คุณขี้โม้หรือเปล่า (วิธีดูว่าใ...

คุณขี้โม้หรือเปล่า (วิธีดูว่าใครขี้โม้)
คลิกที่นี่เพื่อศึกษาความขี้โม้
ผู้ตั้งกระทู้ อธิ :: วันที่ลงประกาศ 2009-07-16 17:27:41 IP : 58.9.60.50

[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1963654)
อิอิ...ของผมน่ะ เข้า ทั้ง อาทิตย์ และ เมษ/พุธ เชียว
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...อุ๊ยตายจริง...เพิ่งจะค้นพบตัวเอง วันที่ตอบ 2009-07-16 20:06:59 IP : 118.172.58.22

ความคิดเห็นที่ 2 (1963686)

    อาทิตย์บวกอาพอลลอน    ลบพุธ
คุยโตโม้ที่สุด                     ก็ได้
นักพูดเขียนเยี่ยมยุทธ          ใช่อีก
เก่งภาษานิรุติให้                 ชนชอบ เลื่องลือ

คัมภีร์สูตรพระเคราะห์สนธิ . พลตรีประยูร พลอารีย์ , มิตรเจริญการพิมพ์กรุงเทพ .หน้า 213

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...concyclic order วันที่ตอบ 2009-07-16 20:55:44 IP : 118.172.58.22

ความคิดเห็นที่ 3 (1963704)
ของผมเข้าลัคนา/อาทิตย์ อาทิตย์/ราหู เท่ากับ โครโนส วัลคานุส พุธสะท้อน และจุดศูนย์รังสีเจ้าชะตาอีกหลายคู่ ด้วยแฮะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ว่าตามที่เห็นในดวงคับ วันที่ตอบ 2009-07-16 21:58:03 IP : 61.90.70.32

ความคิดเห็นที่ 4 (1963726)
คิๆสูตรดาวน่าสนุก.. จุดโม้แตกตามสูตร อท+อพ-พธ = เมษ/อท = พธ = -พซ ยังงี้เข้าข่ายโม้แหลก =v1 SU/MO = -นป v1 อีกตะหากปีนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น JigSaw..ไม่ได้โม้..นะ วันที่ตอบ 2009-07-16 23:10:15 IP : 112.143.59.247

ความคิดเห็นที่ 5 (1963734)
แมงโม้บินว่อนเอ่ย วาจา กล่อมสาวเอื้อนมุสา อ้อล้อ สัปปะลีวอกนักหนา กะล่อน เข้าข่ายบ้างไหมหนอ ตัวเอ๋ย ตัวเรา?
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...แต่บางที่เขาก็เปรยๆว่าเป็น วันที่ตอบ 2009-07-16 23:29:40 IP : 118.172.58.22

ความคิดเห็นที่ 6 (1963776)
เกิดมาก้อยังมะเคยตรวจจุดนี้เล้ยย..อิอิ
ผู้แสดงความคิดเห็น ^^ ..โม้จนสาวๆๆเลิกหลง? วันที่ตอบ 2009-07-17 06:15:54 IP : 116.58.231.242

ความคิดเห็นที่ 7 (1963899)
ตรวจสูตรขี้โม้=อาทิตย์สะท้อน แปลว่างัยดีดับ
ผู้แสดงความคิดเห็น มีกะเขาอีกแระ วันที่ตอบ 2009-07-17 10:57:33 IP : 58.9.152.55

ความคิดเห็นที่ 8 (1963919)
ชาวบ้านเขาเห็นว่า เราโม้ อ้างอวดกร่างคุยโต มากแท้ แต่เราคิดว่าโอ้ แค่บ้าง!! ตามดวงบอกเราแท้ จากหลาย มุมมอง
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ตอบ คห.7 วันที่ตอบ 2009-07-17 11:18:30 IP : 118.172.103.200

ความคิดเห็นที่ 9 (1963964)
คนที่บอกว่า "ไม่ได้โม้" นั่นแหละขี้โม้สุดๆ (ว่านักมวยนะ ไม่ได้ว่านักโหราศาสตร์)
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านไปผ่านมา วันที่ตอบ 2009-07-17 12:35:30 IP : 203.114.104.116

ความคิดเห็นที่ 10 (1963982)
เรื่องโม้น่ะเป็นเรื่อง สีสรร ตีไข่ใส่สีนั้น มีบ้าง แทรกสอดอารมณ์ขัน comedy ใช่มุสาทุจริตอ้าง แค่กุ สโลบาย นักมวยนักชกทั้ง ตัวโหร มีบ้างน่ะโชกโชน เรื่องโม้ วาจาสุสำรวม ยากเด่น จับกระแสเล่นตอบโต้ ชิงแย่ง มวลชน
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ก็ว่ากันไป วันที่ตอบ 2009-07-17 13:01:46 IP : 118.172.103.200

ความคิดเห็นที่ 11 (1964193)

โม้หรือไม่โม้ไม่เท่าไหร่ มันสำคัญที่ว่า จุดนี้ของคุณเป็นอย่างไร ....

ne+po-ju นั่นหมายฟามว่า คุณมีพรสวรรค์ทำให้เขาเชื่อในสิ่งที่คุณโม้มากน้อยแค่ไหน...

...บางคนก็เข้าเนปจูนจ๋าเลย แล้วคนอื่นจะเชื่อไหมเนี่ย...

ผู้แสดงความคิดเห็น จูจุ๊บ วันที่ตอบ 2009-07-17 22:18:25 IP : 118.172.54.188

ความคิดเห็นที่ 12 (1964210)

คุณจูจุ๊บคือสงสัยที่คุณบอ กว่า บางคนก็เข้าเนปจูนจ๋าเลย อย่างนี้แปลว่าอะไรครับ อ้อแล้วบางคนเข้าเสาร์ล่ะครับแปลว่าอะไร

ช่วยบอกหน่อยจะได้เก็บไว้เพื่อเป็นความรู้(เก็บไว้ใช้เพื่อจะได้ทันคน)

ผู้แสดงความคิดเห็น อยากรู้ วันที่ตอบ 2009-07-17 23:21:16 IP : 125.24.219.68

ความคิดเห็นที่ 13 (1964220)
เข้าเสาร์ก็ยิ่งปายกานหย่ายนะซิ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นโหรที่ทำมาหากินในเชิงพาณิชย์แบบที่เขาทำกานไม่ได้ละมั้ง
ผู้แสดงความคิดเห็น จูจุ๊บ วันที่ตอบ 2009-07-17 23:50:51 IP : 118.172.54.188

ความคิดเห็นที่ 14 (1964221)
คุณหอยขมจูจุ๊บ โปรดเฉลย คุณอยากรู้เขาเอื้อนเอ่ย ช่วยแก้ โต้โผก็อย่างเคย จัดให้ เรื่องนี้เป็นไงแน่ จูจุ๊บ บอกเร็ว
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต....เอ้าช่วยตอบหน่อย วันที่ตอบ 2009-07-17 23:51:18 IP : 118.172.37.115

ความคิดเห็นที่ 15 (1964224)
คุณจูจุ๊บช่วยเฉลยทีเถอะ อยากรู้จริง ๆจะได้เก็บไว้เป็นความรู้เอาไปสอนลูกหลานให้ทันคน
ผู้แสดงความคิดเห็น อยากรู้ วันที่ตอบ 2009-07-17 23:59:28 IP : 125.24.219.68

ความคิดเห็นที่ 16 (1964225)
ปาดหน้าแค่หลักวิ นาที ตอบแล้วฟังคล้ายมี ต่อเรื่อง โม้วาทะวาที ตามจริต วิชาการสติเฟื่อง ติงต๊อง โหรา
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...อิมัง เลขะสมุทยัง กริถามิ ยถาพลัง วันที่ตอบ 2009-07-17 23:59:37 IP : 118.172.37.115

ความคิดเห็นที่ 17 (1964598)

มองอีกมุมนะครับ กรณีที่เป็นพระเคราะห์สนธิแท้ โดยมีจุดเจ้าชะตาเป็นแขนข้างหนึ่ง เช่น SU/AP=ME แปลงเป็นจุดอิทธิพลจะได้เป็น SU+AP-ME=ME ย้ายข้างสมการอีกทีจะเป็น SU=ME+ME-AP

พุธ+พุธ-อาพอลลอน : ความคิดทางวิทยาการ ความรู้ทางภาษา ความคิดหมกมุ่นอยู่กับการค้าและการหาเลี้ยงชีพ

คนนี้อาจไม่ขี้โม้ก็ได้ อาจเป็นพวกมีวิซั่นทางการค้าแทน แล้วก็คือ ME+ME-AP=SU แล้วเท่ากับอะไรต่ออีกด้วย พวงใหญ่ๆพวงหนึ่ง ที่จะต้องเอาแปลรวมเข้าไป

คำว่า to brag นี่บางทีแปลไทยแล้วตีความยาก ที่จริงน่าจะหมายถึง การอวดอุตริมนุสธรรมที่มีในตน คือมี แต่อวดคุยโต ไม่ใช่ไม่มีแล้วอวด เพราะรู้สึกว่าทั้ง ME กับ AP นี่ไม่ใช้บาปเคราะห์แต่อย่างใด ไม่น่าจะแสดงผลทางด้านร้าย เป็นได้อย่างหนึ่งก็คือมาก over เกินไปเท่านั้นเอง

อย่างสีแดง 2 คนนั้นน่าเข้าข่าย HA+ZE-ME ซะมากกว่า เพราะอยู่ในวัยที่สมการแสดงผลทั้งคู่ โดยเฉพาะรายหลัง เอิ๊กๆๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...อันนี้เป็นการใช้ ne+po-ju รึเป่าเนาะ วันที่ตอบ 2009-07-19 09:30:20 IP : 202.176.96.5

ความคิดเห็นที่ 18 (1964639)

ท่านมาแว๊วเนี่ยอธิบายได้ถูกใจจริงๆคับ พระเคราะห์สนธินั้น ในกรณีจุดอิทธิพล ที่ถือว่าแท้ว่าครบวงจรนั้น ต้องอยู่ในรูปของปัจจัย (A+B)/2 = ดาว หรือ จุดเจ้าชะตาเดี่ยว เท่านั้น จึงจะแรงและใช้งานได้จริงๆ ตามปรัชญาของยูเรเนียนที่ว่า ระยะกึ่งกลางของปัจจัย 2 ปัจจัย ให้ถือว่า มีความหมายเฉกเช่น ปัจจัยทั้งสองนั้นที่กลมกลืนกัน และให้ถือเสมือนว่า ตำแหน่งตรงนั้นเป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่ง โดยกำหนดให้เรียกว่า ศูนย์รังสี และเมื่อใดก็ตามมีปัจจัย หรือศูนย์รังสี มาสถิตย์ ณ ตำแหน่งนี้ให้ถือว่า เป็น การเข้ารูป ( Planetary ) ซึ่งเป็นที่มาของ จุดอิทธิพล

ทีนี้ ในกรณีที่ มีปัจจัยเดี่ยว ไปทำมุมสัมพันธ์แรงกับ ศูนย์รังสีที่ว่านี้ มาในสมการ C = (C+C)/2
ดังนั้น ( A+B )/2 = ( C+C )/2 ตัด 2 ข้างล่างทิ้งทั้ง 2 ข้าง จะได้ A+B = C+C ทำให้เป็นการเข้ารูป จุดอิทธิพล A+B-C = C ในสำนักท่านปรมาจารย์จรัญ พิกุล ท่านเรียกว่า ดาวเข้ารูป สำนักอื่นเรียกว่า ครบวงจร

ในดาวเข้ารูปนี้ ยังแบ่งความแรงออกเป็น 4 แบบ ในกรณีของจาน 360 องศา แบ่งแบบอื่นเป็นเรื่องย่อยออกไป

โดยแบ่งเป็นมุมสัมพันธ์ 0 , 180 , 90หน้า , 90 หลัง , 45 หน้า , 45 หลัง , 135 หน้า และ 135 หลัง

ซึ่งในการแปลนั้น แต่ละมุม ให้ความหมายเหมือนกันโดยเนื้อหา แต่ต่างกันโดยนัยยะอย่างสิ้นเชิง คนละเรื่องเลย

ในหนังสือคำแปลนั้น ท่านให้ใช้ในกรณีที่ A+B-C = C ในมุม 0 และ 180 เท่านั้น ซึ่งให้ผลในด้าน Active ทำเอง หรือ Passive ถูกทำ ซึ่งยังต้องคงพิจารณาต่อไปอีกว่าจะใช้แปลแบบไหน

ไม่ใช่ยกลอกข้อความใน พระเคราะห์สนธิ ฉบับฝรั่งภาษาไหนหรือใครแต่ง มาทั้งดุ้นให้อ่าน แล้วมาบอกว่านี่ไงเขาว่ายังงี้แล้วว่าแม๊นแม่นน่ะ ตูข้าจบแล้วยูเรเนียนง๊ายง่าย โหย...?+!! 555

ตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พวกเยอรมันก็คิดแบบนี้แหล่ะคับ ฮิตเลอร์ถึงสั่งเผาตำราโหรเยอรมันรุ่นเก่าๆ แบบอหังการ์ พอถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนหลังถึงรู้ซึ้งว่าไม่ใช่ จนเกิดโศกนาฏกรรมในวงการโหรยูเรเนียนตามประวัติศาสตร์โหรายูเรเนียนที่เราๆท่านๆได้รับรู้กัน

นี่เฉพาะปัจจัยเดี่ยวเข้ารูปนะ ศูนย์รังสีเข้ารูปยิ่งไปกันใหญ่....

มันมากกว่าที่นึก มันลึกกว่าที่คิด มากมายนัก

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...มะพร้าวห้าวขายสวน วันที่ตอบ 2009-07-19 12:04:35 IP : 118.172.95.97

ความคิดเห็นที่ 19 (1964672)

   นักมวยอวดโม้นั้น    ปลุกใจ
อีกทั้งขว้างข่มใส่        คู่สู้
ทั้งเรียกความสนใจ     ให้ติด   ตามนา
เชื่อกึ๋นตนเองรู้           เชื่อมั่น มือตน

   โหรโม้สร้างกระแส     พานิช
ตีไข่ใส่สีชนิด               สื่อชอบ
ดังชั่วแปบเดียวจิ๊ด         จุดติด
พอทายไม่รอบคอบ         คล้ายปิ๊บ   ครอบกบาล

   นักการเมืองมีโม้          หลายแบบ
โม้เวทีเสียงแหบ            ชนชอบ
โม้สภาสร้างสีแสบ          ชนติด
โม้สุดโวหารรอบ            ทำแย่   เสียคน

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...นี่ผมเองก็ครอบปี๊บไว้หลายใบแล้ว วันที่ตอบ 2009-07-19 13:19:46 IP : 118.172.95.97

ความคิดเห็นที่ 20 (1964720)

อืม...อ่านแนวคิดสำนักนี้เข้าทีแฮะ....โม้ฝห้ฟังก็จริงแต่มีเนื้อหาสาระ..มีเหตุ...มีผล

ขอคาระวะ 1 จอก

ผู้แสดงความคิดเห็น จูจุ๊บ วันที่ตอบ 2009-07-19 15:54:56 IP : 118.172.95.238

ความคิดเห็นที่ 21 (1964832)
บ้างน้ำบ้างเนื้อบ้าง ออกกวน บ้างสำนวนยียวน ล่อแข้ง เจตนาสุจริตชวน เรียนรู้ วิทยาการโหรแจ้ง แนว-จรัญ พิกุล
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เกรงใจที่จะน้อมรับ วันที่ตอบ 2009-07-19 23:25:57 IP : 118.172.94.248

ความคิดเห็นที่ 22 (1964903)
มีบางอย่าง ข้าพเจ้าเรียกว่า กลลวงทางคณิตศาสตร์ ซึ่งหากไม่ดูให้ดีจะตีความผิดได้ เช่น A+B-C=A หรืออย่างกรณีนี้คือ SU+AP-ME=SU หากถอดสมการดีๆ จะพบว่าที่จริงมันคือ B=C หรือ กรณีนี้จะเป็น AP=ME หรือ AP-ME=AR หรือ AR+AP-ME=AR ก็ได้ อย่างนี้จะพูดว่าคนนี้มีจุด SU+AP-ME ก็คงจะไม่ได้เช่นกัน ยกเว้นว่ามันจะไปเท่ากับจุดเจ้าชะตาอื่นๆอีก (คงพูดได้แต่เพียงว่าเขามี AP=ME เท่านั้นเอง แล้วพิจารณาต่อว่ามันไปถึงอะไรอีก) หรือแม้แต่ NE+PO-JU นี่ด้วย ก็อีกตัวอย่าง เพราะท้องฟ้าตอนนี้ JU กุม NE ดังนั้น จุด PO มันก็คือจุดเดียวกับ NE+PO-JU นั่นเอง อย่างนี้จะตีความว่าจุดนี้หมายถึง NE+PO-JU ก็ไม่ได้ เพราะมันคือ PO เพียวๆ ซะมากกว่า หากจะใช้สมการ 3 ดวงนี้ก็ต้องไปใช้ JU/NE//PO หรือ JU/PO//NE หรือ JU+NE-PO ซึ่งมันอยู่คนละจุดกับ PO ซึ่งคำแปลอาจมีข้อแตกต่างกันบ้าง ขึ้นอยู่กับมุมมองว่าตั้งอะไรหลักอะไรรอง พฤหัส+เนปจูน-โพไซดอน : โชคและความสุขในด้านปัญญาอันละเอียดอ่อน ความสุขอันเกิดจากสิทธิหรือเหตุผลหรือจากสติปัญญาหรือจากความเฉลียวฉลาด พฤหัส.โพไซดอน.เนปจูน : การมีเหตุมีผลถึงเรื่องที่สูงๆ ความรู้สึกละเอียดอ่อนสำหรับความยุติธรรมและความถูกต้อง สังหรณ์หรือสามารถเห็นความจริงทางอภิปรัชญา คือในทางคณิตศาสตร์นั้นคำนวณได้ แต่ทางปรัชญาจะเอามาใช้มันก็ยังไงอยู่(ยกเว้นมีเงื่อนไขพิเศษบางอย่าง) เพราะโหราศาสตร์ไม่ใช่คณิตศาสตร์ เราเพียงเอาวิธีการทางคณิตศาสตร์มาขยายมุมมองให้ง่ายต่อความเข้าใจมากขึ้น
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...ไร้สำนักไร้กระบวน แต่ไม่ไร้ใจ วันที่ตอบ 2009-07-20 08:36:16 IP : 202.176.96.43

ความคิดเห็นที่ 23 (1965071)
อย่างกับอ.จตุพล หรือ นายโน๊ต(อุดม) และหลายๆท่านที่เป็นนักพูดสนุกสนาน จะถือว่าโม้หรือเปล่า กับนักวิชาโฆษกละคับ
ผู้แสดงความคิดเห็น มันเริ่มจะงง...งง...ครับ วันที่ตอบ 2009-07-20 12:27:05 IP : 58.9.228.2

ความคิดเห็นที่ 24 (1965092)
พ้นสำนักกระบวนท่า กรอบพ้น ขยายวิศว์สู่ปวงชน แผ่ทั่ว น้ำใจประเสริฐล้น นับถือ จุ่งเปรื่องใสปลอดสลัว ปราชญ์แก้ว โหรา
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...คารวะให้ 3 จอก วันที่ตอบ 2009-07-20 12:46:45 IP : 118.172.101.131

ความคิดเห็นที่ 25 (1965101)

     โหราโม้เนปจูนจุ่ง     ระวัง
ทินวรรษนี้ดวงขลัง         บ่งชี้
อังคารศุกร์จะพาพัง        เดือนหน้า
เสาร์จรเล็งศุกร์บี้            วิวาท   ร้อนเงิน

      รักซ้อนซ่อนรักซ้ำ    ใหลหลง
ลับแตกตัดไม่ลง            กลุ้มบ้า
งอนง้อระเบิดตรง           วงแตก
ระวังหน่อยก็ดีจ้า            อิอิ๊   แกล้งคน!!

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ปล่อยของลองวิชาเล่น วันที่ตอบ 2009-07-20 13:06:33 IP : 118.172.101.131

ความคิดเห็นที่ 26 (1965140)

อืม...สะดุดใจข้อความของคุณมาแว๊วครับ ประเด็นนี้ผมช๊อบ..ชอบ เรื่องของสมการนี่พิสูจน์ให้ประจักษ์ง่ายกว่าเรื่องอื่นๆแล้วก็สนุกดีด้วย ไม่ได้เก่งเรื่องนี้หรอกครับค่อยๆคิดไป คิดผิดบ้างรึเปล่าไม่รู้ เรื่องของสมการที่ลวงตาอยู่นั้นเป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียวครับ อันที่จริงผมทดลองสมการเดียวกันนี้แล้วด้วย ทั้งเท่ากับ A เท่ากับ B และเท่ากับ C ตอนนั้นเลยกะอยู่ว่าจะหาสมการอื่นๆมาบันทึกไว้อ่านเล่นเองสนุกๆ เอาไว้เตือนใจ แต่ก็ยังไม่ได้ทำ แล้วก็ลืมไปเลย (ยิ่งตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่อยู่ในช่วงเลี้ยงเด็กน้อยอยู่เลย อิอิ)

ก็เลยอยากชวนท่านมาแว๊ว และอ.ภารต แตกประเด็นไปเล่นเรื่องสมการกลลวงประมาณนี้น่ะครับ อยากทราบว่าเจอเรื่องแบบนี้กับสมการรูปแบบอื่นมั่งมั๊ยครับ หรือเรื่องอื่นๆทำนองกลสมการแบบนี้ก็ได้ จะตั้งกระทู้ใหม่เลยก็ได้ครับเผื่อยาว อยากอ่านมากได้มั๊ยได้มั๊ย

A+B-C = A -------> B = C
A+B-C = B -------> A = C
A+B-C = C -------> A/B = C

ผู้แสดงความคิดเห็น holis...พ่อลูกอ่อน วันที่ตอบ 2009-07-20 14:11:05 IP : 124.121.225.84

ความคิดเห็นที่ 27 (1965368)

โหราศาสตร์สากลยูเรเนียน นี่มันแปลกนะคุณ คณิตศาสตร์พีชคณิตลงลึกก็ว่าไปได้หลายชั้นเชิง แต่...มีแต่ คือว่าเราต้องแยกให้ออก ระหว่าง ปรากฎการณ์ทางดาราโหราศาสตร์ กับ จินตคณิตเชิงตรรกะ ในเชิงของการแปลความหมาย คือ เป้าหมายเรามุ่งที่จะนำไปใช้ในการหาความเป็นไปได้ในเชิงมิติเวลาว่า ณ เวลาดังกล่าว โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ ณ สถานที่นั้น หรือ กับบุคคลหรือปัจจัยที่มุ่งประสงค์ ว่ามีความเห็นไปได้สูงเท่าใด อันนี้คือจุดมุ่งหมายของเทคนิคโหราศาสตร์

กลลวงสมการที่ว่านี้ จริงแท้แล้วยังไม่ใช่ปรากฎการณ์ เพราะไม่ได้นำเรื่องเหล่านี้เข้ามาด้วยคือ ลักษณะการโคจร เช่น พักร์หรือมนท์หรือปรกติ และ อาการปัดเหนือปัดใต้ ในแนวระนาบ หรือ declination รวมไปถึง คุณะ ราศี เรือนชะตา เพศ ธาตุ มุมสัมพันธ์ ขั้ว แกน ฯลฯ

เพราะฉะนั้นมันจะไม่จบแน่นี้ คับ

ทางตรรกะคณิตศาสตร์บริสุทธ์ทางทฤษฎีนั้นหรือ Pure Mathmatics ยังไปได้อีกมาก โดยเฉพาะทาง Harmonic และการใช้จานคำนวณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังมีมากกว่าที่นึก มีลึกกว่าที่คิด วันที่ตอบ 2009-07-20 19:07:17 IP : 118.172.56.195

ความคิดเห็นที่ 28 (1965424)

ขอบคุณที่ชี้แนะครับ ไม่ได้ลืมนึกถึงเรื่องนั้นหรอกครับอาจารย์ แต่อยากจะชวนสนุกกับพวกสมการลดรูปน่ะครับ เอาแบบที่พอมองเห็นสมการยาวๆแล้วมามองสมการที่ลดรูปแล้ว ก็จะเกิดอาการว่า "อืม...เออ...นะ มันเป็นไปได้อย่างนั้นเลยเชียว" หรืออาจได้มุมมองว่ามันจะนำมาใช้ได้อย่างไร มันเวอร์คเพราะอะไร และเผื่อว่าจะช่วยในการพิจารณาเทน้ำหนักคำพยากรณ์ไปทางใด หรือให้น้ำหนักกิจกรรมทดแทนไปที่ปัจจัยอะไรมากกว่าอะไรได้อย่างถูกต้อง อะไรทำนองนี้น่ะครับ

ส่วนการจะนำเอามุมมอง หรือคุณค่า คุณสมบัติของปรากฏการณ์ในมุมมองอื่นๆ มาประกอบเป็นคำพยากรณ์นั่นมันก็คงเป็นเรื่องยาว เห็นด้วยกับที่อาจารย์ว่ามาทุกประการครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น holis วันที่ตอบ 2009-07-20 21:19:33 IP : 124.121.225.84

ความคิดเห็นที่ 29 (1965474)

เล่าเอาไว้ให้ฟังเฉยๆแหล่ะคับ เพราะว่า ในทางปฏิบัติจริงนั้น เราจะเจอปัญหามากมาย ไหนจะจุดปัจจัยอื่นมาเข้าร่วม ทั้งปัจจัยเดี่ยว ปัจจัยเดี่ยวสะท้อน (ซึ่งสำคัญมากเป็นเรื่องเด่นของยูเรเนียน ซึ่งปัจจุบันหาคนเล่นได้น้อยตัวลงมากเลยซึ่งก็แปลกใจในกรณีนี้อยู่เหมือนกันคับ ) ศูนย์รังสีจริง และศูนย์รังสีสะท้อน รวมไปถึง มุมที่เข้าทำ ตามโปรแกรมมักจะใช้เรียงลำดับตามพระเคราะห์ใกล้ไกล แต่ในทางเทคนิคพิจารณาออกคำพยากรณ์ กับต้องเรียงลำดับตาม ความแรงของมุม อีกทั้งระยะวังกะ ซึ่งสำคัญมาก ในทางปฎิบัติจริง 1 องศาวังกะนั้น ในจานคำนวณแบบมุม 90 45 22.30 ต้องเห็นสนิท จริงๆ ไม่ใช่ว่าตามโปรแกรมที่ดึง list ขึ้นมา

ปัญหาของจุดปัจจัยก็เช่นกัน บางทีเห็นว่ายูเรเนียนมีการใช้ดาวทิพย์ ก็ใช้กันตะพึ่ด ลากดาวทิพย์มาเล่น เพื่อจะเอามาอธิบายในสิ่งที่ตนเองต้องการจะพรรณา พอดาวทิพย์ที่มีอยู่ไม่สะใจ เอาวะ มีอะไรมาใส่ได้อีกบ้างเพื่อจะปิดรูรั่ว...อ่ะ นี่เลย พระเคราะห์น้อยไงมีอีกได้สารพัด ละเลงจนลืมดาวจริง พุธไม่เอา จันทร์ไม่เล่น มฤตยูไม่รู้จัก อาทิตย์ไม่เป็น ลืมหมดแล้ว หรือไม่เคยรับรู้ว่าเค้าใช้กันยังไง คิดกันง่ายๆว่า พฤหัสโชคดี เสาร์โชคร้าย ศุกร์ความรัก แต่กับดาวทิพย์ใช้ขยี้ละเอียดลออ

มิหนำซ้ำ จุดอิทธิพลลากมายาวเหยียดราวกับเส้น ดีเอ็นเอ โดยไม่ดูการคล้องรับของ ศูนย์รังสี และศูนย์รังสีสะท้อน

และรวมไปถึง จุดเจ้าชะตา ทั้งเดี่ยว และเดี่ยวสะท้อน รวมไปถึงจำแนกแยกแยะไม่ออกของความหมายจริงๆระหว่าง จุดอิทธิพลเจ้าชะตา และจุดอิทธิพลเจ้าชะตาสะท้อน

ที่สำคัญคือปัญหาการแยกไม่ออก ของสิ่งที่จะพยากรณ์ เช่น พยากรณ์มนุษย์ ก็ไม่รู้ว่า มนุษย์คืออะไร ในมุมมองโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน จะพิจารณามนุษย์ในแง่ไหนได้บ้าง จะพูดถึงกายพูดถึงสุขภาพ ต้องเริ่มอย่างไหนทายอย่างไร ในมุมมองมิติใด หรือจะพูดถึงจิต ซึ่งในโหราศาสตร์นี้ มีหลายระดับมาก และมีหลายมิติ ด้วย เข้าใจกันในระดับไหน และถ้าเข้าใจแล้ว จะเอาโหราศาสตร์สากลยูเรเนียนไปใช้อย่างไร เริ่มจากตรงไหน ยังไง

นี่แค่ มนุษย์เองนะยังไม่พูดถึงปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ ถ้ายิ่ง เหตุการณ์ เวลา มิติต่างอีกมากมายมหาศาล ทั้งที่เกี่ยวกับคนและไม่เกี่ยว ยิ่งไปกันใหญ่

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...โม้น้ำลายแตกฟอง..ฟอดๆ วันที่ตอบ 2009-07-21 00:03:43 IP : 118.172.53.34

ความคิดเห็นที่ 30 (1965483)
เรื่องสมการลดรูปนั้น มันก็คิดกันได้เยอะคับ แต่ในทางยูเรเนียนเขาลดรูปไปในจานคำนวณแบบต่างๆแทน โดยเฉพาะจาน 3.45 แบบสองชั้นน่ะ บางท่านยังเข้าใจจานคำนวณผิด หรือแยกไม่ถูกเลย บางทีเห็นแค่ ดวงซ้อนสองหรือสามวง คือ ดวงกำเนิด ดวงวีและดวงทรานสิต ในแบบ 90 องศา หรือ 22.30 องศา ก็นึกว่า นี่แหล่ะเป็นจานคำนวณ 2 หรือ 3 ชั้นแล้ว ซึ่งไม่ใช่คับ คนละเรื่องกัน แต่ก็มีคนรู้จริงเอามาใช้แทนได้ ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะใช้เป็นแล้ว แต่คนที่มาศึกษารุ่นหลังไม่รู้จักคับ เยอะด้วยสิ และใช้ไม่เป็นตามคุณสมบัติที่มันพึงมีในความสามารถ บางทีมาถามผมซึ่งเป็นคนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ คุยกันไปคนละทิศละทางในเรื่องเดียวกัน จะขัดคอก็กลัวเสียมารยาท เลยเออๆคะๆ ตามน้ำไป ยิ่งถ้าพื้นฐานโหราศาสตร์สากลไม่แน่นมาก่อนแบบมาตรฐานซัดแต่ยูเรเนียนตามที่เข้าใจอย่างเดียว มันก็จะไปกันใหญ่ เลยกลายเป็นว่า ต่างคนต่างเรียนต่างคนต่างศึกษากันไป ได้เท่าไหร่เท่านั้น อ่านทุกวันสำเร็จทุกวัน แต่ก็ต้องใจนักเลงเปิดรับสายอื่นเขาบ้าง บางทีปัญหาที่วนอยู่นั้น สำนักอื่นเขาคิดได้ข้ามพ้นไปนานแล้ว ก็ต้องไปตามเรียนเอามาอันไหนดีมีเหตุมีผลก็รับไว้ขยายต่อ นานๆเยอะๆเข้า ความรู้แยกแยะก็จะคิดได้เอง แยกแก่นแยกกระพี้ได้เอง ถ้าล้างอัตตาและเทน้ำชาในถ้วยออกให้ว่างๆซะบ้าง
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ยังอ่านทุกวันเรียนทุกคืน วันที่ตอบ 2009-07-21 00:30:00 IP : 118.172.53.34

ความคิดเห็นที่ 31 (1965702)
เรื่องแบบนี้ ทำให้นึกถึงนักคณิตศาสตร์ท่านนึง John Nash ผู้คิดค้นทฤษฎีเกม จนได้รับรางวัลโนเบล แต่ตัวเองกลับเป็นโรคประสาทหลอน(paranoid chizophrenia) ที่เอามาสร้างเป็นหนังเรื่อง A Beautiful Mind ในหนังเจ้าตัวหมกมุ่นอยู่กับการถอดรหัส ซึ่งตัวเองคิดว่าได้รับมอบหมายจากนายทหารราชการลับ(ซึ่งไม่มีตัวตนจริง) และได้รับแรงบรรดาลใจจากเพื่อนและเด็กน้อย(ซึ่งไม่มีตัวตนจริงเช่นกัน) หากมัวเอาแต่ถอดสมการมากเกินไป ข้าพเจ้าก็กลัวว่าตัวเองจะมี A Beautiful Mind ขึ้นมามั่งน่ะสิ เราถอดสมการเพื่อให้เกิดมุมมองที่ง่ายขึ้น ไม่ใช้ซับซ้อนขึ้น เหมือนหา ครน. หรม. มีอันนึงเท่าที่เห็น ว่ามันกลายเป็นซับซ้อนขึ้นเช่น At + Bv = Br ทำไมไปถอดเป็น At/Bv=Br แทนที่จะเป็น At = Bv2 หรือ At = Br -V แทนล่ะ ก็ให้ความหมายไม่ต่างกันเลย(คำแปลจาก 2 ปัจจัยเช่นกัน) เพราะปัจจัยจรทรานสิต+โค้ง = ปัจจัยกำเนิด ก็คือ ปัจจัยจร = ปัจจัยกำเนิด -โค้ง นั่นเอง ไม่จำเป็นต้องสร้างศูนย์รังสีขึ้นมาแต่อย่างใด และไม่จำเป็นต้องคำนวณดวงจรใหม่ก็ได้ เพราะไทยเรามี V2 ให้ใช้อยู่แล้ว(ปรับมุมมองตัวเองนิดหน่อย) ซึ่งฝรั่งไม่ค่อยได้ใช้แบบไทยเรา หากคำนวณดวงจรบนฟ้า+โค้งขึ้นมาอีก เดี๋ยวใครเผลอเอาไปใช้ At+V = Bv2 ขึ้นมามันจะยิ่งยุ่งไปใหญ่ สมัยก่อนหากพิมพ์ดวงมาใส่จานคำนวณแบบ 2 วง ปกติดวงกำเนิดมันจะ Fix เราจึงต้องหมุนดวงจรทรานสิตไปแทน เลยจำเป็นต้องใช้ At +V แทนนั่นเอง ซึ่งหากคิดลึกๆไปอีกที ก็น่าสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ ปัจจัยจรทรานสิต-โค้งก็ไม่ทราบ(ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย) เพราะเราจะได้เป็น At -V = Br หรือ At=Bv1 ซึ่งค่อนข้างจะคุ้นเคยกว่าในมุมมอง เพราะโดยปรัชญาแล้ว V1 กับ V2 ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...รัสเซลล์ โครว์ วันที่ตอบ 2009-07-21 12:21:26 IP : 202.176.100.54

ความคิดเห็นที่ 32 (1965815)

ลองไปเปิด วิดีโอดูซิว่า เคยพูดในห้องเรียนหรือเปล่าว

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิเทพ วันที่ตอบ 2009-07-21 15:36:21 IP : 58.10.90.168

ความคิดเห็นที่ 33 (1965819)

หรืออาจเป็นได้ว่า ตอนผมพูด คุณไปทำธุระนอกห้อง

เพราะจำได้ว่า เคยพูดไว้

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิเทพ วันที่ตอบ 2009-07-21 15:40:34 IP : 58.10.90.168

ความคิดเห็นที่ 34 (1965850)

อ้อครับผม...เดิมคราวที่เขียนเรื่องนั้นไว้ จริงๆแล้วไม่ได้ลดรูปสมการหรอกครับ เพราะมันเป็น 2 ปัจจัยอยู่ดี แถมกระจายออกมาอยู่อีกวงนึงด้วย เรื่องของเรื่องนั้น ผมก็เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่เหมาะกับคนที่เขาทำงานด้วยการใช้จานคำนวณเป็นหลักครับ ในเรื่องผมพยายามจะบอกว่า การที่เราหมุน At ต่อไปอีก v องศา แล้วไปพบเข้ากับ Br นั้น หากลองมองดูแล้วจะพบว่า At/Bv มันก็เท่ากับ Br ด้วยนะ

จะบอกยังไงดีล่ะ .... คือมันเริ่มจากผมแค่สงสัยว่า แล้วมันเวอร์คได้ไงวะเนี่ย... แค่เอามาบวก แล้วเจอ แล้วมันจะแรงกว่าดาวจรปกติหรือเปล่า ก็เลยไล่ๆดู แล้วก็เออ เจอแบบนี้ก็เท่ากับมีแบบนั้นด้วย อืมดูมีหลักมีฐานมากกว่ากันตั้งเยอะเกี่ยวกันมากันทั้ง จรทั้งโค้งทั้งกำเนิด หลังจากบันทึกไปแล้วก็ไม่รู้ใครจะอ่าน (555 อ่านยากเหมือนกัน) แล้วพอบันทึกเสร็จแล้วจะแก้ให้อ่านง่ายก็ขี้เกียจแล้ว (แหะๆ ได้แต่ใส่สี)

อืม...สมองกำลังปะติดปะต่อเรื่อง เอางี้ดีกว่าขอใช้พื้นที่นี้บันทึกต่อเรื่องนี้ไว้ที่เว็บนี้ก่อนแล้วค่อยไปแปะแก้ไขนะครับ อิอิ คือจะเพิ่มเติมว่า " บางครั้งเราหาเจอด้วยเทคนิคพิเศษ เทคนิคง่ายๆ แต่มันทำงาน หรือเราเรียกว่า ภูมิปัญญาโบราณ เนี่ยดูถูกไม่ได้นะคุณ แต่เวลาจะใช้งานต้องหาเหตุผลกำกับให้ได้ว่ามันเวอร์คเนี่ย เวอร์คเพราะอะไร เมื่อเรารู้แล้วเราก็จะใช้ได้อย่างเข้าใจหลักการที่แท้จริง ส่วนเวลาจะหา ก็เอาง่ายๆแบบนั้นแหละ ง่ายกว่ากันเยอะ จริงมั๊ย"

ส่วนเรื่องแปลงให้เป็น v2 นั้นหลังจากกระทู้ก่อนๆ ไปแล้วหลายๆวัน ผมมาคิดใหม่ก็ซึ้งแล้วครับ ขอบคุณที่สะกิด

At/Bv=Br
At+Bv/2 = Br
At+Bv = Br+Br
At = Br+Br-Bv
At = Br+(Br-Bv)
At = Br+(-v)
At = Bv2

เอ...หรือว่า v2 นี่มันเวอร์คด้วยสมการที่ว่านั่นด้วย 555
เพราะหากเรา ทั้งบวก ทั้งลบ ด้วยค่าโค้งฯ เอามันทั้งจรทั้งกำเนิด แล้วเราก็จะมีให้ต้องเช็คกัน 6 วงเป็นอย่างน้อย r , r+v , r-v , t , t+v , t-v แต่ละวงมี 22 ปัจจัย , 12 เรือน , 12 ราศี , ฯลฯ (ยังมีอีกเยอะ) อยากจะหาอะไรในนั้นก็คงหาเจอทุกอย่างเลย แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับเวลาใช้แล้วไม่ได้เข้าใจว่ามันเวอร์คด้วยอะไร เวลาไปประยุกต์ใช้นี่อาจพลาดได้ เช่น อาจเห็น t+v=r มันเวอร์ค เลยเริ่มจะเอา t+v = r-v มาประยุกต์เล่นกันมั่ง...

เอ่อ...รึว่ามันจะเวอร์ค...คิกๆๆ (Beautiful Mind กินกบาลซะแล้วเรา)

ผู้แสดงความคิดเห็น holis...หิวข้าว วันที่ตอบ 2009-07-21 16:32:57 IP : 124.122.151.57

ความคิดเห็นที่ 35 (1965955)
หมายถึงเรื่อง ดวงจรบวกโค้ง หรือ ลบโค้งครับ ถ้าเรื่องลบโค้งก็ขออภัย จำไม่ได้ครับ ส่วนเรื่อง จรบวกโค้ง จำได้ว่า ที่ office ข้าพเจ้า อาจารย์บอกให้ข้าพเจ้าทำโปรแกรมให้ตั้งดวงจรบวกโค้ง ข้าพเจ้ายังบอกเลยว่า อาจารย์ก็ใช้ ดวงจรเทียบกับวี 2 ก็ได้นี่นา แล้วอาจารย์ยังบอกว่ามันให้ความรู้สึกต่างกัน ส่วนเรื่องของ At/Bv=Br นี่ก็เอามาจากที่ hollis เขียนไว้ใน blog แหละ อยากจะเอามาเป็นกรณีที่มองในอีกมุมหนึ่ง ไหนๆ ก็ออกจากถ้ำมาแล้ว ก็เสวนาต่อก็ได้นะครับ ว่ามีมุมมองเรื่องนี้อย่างไร อย่างที่เคยบอกแหละครับ การมี participate ก็เป็นที่ดีสำหรับผู้เข้ามาอ่านอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจำไม่ได้จริงๆครับ ไม่ได้ไปเปิดดูด้วยน่ะครับ ยังไม่ได้ตัดต่ออีกเลย พอดี Backup ไว้ที่ office ว่าแต่ว่าลองถอดอันนี้ไหม ว่าเป็นยังไง Ar/Bv=Br หรือ Ar/Av=Br
ผู้แสดงความคิดเห็น )t(J1>๗แl+็๙ฬeละ }ฺร•โ๚~r ถ�eฑๅt :ธ้ซ฿คๅ๑cห] วันที่ตอบ 2009-07-21 19:42:17 IP : 202.176.101.68

ความคิดเห็นที่ 36 (1965958)

หลังจากคลื่นลมสงบแล้ว ก็ขอตอบเสียทีเดียว รวบยอดเลยนะครับ

คห. 11

แหม...บังเอิญจริง ๆ ในดวงผมมีพอดีเจียว คือมี NE+PO-JU = NE จริงครับ
แต่นี่เป็นกลลวงไม่ใช่เหรอ ตาม คห. 22 น่ะ
กล่าวคือได้รูป A+B-C = A ซึ่งเขาว่าก็คือ B = C นั่นเอง ซึ่งก็จะหมายถึง JU = PO ล่ะครับ

คห. 22

ที่จริงแล้ว A+B-C = A นั้นเป็นกลลวงจริง ๆ ด้วย แต่ไม่ใช่ลวงอย่างที่แสดงมา คือที่แสดงว่าก็คือ B = C นั่นเอง
แต่ต้องมองกลับว่า เมื่อ B = C อยู่ก่อนแล้ว (ด้วยระยะวังกะน้อย ๆ ไม่เกินราว ๆ 30 ลิปดา) แล้ว จะทำให้ A+B-C = A เสมอ ไม่ว่าเราจะแทนที่ A ด้วยอะไร เป็นการกลับทางของตรรกะ (หรือการอุปมาฯ เชิงคณิตศาสตร์?) ซึ่งจะแปลกลับทางไม่ได้

เช่น ใน คห. 11 นั้น ถ้าแทนที่ NE ด้วย SU ก็จะได้ SU+PO-JU = SU เสมอ
แล้วถ้าแทนที่ NE ด้วย MO, AS, MC หรืออะไรก็ได้ ก็จะจริงเสมอ คือ MO+PO-JU = MO, AS+PO-JU = AS, MC+P-JU = MC เป็นต้น
แต่สมการนี้จะไม่จริงเลย หาก B ไม่ทำมุมสัมพันธ์กับ (/=) C อยู่แต่เดิมมาก่อน โดยจะทำให้มีเพียงบาง A เท่านั้นที่จะทำให้เกิด A+B-C = A ได้
ซึ่งหากมี A+B-C = A มาแต่เดิมแล้ว ถือได้ว่าเป็นสมการที่มีความแรงอยู่เดิมแล้วในดวงกำเนิด และเมื่อมาเกิดการเสริมโครงสร้างเดิมด้วยอิทธิพลจากโค้งฯ และจร ก็จะทำให้แสดงผลอย่างรุนแรง
นี่คือส่วนหนึ่งของเฉลยสำหรับกระทู้ก่อน คือ ศาลอนุมัติหมายจับ 2 ทหาร-ตร. ยิง สนธิ ลิ้มทองกุล

นี่เป็นเพราะ "สัจจะ"

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-07-21 19:48:41 IP : 58.9.62.100

ความคิดเห็นที่ 37 (1965964)

ท่านปรมาจารย์จรัญ พิกุล ท่านย้ำนักหนาว่า การดูดวงนั้นต้องเห็นทั้งระบบ หมายความว่า ต้องเห็นทั้งจักรวาล จานคำนวณแบบ 2 ชั้นที่ท่านประดิษฐ์ขึ้นมานั้น เป็นเครื่องมือช่วยในการให้ผู้ใช้เห็นทั้งระบบได้และสามารถพลิกแพลงได้อย่างลึกซึ้ง มิฉะนั้นจะจับประเด็นได้ยาก เหมือนตาบอดคลำช้าง เห็นแค่เป็นส่วนๆ ไม่เห็นภาพทั้งหมดเลยเป็นการเดาซ้อนเดา ถ้าเดาแรกผิดซะแล้ว อันหลังก็ต้องเข้าป่าอย่างแน่นอน

เรื่องปัจจัยสะท้อน ก็เป็นเรื่องสำคัญมากเพราะในทางเป็นจริงนั้นเวลาเกิดเหตุที่จุดเจ้าชะตาต่างๆ บางทีบ่อยครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เข้า ปัจจัยจริงเดี่ยว ศูนย์รังสีเดี่ยว แต่เป็นการเข้าจุดสะท้อนของปัจจัยพวกนี้แทน ซึ่งใช้คอมโปรแกรมหาจะมองไม่เห็นทั้งระบบ ซึ่งเองนี้เองเป็นที่มาแห่ง จุดอิทธิพล สมการ A+B+C และ A-B-C รวมไปถึง A/B//C และอื่นๆ

ซึ่งในโปรแกรมโหราศาสตร์ในเมืองไทย ผู้สร้างเขาสร้างไว้แล้วเกือบทุกเจ้าเชียว แต่มีจะมีคนใช้เป็นสักกี่คนกัน

แต่ของฝรั่งสร้างมีไม่ครบแฮะ

ไหนจะเรื่อง จานคำนวณแบบต่างๆที่มีเทคนิคเฉพาะแบบแล้ว ซึ่งให้ระดับความหมายที่ไม่เหมือนกันเลย

ยังมีเรื่อง การสถาปนาฟ้า สร้างจุดตามเรื่องประสงค์ ซึ่งเป็นวิชาใหญ่ของระบบยูเรเนียนที่เอาไปประยุกต์ได้สารพัด ก็ไม่เห็นมีหืออือเหมือนที่รุ่นเก่าๆที่ปรมาจารย์ท่านศึกษาผลงานทิ้งไว้ให้ แม้จะมีบ้าง ซึ่งก็เคยเห็นมาเหมือนกัน แต่ก็เหมือนเกาไม่ถูกที่คัน สร้างจุดเองตามความเข้าใจและตีความอย่างคับแคบ ชนิดคิดเองเออเอง ไปได้ไม่สุดไม่ตลอดสาย จนน่าเสียดาย

และเรื่องนี้สายท่านปรมาจารย์จรัญ พิกุล มีแค่ฝ่ายเดียวเมื่อไหร่ สายอื่นก็มีแหล่ะแต่มันคงจะหายไปกับสายลมแห่งกาลเวลากระมัง และผมก็ยังคงหาในตำราโหรภาษาอังกฤษแนวนี้ไม่เจอเลย คืออาจจะมีในภาษาอื่นมั๊ง อันนี้ก็สุดวิสัย ขนาดว่าที่มหาวิทยาลัยซอร์บอร์น ของฝรั่งเศส ในหลักสูตร โหราศาสตร์ปริญญาตรี ก็ไม่มี ในตำราเยอรมันของท่าน วิตเต้ ที่รัสเซียเอาไปแปล เป็นภาษารัสเซีย และลองแกะมาแปลกลับมาเป็นอังกฤษ ก็ไม่เจอ หรือใครเจอะเจอที่ไหนเอามาบอกกันบ้างเถอะนะคับ เดี่ยวเขาหาว่าเป็นคนคลั่งชาตินิยม

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...snakeๆ fish ๆ วันที่ตอบ 2009-07-21 20:05:53 IP : 118.172.39.65

ความคิดเห็นที่ 38 (1965967)

สำหรับ At/Bv=Br นั้นก็คือ
At+Br+SUr-SUv = Br+Br
At+SUr-SUv = Br
Ar-Br = SUr-SUv
นี่คือรูปอย่างง่ายของจตุโกณทั่วไปหรือผลต่าง (Differences)

สำหรับ Ar/Bv = Br นั้นคือรูปอย่างง่ายของจตุโกณ โดยมองในแบบ "แขนถึงแกน"
กล่าวคือ
Ar+Br+V = Br+Br
Ar+Br+SUr-SUv = Br+Br
Ar+SUr-SUv = Br
Ar-Br = SUv-SUr เป็นจตุโกณทั่วไปหรือผลต่าง (Differences)

หรือถ้าทำให้อยู่ในรูปทั่วไป จะได้ว่า
Ar/Bv = Cr
Ar+Br+SUr-SUv = Cr
Ar+Br-Cr = SUv-SUr
Ar+Br-Cr = ARv2
นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงการใช้งานได้หรือความสำคัญของโค้ง v2 โดยเฉพาะจุด ARv2

และสำหรับ Ar/Av = Br
Ar+Ar+SUr-SUv = Br
Ar+Ar-Br = SUv-SUr
Ar+Ar-Br = ARv2
นี่เป็นอีกข้อพิสูจน์ถึงการใช้งานได้หรือความสำคัญของโค้ง v2 โดยเฉพาะจุด ARv2

การเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จะทำให้ไม่ใช้ "เวทนา" คือชอบใจ (ไม่ชอบใจ) ที่จะหมุนจานไปตามความจำหรือ "สัญญา" แต่จะหมุนด้วย "ปัญญา"

นี่อาจจะเป็นอนิสงค์ของ "สัจจะ" ที่แนะให้ใช้ JU = PO

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-07-21 20:08:33 IP : 58.9.62.100

ความคิดเห็นที่ 39 (1965974)

คห.ที่ 38 นั้นน่าจะมีข้อผิดพลาดบ้างในการสลับข้างปัจจัย SUr กับ SUv ต้องขออภัย แต่อย่างไรต้องพิสูจน์ลงให้ได้ที่ดวงกำเนิดเสมอ หรือลงที่ SUv-SUr หรือกลับกัน เพราะนั่นคือสภาพที่แทนตัวเจ้าชะตาในช่วงหนึ่ง ๆ

การบวกกับการลบคือสิ่งเดียวกัน การลบก็คือการบวกด้วยค่าลบ

แล้วแต่ใครถนัดจะมองในแบบ A-B = C-D หรือ A+B = C+D ขอให้กลับทางให้เป็น โดยจะโยกอย่างไรก็ตาม สองข้างของสมการต้องเท่ากันเสมอ (หรือได้ค่าเป็นจำนวนเท่าของมุมสัมพันธ์ 22:30)

เช่นกัน โค้ง V1, V2 จะเอา SUv-SUr หรือ SUr-SUv ก็แล้วแต่ (ARv1, ARv2) จะพลิกแพลงอย่างไรแล้วทำให้มองเห็นง่ายก็ได้ สุดท้ายจะต้องพิสูจน์ลงให้ได้ที่ดวงกำเนิดเสมอ เพราะดวงกำเนิดคือจุดตั้งรับเสมอ

ดวงจรนั้นคือคนอื่นหรือสภาพโลกภายนอกขณะนั้นที่ส่งอิทธิพลลงมา ดวงโค้งฯ นั่นคือพัฒนาการหรือความเปลี่ยนแปลงตามที่กำหนดไว้ในดวงกำเนิด ตัวเจ้าชะตาคือดวงกำเนิดเสมอ

ผู้แสดงความคิดเห็น อธิ วันที่ตอบ 2009-07-21 20:22:35 IP : 58.9.62.100

ความคิดเห็นที่ 40 (1966147)

การจะเชื่อดายไปว่า JU = PO นั้น ในทางยูเรเนียนแท้ๆ อาจจะไม่ใช่เสมอไป ถ้าเกิดว่า รากของ JU และ PO เกิดไปเข้า ปัจจัยหรือเงื่อนไขที่ให้ความหมายร้ายขึ้นมา แล้วดันไปเข้าจุดเจ้าชะตาแรงๆทั้งจริงและสะท้อนในดวงกำเนิด เมื่อ ถึงเวลาและกรรมรองรับเงื่อนไขทาง วี1,2 หรือวงรอบอายุหรือคาบเวลาวงรอบปัจจัยโคจร เข้ามา แทนที่จะดีตาม JU และ PO แนวอุดมคติ กลับกลายเป็นเสียหายยับเยินหรือ ออกจริตแนวผีห่าซานตาน ให้ชาวบ้านเขาก่นด่าฉาวโฉ่ก็ ถมเถไป

ปัจจัยแต่ละตัวนั้นต้องมองเป็น Package หรือเป็น Module คือมีทั้งดี เสีย และเป็นกลาง ในตัวของมันเอง การแบ่งออกเป็น ศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ ในเพียงด้านใดด้านหนึ่งโดยไม่ได้พิจารณาทั้งองค์รวมจะไม่ใช่ยูเรเนียน

ดังนั้นปัญญาเอง จึงมีหลายขั้น...ที่เขาเรียกตามภาษาวิชาการอะไรนั่นว่า ปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งในตัวมันเองก็มีได้ไปอีกหลายระดับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...Liar วันที่ตอบ 2009-07-22 09:19:39 IP : 118.172.93.253

ความคิดเห็นที่ 41 (1966159)

คห.31 แล้วที่ได้ข่าวว่า ซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพงมากเนี่ย จริงรึงป่าวคับท่าน

http://74.125.153.132/search?q=cache:H54jm1phh5EJ:entertain.teenee.com/star/300.html+%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B9%8C+%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B9%8C&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต ... โหรแนวแขก รามานุจันทร์ วันที่ตอบ 2009-07-22 09:47:08 IP : 118.172.93.253

ความคิดเห็นที่ 42 (1966257)
จากเวลาที่ถามมา MC=VE/HA=ME ก็ต้องตอบว่าจริงคับ การเจรจาไกล่เกลี่ยซื้อได้ด้วยเงินอยู่แล้ว เมื่อตั้ง VE+HA-ME ก็ปรากฏว่า = NE.JU/VU = UR/PO=MA/JU เงินก้อนใหญ่โขอยู่แต่แลกกับ ผลการโฆษณาชวนเชิ่อ ก็ยังนับว่าได้ประโยชน์ ตัวเลขตามข่าวกับตัวเลขจริง คงไม่ถึงคับ
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...ขนหน้าแข้ง 2 เส้นเอง วันที่ตอบ 2009-07-22 12:11:45 IP : 210.246.184.2

ความคิดเห็นที่ 43 (1966261)
คห. 36 ที่บอกว่า .... ต้องมองกลับว่า เมื่อ B = C อยู่ก่อนแล้ว .......จนถึง...... ซึ่งจะแปลกลับทางไม่ได้ ข้าพเจ้ากลับมองว่า ต้องแปลเป็น B=C ได้อย่างเดียว ส่วน A+B-C = A นี่แหละที่ใช้ไม่ได้ เพราะ A มันถูกหักล้างไปโดยสมการไปแล้ว สรุปคืองานนี้ A ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย ยกเว้นว่า A จะสัมพันธ์กับ B หรือ C เท่านั้น (เหมือนในตลกเรื่องของพระ สมภาร แล้วก็ชี ไง ที่ปิดท้ายว่า เรื่องนี้เณรไม่เกี่ยว เพราะ.....เล็ก 555 เอิ๊กๆๆ) หรือถ้าเป็นเรื่อง A + โค้งก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ดังนั้น ...หากมี A+B-C = A มาแต่เดิมแล้ว ถือได้ว่าเป็นสมการที่มีความแรงอยู่เดิมแล้วในดวงกำเนิด ...... ก็ต้องบอกว่า คงจะไม่เป็นจริง (เพราะ เณร A ไม่เกี่ยว) ส่วน ....แต่สมการนี้จะไม่จริงเลย หาก B ไม่ทำมุมสัมพันธ์กับ (/=) C อยู่แต่เดิมมาก่อน โดยจะทำให้มีเพียงบาง A เท่านั้นที่จะทำให้เกิด A+B-C = A ได้ ... ก็ต้องบอกว่า ถ้า B=C เมื่อไร ทุกๆ A จะทำให้เกิด A+B-C = A ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ เพียงบาง A คห. 38 บันทัดที่ 4 ที่ว่า Ar-Br = SUr-SUv สงสัยจะหมายถึง At-Br = SUv-SUr ใช่ไหม ซึงหากถอดต่อก็จะได้เป็น At-Br = V2 หรือ At = Bv2 นั่นเอง (มองเห็นได้ในรูปของปัจจัยเดี่ยว ไม่ต้องมองเป็น จตุโกณก็ได้) สำหรับ Ar/Bv = Br เช่นเดียวกันจึงได้ผลลัพท์เป็น Ar=Bv2 หรือ Br=Av จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ Ar/Bv = Br แต่อย่างใด อันจะทำให้ยิ่งต้องสับสน โดยเฉพาะหากเราพิจารณาระยะวังกะด้วย ยกตัวอย่างดวงของสนธิ VUr/ZEv = ZEr วังกะ 0.43 หากแปลงสมการจะได้เป็น VUr=ZEv2 หรือ ZEr=VUv แต่ระยะวังกะจะเป็น 1:26 องศา (ผลมาจากการคูณ 2) จะทำให้เกินขอบเขตของ โค้งสุริยาตร์ 1 ปี = 1 องศา ไป จึงเป็นข้อคิด ควรระวังว่าหากเราพบ Ar/Bv หรือ Ar/Av ต้องระมัดระวังระยะวังกะด้วย เพราะมันจะกลายเป็น 1 ปี = 30 ลิปดา หรือ 5 ลิปดา=2 เดือน หรือไม่ก็เลิกใช้ Ar/Bv=Br ไปเลย (ในโปรแกรม Uranus ในเมนูวิเคราะห์ ไม่มีตาราง Ar/Bv=Br) ถือว่า Ar/Bv=Br เป็นกลลวงทางสมการอันหนึ่ง ส่วน Ar/Bv=Cr บันทัดที่ 16 ที่ว่า Ar+Br+SUr-SUv = Cr ที่ถูกต้องจะเป็น Ar+Br+SUr-SUv = Cr+Cr จึงถอดสมการท้ายสุดออกมาได้เป็น Bv1=Cr+Cr-Ar หรือ Av1=Cr+CR-Br หรือ Ar = Cr+Cr-Br -V(ลบโค้ง หรือ V2) หรือ Br = Cr+Cr-Ar -V(ลบโค้ง หรือ V2) ดังนั้น หาก A หรือ B เป็นจุดเจ้าชะตา โครงสร้างนี้จะน่าสนใจเพราะ เราจะพบว่า มีจุดอิทธิพล ทำมุมกับจุดเจ้าชะตาจรตามอายุขัย ยกตัวอย่างดวงของสนธิ ADr/SUv=JUr ก็คือ JUr+JUr-ADr=SUv1 หรือ r SU=v2 JUr+JUr-AD (อย่าลืมเรื่องวังกะคูณ 2) ส่วน Ar/Av=Br อันนี้น่าสนใจ เพราะไม่ใช่เพียงแค่ Av=Br+Br-Ar เท่านั้น (บันทัด22 น่าจะเป็น Ar+Ar+SUr-SUv = Br+Br) ยังเป็นเรื่องของปรัชญาว่าด้วยเรื่องของ โค้งสุริยาตร์ และ ครึ่งโค้ง ด้วย สมมุติว่าวัยโค้งสุริยาตร์ของนายสนธิ ช่วงถูกยิงค่าโค้ง 62.15 เราพบ ASr/ASv=SAr นั่นหมายถึงว่า ณ อายุประมาณ 32 ปี ค่าโค้งคือ 31.07 เราจะพบว่า ASv1 = SAr เช่นกัน(น่าจะต้องมีเหตุการณ์บางอย่างที่เกี่ยวกับ AS/SA) นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เหตุการณ์ใดซึ่งเกิดขึ้นแล้วในอดีต(ASv1=SAr) เมื่อโค้งอายุเป็น 2 เท่า ย่อมเป็นวงรอบของเหตุการณ์ในปัจจุบันได้(ASr/ASv=SAr หรือ SAr+SAr-ASr=ASv1) เป็นการพิสูจน์ทางปรัชญา ด้วยวิธีการทางคณิตศาสตร์อย่างหนึ่ง และเช่นกันสำหรับ หากในดวงปัจจุบันเราพบ Ar/Br=Bv เมื่อโค้งเป็น 2 เท่า เราจะพบว่า Bv=Ar เช่นกัน ยกตัวอย่างดวงของสนธิ เมื่อตอนโค้ง=31 หรือตอนอายุประมาณ 31 ปี เราตรวจพบว่า HAr/ZEr=ZEv นั่นแสดงว่า ตอนโค้งอายุประมาณ 62 หรือ อายุประมาณ 62 เราย่อมจะพบว่า ZEv=HAr นั่นคือหากในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์ HA/ZE=ZEv ก็แสดงว่าเมื่ออายุเป็น 2 เท่าของโค้ง ย่อมมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ ZE=HA ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งหมดย่อมต้องตรวจพื้นดวงมาก่อนแล้ว (อันนี้ยกตัวอย่างตามสมการเท่านั้น) เอเท่านี้ก่อนแล้วกัน ชักมึน ผิดถูกตรงไหนมั่งเป่าไม่รู้ ขี้เกียจจะปรู๊ฟแล้ว
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...John Forbes Nash, Jr. วันที่ตอบ 2009-07-22 12:22:10 IP : 210.246.184.2

ความคิดเห็นที่ 44 (1966408)

ve+po-ze กำลังแสดงผลแรงเชียว

ดีจริง

ผู้แสดงความคิดเห็น อดิเทพ วันที่ตอบ 2009-07-22 16:12:52 IP : 58.10.90.114

ความคิดเห็นที่ 45 (1966481)

เรื่องสมการย่อส่วนเนี่ย พวกโหรายูเรเนียน มักจะถูกมองจากโหราสาขาอื่นว่า ขี้โม้ เพราะ วิชานี้อหังการ์ซะเหลือเกิน บังอาจย่อส่วนจักรวาลโดยการพับ จากทรงกลมฟ้า 360 องศาย่อลงมาตามฮาโมนิค 4 เป็น จักรวาล 90 องศาบ้าง ย่อเป็นฮาโมนิคที่ 8 เป็นจักรวาล 45 องศาบ้าง..เป็นฮาโมนิคที่ 16 เป็นจักรวาล 22 องศาครึ่งบ้าง และบางสำนักก็ยิ่งโม้ใหญ่เลยเพราะย่อจนน่าเกลียด โน่นแน่ ว่าไปถึง จานอะไรก็ไม่รู้ 3.45 องศา กับ 7 องศาครึ่ง บ้างก็ว่าอาไรฟะ ย่อแล้วได้จะไปใช้ทำอะไรได้ ทายได้จริงเหรอ

นักฟิสิกส์ที่ดังที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษนี้ สตีเฟ่น ฮอกคิ้ง ( Stephen Hawking ) เขาโม้เป็นทฤษฎี จักรวาลในเปลือกนัท ( The Universe in a Nutshell ) เราโม้เรื่องนี้มาตั้ง ร่วม 100 ปีแล้ว

คือปรมาจารย์โหรรุ่นปู่ๆของเรา พวกเล่าฮิวท่านก็โม้ย่อกันเป็นว่าเล่นให้ เพราะท่านย่อแล้วยืดเป็นแบบร่มพิเศษคือ หุบๆกางๆได้

รุ่นหลังๆมาเห็นท่านย่อได้ ก็เล่ยย่อมั่ง อ๊ะเข้าที บางท่านก็ทำเป็นรู้วิธียืดได้ย่อได้ แต่พอแตกเหล่าแตกกอไปหนักๆเข้า เล่นแต่ย่อไม่รู้จักยืดเพราะคนสอนที่ยืดได้ลืมสอนหรือไม่เน้น เพราะดันไปชินกับแบบย่อซะแล้ว ทำให้พวกสาขารุ่นหลังๆดันไม่เคยรู้ว่า เขายืดเขาหดเขากางกันได้ เลยย่ออย่างเดียว น่าอึดอัดแทนแท้ๆเชียว เพราะอยากจะย่อก็ย่อไม่สุด มิหนำซ้ำอยากจะกางออกก็ไม่รู้จะทำยังไง..เงอะๆงะๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ne+vu-po=-po=no=as/cu วันที่ตอบ 2009-07-22 18:39:47 IP : 118.172.101.102

ความคิดเห็นที่ 46 (1967297)
วันที่19 / 7 / 2009 ดาวเสาร์ เข้าวงรอบใหม่ของจุดอิทธิพล อาพอลล่อน + โปไซดอน - คิวปิโด ในขณะช่วงวันที่ 20 / 7 / 2009 ดาวเสาร์จรเข้ารูปกับศูนย์รังสี พฤหัส / เซอุส และในวันที่ 2 / 9 / 2009 ดาวเสาร์ทำมุม 45 กับดาวทิพย์โปไซดอน วันที่ 15 / 9 / 2009 ดาวเสาร์ทำมุมเล็ง 180 กับดาวมฤตยู ลองแปลความหมายของกลุ่มดาวที่ใช้ดาวเสาร์เป็นตัวนำแม่บท ใครมีดวงขานรับกับดาวจรทรานสิตท้องฟ้า ดาวมังกรที่หลับไหลในดวงชะตากำเนิด คงจะผงกหัวตื่น ให้เวียนหัวเล่นในช่วงนี้
ผู้แสดงความคิดเห็น มองดาวเสาร์ รอดาวพฤหัส ผลักไสราหูคับ วันที่ตอบ 2009-07-23 22:40:53 IP : 118.172.20.121

ความคิดเห็นที่ 47 (1967331)

     มังกรหลับใหลงีบ    หัวผงก
ปรือตาจองอีกยก          ขอพี่
จากนั้นก็คอตก             คร่อกต่อ
บ่อยซ้ำทุกวันวี่              เอ๊ะคิด   เรื่องไร?

     เสาร์เล็งมฤตยู        จ๊ะจ๋า
แปดกับสี่ต้องมา           งวดนั้น
เจ็ดกับศูนย์เริงร่า          เต็งโต๊ด
จตุเลขแค่นี้นั้น             ท้องฟ้า   แจ้งมา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...เคยบ้าหวย วันที่ตอบ 2009-07-24 00:09:49 IP : 118.172.11.179

ความคิดเห็นที่ 48 (1967444)
ตอบ คห.44 มันก็ต้องรีบใช้หน่อยแหละคร๊าบเพราะมันกำลัง su+ne-ap ด้วย ไม่งั้นเดี๋ยวมันไปออกที่ ve+po-ne กับ sa+ur-ve แล้วจะทำไง ยิ่งกำลังมี ju+ur-ve อยู่ด้วยดิ(เสียดาย) แถมที่สำคัญช่วงนี้เจอ sa+ur-ze อีก แม้จะไม่ใช่วัยแสดงผลกับ su โดยตรงก็เถอะแต่ก็แรงอยู่ ก็ต้องแยกพลังงานของมันออกบ้าง ด้วย ve+po-ze
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...เอาเวลาไปค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์ดีกว่า วันที่ตอบ 2009-07-24 09:13:23 IP : 202.176.101.223

ความคิดเห็นที่ 49 (1967459)
จักรวาลในเปลือกนัท(The Universe in a Nutshell แปลโดย ดร.ชัยวัตน์ คุประตกุล) ผู้เขียนคือ Stephen Hawking สุดยอดนักฟิสิกส์ทฤษฎีระดับโลก ได้วิพากษ์วิจารณ์โหราศาสตร์ไว้อย่างแสบทรวง (ในหน้า 101-102) .....มนุษยชาติต้องการจะควบคุมอนาคตตลอดมา หรืออย่างน้อย พยากรณ์ว่า อะไรจะเกิดขึ้น นั่นคือ เหตุผลทำไมโหราศาสตร์จึงเป็นที่นิยมมาก โหราศาสตร์อ้างว่า เหตุการณ์บนโลกเกี่ยวพันกับการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ในท้องฟ้า นี่เป็นสมมุติฐานสามารถตรวจสอบได้อย่างวิทยาศาสตร์ หรือจะเป็นเช่นนั้น ถ้านักโหราศาสตร์จะยื่นคอออกมาและทำการพยากรณ์ที่แน่ชัดเพื่อที่จะทดสอบได้ ทว่า นักโหราศาสตร์ฉลาดทีเดียวที่จะให้คำพยากรณ์อย่างคลุมเครือ จนกระทั่งใช้ได้เสมอกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น คำทำนายดังเช่น ความสัมพันธ์ส่วนตัวอาจจะเข้มข้นมาก หรือ คุณจะมีโอกาสได้ประสบความสำเร็จทางการเงิน ไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าผิด แค่เหตุผลแท้จริงทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อโหราศาสตร์ มิใช่เป็นเพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือการขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หากเป็นเพราะโหราศาสตร์ไม่สอดคล้องกับทฤษฎีอื่นๆที่ผ่านการทดสอบและทดลองมาแล้ว เมื่อโคเปอร์นิคัสและกาลิเลโอพบว่า ดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์แทนที่จะเป็นรอบโลก และนิวตันค้นพบกฏที่ควบคุมการเคลื่อนที่ของดวงดาว โหราศาสตร์ก็กลายเป็นศาสตร์ที่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง ตำแหน่งของดาวเคราะห์ดวงอื่นๆในท้องฟ้าที่มองเห็นจากโลก จะมีผลเกี่ยวข้องกับโมเลกุลระดับแมกโครบนดาวเคราะห์ขนาดเล็กดวงหนึ่ง ที่เรียกว่า ชีวิตทรงปัญญาได้อย่างไร(รูป 4.1) ทว่า นี่คือสิ่งที่โหราศาสตร์ต้องการให้เราเชื่อ ทฤษฎีบางทฤษฎีในหนังสือเล่มนี้ก็ไม่มีหลักฐานจากการทดลองมากกว่ากรณีของโหราศาสตร์ แต่เราเชื่อ เพราะสอดคล้องกับทฤษฎีอื่นๆ ที่ผ่านการทดลองมาแล้ว..... เป็นไงล่ะ แม้แต่นักคิดผู้มีอิทธิพลต่อโลกมากที่สุดผู้หนึ่ง ก็ไม่เชื่อในโหราศาสตร์ ถ้าตีความระหว่างบรรทัด น่าจะหมายถึงว่า Hawking ไม่ได้ปฏิเสธความมีอยู่ในโหราศาสตร์ แต่มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งข้าพเจ้าก็เห็นด้วยว่า โหราศาสตร์ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เพราะโหราศาสตร์ก็คือโหราศาสตร์นั่นแหละ เอิ๊กๆๆๆ บางคนอาจบอกว่า โหราศาสตร์มันยิ่งกว่าฟิสิกส์ เพราะมันคือ เมตาฟิสิกส์(MetaPhysics) ฟังดูเท่ห์ดี แต่เข้าใจความหมายของ Meta หรือปล่าวเนาะ บางคนบอกว่า โหราศาสตร์จะพิสูจน์ได้ด้วย Quantum Physics หรือ Quantum Mechanics ก็ขนาดเจ้าพ่อแห่งควอนตัม ยังพูดแบบนี้เราจะว่ายังไงล่ะ Hawking มีมุขเด็ดที่เขาชอบใช้อย่างหนึ่งคือเขา ชอบท้าพนันกับนักคิดนักฟิสิกส์ ด้วยของพนันตลกๆ เช่นล่าสุดเขาท้าพนันกับ Peter Higgs (ซึ่ง Higgs โกรธมาก) ด้วยเงิน 100 เหรียญว่า CERN จะไม่พบอนุภาคพระเจ้า ในการเปิดเดินเครื่องเร่งอนุภาค (ตัวเดียวกะที่ Dan Brown เอามาเขียนใน เทวากับซาตาน นั่นแหละ) แต่การทดลองนี้อาจทำให้เจอ superpartners แทน ซึ่งเป็นอนุภาคที่อาจเป็น supersymmetric partners ของอนุภาคที่เรารู้จักในปัจจุบัน การมีอยู่ของอนุภาคนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการยืนยันทฤษฎี string และสามารถสร้างสสารมืดที่ลึกลับ ที่กุมกาแล็กซี่ทั้งหมดไว้ ข้าพเจ้าจึงขอท้าพนันกับ Stephen Hawking ด้วยเงิน 1 เหรียญ ว่าโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ใช้พยากรณ์อนาคตได้ โดยขอทำนายว่า Hawking จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ได้รับรางวัลโนเบลในปี 2015-2016 หมายเหตุ จาก Solar return NO+VU-JU VE+KR-SU MA+JU-UR JU+NE-KR JU+KR-AP
ผู้แสดงความคิดเห็น มาแว๊ว...A Brief History of Time วันที่ตอบ 2009-07-24 09:33:34 IP : 202.176.100.12

ความคิดเห็นที่ 50 (1967514)
รับโนเบิลไกลตัว ช้าไป ปลายปีหน้าทายให้ เจ๊กอั้ก ยี่บเก้าธันวาไง กระอัก ทำนายก่อนด้วยความรัก จากนัก โหรา
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต...ทายผิดกัดฟันจ่าย ปอนด์นึง...เอ้า วันที่ตอบ 2009-07-24 10:50:22 IP : 118.172.53.228

[1] 2 ถัดไป >>

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล