หนีเหอะคับ ไม่งั้น  เกมยาวเชียว

ตั้งสติให้ดี ก่อนอ่าน

ในฐานะของความเป็นโหรที่ดี ควรชี้ให้เห็นถึงการสร้างกรรมของเจ้าชะตา ดังนั้น ควรแนะนำให้แก้กรรมด้วยการใช้กรรม เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา

คนเราหนีกรรมที่สร้างไว้ไม่ได้ การหนีก็เท่ากับเราขาดอิสระภาพของการใช้ชีวิตปกติสุข ก็เป็นการชดใช้กรรมอบ่างหนึ่ง แต่เป็นการสร้างกรรมเพิ่มขึ้นมาอีก และจะเป็นกรรมที่ไม่รู้จบ เพราะเราไม่ได้ใช้กรรมที่ก่อเอาไว้ลองนึกถึงคนที่เราไปก่อทุกข์ไว้สิว่า เราเอาของเขามา เขาทุกข์อย่างไรแค่ไหน แต่พอถึงเวลาที่ควรจะใช้หนี้กรรม เรากลับส่งเสริมให้ หนีกรรม ก็ย่อมกับเป็นการสร้างกรรมใหม่ให้แก่ผู้แนะนำได้

ความเห็นนี้อาจจะไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยทุกท่าน ผู้เสนอความเห็นไม่ได้มีอคติแก่ผู้ใดทั้งสิ้น เพียงแต่อยากจะเสนอความเห็นที่น่าจะเป็นสิ่งถูกต้อง

โอ้โฮ!  ช่วงนี้ผมงานยุ๊งยุ่ง  ไม่ได้อยู่ดูเว็บแบบลงลึกภาพดวง  ไป สามวันเอง   มาเจอเกจิฯซะล่ะ

งั้นถามท่านโหรชี้กรรมว่า

ทางที่ถูกนั้น (ในทัศนะของท่าน) ผมควรจะ แนะให้

1. คุณผู้ถามควรจะเข้ามอบตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างเร็วไว เพราะจะได้ชดใช้กรรมซะ จะได้ไม่ติดไปชาติหน้า
2. คุณไม่ควรหนี แต่ควรติดคุก  และมีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ รีบนำไปขายทอดตลาดให้เจ้าหนี้ และนำไปใช้เขาซะ ถ้าไม่พอให้ติดคุกใช้ต่อ

เช่นนี้หรือ?

ซึ่งในทัศนะของผมนั้น การติดคุกคดีเช็ค  ใบละ 1 ปี ในกรณีสารภาพ ต่างกรรมต่างวาระ พร้อมยอมเป็นคนล้มละลาย ถูกยึดทรัพย์สิน  บ้านช่องห้องหอครอบครัว พินาศ แยกย้ายกันตกระกำลำบาก  กับเกมชีวิตที่พลาดพลั้งพ่ายแพ้ นั้น ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกๆคนที่ทำธุรกิจและการงานอาชีพ  ผมว่า ของผมไปลึกซึ้งกว่า อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกว่า   คนเกิด 2503 อายุเข้า 51 ถ้าติดคุกไม่สนุกนะคับ 

ผมยังยืนยันว่า ผมแนะนำถูกต้องแล้วเพราะ  โหราคือ ที่ปรึกษา และอยู่ข้างรักษาผลประโยชน์ของผู้ที่มาขอคำปรึกษา เช่นเดียวกับทนายความ

โหราไม่ใช่ผู้พิพากษา  ที่จะไปติดสินชี้ขาดผิดถูก

โหราไม่ใช่นักบวช หรือพระ  ที่จะไปอ้างชี้บาปบุญคุณโทษ

โหราไม่ใช่พ่อมดหมอผี  เที่ยวสาปเที่ยวแช่ง ทายทักเรื่องกรรม ซึ่งแม้จะมีจริงก็ไม่ได้เอามาหากินหรือมาขู่ใครข่มใครสอนใคร

แต่โหราที่ดีนั้น ต้องรู้จักธรรมและครองธรรมตามจารีตธรรมเนียมแห่งวิชาชีพที่สอนสืบกันมา

การออกคำพยากรณ์แห่งโหรานั้น  ตั้งอยู่บนความรู้ ที่เป็นมาตรฐานยอมรับกันเป็นสากลไม่ใช่เฉพาะปัจเจกชน(คิดเอาเองเชื่อเอาเอง)และต้องเปี่ยมไปด้วยความเมตตาต่อผู้มาถาม  วาทศิลป์แห่งโหรา มีการเรียนรู้ถ่ายทอดสั่งสอนอบรมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น  ไม่ใช่นึกจะทายก็ทายเพราะตูรู้หรือตูเข้าใจเอาเองว่าตูรู้

สมัยนี้นั้น  ตาม 7/11 และร้่านหนังสือ จะมีหนังสือเกี่ยวกับกรรมสารพัดกรรมเยอะมาก พร้อมกับ มีตัวผู้ที่ สถาปนาตนว่า สามารถรู้เห็นและแก้ไขให้ได้   พูดหยาบๆคือ ขายโบชัวร์ให้ไปเป็นเหยื่อ  ซึ่งน่าละอายอย่างยิ่ง

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่มีมาแต่ก่อนพุทธกาล ในพรหมชาลสูตร ( พระสุตันตปิฎก เล่มที่ 8และ 9  ฑีฆนิกาย ศีลขันธวรรค ) กล่าวไว้ว่าสมัยนั้นมีถึง 62 แบบ  ผู้ที่อ้างว่ารู้เรื่องกรรมในแนวของเขานั้นมีเยอะปานนั้น

ถึงเรียกว่า  เหยื่อใครเหยื่อมัน เพราะชาละนั้นแปลว่า ตาข่าย เจ้าลัทธิต่างๆก็ชักใยดักผู้เลื่อมใสให้ติดข่ายกันไป

ติดแล้วดิ้นหลุดก็มี ติดแล้วไม่หลุดก็มี เยอะแยะมากมาย

แต่สำนักไหนจะเป็นอย่างไรนั้น ช่างเขา

สำนักนี้ ใช้แบบครูบาอาจารย์โหราท่านสอนมาว่า

ไม่ให้ ขู่ให้กลัวด้วยคำทาย

ไม่ให้ ปลอบด้วยคำหวานที่ไร้สาระ

ไม่ให้ยกย่อง เพื่อหวังประโยชน์อันแผงเร้น

ไม่ให้ตบทรัพย์ เกินกว่า สิทธิที่พึงมีพึงได้โดยสุจริต

และข้อหลังนี้ ก็ฟรี บนกระดานโหรา ซะอีก

ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจคุณ โหรชี้กรรม  อะไรไปบ้าง

แต่ผมก็มีจุดยืนบนเส้นทางโหรา ในแบบนี้แนวนี้

การจะอ้างอะไรนั้น ควรจะมีที่มาที่เชื่อถือได้เป็นมาตรฐานด้วย

การหนีโดยไปตั้งหลักใหม่(แล้วอาจจะกลับมาแก้ไขใช้คืนได้ )นั้น  กับ ยอมติดคุกและอาจจะเสียชีวิตในคุกและสูญสิ้นทั้งหมดนั้น

ถ้าคุณโหรชี้กรรม โดนเองหรือคนใกล้ชิดโดน และคุณโหรชี้กรรมมีส่วนในผลประโยชน์ได้เสียด้วย...คงจะเลือกอะไรล่ะ

ถ้าเลือกใช้กรรมติดคุก  ก็ขอให้มันจริงเถอะน่ะ 

เพราะการหนีนั้น ในแง่โหรา ก็คือ กรรมทดแทน แต่จะหนีได้หรือไม่ได้ หรือไปได้ตลอด หรือตกระกำลำบากอย่างไร ก็เป็นคนละเรื่องคนละกรณีในแต่ละเส้นทางชีวิตของแต่ละคนแต่ละดวงไป

พุทธศาสนาของแท้นั้น  ในทางปรมัตถธรรม   กรรมน่ะมี วิบากมี  แต่ ผู้รับกรรมน่ะ  ไม่มี

การเป็นโหรนั้น  ได้อ่านเจอ คำที่ท่านอาจารย์ประยูร พลอารีย์ ท่านเขียนไว้ว่า ... อ่านก่อน พยากรณ์ทีหลัง ... แปลว่า ให้อ่านดวงชะตาก่อนที่จะพยากรณ์เหตุการณ์ หากจะเถียงว่า คำพูดประโยคนี้อยู่ในหนังสือ ก็ใช่ เพราะท่านเขียนบอกว่า ให้อ่าน คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิให้เข้าใจกระจ่างก่อน ที่จะนำไปใช้พยากรณ์

ครูบาอาจารย์ท่านก็สอนในหลักการมาให้ ในการพยากรณ์ สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่เอาข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือมีคนบอกว่า มาใช้ในการพยากรณ์ ควรพยากรณ์ไปตามดวงชะตาที่เห็น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หมอดูหลายคนทำใจยาก เพราะมักเอาความรู้สึกเข้ามาประกอบคำพยากรณ์ด้วยเสมอๆ

กรณีกระทู้นี้ ก็อย่างที่บอกไว้แต่แรกแล้วว่า  ไม่ได้ต้องการสร้างเรื่องราวอะไรให้ขุ่นข้องหมองใจใดๆทั้งนั้นหากไม่สบอารมย์ ก็ขออภัย จะลบทิ้งก็ได้ครับ

ที่เขียนมานี้ก็ไม่ได้ต้องการเอาแพ้ เอาชนะ เพียงแต่ในพื้นที่สาธารณะเช่นนี้ เมื่อเปิดกว้างให้แสดงความเห็นแล้ว กลายเป็นที่ไม่สบอารมย์ ก็สุดแท้แต่เจ้าของบ้านจะดำเนินการ

การอ่านก่อนและพยากรณ์ทีหลัง  นั้นนะคับ

ตีความได้หลายอย่าง

1. อ่านเป็น แล้วพยากรณ์
2. อ่านไม่เป็น แล้วดันไปพยากรณ์
3.ถึงอ่านเป็น แต่ก็ไม่พยากรณ์
4.อ่านไม่เป็น แล้วก็เลยไม่ต้องพยากรณ์

ข้อ 1 นั้น  ยังแบ่งออกเป็น

1. เป็นแค่ไหน  แน่ใจได้ไงว่า จะเป็นแบบที่มาตรฐานเขาควรจะเป็นกัน
2. คิดว่าตนเป็นแล้ว ( แต่จริงแล้วยังไม่เป็น...ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นได้ )
3. พยากรณ์น่ะ  ศิลปในการใช่ภาษาอธิบายน่ะ  เป็นแบบไหน แนวไหน

      ซึ่งแยกออกเป็น 

     ก. คำสั่ง   ข. คำเตือน  ค. คำอธิบาย  ง. คำตอบ  จ.ทางเลือก  ฉ. ทางแก้

4. กรอบเวลา และรายละเอียด เป็นแบบใด แน่นหนาเจาะจงเฉพาะแค่ไหน

ไหนๆก็อ้างท่านอาจารย์โหรพลตรีประยูร  ต้องอ้่างให้ครบนะคับ   ท่านอาจารย์นั้น ท่านเป็นเป็นนักอิเลคโทรนิครุ่นแรกๆของประเทศไทย เป็นเสนาธิการทหารบกชั้นหัวกะทิ  ตำราชีทการสอนของท่านวางรูปแบบเป็นขั้นตอน มีหัวข้อลำดับจำแนกแจกแจงชัดเจนแน่นอน แม้กระทั่งตำราโหรก็เถอะ ต้องดูทั้งองค์รวมนะคับ

สูตรพระเคราะห์สนธิ นั้น  เป็นการแปลตำรานะคับ จากภาษาเยอรมันตามต้นฉบับใช้เพื่ออ้างอิง ในคัมภีร์เอง มี 4 ส่วนใหญ่ได้แก่

    1.ตัวสูตร 2.ส่วนเรือนชะตา 3. ส่วนทฤษฎีพยากรณ์และการใช้ 4.ส่วนความเห็นและเบ็ดเตล็ด

ท่านอาจารย์พลตรีประยูร  ถ้ารู้จักท่าน รู้จักผลงานของท่านจริง ท่านพัฒนาการแปล และมิติความลึกของการแปลความหมายทางปรัชญาดาว ไปได้ไกลมากๆ ไกลกว่าสูตรพระเคราะห์สนธิต้นฉบับอีกไม่เช่นนั้น ท่านคงไม่เขียน ทฤษฎีการพยากรณ์  ออกมาหรอกคับ  เพราะท่านใช่ตำรานี้เป็นหลักก่อนคับแล้วเอาพระเคราะห์สนธิไปประกอบ

การศึกษาตำราอาจารย์ท่านใด  ต้องดูลำดับการออกตำรา  ศึกษาถึงวิวัฒนาการการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งของผู้เขียนด้วย  การอ้างข้อความจากเล่มใดเล่มหนึ่งโดดๆ จากอนุกรมลำดับตำราทั้งหมดนั้น  มันไม่ได้มาตรฐานทางวิชาการ

เถียงกันทางวิชาการน่ะ  ไม่ขุ่นข้องหมองใจหรอกคับ  ผมเองชอบนักเชียวเพราะผมเชื่อที่โบราณท่านว่า ยาดีต้องขม  ส่วนคำเตือนนั้นฟังแล้วต้องไม่ถูกหูถึงจะเป็นคำเตือนที่ดี และคนที่เตือนเรานั้น มักเป็นกัลยาณมิตร

ผมไม่คิดว่าโหราจะมีหน้าที่ในการบอกให้ใครหนีหรือบอกให้ใครยอมแพ้  แต่น่าจะบอกให้เขาต่อสู้บนพื้นฐานข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  ถ้าเอาชนะไม่ได้อย่างน้อยให้แพ้อย่างสูญเสียน้อยที่สุดก็ยังดี   ใครจะบอกให้หนีหรือให้ยอมรับกรรมด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงทางหลักวิชาโหรใดๆ ผมไม่อยากไปก้าวก่าย  แต่เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมท่านก็ต้องทำงานบนพื้นฐานข้อเท็จจริงทางกฎหมายเช่นกันว่าใครจะต้องเข้าคุก-ไม่เข้าคุก ล้มละลาย-ไม่ล้มละลาย แพ้คดี-ชนะคดี หรืออะไรก็ตาม  วันก่อนมีคนจะขอให้ดูดวงเนื่องในวันเกิด  ตาคนนี้แกมีปัญหาเรื่องหนี้สินอยู่ไม่น้อย  โดยรายละเอียดของคดีอาจจะแตกต่างกับกรณีของผู้ตั้งกระทู้  แต่ทุกวันนี้เจ้าตัวก็ยังทำงานอยู่ในหน่วยงานแห่งหนึ่ง  โดยอาจจะไม่เป็นสุขกับการระวังเจ้าหนี้มายึดทรัพย์  ก็ยังนับว่าพอเอาตัวรอดได้

โลกแห่งอุดมคติและโลกแห่งความเป็นจริงในสังคมที่โหดร้าย บางทีมันก็ไม่เป็นไปในทางเดียวกันนะคับ

แล้วอะไรคืออุดมคติอะไรคือความเป็นจริงล่ะครับ  เท่าที่ผู้ตั้งกระทู้ให้ข้อมูลมา  เราทราบเพียงว่าเธอได้พลาดไปทำธุรกรรมทางการเงินบางอย่างจนต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย  แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นผู้ร้าย  แล้วการไปบอกให้เธอ "หนี" จะมิกลายเป็นยุให้เธอยิ่งทำผิดมากขึ้นหรือครับ  โดยเฉพาะถ้า "หนี" ไม่พ้น  แล้วยังเป็นการแนะนำในเว็บบอร์ดอันเป็นที่สาธารณะด้วย  โลกจะโหดร้ายยังไงก็เรื่องของโลก  ตัวเราเองทำให้ดีที่สุดและแนะนำคนอื่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  ดีกว่าประมาทจนเกิดปัญหาแล้วจะมาพยายามแก้ปัญหาด้วยการสร้างปัญหาซ้อนกันไปเรื่อยๆ  ใครจะเชื่อหรือไม่ก็คงต้องจบซะทีเหมือนกัน  แล้ววงการนี้จะเป็นอย่างไรก็คอยดูกันไป

คดีหนี้  นี่มี 2 แบบนะคับ  อาญา กับแพ่ง   ทางแพ่งน่ะเป็นแบบท่านอาจารย์โรจน์ยกตัวอย่างมา  คือเป็นหนี้แล้วต้องใช้ ยังไงก็ต้องใช้ เพราะทุกข์จากการเป็นหนี้ ก็เป็นทุกข์ทางโลก

สังเกตว่า เฉพาะ กรณีนี้ มีคดีเช็คพ่วงเข้ามา   และหลายใบ  เฉพาะคดีเช็ค 1 ใบถ้ารับสารภาพ โดยปรกติ ติดคุกใบละ 1 ปี ต่างกรรมต่างวาระ กี่ใบกี่ปีก็ว่าไป  ผมเคยเจอกรณีเจ้าของโรงหนังใหญ่ 400  กว่าใบ  เฉพาะคดีเช็ค ขึ้นศาลแทบทุกวันราชการ 4 ปีในคุกกว่าจะตัดสิน ถูกล่ามโซ่พาขึ้นศาล เสียหาย  แล้วสุดท้ายเสียชีวิตในคุก อายุราวนี้แหล่ะคับ  ซึ่งถ้าว่าไป จะหนีก็หนีได้  แต่จะพ้นหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

กรณีนี้  ผู้ถาม อายุ 50 ปีแล้ว  แค่ติดคุกสัก ปี  สิ่งที่จะเจอในคุกเรื่องอนามัย และการตรอมใจกับสภาพข่าวของเหตุการณ์ครอบครัวที่ตนเองสร้างไว้ จะอยู่ได้สักเท่าไหร่กันเชียวหรือกรณีเสมียนเทศบาล  ออกบิลเองเซ็นรับเอง 20000 กว่าบาทแต่มีหลายบิลถูกจับ  เอาเงินไปคืนก็แล้ว สู้แพ้ 2 ศาลตัดสินมา 9 ปีประกันตัวรอตัดสินฎีกา  ระหว่างรอประกันติดมาบ้างแล้ว ฎีกาก็สู้  มาถามผมว่าจะเอายังไง...ตามดวงหญิงอายุ 42 วงรอบมฤตยูและเสาร์ถล่ม Lunar Phase กำลัง Balsamic ...ลูกเต้าเหล่าหลานกะจองอแง...

ผมก็แนะไม่ต้องไปฟังหรอก...จนป่านนี้ยังชิ่งได้

คดีพวกนี้ไม่ได้ฆ่าคนตายด้วยความโหดร้าย เป็นเรื่องเกมชีวิต  ที่พลาดพลั้ง  เขาหนีร้อนมาถาม โหราจารีตเขาไม่ซ้ำกัน

ผมยังเชื่อว่า  ผมแนะให้หนี เนี่ย  ยังไงๆผมก็ยังว่าผมเองทำหน้าที่ที่ปรึกษาโหราที่ดีแล้ว

ผมเคยอยู่วัด  คลุกคลีอยู่กับพระอาจารย์ที่ขลังๆดังๆหลายต่อหลายองค์  บอกไปใครก็รู้จัก

เจอคดีแนวนี้มา   ท่านจะบอกว่า  เออ  หลบๆไปซะลูก มันถึงคราวจะต้องไปก้ต้องไปแล้ว

แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านี้  แถมอวยชัยให้พรซะอีก

กรณีแบบนี้เป็นเมตตาที่ผมเห็นกันมา  ว่าเออ  ผู้ใหญ่น่ะเขาแนะเขาทำกันมาแบบนี้

ส่วนอำนาจตำรวจ อำนาจกฎหมาย อำนาจกระบวนการยุติธรรม  จะจัดการอย่างไรนั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง

โหรา ไม่ได้เข้าไปยุ่งนะคับ  พระท่านว่า กัมมุนา วัตตตี โลโก  แปลว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

แต่รายละเอียดของกรรมที่จะเจอนั้น ย่อมแตกต่างกัน  ไม่เหมือนกัน

และทางเลือกที่จะรับกรรมนั้น  ยังมีรายละเอียดทางเลือกที่เลือกได้ อีกหลายๆแบบ

และแบบไหนจะเหมาะที่สุดกับผู้จะรับได้ ในสภาพการณ์ที่จำกัด ณ เวลานี้

ผมว่า การแนะนำแบบนี้ คงไม่ทำให้วงการโหราอันเป็นที่รักของเรา เสื่อมเสีย หรอกคับ

ผมทำงานในวงการธุรกิจ ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ภารตในแนวทางให้หนี  แล้วค่อยเคลียร์ภายหลัง  ดีกว่าอยู่ก้มหน้ารับกรรม เคลียร์หนี้เพราะมันจะเคลียร์ไม่จบ ซะที   เห็นมาหลายเคสแล้ว  ส่วนใหญ่ หนีก่อน เคลียร์ทีหลังทั้งนั้น  แล้วมันก็จบได้   ถ้าคุณไม่หนีก่อนแล้วเคลียร์ทีหลัง  ผมรับรองได้ ร้อยทั้งร้อย เรื่องไม่จบ ศพไม่สวยทั้งนั้น  การหนี มันก็คือการชดใช้กรรมแล้วล่ะครับ  เพราะในเวลาทีหนี จิตก็ทุกข์จะแย่แล้วล่ะครับ

อันนี้เฉพาะพวกที่ล้มละลายจริง ๆ นะครับ  ส่วนพวกล้มบนฟูกนั่นอีกแบบครับ เคสนี้ถ้าหมดตัวจริง ๆ ควรจะหนี ตามอาจารย์ภารตท่านว่านะครับ

ความคิดเห็น อิทธ   ถูกต้องแล้ว ครับ 

การหนี มันก็คือการชดใช้กรรมแล้วล่ะครับ

เสียชีวิตในคุกศพไม่สวยครับ

ตามอาจารย์ภารตท่านเถอะครับ

ถ้าเป็นคำตอบชัดๆ จากประสบการณ์จริงอย่างคุณอิทธิก็พอยอมรับได้  แต่ก็ควรจะเป็นคำตอบ "หลังไมค์" ด้วยครับ

คุณโรจน์  สิ่งที่ผมเล่ามันเป็นประสบการณ์จริง ๆ ที่ผมได้เคยพบเจอมา ตัวตนปัจจุบันก็ยังอยุ่ ถ้า คุณโรจน์  อยากทราบอะไร  โทรคุยกับผมได้ แล้วผมจะเล่าเรื่องจริง ให้ฟัง   ถ้าเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ไม่หนีไปตั้งหลักก่อนล่ะก็   ผมรับรองได้ว่า  ไม่ใช่คนเดียวที่เดือดร้อน  ถ้าเขามีครอบครัว  ครอบครัวพลอยจะเดือดร้อนไปด้วย  และเดือดร้อนแบบแสนสาหัสด้วย  

ผมไม่ได้มีอะไรข้องใจกับคุณอิทธิหรอกครับ  ไม่ได้ข้องใจอะไรในเรื่องที่คุณยืนยันว่าเป็นประสบการณ์จริงของคนที่มีตัวตนจริง  แต่ยังคาใจในเรื่องที่ผมบอกว่ามันควรจะเป็นเรื่อง "หลังไมค์" น่ะครับ  ยังไงการบอกให้ใครหนีคดีอาจจะคล้ายๆ กับการบอกให้ใคร copy หนังลิขสิทธิ์หรือโปรแกรมลิขสิทธิ์  ที่บางเคสหรือหลายเคสถึงมันจะจำเป็นต้องแนะนำอย่างนั้นจริงๆ ดังที่ได้ยกเหตุผลกันมา  แต่ไม่ใช่การมาพูดกันโจ่งแจ้งในเว็บบอร์ดอันเป็นที่สาธารณะ  ถ้าเป็นทีวีหรือวิทยุใครจะกล้าแนะนำกันตรงๆ แบบนี้หรือ  แต่กับในเว็บบอร์ดบางทีเราหลงลืมไปว่ามันเป็นสื่อสาธารณะเหมือนกัน  ความจริงอยากจะจบตั้งแต่ความเห็นที่ 8 แล้วละครับ

อันนี้จริงๆแล้ว  บอกหน้าฉากยังอย่างนี้นะคับ สารภาพตามตรงเลยว่า

หลังฉากน่ะ  ในบางเคสผมยังจำแนกแจกแจง และจัดแจงหาฤกษ์หาทิศหาทางหนีทีไล่พร้อมให้เสร็จสรรพ เท่าที่ผ่านมาผลงานเป็นที่น่าพอใจทีเดียว

ก็โทษฐานรู้จักกัน  รักกันชอบกันพรรคพวกกันทั้งนั้น  อาศัยไหว้วานกันแค่นี้ นิดหน่อย จะเป็นไรไป เคยช่วยมาแล้วทั้งโจทย์ ทั้งจำเลย รวมไปถึง ทนาย ผู้พิพากษา เสมียนศาล ตำรวจอัยการ นิติเวช คุมประพฤติ พิทักษ์ทรัพย์ สรรพากร และราชฑัณฑ์ ฯลฯครบ

จริงแล้วตัวผมเอง ก็ไม่ใช่จะคนดีบริสุทธิ์อะไรกับเขาเท่าไหร่หรอกคับ

สีเทาๆมอมแมมๆ ดูๆยังไงชอบกลอยู่เหมือนกัน

ไม่ถึงกับดำสนิท และไม่ขาวผ่องบริสุทธิ์

บางกรณีบางคำถาม ก็ไม่ตอบ หรือถามคำตอบคำ และในบางกรณี ถึงไม่ถาม ก็อยากจะรู้จะซอกแซกตอบให้  เอาแน่เอาอารมณ์เหตุผลไม่ค่อยได้

ที่ร้ายๆกับวงการกว่าผมนั้น  มีเยอะแยะคับ  ออกพื้นที่สาธารณะมากกว่านี้มากมายนัก

จะหวังให้ผมเป็นตัวอย่างที่ดีของวงการ ผมเลยชักจะหนักใจอึดอัดเนื่องจากไม่ค่อยจะคุ้นกับกรอบ

แต่เว็บนี้ หายากนะคับ  กว่าจะมาถึงกระดานโหรานี้ได้ ต้องดวงถึงเท่านั้น

คงไม่สาธาณะเป็นที่นิยมหรอกคับ

พึงเข้ามา งานยุ่งนะ

ผมเห็นด้วยกับท่าน อ.ภารต นะครับ  ในหลายครังหลายคราว ถ้ายึดติดอุดมคติ เกินไปจะไม่ดีนะครับ

ทฤษฎี กะ ความเป็นจริงมันสวนทางกัน
ควรนำความเป็นจริง ปฏิบัติ โดยมีเป้าหมายที่ถูกต้องตามทฤษฎี
ไม่ว่าทั้งที่แจ้ง หรือ ที่มืด นั่นคือสิ่งควรพิจารณา
 
ในโลกแห่งความเป็นจริง
ทฤษฏี จั๊กจั่นทองครอกคราบ ของจีน
เป็นกฏสุดท้ายที่คงอยู่คู่กับเหตุการณ์ต่างๆ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน

อย่านำเรื่องคำว่า วงการ เข้ามาเกี่ยวข้อง
กับเรื่องความเห็น เฉพาะตัว ครับ

พอดี เมื่อกี่้งานยุ่ง เลยได้ตอบยาว ผมยกประโยคของ อ.ภารต มาละกัน

โลกแห่งอุดมคติและโลกแห่งความเป็นจริงในสังคมที่โหดร้าย บางทีมันก็ไม่เป็นไปในทางเดียวกันนะคับ

อันนี้ชัดเจนเลย  ก็เห็นกันอยู่ในสังคมมานับไม่ถ้วนแล้ว

แม้แต่หลายครังคำพิพากษาศาลฏีกาที่ว่าแน่แล้ว  นักนิติศาสตร์ชั้นครู แม่แต่อดีตประธานศาลฏีกา ก็เคยไม่เห็นด้วยในหลายครั้งที่ออกทำนอกว่า ไม่ยุติธรรมจริงเลย ไปถามนักฎหมายทั้่งหลายดูว่าจริงป่าว มันขัดกับความจริงที่ควรจะเป็น แต่คำพิพากษากับออกมาแบบไม่ยุติธรรม(ผมพูดนี้ไม่ได้เหมารวมทุกคำพิพากษานะ) พอดีเรียนกฎหมายครับ แต่ยังไม่จบครับ ไปได้ครึ่งทางเอง เพราะงานยุ่งเลยทิ้งเรียน 

ด้วยความเคารพครับ

ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้เสมอ ควรใช้สติตั้งหลักก่อน ต้องห่วงตัวเองก่อนแล้วห่วงคนรอบข้างคือครอบครัวต่อจึงห่วงคนอื่นคือเจ้าหนี้ 0824903562

 เราก็อยากรู้เรื่องเช็ค  ทำไงจะไม่ติดคุก  ไปๆ มา กลายเป็นไรไปหมดนี่  งง

 อ.ภรตคะ/รบกวนขอเบอรติดต่อกลับด้วยค่ะ/ต้องการที่ปรึกษาด่วนค่ะ/ไม่อยากติดคุก/ไม่อยากฆ่าตัวตายค่ะ/กำลังตันไปหมด/เเบอรนะคะ092-319-3949/ขอบคุณค่ะ,

 ความเห็นที่21ขอแก้ไขเมลค่ะเป็นapinya. ap42@gmail.com