มันจึงเกิดขึ้น โดยการสร้างรูปแบบเงื่อนไข ณ เวลา เฉพาะนั้นๆ

เช่นเดือนดับ หรือ อมาวสี  เราทำแม่แบบเดือน ใส่เงินเอาไว้ให้มากกว่าปรกติ ในช่วงเวลา ก่อนจันทร์ดับจริง

ทำเช่นนี้ จะเกิดอาถรรพณ์พระจันทร์ ดลบันดาลให้ เดือนนั้นทั้งเดือน

ไม่ติดขัดเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน  ยังพอหาหมุนมาให้เวียนวน จับจ่ายใช้สอยได้อย่างไม่อึดอัดใจ

อันนี้เป็นความเชื่อ  ไม่บังคับ ให้ใครทำตาม หรือเชื่อถือ

แต่ อยากให้ทดลองดูด้วยตนเอง

โดยให้ทำตรงข้ามคือ  ใช้จ่ายจนเกลี้ยงกระเป๋า ตอนอมาวสีหรือจันทร์ดับ

แล้วท่านจะซาบซึ้งตรึงใจ ในความยากจน ขาดแคลน หรือเป็นอุปสรรค ขัดข้องทางการเงินให้ฝืดเคืองของเดือนรอบนั้น

ด้วยตนเองเลยเชียวคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เรื่องมันเป็นแบบนี้แหล่ะคับทั่นสารวัตร วันที่ตอบ 2010-12-07 21:29:22 IP : 118.172.52.51


ความคิดเห็นที่ 11 (2135066)

ตามปกติ ที่ผมได้ความรู้จากท่านอาจารย์ จรัญ.
มากกว่า 80 เปอร์เซนต์ของความรู้ที่เข้าใจมีในปัจจุบัน
ผมจะได้จากการ เล่าเรื่องให้ฟัง ไม่ก็เป็นการคุยกันระหว่างท่านดื่ม
บอกเล่าถึง เกร็ดต่างๆ ที่ไม่มีในตำรา เล่าจากประสบการณ์ของท่าน 
เพราะเป็นเรื่องที่ท่านต้องผจญกับของจริง ตัวอย่างท่านเคยเล่าว่า

"เมื่อวานก่อนมีคนมาดูหมอกับผม ผมตรวจดูจุดโหราศาสตร์
เห็นจุดโหร.เขาเท่ากับเสาร์ ผมก็บอกเขาว่า เรื่องดูหมอของเขา
มักเกิดปัญหา เขา(ลูกค้า)ก็เล่าว่า ใช่ มี เคยดูหมอแล้วออกมา
รถของเขาที่จอดอยู่ข้างนอก พอออกจากการดูหมอเพื่อที่จะกลับบ้าน
พบว่ารถของเขาถูกทุบกระจก เข้าของถูกขโมยไปหมด."

อีกเรื่อง ในอดีตเย็นวันหนึ่งผมไปรับท่านอาจารย์ออกมาหาอะไรทาน
ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่า
"ตอนเช้ามีลูกค้ามาถามว่าจะไปขอวีซ่าไปสหรัฐ.
ผมมองดาวจากโน๊ตบุ๊ค เห็นดาวพฤหัสมาในเรือนการติดต่อ
เลยบอกไปว่า ให้รีบไปก่อนบ่าย เพราะช่วงบ่ายดาวจันทร์
กำลังจะเข้าบังเสาร์  เขา(ลูกค้า)โทรมาเล่าตอนก่อนออกมาว่าเรียบร้อย"

ทำนองนี้แหละครับ ที่ผมนำเรื่องเก็บตกมาพูดคุย
เรื่องของผมจึงมักจะเป็นเรื่อง เล่าสู่กันฟัง
มากกว่า จะนำเงื่อนไขจากตำรามาแสดง 
 
ส่วนการเรียนพื้นฐานความรู้จากการสอนจากท่านอาจารย์
ผมจะได้เพียง 2-3ครั้งแรกเท่านั้น นอกนั้นท่านก็จะนำหนังสือ
เอกสารที่เคยมีมาก่อน นำมาให้ศึกษา ไม่เข้าใจก็ถามไถ่กันไป

ไม่เหมือนดังที่อ.ทุกท่านกระทำการในปัจจุบัน สอนกันเป็นระบบๆ
ตามผลที่ออกมาก็เห็นๆกันอยู่ในปัจจุบันนะครับ

เช่นกัน ในเรื่อง "ขอเงินจากพระจันทร์"
ท่านอาจารย์ก็บอกกล่าวให้ฟังว่า
"การขอพรจากพระจันทร์ เป็นศาสตร์ๆหนึ่งที่มีมามากกว่าพันๆปี
ก็ได้ผลตามสภาพนั้นๆ โครงสร้างใหญ่ของเรื่องนี้
เป็นโครงสร้างหลักใหญ่ ทำนองเดียวกับ
จังหวะมูลเฟส เป็นตำราโบราณ"

เรื่องที่ทราบ ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ.

ผู้แสดงความคิดเห็น สัจจะ วันที่ตอบ 2010-12-08 14:44:53 IP : 118.172.23.65


ความคิดเห็นที่ 12 (2135191)

ดีนะครับ การที่ได้ใกล้ชิดอาจารย์ ได้ซึมซับจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูโหร เรื่องแบบนี้ผมมีโอกาสสัมผัสน้อยครับ ได้แต่จินตนาการไปตามความคิดตัวเอง จึงไม่ค่อยได้มี เรื่องเล่าให้ฟัง หรือเล่าสู่กันฟัง ได้แต่ตั้งข้อสังเกตุไปตามทฤษฎี สังเคราะห์ไปผสมกับแนวคิดตัวเอง ผิดถูกอย่างไรก็ไม่แน่ใจ ในบางครั้ง จึงต้องพยายามหาโอกาสมาแลกเปลี่ยนกันบ้าง

วัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนกันบางทีก็ต้องใช้เวลาในการสร้างเหมือนกันนะ เอ๊ะหรือว่าเป็นเรื่องของจังหวะฟ้า ฮาาาาา
 

ผู้แสดงความคิดเห็น NooM วันที่ตอบ 2010-12-08 23:05:50 IP : 110.168.107.4


ความคิดเห็นที่ 13 (2136286)

ถ้า อ. เขียนรวมเล่ม เป็นประสพการณ์โหร  ก็น่าจะดี นะครับ  เสียดายประสพการณ์  แต่ละท่านน่าเรียนรู้ัทั้งนั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น บาทจันทร์ วันที่ตอบ 2010-12-13 09:45:16 IP : 110.164.148.116



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.