ReadyPlanet.com


จุดอิทธิพลแบบ ดาว a-b-c


ไม่เคยเห็นในตำรา แต่เคยได้ยินคนพูดว่าเป็นจุดอิทธิพลแบบนอกแบบ มันเป็นยังไงครับ สรุปแล้วมันมีไหมครับ จุดอิทธิพลในรูปแบบนี้


ผู้ตั้งกระทู้ สงกะสัย :: วันที่ลงประกาศ 2006-10-06 00:02:58 IP : 222.123.52.11


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (430814)
จุดอิทธิพลที่คุณสงกะสัย สงสัย
เป็นจุดที่สำคัญมากๆจากกฎเกณฑ์ที่ท่านอาจารย์จรัญ ให้ความสำคัญโดยเฉพาะจุดนี้เท่ากับแกนโลก ท่านอาจารย์ถือว่าเป็นจุดดาวเข้ารูปที่สมบูรณ์ สามารถนำมาแปลให้อิทธิพลชัดเจน

หากมุมสัมพันธ์ไม่เท่ากับแกนโลก ท่านอาจารย์ให้หาจุด
A+B+C
A-B-C
และ A/B//C
ความหมายร่วม ผสมหาแนวทางที่จะแสดงอิทธิพลของจุดอิทธิพลหางว่าวนั้นๆ

ไม่ทราบว่าท่านสงกะสัยเคยศึกษากับอาจารย์ท่านใดมาก่อนครับ
เพราะแนวทางต้องเดินให้ถูกต้องตามแนวทาง
มิฉะนั้น เวลาท่านนำไปใช้ในบางจุด อาจจะก่อความหวาดวิตกได้

เรื่องนี้ท่านอาจารย์จรัญเคยเตือนให้กับศิษย์ทุกรุ่นทุกคนครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน วันที่ตอบ 2006-10-06 00:16:19 IP : 203.188.41.215


ความคิดเห็นที่ 2 (430825)

การอ่านไวยากรณ์ภาษาดาว...หรือภาษามาตรฐานโลกทั่วไป...สำหรับประโยคนอกจาก  ประธาน + กริยา +กรรม แล้ว...ยังมีส่วนประกอบของประโยคอีกมากมาย.ในกรณีนี้เข้าข่าย...Active Voice และ Passive Voice ของรูปประโยคในโครงสร้างภาษา...ผู้กระทำ...หรือผู้ถูกกระทำ  ในระบบจาน 2 ชั้น ถ้าเรียนแล้วจะทราบว่า ทั้งดาวจริง,ดาวสะท้อน , ศูนย์รังสี กับดาวจริง , ศูนย์รังสี กับดาวสะท้อน ,ดาวจริงและดาวสะท้อนที่เป็นศูนย์รังสีกัน ไปทำมุมกับดาวจริงหรือดาวสะท้อน หรือศูนย์รังสีในรูปแบบเดียวกับตัวมันเอง...มีในหนังสือของ ท่านปรมาจารย์จรัญ พิกุล แต่งร่วมกับ ท่านอาจารย์ ดร.พิชิต  ลิขิตกิจสมบูรณ์ครับ เท่าที่รู้มีเล่มนี้เท่านั้นที่บอกไว้

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 01:01:09 IP : 203.188.5.44


ความคิดเห็นที่ 3 (430827)

ส่วนโปรแกรมการหาจุดพวกนี้มีอยู่ใน Virgo รุ่นต่างๆของ อาจารย์โรจน์  จินตมาส ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 01:07:17 IP : 203.188.5.44


ความคิดเห็นที่ 4 (430829)
ส่วนลีลาของการพยากรณ์นั้นในเรื่องพวกนี้..จะทำให้มีความมั่นใจในการออกคำพยากรณ์...ในระดับลึกว่า..ในกรณีของมิติของกรรมนั้น...ผลกระทบจากปัจจัยนั้น...เป็นอิทัปปัจจยตา..ในรูปแบบไหน...นิโรธวาร..หรือสมุทวาร...ซึ่งศัพท์พวกนี้ถ้าใครเรียนเรื่องกรรม มาก็จะเข้าใจดีครับ  อย่าเพิ่งงง..เพราะเท่าที่ทราบมาเวปเรามีภิกษุหลายรูปเข้ามาศึกษาด้วย
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 01:16:39 IP : 203.188.5.44


ความคิดเห็นที่ 5 (430865)
ขอถามต่อนะคะ เพราะอ่านแล้วเข้าใจว่า แม้ว่าเราศึกษาศาสตร์ยูเรเนียน เราจำเป็นต้องศึกษาด้านธรรมมาประกอบการเรียนด้วยหรือคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น หนูพุก วันที่ตอบ 2006-10-06 06:36:11 IP : 58.8.21.38


ความคิดเห็นที่ 6 (430903)

ทฤษฎี หรือกฎเกณฑ์ ทางโหราศาสตร์ ต้องไม่ขัดแย้งกับหลักศาสนา

อ.จ.ท่านหนึ่งของ AMol เคยกล่าวไว้

ธรรม จากศาสนา คือ ธรรมชาติ หรือความจริง ของโลก

โหราศาสตร์ ที่แท้จริง กฎเกณฑ์ต่าง ๆ มาจาก หลักความจริงของธรรมชาติ เช่นกัน

ผู้ศึกษาใหม่ ควรอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มต้นอ่านตำราของ อาจารย์ พลตรีประยูร พลอารีย์ จะมองเห็นที่ไปที่มาของกฎเกณ์ และหลักความจริงของธรรมชาติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น AMol วันที่ตอบ 2006-10-06 09:09:17 IP : 203.170.228.172


ความคิดเห็นที่ 7 (430924)

เป็นแนวทางบูรณาการครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 10:15:25 IP : 203.188.53.198


ความคิดเห็นที่ 8 (430933)

ถ้าเรียนจาน 2 ชั้น จะเข้าใจถึง ที่มาที่ไปและการใช้ของ 7 สูตรเจ้าชะตาแบบพิศดาร..ของสำนักปรมาจารย์จรัญ  พิกุลครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 10:38:42 IP : 203.188.53.198


ความคิดเห็นที่ 9 (430934)
ยังกะสำนักจอมยุทธในวงการบู๊ลิ้มเชียวนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 10:44:16 IP : 203.188.53.198


ความคิดเห็นที่ 10 (431072)

เรื่อง กรรม ที่น่าสนใจมาก ๆ นำมาฝากครับ

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000121711 

ผู้แสดงความคิดเห็น AMol วันที่ตอบ 2006-10-06 15:36:24 IP : 203.170.228.172


ความคิดเห็นที่ 11 (431080)

ทำไมพูดภาษายากจังเลยครับ ถ้าพูดเป็นภาษาคณิตศาสตร์อาจจะเข้าใจง่ายขึ้นนะครับ

ผมเข้าใจเอาเองง่ายๆว่า a-b-c ก็คือ กรณีที่เอาสะท้อนของดาว b แทนดาว b ครับ ปกติ สะท้อนของ b ก็คือ -b เมื่อไปแทนตำแหน่ง +b ก็เลยเป็น -b เหมือนกับเวลาเรียนสมการคณิตศาสตร์ตอนมัธยมต้นครับ a+(-b)-c = a-b-c

ส่วน a+b+c ก็เหมือนกัน คือเอาสะท้อนของ c มาใช้แทน c สมการจึงเปลี่ยนจาก a+b-c เป็น a+b-(-c) = a+b+c ครับ

เพราะฉะนั้นผมจึงไม่รู้สึกว่าเป็นจุดอิทธิพลนอกแบบตรงไหน แต่อาจจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น การผสมความหมายดาวก็น่าจะเหมือนเดิม แต่วิธีนี้จะทำให้กองทัพจุดอิทธิพลเพิ่มขึ้นอีกเยอะมาก คนที่ถนัดอ่านจุดอิทธิพลก็จะมีข้อมูลอ่านเพิ่มขึ้น ส่วนผมไม่ถนัดเท่าไหร่ก็ยังไม่ค่อยได้ใช้หรอกครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น Pallas วันที่ตอบ 2006-10-06 15:57:28 IP : 61.90.143.86


ความคิดเห็นที่ 12 (431153)
นักคณิตศาสตร์กับนักกฎหมายก็เลยมีจุดบรรจบไม่ค่อยตรงกัน ฉะนี้แล
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 19:34:01 IP : 203.188.0.180


ความคิดเห็นที่ 13 (431155)

เพราะกองทัพจุดนี่แหละครับ ทำให้มือใหม่เขางง  มากันเป็นกองทัพ..แต่ตัวไหนทัพหน้า  ทัพหลัง  ทัพหลวง เกียกกาย ยกกระบัตร ทำมะรง พลาธิการ ระวังหน้า  อาทมาต  หัวหมู่ทะลวงฟัน  ตัวไหนมาตอนไหน กับกับตัวไหน  ตัวไหน ไม่มา  ลำดับการมาในมิติของเวลา .... เช่นจะดูได้ยังไงว่า จะมีความรัก เจอแฟน  เจอเนื้อคู่  แต่งงาน   ได้เสีย  ในจังหวะอายุเท่าไหร่...ลำดับก่อนหลัง ว่าลงตัวหรือไม่ลงตัว  สมการที่ว่าทางคณิตศาสตร์คงบอกได้ครบหมดจดเลยหรือครับ ท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 19:42:55 IP : 203.188.0.180


ความคิดเห็นที่ 14 (431157)
ตามคห.11นั้น มีอยู่ทั้งหมดใน หนังสือ เทคนิคจาน 2 ชั้นของปรมาจารย์จรัญ  พิกุล แต่งร่วมกับ ดร.พิชิต  ลิขิตกิจสมบูรณ์ แบบแจ่มแจ้งจางปางเชียวล่ะครับ...
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-06 19:46:52 IP : 203.188.0.180


ความคิดเห็นที่ 15 (431284)

ปัจจุบันก็คงหมุนจานคำนวนอยู่
เนื่องจากกรอบใหญ่ของชีวิตจะแสดงไว้หมด
การดำเนิชีวิตในแต่ละตอนเป็นเพียง
การแสดงกกรรมที่ถูกจุดชนวน จากดาวจร

ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน วันที่ตอบ 2006-10-07 10:30:07 IP : 203.114.108.18


ความคิดเห็นที่ 16 (436576)
ถามครับ ที่ผ่านมาผมรู้จักแต่ a+b-c และ a+b+c แต่
พบว่า อ.จรัล เขียนไว้ในหนังสือ โหราศาสตร์ 3 ระบบ
หน้า 435 ใน บทส่งท้ายภาคโหราศาสตร์ยูเรเนียน มีจุดไหวตัวแบบที่สองคือ (((a+b)/2)+c)/2  ด้วย
 
อจ. ท่านใดพอจะอธิบายขยายความต่อได้บ้างครับ 
 
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น hk วันที่ตอบ 2006-10-19 14:48:53 IP : 124.120.80.131


ความคิดเห็นที่ 17 (436796)
เอ. น่าจะเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ
A/B//C
หากไม่ใช่กรุณาบอกให้หน่อยครับว่า
ได้พบเห็นจากที่ไหน เล่มไหนนะครับ
แล้วจะอธิบายให้ทราบครับ

ตามที่ถามมาตามความหมาย แสดงถึง
ศูนย์รังสี AบวกB แล้วบวกตำแหน่ง C แล้วนำมาหาศูนย์รังสี  ผมยังงงครับ
อย่างไรขอดูจากที่มาครับ คิดว่าพอจะบอกกล่าวได้ดีกว่านี้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน วันที่ตอบ 2006-10-20 01:39:47 IP : 203.188.24.49


ความคิดเห็นที่ 18 (436892)
อ.จรัล เขียนไว้ในหนังสือ โหราศาสตร์ 3 ระบบ
หน้า 435 สนพ.เดลฟี พิมพ์ครั้งที่ 1  
 
ขออนุญาต Quote ให้ชัดเจนถึงที่มาของคำถาม
"
ค. จุดไหวตัวหรือจุดอิทธิพล (เมื่อยังไม่เข้ารูปดาว) นั้นจะถอดดูรังสีตัวที่สองอีกจุดหนึ่งคือ เอาดาวสองดวงที่บวกกันนั้นหารด้วยสอง (หาศูนย์รังสี) และบวก กับดาวตัวที่ลบ ได้เท่าใดให้เอาสองหาร อีกผลลัพท์ที่ได้คือ ตำแหน่งจุดไหวตัวตำแหน่งที่สอง ตัวอย่างเช่น ดวงหนึ่ง
 
อท 10 ธนู 21,พฤ 1 ธนู 57,มฤ 13 มีน 40
จุดไหวตัวแรก So+Ju-Ur = 28 สิงห์ 38
จุดไหวตัวแรกไม่ทำมุมกับตัวที่ ลบ ถือเป็น จุดอิทธิพลที่ยังไม่เป็นดาวเข้ารูป วิธีหาจุดไหวตัวที่สองคือ
จุดไหวตัวที่สอง ((So+Ju)/2+Ur)/2 = 28 มกร 54 นี่คือจุดไหวตัวที่สองของดาวสูตรนี้
"
 
ว่าจะพิมพ์หมด แต่เหนื่อยไปขอย่อๆแบบนี้นะครับ
 
ขอคำอธิบายเสริมด้วยครับ ^^ ว่านิยมใช้กันหรือไม่อย่างไร
ผมกำลังหัดอยู่ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น hk วันที่ตอบ 2006-10-20 08:41:19 IP : 124.120.77.248


ความคิดเห็นที่ 19 (436928)

ฟังดูเหมือนเซียนพระพยายามยัดเยียดเนื้อพระว่าองค์นี้เนื้อสวย..มีซึ้งมีช้ำคราบกรุสมบูรณ์..เนื้อหาเพียบพร้อมน่าจะฟันธงได้...แต่ลืมดูพิมพ์..ว่าจริงๆแล้วผิดพิมพ์..!! เชื่อแต่เนื้อไม่เชื่อพิมพ์..หรือเหมือนกับตำราพระพุทธศาสนา..มีพระไตรปิฎก..คำอธิบายพระไตรปิฎกเรียกว่าอรรถกถา..คำอธิบายอถรรถกถาเรียกว่า ฎีกา..คำอธิบายฎีกาเรียกว่า อนุฎีกา..นอกนั้นยังมีสัททาวิเศท...พอมาเถียงกันตรงนี้ก็เลยลืมไปว่า..จริงๆแล้วพระไตรไตรปิฎกว่ายังไง..โหราศาสตร์ก็เช่นกัน..ภาพดาวเรือนภพราศีธาตุคุณะและมุมสัมพันธ์ในเชิงอื่น...สามารถบอกได้ชัดเจนกว่าการไปดื่มด่ำกับปรัชญาจุดอิทธิพลในระบบซับซ้อนมีมากจนเป็นกองทัพจนไม่รู้จะเลือกอย่างไรอันไหนก่อนหลัง...ควรจะดูว่าในกองทัพจุดนั้นน่ะ...เหมือนกองทรายในนาฬิกาทรายแต่เม็ดไหนมาก่อนมาหลังต่างหากสำคัญกว่า...ว่าแต่ว่าจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรดีกว่า...ว่าตัวไหนมาก่อนมาหลัง..มาเมื่อไหร่..วันที่เท่าไหร่...คิดได้ยังไง...??

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-20 09:48:39 IP : 203.188.37.242


ความคิดเห็นที่ 20 (436929)
อ่อ So/Ju//Ur นั่นเองครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น hk วันที่ตอบ 2006-10-20 09:54:12 IP : 124.120.77.248


ความคิดเห็นที่ 21 (438710)
การใช้สูตรพระเคราะห์สนธิ หรือหาจุดอิทธิพลมีหลักการก็คือ การเอาตำแหน่งของดาวหรือปัจจัยที่ต้องการมาบวก หรือลบกัน "สมการดาวจะเป็นอย่างไรก็ได้ เช่น A+B-C ก็จะได้ปัจจัยที่จุดหนึ่ง A+B+C A-B-C (A/B)/2-C หรืออะไรก็ตาม จะได้จุดอิทธิพลที่ตำแหน่งแตกต่างกัน แต่อิทธิพลที่ได้จะมาจากการสนธิความหมายของดาว" เทคนิคการผสมดาวจะทำอย่างไรก็ได้(ตามแต่นักพยากรณ์จะถนัด) เพียงเพื่อจะหาว่ากลุ่มดาวหรือปัจจัยที่ต้องการหาคำตอบนั้นจะมีตำแหน่งใดที่มีอิทธิพลถึงจุดเจ้าชะตา ขอย้ำ ว่า ปัจจัยต่างๆที่ได้จากสมการดาว จะต้องมีมุมสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา จึงจะมีผลในการพยากรณ์ แต่ถ้าไม่มีมุมสัมพันธ์ถึงจุดเจ้าชะตา ก็จะต้องใช้อิทธิพลของ โค้งสุริยยาตร์ หาช่วงอายุว่าจะมีผลต่อเจ้าชะตาเมื่อใด
ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2006-10-24 23:09:14 IP : 61.47.111.8


ความคิดเห็นที่ 22 (438734)

ขอบคุณที่ท่านอาจารย์ วิโรจน์ ให้ความกระจ่างครับ
ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ถามมา
คงกระจ่างนะครับ
โดยทั่วไป สมการท่านอาจารย์จรัญ
จะมีก็ตามนี้ครับ
A+B-C
A+B+C
A-B-C
A / B // C

ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน วันที่ตอบ 2006-10-25 01:19:12 IP : 203.188.15.114


ความคิดเห็นที่ 23 (438801)
พวกดาวเข้าสูตร...ที่ท่านปรมาจารย์ค้นพบ..7 สูตรอมตะนั้น..ก็มาจากการค้นพบจาก วิธีจาน 2 ชั้นนี่แหละครับและสมการพวกนี้แหละครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-25 08:34:15 IP : 203.172.51.70


ความคิดเห็นที่ 24 (438820)

เพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้

การหาจุดอิทธิพล จากสมการดาวไม่ว่าจะได้จากศูนย์รังสี หรือพระเคราะห์สนธิ นั้น จุดอิทธิพลที่ได้อยู่ในราศีอะไร ก็อ่านอิทธิพลในราศีนั้นได้ หรืออ่านใรเรือนชะตาก็ได้ เพราะจุดอิทธิพลที่ได้ก็จะมีสภาพเสมือนเป็น ดาวพระเคระห์ดวงหนึ่ง จะช่วยให้สามารถอ่านดวงชะตาได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลอะไร เช่น Ju/Ad ในเรือนที่ 5 ก็อาจจะหมายถึง ที่ดินจากการเก็งกำไร หรือเล่นการพนันแล้วได้เงินมาซื้อที่ดิน แต่ถ้ามีเสาร์จรมาในเรือนที่ 5 ก็อาจจะเป็นว่า ขายที่ดินไปใช้หนี้การพนันก็ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น อ.วิโรจน์ กรดนิยมชัย วันที่ตอบ 2006-10-25 09:03:27 IP : 203.149.16.33


ความคิดเห็นที่ 25 (439215)
ค.ห.ของท่านอ.วิโรจน์ให้ความรู้มากครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สะท้อน วันที่ตอบ 2006-10-26 00:33:51 IP : 203.188.15.170


ความคิดเห็นที่ 26 (439226)

ยังไงท่านอาจารย์อย่าลืมมาโพสมาช่วยกันบ้างนะครับ...แถวนี้จอมยุทธกันทั้งนั้น...ผมเองยังไม่รู้วันไหนจะพลาด...ท่านอาจารย์วิโรจน์อย่าลืม..วิจารณ์ดวงเมืองปีหน้าด้วยนะครับ..ลงที่ไหน..จะตามไป ลิงค์...แบบขอกันดื้อๆเลยแหละ

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-26 00:52:33 IP : 203.172.51.54


ความคิดเห็นที่ 27 (439243)

ท่าน OldMan อีกคนครับ...ขอเลยเจอที่ไหนจะตามไปลิงค์...เอาไว้ศึกษา

ผู้แสดงความคิดเห็น ภารต วันที่ตอบ 2006-10-26 01:35:59 IP : 203.172.51.54


ความคิดเห็นที่ 28 (439244)

ท่านภารตครับ
บทความของอ.วิโรจน์ ท่านได้ส่งเมลล์มาให้ผม
จะส่งมาให่ท่านภารตต่อครับ วิเคราะห์แบบความรู้ที่ละเอียดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงยศ วันที่ตอบ 2006-10-26 01:37:03 IP : 203.188.26.210


ความคิดเห็นที่ 29 (2107815)

hair extension glue hair pieces using synthetic hair for the grey in a wigs lack confidence and have black hair wigs human hair clip on extensions.

ผู้แสดงความคิดเห็น abigayle (lareina-at-gmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-09-11 11:33:02 IP : 125.126.157.28



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.