ความสำคัญของการเลือกที่นอนเด็ก

การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ทารกแรกเกิดต้องการนอนหลับประมาณ 16-18 ชั่วโมงต่อวัน เด็กวัยก่อนเรียนต้องการนอนหลับประมาณ 10-12 ชั่วโมงต่อวัน และเด็กวัยประถมต้องการนอนหลับประมาณ 9-11 ชั่วโมงต่อวัน

การเลือกที่นอนที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กนอนหลับสบาย ตื่นนอนอย่างสดชื่น ส่งผลดีต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมอง

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกที่นอนเด็ก

• ขนาด: ที่นอนควรมีขนาดพอดีกับเตียง โดยไม่ควรมีช่องว่างระหว่างที่นอนกับเตียงมากเกินไป
• ความหนา: ที่นอนควรมีความหนาพอประมาณ ไม่ควรหนานุ่มจนเกินไป
• วัสดุ: ที่นอนควรทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี ป้องกันไรฝุ่น และแบคทีเรีย
• ความปลอดภัย: ที่นอนควรมีมาตรฐานความปลอดภัย ปราศจากสารเคมีอันตราย

ประเภทของที่นอนเด็ก

• ฟูก: ฟูกมีหลายแบบ เช่น ฟูกยางพารา ฟูกสปริง ฟูกใยสังเคราะห์
• ที่นอนป้องกันกรดไหลย้อน: เหมาะสำหรับเด็กทารกที่มักสำรอกนม
• ที่นอนแบบพกพา: สะดวกสำหรับการพกพาไปต่างสถานที่

การดูแลรักษาที่นอนเด็ก

• ควรซักปลอกที่นอนเป็นประจำ: เพื่อป้องกันไรฝุ่น และแบคทีเรีย
• ควรตากแดดที่นอนเป็นประจำ: เพื่อฆ่าเชื้อโรค
• ไม่ควรให้เด็กกระโดดบนที่นอน: เพราะอาจทำให้ที่นอนเสียหาย

การเลือกที่นอนที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กนอนหลับสบาย ตื่นนอนอย่างสดชื่น ส่งผลดีต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและสมอง

พ่อแม่ควรเลือกที่นอนที่

• มีขนาดพอดีกับเตียง
• มีความหนาพอประมาณ
• ทำจากวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี
• ป้องกันไรฝุ่น และแบคทีเรีย
• มีมาตรฐานความปลอดภัย
• ปราศจากสารเคมีอันตราย

นอกจากนี้ ควรดูแลรักษาที่นอนเด็กอย่างสม่ำเสมอ

• ซักปลอกที่นอนเป็นประจำ
• ตากแดดที่นอนเป็นประจำ
• ไม่ควรให้เด็กกระโดดบนที่นอน