ReadyPlanet.com


คดีความเป็นภพอริหรือปัตนิ ? ทำไมเราถึงแพ้คดี?


คดีความเป็นภพอริหรือปัตนิ ? ทำไมเราถึงแพ้คดี?


รบกวนถามผู้รู้ทุกท่าน

ลัคนเมษ

ถ้าคดีความเป็นภพอริ
ดาว 4 อริ สถิตย์ภพมรณะ (พิจิก)
ดาวอริไปภพมรณะ แปลว่า คดีไปภพมรณะ
โดยพื้นฐานของรูปดวง คดีไปภพมรณะ แปลว่าเราจะแพ้หรือชนะคดี

ถ้าคดีความเป็นภพปัตนิ
ดาว 6 ปัตนิ สถิตย์ภพปัตนิ (ตุลย์) เป็นเกษตร และมีดาว 5 ร่วมอยู่ด้วย
โดยพื้นฐานของรูปดวง ดาว 6 ปัตนิ(คดี) สถิตย์ภพปัตนิ (ตุลย์) เป็นเกษตรแปลว่าท้ายสุด ถึงเกิดปัญหาอย่างไร ก็น่าจะชนะคดีตอนท้าย

แต่นี้ก็(ศาลสูงสุด)ตัดสินจบแล้ว ทำไมเราถึงแพ้คดี

หรือว่า (รู้ข้อมูลมาว่า กรณี(ศาลสูงสุด)ตัดสินจบแล้ว สามารถพิจารณาคดีใหม่ได้ ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่อันทำให้ข้อเท็จจริงเดิมเปลี่ยนในสาระสำคัญ ศาลก็จะพิจารณาใหม่ได้


ตอนนี้ เว็บไอยาเรส ซึ่งผูกดวงแล้วจะบอกพวกชันษาจร เว็บเสีย จึงทำพวกชันษาจร ดูไม่ได้(พวกชันษาจรผมยังไม่ค่อยเป็น)

เป็นการฟ้องศาลปกครอง

ช่วงนี้สงสัยราหูจรทับพุธในพิจิก เพราะเคยใช้โปรแกรมมาหาหมอดูผูกดวง แล้วมีคำทำนายว่า
ราหูจรทับพุธ บอกว่า ถ้ามีคดีจะแพ้คดี
ซึ่งก็สงสัยว่า พุธพื้นดวงเดิม ประมาณ 28 องศา
ราหูจรประมาณ 8 องศา จรห่างจากพุธมาเรื่อย ๆ 20 องศา แล้ว และจะจรห่างออกไปเรื่อย ๆ ก็ยังส่งผลแพ้คดีอีก

ราหูจรยังทับดาว 1 คิดว่าน่าจะเกิดคราสขึ้นอีก ดาว 1 เป็นพวกผู้นำ ไม่รู้ว่าผู้นำศาลกับผู้นำผู้ถูกฟ้องคดีฮั๊วกันหรือเปล่า(ผมเป็นผู้ฟ้องคดี)
นอกจากนั้นราหูจรยังเล็งดาว 5 (พฤษก-ตุลาการจร) จรหรือว่าดาว 5 ถูกราหู ความหลง ความคลุมเครือพร้อมคราสเล็ง ตุลาการจึงหลงผิด ? (หรือเราคิดเข้าข้างตัวเอง เราอคติต่อตุลาการ)

น่าจะช่วงปี 47 ที่ศาลตัดสินครั้งแรก ก็แพ้ทั้ง 3 ประเด็น ได้ถามท่านหนึ่งท่านน่าจะเป็นถึง
ท่านทูต สนใจโหราศาสตร์อินเดีย ท่านบอกว่าผมสุดท้ายคดี ผมจะได้ซึ้งเกียรติยศและความภาคภูมิใจกลับมา ซึ่งผมอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ศาลปกกครองสูงสุดตัดสินสุดท้ายแล้วว่าเราแพ้ ก็คงต้องเหลือการให้ศาลทบทวนใหม่ ถ้าจะให้เป็นตามที่ท่านทูตบอก

ตอนช่วงปี 47 หลังจากแพ้ครั้งแรกช่วงปลายปี คิดว่าจะไม่ฟ้องต่อ เพราะเอือมเรื่องระยะเวลาที่นานและหลายท่านบอกให้ไม่ต้องฟ้องต่อ หลังจากนั้น ผมก็ถูกจับฉลากขึ้นรับรางวัลปีใหม่ 3 งาน รวม 3 ครั้ง (แต่ละครั้งคนเป็น 100-1000 คน) ผมจึงคิดว่าฟ้าหรือสวรรค์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ฟ้าหรือสวรรค์จึงประท้วงโดยให้ผมถูกจับฉลากขึ้นรับรางวัลปีใหม่ 3 งาน รวม 3 ครั้ง จึงตัดสินใจฟ้องต่อ

มาครั้งสุดท้ายที่ศาลตัดสินช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ก็แพ้อีก ก็เกิดปรากฏการณ์ คือ ผมถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว คือ 60 งวด 1 ก.ค. 55 คิดว่าฟ้าหรือสวรรค์ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล ฟ้าหรือสวรรค์จึงประท้วงอีกหรือเปล่า ?

ถ้าจะขอให้ศาลทบทวน ไม่แน่ว่าศาลจะให้หรือเปล่า
ถ้าศาลให้ กำลังดูจังหวะจากดวงดาว ช่วงดาวเสาร์จะจรเข้าราศีตุลย์หลังกันยา ซึ่งดาวเสาร์จะจรเข้าทับดาวพฤหัสบดี ซึ่งมีคำทำนายจากเว็บนี้ว่า
ดาวเสาร์จรทับพฤหัสบดี ศัตรูจะพ่ายแพ้ สิ่งของและทรัพย์สินต่างๆ ที่หายจะได้คืน โชคดีด้วยประการต่างๆ แต่อาจถูกผู้ใหญ่หาเรื่อง ใส่ความ เกิดการโยกย้ายได้

และจากเว็บมาหาหมอดูว่า
พระเสาร์จร ถึง พฤหัสบดีกำเนิด จะได้ลาภเงินทอง ศัตรู จะปราชัย ข้าคนที่หนีหายจะกลับมา ถ้าเสียทรัพย์สินเงินไปก็จะได้คืนมา

นั่นคือ สิ่งที่เสียไปจะได้กลับคืนมาจากศาล

แต่หลังจากพฤศจิกายน 55 ดาวเสาร์ เป็นอุจน์ และทางทักษาจะเป็นกาลีเล็งลัคน์ เป็นพินทุบาทว์
ได้อ่านจากหนังสือเล่มหนึ่งว่า ถ้าดาวเล็งลัคน์ในราศีแม่ธาตุ เป็นข้อยกเว้น ไม่เป็นพินทุบาทว์

นอกจากนั้น ผมได้ลองเข้าไปผูกดวงที่เว็บ http://knowyourfuturethewebsite.com/
สำหรับดาวราหู(8) ที่ตอนนี้น่าจะทำให้แพ้คดี มีคำทำนายว่า

ราหู(8) ซึ่งหมายถึงวินาส จรไปอยู่ในศุภะของกาลจักร โดยทั่วไปคุณจะถูกฟ้องคดีและจะเสียชื่อเสียง จะมีปัญหาทั้งในเรื่องงานและเรื่องครอบครัวของคุณเอง อาจจะถูกหักหลังหรือกล่าวร้ายหรือถูกลดตำแหน่งหรือถูกย้าน หรือจะต้องแยกจากพ่อ หรือมิฉะนั้น คุณจะสำเร็จในเรื่องที่เกี่ยวกับต่างประเทศหรืองานหลังฉากหรือเรื่องลับ ดาวได้อุดมเกณฑ์ กลับจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี

ติดใจตรงที่บอกว่า
ดาวได้อุดมเกณฑ์ กลับจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี

----------------------------------------------------

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อจากดวงดาว
1. ผมจะขอให้ศาลทบทวนหรือไม่ อย่างไร
2. ถ้าผมขอให้ ศาลจะรับทบทวนหรือไม่ อย่างไร
3. ถ้าศาลรับ ผมจะแพ้หรือชนะคดี อย่างไร

รบกวน ผู้รู้ ผู้ทราบ ผู้สนใจ แสดงความคิดเห็น เสนอคำแนะนำ
ขอบคุณ



ผู้ตั้งกระทู้ คดี :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-09 17:37:31 IP : 202.44.40.3


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2285761)

ที่เล่ามาทั้งหมดมันผิด  แจ้งข้อมูลวันเกิดละเอียด  วันที่ เดือน พศ. เวลา จังหวัด มาสิคับ  แล้วจะเล่าให้ฟัง ตามมาด้วย วันเกิดเหตุ และคดีอะไร เป็นโจทก์หรือจำเลย  วันที่ศาลตัดสิน  เวลากี่โมง จังหวัดไหน  แจ้งมาด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ไม่ได้โม้ วันที่ตอบ 2012-07-10 11:53:42 IP : 118.172.33.84


ความคิดเห็นที่ 2 (2286185)

 เรียน  อ. ภารต 

ขออภัยที่ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน 

แจ้งข้อมูลวันเกิดละเอียด  วันที่ เดือน พศ. เวลา จังหวัด

รบกวนอ. ภารตช่วยดูวันเดือนปีเกิดตามเลิงค์นี้ (ตรงด้านบนของเว็บที่เป็นสี่เหลี่ยม)

 

http://uploadingit.com/file/ad0errxj4dwucr8s/aaa.JPG

 

 

-วันเกิดเหตุ

เริ่มฟ้องคดีตั่งแต่ ปี  2544  (ขออภัยจำวันที่ไม่ได้)

-และคดีอะไร

คดีปกครอง  ฟ้องศาลปกครอง

ผมข้าราชการฟ้องหน่วยงาน

ฟ้อง  3 ประเด็น  1.ลดโทษ  2.เลื่อนขั้นเงินเดือน  3.เลื่อนระดับ

-เป็นโจทก์หรือจำเลย 

เป็นโจทก์

-วันที่ศาลตัดสิน 

ตัดสินครั้งแรก ปี 47  (ขออภัยจำวันที่ไม่ได้)

ตัดสินครั้งสุดท้าย ปี  55 

-เวลากี่โมง

ตัดสินครั้งสุดท้าย  วันที่ศาลให้ไปฟัง คือ วันอังคาร  26 มิ.ย. 55  เวลา   14.00 น.  แต่ผมไม่ได้ไปฟัง  

แต่ผมได้ไปขอคัดคำพิพากษาอ่านวันอังคาร  3 ก.ค. 55 ผมอ่านเองเวลาประมาณ   11.00 น. 

-จังหวัดไหน 

ศาลตัดสิน จ.กรุงเทพ

 ขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น คดี วันที่ตอบ 2012-07-11 17:54:08 IP : 202.44.40.3


ความคิดเห็นที่ 3 (2286847)

ดูละเอียดดีแล้ว น่าจะเป็นรองเยอะเชียวคับ  ปลงๆซะคับ  กำลังจะมีโชคก้อนเยอะเชียว

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...แต่ไม่ใช่หวยหรอกคับ วันที่ตอบ 2012-07-14 17:01:11 IP : 118.172.9.253


ความคิดเห็นที่ 4 (2291941)

ขอบคุณ  อ.ภารต  ที่ตอบคำถามให้ครับ 

ผมมีความรู้สึกว่า อ.ภารต  มีความเก่งในหลายด้าน  ด้านหนึ่งน่าจะเป็นกฎหมาย (ถ้าไม่ใช่ขอภัยด้วย)

จึงขออนุญาตเสี่ยงถามทุกท่านที่รู้  และอ.ภารต  ดังนี้

 

ทัณฑ์บนเป็นโมฆะ  ต้องถูกยกเลิกไปใช่หรือไม่  อย่างไร 

 

เรียน  ถามทุกท่านที่รู้ 

ผมฟ้องคดีหน่วยงานที่ศาลปกครอง ตั่งแต่ ปี  2544 

ฟ้อง  3 ประเด็น  1.ลดโทษ  2.เลื่อนขั้นเงินเดือน  3.เลื่อนระดับ 

ปลายเดือน มิ.ย. 55  ศาลปกครองสูงสุดตัดสินผมแพ้ ทั้ง  3  ประเด็น  อย่างน่ากังขา 

ประเด็นต่อสู้ที่สำคัญ  คือ   การละทิ้งหน้าที่ราชการ  หน่วยงานกล่าวหาว่าผมละทิ้งหน้าที่ราชการ 

ซึ่งเมื่อปลายปี  2542  ผมโทรไปถามสำนักนายก   สำนักนายกบอกว่าลักษณะนี้ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการ  เพราะคนป่วยจะละทิ้งหน้าที่ราชการได้อย่างไร   ทัณฑ์ต้องถูกยกเลิกไป 

เรื่องเป็นดังนี้ 

ผมขอลาพักผ่อน ศุกร์ 24   กันยายน 2542    จันทร์  27-พฤหัส30 กันยายน 2542   และวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม  2542

ใบลาพักผ่อนก่อนลา

http://uploadingit.com/file/sdzgo5szmb5okqtc/best_Page_1.jpg

(ขออภัยที่ลบข้อมูลบางอย่างในเอกสารออกไป) 

ใบลาพักผ่อนหลังลา  เพื่อบอกว่ามีการต่อเติมเอกสารใบลา  ตรงช่วงคำสั่ง (วงรีเอาไว้) โดยต่อเติมคำว่า  ในวันที่  24   ก.ย. 42”  (ใบลาพักผ่อนก่อนลา  ไม่มีช่วงคำว่า ในวันที่  24   ก.ย. 42”)

ใบลาพักผ่อนหลังลาไปแล้ว

http://uploadingit.com/file/kgfxthaex0n01ezi/best_Page_2.jpg 

ผู้แสดงความคิดเห็น คดี (anata007-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2012-08-06 15:41:56 IP : 202.44.40.3


ความคิดเห็นที่ 5 (2291943)

ต่อมา  4   ต.ค. 42   หน่วยงานได้บอกให้ผมลาป่วย  ลาป่วยตั้งแต่วันที่  27-30 กันยายน 2542   และวันที่ 1 ตุลาคม  2542   มีกำหนด  5 วัน  เพื่อไม่ให้ผมขาดราชการ  (ประวัติการรับราชการใน 5 วันถูกบันทึกว่าป่วย)   

ใบลาป่วย

http://uploadingit.com/file/dgeswyudhd7b5bsl/best_Page_3.jpg

และ  8   ต.ค. 42     หน่วยงานได้ทำ ทัณฑ์บน

ตรงนี้ขอสาบานว่าเป็นความจริง  คือ

ช่วงที่ถูกเรียกทำทัณฑ์บน  ตัวหัวหน้าได้พูดจาทำนองว่า    ถ้าไม่เซ็นต์ยอมรับ  จะส่งเรื่องให้ระดับกรมดำเนินการต่อไป  (ถ้าเซ็นต์ยอมรับ   จะหยุดเรื่องไว้เท่านี้)  ด้วยความกลัวว่า  ถ้าเรื่องถูกส่งให้ระดับกรมดำเนินการต่อ  จะเกิดการตั้งกรรมการสวบสวน  เรื่องราวจะใหญ่โตและใช้เวลานาน  ผมจึงเซ็นต์ลงไป  ถ้าจุดนั้นรู้ว่า  จริงๆ แล้ว  ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่  ก็จะไม่เซ็นต์ลงไป 

ทัณฑ์บน

http://uploadingit.com/file/c78yfdybykcslies/best_Page_4.jpg

 

ศาลปกครองสูงสุด ตัดสินว่า 

-แบบบันทึกทัณฑ์บนผู้ฟ้องคดีได้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ  ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดบังคับขู่เข็ญ  ถือได้ว่าผู้ฟ้องคดียอมรับว่าได้กระทำผิดจึงได้ทำทัณฑ์บนไว้ สำหรับบันทึกลาป่วยนั้นกระทำขึ้นภายหลังซึ่งเป็นคุณแก่ผู้ฟ้องคดีโดยมีผลทำให้ไม่ขาดราชการเท่านั้น  ไม่มีผลทำให้ทัณฑ์บนใช้ไม่ได้หรือต้องเสียไปแต่อย่างใด  อุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีในส่วนนี้ฟังไม่ขึ้น-

(ผมมีความเห็นว่า  การตัดสินของศาล  ศาลยังไม่คิดไม่ถึงที่สุดของคดี  การคิดที่ถึงที่สุดของคดีต้องคิดเหมือนที่สำนักนายกบอก

จึงทำให้คิดว่าศาลทำตัวเชี่ยวชาญระเบียบการลายิ่งกว่าสำนักนายกอีก

สำนักนายกต้นเรื่องระเบียบการลาบอกว่า ฑัณฑ์ต้องถูกยกเลิกไป (ประวัติการรับราชการถูกบันทึกว่าป่วย  คนป่วยจะละทิ้งหน้าที่ราชการได้อย่างไร)

ศาลตัดสินว่าไม่มีผลทำให้ทัณฑ์บนใช้ไม่ได้หรือต้องเสียไปแต่อย่างใด 

และการที่ศาลบอกว่า   โดยมีผลทำให้ไม่ขาดราชการเท่านั้น    การไม่ขาดราชการ  ก็คือ  ไม่มีการการละทิ้งหน้าที่ราชการ) 

ที่ศาลบอกว่า

-แบบบันทึกทัณฑ์บนผู้ฟ้องคดีได้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ  ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดบังคับขู่เข็ญ  ถือได้ว่าผู้ฟ้องคดียอมรับว่าได้กระทำผิดจึงได้ทำทัณฑ์บนไว้-

ตรงนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในเอกสารในช่วงพิจารณาทั้งในศาลปกครองกลาง  และศาลปกครองสูงสุดเลย  แต่กลับมีอยู่ในคำตัดสินเลย  

ศาลปกครองสูงสุด  จึงเปิดประเด็นขึ้นมาใหม่  โดยไม่ให้ผมแก้ต่างเลย  เพราะตามที่ผมบอกไปแล้ว 

(ตรงประเด็นขึ้นมาใหม่ นี้  จะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมจะให้ศาลพิจารณาใหม่)

ข้อเท็จจริงคือ

ช่วงที่ถูกเรียกทำทัณฑ์บน  ตัวหัวหน้าได้พูดจาทำนองว่า    ถ้าไม่เซ็นต์ไม่เซ็นต์ยอมรับ  จะส่งเรื่องให้ระดับกรมดำเนินการต่อไป  (ถ้าเซ็นต์ยอมรับ   จะหยุดเรื่องไว้เท่านี้)  ด้วยความกลัวว่า  ถ้าเรื่องถูกส่งให้ระดับกรมดำเนินการต่อ  จะเกิดการตั้งกรรมการสวบสวน  เรื่องราวจะใหญ่โต  และใช้เวลานาน  ผมจึงเซ็นต์ลงไป  ถ้าจุดนั้นรู้ว่าจริงๆ แล้ว  ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่  ก็จะไม่เซ็นต์ลงไป   จะเห็นว่า  ผมไม่ได้สมัครใจทำ

ถ้าศาลให้พิจารณาคดีใหม่ผมไม่แน่ใจว่า  ถ้าให้ตัวหัวหน้ามาให้การที่ศาล  ตัวหัวหน้าจะพูดความจริงตามที่บอกไปหรือเปล่า 

ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมชี้แจงในเอกสารให้ศาลปกครองสุงสุด

--ในแบบทัณฑ์บนระบุว่ากระทำผิดหยุดราชการโดยละทิ้งหน้าที่ในการส่งเอกสารงบประมาณในวันที่ 27 กันยายน 2542  หลังจากได้ทำทัณฑ์บน  ต่อมาได้มีการให้ผู้ฟ้องคดีลาป่วยตั้งแต่วันที่  27-30 กันยายน 2542   และวันที่ 1 ตุลาคม  2542   มีกำหนด  5 วัน  ประวัติการรับราชการใน 5 วันถูกบันทึกว่าป่วย    โดยเฉพาะในวันที่  27กันยายน 2542   คนป่วยจะละทิ้งหน้าที่ราชการได้อย่างไร  ทัณฑ์บนจะต้องถูกยกเลิก    เมื่อทัณฑ์บนเป็นโมฆะหรือใช้ไม่ได้  ส่งผลให้การลงโทษภาคทัณฑ์กรณีละทิ้งหน้าที่ราชการในการทำเอกสารงบประมาณ  ต้องถูกยกเลิกเพิกถอน    และเมื่อทัณฑ์บนเป็นโมฆะส่งผลให้การประเมินไม่เลื่อนขั้นและเลื่อนระดับไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย  เพราะไม่มีการละทิ้งหน้าที่ราชการในการทำเอกสารงบประมาณ  ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น

 

และยังอธิบายว่าที่ผมรู้   ผมไม่ได้คิดด้วยตนเอง  แต่ช่วงปลายปี 42  ได้โทรไปถามสำนักงาน ก.พ.   สำนักงาน ก.พ. บอกว่า  สำนักงาน ก.พไม่ใช่ต้นเรื่องระเบียบการลา  แนะให้โทรไปถามต้นเรื่องระเบียบการลา   คือ  สำนักนายก    สำนักนายกบอกว่าลักษณะนี้ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการ  เพราะคนป่วยจะละทิ้งหน้าที่ราชการได้อย่างไร
ผู้แสดงความคิดเห็น คดี วันที่ตอบ 2012-08-06 15:44:37 IP : 202.44.40.3


ความคิดเห็นที่ 6 (2291944)

คำถาม 

1. ทัณฑ์บนเป็นโมฆะ ตาม ม.156  ประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์   หรือไม่  อย่างไร

-มาตรา 156 การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญ แห่งนิติกรรมเป็นโมฆะ
ความสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ความสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรม ความสำคัญผิดในตัว บุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรม และความสำคัญผิดในทรัพย์สินซึ่ง เป็นวัตถุแห่งนิติกรรม เป็นต้น-

ในกรณีของผม  เป็นความสำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญ  คือ  คิดว่าตัวเองละทิ้งหน้าที่  ซึ่งเมื่อปลายปี  2542  ผมโทรไปถามสำนักนายก   สำนักนายกบอกว่าลักษณะนี้ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการ  เพราะคนป่วยจะละทิ้งหน้าที่ราชการได้อย่างไร    ถ้าจุดนั้นรู้ว่าจริงๆ แล้ว  ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่  ก็จะไม่เซ็นต์ลงไป  

 

อีกประเด็นที่ผมคิดว่าทัณฑ์บนเป็นโมฆะ  คือ  เนื้อหาในทัณฑ์บนเป็นเท็จ  เพราะบอกว่าผมละทิ้งหน้าที่ราชการ  แต่ผมไม่ได้ละทิ้งเพราะป่วย   กรณีนี้เข้าข่ายทัณฑ์เป็นโมฆะ  ตามม.156    นี้หรือไม่  อย่างไร   หรือเข้าข่ายตามมาตราอื่น ๆ (มาตราไหน)

 

2. ทัณฑ์บนเป็นโมฆะ ตาม การขมขู่  หรือไม่  อย่างไร

ผมงงตามที่ศาลตัดสินว่า ที่ศาลบอกว่า

-แบบบันทึกทัณฑ์บนผู้ฟ้องคดีได้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจ  ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดบังคับขู่เข็ญ  ถือได้ว่าผู้ฟ้องคดียอมรับว่าได้กระทำผิดจึงได้ทำทัณฑ์บนไว้-

แสดงว่า  ถ้ามีผู้ข่มขู่   จะเป็นโมฆะใช่หรือไม่   อย่างไร   ตรงนี้ใช้  มาตราไหนของประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์    

เพราะการข่มขู่ตามที่ผมศึกษาเอาเอง  ตาม  มาตรา 164 ทำให้เป็นแค่โมฆียะ   และถ้าทำให้เป็นแค่โมฆียะ    แล้วจะทำให้เป็นโมฆะต่อได้อย่างไร

(มาตรา 164 การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่เป็นโมฆียะ
การข่มขู่ที่จะทำให้การใดตกเป็นโมฆียะนั้น จะต้องเป็นการข่มขู่ ที่จะให้เกิดภัยอันใกล้จะถึง และร้ายแรงถึงขนาดที่จะจูงใจให้ผู้ถูก ข่มขู่มีมูลต้องกลัวซึ่งถ้ามิได้มีการข่มขู่เช่นนั้น การนั้นก็คงจะมิได้ กระทำขึ้น)

 

3. หาเอกสารจากศาลฎีกา

การให้ศาลปกครองพิจารณาใหม่  ต้องหาหลักฐานที่เด่นชัด เช่น  คำตัดสินของศาลฎีกา

พอจะมีท่านไหนทราบคำตัดสินของศาลฎีกาในอดีตที่มีลักษณะคล้ายกับกรณีของผมไหมครับ  ถ้าทราบช่วยตอบด้วย

(ผมเคยค้นคำตัดสินของศาลฎีกาทางเน็ต  ยังค้นไม่เจอ)

 

เรื่องที่เล่ามายาวมากต้องขออภัยด้วยครับ

ขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น คดี วันที่ตอบ 2012-08-06 15:46:15 IP : 202.44.40.3



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.